เมื่อวาน วันพุธที่ 8 ก.ค. 47 เช้าของวันที่ 3 ในโปรแกรมการลดน้ำหนัก
ตื่นเช้ามาก็อย่างที่บอก หลังจากผ่านไป 48 ชั่วโมงทำตัวเลขจาก 82.3 เหลือ 80.2 หรือลดไป 2.1 กก.
ที่จริงตั้งแต่หลังปีใหม่เป็นต้นมา น้ำหนักตัวก็แกว่งอยู่แถวๆ 80-83 อยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกดีใจอะไรที่ลดไปแค่นี้ ... เออ ... ไว้ลงเลข 7 ค่อยดีใจก็ยังไม่สาย
เข้าออฟฟิซไปทำงานก็เริ่มมื้อเช้าด้วยกาแฟดำขมปี๋เช่นเคย ตอนนี้รู้สึกเหมือนกับจะชินกับรสนี้ซะแล้ว ทั้งที่แต่ก่อนไม่ชอบกาแฟดำเอาซะเลย โอเลี้ยงยังไม่กินอ้ะ คิดดู ... แล้วตบท้ายด้วยขนมปังโฮลวีท 1 ก้อนเล็กตามสูตร
อันที่จริงในสูตรบอกว่าให้ทาน "ข้าวยำ" แต่แหม ... ยังกะหาซื้อง่ายนักนี่มืง (คนคิดสูตรม่างคนใต้ชัวร์) เลยต้องแอพพลายกันตามความเหมาะสม คือวิเคราะห์จากสารอาหาร ใครเคยทานข้าวยำคงรู้ว่า ข้าวยำเนี่ย มันก็คือคาร์โบไฮเดรตจากข้าว กับน้ำตาลจากน้ำราดข้าวยำ เราก็แทนข้าวด้วยขนมปัง ส่วนน้ำตาลก็งดไป เห็นไหม ... เคร่งกว่าสูตรอีก
ช่วงเช้านี้มีมารมาขัดขวางความตั้งใจลดน้ำหนักอีกแล้ว ห้องข้างๆ มีเทรน ถ้าขนมเหลือ คุณแม่บ้านที่สนิทกันเธอก็จะนกถาดมาพาเหรดยั่วใจ ตัดใจไม่กิน แต่รับเป็นผลไม้ 4-5 ชิ้นเล็กแทน ได้ฟรุคโตสมาแทนน้ำราดข้าวยำแล้วสิ
มื้อเที่ยงก็รีบปิดห้อง งัดข้าวกล่องที่แช่ไว้ตอนเช้าออกมาจากตู้เย็น มื้อนี้เป็นส้มตำอีกตามเคย ก็อย่างที่บอก ว่าสูตรมันให้เป็นสลัด แต่อิชั้นไม่ถนัด เล่นแม่มเงี้ยแหละ ครือๆ กัน เน้นที่สารอาหาร ... อ้อ ... มีมะละกอหนึ่งชิ้น เพิ่มประสิทธิภาพการขับถ่ายด้วย
ตามสูตรบอกว่าให้ทานไข่ต้มได้อีก 2 ฟองด้วย แต่กั๊กไว้ก่อน ตอนบ่ายสองถึงได้ทานไป 1 ฟอง อีกฟองเก็บไว้ก่อน ตอนบ่ายได้ผลไม้อีกนิดนห่อย (ของเหลือจากห้องอบรม)
ตกเย็นกลับบ้าน ปรากฎว่าร้านหมูย่างที่ควรจะเป็นอาหารมื้อนี้มันไม่ขาย ลองแอพพลายดูด้วยการสั่งเกาเหลาเอาแต่หมูลวกที่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างๆ เอาแบบไม่ใส่เครื่องและน้ำมันกระเทียมเจียว เข้าบ้านได้ก็เปลี่ยนสูตรนิดหน่อย ใส่เครื่องปรุงทำเป็นยำหมูลวกไปซะ เพราะน้ำแกงเกาเหลามันก็น้ำมันลอยเพียบ แต่ก็แอบซดไปนิดนึงแหละ แฮ่ๆ
ทำการบ้านและเปิดทีวีดูไปด้วย คืนนี้มีถึงลูกถึงคนคดีนมบูด กะว่าจะดูซักหน่อย ระหว่างดูเลยออกกำลังกายเล็กน้อยด้วยการยกดัมเบลเพื่อบริหารช่วงไหล่กับต้นแขน เพราะหลังๆ มีอาการปวดเมื่อยบริเวณไหล่บ่อยๆ จนรายการจบก็เข้านอนเกือบตีหนึ่งแน่ะ ไม่ดีๆ
