 |
ฮัลโหลโมโต
เกือบสิบปีที่แล้ว โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกในชีวิตเป็น Motorola รุ่นอะไรซักอย่างที่เป็นฝา flip ที่เค้าฮิตๆ กันน่ะ ใช้สบายสุดๆ เพราะช่วงนั้นโมโตมันฮิต แบตเราหมดยืมแบตเพื่อนใส่แทนสบาย ซื้อมาเครื่องนึงเกือบสองหมื่น ยืมตังค์ลุงซื้อแล้วผ่อนกะลุงเดือนละ 2 พัน ใช้ระบบปวดร้าว (800) โปรโมชั่นเหมาจ่าย 1,100 โทรไม่จำกัด โทรกระจาย บางทีปีนขึ้นไปปรับเสาทีวีก็ใช้มือถือโทรมาหาน้องข้างล่างว่าทีวีชัดรึยัง หรือจะล้างแบตชาร์จใหม่ก็โทรเข้าบ้านวางหูทิ้งไว้ปล่อยให้แบตหมด หุหุ ... ใช้อยู่เกือบสองปี ออกจากงานมาทำฟรีแลนซ์ ก็ตัดค่าใช้จ่ายที่ไอ้หมอนี่เป็นตัวแรก ปิดเบอร์ซะ แต่เครื่องนี่เก็บไว้จนตกรุ่นแล้วตกรุ่นอีก ตอนหลังขายไปได้พันนึง -_-'
เครื่องที่สอง ใช้เบอร์เดียวกะเครื่องแรกแหละ เป็น Motorola รุ่น Microtac Elite ฮู้ย ... ไฮโซ บางสุดๆ ฟังชั่นเยอะมาก (สมัยนั้น) ตัวนี้ออกใหม่ๆ ราคาสี่หมื่น แต่ได้มา 8 พัน จูนเครื่องเอา ใช้ๆ ซักพักก็ช่วงเงินฝืด ขายคืนไปได้ 6 พัน ก็โอเคอ้ะ
จนมาทำงานประจำใหม่ เครื่องที่ 3 ก็ยังโมโต รุ่นอะไร 150 ซักอย่าง ที่เป็นดุ้นๆ สีน้ำเงิน จอธรรมดา อันนี้ได้มาฟรี เป็นเครื่องเก่าของชาวบ้านเค้า ซื้อแต่ซิมใส่ เป็นเบอร์ใหม่ ก็อีเบอร์ปัจจุบันนี่แหละ เครื่องนี้ภายหลังยกให้แม่ใช้ แม่ใช้ไปใช้มาก็เบื่อแล้ว
เครื่องที่ 4 คราวนี้นอกใจ Motorola เปลี่ยนมาใช้ NOKIA 3310 รุ่นสุดฮิตอมตะนิรันดร์กาลรุ่นนึง ซื้อมาตั้ง 9,900 แน่ะ (ที่จริงจะนับเป็นเครื่องที่ 5 ก็ยังได้ เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งซื้อ 3210 ให้ป๋าใช้ ทุกวันนี้ป๋ายังใช้อยู่เลย) ใช้คุ้มจนซ่อมไปสองรอบ ภายหลังเปลี่ยนให้มี้ใช้ตามเคย รับมรดกลูกไปนะแม่นะ
เครื่องที่ 5 เปลี่ยนยี่ห้ออีกรอบ มาเป็น Ericssons T29 มือสอง ซื้อมา 2 พัน เพราะติดใจฝา flip กดข้างดีดเปิด เท่จะตายไป แถมตัวเครื่องโครงเป็นโลหะ ทนมือทนทีนดี และรำคาญตอนใช้ 3310 เพราะชอบลืมล๊อคปุ่ม มันเลยโทรออกไปหาใครต่อใครวุ่นวายประจำ
เครื่องที่ 6 เจ้า T29 มีปัญหาแบตหมดเร็วมาก ใช้อยู่ครึ่งปี รำคาญจนต้องเปลี่ยน คราวนี้มาใช้โทรศัพท์ค่ายเกาหลีมั่ง เป็น LG 5300 (มั้ง) เลือก+คิดอยู่ร่วมเดือน ตัดใจซื้อเพราะจอสีสวยสด เพลงเพราะโพลีโฟนิค 40 หรูเดิ้น ในราคาแค่ 7,900 คุ้มจะตาย ใช้อยู่ปีเศษ ก็เทรดให้มี้ไปตามสูตรเมื่อไม่กี่สัปดาห์นี้เอง จริงๆ ใช้ LG ตัวนี้ก็ดีนะ ไม่มีปัญหาหรอก แต่เพราะมี้บ่นว่า 3310 ที่ใช้อยู่มีปัญหา (แต่เราลองใช้ไหงไม่เห็นเป็นไรหว่า สงสัยอยาก in trend ใช้จอสีโพลีโฟนิคกะเค้ามั่ง) อีกเหตุผลนึงที่เปลี่ยนเพราะตัวเองมีลักษณะการใช้ที่ไม่เหมาะกับโทรศัพท์เครื่องนี้ เพราะผมมักจะคุยโทรสายนึง วางแล้วต่ออีกสายทันที แต่เมนูและการตอบสนองต่างๆ มันค่อนข้างช้า ไม่ทันใจ
