ความคิดเห็นที่ 1 http://www.managerroom.com/ ลองไปที่เวปนี้ดูนะครับ.... ของอาจารย์ วรภัทร ครับ จากคุณ : ชายทะเล - [ 22 ม.ค. 49 16:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 http://www.isixsigma.com น่าสนใจ จะลองหาหนังสือมาอ่าน จากคุณ : triplehhh - [ 22 ม.ค. 49 16:53:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 SIX SIGMA By Mikel Harry, Ph.D., and Richard Schroeder ส า ร บ า ญ - ทำไมต้อง Six Sigma - Six Sigma คืออะไร - ผู้เล่นใน Six Sigma - ยุทธศาสตร์การเอาชนะอุปสรรคแบบ Six Sigma - การเอาชนะอุปสรรคสามระดับ : ธุรกิจการดำเนินการ และกระบวนการ - "สภาวะ" ทางธุรกิจและระบบที่สนับสนุน - การประเมินผลและการใช้ยุทธศาสตร์ Six Sigma - การเตรียมองค์กรเพื่อใช้ยุทธศาสตร์ Six Sigma เ นื้ อ ห า โ ด ย ย่ อ ยุทธศาสตร์การเอาชนะอุปสรรคแบบ Six Sigma เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จที่มีความจำเป็นยิ่ง ในช่วงยี่สิบห้าปีหลังของศตวรรษที่ผ่านมา ตัวอย่างบริษัทที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ยุทธศาสตร์ดังกล่าว มีอาทิ เจเนอรัล อิเล็กทริค, อัลไลด์ ซิกนัล และโพลารอยด์ เป็นต้น มิเคล แฮรี่ และริชาร์ด ชโรเดอร์ แห่ง "Six Sigma Academy inc." เป็นผู้วางรายละเอียดของ ทฤษฎีและข้อปฏิบัติตามแนวทางเพื่อให้บรรรลุถึงระดับของคุณภาพอันโดดเด่นซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์นี้ ยุทธศาสตร์การเอาชนะอุปสรรคแบบ Six Sigma เป็นยุทธศาสตร์ที่นำความสำเร็จมาให้ก็เพราะมุ่งเน้นไปที่กระบวนการทางธุรกิจและองค์ประกอบต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นกระบวนการดังกล่าว ทั้งนี้มีบทเรียนต่างๆ ที่ผู้เขียนได้สรุปรวบ รวมไว้ดังนี้ - ปัจจัยและความต้องการทางธุรกิจแบบใดที่นำองค์กรธุรกิจไปสู่การปฏิบัติตามแนวทาง Six Sigma - มีวิธีการกำหนดแนวทางการปฏิบัติที่เป็นหลักอย่างไร และจะใช้เกณฑ์วัดเชิงสถิติในการวัดกระบวนการได้อย่างไร - จะแตกกระบวนการให้เป็นองค์ประกอบย่อยๆ ได้อย่างไร ก่อนที่จะค้นหาและแก้ไขตัวแปรและความไม่เชื่อมต่อต่างๆ ที่อาจนำไปสู่ข้อผิดพลาด จุดบกพร่อง หรือปัญหาตามมา - จะจัดโครงสร้างทีมงาน Six Sigma อย่าง ไร ตั้งแต่ระดับบนลงล่างและชักจูงให้ทีมใช้ความพยายามเต็มที่จนประสบความสำเร็จได้อย่างไร - จะนำยุทธศาสตร์ออกสู่ภาคปฏิบัติทั้งในระดับของธุรกิจ การดำเนินงานและกระบวนการได้อย่างไร - จะเตรียมองค์กรรับมือกับสิ่งท้าทาย ความเปลี่ยนแปลง และผลลัพธ์จากยุทธศาสตร์ Six Sigma อย่างไร ทั้งหมดนี้มีคำยืนยันความสำเร็จจากผู้บริหารชื่อดังไม่ว่าจะเป็นแจ๊ค เวลช์ แห่งจีอี หรือลอเรนส์ บอสซิดี แห่งอัลไลด์ซิกนัล ซึ่งต่างก็บอกว่ายุทธศาสตร์ Six Sigma นั้นมีค่า ควรแก่การทุ่มเทหยาดเหงื่อ และเวลาที่ลงไปทุกนาทีกับการฝึกอบรมให้สิ่งที่ต้องการ ทั้งนี้รายละเอียดมีดังต่อไปนี้ จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:00:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ท ำ ไ ม ต้ อ ง ใ ช้ S i x S i g m a ? ลำพังเรื่องคุณภาพไม่ใช่ปัจจัยผลักดันที่ทำให้องค์กรต้องใช้ยุทธศาสตร์เชิงปฏิบัติ ที่เรียกว่า Six Sigma แต่เพราะ Six Sigma เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปรับปรุงความสามารถในการทำกำไร โดยแนวปฏิบัติแต่ละระดับที่ขยับ สูงขึ้นจะทำให้องค์กรมีกำไรสุทธิเพิ่มถึง 10% (โปรดดูตาราง) ตามมาด้วยการปรับปรุงส่วนต่าง กำไรเพิ่มขึ้น 20% และการลดต้นทุน 10 ถึง 30% ทำให้ผู้บริหารจำเป็นต้องใช้ยุทธศาสตร์นี้ นอกจากนั้น ยังมีสาเหตุที่องค์กรธุรกิจต้องยึดแนวปฏิบัติ Six Sigma อีกหลายประการ ดังนี้ - แนวปฏิบัตินี้กำหนดมาตรฐานที่แตก ต่าง เท่าที่ผ่านมาเรามักกำหนดนิยามคำว่าคุณ ภาพโดยเน้นไปที่การกำหนดโครงสร้างให้กับมาตรฐาน ในขณะที่องค์กรต่างพยายามดิ้นรนที่จะสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่อยู่ภายในกรอบดังกล่าว หากองค์กรสามารถ ผลิตสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพก็ถือว่ามีผลการดำเนินงานตามมาตรฐาน โดยไม่คำนึงว่าทำได้ตามมาตรฐานนั้นด้วยวิธีการเช่นไร แต่แนวปฏิบัติ Six Sigma นั้นขยายขอบข่ายของนิยามคำว่าคุณภาพออกไปโดยนับรวมถึงมาตรฐานของคุณค่าทางเศรษฐกิจที่คาดหวังด้วย เช่น ต้นทุนที่ใช้ในการผลิตสินค้า และยังคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยในทางปฏิบัติด้วย - Six Sigma เป็นแนวปฏิบัติที่ยึดกระบวนการเป็นศูนย์กลาง องค์กรธุรกิจนั้นต้องใช้กระบวนการนับพันอย่าง ในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการ (กล่าวคือบรรดากิจการที่ต้องมีปัจจัยนำเข้า การเพิ่มมูลค่า และ การผลิตสิ่งที่ต้องการตามกระบวนการ) กระบวนการเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่อง ในเชิงอุตสาหกรรมหรือในเชิงพาณิชย์ก็ได้ ทั้งนี้ แนวปฏิบัติ Six Sigma สร้างเป้าหมายที่ปรับปรุงขึ้นอย่างเฉพาะเจาะจงให้กับทุกๆ กระบวนการในองค์กร โดยทำให้องค์กรเกิดความเข้าใจและนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปใช้ปรับปรุงผลประกอบ การในกระบวนการดำเนินงาน - Six Sigma เป็นเรื่องของคุณภาพ สำหรับธุรกิจบางประเภท ต้นทุนสำหรับจัดส่งสินค้าที่มีคุณภาพอาจสูงถึง 40% ของราคาขาย สำหรับองค์กรที่มีรายได้ต่อปี 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีรายได้จากการดำเนินการ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต้นทุนของการทำให้สินค้ามีคุณภาพตกราว 25% ของรายได้ หรือ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากบริษัทลดต้นทุนลงราว 20% โดยรักษาคุณภาพระดับเดิมไว้ได้ จะทำให้เพิ่มรายได้จากการดำเนินงานถึง 5 ล้านดอลลาร์ หรือ 50% ของรายได้จากการดำเนินการในปัจจุบัน นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บ๊อบ กัลวิน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโมโตโรล่าเคยกล่าวว่า ผู้นำต้องนำเรื่องคุณภาพมาเป็นเรื่อง พิจารณาส่วนตัวเพื่อที่จะทำให้เกิดการปรับปรุงที่ต่อเนื่องยาวนาน จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:00:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผู้ เ ล่ น ใ น ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ S i x S i g m a ก่อนที่จะลงรายละเอียดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ Six Sigma จะต้องพิจารณาถึงบทบาทของผู้เล่นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์เสียก่อน ทั้งนี้ หากพิจารณาพีระมิดคว่ำในตารางจะเห็นว่ากลุ่มคนทั้งหมดมีส่วนผลักดันให้ยุทธศาสตร์นี้ประสบความสำเร็จ โดยที่ฐานล่างของพีระมิดมีผู้บริหารองค์กรเป็นผู้ให้การสนับสนุนและจัดสมดุลของโครงสร้างทั้งหมด วิสัยทัศน์ของผู้นำจึงมีความสำคัญต่อฐานรากของยุทธศาสตร์นี้อย่างยิ่ง ส่วนบนสุดของพีระมิดเป็นลูกค้าซึ่งจะมีความคาดหวังต่างๆ จากบริษัทธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ บริษัทจึงมีหน้าที่สร้างคุณภาพตามหลักยุทธศาสตร์ Six Sigma โดยอาศัยความคาดหวังหรือความต้องการของลูกค้าเป็นตัวกำหนด นอกจากนั้น ในระหว่างลูกค้าถึงผู้บริหารจะมีผู้เล่นอีกสี่กลุ่มคือ แชมเปี้ยน หัวหน้ากลุ่มสายดำ กลุ่มสายดำ และกลุ่มสายเขียว ดังรายละเอียดต่อไปนี้ แชมเปี้ยน แชมเปี้ยนในองค์กรมีสองประเภทคือแชมเปี้ยนด้านการดำเนินงาน (deployment champions) ซึ่งดูแลด้านการบริหาร และเพิ่มหน้าที่รับผิดชอบในส่วนงานต่างๆ ให้เหมาะสมตามหลัก Six Sigma กับแชมเปี้ยน ผู้ดูแลโครงการ (project champions) และ สนับสนุน Six Sigma ในระดับโครงการกลุ่ม แชมเปี้ยนทั้งสองประเภทเป็นผู้จัดองค์กรและนำให้เกิดความริเริ่มสร้างสรรค์ขึ้นรวมทั้งการนำหลัก Six Sigma ไปปฏิบัติตามความเหมาะสม หัวหน้ากลุ่มสายดำ เป็นกลุ่มคนที่ได้รับการคัดเลือกจากกลุ่มแชมเปี้ยนให้เป็นผู้เชี่ยวชาญประจำองค์กร ในด้านการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ Six Sigma ให้ทั้งองค์กรได้รับรู้ โดยเป็นผู้ที่อุทิศเวลา 100% เต็มให้กับยุทธศาสตร์นี้ นอก จากนั้นยังต้องฝึกอบรมกลุ่มสายดำและกลุ่มสายเขียวเพื่อสื่อสารความคืบหน้าต่างๆ ของงานหรือโครงการที่รับผิดชอบอยู่ให้รับรู้โดยทั่วกันด้วย กลุ่มสายดำ เป็นกลุ่มที่ทำงานอยู่ใต้การดูแลของกลุ่มหัวหน้าสายดำ เป็นผู้ใช้เครื่องมือต่างๆ และความ รู้ของยุทธศาสตร์ Six Sigma ให้เป็นประโยชน์กับโครงการที่รับผิดชอบอยู่ และจะต้องอุทิศเวลา 100% เต็มให้กับโครงงานตามยุทธศาสตร์ Six Sigma เช่นกัน กลุ่มสายดำนี้จะได้รับการฝึกอบรมเข้มเกี่ยวกับสถิติและเทคนิคการแก้ไขปัญหา และอาจส่งผ่านความรู้ต่อให้กับกลุ่มสายเขียวอีกจำนวน 100 คนในแต่ละปี กลุ่มสายเขียว กลุ่มนี้คือพนักงานที่ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ Six Sigma ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน ทั้งหมดที่ทำอยู่ แม้ว่าจะต้องรับผิดชอบงานในลักษณะประจำวันก็ตาม แต่กลุ่มนี้จะได้รับมอบหมายงานสองลักษณะด้วยกันคือ การทำงานตาม หลักยุทธศาสตร์ Six Sigma และการทำให้โครง