ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มจากเครื่องนาฬิกาที่เราคุ้นเคยกัน เรียกว่าถามคนในห้องสยาม ร้อยคนเป็นเครื่องชนิดนี้ซะ 90 ขึ้นไป เครื่อง Quartz เครื่องควอทซ์ เป็นเครื่องนาฬิกาที่อาจกล่าวได้ว่าแพร่หลายที่สุดในโลก เพราะมีความแม่นยำในการบอกเวลาสูง ด้วยการใช้การแตกตัวของผลึกควอทซ์ ที่มีอัตราใกล้เคียงกับ 1 วินาที ต่อการแตกตัวหนึ่งประจุมาก เมื่อผ่านการปรับแต่ง และใช้วงจรไฟฟ้ามาควบคุมอีกเล็กน้อย ก็ทำให้นาฬิกาที่ใช้เครื่องควอทซ์มีความเที่ยงตรงสูงที่สุดเมื่อเทียบกับนาฬิกาประเภทอื่นๆ นอกจากนั้น เครื่องควอทซ์ซึ่งผมอยากจัดกลุ่มเป็นอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์เนี่ย มันผลิตเป็น mass ต้นทุนมีราคาถูกมาก เอาตั้งแต่ไม่ถึงสิบบาทจนไปถึงพันบาทเศษๆ ดังนั้นอยากแปลกใจถ้าเราจะเห็นนาฬิกาที่ขายตามตลาดนัดให้เด็กๆ ใส่เล่นกันจะราคาแค่เรือนละ 30 บาท 50 บาท ... แต่ในทางกลับกัน ใครที่ใช้นาฬิกาเครื่องควอทซ์แล้วมาคุยว่าซื้อมาเรือนเป็นหมื่นเป็นแสน ผมจะแอบคิดในใจว่า ... โง่จิ๊บป๋าย ในบรรดานักนิยมสะสมนาฬิกา นาฬิกาที่ใช้เครื่องควอทซ์ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก เรียกว่าถูกดูแคลนกันเลยละ บางท่านไม่ถือว่าควอทซ์เป็นนาฬิกาด้วยซ้ำไป จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 10 ต.ค. 48 09:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เครื่องพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Solar Cell/Power เจ้าโซลาร์เซล นี่ก็ถือเป็นอิเลคทรอนิคส์อีกประเภทนึง ข้อดีคือไม่ต้องเปลี่ยนถ่านบ่อยๆ เพราะแนวคิดคือเอาพลังงานแสงอาทิตย์มาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า แล้วเก็บไว้ในตัวเก็บประจุ แต่ถ้าแผงรับพลังงานเสื่อม ก็แทบจะต้องโยนทิ้ง เพราะขืนส่งซ่อม อาจแพงกว่าตอนซื้อ ดังนั้นเราจึงมักจะเห็นนาฬิกาที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์นี้มีราคาไม่แพงมาก ประมาณว่าซื้อมา 5 พัน ใช้ 5 ปี ตกวันละ 3 บาทคุ้มแล้ว ใช้ได้เกิน 5 ปีถือเป็นโบนัส ทำนองนั้น แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 48 09:15:31 จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 10 ต.ค. 48 09:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นอกจากนั้น ยังมีนาฬิกาที่ใช้เครื่องแบบไฟฟ้าอีกหลายประเภทเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาจได้ยินนักนิยมนาฬิกาเก่าพูดถึง Turning Fork ก็เป็นเครื่องนาฬิกาที่หายาก เพราะปัจจุบันเลิกผลิตกันไปแล้ว แต่เนื่องจากถือเป็นพื้นฐานความคิดในการประดิษฐ์เครื่องควอทซ์ขึ้นมา จึงยังเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมอยู่บ้าง แต่สภาพดีๆ ก็ราคาสุดโหดทีเดียว จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 10 ต.ค. 48 09:11:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Kinetic เป็นเครื่องลิขสิทธิ์เฉพาะของ Seiko เค้า ลอกเลียนการทำงานของนาฬิกาแบบออโตเมติค โดยใช้แรงเหวี่ยงของ rotor เพื่อไป "ปั่นไฟ" เพื่อสะสมไว้ในเครื่องเก็บประจุ ก่อนคายพลังงานออกมาหล่อเลี้ยงวงจรต่างๆ ตรงนี้ต่างจากนาฬิการะบบ Automatic Winding ตรงที่นาฬิกาออโต หมุน rotor เพื่อ "ขดลาน" ขณะที่แบบ Kinetic หมุน rotor เพื่อ "ปั่นไฟ" ไปเก็บไว้ รายละเดียดนาฬิกาออโต ดูเพิ่มเติมข้างล่างนะครับ Kinetic นี้เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมากในหมู่นักนิยมนาฬิกา ว่ามันควรจะถือเป็น "นาฬิกา" ในความหมายของนักนิยมนาฬิกาหรือไม่ เพราะมันเป็น "ลูกครึ่ง" จะกลไกก็ไม่ใช่ ไฟฟ้าก็ไม่เชิง แต่ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นของ Seiko และราคาที่ถือว่าไม่สูงนักเมื่อเทียบกับนาฬิกาไขลานหรือออโต ก็ทำให้หลายๆ ท่านหยวนๆ ซื้อหามาครอบครองกันไม่น้อยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 48 10:38:01 จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 10 ต.