ก็มานั่งคิดคอนเซปท์ของโทรศัพท์ที่เหมาะกับเราเป็นเครื่องต่อไปอยู่นานเหมือนกัน ... เป็นคนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับกล้องติดโทรศัพท์ เพราะกล้องดิจิตอลเราก็มี คุณภาพภาพดีกว่าเห็นๆ แต่มือถือสมัยนี้มันก็มีกล้องกันแทบทั้งนั้น เรื่องต่อมาที่คิดคือขนาด ... คือเป็นคนที่ชอบเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง เครื่องใหญ่ไปมันก็ตุง ลำบากอีก และบางทีวันหยุดใส่ยีนส์เวลาลุกนั่งมันก็ทำร้ายโทรศัพท์พอสมควร หรือกางเกงทำงาน มันก็มักมีกุญแจมั่ง เหรียญมั่ง โทรศัพท์เครื่องก่อนๆ เป็นรอยเพราะพวกนี้แหละ ... อีกอย่าง ก็อยากใช้โทรศัพท์ที่มันไฮเทคขึ้นมาอีกหน่อย กลัวตกยุค เห็นเค้าพูดกันบลูทูธมั่ง ซิมเบี้ยนมั่ง สมาร์ทโฟนมั่ง ก็เกิดน้อยใจในโชคชะตาว่าทำไมกรูไม่รู้จักเลยวะ ... ซึ่งก็ตั้งงบไว้ว่า คงไม่กล้าใช้โทรศัพท์ราคาเกินหมื่นห้าหรอก
จนกระทั่งสุดท้าย ... หลังจากวอกแวกไปนู่นไปนี่ซะหลายเครื่องหลายยี่ห้อ ก็กลับมาที่ Motorola เจ้าเก่า ... คิด เช็คข้อมูล สืบราคา หาข้อดีข้อเสียเปรียบเทียบอยู่ร่วม 3 เดือน จนราคาตกมาอยู่ในระดับที่ ... ไม่ซื้อไม่ได้แว้วว ก็เลยตัดใจรูดบัตรฟรึ่บ ! ... ถอย E680 มาจนได้ ซึ่งใช้มาได้ไม่ถึงเดือน แต่ก็แฮปปี้มาก คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดเลย เป็นโทรศัพท์ที่เหมาะกับตัวผมมากที่สุดรุ่นนึงเลยแหละ แม้จะมีกล้องเกินมา และขนาดก็ใหญ่ แถมเกินงบมาหลายตังค์อีกต่างหาก ... หะแรก จะซื้อที่ MBK เพราะถูกกว่า อยู่ในงบ แต่แฟนก็บอกซื้อศูนย์สบายใจกว่า ... เอ้า ... ศูนย์ก็ศูนย์ ต่างกันเกือบสองพันแน่ะ
คราวนี้คิดว่าเครื่องนี้คงได้ใช้งานกันนานๆ ละ อย่างน้อยต้องมีสองปีอัพ เพราะลองคิดเล่นๆ เดือนนึงค่าโทรศัพท์อยู่ที่ประมาณ 500 บาท ตอนซื้อ LG ราคา 7,900 ใช้อยู่ 16 เดือน ก็เฉลี่ยแล้วเรามีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับโทรศัพทตั้งเดือนละเกือบพันบาทเชียว เปลืองเอาการอยู่ ทีนี้ถ้าใช้เครื่องใหม่นี่ 16,900 เฉลี่ยรวมกับค่าโทรศัพท์สองปี ก็ตกเดือนนึงพันสองร้อยบาทเศษ แพงกว่าเดิมอีก ... เม้มเงินค่าเทอมมาซื้อเชียวนะ ตอนนี้ก็ใช้ถนอมสุดๆ ก่อนเอาใส่กระเป๋ากางเกงก็เช็คก่อนว่ามีเหรียญมีกุญแจหรือเปล่า ถ้ามีก็ย้ายไปใส่กระเป๋าอีกข้างแทน จะที่บ้านที่ออฟฟิซก็มีถาดปูผ้าเล็กๆ รองก่อนวาง กลับถึงบ้านก็สละเวลาเช็ดถูทุกวัน ไม่ได้เวอร์ แต่เงินมันหายากนี่ครับพี่น้อง
นั่งคิดเล่นๆ ขนาดว่าพวกคิดมากซื้อของยากหยั่งผม ยังปาเข้าไป 7 เครื่องในรอบสิบปีแล้วเนี่ย !
ก็มาเล่าสู่กันฟังยามกระทู้น้อยๆ แบบนี้ละกันนิ
จากคุณ :
(แมลงสาบ)
- [
19 พ.ค. 48 13:11:51
]
|
|
|
|
|