ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าได้นะ ถ้ารุ่งก็สบายไปเลย เกิด accident เจ็บตัวก็ยังพอกลับลำไหว อายุมากกว่านี้เสี่ยงไม่ได้แล้วนะครับ จากคุณ : mike3663 - [ 26 ม.ค. 49 16:20:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ได้อยุ๋แล้วล่ะ ถ้าแฟนทำจิงจังนะ จากคุณ : ... - [ 26 ม.ค. 49 16:33:34 A:61.91.139.230 X: TicketID:089498 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วางแผนดีๆ ก็ดีสิคะ คุณทำงานที่เดิม แฟนกระจายความเสี่ยงออกมาทำเอง ทไคนละอย่าง อายุอานามก็กำลังพอดี ทุนก็พอดีๆ จากคุณ : bar-b'gon - [ 26 ม.ค. 49 16:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทำเอง หรือจ้างแม่ครัวเอา? ถ้าจ้างแม่ครัว อย่าลืมนะคะ ว่ายืมจมูกเค้าหายใจอยู่.. จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 26 ม.ค. 49 16:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าแฟนคุณตั้งใจทำจริง  และวางแผนดีๆ  เอาว่าลองดูก็ไม่น่าเสียหาย  อายุขนาดนี้ก็พอเหมาะค่ะ จากคุณ : Plakud04 - [ 26 ม.ค. 49 17:11:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดีครับ อย่างที่ #3 บอกแหละ เป็นลูกจ้างอยู่บริษัทเดียวกันสองคนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จากคุณ : lonelydog - [ 26 ม.ค. 49 18:17:48 A:202.174.156.206 X: TicketID:102761 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ใจเย็นๆ ค่อยๆ คิดกันครับ... เพราะคำถามก็ถามอยุ่แล้วว่า "เสี่ยง" ฉะนั้น ควรมีการวางแผนที่ดีคัรบ พ่อครัว, เด็ก, พนักงาน ข้าว ของเครื่องใช้... แจกแจงออกมาเป็นส่วนๆ ก่อนครับ ขอให้โชคดี รวยๆ สมดังตั้งใจครับ จากคุณ : ensim - [ 26 ม.ค. 49 19:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เสี่ยงค่ะ หาทำเลดีๆนะคะ พี่สาวเราทำอาหารอร่อยมาก ลาออกจากงานไปเปิดร้านอาหาร เป็นตึกแถวนะคะ ได้ทำเลไม่ดีอยู่ในซอย เจ๊งค่ะ ตอนแรกหาอยู่ติดถนนด้านหน้าแล้วไม่มีค่ะ ตอนนี้เลยเลยอยู่บ้านเฉยๆแล้วล่ะ มีอีกร้านแถวบ้าน อร่อยมาก แต่ที่จอดรถไม่มี ก็เจ๊งค่ะ บางร้านอาหารธรรมดา แต่ไม่ถึงกับอร่อยมาก อยู่ในย่านชุมชน คนเยอะมาก ขายดีมากเลยค่ะ เพิ่มเติมค่ะ เรื่องลูกจ้างก็มีส่วนค่ะ ของพี่สาวลูกจ้างชอบเซ็นต์(ลงชื่อไว้ ยังไม่จ่ายเงิน) เหล้า เบียร์ กินกันหลังลิกงาน พี่สาวเราก็ใจดีอ่ะ ให้ด้วย แต่ก็ไม่ค่อยจ่ายกันบอกไม่มีตังค์อ่ะนะ นี่ก็เป็นปัญหาค่ะ ใจดีเกินไป ลองค่อยๆศึกษาหาลู่ทางดูนะคะ ไม่ต้องรีบร้อน แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 49 19:41:09 จากคุณ : แพนด้าตัวกลม - [ 26 ม.ค. 49 19:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณหรือแฟนอายุมากกว่ากันอ่ะ จากคุณ : lovephuket - [ 26 ม.ค. 49 20:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 รอด ก็ สบาย เน้น ทำเล ทำเล ทำเล นะครับ จากคุณ : KK (KK Tay) - [ 26 ม.ค. 49 20:16:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าทำไม่เป็นอย่าเปิดเลยคับ เจ๊งพอดี โดนกุ๊กมือ 1 มันเล่นตัวตายเลย วันไหนมันอยากได้เงินเดือน แล้วเกิดประท้วง ไม่ทำอาหารขึ้นมา จะรู้สึกนะคับ ถ้าทำเป็นแล้วอร่อย ก็เปิดเลยคับ แล้วกระจายความเสี่ยงแบบบนๆ ว่า คุนทำงานที่เดิม แล้วแฟนคุนไปเปิดร้านอาหาร พอเข้าที่เข้าทาง ก็ออกมาทำด้วยกันเลย จากคุณ : soolloos - [ 26 ม.ค. 49 20:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นความคิดที่เยี่ยมมากเลยครับแต่.... 1. คุณต้องประเมินค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนก่อนครับว่าคุณคนเดียวจะสามารถชดเชยได้ทั้งหมดหรือไม่ 2. แผนฉุกเฉินในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดทางด้านการเงิน 3. ความรู้และความชำนาญเรื่องธุรกิจที่จะทำ รวมถึงแผนการดำเนินการในอนาคต 4. ทำเล สถานที่ตั้ง รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ และภาษี 5. ใจที่มุ่งมั่นครับ จากคุณ : nutcefiro (nutcefiro) - [ 26 ม.ค. 49 20:47:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 วางแผนให้รอบคอบ    ให้กำลังใจ ขอให้รุ่งเรืองนะครับ เชียร์ ๆ จากคุณ : Chaeh - [ 26 ม.ค. 49 21:46:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มีอยู่วันหนึ่ง  หลังจากผมปิดบริษัท (ปิดกิจการ) เนื่องจากธุรกิจล้มเหลว  เงินก็หมด เงินในกระเป๋ามีไม่ถึง 200 วันนั้น  ผมไปเดินเล่นที่ไนท์บาซาร์ หลังจากเดินจนทั่วเป็นที่พอใจแล้ว ก็เดินออกมาจากไนท์บาซาร์ บังเอิญสายตามองไปเห็นพื้นที่ฟุตบาธหน้าร้านแห่งหนึ่ง ฝั่งตรงข้ามกับไนท์บาซาร์ ชั่วแว๊บเดียว  ผมก็เข้าไปที่ร้านนั้นแล้ว เจรจาขอเช่าพื้นที่ฟุตบาธหน้าร้านเขา เขาคิดค่าเช่าเดือนละ 4,500 บาท ที่ตรงนี้มันอยู่นอกไนท์บาซาร์ ไม่มีคนเคยเช่าทำอะไรมาก่อนเลย... ผมตกลงเช่าทันที  เพราะต่อรองได้ในราคา  3,000  บาท ใน 2 เดือนแรก และผมนัดว่าจะเข้ามาขายของในอีก 5 วัน ผมตัดสินใจจะทำร้าน นมสด&ขนมปังปิ้ง ทั้งๆ ที่ผมไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร ผมตรงดิ่งไปร้าน นมสด ที่เห็นมีลูกค้ามากมายแถบหน้ามหาลัย ผมเลือกนั่งโต๊ะใกล้ๆ คนทำเพื่อแอบดูวิธีการ ยังดีที่มีเงินติดตัว 200 บาท เลยทำให้ได้ลองกินขนมปังหลายๆ หน้า แล้วก็ยังมีเงินเหลืออยู่อีก