CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ระวังไว้นะ HIV

    แต่ในอีกมุมหนึ่ง เมื่อมองย้อนกลับ กระแสสังคมของวัยรุ่นไทยยุคนี้ มีความเป็นอิสระมากขึ้น ทำให้การแสดงออกของคนวัยนี้เริ่มสนใจสังคมรอบข้างน้อยลง

    การแสดงความรักระหว่างกัน ตั้งแต่ขั้นจูงมือถือแขนในที่สาธารณะ กอดจูบ กันต่อหน้าฝูงชน เลยเถิดถึงขั้นใช้บันไดหนีไฟ หรือห้องน้ำตามโรงเรียน โรงหนัง และห้างสรรพสินค้า เป็นที่บำบัดความใคร่ อย่างที่ศัพท์สมัยใหม่เรียก “พฤติกรรมเซ็กซ์นอกสถานที่”

    ถูกมองว่า เป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมดาในสายตาวัยรุ่น

    ที่เลวร้ายขึ้นไปอีก วัยรุ่นบางกลุ่มมีทัศนคติว่า การพลอดรักในที่เปลี่ยว ตามห้องน้ำในปั๊มน้ำมันชานเมือง ตามตู้เช่าร้องเพลงคาราโอเกะ (ในห้างฯ) หรือ แม้แต่มุมอับของ วัด ถือเป็นความตื่นเต้นและท้าทายที่น่าค้นหา

    การเข้าถึงหนังสือ วีซีดี หนังลามก โหลดภาพโป๊และเปลือยผ่านจอมือถือ อย่างง่ายดาย ถูกมองว่า เป็นจำเลยสำคัญ เร่งเร้าให้วัยรุ่นยุคนี้เกิดอารมณ์เพศ จึงต้องหาสถานที่ใกล้เคียงที่สุด ระบายความใคร่นั้น ถูกต้อง เพียงแค่ครึ่ง

    แต่ใครล่ะ เป็นผู้ผลิต เปิดช่อง หรือหยิบยื่นสื่อเหล่านี้ให้ ถ้าไม่ใช่...ผู้ใหญ่

    ผู้ใหญ่หลายคนปล่อยปละให้ลูกหลานตัวเองพกมือถือ นุ่งสั้น เกาะอก เดินออกจากบ้าน พบคนถูกใจ ไม่เลือกหน้า แลกเปลี่ยนเบอร์โทร. นัดแนะกันไป “แลกเปลี่ยนของเหลว” ท้ายสุดลงเอย “ติดเอดส์” ยกแก๊ง

    เรื่องราวของ “นะ” สาวน้อยจากเมืองชลฯ วัย 17 ปี อดีตเด็กเสิร์ฟร้านอาหาร ผู้ซึ่งวันนี้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิก “โครงการธรรมรักษ์นิเวศน์” วัดพระบาทน้ำพุ เจ้าของรหัส “P 2” น่าจะเป็นอีกอุทาหรณ์ ฝากถึงเพื่อนวัยรุ่นใจแตก และพ่อแม่ ผู้ปกครองบางคน

    P 2 เล่าว่า เธอจบ ป.6 ไม่เคยทำบัตรประชาชน เพราะหนีออกจากบ้านตั้งแต่ อายุ 13 ปี ครอบครัวแตกแยก พ่อ-แม่ มีครอบครัวใหม่...ชีวิตขาดความอบอุ่น

    “หลังหนีออกจากบ้าน หนูไปทำงานที่ร้านอาหาร ถูกชวนให้ขายยาบ้า กระทั่งมาพบกับแฟน อยู่กินกันมา 3 ปี เพิ่งจะรู้ว่าเขามีประวัติเสี่ยง”

    “ประวัติเสี่ยง” ในที่นี้ คือ เสี่ยงต่อการติดเอดส์

    “นะ” เล่าว่า หลังจากเธอมีอาการปวดท้องเป็นระยะ จึงไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลชลบุรี เมื่อเดือน พ.ค. 2548 หมอวินิจฉัยว่า ลำไส้ใหญ่เป็นแผล และติดเชื้อ HIV

