CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    โทรศัพท์หลอน …

    คุณๆ ที่ใช้โทรศัพท์มือถือ เคยเป็นแบบผมไหมครับ …


    วันดีคืนดีก็มีคนโทรศัพท์ผิด ขอคุยกับใครซักคนที่ไม่ใช่คุณ เมื่อคุณแจ้งเค้าว่าเบอร์ผิดพร้อมกับถามเพื่อความแน่ใจ คุณจะพบว่าเบอร์ 9 ตัวนั้นมันเบอร์คุณชัดๆ … ก็ได้แต่โทษคนจดเบอร์ ว่าคงจดผิดแน่ๆ เพราะเบอร์โทรศัพท์ที่ซ้ำกันในประเทศเดียวกันนั้นมันไม่น่าเป็นไปได้ …


    แต่ก็บ่อยครั้งใช่ไหมครับ ที่คนโทรมาหาแต่นายคนนั้นอยู่นั่นแหละ เรียกว่ามีโทรผิดมาเมื่อไหร่เดาได้เลยว่าต้องขอพูดกะไอ้หมอนี่แน่ๆ


    ผมจะเล่าประสบการณ์หลอนของผมให้ฟังครับ …


    ราวๆ สองเดือนก่อน ผมมีนัดกำจัดเชื้อโรคตับกับเพื่อนสนิทกลุ่มนึง ระหว่างเดินทางไปหาเพื่อน ซึ่งก็ใกล้เวลานัดเต็มทีแล้ว โทรศัพท์มือถือของผมก็ส่งเสียงเพลงฮิตในอดีตของพี่แจ้ “เชื่อฉัน” ดังขึ้นมาระหว่างผมโดยสารรถยนต์รับจ้างสาธารณะ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็นึกไม่ออกว่าเบอร์ที่แสดงบนหน้าจอเป็นใคร แต่ก็รับสายตามปกติ

    “สวัสดีครับ … ผม … ”

    ยังไม่ทันจะพูดอะไรมากนัก ก็มีเสียงรัวส่งสำเนียงคอปเปอร์ซัลเฟต (ทองแดงนั่นแหละ) มาเร็วซะอย่างกับจะแข่งพูดเร็วทำลายสถิติโลกมาจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง จับใจความได้ประมาณว่า ขอสาย “กำนันแสง”

    เท่าที่นึกออก ผมไม่มีญาติชื่อแสง ไม่เคยไปโม้กะใครว่าผมเป็นกำนัน และโทรศัพท์เบอร์นี้ผมก็ใช้มาร่วม 4 ปีแล้ว แต่ก็พอนึกได้รางๆ ว่า เคยมีคนโทรผิดมาในลักษณะนี้หลายครั้งแล้วเหมือนกัน คือผมไม่ได้จำชื่อว่าเค้าโทรหาใครหรอก แต่ผมจำได้ว่าแทบทุกครั้ง คนที่โทรผิดมักส่งสำเนียงภาษาถิ่นปักษ์ใต้มา ซึ่งผมก็พยายามอธิบายไปทุกที ว่าผมไม่ได้ชื่อแสง เกิดกรุงเทพ พูดไทยได้นิดหน่อย เรื่องกำหนัดมีบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยเป็นกำนัน …


    ก็หายๆ ไป นานๆ ทีก็โผล่มาพอให้หงุดหงิดบ้าง และครั้งนี้ก็คงเหมือนทุกที ผมเลยตอบไปว่าเค้าคงโทรผิด ไม่ก็จดผิดแล้วละ แต่ผู้หญิงที่ปลายสายก็ยังสงสัย ซักต่อว่า ผมเอาเบอร์ใครมาใช้ เค้าไม่มีทางจดผิดแน่ๆ วันก่อนยังคุยกับ “ผี่แซ้ง” (พี่แสง – อ่านเป็นสำเนียงใต้จะได้อารมณ์ร่วมอย่างมาก) อยู่เลย ผมต้องแอบเอาโทรศัพท์ของ “ผี่แซ้ง” มาใช้หรือขโมยมาแน่ๆ


    ด้วยความฉุนนิดๆ ที่โดนกล่าวหากันซึ่งหน้า แต่ผมรู้สึกว่าผมหงุดหงิดกับสภาพการจราจรมากพอแล้ว ไม่อยากไปหงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก ผมเลยพยายามอธิบายสั้นๆ เท่าที่จะทำได้ แล้วสรุปให้ว่า ถ้าเธอไม่เชื่อ ก็เอาเบอร์โทรนี้ไปตรวจสอบที่ศูนย์ของ AIS ได้ทุกแห่งเลย ว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์ของผมจริงๆ ผมขี้เกียจเถียงเธอแล้วละ … แล้วผมก็ตัดบทเอาดื้อๆ โดยการวางสายไป


    ผมระบายลมปากยาวๆ ด้วยความโล่งอก ที่สามารถคุมอารมณ์ได้ดีพอสมควร แต่ไม่ถึง 30 วินาทีนับจากที่ผมวางสาย เสียงเพลง “เชื่อฉัน” ก็ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับโชว์เบอร์โทรเข้าเบอร์เดิมขึ้นมา … แม่ง … จะอะไรกะกุนักหนาวะ … แต่โอเค … มืงงี่เง่าโทรมา กุก็งี่เง่ารับให้มืงเสียเงินเล่นเป็นการแก้แค้นเล็กๆ จะได้สบายใจ


    “คอซายก้ำนั่นแซ้งนิ บอกว้าน่องนุดโท่ม่า”
    (ขอสายกำนันแสงหน่อย บอกว่าน้องนุชโทรมา)


    นี่ถ้าเธอไม่โง่ ก็คงเข้าใจผิดอะไรซักอย่าง … ผมเลยเลคเชอร์ไปอีกชุดนึง ว่าเธอโทรผิด และโทรผิดมาเบอร์เดิมที่เพิ่งวางสายไปเมื่อไม่ถึงนาทีมานี่เองอีกต่างหาก ผมแนะนำให้เธอโทรไปที่บ้านกำนันแสงแทน แล้วถามให้ชัดเจนว่าเบอร์มือถือของกำนันแสงเป็นเบอร์อะไรกันแน่ แล้วค่อยโทรไปหากำนันแสง ก็พยายามอธิบายเสียงเรียบๆ แบบข่มอารมณ์เต็มที่ พี่คนขับรถยนต์รับจ้างสาธารณะมองผ่านกระจกหลังยิ้มๆ ให้ผมเป็นเชิงเห็นใจ ผมก็ฝืนยิ้มเซ็งๆ ตอบกลับพี่เค้าไป คราวนี้คุณพี่ผู้หญิงปลายสายดูเหมือนจะฟังเข้าใจมากขึ้น แล้วก็ตัดสายไป ไม่มีการขอโทษอะไรซักคำที่โทรผิดมาก่อกวนผมถึง 2 ครั้ง มารยาทโคดทรามเลย อีเวลล์ … ผมนึกในใจ


    พี่คนขับรถยนต์รับจ้างสาธารณะก็ชวนผมคุย พร้อมกับบอกว่าแกก็เคยเจอโทรผิดพวกนี้บ่อยๆ ก็สุดแต่จะเดาไปว่าทำไมถึงโทรผิด อาจจะเป็นการจดผิด เช่นเห็นเลข 7 เป็นเลข 1 คนจดให้อาจลายมือหวัด เขียน 5 ตวัดเร็วๆ จนคนอ่านเห็นเป็น 8 ฯลฯ ก็ว่ากันไป


    ยังไม่ถึงหนึ่งสี่แยกนับจากการโทรผิดครั้งที่สอง “เชื่อฉัน” ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ไม่ต้องสงสัยครับ เบอร์ที่โชว์เป็นเบอร์เดิม ผมเริ่มจะ “ขาด” แล้วด่าในใจไปประมาณ 14 ประโยคในเวลาไม่ถึง 10 วินาที เร็วกว่าน้องนุชรัวถามหากำนันแสงซัก 10 เท่า แต่ผมก็รับสาย …


    เช่นเคย “น่องนุด” รัวยาวแหลงใต้หา “ก้ำนั่นแซ้ง” ตามเคย ผมรอให้เธอพล่ามจบ แล้วผมก็ตอบเสียงเรียบๆ ไปว่า