กลับถึงบ้าน ผมคำนวณเงินที่จะต้องใช้ในการลงทุน โต๊ะพลาสติกกลม เสียบร่มตรงกลาง ติดไฟข้างบนร่ม และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับร้านนมทั้งหมด 50,000 บาท  คือเงินที่จะต้องใช้... วันรุ่งขึ้น  ผมตรงดิ่งไปธนาคารคนจน(ธนาคารออมสิน) เขาปล่อยกู้ให้เริ่มต้นธุรกิจที่ 15,000 บาท ที่เหลือ  กู้ดอกนอกระบบ ร้อยละ 5 (รู้จักกัน) วันที่เปิดร้านวันแรก... ผมยังไม่มีโอกาสได้ลองชงน้ำหรือปิ้งขนมปังเลย เพราะมัวแต่วิ่งวุ่นเรื่องหาซื้อของจนวินาทีสุดท้ายที่เปิดร้าน ไปตายเอาดาบหน้าครับ.... วันแรก ขนมปังไหม้ไปไม่รู้กี่ปอนด์ ต่อมาก็เพิ่มสินค้าเป็นสเต็ก วันแรกที่ผมคิดอยากขายสเต็ก   ผมก็ยังไม่เคยกินสเต็กเลย  สาบานให้ตายสิ... ผมไปนั่งกินเสต็กอยู่หลายวัน แล้วผมก็ลองทำกินเองดู สอบถามสูตรจากคนต่างๆ ในที่สุดก็ได้น้ำหมักสเต็ก ที่ต้องใช้ของ 8 อย่างผสมกัน สเต็กของผม  มีลูกค้าติดใจ  ขายได้วันละเป็นร้อยๆ จาน จนทำไม่ทัน  คนย่างสเต็กอย่างเดียวที่ร้านผม มีถึง 3 คน วันหนึ่ง เจ้าของตึกก็ไม่ให้ผมเช่าที่ต่อ แล้วเขาก็ปิดกิจการของเขา  เปิดเป็นร้าน สเต็ก&นมสด แทนที่ร้านของผม ผมก็ย้ายไปหาเช่าฟุตบาธที่ใหม่  ไม่ใช่ทำเลไนท์บาซาร์ ลูกค้าที่รู้ว่าร้านนั้นไม่ใช่ร้านผม ก็เริ่มตามมา แล้วร้านก็ขายดีเหมือนเดิม หนึ่งปีผ่านไป...... ผมกลับไปเซ้งร้านนั้นที่ให้ผมออก เพราะเขาขายไม่ดีเหมือนผม เขาลงทุนไปหลายแสนในการตกแต่งร้าน แต่ผมเซ้งเขามาแค่ 65,000 เอง  โชคดีจัง และค่าเช่าเดือนละ 20,000 บาท จากร้าน ขนมปัง&นมสด ข้างฟุตบาธ กลายเป็นร้านสเต็ก สวยงามที่มีลูกค้าเต็มร้าน พร้อมกับขยายแฟรนไชน์ไปอีก 4 สาขา และอยู่ในช่วงเจรจาซื้อตึกหลังนี้ในราคา  4.5  ล้านบาท ผมเริ่มต้นที่ทำเลเพียงอย่างเดียวเลยครับ นอกนั้น ไปตายเอาดาบหน้า... หลายๆ ครั้งที่พยายามคิดให้รอบครอบ จนแก่ก็เลยไม่ได้ทำอะไรเลย ทุกเรื่องมีจุดบอดหมดแหล่ะครับ ไม่เชื่อลองเอาธุรกิจอะไรก็ได้ ที่เขียนแผนงานมาอย่างดี มาให้ผมหาจุดบอดสิครับ รับรอง ไม่กล้าเปิดธุรกิจตัวนั้นแน่ๆ ผมแค่เล่าประสบการณ์จริงของผม  ไม่ได้จะมาชี้นำใครนะครับ... จากคุณ : อนาวิน - [ 26 ม.ค. 49 22:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตามมาอ่านครับพี่อนาวิน   รีบๆเขียนลงที่ BFC ต่อสิครับผมรออ่านอยู่ จากคุณ : Y (yoyolandk) - [ 26 ม.ค. 49 23:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตามกลับมาอ่าน เรื่องของคุณอนาวิน สุดยอดเลยค่ะ เราเคยเจอ หลายๆคนประสบเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน เรื่องให้เช่าที่ พอเจ้าของขายดี แล้วก็บีบให้เราเลิกเช่า และเจ้าของที่มาขายเอง สุดท้ายก็ไปไม่รอด สะใจดีจังเลยค่ะ อย่างร้านเพื่อน ของพี่เพื่อนเป็นร้านอาหารใหญ่แถวปากเกร็ด ขายดีมากค่ะ ทำมา 2 ปี(อุตส่าห์บุกเบิก จนขายดี) ก็โดนไล่ที่จากเจ้าของ โอ้ย ตอนนั้นพี่เค้าเครียดมากๆ ทุนยังน้อยอยู่เลย ลุกค้าเก่าก็เยอะ สุดท้ายก็มาได้ที่ แถวถนนเกษตร-นวมินต์ ก็ต้องสร้างชื่อใหม่ จนลูกค้าติดอีกครั้ง ก็ต้องกู้เงินนั่นล่ะ ส่วนเจ้าของที่ เจ๊งไม่เป็นท่า อย่างว่าแหละกรรมตามทัน แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 49 23:38:14 จากคุณ : แพนด้าตัวกลม - [ 26 ม.ค. 49 23:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณเพื่อนๆมาก จะต้องศีกษา ทำ Cashflow ให้ละเอียดมากขึ้น วิเคราะห์ทำเลให้ละเอียด พร้อมทั้งหาทางออกเผื่อเกิดปัญหาตามที่เพื่อนๆ แนะนำมาครับ จากคุณ : Teer - [ 27 ม.ค. 49 08:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ยินดีกับเถ้าแก่ล่วงหน้าครับ ลุย อย่าไปกลัว จากคุณ : เอก (webdeejung) - [ 27 ม.ค. 49 11:08:38 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เพื่อนผมคนหนึ่ง... จากคนเกกมะเหรก เกเร ไม่เป็นโล้เป็นพาย วันหนึ่ง... เขาต้องย้ายออกจากบ้านที่เขาซื้อเอง เพราะถูกยึด.... ต่อมา เขาไปได้บ้านเช่าหลังหนึ่งในทำเลที่ไม่มีผู้คน เป็นบ้านร้างในหมู่บ้านอีกที ที่เป็นบ้านร้างเพราะว่า มีคนเคยผูกคอตายที่บ้านหลังนี้ จึงไม่มีใครกล้าอยู่... แต่เพื่อนผมคนนี้ไม่มีทางเลือก เพราะลูกเมียต้องมีที่คุ้มหัวนอน วันหนึ่ง  เขาบอกกับผมว่า... เขาจะเปิดร้ายก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่บ้านของเขา... ผมตกใจอย่างแรง... จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไรครับ ก็ในเมื่อบ้านของเขา ไม่ใช่ทำเลข้าขายเลย แม้แต่ร้านขายของจุกจิกเล็กน้อย ก็ยังไม่มีเปิดเลย มันเป็นหมู่บ้านเงียบๆ... ผู้คนส่วนใหญ่ ออกไปทำงานกันหมด ทำเลมันไม่ให้จริงๆ... แค่คิดก็เจ๊งแล้ว... ผมบอกเขาไป หนึ่งเดือนต่อมา..... ร้านก๋วยเตียวเรือของเขา ดังเป็นพลุแตก เป็นที่รู้จักกันไปทั้งเมือง คิวแน่นเอี๊ยด  ที่นั่งไม่พอรองรับลูกค้า.... ผมไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ.... มันทำได้วุ๊ย!!!... หนึ่งปีผ่านไป.... เจ้าของบ้านให้เพื่อนผมออก เหตุผลก็คือ ลูกๆเขา ไม่มีอาชีพทำกิน จะมาอยู่ที่บ้านนี้ เรานั่งคุยกันก็ได้ข้อสรุปว่า เจ้าของบ้านจะทำเองแหงๆ.... เพื่อนผมรีบหาที่แห่งใหม่ทันที.... โน่น.... ออกไปนอกเมืองโน่น.... สถานที่กว้างใหญ่... แต่เป็นทำเลที่ไม่มีผู้คน ร้านค้าก็ยังแทบไม่มีอีกเหมือนเดิม... ไอ้หมอนี่ มันแปลกคนแฮ๊ะ.... ผมพูดเหมือนเดิม...  