    “แม่หนูมีแฟนใหม่ อยู่กับครอบครัวใหม่ ญาติฝ่ายแฟนก็ไม่ยอมรับ ส่วนพ่อก็ปฏิเสธจะช่วย”

    ในแบบประเมินปัญหาผู้ป่วยของวัดพระบาทน้ำพุ ระบุประวัติของ P 2 ว่า วันที่รับผู้ป่วยเข้า 26 มิ.ย.2548 สภาพผู้ป่วย รู้สึกตัวดี ไม่มีไข้ เดินได้ดี ไม่มี stiff-neck ไม่ cyanosis ภาวะสมอง ความทรงจำและการรับรู้ดี ได้รับเชื้อ เพศสัมพันธ์จากเพื่อนชาย

    ข้อความสุดท้ายในหมายเหตุ ระบุใจความสำคัญ ให้ผู้จัดการโครงการฯพิจารณา

    “P 2 มีแนวโน้มแพร่เชื้อกับสาธารณชนสูง เอกสารยังไม่พร้อม มีความประสงค์จะเข้าพักในโครงการฯ”

    ประโยคนี้ ทำให้เธอได้รับพิจารณา แซงคิวเพื่อนอีกกว่า 370 ราย ในวันนั้น

    “พอหนีออกจากบ้าน หนูก็พร้อมจะมีเซ็กซ์กับใครก็ได้ที่พอใจ แลกกับเงินครั้งละไม่กี่บาท” P 2 ลำดับเหตุการณ์เมื่อ 4 ปีก่อน

    “พอรู้ว่าตัวเองติดเชื้อตอนอายุ 14 หลังจากนั้น หนูมีเซ็กซ์กับวัยรุ่น อีกหลายสิบคน สงสัยป่านนี้พวกนั้น ติดเชื้อกันงอม”

    เธอว่าวัยรุ่นยุคนี้ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าความสนุก ความพึงพอใจ อะไรจะเกิดขึ้นช่างหัวมัน แต่สุดท้าย ก็คิดไม่ถึงว่า ติดเชื้อฯแล้ว แม้แต่ในครอบครัว ก็ไม่สามารถอยู่ร่วมได้ ไปไหนมีแต่คนรังเกียจ โรงพยาบาลก็ไม่มีที่ให้

    “ถ้าไม่มีที่ให้พักกาย พักใจ แล้วคนอย่างพวกหนูจะไปอยู่ไหน นอกจากสังคมเดิมๆที่มีการแพร่เชื้อให้กันเพิ่มขึ้นทุกวัน”

    P 2 ชี้ให้เห็นวงจรปัญหา

    มองในมุมของฝ่ายรองรับปัญหา เฉลิมพล พลมุข ผู้จัดการโครงการ ธรรมรักษ์นิเวศน์บอกว่า สมัยแรกๆ ผู้ติดเชื้อฯส่วนใหญ่ เป็นคนวัยทำงาน มีรายได้ และมีครอบครัว

    ระยะเวลาผ่านไป ทั้งปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม รุมเร้ารัฐบาล อาจทำให้ภาครัฐหลงลืม และขาดความชัดเจนในการแก้ปัญหาเอดส์อย่างจริงจังต่อเนื่อง

    “หลวงพ่อ” เจ้าคุณอุดมประชาทร ต้องทำงานหนักเพื่อรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ ประชาชน ในการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยเอดส์ ทั้งบรรยายในวัด นอกวัด ทำรายการทีวี สื่อซีดี และวารสารเผยแพร่ก็แล้ว แต่กลับได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง

    เฉลิมพลว่า ทุกวันนี้มีผู้ป่วยเอดส์รายใหม่ ขอเข้ามาอยู่ที่วัดพระ บาทน้ำพุ เฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 25 ราย หรือเดือนละไม่ต่ำกว่า 750 ราย ขณะที่เตียงสำหรับรองรับคนไข้ มีไม่ถึง 300 เตียง

    ปรากฏการณ์ใหม่ ที่น่าสลด ทุกวันนี้จำนวนผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่น ที่ติดเอดส์ หลั่งไหลเข้า ไปสู่วัดไม่ขาดสาย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ติดเชื้อฯที่เป็นวัยรุ่น โดยเฉลี่ย มีอายุระหว่าง 15-17 ปี มีมากเป็นพิเศษ

    “วัยรุ่นส่วนใหญ่ที่ติดเอดส์มาเล่าให้ฟังว่า เดี๋ยวนี้การมีเพศสัมพันธ์แบบฟรีเซ็กซ์ ในหมู่พวกเขา ถือเป็นเรื่องธรรมดา การทำแต้มเพื่อเอาชนะกัน ถือเป็นความสามารถ ถุงยางอนามัย หรือจิ๊บจ๊อยมาก ที่รู้ว่าติดเอดส์แล้วใช่ว่าจะกลัว ยังมั่วกันต่อ”

    เฉลิมพลบอกว่า ปัจจุบันตัวเลขยอดจองคิว ผู้ติดเชื้อฯที่เข้าชื่อไว้ รอเข้าไปอยู่ในวัดพระบาทน้ำพุ มีมากกว่า 20,000 ราย

    ในจำนวนนี้เป็นวัยรุ่นติดเชื้อฯ อายุต่ำกว่า 20 ปีรอคิวอยู่ 370 ราย

    เขาตั้งข้อสังเกต

    “วัยรุ่นหลายรายสารภาพ ตอนที่รู้ว่าเป็นเอดส์ กว่าจะได้เข้ามาอยู่ในวัดพระบาทน้ำพุ เคยมีอะไรกับใครต่อใครโดยไม่สวมถุงยางอนามัยอีกนับไม่ถ้วน น่าคิดว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับสังคมไทยในอนาคต”

    “คนไข้ทั่วประเทศมีปัญหา ครอบครัวไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ชุมชนรังเกียจ โรงพยาบาลของรัฐ และเอกชนก็อ้างเตียงไม่พอ ระบบการดูแลรักษาจากรัฐมีข้อจำกัดหลายอย่าง เดี๋ยวนี้ผู้ป่วยจำนวนมากถอดใจ ยอมตายมากกว่าอยากอยู่”

    “ทุกวันนี้หลวงพ่อรูปเดียว ต้องหาเลี้ยงคนในวัดไม่ต่ำกว่า เดือนละ 4,500,000 บาท เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจ่ายให้ปีละไม่ถึง 1 ล้านบาท ทุกวันนี้ทางวัดมีรายจ่ายที่แน่นอนทุกวัน แต่รายรับ ยังไม่รู้ว่าจะมาจากทางไหน”

    “ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจขาลง ญาตินำผู้ป่วยมาทิ้งมากขึ้น โรงพยาบาลต่างๆ ก็แนะให้ขนผู้ป่วยมาอยู่กับเรามากขึ้น แต่หยูกยารักษาโรค อาหารการกิน และของจำเป็นที่ผู้ป่วยต้องใช้ นับวันยิ่งขาดแคลน”

    เฉลิมพล ปิดบทสนทนา

    “หลวงพ่ออลงกต ทำงานหนักมาตลอด 13 ปี ระยะหลังสุขภาพของท่านเริ่มไม่ดี ปัญหาเหล่านี้ คนนอกวัดไม่มีทางเข้าใจ ตราบใดที่ปัญหาเอดส์ยังมีอยู่เกลื่อนกลาด ยิ่งมองอนาคต ก็ยิ่งวังเวง”.

    จากคุณ : D-Girl - [ 13 ก.ค. 48 14:43:10 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป