ความคิดเห็นที่ 1 คนเราอยู่ร่วมกันได้ดี ต้องอยู่แบบ =ชนะ/ชนะ ค่ะ การที่ใครอยู่เหนือใครมันเป็นความสัมพันธ์แบบ ชนะ/แพ้ เป็นการอยู่ตำแหน่งแห่งความสัมพันธ์ที่อ่อนแอ ง่อนแง่น และตั้งอยู่บนรากฐานอารมณ์ไร้ความมั่นคง ลักษณะของความสัมพันธ์แบบนี้เห็นได้มากในกลุ่ม นาย/ลูกน้องบางประเภท รวมถึงพ่อแม่ บางประเภทค่ะ สำหรับ ผู้บริหารที่นิยมความสัมพันธ์แบบนี้ในระยะสั้น จะได้ผลงานที่มากกว่า แต่ในระยะยาวจะก่อให้เกิดความ ขาดระบบที่แข็งแรง จากคุณ : MAFEUNG - [ 4 ก.พ. 49 23:14:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความหมายที่ผู้บริหารระดับสูงท่านนั้นสื่อ คงไม่ได้หมายความอย่างที่คุณ wbj พยามยามจะพูดหรอกครับ เอ้อ  คำพูดคำๆเดียวกัน แต่ใส่ไข่คนละแบบ ผู้รับสารก็ฟังแล้วเกิดความรู้สึกคนละอย่างเลยแฮะ "ไม่ว่าลูกน้องจะเก่งกาจอย่างไร หรือว่า เขาจะเป็นอย่างไร คุณต้องวางอำนาจ ต้องข่มเขาให้ได้ คุณต้องเก่งกว่าเขา ต้องอยู่เหนือเขา" ฟังดูแล้ว หัวหน้าคนนี้แย่จังเยยอ่ะ แต่อย่าลืมนะครับ เกือบร้อยทั้งร้อย คนเป็นหัวหน้าฉลาดกว่าลูกน้องอยู่แล้ว   ไม่งั้นเขาจะได้โปรโมทให้อยู่เหนือกว่าเราเหรอ???????? หัวหน้างี่เง่าน่ะมี....แต่มีน้อยอ่ะ หากคาดไม่ผิด  คาดว่าเจ้าของกระทู้คนนี้เพิ่งจะโดนผู้บริหารระดับสูงเจ้าของคำพูดท่านนี้อัดยับมา  แล้วเกิดอารมณ์น้อยอกน้อยใจ  เลยมาระบายออกทางเนต . . . . เราเชื่อว่า วิธีบริหารของแต่ละคนมันมีวิถีที่ต่างกัน   ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับลักษณะนิสัยตลอดจนบุคลิกของคนเป็นหัวหน้าคนนั้นด้วย     ไม่งั้นมันจะมีหัวหน้าแบบเล่าปี่ หัวหน้าแบบโจโฉเหรอ????? จากคุณ : สิงห์เหนือ...เสือสำอาง - [ 5 ก.พ. 49 09:23:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผู้บริหารส่วนใหญ่ ที่มีหน้าที่ดูแลและกำกับลูกน้อง  ส่วนใหญ่ จะให้อิสระลูกน้องในการดำเนินงานระดับหนึ่ง  ตราบใดที่ลูกน้องคนนั้น สามารถปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงได้....... หากลูกน้องปฏิบัติไม่ได้   คราวนี้ก็คงต้องลงไปดูว่า ลูกน้องคนนั้น  เขามีวิธีการดำเนินงานอย่างไร   แล้วก็ลงไปกำกับดูแลในวิธีการดำเนินงานนั้น  เพื่อให้ภารกิจที่มอบหมายสำเร็จได้ ถ้าทำได้ตามที่อยากอยู่แล้ว  เขาคงไม่เรียกไปสั่งสอนหรอก.....จริงไหม??????? ดังนั้น    ที่ผู้บริหารระดับสูงพูดกับลูกน้องตนเองเช่นนี้   ก็น่าจะเกิดจากที่ตัวลูกน้องคนนั้น  ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ผู้บริหารท่านนี้ต้องการได้    ผู้บริหารท่านนี้จึงต้องลงมาดูไง ว่าวิธีการบริหารของลูกน้องระดับหัวหน้าคนนี้   มันมีอะไรผิดหรือเปล่า ถึงได้เป็นแบบนี้งัย จากคุณ : สิงห์เหนือ...เสือสำอาง - [ 5 ก.พ. 49 09:30:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คราวนี้วกกลับมาดูที่คำพูดของผู้บริหารท่านนี้อีกที.... "ไม่ว่าลูกน้องจะเก่งกาจอย่างไร หรือว่า เขาจะเป็นอย่างไร คุณต้องวางอำนาจ ต้องข่มเขาให้ได้ คุณต้องเก่งกว่าเขา ต้องอยู่เหนือเขา" สารภาพว่า  หากเอาคำพูดประโยคนี้มาฟังทั้งดุ้น  ผู้บริหารระดับสูงท่านนี้งี่เง่าจังเลย   แต่เราไม่อยากเชื่อ  เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก  คงไม่มีวันไปจ้างคนงี่เง่าๆ มาเป็นผู้บริหารระดับสูงหรอก จริงไหม??????   เราเชื่อว่า เจตนาที่แท้จริงของผู้บริหารระดับสูงท่านนี้ที่พยายามจะพูด คือ เห็นว่า ลูกน้องระดับหัวหน้าท่านนี้ มีปัญหาในการกำกับดูแลลูกน้องของตน   และน่าจะเกิดปัญหา  เรื่องผู้ใต้บังคับบัญชาของลูกน้องระดับหัวหน้าคนนี้  ไม่มีความกระตือลือร้นที่จะทำงานสนองคำสั่ง   อันที่จริง......หากว่าด้วยเรื่องความเป็นหัวหน้า.....คนที่เป็นหัวหน้าต้องอยู่เหนือลูกน้องโดยหน้าที่อยู่แล้ว.......หากว่าลูกน้องทำงานตามใจอยาก  โดยไม่ฟังคำบังคับบัญชาของคนระดับหัวหน้า   องค์กรก็ไม่สามารถดำเนินงานได้.... ไม่ว่าเจ้านาย จะปฏิบัติกับลูกน้องอย่างไร   ไม่ว่าจะดูแลลูกน้องดี สนิทกับลูกน้องเหมือนเพื่อน  หรือว่าเหยียบลูกน้องเป็นขี้ข้า.............   ........โดยหน้าที่แล้ว เจ้านายก็ต้องอยู่เหนือลูกน้องวันยังค่ำครับ จากคุณ : สิงห์เหนือ...เสือสำอาง - [ 5 ก.พ. 49 09:38:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คราวนี้กลับมาดูที่หน้าที่ของคนเป็นหัวหน้าบ้าง....ไม่ว่าจะเป็นระดับผู้บริหารระดับสูง  หรือระดับซูเปอร์ไวเซอร์  มีหน้าที่อะไร ในความเป็นจริงแล้ว  ไม่ใช่หัวหน้าทุกคนที่จะสามารถทำให้ลูกน้องทำตามคำสั่งได้ 100% หรอกครับ   มันก็ตกไปเป็นภาระของหัวหน้า  ว่าทำอย่างไร ถึงจะทำให้ลูกน้องทำตามคำสั่งของตนเอง  หรืออย่างน้อย มีความพยายามที่จะทำตามคำสั่ง นี่คือหน้าที่แรกของคนเป็นหัวหน้า คือการกระตุ้นลูกน้องของตนเองให้มีความกระตือลือร้นที่จะทำงานให้กับตนเองครับ หัวหน้าท่านใด  ไม่สามารถทำให้ลูกน้องปฏิบัติตามคำสั่งของตนได้   หัวหน้าท่านนั้น ก็ถือว่าล้มเหลวในการทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคนแล้ว   เพราะเท่ากับว่า ไม่สามารถควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาได้ คำพูดที่ผู้บริหารสูงท่านนั้นพูด   จึงน่าจะเกิดจากการเห็นปัญหาในการทำงานของลูกน้องตัวเองมากกว่า อาจจะเห็นปัญหาว่า พนักงานที่เป็นลูกน้องของซูเปอร์ไวเซอร์หรือผู้จัดการท่านนี้  ไม่มีความเลื่อมใสในความสามารถของลูกน้องคนนี้   จึงเกิดปัญหาในการกำกับดูแลซึ่งส่งผลต่อผลการทำงานในที่สุด จากคุณ : สิงห์เหนือ...เสือสำอาง - [ 5 ก.พ. 49 09:49:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผู้บริหารท่านหนึ่งของบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านบันเทิง บอกกับ Manager และลูกน้องว่า.... คุณ (ลูกน้อง) รู้มั้ยว่าเค้า (Mgr.) เงินเดือนมากกว่าคุณเท่าไหร่?? ทำไมเค้าต้องพูดดี ๆ กับคุณด้วย !!!! จากคุณ : fafa - [ 5 ก.พ. 49 18:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พวกองค์กรใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงและคนจำนวนมากอยากเข้าทำงานก็เป็นแบบนี้แหละ เค้าจะไม่มีปัญหาเรื่องขาดคนเท่าไหร่ เพราะมีตัวเลือกมากมายที่จะมาทำงานให้ แต่ก็อย่างที่ผมเรียนไว้ครับ คนระดับผู้บริหารสูงๆขององค์กรใหญ่ๆ น่ะ ....เค้าไม่โง่หรอกครับ ไม่งั้นจะมาถึงระดับนี้ได้ไง จริงไหม???? ลูกน้องมักจะไม่ฉลาดเท่าเจ้านายหรอกครับ จากคุณ : lb'sN (สิงห์เหนือ...เสือสำอาง) - [ 5 ก.พ. 49 19:15:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ก๊าก... เดายังเดาไม่ถูกเลย... อิอิ จากคุณ : wbj - [ 5 ก.