ตั้งไกลขนาดนั้น  ใครจะตามเมิงไปวะ.... แค่คิดก็เจ๊ง!!! แล้ว... เมื่อตกแต่งร้านเสร็จ... เพื่อนผมก็ย้ายร้านในทันที  ทั้งๆที่ยังเหลือเวลาเช่าอีก 6 เดือน... ผมคิดอยู่ในใจ.... ไอ้นี่มันใจร้อนจังวุ๊ย!... ทำไมไม่อยู่ขายที่เดิม แล้วประชาสัมพันธุ์ให้ลูกค้ารู้ว่า วันโน้นวันนี้ จะย้ายไปตรงโน้นแล้วนะ... เขาเอาสังกะสีมาปิดล้อมรั่วบ้านไว้ แล้วติดป้ายประกาศตัวเบอเริ่มว่า.... ร้านย้ายไปตรงโน้นนนน... พร้อมแผนที่ขนาดใหญ่... ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ.... ร้านของเขาใหญ่กว่าเก่าถึง 5 เท่า  แต่โต๊ะนั่งเต็มหมด แถมยังมีกระแสผู้คนแห่มากินที่ร้านเขามากกว่าเก่าอีก มันนนนนน ทำ ได้...... ผมแอบทึ่งอยู่ในใจ... และที่สะใจสุดๆ ของพวกเราก็คือ.... ที่เพื่อนผมปิดบ้านเช่าเก่าไว้ตั้ง 6 เดือน ทำให้ไม่มีลูกค้าหลงเหลือให้เจ้าของบ้านเช่าเลยแม้แต่คนเดียว เจ้าของบ้านเช่าเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือได้ 3 เดือน ก็ปิดกิจการ และบ้านหลังนั้น  ก็กลายเป็นบ้านร้างต่อไป จนถึงทุกวันนี้... ข้อคิดจากเรื่องนี้คือ... 1.จะเช่าที่ไหน  ให้ทำสัญญาเช่าให้ดีๆ ไว้แก้เผ็ดเจ้าของนิสัยไม่ดี... 2.ทำเล.... จำเป็นจริงหรือ?..... ทุกวันนี้ หนังสือชวนชิมทุกเล่ม รายการโทรทัศน์ทุกช่อง ไม่มีที่ไหน ไม่นำเสนอร้านของเพื่อนผมคนนี้เลย.... และรอบๆ ร้านของเพื่อนผม ก็แวดล้อมไปด้วยร้านอาหารนานาชนิดเต็มไปหมด.... จากที่ห่างไกลความเจริญตรงนั้น... กลายเป็นทำเลร้านอาหารไปเสียแล้ว... จากคุณ : อนาวิน - [ 27 ม.ค. 49 12:55:57 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อ่าของคุณอนาวินแล้วอยากลาออกไปขายผัดไทยจัง ไปดีไหมค่ะ แล้วตอนนี้ร้านอยู่ไหนค่ะ จะได้ไปกิน จากคุณ : Are U Lonely ? - [ 27 ม.ค. 49 13:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อืม สุดยอดเลยครับ  ได้ข้อคิด สงสัยต้องทำสัญญาระยะยาวสัก 5 ปี แล้วค่อยปีเว้นปี   เล็งไว้ว่า 1 ปีผ่านไป ถ้าเจ๋งคงถอย Game Overe   แต่ถ้าไปได้ดีเล็งที่ข้างๆ ไว้  สำรวจแล้วว่าติด Bank อยู่ กะผ่อน Bank เก็บไว้ฉุกเฉิน เผื่อขยายร้าน  ( ถ้าไปได้ดี )     ระแวงเหมือนกัน ถ้าเจ้าของไม่ให้เช่าต่อ ขณะที่กำลังไปได้ดี ก็ยุ่งเหมือนกัน  ( เป็นเราก็คงคิดเหมื่อนเจ้าของห้อง ฮ่าาาา คิดว่าเป็นกันทุกคน )  เพื่อนๆ  น่าจะเจอปัญหาอย่างคุณ  อนาวิน ให้บทเรียนไว้มาเยอะเหมือนกัน Thanks จากคุณ : Teer - [ 27 ม.ค. 49 14:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เช้ามาอ่านบทความของคุณลุงอนาวิน ครับ เป็นประสบการณ์ที่แปลก และดีมากครับ จากคุณ : Indolent - [ 27 ม.ค. 49 14:38:19 ]