ค. 48 09:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นาฬิการะบบไขลาน หรือ Manual Winding Movement เป็นระบบนาฬิกาที่สะสมพลังงานด้วยการไข "ลาน" หรือขดลวดสปริง แล้วลวดสปริงนั้นจะค่อยๆ คลายตัวไปหมุนกลไกต่างๆ ให้นาฬิกาหมุน เป็นกลไกนาฬิกาแบบโบราณที่สุดแบบหนึ่ง ปัจจุบัน นาฬิกาที่ใช้เครื่องแบบนี้ มีน้อยลง จะเหลือแต่ในนาฬิการาคาสูงๆ ไม่ก็ราคาถูกๆ ไปเลย (เช่นพวกนาฬิกาที่ทำจากรัสเซียหรือจีนแดงทั้งหลาย แต่คุณภาพก็ห่วยแตกตามราคา) แต่นาฬิกามียี่ห้อที่ใช้เครื่องแบบนี้มาผลิตนาฬิกา โดยมากราคาค่อนข้างสูง เพราะถือว่าคลาสสิค และการปรับแต่งกลไกให้สามารถทำงานได้อย่างเที่ยงตรง เป็นเรื่องท้าทายทีเดียว โดยมากมักนิยมแกะสลักชิ้นส่วนเครื่องด้วยเพื่อเพิ่มคุณค่างานศิลป์ ข้อเสียนาฬิกาชนิดนี้ก็คือ ถ้าไม่ไขลาน มันก็หยุดเดิน (อันนี้ชัวร์) แต่ในนาฬิกาที่มีความซับซ้อนมากๆ พอหยุดเดินทีนี่การปรับตั้งต่างๆ วุ่นวายมาก คนที่ใช้นาฬิกากลุ่มนี้ จึงต้องเป็นพวก "บ้านาฬิกา" เข้าขั้นทีเดียว เอาว่าบางทีไม่ได้สวมใส่ แต่หยิบมาไขลานเล่นก็ยังดี แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 48 10:34:08 แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 48 10:25:53 จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 10 ต.ค. 48 09:16:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นาฬิการะบบออโตเมติค หรือ Automatic Winding หรือ Self-Winding ชื่อก็บอก ว่าหมุนด้วยตัวเอง ซึ่งก็คือการหมุนขึ้นลานด้วยตัวมันเองนั่นแหละ เป็นการประยุกต์มาจากนาฬิกาไขลาน หรือ Manual Winding ที่ต้องใช้แรงมนุษย์หมุนขึ้นลาน แต่นาฬิกาชนิดนี้ ใช้แผ่นจานถ่วงน้ำหนัก หรือที่เรียกว่า Rotor มาไขลาน โดยอาศัยแรงเหวี่ยงของการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ พูดง่ายๆ ก็คือ เวลาคนเราเดิน หรือเคลื่อนไหว ก็มักจะมีการแกว่งข้อมือไปด้วย ซึ่งเจ้า Rotor นี้ ก็จะถูกถ่วงน้ำหนักให้หมุนตามแรงเหวี่ยงข้อมือที่ว่า ไปปั่นลานเก็บไว้ในตลับลาน ให้ลวดลานคลายตัวออกมาขับเคลื่อนกลไกในนาฬิกาอีกที ดังนั้น หากผู้สวมใส่ สวมนาฬิกาชนิดนี้ติดตัวไว้ตลอด นาฬิกาก็แทบจะมีลานหรือพลังงานสะสมอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่ต้องคอยไขลาน หรือแม้แต่ใช้พลังงานจากถ่าน หรือแสงอาทิตย์เหมือนนาฬิกา นาฬิการะบบ Automatic Winding นี้ เรียกว่าเป็นชนกลุ่มใหญ่ในกลุ่มนาฬิกา mechanic ก็ว่าได้ เป็นนาฬิกาที่มีระดับราคากว้างมาก ตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักล้านทีเดียว จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 10 ต.