พ. 49 21:24:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Quote "ผู้บริหารระดับสูงท่านหนึ่ง ได้สอนลูกน้องที่เป็นผู้จัดการ ของเขาว่า ไม่ว่าลูกน้องจะเก่งกาจอย่างไร หรือว่า เขาจะเป็นอย่างไร คุณต้องวางอำนาจ ต้องข่มเขาให้ได้ คุณต้องเก่งกว่าเขา ต้องอยู่เหนือเขา ซึ่งผุ้บริหารระดับสูงคนนี้ ก็มักจะทำเช่นนี้บ่อยๆกับลูกน้อง รวมทั้งหัวหน้าของผู้จัดการท่านั้น โดยทำต่อหน้าให้กับผู้จัดการท่านนั้นได้เห็น... ในสถานการณ์เช่นนี้ ท่านคิดอย่างไร กับแนวทางการบริหารที่ยึดหลักว่า "ฉันต้องอยู่เหนือลูกน้องเสมอ" คุณคิดว่า มันสามารถทำให้องค์กรอยุ่รอดได้หรือไม่..." ถ้าการอยู่เหนือลูกน้อง หมายถึงการวางอำนาจบาตรใหญ่ ก็ไม่เห็นด้วยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปขยันแสดงอำนาจต่อหน้านายใหญ่ ยิ่งไปกันใหญ่เลย ทีมงานจะระส่ำระสายไปเปล่าๆ ว่าห้วหน้าทีมนี้นอกจากจะ "บ้าอำนาจ" แล้วยัง "โชว์ออฟ" ต่อหน้านายอีกด้วย แต่ส่วนตัวก็ยังคิดว่า ผู้ที่เป็นหัวหน้าทีม จะต้อง "เหนือ" กว่าลูกทีมแน่นอน และจะเป็นหัวหน้าทีมที่ดีด้วย หากลูกทีมต่างยอมรับในความ "เหนือกว่า" ตรงนั้น ก็ถ้าไม่มีอะไรเหนือกว่า แล้วเขาจะเลือกขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมทำไมล่ะคะ ความเหนือกว่านั่นไม่จำเป็นต้องหมายถึงการแสดงอำนาจนี่คะ และอาจจะไม่ได้หมายถึงทักษะในทางปฏิบัติงานด้วย แต่หัวหน้าทีมที่มีภาวะผู้นำสูง กล้าตัดสินใจ กล้ารับผิดชอบ (จริงๆ คือ ถ้ามีความชอบ ต้องยกให้ลูกน้อง ถ้าทำผิดพลาด ต้องรับเอาไว้เอง) สามารถผูกใจลูกน้องในทีมให้สามัคคีกลมเกลียวกันล่ะก็ หนูคิดว่านั่นแหละคือความเจ๋ง ความเหนือกว่าคนอื่นๆ ในทีมแล้วล่ะค่ะ หนูคิดว่ามันเป็นธรรมชาติของการรวมกลุ่มกัน คนจะมองหาผู้ที่สามารถเป็นผู้นำกลุ่มโดยอัตโนมัติ ถ้าเผอิญผู้ที่มีคุณสมบัิติผู้นำกลุ่ม ดันไม่ได้เป็นผู้นำกลุ่ม แต่ใครก็ไม่รู้ที่ไม่เป็นที่ยอมรับ นอกจากไม่เก่งแล้วยังแหย ไม่กล้านำ ไม่กล้าตัดสินใจ แบบนี้ละก็ทีมคงเจริญลงๆ แน่ ผู้นำกลุ่มจะดีหรือไม่ดี จะเห็นผลก็ตอนที่ประสบวิกฤตการณ์ค่ะ ว่าจะพาทีมรอดไปได้ด้วยความบอบช้ำมากน้อยขนาดไหน สรุปแล้ว หนูค่อนข้างเห็นด้วยกับคำกล่าวของผู้บริหารระดับสูงท่านนั้นนะคะ จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 5 ก.พ. 49 22:04:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จุ่ง... ในโลกใบนี้..ธรรมชาติของคนมักจะหลงอยู่ 3 สิ่ง.. สมบัติ.. ผู้หญิง.. และ อำนาจ เมื่อใดที่มีอำนาจแล้วก็มักจะลืมตัว เป็นธรรมดา.. เพราะฉะนั้น หัวหน้าแบบจุ่งว่า จึงมีมากมายในโลกใบนี้... เมื่อวานนี้โกพึ่งสอน ผจก.สาขาไปว่า.. ในองค์กรหนึ่งๆ จะเจริญก้าวหน้าได้ และคนในองค์กรจะทำงานอย่างมีความสุขนั้น..ปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งก็คือ ตัวผู้จัดการ..ที่ต้องสร้างองค์กรให้เกิดการทำงานอย่างมีความผูกพัน นั่นคือ.. 1. ต้องเป็นผู้นำที่ดี มีความเมตตาต่อผู้น้อย.. 2.มีปัญญารู้เนื้องานพอที่จะสอนงาน ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนถูกต้อง.. 3.มีความเป็นผู้นำ ที่จะทำตัวเป็นเยี่ยงอย่าง เพื่อให้ผู้ตามเกิดความรักความสามัคคี.. 4.มีหูที่จะฟังเรื่องราวต่างๆแล้วพิจารณา เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆอย่าง มีคุณธรรม 5.มีความเป็นกลาง ไม่ลำเอียง เล่นพรรค เล่นพวก.. โกคิดว่า อย่างน้อย ห้วหน้าควรจะมีสิ่งเล่านี้..จึงจะทำให้คนในองค์กร นั้น ทำงานอย่างมีความสุข... จากคุณ : คนอุบล - [ 5 ก.พ. 49 22:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ้อ .. เห็นด้วยกับพี่ MAFEUNG อย่างนึงนะคะ ไม่มีใครยอมรับสถานะ "ชนะ/แพ้" แน่ค่ะ การที่หัวหน้าทีมไม่เป็นที่ยอมรับของลูกทีม คือลูกทีมไม่รู้สึกว่า คนนี้เหนือกว่าตัวเองอย่างไรแล้ว นั่นคือการตอกย้ำสถานะ "ชนะ/แพ้"  คือผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองสมควรเป็นผู้นำ รวมทั้งคนอื่นๆ ที่มองหาผู้ที่มีสภาวะผู้นำกลุ่มโดยอัตโนมัิติตามที่ว่า จะรู้สึกเหมือนกับถูกบังคับให้เป็น "ผู้แพ้" และนั่นไม่เป็นผลดีต่อทีมเลยค่ะ ดังนั้นผู้ที่เป็นหัวหน้าทีม จึงต้องลำบากกว่าคนทั่วไป เพราะต้องรู้จักสร้างสภาวะ "ชนะ/ชนะ" ให้เกิดขึ้นในทีม แล้วการที่จะทำอย่างนั้นได้ ก็ต้อง "ชนะใจ" ลูกน้องนั่นเองค่ะ จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 5 ก.พ. 49 22:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยกับคุณสาวน้อยร้อยแปดนะ แต่ว่า.....แย้งนิดตรงที่ว่า... "ผู้นำกลุ่มจะดีหรือไม่ดี จะเห็นผลก็ตอนที่ประสบวิกฤตการณ์ค่ะ ว่าจะพาทีมรอดไปได้ด้วยความบอบช้ำมากน้อยขนาดไหน" ผมว่าผู้นำกลุ่มที่ดีจริงๆ คือผู้นำที่ไม่เคยพาทีมไปเจอวิกฤตการณ์เลยนะ..... (แต่มันเป็นไปไม่ได้อ่ะ) เวลาเกิดวิกฤต......ถึงจะแก้ปัญหาได้ แต่องค์กรก็ต้องมีความบอบช้ำอยู่ดี.....จริงไหม????? แต่อย่างว่าแหละ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เจอวิกฤติ แต่คนที่สามารถนำพาองค์กรเดินไปข้างหน้าได้ โดยมีปัญหาน้อยที่สุด เราว่าคนๆนั้นก็ใช่ย่อยนะ แก้ไขวิกฤตการณ์ได้ลุล่วง ก็เป็นหัวหน้าที่ดี และอย่าลืมว่า หัวหน้าที่ดีต้องไม่พาลูกน้องไปเจอวิกฤติด้วย หากพูดในแง่ของภาษาการบริหารแล้ว หัวหน้าที่ดีนั้น จะต้อง..... สามารถพลิกแพลงได้ตามสถานการณ์...... ...และยังต้องมีการวางแผนและมองการณ์ไกล พาองค์กรไปสู่ความรุ่งเรืองด้วยครับ จากคุณ : lb' (สิงห์เหนือ...เสือสำอาง) - [ 5 ก.พ. 49 22:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมมองอย่างนี้นะครับเรื่องนี้   เรื่ององค์กรอยู่รอดนี่ คงมีหลายปัจจัยเป็นตัวชี้วัด  อาจไม่ใช่เพราะมีผู้บริหารที่ชอบวางอำนาจอย่างเดียว  เรื่องนี้ผมขอไม่ฟันธงแล้วกันนะครับ แต่สิ่งที่อยากเสนอความเห็นก็คือ  ผมคิดว่าผู้นำที่ดี  ควรรู้ดีว่าตนมีอำนาจ  หรือเหนือกว่าลูกน้องเพราะอะไร  คนที่มีตำแหน่งสูงกว่า  ก็จะมีอำนาจอยู่ในตัวอยู่แล้ว  ไม่จำเป็นต้องโพนทะนาบอก  ถ้าผู้นำมีคุณค่าอยู่ในตัว  เช่นทักษะการตัดสินใจ  ความเด็ดขาด  การนำทีม  การเจรจา ฯลฯ  ลูกน้องที่ดีก็จะรู้อยูเอง  ผลงานที่อยู่ภายในตัวนั้นแสดงคุณค่าอยู่แล้ว  ยกเว้นลูกน้องบางประเภทที่คิดว่าตนเก่งกว่าใครทั้งหมด  ไม่เคยมีใครเก่งนอกจากตนเอง  ซึ่งพวกนี้ก็เป็นม้าพยศ  ที่ผู้บริหารต้องปราบด้วยทักษะที่มี  หรือไม่งั้นก็ไล่ออกไปเลย  กรณีที่ปรับไม่ไม่ได้จริงๆ ตำแหน่งเป็นเพียงเปลือกภายนอก  แต่คนจะเคารพหรือนับถือกันที่ภายใน  เหมือนบางครั้งเราก็นับถือเพื่อนหรือรุ่นน้องบางคนว่าเก่ง  ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้มีตำแหน่งเหนือกว่าเรา  แต่ในขณะเดียวกัน  คนที่เราต้องเรียกว่านาย  หรือต้องยืนทำความเคารพเวลาอยู่ต่อหน้าตลอดเวลา  พอลับหลัง  กลับถูกนินทาว่าร้าย  เอามาเล่นเป็นตัวตลก  สุดท้ายก็เรียกได้ว่าเป็นผู้บริหารหรือผู้นำที่ไม่มีบารมี  ผู้นำที่มีบารมี  จะไม่มีใครเอามาล้อเล่นหรือด่าลับหลัง  ผู้นำที่ดีควรสร้างเนื้อแท้ภายในมากกว่าเปลือกภายนอกครับ จำเป็นที่คนเป็นนายหรือผู้บังคับบัญชาต้องอยู่เหนือลูกน้องด้วยทักษะที่มี  ลูกน้องอาจเก่งกว่าในบางเรื่อง  แต่ในทักษะการนำ  หรือทักษะการบริหาร  คนเป็นนายต้องเก่งกว่า  แล้วก็ไม่ต้องมาอธิบายด้วยว่าเก่งกว่ายังงัย  ใช้แสดงให้ดูดีกว่า   แล้วคนที่รู้คุณค่าในตัวของตัวเองจะไม่ค่อยโฆษณามากนัก  คนที่โฆษณามาก  เพราะรู้ตัวว่า ยังมีคนไม่รู้จัก  จึงยังต้องโฆษณาต่อไป  แต่ถ้าทุกคนรู้จักแล้ว  รู้ความสามารถแล้ว จะโฆษณาทำไม และหากผู้บริหารที่เจอลูกน้องที่เก่งกว่า  ทุกด้าน  รวมทั้งด้านบริหารด้วย(ผมว่ามีนะ)  ถ้าเค้าเป็นคนที่เน้นภายนอก  เค้าจะกลัวลูกน้องพวกนี้  แล้วเอาตำแหน่งมาเป็นอาวุธที่จะกดลูกน้องไว้  แต่ไม่พัฒนาตัวเองให้เก่งกว่าลูกน้อง  ในทางกลับกัน  หากผู้บริหารที่เจอลูกน้องที่เก่งกว่า  และเขาเป็นคนเน้นคุณค่าภายใน  เขาก็จะเอาโอกาสที่มีพัฒนาทักษะให้กลับมาเหนือกว่าลูกน้องให้ได้  ให้ลูกน้องยอมรับให้ได้ ซึ่งจะเป็นผลดีกับเขาในระยะยาว **แค่ความคิดเห็นและแนวปฏิบัติส่วนตัวนะครับ  ผิดพลาดอะไรชี้แนะได้ครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 5 ก.พ. 49 23:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แอบสงสารคุณสิงห์เหนือเสือสำอางจังครับ อุตส่าห์ตอบคห.ซะเป็นซีรีส์ แต่อ่านตัวอักษรจขกท.แล้วยังจับคมกระบี่ทางถ้อยคำของเขาไม่ได้ ว่าคนเขียนกระทู้ทำงานด้านไหน? เลยเดาผิดอย่างที่คุณจขกท.บอกจริงๆอ่ะครับ การอ่านคน เราหัดอ่านจากตัวอักษรหรือคำพูดที่เขาเขียนก็ได้ ก็สามารถล่วงรู้ระดับภูมิปัญญาได้ดีระดับหนึ่ง โดยไม่ต้องเห็นหน้าค่าตาหรือรู้ตำแหน่งการงานก็ได้นะครับ ในฐานะที่ผมเคยเป็นทั้งลูกน้องที่โดนอัดเละ และนายที่บริหารองค์กรตอนวิกฤติ(เละอีกเหมือนกัน) ผมเห็นมามากแล้วว่าการบริหารแบบ"ข่มลูกน้อง"ไม่เวิร์คจริงๆครับ เพิ่งได้ข้อคิดจากเพื่อนๆในกระทู้นี้เองเรื่องชนะ/แพ้..เออ..จริงด้วย แต่ที่ผมเห็นมาว่าการ"วางอำนาจเหนือกว่า"ไม่เวิร์ค เพราะมันเป็นการละเมิดกฎพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน คือ"ความอยากได้รับการยอมรับและนับถือ" เมื่อมนุษย์ทุกคนล้วนมีความอยากข้อนี้ทั้งนั้น นายคนไหนที่ป้อนสิ่งนี้ให้ลูกน้องได้ ทำให้ลูกน้องรู้สึกว่า นายของเขาเห็นความสามารถ เชื่อมั่นในตัวเขา ลูกน้องก็จะยินยอมให้นายของตนคนนั้นนำพวกเขาไปสู่สนามรบไหนก็ได้ แม้ตายก็ยอม   เรียกว่า "ซื้อใจ"สำเร็จ แต่นายที่ข่มลูกน้อง ยิ่งข่มต่อหน้านายที่ใหญ่กว่าด้วย ไม่มีทางซื้อใจลูกน้องได้แน่นอน  ผมฟันธง แล้วถึงเวลาที่นายคนนั้นต้องตายในสนามรบ.. ก็จะไม่มีลูกน้องคนไหนอยากระวังหลังให้แม้แต่คนเดียว "วางอำนาจ"น่ะง่าย  แต่"ซื้อใจ"..โห..โคตรยากเลยครับ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 49 01:57:00 จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 6 ก.พ. 49 01:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ^^^อ้อ..ลืมบอกคุณสิงห์เหนือไป ผู้บริหารระดับสูงในองค์กรใหญ่.. ซูเปอร์โง่ก็มีเยอะไปครับ เข้ามาทำงานได้เพราะเส้น เพราะดีกรีปริญญาโท(เรียนเก่งแต่ทำงานไม่ได้เรื่อง) เพราะการเมืองในองค์กร(โดนดึงเข้ามาเป็นพวกใครพวกใคร) เพราะ head hunter ไม่ดูปูมหลังให้ดีก็จ้างแล้วจากการอ่าน resume หรือสัมภาษณ์อย่างเดียว (ตย.เช่น MD ของค่ายเพลงสากลยักษ์ใหญ่ ที่มี head hunter จ้างเข้ามานั่งเมือง แบบคนในวงการหัวร่อกลิ้งว่า "จ้างมานี่ ดูประวัติมั่งมั้ย?" เพราะอยู่มาหลายบริษัท ทำเจ๊งๆๆทุกบริษัทแล้ว) จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 6 ก.พ. 49 02:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผู้บริหารระดับสูงท่านหนึ่ง ได้สอนลูกน้องที่เป็นผู้จัดการ ของเขาว่า ไม่ว่าลูกน้องจะเก่งกาจอย่างไร หรือว่า เขาจะเป็นอย่างไร คุณต้องวางอำนาจ ต้องข่มเขาให้ได้ คุณต้องเก่งกว่าเขา ต้องอยู่เหนือเขา ขอแสดงความคิดเห็นบ้างนะคะ จากประโยคข้างบนนี้ ถ้าผู้บริหารพูดอย่างนี้ ดูเหมือนจะพูดในเชิงการวางอำนาจเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าลูกน้องจะเก่งแค่ไหน หัวหน้าต้องอยู่เหนือเขาให้ได้  ยังไงหัวหน้าก็อยู่เหนือลูกน้องอยู่แล้วตามสายงาน  ถ้ามีความเห็นที่ขัดแย้งกันในเรื่องเดียวกัน หัวหน้าแบบนี้ก็คงยึดความคิดตัวเองอยู่แล้ว ด้วยอยู่เหนือลูกน้องตามตำแหน่งและหน้าที่ แบบนี้คิดว่าคนดีมีฝีมืออึดอัดแน่นอน เกิด loss/loss situationแน่เพราะไม่มีความคิดอันบรรเจิดอันใดจากลูกน้องที่ได้รับการยอมรับจากหัวหน้า  บริษัทก็จะloss โอกาศที่จะปรับปรุงการทำงานทั้งองค์กร ลูกน้องก็ loss กำลังใจ อยู่ไปก็ไม่มีใครเห็นคุณค่า ป้าจูจู้ว่าคนที่จะเป็นนายให้เก่ง ต้องรู้จักดึงศักยภาพของลูกน้องตนเองออกมาและใช้ให้เหมาะสม นายบางคนไม่มีปริญญาสูงเท่าลูกน้อง แต่ลูกน้องรักและนับถือมากก็มี  อย่าง เฮนรี่ ฟอร็ด เขาเรียนน้อยแต่จ้างลูกน้องระดับด๊อกเตอร์มาทำงานให้  แล้วเขาก็ทำให้บรรยากาศทำงานเป็นแบบ Win Win ค่ะ เขารับฟังความเห็นจากลูกน้อง ยกย่องและนำมาพิจารณา ก่อนตัดสินใจ นี่เป็นหนทางเรียนลัดของเขาด้วย เพราะเขาเรียนมาน้อยอาศัยเรียนจากลูกน้องด้วย ประสบการณ์ด้วย ลูกน้องก็ยังรักและเคารพ คนเรามีสมอง มีความคิดทุกคน ไม่ว่านายไม่ว่าลูกน้อง การจะให้ใครนับถือ ไม่จำเป็นต้องแสดงอำนาจหรอก ให้เขารักและเกรงใจดีกว่านะคะ พวกนายที่วางกล้ามในบริษัทโดยขาดพื้นฐานความรัก เมตตาต่อลูกน้อง ใครๆเขาก็สื่อได้ เขานินทานายกันวันละ 3 เวลาก่อนและหลังอาหาร ยอมให้เฉพาะต่อหน้า ลับหลังอีกเรื่องนึง  แต่นายที่มีความรัก เมตตา และมีความสามารถจริง ลูกน้องก็สื่อได้เหมือนกัน ลูกน้องจะทั้งรักทั้งเกรง ทำงานให้เต็มความสามารถค่ะ อย่างนี้จะไปด้วยกันแบบ win/win นะ จากคุณ : ป้าจูจู้ - [ 6 ก.พ. 49 04:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ???????? จะเข้าใจได้ไงฮับคุณผึ้งน้อยพเนจร  ในเมื่อประสิทธิภาพสมองคุณต่ำนี่หว่า..... คนที่เข้ามาด้วยเส้น ด้วยดีกรีการศึกษา หรือเพราะว่าด้วยเส้นก็ตามแต่  ไม่ได้แปลว่าคนนั้นทำงานไม่ได้เรื่องเสมอไปนะครับ เอาที่ได้โปรโททด้วยเหตุผลเฮงซวยกว่านี้ไหม???? ได้ตำแหน่งเพราะเป็นไฮโซ   ได้โปรโมทลีลาขย่มดี  (อันนี้ผู้ชาย) ได้โปรโมทเพราะสวย อึ๋ม และใจถึง (อันนี้ผู้หญิง) คุณเชื่อป่ะล่ะ ว่าผมชี้หน้าบอกได้เลย ว่าใครคนไหนที่ดังๆในวงสังคมแล้วได้โปรโมทเพราะเหคุผลเฮงซวยพวกนี้ แต่ผมไม่มาพูดในที่นี้หรอกนะ  เพราะไม่อยากโดนฟ้องหมิ่นอ่ะ แต่ก็ยังยืนยันครับ  แม้นผมจะรู้ว่า คุณคนนั้น นางคนนี้ ท่านผู้นี้ ได้โปรโมทเป็นผู้บริหารใหญ่ๆ เพราะมีปัจจัยพวกนี้ช่วย คนพวกนี้ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด ก็มีความสามารถในการทำงานสูงกว่าลูกน้องตนเองอยู่ดี แม้นว่าตอนที่ได้โปรโมทใหม่ๆ คนพวกนี้จะยังก๊อกๆ แก๊กๆ ทำอะไรไม่ได้เรื่องหรือผิดพลาด   แต่เนื้องานที่คนเหล่านี้ต้องรับผิดชอบ  การพบปะผู้คน และ ตลอดจนความกดดันในการทำงานที่เขาได้รับ มันฝึกคนพวกนี้ให้มีความสามารถ มากกว่าพนักงานระดับล่างๆลงไปครับ ผมยอมรับคนพวกนี้ครับ   และคนที่ผมสัมผัสหลายๆคน ผมก็รู้ว่าเขาเก่งสมตำแหน่งที่เขาได้รับจริง   ไม่ว่าเขาจะได้ตำแหน่งนี้มาด้วยวิธีการใดๆก็ตามแต่ ผมชอบคนเก่งครับ  และเป็นคนเก่งที่มีเงื่อนไขน้อย ยอมทำทุกอย่างเพื่อจุดหมาย  ผมยิ่งยอมรับ พวกที่เก่งแต่มีเงื่อนไขเยอะ  เอาจริงๆ ทำอะไรไม่ค่อยได้หรอกครับ  เงื่อนไขเขามีเยอะเกินไป ขอยืนยันคำเดิมครับว่า  เจ้านายเกือบทั้งหมด ฉลาดกว่าพวกพนักงานระดับล่างทั้งนั้น แต่พวกพนักงานระดับล่าง ที่ด่าหรือคิดกับเจ้านายว่า งี่เง่ากว่าตัวเองนั้น   ขี้ข้าพวกนี้....มีเยอะจนนับไม่ถ้วน  และมักจะไม่ก้าวหน้าสักที ยาวไปหน่อย   แต่เห็นคุณแล้วอยากทำบุญให้น่ะ  แต่จะรับรึเปล่าก็ขึ้นกับประสิทธิภาพสมองคุณนะ   ผมเขียนเอาบุญให้คุณแล้ว คุณจะได้ส่วนบุญนี้รึเปล่าก็ขึ้นกะประสิทธิภาพสมองคุณอีกทีอ่ะ จากคุณ : สิงห์เหนือ...เสือสำอาง - [ 6 ก.พ. 49 18:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ^^ขอบคุณมากครับ  คุณสิงห์เหนืออุตส่าห์สละบุญให้ผมเยอะเชียว น้อมรับครับ จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร - [ 6 ก.พ. 49 18:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตั้งกระทู้เสร็จแล้ว  ท่าน จขกท ก็หายต๋อมไปเลยนะคะ   ปล่อยให้ข้างล่างเขาซัดกันนัวเนีย กระทู้ล่อเป้า (เป้าคุณสิงห์นะ) แบบนี้ มักมีความรู้ที่ดีๆสอดแทรกด้วยเสมอ   ลองตั้งใจอ่านดูนะคะ  บางทีเมื่อคนเราอยู่ในอารมณ์ที่อยากอธิบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจมากๆเข้า  ก็จะสามารถถ่ายทอดความคิด และความรู้สึกผ่านตัวอักษรออกมาได้ซาบซึ้งเสมอ  เพราะมันเกิดจากความรู้สึกจริงๆ บางคนยิ่งโกรธมาก ยิ่งเขียนได้ดี ยกตัวอย่างเช่น  ถ้าเราอยากให้คุณสิงห์แนะนำอะไรบางอย่าง เพื่อเป็นข้อคิดสำหรับใช้ในการปฏิบัติงานร่วมกับทีม  ถ้าเราหรือใครเขี่ยถูกจุด  รับรองว่าน้ำไหลไฟดับเชียวล่ะ  ไม่รู้เฮียไปเอาพลังมาจากไหน  ว่าได้เป็นซีรีย์ๆ   แบบว่าต้องถามนำให้เฮียเขายั๊วสักนิดหน่อยก่อน  แล้วจะได้ของดีติดไม้ติดมือมา  แต่ถ้าเข้ามาตั้งคำถามตรงๆ  เฮียแกบอกว่า  เป็นคำถามหน่อมแน๊ม ...ไม่อยากตอบอ่ะ..เป็งงั้นไป ว่าแล้ว ก็จะลองซักกับเฮียสักตั้ง  หรือจะโดนเฮียซัดกันแน่นะเนี่ย?   จากคุณ : กาสะลองบานแล้ว - [ 6 ก.พ. 49 21:56:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นหัวข้อกระทู้ ที่คุณ wbj ตั้งไว้ ก็คิดตามทันที่  ท่านคงไม่ได้หมายความตามที่เขียนแน่ๆ    เพราะคำพูดเหล่านั้น  น่าจะเป็นคำพูดของฮิตเลอร์มากกว่า "ไม่ต้องรู้ว่าฉันคิดอย่างไร  รู้แต่เพียงว่าฉันสั่งให้ทำอะไร" ฮิตเลอร์พูดเป็นภาษาดอยช์ว่ายังไงนะคะ? คณสิงห์ หรือภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะ ..................ง............. คงไม่ยากเกินความสามารถของคนที่เป็นหัวหน้าหรอกค่ะ  กับการที่จะทำให้ลูกน้องยอมหมอบราบคาบแก้วโดยไม่ต้องใช้วิธีการบังคับ หรือทำให้กลัว เพราะการที่ใครก็ตามได้เป็นหัวหน้าของเขา ผู้นั้นย่อมจะมีอะไรดีเป็นบางอย่างอยู่แล้ว  ให้ใช้สไตล์การบริหารแบบของตัวเอง   โดยไม่ต้องเลียนแบบใคร ถ้าลูกน้องรัก และพวกเขากลมเกลียวกัน ยอมทำตามที่คุณบอกให้ทำ  ทุกอย่างก็จบ ถือว่าการนำทีมของคุณ  ประสบความสำเร็จไปแล้วกว่าครึ่ง   ส่วนที่เหลือ  เป็นเรื่องของการวางแผนว่า จะให้ทีมของคุณ เดินไปทางไหน ในทางกลับกัน  ต่อให้มีนโยบายที่สวยหรูและมีความเป็นไปได้สูงเพียงไหนก็ตาม  แต่ฐานรากยังง่อนแง่น  คนในทีมไม่รักสามัคคีกัน  และไม่มีศูนย์รวมของจิตใจ เมื่อคนในทีมไม่มีความศรัทธาต่อหัวหนน้าทีมแล้ว  ต่อให้หัวหน้าทีมเก่งแค่ไหน  ก็ไปไม่รอดทุกราย แต่ความกลมเกลียวและสามัคคีกันในทีม  ก็ต้องมีขอบเขตจำกัดนะคะ  ไม่ใช่ปล่อยกันไปเลยเถิด ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีความพอดี  วิธีการต่างๆเหล่านี้  เรียกว่าเทคนิคใคร เทคนิคมันก็ได้นะคะ  เพราะคุณสมบัติเฉพาะทีมไม่เหมือนกันค่ะ  ไม่สามารถใช้ทฤษฏีเดียวกันได้   บอกได้แต่เพียงว่า  ถ้าเป็นหัวหน้าแล้วไม่หนักแน่นพอ  สงสัยกลับบ้านมาต้องซัดพาราทุกวัน  และที่สำคัญ  แก่เร็วด้วย......   เพราะคิดมาก....... ปัญหาของคน  ช่างสับสนวุ่นวาย แก้ไม่รู้จบหรอกค่ะ  ถ้าไม่ปล่อยวางเสียบ้าง จากคุณ : กาสะลองบานแล้ว - [ 6 ก.พ. 49 22:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ภาษาดอยช์หรืออังกฤษเราไม่รู้ ตอนนี้รู้แต่ภาษารักง่ะ ตอนนี้ความรักเข้าตา   อกหักแล้วด้วย จากคุณ : สิงห์เหนือ...เสือสำอาง - [ 6 ก.พ. 49 23:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 การบริหารแบบต้องข่มลูกน้อง มันเหมาะที่สุดสำหรับหน่วยงานหนึ่งๆในองค์กรหนึ่งๆครับ ทหารเองก็มีหน่วยงานภายในเยอะไปครับ ความสัมพันธ์ของ ผบ.พัน ก็ระดับพันโท กับจ่ากองร้อย กับผู้หมวด ผู้กอง ไอ้เณร ต่างกันนะครับ เพราะลูกน้องมีความแตกต่างจึงต้องบริหารแบบแตกต่างครับ ตอนผมเป็นผู้จัดการ ลูกน้องผมมีตั้งแต่ระดับคนงานเข็นกระสอบสารเคมี ยันวิศวกร กับวิศวกรเอง แต่ละคนผมก็มีวิธีบริหารเขาต่างๆกันไปในแต่ละคน บางคนไฮเปอร์ แต่เพ้อเจ้อต้องแสดงความเหนือชั้นออกมาข่ม ให้มันคิดให้รอบคอบกว่านี้ เพราะต่อไปมันต้องโตขึ้น มันจะได้ไม่ต้องโชว์โง่ให้เสื่อมเสีย ไอ้ที่เฉื่อยๆ ความคิดคมแต่ไม่แสดงออก กลัวการแสดงความเห็น ถ้าไปกดข่ม จะไม่เจอความคิดดีๆคมๆจากพวกนี้เลย ให้การยอมรับ หนุนมันหน่อยๆ ถ้าเสนออะไรคมๆออกมาก็ยกหางให้นิดๆ พวกระดับปฏิบัติการล่างๆ กดไว้ครับ เพราะผมไม่คิดว่า จะได้ประโยชน์จากการยกพวกนี้ งานที่ทำก็คงเดิมเพราะเป็นงานใช้แรงกาย ต่างจากพวกใช้สมอง ที่มีเก็บเอาไว้ แต่ผู้บริหารจะมีวิธีงัดเอาออกมาได้หรือเปล่า จากคุณ : โลหการ4 - [ 7 ก.พ. 49 02:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 23 การจะเป็นผู้บริหารคนได้ ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม แต่จะเป็นผู้นำที่ดีได้นาน คงต้องย่อมรู้ดีกว่าลูกน้อง ในทุก ๆ เรื่อง และรู้ใจคน ลูกน้องจะ respect แสดงให้เค้าเห็นว่า อุปสรรคที่เค้าเจอ เรามีวิธีที่จะแก้ให้เค้า และคงต้องสอน Morale ในการที่จะเป็นผู้นำที่ดีให้ ทั้งนี้ทั้งนั้น นายที่ดีย่อมรู้ดีกว่าลูกน้อง ทำอะไรอยู่แทน... จะทำเอง หรือ deligate ให้ลูกน้อง เราก็ย่อมต้องรู้อยู่ว่าลูกน้องทำอะไร แต่เชื่อม๊ยประสบการณ์ ตอบคำถามทุกอย่างได้ คุณไปข่มเค้า ทั้ง ๆ ที่เค้ารู้ดีกว่าคุณ คุณคิดว่าเค้าจะ Respect มั๊ย แต่ถ้าคุณรู้จริง แต่คุณไม่ทำ คุณบอกเค้าให้ทำในสิ่งที่คุณต้องการได้ และอยากให้ทำ ลูกน้องคงไม่ไปไหน มันต้องมีทั้ง บารมี ประสบการณ์ เสียสละ และจิตวิทยา ในการคุมลูกน้อง มั๊งคะ จากคุณ : xxx chic - [ 7 ก.พ. 49 07:59:20 A:203.107.204.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 นอกเรื่อง แต่เกี่ยวเนื่องนะครับ ผมสังเกตุวงจรการเป็นผู้นำคนเป็นดังนี้ ผู้ตาม ====> ผู้นำ ====> ผู้สร้างผู้นำ เวลาพูดคุยกันสักพัก... ผมจะรับรู้ได้ว่า คนๆ นั้น อยู่ในการพัฒนาตนเองช่วงไหน รอยต่อระหว่างผู้ตามสู่ผู้นำ  มักจะใช้อำนาจบาธใหญ่มาก ช่วงที่เป็นผู้นำเต็มตัว  มักจะใช้การบริหารทุกแง่ ได้อย่างเสมอภาค รอยต่อระหว่างผู้นำสู่คนสร้างผู้นำ  มักจะบ่นเรื่องหาคนมาเป็นผู้นำยาก คนที่เป็นคนสร้างผู้นำ  มักจะสบายใจ ยิ้มร่า และไม่เหนื่อย ด้วยการชงความสามารถของผู้นำแต่ละคนให้โดดเด่น ส่วนตนเองก็ทำหน้าที่ ปิดทองหลังพระ กำกับให้ผู้นำแต่ละคน มุ่งสู่จุดหมายได้รวดเร็วและถูกทาง ดังนั้น สิ่งที่ทุกท่านให้ความคิดเห็นมา จึงถูกหมด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่จะเอาเรื่องไหนออกมาใช้ ส่วนการจะใช้ถูกหรือผิดสถานการณ์  ก็ขึ้นอยู่กับผู้นำที่ใช้ ว่ามีความชำนาญการในเรื่องการเป็นผู้นำมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งการวิเคราะห์สถานการณ์ทั้งหมด เพื่อให้ผลออกมาเป็น "ถูกคน  ถูกที่  ถูกเวลา" จากคุณ : อนาวิน - [ 7 ก.พ. 49 10:32:47 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แบบข่มลูกน้อง?????? ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เราก็ไม่เห็นด้วยซักที แม้นแต่ทหารที่ส่งคนไปรบ   นายทหารที่ดังๆในประวัติศาสตร์โลกก็ขึ้นชื่อนักขึ้นชื่อหนาว่าดูแลทหารเลวดีเหมือนลูกชาย ไม่เชื่อลองไปดูประวัติของโฮเรทิโอ เนลสันสิ   คนๆนี้ขึ้นชื่อว่าเลี้ยงกะลาสีเรือดีทหารตายแทนได้ เราทำงานกับลูกน้องที่เป็นจับกัง   เราพูดกรู เมิงกับลูกน้อง แต่ก็ไม่ได้แสดงน้ำเสียงข่มหรือวางอำนาจ กรู-เมิง ของเราเหมือนพูดกับเพื่อนมากกว่า บางครั้งลูกน้องเรียกเรา เราก็ขานว่าครับ ด้วยซ้ำ เวลาโกรธลูกน้องครั้งไหน   เรามักเดินหนีและวนไปวนมา ก่อนเข้าไปคุยเสมอ   เพราะเรารู้นิสัยเราเองดีว่า เวลาเราโกรธแล้วเราร้ายกาจแค่ไหน เราไม่อยากหักหาญน้ำใจลูกน้อง เห็นคุณโลหการพูดเรื่องทหารขึ้นมา   นึกขึ้นมาได้ของแนวคิดของนายทหารที่โด่งดังสองคน  คือมอนต์โกเมอรี่ จอมพลแห่งอังกฤษ   และแพตตัน นายพลลูกทุ่งแห่งอเมริกา 2 คนนี้เกลียดขี้หน้ากันเองอย่างกะขี้    แต่ที่เหมือนกันคือ รบเก่งเหมือนกัน  และเชื่อเรื่องการทำหน้าที่ของนายทัพอยู่อย่าง.... .....ท่านทั้งสองบอกว่า หน้าที่หลักของนายทัพ จริงๆแล้วไม่ใช่การวางแผนการรบ แต่หน้าที่สำคัญที่สุดคือ สร้างขวัญกำลังใจให้ทหารใต้บัญชา คนเป็นหัวหน้าก็เช่นกันครับ    หากหัวหน้าคนไหน ไม่สามารถสร้างกำลังใจในการทำงานให้กับลูกน้องได้   ไม่ถือว่าเป็นหัวหน้าที่ดี และการข่มลูกน้อง  ก็ไม่เคยสร้างกำลังใจให้ลูกน้องคนไหนเลย มีแต่ทำให้องค์กรอ่อนแอลงเรื่อยๆเท่านั้น ผมมีลูกน้อง  ลูกน้องผมเอาจริงๆ ก็เป็นแค่จับกัง  แต่ก็มีจับกังระดับหัวหน้า จนถึงลูกกระจ๊อกเล็กสุด แต่ลูกน้องทุกคน  เป็นลูกรักผมเหมือนกันหมด  และผมปฏิบัติกับลูกน้องเหมือนกันทุกคนครับ จากคุณ : สิงห์เหนือ...เสือสำอาง - [ 7 ก.พ. 49 12:01:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หลายๆคนที่จำกระทู้เรื่อง "ผมคุมลูกน้องฯ" อาจจะสงสัยว่าผมเปลี่ยนความคิดแล้วหรือ????? เปล่า....ไม่เปลี่ยนครับ  เหมือนเดิมๆๆ ผมยังถือแนวคิดเดิม   ลูกน้องต้องปฏิบัติตามที่นายสั่ง ตามความต้องการของเจ้านาย ทุกระดับครับ  ไม่ว่าจะเป็นจับกัง หรือว่า คนระดับผู้บริหาร จับกังอาจทำงานที่ไม่ต้องคิด  ทำตามคำสั่ง ส่วนคนระดับผู้บริหาร แม้นจะ ใส่กำลังสมองของตนลงไปในเนื้องาน  แต่ท้ายที่สุดก็ต้องสร้างผลงานตามที่เบื้องบนสั่งอยู่ดี..... และมันก็ตกมาอยู่ที่หน้าที่ของเจ้านายครับ ว่าทำยังไง  ถึงจะคุมลูกน้องเหล่านี้ให้ทำตามสั่ง  ด้วยความกระตือลือร้น และมีความยินดีที่จะทำตามคำสั่งนั้นๆได้...... ทำได้แบบนั้นแหละ  ถึงจะเป็นเจ้านายที่ดี จากคุณ : สิงห์เหนือ...เสือสำอาง - [ 7 ก.พ. 49 12:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 27 "ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม" จากคุณ : ขามเรียง - [ 7 ก.พ. 49 13:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านสนุกมากเลยครับ แฮะ ๆ ผมยังไม่ได้เป็นผู้นำ หรืออะไรหรอกนะครับ ตอนนี้กำลังพยายามฝึกใจตัวเองอยู่ อืม ฝากอันนี้ไว้ให้อ่านกันดีกว่า สังคหวัตถุ 4 1. ให้ทาน 2. พูดจาดีมีประโยชน์ 3. ทำตัวให้มีประโยชน์ 4. ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขา พระท่านสอนมาว่า สี่อย่างนี้ ยึดเหนี่ยวใจคนครับ จากคุณ : ไม้แดง - [ 7 ก.พ. 49 18:13:16 ]

ความคิดเห็นที่ 29 . . จากคุณ : SEA - [ 7 ก.พ. 49 23:38:10 A:58.9.152.248 X: TicketID:107202 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่ว่าลูกน้องจะเก่งกาจอย่างไร หรือว่า เขาจะเป็นอย่างไร คุณต้องวางอำนาจ ต้องข่มเขาให้ได้ คุณต้องเก่งกว่าเขา ต้องอยู่เหนือเขา .... What a great topic. IMHO, I disagree with the argument because nobody could be the best at/ or know everything. So acting วางอำนาจ will eventually sabotage the leaders opportunity to gain more knowledge and create ideas. I heard about one of a young & smart exec at HP (USA). This guy is so smart that he can create several good ideas and has no problem influencing his team to go after his solutions. But one day, he decided to change his approach because... He said "If it continues this way, the team will be, at best, as smart as me. But I want the team to be smarter than me because 10 brains will be definitely more powerful than one" Don't know how it goes at the end but it is indeed an intriguing point of view. จากคุณ : ha-meow - [ 8 ก.พ. 49 06:19:50 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขออนุญาตยกเอาพระบรมราโชวาทมากล่าวในที่นี้ เพราะเชื่อว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการทำงานไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดไม่ว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชาหรือผู้ใต้บังคับบัญชา "...หลักการสำคัญประการหนึ่ง ที่ จะส่งเสริมให้ปฏิบัติงานสำเร็จและ เจริญก้าวหน้าได้แท้จริง คือ การไม่ทำตัวทำความคิดให้คับแคบ หากให้มีเมตตาและไมตรี ยินดี ประสานสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ร่วม งานอย่างจริงใจ..."       พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 18 กรกฎาคม 2530 จากคุณ : Stereophony - [ 8 ก.พ. 49 09:28:17 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จะเข้ามา แจม ซะหน่อย ... อ่านไป อ่านมา ...  เกิด ฮา ขึ้นมา เลยแจม ไม่ออกเลยครับ   ขอเวลานอก ขำขำ   นึกอย่างไร ไม่รู้  อยากร้องเพลง ... ไปลงนรกซะเถิดที่รัก ... ฉันจะลงโทษเธอ เวลา ของเธอ (ใกล้) หมดแล้ววววววว   ....  (ฮา) แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 18:24:20 จากคุณ : ว่าที่ ดีอาร์ - [ 8 ก.พ. 49 11:10:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 แล้วเจอกัน นะที่รัก ... แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 18:44:15 จากคุณ : ว่าที่ ดีอาร์ - [ 8 ก.พ. 49 18:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คำพูดที่เจ้าของกระทู้ยกมานี้มีทั้งถูกและผิด หัวหน้าไม่จำเป็นต้องเก่งกว่าลูกน้องเสมอไปแต่ต้องควบคุม แนะนำและส่งเสริมให้ลูกน้องทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด หัวหน้าต้องมีบารมี แต่การข่มขู่ข่มเหงร่างกายและจิตใจของพนักงานนั้น เป็นการกระทำที่โฉดเขลาปัญญาอ่อน ไม่เหมาะที่จะเป็นหัวหน้าคนครับ จะเป็นหัวหน้าต้องรู้จักใช้กุศโลบาย ใช้วิสัยทัศน์ ในการชี้แนะ-ส่งเสริมผู้ใต้บังคับบัญชาในการทำงานของเขา อยากรู้ว่าหัวหน้าที่ดีต้องทำอย่างไร ลองไปหาทศพิธราชธรรมมาอ่านดูครับ --- แก้คำผิดและเพิ่มเติมข้อความบางส่วน ไม่ได้ตัดทอนของเดิมแต่อย่างใด แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 20:04:52 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 19:32:03 จากคุณ : น (นายข่วย) - [ 8 ก.พ. 49 19:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ทศพิธราชธรรม .. ธรรมของราชา แต่ผู้เป็นหัวหน้าคนสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการปกครองลูกน้องครับ ข้อความต่อไปนี้อ้างอิงจาก http://web.ku.ac.th/king72/2542-11/page20.htm กล่าวถึงในหลวงกับธรรมของราชา ทศพิธราชธรรม ๑๐ คือธรรมสำหรับพระราชา ในการใช้พระราชอำนาจและการบำเพ็ญประโยชน์ต่ออาณาประชาราษฎร ดังพระราชกรณียกิจที่ปรากฎ ๑๐ ประการ ดังนี้ ๑. ทานัง หรือการให้ หมายถึงการพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ การทรงเสียสละพระกำลังในการปกครอง แผ่นดิน การพระราชทานพระราชดำริอันก่อให้เกิดสติปัญญาและพัฒนาชาติ การพระราชทานเสรีภาพอันเป็นหัวใจแห่งมนุษย์ ๒. ศีลัง หรือการตั้งและทรงประพฤติพระราชจรรยานุวัตร พระกาย พระวาจา ให้ปราศจากโทษ ทั้งในการปกครอง อันได้แก่ กฎหมายและนิติราชประเพณี และในทางศาสนา อันได้แก่ เบญจศีลมาเสมอ ๓. ปริจาคัง หรือการบริจาค อันได้แก่ การที่ทรงสละสิ่งไม่เป็นประโยชน์หรือมีประโยชน์น้อยเพื่อสิ่งที่ดีกว่า คือ เมื่อถึง คราวก็สละได้ แม้พระราชทรัพย์ ตลอดจนพระโลหิต หรือแม้แต่พระชนม์ชีพ เพื่อรักษาธรรมและพระราชอาณาจักรของ พระองค์ ๔. อาชชะวัง หรือความซื่อตรง อันได้แก่ การที่ทรงซื่อตรงในฐานะที่เป็นผู้ปกครอง ดำรงอยู่ในสัตย์สุจริต ซื่อตรงต่อ พระราชสัมพันธมิตร และอาณาประชาราษฎร ๕. มัททะวัง หรือทรงเป็นผู้มีอัธยาศัยอ่อนโยน เคารพในเหตุผลที่ควร ทรงมีสัมมาคารวะต่อผู้อาวุโสและอ่อนโยนต่อบุคคลที่ เสมอกันและต่ำกว่า ๖. ตะปัง หรือความเพียรที่แผดเผาความเกียจคร้าน คือ การที่พระมหากษัตริย์ทรงตั้งพระราชอุตสาหะปฏิบัติพระราช กรณียกิจให้เป็นไปด้วยดี โดยปราศจากความเกียจคร้าน ๗. อักโกธะ หรือความไม่แสดงความโกรธให้ปรากฎ ไม่พยายามมุ่งร้ายผู้อื่นแม้จะลงโทษผู้ทำผิดก็ทำตามเหตุผล และสำหรับ พระมหากษัตริย์นั้นต้องทรงมีพระเมตตาไม่ทรงก่อเวรแก่ผู้ใด ไม่ทรงพระพิโรธโดยเหตุที่ไม่ควร และแม้จะทรงพระพิโรธ ก็ทรงข่มเสียให้สงบได้ ๘. อะวีหิสัญจะ คือ ทรงมีพระราชอัธยาศัย กอปรด้วยพระมหากรุณา ไม่ทรงก่อทุกข์หรือเบียดเบียนผู้อื่น ทรงปกครอง ประชาชนดังบิดาปกครองบุตร ๙. ขันติญจะ คือ การที่ทรงมีพระราชจริยานุวัตร อันอดทนต่อสิ่งทั้งปวง รักษาพระราชหฤทัย และพระอาการ พระกาย พระวาจา ให้เรียบร้อย ๑๐. อะวิโรธะนัง คือ การที่ทรงตั้งอยู่ในขัตติยราชประเพณี ไม่ทรงประพฤติผิดจากพระราชจริยานุวัตร นิติศาสตร์ ราชศาสตร์ ไม่ทรงประพฤติให้คลาดจากความยุติธรรม ทรงอุปถัมภ์ยกย่องคนที่มีความชอบ ทรงบำราบคนที่มีความผิดโดย ปราศจากอำนาจอคติ ๔ ประการ และไม่ทรงแสดงให้เห็นด้วยพระราชหฤทัยยินดียินร้าย จากคุณ : นายข่วย - [ 8 ก.พ. 49 19:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เจ้าของค่าย ยังไม่มาค่ะ กรรมการก็มาสาย..... ถ้างั้นขอเด็กชูป้าย  (อึ๋ม พอกัน )  ขอทำหน้าที่ประกาศ กฏ กติกา มารยาท ไปพลางๆ ก่อนนะคะ เวทีนี้  กฏ กติกา ไม่หยุมหยิมค่ะ   ตีเข่า ขึ้นศอก ได้ทุกแม่ไม้   แต่ขอสองอย่างนะเจ้าคะ   ...  ห้ามพาดพิงถึงบุคคลที่สาม ทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยเด๊ดขาดด ถ้าใครผิดกติกา  โดนหักสองคะแนน และข้อที่สอง  คือ  ห้ามชกใต้เข็มขัด  เนื่องจากเป็นห่วงว่า  ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะช๊ากกกกกกกก  แห๋ง ๆๆๆๆๆ ไปเสียก่อน เดี๋ยวเกมส์ จะโอเวอร์เร็วเกินไป..ยังไม่สะใจคนเชียร์.. รับทราบกติกาแล้ว....ชกได้! จากคุณ : กาสะลองบานแล้ว - [ 8 ก.พ. 49 21:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เราเคยบอกไว้ที่นี้ว่า ถ้าเกิดเราเล่นฟุตบอล เราเล่นในกติกา แต่ถ้าเกิดเราโดนสไลด์ขา เราสไลด์คืน และสไลด์แรงกว่าด้วย คุณกาสะลองเคยถามใช่ไหม ว่าเรามีปัญหาอะไร ไอ้เวรนี่มันทำอะไรบ้างรู้ไหม????? มันไปค้นเจออดีตกิ๊กของเราที่มาตีโพยตีพายในกระทู้เก่าๆ แล้วมันเข้าไปเอาข้อมูลของพี่สาวเรา แล้วก็เอาชื่อพี่สาวเรามาเขียนใส่กระทู้แบบเสียๆหายๆ มันมาเขียนในเนตใส่ร้ายเราว่าเป็นพวกไม่มีการงานทำ มันไปเอาชื่อจริงของเราที่มันไปขโมยข้อมูลมาเขียนประกาศใส่ในเนต แล้วก็บอกว่าเราเป็นพวกเกาะแม่กิน มันใช้หน้าที่การงานของมันโดยมิชอบ มาหาข้อมูลส่วนตัวเราจาก IP และเบอร์โทรศัพท์ แล้วก็มาล้วงข้อมูลส่วนตัวเรายาวเหยียด 2 หน้ากระดาษ A4 แถมเลวกว่านั้นคือเอาไปพิมพ์แจกให้เพื่อนมัน เราด่าใคร ตั้งแต่เล่นเนตมาไม่เคยด่าใครแรงเท่านี้มาก่อน และไม่เคยเกลียดน้ำหน้าใครมาก่อนเท่านี้ด้วย เราไม่สนว่ามันมีหน้าที่การงานอะไร แต่เราเจอหน้ามัน มันได้จูบซ่นตีนเราแน่......... จากคุณ : lb'sN (สิงห์เหนือ...เสือสำอาง) - [ 8 ก.พ. 49 21:24:17 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เบื่อ... เปิดดูทีวีก็ ทะเลาะกัน เข้าเน็ตก็ ทะเลาะกัน อยากให้คนไทย ปรองดองกันจัง จากคุณ : อนาวิน - [ 9 ก.