    “นุช คุณชื่อนุชใช่มั้ย … คุณนุชฟังนะ ว่าคุณโทรมาผิดที่เบอร์ผมสามครั้งแล้ว ทั้งสามครั้งห่างกันไม่ถึง 10 นาที ผมว่าเบอร์ที่คุณจดมาเนี่ย ผิดแน่ๆ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะกดเบอร์กี่ครั้งมันก็ผิดอยู่ดี ถ้าสมองคุณปกติดีนะ ช่วยหยุดโทรก่อน ไว้เจอกำนันแสงอะไรของคุณแล้วถามเบอร์เค้าให้ชัวร์ จะให้ดี ให้กำนันพิมพ์มาให้เลย พิมพ์ดีดน่ะ รู้จักใช่มั้ย แล้วถ่ายเอกสาร … เดี๋ยว … ที่บ้านไฟฟ้าเข้าถึงมั้ยเนี่ย … อ้อ คงมีแหละ โทรศัพท์ยังเข้าถึงนี่ … ถ่ายเอกสารตัวใหญ่ๆ นะ ติดข้างฝาบ้านไว้เลย จะได้ไม่อ่านเบอร์ผิดอีก แค่นี้นะ ผมเสียอารมณ์กับคุณมา 3 รอบแล้ว”


    พี่คนขับรถยนต์รับจ้างสาธารณะหัวร่อก๊ากใหญ่กับวิธีตอบโต้ของผม จริงๆ ผมอยากด่ามากกว่านี้อีกนะ แต่เดี๋ยวพี่คนขับรถยนต์รับจ้างสาธารณะจะเห็นภาคมารของผมแล้วเหวอไปกว่านี้ ผมก็ได้แต่ร่วมหัวเราะไปกับพี่เค้าด้วย …


    ราวๆ 15 นาทีถัดมา ผมก็มาถึงจุดหมาย ผมสั่งเครื่องดื่มจิบรอเพื่อนอยู่พักนึง เจ้าเพื่อนของผมที่นัดไว้ก็มาถึง เราก็ทักทายและเริ่มจิบเครื่องดื่มไปพลาง คุยกันไปพลาง ตามประสาคนที่ไม่เจอหน้ากันนนานพอสมควร แล้วผมก็เล่าให้ฟัง ว่าผมเจอโทรศัพท์อะไรมาก่อนที่จะมาเจอเขา เพื่อนผมก็หัวเราะสะใจในลูกบ้าขั้นต้นของผม แล้วเราก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง …


    “เชื่อฉัน” ดังขึ้นอีกครั้ง … พร้อมโชว์เบอร์เดิม !


    เบอร์น้องนุชที่โทรผิดมาหาผมถึงสามครั้งซ้อนเมื่อซักชั่วโมงมานี่เอง ผมว่าเธอคงไม่ได้โทรมาขอบคุณคำแนะนำของผมแน่ๆ แต่เช่นเคย ความกวนตีนของผมที่อยากให้เค้าเสียตังค์ ก็ทำให้ผมรับสาย ดูซิ ว่ามันจะโทรมาเอาเรื่องผมรึไงก็ลองดูได้


    พอรับสาย เสียงรัวของน้องนุชคนเดิมถามหากำนันแสงก็รัวสำเนียงใต้ออกมา ผมมองหน้าเพื่อน ยักคิ้วหนึ่งที … หรือสอง … ช่างผมเถอะ แล้วกรอกเสียงกลับไปด้วยสำเนียงใต้บ้าง


    “น่องนุดรือ ก้ำนั่นแซ้งแก้ต้ายแหล้วนิ ต้ายเมื่อช่าวหนิเอ้ง โด้นโท่ซับดู้ดต๋ายแล”


    “…….”


    เสียงฝ่ายตรงข้ามเงียบไป ผมชักเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเล่นแรงไปหน่อยรึเปล่า ก็พอดีฝ่ายตรงข้ามตอบเสียงเบาๆ สั่นๆ มาว่า …

    “จิ้งต๊ะ … โท่ซั้บมื่อทื้อแก้ดู่ดช่ายหม่าย … แล่ว … แล่วแก๊ยู่โร่งบ้านหน่าย …”




    ไม่มีเสียงตอบจากทางผม เพราะผมกับเพื่อนทั้งหัวเราะทั้งทุบโต๊ะด้วยความขำกันจนคนหันมามองทั้งร้านไปแล้ว ยังไงก็ขอให้ดวงวิญญาณของกำนันแสงไปที่ชอบ ที่ชอบ อย่าได้มีใครโทรศัพท์ไปกวนแกอีกเลยนะครับ … เฮ้อ …

    จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 23 ส.ค. 47 12:55:28 ]