ค. 48 10:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่จริง ยังมีเครื่องนาฬิกาแบบแปลกๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะใช้ความร้อนจากร่างกายผู้สวมใส่ไปสังเคราะห์เป็นพลังงานไฟฟ้า หรือแม้แต่ใช้ "อากาศ" เป็นพลังงานก็ยังมี แต่ในที่นี้คงขอยกมาเฉพาะที่เป็นที่นิยมและรู้จักกันโดยทั่วไปเท่านั้นครับ สรุปส่งท้ายตอนนี้ว่า นาฬิกาแต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันไป ซึ่งก็แล้วแต่รสนิยมผู้สวมใส่แต่ละท่านละครับ ว่าจะชั่งน้ำหนักเหตุผลในการเลือก หรือชื่นชอบกลไกประเภทใดเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ในตอนต่อๆ ไป คงจะพูดถึงเฉพาะนาฬิกาประเภทออโตเมติค และไขลานเป็นหลักนะครับ จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 10 ต.ค. 48 10:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมใช้มองดวงอาทิตย์เอาฮ่ะทุกวันนี้ !!! จากคุณ : คนธรรมดากับหมาตัวหนึ่ง - [ 10 ต.ค. 48 11:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ^ จากคุณ : สวยสะพรึง - [ 10 ต.ค. 48 12:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รออ่านนะน้า.. ปล. เสธ.โน่ ไปใต้หรือป่าว รออ่านคม..เสธ ตอนใหม่อยู่เหมือนกันนะ.. จากคุณ : จ๊ะจ๋าจ๋าจ๊ะ - [ 10 ต.ค. 48 14:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดีฮะมีกระทู้อย่างนี้ คนไม่มีปสก.ด้านนี้ จะได้เป็นวิทยาทาน ว่าแต่ไอ Tachymeter เอย Chronograph เอย มันมีไว้ทำไรฮะ...นาฬิกาผมทำเป็นแค่ดูเวลากับปรับวันที่เท่านั้น! ซื้อมาก็ไม่เคยอ่านคู่มือเลยฮะ ม่างเป็นภาษาอังกฤษหมด อ่านไม่ออก v_v' มีตั้ง Alarm ด้วยนะ! แต่ใช้ไม่เป็นซะงั้น คือตอนนั้นยังเด็กหาตังค์ได้ก็เลยซื้อเอง แต่ก็ไม่กล้าซื้อของแพง ๆ ต้องรอให้พ่อแม่ซื้อให้อย่างเดียว แต่พ่อแม่ซื้อของดี ๆ ให้ ก็แทบจะไม่ใช้ v_v'' โง่ส๊าดด จากคุณ : C ทรู - [ 10 ต.ค. 48 16:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 Chronograph คือนาฬิกาที่จับเวลาได้ครับ ส่วน Tachymeter เป็นระบบวัดระยะทางหรือเปล่าไม่แน่ใจครับ พูดถึง Rotor ตอนนี้ผมชักจะติดใจ Red Rotor ของรุ่นนี้เข้าซะแล้ว พี่แมลงสาบว่าเครื่องรุ่นนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ จากคุณ : Q-E-D - [ 10 ต.ค. 48 17:54:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เครื่องของตัวข้างบนครับ จากคุณ : Q-E-D - [ 10 ต.ค. 48 17:57:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะพี่ไว อ่านได้ความรู้ ^^ จากคุณ : jengly - [ 10 ต.ค. 48 19:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 BC3 ตัวนี้ น่าจะเป็นเครื่อง ETA-2892 มั้งครับ และแต่งโรเตอร์เป็นสีแดง เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้เค้า สายยางมีกลิ่นวานิลลาซะด้วยนะ :) ถือเป็นตัวเริ่มต้นที่ดีสำหรับคนเริ่มบ้านาฬิกาแล้วมีกำลังทรัพย์พอสมควรครับ ราคาน่าจะราวๆ 18-20K (หลังลดแล้วนะ) มือสองหากันได้ราวๆ 16K จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 10 ต.ค. 48 19:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 Tachymeter เป็นระบบวัดความเร็วครับ วิธีวัด ก็ประมาณว่ากดรีเซตให้เข็มวินาทีอยู่ที่เลข 12 จากนั้นกดเริ่มจับเวลาตอนรถออกตัว พอวิ่งไปครบ 1 กม.(มั้ง) ก็กดหยุด แล้วดูว่าเข็มวินาทีหยุดที่ตรงไหน แล้วอ่านที่ขอบ Tachymeter ก็จะได้ค่าความเร็วที่ใช้เมื่อสักครู่ครับ จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 10 ต.ค. 48 19:38:03 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ที่ไปเจอมาหลังลดแล้วอยู่ที่ 18K กว่าๆสำหรับรุ่นสายยางครับ ส่วนมือ2เดินหาไม่เจอเลยครับ ส่วนมากจะเจอ TAG หลายๆรุ่นเยอะมั่กๆ จากคุณ : Q-E-D - [ 10 ต.ค. 48 21:12:54 ]