พ. 49 13:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ฝากเพลงนี้ให้ฟังกันครับ ^L^ * รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย จะเกิดภาคไหน ๆ ก็ไทยด้วยกัน เชื้อสายประเพณี ไม่มีกีดกั้น เกิดใต้ธงไทยนั้น ปวงชนทุกคนคือไทย ท้องถิ่นแหลมทอง เหมือนท้องของแม่ เกิดถิ่นเดียวกันแท้ เหมือนแม่เดียวกันใช่ไหม ยามฉันมองตาคุณ อบอุ่นดวงใจ เห็นสายเลือดไทยในสายตา บอกสายสัมพันธ์ ทะเลแสนงาม ในน้ำมีปลา พืชพันธุ์ดื่นตา ไร่นารวงทองไสว สินทรัพย์มีเกลื่อนกล่น บรรพชนให้ไว้ เราลูกหลานไทยจะร่วมใจรักษาให้มั่น (*) , (*) แหลมทองโสภา ด้วยบารมี ปกเกล้าเหล่าไทยนี้ ร่มเย็นเป็นศรีผ่องใส ใครคิดบังอาจหมิ่น ถิ่นทององค์ไท้ เราพร้อมพลีใจ ป้องกันไทยและองค์ราชันย์ จากคุณ : ไม้แดง - [ 9 ก.พ. 49 17:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คนที่มาบอกว่าหยุดทะเลาะกันน่ะ เอางี้ไหม ให้ผมลองตบกระบาลแรงๆ ซักเบิ๊ดนึง แล้วไอ้ตอนที่คุณเงื้อมือจะมาตบกระบาลผมคืนน่ะ ลองให้มีใครมาบอกคุณมั้ยล่ะ ว่าอย่าทะเลาะกันเลย......อย่าตบกระบาลกันเลย ดีป่ะ?????? จากคุณ : lb'sN (สิงห์เหนือ...เสือสำอาง) - [ 9 ก.พ. 49 21:22:25 ]

ความคิดเห็นที่ 43 นึกว่าขับรถมา ติดอยู่ที่ สี่แยก ... ไฟเขียว ไฟแดง เพียบ เลย ใจเย็นๆ อยากเจอผม ได้เจอแน่ ไม่ต้องห่วง  ... เม.ย. นี้ ผมจะต้องไปธุระที่ ขอนแก่น ... เสร็จ แล้วจะเลยไปแวะไป รับ คนบางคน แถว ร้านตัดเสื้อที่ ต.ในเมือง มาเที่ยว กทม. ... ใจเย็นๆ ครับ แล้วจะพามาตะลอนทัวร์ จากคุณ : ว่าที่ ดีอาร์ - [ 10 ก.พ. 49 08:57:57 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คุณทำชั่วอะไรไว้บ้าง ... น่าจะรู้ตัวดีนะครับ เอาเป็นว่า เจอกัน แล้ว คงจะเข้าใจอะไรมากกว่านี้ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ... สำหรับผมแล้ว เรื่อง ทะเลาะกันในเน็ต เป็นเรื่องไร้สาระ น่ะนะ ช่วงนี้มีเวลา ... แนะนำว่าให้เคลียร์ตัวเอง เคลียร์ธุระทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะคุณอาจต้องจากบ้าน มาสัก 3-5 ปี (แก้ไข คำสะกดผิด) แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 49 13:39:32 จากคุณ : ว่าที่ ดีอาร์ - [ 10 ก.พ. 49 09:05:15 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ยิ้ม จากคุณ : academician - [ 10 ก.พ. 49 12:01:55 A:24.116.22.7 X: TicketID:075095 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อะใรกันว๊ะ.....คู่นี้ผมไม่ได้เข้ามาตั้งนาน  กลับมาอีกทียังทะเลาะ กันไม่เลิก    55555555 จากคุณ : VALID - [ 10 ก.พ. 49 12:20:26 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ^ ^ เปลี่ยนมาทะเลาะ กับ คุณ VALID  บ้างดีมั๊ย เนี่ย (ล้อเล่น นะครับ)   แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 49 13:49:55 จากคุณ : ว่าที่ ดีอาร์ - [ 10 ก.พ. 49 13:46:15 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ดีครับ ลูกผู้ชายต้องเล่นกันเปิดเผยแบบนี้แหละ.... .....เพราะผมก็อยากขึ้นศาลกันกับคุณเหมือนกัน.....เรามีเรื่องเคลียร์กันเยอะครับผม วันนี้ ตอน 1 ทุ่ม ถึง 3 ทุ่มครึ่ง ผมจะใช้เบอร์มือถืออันเก่า อยากได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม โทรมาที่เบอร์ 096221269 นะครับ ผมจะรอ และหวังว่าคราวนี้ คุณจะไม่แก้ตัวโง่ๆ อีกว่า ฟ้องผมไม่ได้เพราะผมเปลี่ยนชื่อบ่อย จากคุณ : lb'sN (สิงห์เหนือ...เสือสำอาง) - [ 10 ก.พ. 49 14:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 49 บอกแล้วไง ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ... ไว้เจอกันก็รู้เอง ... ต้องทำงานแล้ว นะ  ตามสบาย ครับ ... เรื่อง ทะเลาะกันในเน็ต เป็นเรื่องไร้สาระ ... หากจะมีบ้าง  ก็ร่วมแจม ด้วย เพื่อ ความมันส์เล็กๆเท่านั้น จบแล้วก็จบเลย ไม่ได้ใส่ใจอะไร ... จากคุณ : ว่าที่ ดีอาร์ - [ 10 ก.พ. 49 14:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 50 พูดอีกก็งงอีก ปากบอกว่าเรื่องไร้สาระ แต่คุณกลับให้ความสำคัญกับตัวตนผมมาแต่ไหนแต่ไร รู้สึกว่าคุณจะให้ความสำคัญกับตัวผมเหลือเกินนะครับ ผมงงอยู่ไม่หาย อะไรไปดลใจให้คุณทุ่มทุนขนาดนี้ ถึงขนาดไปตามตัวอดีตกิ๊กผมเจอ แล้วไปสืบเสาะเอาเรื่องส่วนตัวผมได้มากมายขนาดนั้น ข้อมูลบางอย่างที่คุณหามาได้ผมยังไม่จำเลยคุณ เอาเถอะ ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอก ที่ปากคุณจะบอกว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่คุณกลับทุ่มทุนตามตัวผมยิ่งกว่าพวกนักสืบเสียอีก นิสัยพวกเหลาเกี้ยน่ะ เรื่องหน้าตา เรื่องฟอร์มมันเรื่องสำคัญนี่ อย่างว่าแหละครับ พื้นเพพ่อแม่มันต่างกัน สั่งสอนต่างกัน พ่อแม่ผม สอนให้ทำดีทั้งต่อหน้า ทำอะไรเปิดเผยตรงไปตรงมาครับ จะได้เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน คาดว่าพ่อคุณคงไม่ได้สอนอย่างนี้กระมัง คุณเลยเป็นเช่นนี้ จากคุณ : lb'sN (สิงห์เหนือ...เสือสำอาง) - [ 10 ก.พ. 49 17:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เคยมีคนกระซิบมาหาผม   บอกว่า อยากรู้พฤติกรรมส่วนตัวของคุณ ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือรึเปล่า   เค้าบอกว่ามีเรื่อง "ดีๆ" เกี่ยวกับตัวคุณเยอะเลยล่ะ   ผมไม่สนใจหรอกนะ ชื่อ  อะไร เรื่องส่วนตัวคุณเป็นไง ผมไม่เคยคิดจะทราบ ผมแค่ข้องใจ พฤติกรรมเลวๆ ของคุณที่มาละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของผม  และ พฤติกรรมเลวๆ ที่คุณใช้บัตรผ่านเข้ามาพาดพิงถึงญาติพี่น้องผมในทางเสียๆ หายๆ ตอนนั้นผมจำได้ว่าผมไม่มีปัญหาอะไรกับคุณด้วยซ้ำนะ เรื่อง 2 เรื่องนี้แหละ  ที่ทำให้ผมอยากต่อยหน้าคุณซักป้าบ เชิญ และ ขอเชิญ มาให้ถึงที่นะครับ   เพราะถ้าคราวนี้คุณไม่มา  คงจะเสียฟอร์มที่สู้อุตส่าห์รักษามานาน คาดว่าคราวนี้คุณจะมาจริงๆ    และทำจริงอย่างปากว่า จากคุณ : สิงห์เหนือ...เสือสำอาง - [ 10 ก.พ. 49 18:03:13 ]

ความคิดเห็นที่ 53 หัวหน้า : ลูกน้อง เราก็เป็นลูกจ้างเหมือนกัน เพียงแต่มีหน้าที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง.... การเป็นหัวหน้าต้องมีภาวะผู้นำครับ... ถ้าไม่มี จะข่มไปลูกน้องก็รังเกียจปล่าวๆ.... ภาวะผู้นำมี course สอนครับ... เรียนไม่ยาก แต่ปฏิบัติไม่ง่าย จากคุณ : : (MESMERIC) - [ 10 ก.พ. 49 23:26:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คิดว่าต้องรู้จักหวะการใช้ พระเดช-พระคุณ ค่ะ เท่าเทียมลูกน้องเลยก็ไม่ดีค่ะ ลูกน้องอาจจะลามปาม สูงเกินเอื้อมก็ไม่ไหวค่ะ ลูกน้องรู้สึกด้อยค่า ไม่มีกำลังใจจะทำงานให้ จากคุณ : เอริ...จัง - [ 11 ก.พ. 49 04:28:32 ]