ความคิดเห็นที่ 24 พี่ๆ ผมเห็นหนังสือเรื่องการเปิดร้านอาหารที่ซีเอ็ด ลองหามาอ่านสิครับ ผมแสกนด้วยสายตามานิดหน่อยก็ดีเหมือนกันนะ คนเขียนมีร้านอาหารอยู่ชลบุรี จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี - [ 27 ม.ค. 49 15:23:28 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ได้ไอเดียเยอะดีจังเลย แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 49 16:19:08 จากคุณ : แพนด้าตัวกลม - [ 27 ม.ค. 49 16:17:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ลุงอนาวิน ... เอามุมมองแปลกๆ มาแชร์อีกแล้ว ว่าแต่ว่า การที่เราไม่สนใจในทำเลเนี่ยะ แสดงว่าเราต้องมั่นใจในฝีมืออาหารของเรามาก ... ใช่มั๊ยครับ แต่ถ้าทำเลไม่ดี .. หมายถึงไม่ค่อยมีคนผ่านไปผ่านมาเป็นประจำ ... ก็ต้องมีการจูงใจให้ลูกค้ามาทดลองชิมให้ได้ ... และต้องแสดงจุดแข็งของเราออกมาให้ได้ ไม่งั้น มีหวัง ไม่ได้ลูกค้า กลับมากินซ้ำแน่ๆ ลุงอนาวิน ... แชร์ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยครับว่า ... เพื่อนลุงคนนั้น มีจุดแข็ง และ วิธีการเรียกลูกค้าอย่างไร ... จากคุณ : จาก ... หลานลุง (อาจารย์โช๊ะ) - [ 27 ม.ค. 49 17:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ทำอร่อยป่ะล่ะ ถ้าทำอร่อย จริงๆ ตกแต่งร้านสะอาดๆ ผมฟันธงเลย รวยเละ(แล้วอย่างบ่นแล้วกันว่า เหนื่อย ;P) จากคุณ : นุ - [ 27 ม.ค. 49 21:29:34 A:203.209.49.117 X:203.148.136.66, 203.148.136.67 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เห็นด้วยกับอาจารย์โซ๊ะ พอจะบอกได้ไหมครับว่าคุณอนาวิน กับเพื่อนคุณมีวิธีสร้างจุดขายอย่างไรบ้างครับ อะไรเป็นไม้ตายไม้เด็ดที่ร้านอื่นหรือร้านทั่วไปไม่มีบ้าง    จะเสนอเป็นกระทู้ใหม่ก็ดีครับเดียวเจ้าของกระทู้จะเคืองเอา จากคุณ : ชายไร้สังกัด (คัมภีร์) - [ 28 ม.ค. 49 17:17:48 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่า ความสะอาด และ ความอร่อย ต้องมาก่อน ถ้าสองอย่างนี้ไม่ได้ อย่างอื่นดียังไงก็หมดหวัง แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 49 04:37:53 จากคุณ : praphrut608 - [ 29 ม.ค. 49 04:36:58 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนผมจะเปิดร้าน ผมเห็นทำเลก่อนครับ วันที่ผมเปิดร้านก็ปีมาณต้นปี 45 พอมองเห็นทำเลปุ๊บ ร้านขนมปัง&นมสด แว๊ปขึ้นมาในสมองทันที... ในกรณีของผม  เรื่องฝีมือจึงไม่ใช่ข้อมูลหลักที่ผมนำมาพิจารณา เพราะผมทำไม่เป็นสักอย่างเลย แต่พื้นฐานส่วนตัวของผมนั้น  ผมมั่นใจในตนเองว่า ถ้าผมจะทำอะไร... ผมทำได้... จาก