การที่รับผิดชอบอยู่ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นบ้าง การฝึกอบรมตามยุทธศาสตร์ การเอาชนะอุปสรรค การฝึกอบรมบทบาทต่างๆ ภายใต้ยุทธ- ศาสตร์ดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องจำกัดเฉพาะในองค์กร แต่อาจรวมไปถึงหุ้นส่วนทางธุรกิจด้วย อย่างที่แทรเวล เซ็นเตอร์ (Travel Center) ของ จีอี มีโปรแกรมฝึกอบรมข้ามองค์กรระหว่าง ศูนย์กับผู้บริหารของศูนย์คาร์ลสัน-แวกอนลิต (Carlson-Wagonlit) โดยผู้บริหารคนหนึ่งของคาร์ลสันฝึกอบรมได้ถึงระดับแชมเปี้ยน แล้วมาร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกลุ่มหัวหน้าสายดำของแทรเวล เซ็นเตอร์ฝึกอบรมพนักงานระดับสายดำและสายเขียว จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ ก า ร เ อ า ช น ะอุ ป ส ร ร ค แ บ บ S i x S i g m a มีขั้นตอน 8 ขั้นที่เกี่ยวกับการนำยุทธ ศาสตร์นี้ไปประยุกต์ใช้ นั่นคือ การรับรู้ถึงความสำคัญของยุทธศาสตร์ การกำหนดนิยาม การวัด การวิเคราะห์ การปรับปรุง การควบคุม การวางมาตรฐาน และการผนวกประสานกัน แต่ละขั้นออกแบบให้มั่นใจได้ว่าใช้ได้อย่างถูกต้องตรงตาม หลักยุทธศาสตร์ Six Sigma และครอบคลุมไปถึงการดำเนินงานประจำวันด้วย องค์ประกอบทั้ง 8 ประการนี้ยังอาจตกอยู่ ในหลักข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ด้วย - การระบุให้ชัด การรับรู้ถึงความสำคัญของยุทธศาสตร์ การกำหนด นิยาม อยู่ในขั้นนี้ เพราะองค์กรจะเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานของยุทธศาสตร์ Six Sigma และยอมรับว่าเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาในองค์กรได้ทะลุด้วยเครื่องมือต่างๆ ในขั้นตอนนี้องค์กรจะรับรู้ว่ากระบวน การทางธุรกิจของตนนั้นมีผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรอย่างไร แล้วกำหนดสิ่งที่เป็นกระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญ องค์ประกอบหลักดังกล่าวนี้จะแตกต่างกันไปในจุดต่างๆ ของกระบวนการทางธุรกิจ - การกำหนดคุณลักษณะ การประเมินและการวิเคราะห์ตกอยู่ในข้อนี้ โดยเป็นการพิจารณาว่ากระบวนการอยู่ในขั้นตอนไหนหากพุ่งเป้าไปที่สิ่งที่องค์กรกำหนดให้เป็นจุดหมายหลัก ซึ่งจะทำให้เห็นถึงจุดตั้งต้นในการประเมินการปรับปรุงต่างๆ ในขั้นนี้จะต้องมีการสร้างแผนดำเนินการเพื่ออุดช่องว่างระหว่างกระบวนการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และในแบบที่ต้องการให้เป็นเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายสำหรับสินค้าหรือบริการ - การสร้างประโยชน์สูงสุด การปรับปรุงและควบคุมอยู่ในขั้นตอนนี้ โดยเป็นการกำหนดขั้นตอนที่ต้องมีการปรับปรุงและลดแหล่งแห่งความผันแปรต่างๆ อีกทั้งมีการสร้างการทดลองโดยอิงข้อมูลเชิงสถิติ ความรู้ที่ได้จากขั้นตอนนี้ จะถูกนำไปปรับปรุงและควบคุมกระบวนการดำเนินงาน เพิ่มพูนขีดความสามารถในการทำกำไร สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าและผู้ถือหุ้น - การสร้างสถาบัน การวางมาตรฐานและการผนวกประสานอยู่ในขั้นนี้ เป็นการนำเอาหลักยุทธศาสตร์ Six Sigma มาใช้ในการดำเนินงานประจำวัน และยังเป็นขั้นตอนสำหรับการย้อนถอยหลังไปหนึ่งก้าว เพื่อดูผลกระทบของโครงการเล็กๆ ที่มีต่อภาพรวมของกระบวนการธุรกิจที่บริหาร ธุรกิจประจำวันด้วย จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก า ร เ อ า ช น ะ อุ ป ส ร ร ค ส า ม ร ะ ดั บ : ธุ ร กิ จ ก า ร ด ำ เ นิ น ก า ร แ ล ะ ก ร ะ บ ว น ก า ร องค์กรเกือบทุกแห่งสามารถพิจารณาการดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจของตนเป็น 3 ระดับด้วยกัน คือ ระดับธุรกิจโดยรวม หมายถึง ภาพรวมที่ครอบคลุมทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ต่อมาเป็นระดับการดำเนินการ และ ระดับกระบวนการตามลำดับ การใช้ยุทธศาสตร์ Six Sigma นั้นสามารถแทรกตัวเข้าไปในทุกระดับขององค์กร เพื่อปรับปรุงคุณภาพโดยรวมและความสามารถในการทำกำไรให้ดีขึ้น ดังรายละเอียดต่อไปนี้ ระดับธุรกิจโดยรวม เราสามารถใช้ยุทธศาสตร์ Six Sigma ในการมุ่งเน้นการปรับปรุงระบบธุรกิจและข้อมูลข่าวสารเพื่อนำทิศทางกิจการอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการป้อนข้อมูลกลับให้กับลูกค้า หรือคุณภาพของซัปพลายเออร์ ทั้งนี้ผู้บริหารจะต้องมีภาระรับผิดชอบที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสามถึงห้าปีในแง่มุมต่างๆ ดังนี้ - การตระหนักรู้ถึงสภาวะที่เป็นจริงของธุรกิจ เช่น การให้บริการแก่ลูกค้าอย่างที่เป็นอยู่นั้นมีคุณภาพดีเพียงไร หากคุณประเมินสภาวะเป็นจริงไม่ได้ก็ย่อมไม่อาจกำหนดได้ว่าควรปรับปรุงคุณภาพในจุดใด - กำหนดให้ได้ว่าต้องใช้แผนการใดในการปรับปรุงธุรกิจในแต่ละขั้น โดยต้องรู้ว่าจะบรรลุผลการประกอบการที่ดีขึ้นได้อย่างไรจึงจะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ - ประเมินระบบธุรกิจให้ได้ว่าจะสามารถสนับสนุนแผนการปรับปรุงธุรกิจได้อย่างไร - วิเคราะห์ช่องว่างในการดำเนินงานของระบบ และกำหนดเป้าหมายนำทางเพื่อค้นดูว่ามีสิ่งใดที่ยังซ่อนเร้นอยู่ เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจเพื่อให้ขยับสู่ระดับการดำเนินงานที่ดีขึ้น - ปรับปรุงหน่วยย่อยในระบบเพื่อบรรลุเป้าหมายการดำเนินงาน โดยการประเมินระบบ รวบรวมข้อมูลที่จำเป็น วิเคราะห์ข้อมูลและจัดลำดับความสำคัญของการดำเนินการเพื่อการปรับปรุง - ควบคุมคุณลักษณะที่สำคัญในระดับระบบธุรกิจ โดยการตรวจสอบความมุ่งมั่นตั้งใจและการทำงานของหน่วยย่อยต่างๆ เป็นระยะเวลา หนึ่งเพื่อดูถึงผลการดำเนินงานและควบคุมคุณ ลักษณะสำคัญเหล่านั้นให้คงไว้ - จัดมาตรฐานให้กับระบบที่พิสูจน์แล้วว่า ดีเยี่ยม โดยเปรียบเทียบผลประกอบการสูงสุดที่ระบบของคุณสร้างได้กับระบบอื่น และลงทุนเพื่อให้เกิดการประหยัดในการวิเคราะห์และควบคุมระบบ - ผนวกประสานระบบที่ดีเยี่ยมให้เข้ากับกรอบแนวทางการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ โดย การชี้แจงให้หน่วยธุรกิจต่างๆ ได้เห็นถึงสิ่งที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น และเชื่อมโยงไปถึงยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ รวมไปถึงการโยงกับเรื่องผลตอบแทนเพื่อสร้างแรงจูงใจให้พนักงานให้ความร่วมมือเต็มที่ จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:01:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ระดับการดำเนินการ ในเรื่องการดำเนินการทางธุรกิจนั้นยุทธศาสตร์ Six Sigma จะเข้ามาช่วยในการ รวบรวมปัญหาที่พบในระดับสูงขึ้น แล้วแตกประเด็นปัญหาเป็นประเด็นย่อยๆ เพื่อให้กำหนดปัญหา วางแผน และดำเนินการแก้ไขในเชิงบวก บทบาทของกลุ่มที่เป็นแชมเปี้ยนในส่วน นี้มีดังนี้ - เข้าใจถึงประเด็นในเชิงการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกับระบบธุรกิจหลัก มีบ่อยครั้งที่การแก้ปัญหาแบบกลยุทธ์ถูกซ่อนไว้หลังระบบสนับสนุนที่มีอยู่แล้ว เช่น ระบบข้อมูลคุณภาพ (quality informtion system-QIS) ของบริษัทหนึ่งมีข้อมูลสถิติเกี่ยวกับจุดบกพร่องของสินค้า แต่เมื่อไม่มีการระบุจุดบกพร่องออกมา จุดบก พร่องดังกล่าวก็จะปรากฏออกมาเป็นระยะๆ บริษัทจึงไม่สามารถปรับปรุงคุณภาพได้จนกว่าจะระบุถึงปัญหาเชิงระบบ นั่นก็คือ ระบบ QIS นั้นจะแสดงข้อมูลหลังเกิดปัญหาขึ้น ปัญหานี้จึงต้องแก้โดยการปรับปรุงระบบให้มีการประเมินคุณภาพ ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการไม่ใช่หลังการดำเนินการ - กำหนดโครงการ Six Sigma ที่จะแก้ไข ปัญหาการดำเนินงานซ้ำ โครงการ Six Sigma นั้นเป็นการระบุและคัดเลือกโดยอิงอยู่กับการพิจารณาว่าโครงการต่างๆ จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้ หรือไม่ โดยเชื่อมโยงกับประเด็นด้านการดำเนินการทางธุรกิจและการวัดคุณภาพแบบ critical-to-quality (CTQ) และเชื่อมโยงกับการดำเนินการของระบบสนับสนุนโดยสามารถประมวลผล ออกมาในกรอบประสิทธิภาพด้านเวลา - ประเมินผลการดำเนินการตามโครงการ Six Sigma เป็นการประเมินเชิงปริมาณว่าโครงการคืบหน้าไปเพียงไร ทั้งในแง่ภาพรวมและในเชิงเปรียบเทียบ โดยการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ ข้อมูลจากธุรกิจในระดับที่เหมาะสม - วิเคราะห์ผลการดำเนินงานของโครง การโดยเกี่ยวโยงกับเป้าหมายการดำเนินการ โดย การเปรียบเทียบผลการดำเนินการของโครงการของกลุ่มสายดำในองค์กรกับเป้าหมายการดำเนิน การของธุรกิจของคุณ และตรวจสอบถึงความเชื่อมโยงระหว่างรอบเวลาการดำเนินการกับคุณภาพ - ปรับปรุงระบบบริหารโครงการ Six Sigma เช่น หากเป็นโครงการที่เน้นในเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่าย จะต้องเริ่มเปรียบเทียบต้นทุน โครงการที่เป็นจริงกับที่คาดการณ์ไว้ หรืออาจต้องพิจารณาปัจจัยเกี่ยวข้องปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น การประหยัดสุทธิเมื่อโครงการบรรลุผล - ควบคุมปัจจัยนำเข้าสู่ระบบการบริหารโครงการ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีมาตรฐานและความต่อเนื่อง - วางมาตรฐานการดำเนินงานตามระบบการบริหารดีเยี่ยม เมื่อค้นพบสิ่งที่ดีเยี่ยมได้แล้ว จำเป็นต้องกำหนดให้เป็นมาตรฐานทั่วทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง - ผนวกประสานแนวการปฏิบัติแบบ Six Sigma ให้เข้ากับนโยบาย และกระบวนการดำเนินงานของธุรกิจประจำวัน และทำให้เกิดการปฏิบัติซ้ำ ด้วยระบบการให้รางวัลตอบแทนและการให้การยอมรับ จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:01:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ระดับกระบวนการ กลุ่มสายดำคือผู้รับผิดชอบงานในส่วนกระบวนการ จึงต้องทำหน้าที่ ค้นหาจุดอ่อนของกระบวนการที่ทำให้เกิดปัญหาและสร้างภาระต้นทุนให้สูงขึ้นในขณะที่คุณภาพลดลง บทบาทของกลุ่มสายดำมีดังนี้ - รับรู้ถึงปัญหาในระดับการทำงานที่เชื่อมโยงขึ้นไปถึงการดำเนินการ จากนั้นแตกข้อผิดพลาดออก เพื่อค้นหาปัญหาที่มีความเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดปัญหาในระดับกระบวนการขึ้น กล่าวคือ ปัญหาในระดับกระบวนการทำงานย่อยๆ นั้นเชื่อมโยงไปถึงปัญหาระดับการดำเนินการอย่างไร ซึ่งในทางกลับกันก็จะโยงต่อไปถึงระบบสนับสนุนที่เชื่อมถึงระดับธุรกิจภาพรวมด้วย เช่น ประเด็นความพึงพอใจของลูกค้าและความสามารถในการทำกำไร เป็นต้น - กำหนดกระบวนการที่จะเอื้อให้แก้ปัญหาในกระบวนการทำงานได้ เช่น ดูว่าปัญหานั้นเกี่ยวกับสินค้า บริการ หรือการจัดส่งสินค้าหรือเปล่า แล้ว จัดทำแผนผังกระบวนการทำงานโดยแตกเป็นขั้นตอนหรือกิจกรรมย่อยๆ ที่จำเป็นในการค้นหาทางแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ประเมินขีดความสามารถของกระบวนการในแต่ละขั้นตอนว่าทำงานได้ดีเพียงไร ในรูปของการประเมินวัดโดยอาจบันทึกลักษณะต่างๆ ตามวิธีวัดคุณภาพแบบ critical-to-quality (CTQ) รวมทั้งผลกระทบต่อธุรกิจ - วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินแบบแผนและแนวโน้ม โดยกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ ในกระบวนการและกำหนดทิศทางในการปรับปรุง - ปรับปรุงคุณลักษณะของสินค้าหรือบริการ ทั้งนี้กลุ่มสายดำในองค์กรต้องมุ่งเน้นไปที่คุณลักษณะแบบ CTQ ที่อยู่ในสินค้าหรือบริการและ หาวิธีการปรับปรุงขีดความสามารถของคุณลักษณะต่างๆ นั้น โดยอาจคัดเลือกปัจจัยที่มีผลกระทบต่อกระบวนการดำเนินงาน และกำหนดลักษณะเฉพาะในการดำเนินการให้กับแต่ละกระบวนการ - ควบคุมตัวแปรของกระบวนการที่พยายามใช้ในทางที่ไม่เหมาะ สม การปรับปรุงกระบวนการจะคงอยู่ต่อไปได้โดยการใช้มาตรการดำเนินการที่ควบคุมตัวแปรหลัก การจดบันทึกความแตกต่างระหว่างการควบคุมตัวแปรหลักๆ ไว้ ย่อมดีกว่าการเฝ้าดูเท่านั้น คุณต้องระบุตัวแปรเหล่านี้ให้ได้ก่อนที่จะตัวแปรเหล่านี้จะทำให้เกิดปัญหา ไม่ใช่ระบุหลังจากที่เกิดปัญหาแล้ว - กำหนดมาตรฐานของวิธีการและกระบวนการสร้างผลงานที่ดีเยี่ยม การส่งเสริมและกำหนดมาตรฐานของวิธีการตามหลัก Six Sigma ซึ่งให้ผลสูงสุด รวมทั้งกระบวนการที่ใช้งานได้ผลดีเยี่ยม - ผนวกประสานวิธีการตามมาตรฐานและกระบวนการต่างๆ ให้เข้าสู่วงจรงานที่กำหนดไว้ อย่าสร้างกระบวนการทำงานใหม่ทุกครั้งที่มีการออกแบบ ควรเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อจะนำไปสู่ประสิทธิภาพสูงสุดเท่านั้น จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:01:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล แ ล ะ ใ ช้ ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ S i x S i g m a องค์กรธุรกิจต้องใช้ยุทธศาสตร์ในการเอาชนะอุปสรรคเพื่อให้บรรลุตามเกณฑ์ Six Sigma ซึ่งจะทำให้มีการจัดลำดับความสำคัญทางธุรกิจและยุทธศาสตร์ได้พอเพียง นอกจากนั้น วิธีการที่บริษัทแต่ละแห่ง จะนำยุทธศาสตร์ไปใช้ย่อมมีความแตกต่างกัน แต่จะมีสิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ การดำเนินการตามยุทธศาสตร์และการใช้ยุทธศาสตร์ต้องเริ่มต้นมาจากผู้บริหาร เพราะยุทธศาสตร์ Six Sigma ไม่ใช่สิ่งที่ริเริ่มจากฐานล่างขององค์กร ทั้งนี้ปัจจัยที่จะต้องระบุก่อนการดำเนินการและใช้ยุทธศาสตร์ก็คือ ระดับการพึ่งพาอาศัยผู้อื่น โครงสร้าง จุดมุ่งเน้นและการคัดเลือกโครงการ จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 การพึ่งพาอาศัยผู้อื่น การดำเนินการตามยุทธศาสตร์เอาชนะอุปสรรคสู่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับปฏิสัมพันธ์ของหลักการหลายๆ ประการดังนี้ - ภาวะผู้นำจากบนลงล่างในแบบที่เห็นได้และคล่องแคล่ว - มาตรวัดที่ติดตามความก้าวหน้าของความริเริ่มได้อย่างแม่นตรง โดยสร้างความรับผิด ชอบต่อภาระหน้าที่และให้ภาพของความพยายาม ขององค์กรได้เด่นชัด - การกำหนดเป้าหมายนำทางทั้งภายในและภายนอกองค์กรที่จะประเมินสภาพการณ์ทางการตลาดได้อย่างซื่อตรง - เป้าหมายที่ขยายออกไปโดยมุ่งเน้นที่การเปลี่ยนแปลงมากกว่าการดึงรั้งกระบวนการดำเนินงานที่เป็นอยู่ - มีการฝึกอบรมแก่พนักงานทุกระดับอย่างต่อเนื่องและมากครั้งพอ - กลุ่มแชมเปี้ยนและกลุ่มสายดำที่ได้รับการโปรโมตและนำเอาความคิดริเริ่มในทุกระดับขององค์กรออกปฏิบัติ จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:02:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 การสร้างจุดมุ่งเน้น ไม่ว่าองค์กรจะตัดสินใจอย่างไรในเรื่องการมุ่งเน้นโครงการต่างๆ ตามยุทธศาสตร์ Six Sigma ย่อมมีผลต่อวิธีการนำ Six Sigma มาใช้ด้วย กล่าวคือ - การประหยัดค่าใช้จ่าย องค์กรสามารถกำหนดจำนวนของโครงการที่ต้องการในการทำให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายโดยระบุเป็นจำนวนเงินออกมา แต่การระบุตัวเงินออกมาชัดเจนก็อาจเป็นข้อจำกัดในการดำเนินการด้านคุณภาพได้เช่นกัน - ความสามารถในการส่งมอบ ระบุถึง สินค้าในกลุ่มเดียวกันหรือระบบที่จะมีความ สำคัญสูงสุดในองค์กรของคุณ และยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ลูกค้าลดความพึงพอใจลง อันตรายของการมุ่งเน้นประเด็นนี้ก็คือ คุณอาจจะสนใจแต่เรื่องข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้น จนกลายเป็นเรื่องสำคัญเสียยิ่งกว่ากระบวน การดำเนินงานและระบบในการผลิตสินค้าได้ - กระบวนการ นี่คือ วิธีการดีที่สุดที่จะรับมือกับปัญหาจุดบกพร่องและความพอใจ ของลูกค้า แต่จำเป็นต้องมีการประสานงานอย่างดีข้ามส่วนงานต่างๆ จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 องค์ประกอบเชิงโครงสร้าง การจัดบุคลากรในองค์กรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการของ Six Sigma นั้นขึ้น อยู่กับจุดมุ่งเน้นของการใช้ยุทธศาสตร์นี้ รวมทั้งการผนวกประสานยุทธศาสตร์ Six Sigma เข้ากับองค์กรโดยรวม ทั้งนี้มีประเด็น ที่ต้องพิจารณาและตัดสินใจก่อนที่จะนำโครงการตามยุทธศาสตร์นี้ออกใช้ดังนี้ - การคัดเลือกผู้ที่จะอยู่ในกลุ่มสายดำ ใครจะเป็นคนเลือกกลุ่มสายดำ? และใช้เกณฑ์ พิจารณาอย่างไร? ควรมีจำนวนกี่คน? - การคัดเลือกโครงการ มีเกณฑ-์พิจารณาเกี่ยวกับโครงการอย่างไร? ใครเป็นคนอนุมัติโครงการและใช้เกณฑ์อะไร? - การใช้มาตรวัดควรใช้มาตรวัดใดที่เป็นมาตรฐานทั่วทั้งองค์กร? องค์กรจะกำหนดเป้าหมายที่ดีขึ้นอย่างไร? - การประสานงานยุทธศาสตร์ Six Sigma จะประสานให้เข้ากับการปรับปรุงองค์กร ในด้านอื่นๆ อย่างไร? - งบประมาณ องค์กรจัดการด้านงบประมาณดีเพียงไร? กรณีเงินเดือนของกลุ่ม สายดำจะจัดอยู่ในส่วนของค่าใช้จ่ายโดยตรงหรือไม่? - การฝึกอบรม องค์กรจะฝึกอบรมหัวหน้ากลุ่มสายดำให้ไปฝึกอบรมกลุ่มสายดำต่อไปได้อย่างไร? มีแนวทางอะไรที่จะให้กลุ่มสายดำใช้เลือกหรือชี้แนะแก่กลุ่มสายเขียว? การคัดเลือกโครงการ กุญแจของการคัดเลือกโครงการที่ดีก็คือ การระบุและปรับปรุงมาตรวัดผลการดำเนินงาน ที่จะช่วยส่งเสริมให้องค์กรประสบความสำเร็จทางการเงินและมีผลต่อฐานลูกค้า ทั้งนี้ เราอาจวัดหรือประเมินโครงการโดยพิจารณาตามมาตรวัดต่อไปนี้ - จุดบกพร่องต่อล้านโอกาส หรือจำนวนรวมของจุดบกพร่องต่อหน่วยหารด้วยจำนวนโอกาสรวมทั้งหมด สำหรับจุดบกพร่องต่อหน่วย คูณด้วย 1,000,000 - การประหยัดค่าใช้จ่ายสุทธิ หรือการลดลงอย่างที่สามารถวัดได้ของค่าใช้จ่ายคงที่หรือค่าใช้จ่ายแปรผัน - ต้นทุนของการมีคุณภาพต่ำ หรือต้นทุนที่เกิดจากการไม่สามารถผลิตสินค้าได้คุณภาพ 100% ตั้งแต่คราวแรก (ทำให้มีสินค้า เสียหาย มีการคืนสินค้าจากลูกค้า เป็นต้น) - ขีดความสามารถ หรือจำนวนของหน่วยงานในกระบวนการผลิตที่มีความสามารถที่จะผลิตสินค้าได้ตามกำหนดเวลา - เวลาของวงจรสินค้า หรือระยะเวลาที่ใช้ในการผลิตสินค้าหรือบริการได้จนเสร็จสมบูรณ์ จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:02:44 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ก า ร เ ต รี ย ม อ ง ค์ ก รเ พื่ อ ใ ช้ ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ S i x S i g m a สิ่งหนึ่งที่ยุทธศาสตร์เข้ามายุ่งเกี่ยวอย่างชัดแจ้งก็คือ การเปลี่ยน แปลง และมักทำให้เกิดการปะทะกันในแง่ของวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งต้องมีฝ่ายที่ต่อต้านขัดขืนการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเมื่อวิธีการดำเนินธุรกิจในแบบเดิมที่ตกทอดกันมาเกิดใช้ไม่ได้กับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน ผู้ที่เคยประสบความสำเร็จกับการทำงานแบบซ้ำเดิมต่อเนื่องกันมาหลายปีอาจรู้สึกต้องการที่จะเกาะกุมอดีตไว้ให้นานที่สุด