ความคิดเห็นที่ 55 มีคนกระซิบมาถามแฮะ ว่าไอ้ที่คุณบอกว่า "ผมทำชั่วอะไรไว้บ้าง" มันคืออะไร ผมคิดอยู่ตั้งนาน ว่าไอ้เรื่องชั่วๆที่ผมทำมันมีอะไรบ้าง ชั่วอย่างแรกคงเป็นชั่วเรื่องศีลข้อกาเม ผมเป็นคนตัณหาแรงน่ะคุณ มันถึงได้มีผู้หญิงจงเกลียดจงชังตัวผมอยู่บ้าง ให้พื้นที่ชายกระโปรงให้คุณได้อาศัยเป็นเครื่องมือเล่นงานผมไง แต่ผมไม่เคยข่มขืนใครนะ ทุกนางในชีวิตผมเค้าสนุกสนานกับบทรักผมทั้งนั้น ไม่เชื่อถามยัยนั่นดูสิ แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ว่าหนึ่งในนั้นมีเมียคุณบ้างรึเปล่า คุณถึงได้แค้นผมปานนี้ ถ้าหากว่าเผลอไปปรนเปรอเมียคุณเข้าก็ขออภัย......เพราะผมไม่ได้ตั้งใจไปเล่นชู้กับเมียชาวบ้าน แต่คงไม่มีเมียคุณหรอกมั้ง ผมค่อนข้างจะจู้จี้กับการคัดเลือกผู้หญิงที่ผมมีสัมพันธ์ด้วยน่ะ ชั่วอย่างอื่นที่แรงๆเรื่องอื่น นี่นึกไม่ออกแฮะ แต่ก็เอาเถอะ คุณจะอ้างว่ามาเจือกเรื่องของผมเพราะเรื่องงานรึกฏหมายก็ขอหัวร่อไว้ตรงนี้ เพราะคุณเล่นไปเจือกถึงขนาดที่ว่า รู้กระทั่งชื่อเพื่อนสนิทผมสมัยเรียนเมืองนอก ซึ่งผมก็งงถึงทุกวันนี้ว่าคุณจะรู้ไปทำซากอะไร หวังว่าคงไม่เจาะลึกไปรู้ถงขนาดข้อลำของผมหรอกนะ ขนาดอวัยวะคงไม่ส่งผลถึงคำให้การในชั้นศาลมั้ง เอาเถอะ จะมาด้วยเรื่องอะไรก็เรื่องของคุณ เพราะผมก็อยากจะเจอหน้าคุณใจจะขาด เมษานี้ผมคงไม่ไปไหน จับเจ่าอยู่ที่บ้าน แต่เห็นคุณมาฟอร์มนี้ความหวังชักหดหู่ว่ะ เฮ้อออ.........เจอคนมาก็เยอะ ร้อยพ่อพันแม่ ผมไม่เคยเห็นใครฟอร์มจัดหน้าด้านเท่าคุณเลยว่ะ จากคุณ : lb'sN (สิงห์เหนือ...เสือสำอาง) - [ 11 ก.พ. 49 09:28:41 ]

ความคิดเห็นที่ 56 อีกแค่ เดือนกว่าๆ เอง ไม่เห็นต้องใจร้อน เลย คุณไม่เจอผม ตอนนั้น  ... ก็เข้ามาประจาน ผมก็ยังไม่ สายไป นี่นา ...   ตัวจริง เสียงจริง ผม คนในนี้ก็รู้จักตั้งเยอะแยะ ... ผมคงไมขาดสติ ขนาดมาผูกมัด ตัวเองในนี้ มั๊ง ... .... ก็ถูกของ คุณ ผมไม่เคยมีปัญหาอะไรกับ คุณเป็นการส่วนตัว ... ยิ่งในเน็ตด้วยแล้ว ผมเสียอีกที่เป็นฝ่ายนึกสนุกเล่นกับคุณก่อนด้วยซ้ำ ....ถึงบอกไม่ใช่เรื่องส่วนตัวไง ... ทำตามที่ผมแนะนำดีกว่า ... ช่วงนี้มีเวลา มีธุระหรือภาระอะไรต้องเคลียร์ก็รีบจัดการให้เรียบร้อย .... ผมคงแนะนำคุณได้เท่านี้แหละ นะครับ ... จากคุณ : ว่าที่ ดีอาร์ - [ 11 ก.พ. 49 10:56:30 ]

ความคิดเห็นที่ 57 รู้สึกเหมือนคุยกับคุณน้ำอบเลยแฮะ เฮ้อ จากคุณ : lb'sN (สิงห์เหนือ...เสือสำอาง) - [ 11 ก.พ. 49 12:07:56 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เรื่องที่ผมประจานคุณก็มีตั้งเยอะตั้งแยะแล้ว คุณเหลืออะไรให้ผมประจานอีกเหรอ??????? ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความหน้าด้านคุณแล้วล่ะ แต่ยอมรับความหน้าด้านของคุณจริงๆครับ เฮ้อ จากคุณ : lb'sN (สิงห์เหนือ...เสือสำอาง) - [ 11 ก.พ. 49 12:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เอาล่ะ  หมดสนุกแล้ว เฮ้อ คุยไปคุยมานี่คุณอาการหนักแฮะ ออกมายอมรับเองนี่ครับ ที่ออกมาทะเลาะกับผมนี่ก็เพราะ ... "ผมเสียอีกที่เป็นฝ่ายนึกสนุกเล่นกับคุณก่อนด้วยซ้ำ ....ถึงบอกไม่ใช่เรื่องส่วนตัวไง ..." เอ้อ   งั้น....อื้มมม ขอแนะนำว่า ให้ไปหาอะไรทำอย่าให้ว่างเลยครับ   หางานทำให้ตัวเองเป็นประโยชน์เข้าไว้ ไม่งั้น เขาจะหาว่า...... ...เป็นพวกเลือดหัวไพร่ ชาวนาที่มาจากพ่อคุณมันล้างไม่ออก...ถึงได้ไม่รู้ชั่วดี ...เสื่อมเสียไปถึงสถาบันจุฬาฯ ของคุณที่ผลิตบัณฑิตทรามๆ แบบคุณ ...และ  ทำให้รู้ว่า....ไอ้ตำแหน่ง สว. สวะๆ เนี่ย มันมีพวกคุณภาพต่ำๆ เลวๆ เหมือนกัน ...หมดสนุกแล้วครับ   ชอชอบพระคุณที่เสนอหน้ามาให้ผมด่าเล่น จากคุณ : สิงห์เหนือ...เสือสำอาง - [ 11 ก.พ. 49 19:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ก็ มิรินโย่ กับ ราฟา ไง เกี่ยวไหมเนี่ย เหอ ๆ จากคุณ : สเกาเซอร์ - [ 11 ก.พ. 49 19:26:17 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ่าว ฉิบบหาย เข้าผิดห้องนึกว่าห้อง การบริหารแบบ... นี่มันห้องสนธิกะทักษิณนี่หว่า เง้อ งงเลย -*- จากคุณ : ต้นไม้ต้นเล็กๆ - [ 13 ก.พ. 49 10:58:21 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เอ้อ  คุณๆๆ  ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าผมจะอยู่ช่วงที่คุณมารึเปล่า เพราะสงกรานต์นี้รู้สึกว่าบ้านผมจะไปฮอลิเดย์ยาวๆๆๆกันนะ แนะนำว่า มาก่อน 12 เมษายนดีกว่า   รึไม่ก็อีกทีหลังวันที่ 19 เมษายน เอ้อ....มันตรงกับช่วง "ธุระ"  ของคุณพอดีเลยนี่หว่า เพราะไม่งั้น คุณก็เกาะกระโปรงระเบียบรัตน์ เข้าบ้านผมไม่ได้นี่.....จริงไหม หากว่าผมไม่ได้ไปฮอลิเดย์  เวลาเกาะกระโปรงระเบียบรัตน์เดินเข้าบ้านผมน่ะ....แนะนำว่า ให้ไหว้ผมงามๆหน่อยนะครับ เผื่อจะใจอ่อน โทรไปบอกเพื่อนที่นครวสรรค์  ลงคะแนนให้คุณ อุ๊ฟฟฟฟฟ    ตายแล้วๆๆๆๆ  ไม่น่าหลุดปากเลย  เอ้าไม่ต้องห่วงครับ ข้อมูลส่วนตัวคุณ.....ผมไม่คิดแฉหรอก ผมไม่รู้อะไรมากหรอกครับ    ผมบอกแล้ว  ผมมันถือเรื่องสุภาพบุรุษ  ไอ้จะไปสอดรู้สอดเห็นเหมือนพวกอีแอบนี่ ผมไม่ทำหรอก ขนาดข้อมูลอยูใกล้ๆ นี่    แค่เหลือบตาไปมองก็รู้แล้วนะคุณ ผมยังไม่คิดไปดูเลย จากคุณ : สิงห์เหนือ...เสือสำอาง - [ 13 ก.พ. 49 17:45:55 ]

ความคิดเห็นที่ 63 . . จากคุณ : SEA - [ วันมาฆบูชา 23:56:26 A:58.9.151.30 X: TicketID:107202 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เข้ามาอ่านคำด่า (ฮา) ด่าอีกก็ได้นะ  ยังอ่านได้เรื่อยๆ ... สติและอารมณ์ ผมนิ่งพอ ที่จะให้คำด่าของคุณ เป็นเพียงสิ่งที่อยู่ติดกับตัวคุณไง ... ผมไม่รับ มันเข้ามากระเทือนอารมณ์ ผม... เพียงเท่านี้ คำด่า ต่างๆ จากคนจิตไม่ปกติแบบคุณ ก็ทำอะไร ผมไม่ได้แล้ว ยิ่งผม มองเห็นอนาคต ข้างหน้าคุณชัดเท่าไหร่ ... ผมก็ ย่อมอภัย กับคำด่า ของคุณได้เท่านั้น .... ที่สำคัญ ... คุณอย่าเผลอคลั่ง ขนาด จับมอนิเตอร์หรือคีย์บอร์ด เป็นตัวประกัน ผมก็พอใจแล้ว ...   ปล. จริงๆ แล้วผมควรจะเงียบ ไม่ต้องตอบโต้ คุณ ปล่อยให้คุณ ด่า ไปเรื่อยๆ ... แต่ที่ ต้องโพส เพื่อ ให้น้องๆ ที่รับไม่ได้ มีอารมณ์ กับคุณ เวลาที่ต้องทะเลาะกับ คุณในเน็ต  ดูเป็นตัวอย่าง ... เพียงเราทำจิตใจเรานิ่งๆ เราก็ชนะ แล้ว ... โชคดี ครับ แล้วเจอกัน จากคุณ : ว่าที่ ดีอาร์ - [ 14 ก.พ. 49 19:14:47 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาอันมีค่าในช่วงแรกมาออกความคิดเห็นนะครับ... ส่วนเรื่องส่วนตัวของท่านทั้งสองนั้น ขออย่าได้รุนแรงกันมากนักเลย ยังไงแล้ว ก็คนเล่นเนทฯ เหมือนๆกันครับ อยากให้สงสารเพื่อนๆที่อาจจะรับไม่ได้กับคำบางคำในกระทู้ด้วยนะครับ จากคุณ : wbj - [ 15 ก.พ. 49 12:33:23 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ยิ่งอ่านยิ่งสมเพช ขนาดสันติบาลผมเจอมาแล้ว แล้วจะประสาอะไรกับว่าที่ สว. สอบตกอย่างคุณเนี่ย กฏหมายเบื้องต้นยังไม่รู้จะเอาอะไรไปสมัคร สว. พ่อคุณเอ๋ย ยิ่งเห็นคุณมาขู่ผมโง่ๆ แบบนี้ ผมยิ่งสมเพชน่ะ จบดีกว่า ไม่อยากเอาทองไปลู่กระเบื้อง จากคุณ : lb'sN (สิงห์เหนือ...เสือสำอาง) - [ 15 ก.พ. 49 13:24:07 ]