เช้าวันที่ 4 หรือผ่านไป 72 ชั่วโมงนับจากเริ่มโปรแกรมลด ชั่งน้ำหนักได้ 80.5 ! เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานอีกแน่ะ ... อืม ... สงสัยว่าอาจจะมีผลจากการนอนดึกและดื่มน้ำมาก แต่จะสายแล้ว ไม่รอบิ้วเข้าห้องน้ำแล้วละ
ไม่ซีเรียสกับผลวันต่อวันอยู่แล้ว ดูค่าเฉลี่ยเป็นหลักดีกว่า ถ้าคิดจากค่าเฉลี่ย เริ่มออกตัวที่ 82.3 ตอนนี้ 80.5 ลดไป 1.8 เฉลี่ยวันละ 0.6 กก. สมมติว่าได้เฉลี่ยเท่านี้ทุกวัน ก็แปดโลกว่า คิดได้อย่างนี้ก็สบายใจนิ อุอุ
สำหรับคนที่อยากได้สูตร เดี๋ยวจัดให้ครับ มีอยู่แล้วละ แต่ผมอยากลองกับตัวเองก่อน ถ้าทำได้ผลดีๆ จะได้เป็นแรงจูงใจให้ไง เพราะผมเคยเห็นสูตรนี้มานานแล้วละ แต่มันไม่มีแรงจูงใจ ในใจก็จะถามแต่ว่า มันจะลดได้จริงเร้อ ประกอบกับตอนนั้นยังไม่รู้สึกว่ามีปัญหาเรื่องน้ำหนักจนถึงกับต้องลดอย่างจริงจัง จะเรียกว่าขี้เกียจก็ได้ แต่ต่อมามีคนรู้จักที่นำสูตรนี้ไปปฏิบัติ แล้วได้ผลกันเห็นๆ เลยรู้สึกว่ามันเริ่มเชื่อในสูตรขึ้นมาบ้างแล้ว
มันอยู่ที่ศรัทธาและความเชื่อ หรือ believe นะผมว่า คนเราทำอะไรก็ตาม ต้องเริ่มจากความเชื่อก่อนครับ เพียงแต่อย่าเชื่อง่ายๆ เท่านั้นแหละ
สำหรับคนที่แนะนำให้ผมออกกำลังกายช่วยด้วย ก็ขอบคุณครับ แต่ขอใช้ข้อแก้ตัวคลาสสิคซักหน่อยว่าไม่มีเวลาครับ เช้าต้องออกจากบ้านหกโมงตรง เย็นก็แล้วแต่วัน บางวันมีเรียน 6 โมงถึง 3 ทุ่ม บางวันไม่เรียนก็ทำงานชดเชยที่สี่โมงต้องเก็บของเผ่นออกจากที่ทำงานในวันที่มีเรียน หรือวันไหนที่ไม่มีเรียนและไม่มีงานยุ่ง ก็ต้องกลับไปทำการบ้าน กว่าจะเสร็จก็ดึก ที่ทำได้ก็มีแค่ยกดัมเบลนิดหน่อยเท่านั้น วันเสาร์ก็อาจจะได้นอนยาวนิดนึง แต่ตื่นมาก็ต้องเล่นบทลูกกตัญญู พาหม่ามี้ไปชอปปิ้งมั่ง ไปธุระมั่ง ว่างอีกทีก็เย็นซะแล้ว ส่วนวันอาทิตย์ไม่ต้องพูดถึง เรียน 8.30 ถึง 16.00 เผลอๆ เรียนเสร็จก็ต้องมีคุยงานกลุ่มกับเพื่อน กลับถึงบ้านก็ค่ำจนได้สิน่า เท่าที่ทำได้ตอนนี้ก็ถือว่าสุดๆ up to the limit แล้วครับ
พรุ่งนี้มาติดตามผลหลังจาก 96 ชั่วโมงผ่านไปนะครับ
.
แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 47 07:49:35
จากคุณ :
(แมลงสาบ) 
- [
8 ก.ค. 47 07:44:59
]
My Di(et)ary 3/14