การจะบรรลุผลสำเร็จตามยุทธศาสตร์ Six Sigma จึงต้องอาศัยการพยายามเปลี่ยนแปลงเชิงจิตวิทยาอย่างขนานใหญ่ และมุ่งปรับปรุงคุณภาพให้เข้าไปถึงระดับของวัฒนธรรมองค์กร (ซึ่งผู้เขียนระบุว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าปี) ยุทธศาสตร์ Six Sigma แสดงให้องค์กรต่างๆ เห็นว่าการใช้มาตรวัดคุณภาพแบบเดิมนั้นเป็นแบบที่เน้นผลการดำเนินงานที่ผ่านมา มากกว่าการเอาจริงเอาจังกับการป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น การใช้ยุทธศาสตร์ Six Sigma จึงเป็นการเข้าถึงปัญหาที่ศูนย์กลางและเชื่อมโยงไปถึงต้นทุนที่ต้องเสียไปโดยการบริหารงานอย่างผิดพลาดด้วย กรณีศึกษาที่โดดเด่นในเรื่องการใช้ยุทธศาสตร์ Six Sigma ก็คือ กรณีของเจเนอรัล อิเล็กทริค หรือจีอี ภายใต้การนำของแจ๊ค เวลช์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้นำองค์กรนั้นมีความสำคัญอย่าง ยิ่งในการดึงให้พนักงานเข้าร่วมในยุทธศาสตร์ดังกล่าว และผู้นำยังต้องมีความคิดก้าวไกล รวม ทั้งโน้มน้าวให้คนในองค์กรนำแนวทางตามที่ได้รับการฝึกอบรมไปปฏิบัติและนำความเปลี่ยน แปลงมาสู่องค์กรได้ในทุกระดับ จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:02:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Six Sigma คืออะไร - Six Sigma เป็นกระบวนการทางธุรกิจที่ให้องค์กรต่างๆ ปรับปรุงขีดความสามารถอย่างมหาศาล โดยการออกแบบและตรวจสอบกิจกรรมทางธุรกิจประจำวัน เพื่อลดสิ่งสูญเปล่าและลดการใช้ทรัพยากร แต่ขณะเดียวกันก็เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า - Six Sigma เป็นแนวทางชี้แนะให้องค์กรทำให้เกิดข้อ ผิดพลาดน้อยที่สุด ตั้งแต่การจัดข้อมูลคำสั่งซื้อสินค้า ไปจนถึง การผลิตเครื่องยนต์เครื่องบิน โดยการลดช่องโหว่ของคุณภาพตั้งแต่ ที่ปรากฏขึ้นครั้งแรก - Six Sigma ไม่เพียงตรวจจับหรือแก้ไขจุดบกพร่อง แต่ยังนำเสนอวิธีการที่เฉพาะเจาะจง สำหรับการสร้างกระบวนการทำงานใหม่ ให้ไม่มีจุดผิดพลาดเกิดขึ้นตั้งแต่ต้น จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผู้เล่นในยุทธศาสตร์ Six Sigma ของอัลไลด์ซิกนัล แชมเปี้ยนของอัลไลด์ซิกนัลได้วางโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการฝึกอบรมและการใช้ยุทธศาสตร์ Six Sigma ทั่วทั้งองค์กร ผู้ที่จะเป็นแชมเปี้ยนจะต้องเข้าร่วมในการประชุมสรุปภาพรวมการบริหารงานแบบ Six Sigma เป็นเวลาสามวันครึ่ง และต้องร่วมในกระบวนการฝึกอบรมของพวกที่ฝึกเป็นกลุ่มสายดำอีก 4 เดือน โดยที่พวกที่จะได้เป็นหัวหน้ากลุ่มสายดำจะคัดเลือกจากกลุ่มสายดำที่มีฝีมือดี และจากนั้นก็จะได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมและได้เป็นหัวหน้ากลุ่มสายดำที่มีลูกทีม 10 คน ส่วนลูกทีมทั้ง 10 คนก็จะได้รับการฝึกและเป็นหัวหน้าของกลุ่มสายเขียวอีกทีมละ 10 คน โครงสร้างดังกล่าวนำมาใช้ทั่วทั้งองค์กร โดยก่อนหน้าปี 1998 การฝึกอบรมกลุ่มสายเขียวยังเป็นเพียงโปรแกรมการฝึกอบรมอย่างหนึ่งของอัลไลด์ซิกนัล แต่ต่อมาบริษัทถือเป็นข้อบังคับที่พนักงานทุกคนต้องเข้ารับการฝึกอบรมดังกล่าวเป็นเวลา 26 ชั่วโมงจนได้รับวุฒิบัตร การใช้ยุทธศาสตร์ Six Sigma ได้ช่วยให้บริษัทประหยัด ค่าใช้จ่ายไปได้ถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมา จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:03:19 ]

ความคิดเห็นที่ 17 "สภาวะ" ทางธุรกิจ และระบบสนับสนุน สภาวะทางธุรกิจ หมายถึง เงื่อนไขทางธุรกิจโดยรวมที่ระบบสร้างขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการบริหารธุรกิจ ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะมุ่งเน้นไปที่สภาวะความพึงพอใจของลูกค้าบริษัท แต่ต้องรู้ว่าความพึงพอใจของลูกค้านั้นขึ้นอยู่กับ 1) การส่งมอบสินค้าหรือบริการที่ไม่มีจุดบกพร่องใดๆ 2) การส่งมอบสินค้าหรือบริการต้องตรงเวลา และ 3) ค่าจัดส่งสินค้าหรือบริการต้องอยู่ในเกณฑ์ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อใช้ยุทธศาสตร์ Six Sigma คุณจะสามารถระบุถึงสภาวะทางธุรกิจที่ต้องมีการปรับปรุงได้ แล้วดำเนินการวางระบบที่นำไปสู่การปรับปรุงสภาวะทางธุรกิจให้ดีขึ้นได้ จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ความสำคัญของการกำหนดจุดหมายนำทาง ยุทธศาสตร์ Six Sigma ต้องมีการกำหนดจุดหมายนำทาง (benchmark) ทางธุรกิจโดยเป็นการเปรียบเทียบกระบวนการทางธุรกิจกับคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง ค้นหาว่าอะไรทำให้เกิดสิ่งที่เยี่ยมยอดและอะไรทำให้องค์กรก้าวไปถึงสิ่งที่เยี่ยมยอดได้ ทั้งนี้ องค์กรต้องกำหนดจุดหมายนำทางให้ได้ในแต่ละประเด็นดังนี้ - ภายในองค์กร เปรียบเทียบกระบวนการทางธุรกิจใน แง่ของการทำงานด้านต่างๆ โดยทั่วไปขององค์กร (เช่น ขั้นตอนในการดำเนินการเกี่ยวกับคำสั่งซื้อสินค้ามีประสิทธิภาพแค่ไหน) - การแข่งขัน พิจารณาคู่แข่งโดยตรงของคุณและมองต่อไปถึงกระบวนการทางธุรกิจของคู่แข่ง จากนั้นกำหนดระดับของความภักดีต่อลูกค้า บริการลูกค้าและส่วนแบ่งตลาด ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงการประเมินของลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าและบริการ อีกทั้งความคิดของลูกค้าเกี่ยวกับสิ่งที่คุณจะเสนอให้ - ฟังก์ชั่นการทำงาน มุ่งเน้นพิจารณาที่ตัวกระบวนการดำเนินงาน และองค์กรที่มีกระบวนการในแบบคล้ายคลึงกัน จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กลุ่มสายดำต้องการอะไร? มุมมองเชิงจิตวิทยาของยุทธศาสตร์ Six Sigma กลุ่มสายดำซึ่งเป็นกลุ่มที่รับผิดชอบงานในโครงการของ Six Sigma จะต้องได้รับแรงจูงใจให้บรรลุความสำเร็จตามระดับที่พวกเขาคาดหวัง ในประเด็นต่างๆ เช่น - ค่าตอบแทน ค่าตอบแทนและรางวัลเป็นกลไกที่สื่อให้พนักงานเห็นถึงคุณค่าของการฝึกอบรมให้ติดกลุ่มสายดำในองค์กร แจ๊ค เวลช์ แห่งจีอี ใช้เงื่อนไขในการผลักดันยุทธศาสตร์นี้ให้คืบหน้าโดยที่สามารถวัดออกมาได้ ประกอบการพิจารณาเงินโบนัสของพนักงานระดับบริหารเป็นสัดส่วนราว 40% - การโปรโมตในหน้าที่การงาน บรรดาพนักงานระดับ ผู้จัดการ ผู้อำนวยการและรองกรรมการผู้จัดการของจีอี ล้วนแต่เป็นผู้บริหารที่ผ่านการฝึกอบรมตามยุทธศาสตร์ Six Sigma กลุ่มสายดำที่พิสูจน์ตัวเองว่า มีความสามารถมีความเหมาะสม จะได้รับการโปรโมตในหน้าที่การงานต่อไป - การได้รับการยอมรับ แรงจูงใจเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เมื่อต้องการความสำเร็จ การให้การยอมรับทั้งทางวาจาและลายลักษณ์อักษร เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมากนัก ไม่ว่าจะเป็น การแสดงออกอย่างเป็นส่วนตัวหรือแถลงต่อสาธารณะก็ตาม - อนุญาตให้ผิดพลาด บรรดาผู้บริหารที่เติบโตมาจากยุทธศาสตร์ Six Sigma มองข้อผิดพลาดว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการเติบโตของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นพนักงานในกลุ่มสายดำ กลุ่มแชมเปี้ยน หรือทั้งองค์กรก็ตาม จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:03:59 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ความสำเร็จตามยุทธศาสตร์ Six Sigma ของจีอี เมื่อแจ๊ค เวลช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีอีพิจารณาการใช้ยุทธศาสตร์ฝ่าฟันอุปสรรคแบบ Six Sigma ในปี 1996 เขาพบว่าองค์กรกำลังดำเนินการอยู่ในระหว่างขั้นตอนที่สามหรือสี่ คือ มีจุดผิดพลาด 35,000 จุดต่อหนึ่งล้านโอกาส เมื่อพิจารณาขนาดขององค์กรก็ประเมินเป็นค่าใช้จ่ายถึงราว 7-10 พันล้านดอลลาร์ต่อปี สำหรับการรื้อแก้หรือปรับปรุงความไร้ประสิทธิภาพในจุดต่าง เวลช์ตัดสินใจใช้ยุทธศาสตร์ Six Sigma ให้บรรลุผลในปี 2000 เขายอมรับว่าการริเริ่มสิ่งใหม่จะเป็นไปไม่ได้เลยหากขาดซึ่งการฝึกอบรมและวิสัยทัศน์ ดังนั้นจึงยอมลงทุนถึง 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 1996 และ 1997 เพื่อจัดฝึกอบรมผู้บริหารและผู้จัดการจำนวน 5,000 คน กับวิศวกรและพนักงานอื่นอีก 80,000 คน ตามยุทธศาสตร์ Six Sigma และถือว่าเป็นเงื่อนไขบังคับสำหรับพนักงานที่ต้องการเลื่อนตำแหน่งในระดับสูงขึ้น บริษัทใช้ยุทธศาสตร์ Six Sigma ทำสำรวจความเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับมาตรวัดคุณภาพขั้นสูงสุด (critical-to-quality) และพิจารณาปรับปรุงคุณภาพของแผนกบริการอื่นๆ ผลปรากฏว่าในปี 1998 รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 11% เป็น 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรเพิ่ม 13% เป็น 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลตอบแทนจากทุนดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 7.4% เป็น 9.2% ในปี 1997 นอกจากนั้นบริษัทยังเร่งมือลงทุนในสินทรัพย์สำคัญกล่าวคือ ทุนในด้านทรัพย์สินทางปัญญา และส่งผลให้พนักงานอุทิศตนให้กับงานเพื่อให้บรรลุสิ่งท้าทายและวัตถุประสงค์ใหม่ต่อไป จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ joantoro เรียนโทแน่ๆเลย ไม่รู้สถายันเดียวกันอ๊ะป่าวเนาะ อิๆเอาไปเลยค่ะ ขอให้ได้คะแนนเต็มเลยนะ จากคุณ : จันทร์เจ้าฉาย - [ 23 ม.ค. 49 01:06:24 ]