กรรมการผู้จัดการบริษัท สลัดเชิร์ต&ไท มาใส่ยีนส์&ผ้ากันเปื้อน ก็ลุยเลย  จ้างลูกน้องไว้ 1 คน ไว้เก็บโต๊ะ-ล้างจาน ผมเอง ทั้งชงน้ำและปิ้งขนมปัง เปิดได้ไม่กี่วัน ก็ต้องเติมพนักงานเข้าไปอีก เพราะขายไม่ทันจริงๆ  รสชาติก็ค่อยๆ ปรับปรุงไปเรื่อยๆ ของผมจึงสรุปได้ว่า เริ่มต้นจากทำเลครับ และรสชาติตามมาทีหลัง แม้แต่ สเต็กเอง ก็ครูพักลักจำมา ผมยังจำคำพูดของผู้จัดการแบ้งแห่งหนึ่งได้ดี เขาแอบไปพูดกับพี่ชายผมว่า สเต็กของผมนั้น อร่อยสู้ XXXXXX (สเต็กชื่อดังในห้าง) สบายๆ เลย... ก็จึงไม่แปลกใจ เมื่อวันที่เจ้าของตึกไล่ที่เรา และเขาทำขายเอง จึงไม่มีลูกค้า เพราะลูกค้าได้เคยกินรสชาติของผมก่อนแล้ว มันจึงเกิดการเปรียบเทียบ ทางรสชาติ และเมื่อผมย้ายไปเปิดที่ใหม่  ลูกค้าก็ตามไป ถึงแม้ที่ใหม่นั้น จะไม่ใช่ไนท์บาซาร์แล้วก็ตาม สเต็กข้างฟุตบาธ  ราคาก็เป็นราคาข้างฟุตบาธด้วย เรื่องราคาจึงมีส่วนเพราะ  รสชาติอร่อย ราคาประหยัด มาดูเคสของเพื่อนผม... ทำเลไม่ได้เรื่องเลย.... บ้านร้างในหมู่บ้านจัดสรร ห่างไกลจากถนนหลัก เป็นผม รับรอง ไม่กล้าคิดที่จะเปิดแน่ๆ อันที่สอง... เพื่อนผมเพิ่งจะมาเรียนวิชาก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำตก เมื่อวันที่เขาตัดสินใจเปิดร้านนั่นเอง แถมเรียนรู้มาจากแม่ยาย ที่ไม่ได้เปิดร้านมีชื่อดังมาก่อนเลย ผมเคยถามเขาว่า เริ่มแรกไปดึงคนมาอย่างไร เขาบอกว่า.... เขาเชิญคนรู้จักให้มาช่วยอุดหนุ่น ส่วนใหญ่คนเหล่านั้นเป็น ราชการ เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เริ่มจากมาอุดหนุนเพราะความเอ็นดู แต่ก็บ่นกันอุ๊บ... เรื่องความยากของการมาร้านของเขา แถมยากที่สองของลูกค้าก็คือ คนมากินแล้วจะติดใจ อยากจะบอกต่อ มันยากในการบอกต่อ  เพราะเส้นทางเข้าไปร้านของเขา ซับซ้อนจริงๆ เป็นซอยเล็ก ซอยน้อย เรื่องของเพื่อนผมนั้น มันเป็นพลังในการบอกต่อครับ เพราะเขาไม่ได้ทำโฆษณาใดๆ เลย แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ รสชาติของเขาด้วย เพราะคงไม่มีใครกล้าบอกต่อหรอก หากไม่อร่อยจริง สรุป หากวิเคราะห์แผนธุรกิจแล้ว ไม่มีร้านเพื่อนผมในวันนี้หรอกครับ ผมกับเพื่อนคิดเหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือ... ไปตายเอาดาบหน้า.... ผมโชคดี ได้ทำเล เพื่อให้ลูกค้าได้ลองรสชาติ เพื่อนผมโชคดีที่ เพื่อนๆ เอ็นดู ทำให้ได้ลองรสชาติ และอย่างที่คุณ #29 praphrut608 บอกไว้ ความสะอาด และ ความอร่อย ครับ แต่ผมขอเพิ่มเติมเรื่องราคาเหมาะสม อีกเรื่อง.... จากคุณ : อนาวิน - [ 29 ม.ค. 49 14:28:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 3 ก.พ. 49 00:59:38 ]