CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    WBI - จากพื้นฐานของแต่ละธุรกิจ

    ระบบ WBI ( Whole Business Indicator ) เกิดจากการวิเคราะห์พื้นฐานของธุรกิจ ที่เริ่มจากแบบแผนง่ายๆ แล้ว ค่อยต่อยอดออกเป็นธุรกิจที่ซับซ้อนมากขึ้น การเริ่มจากจุดพื้นฐานของธุรกิจนั่นเอง ทำให้ระบบ WBI สามารถนำไปใช้ได้หลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมใดก็ตาม และ เมื่อความเหมือนกันของแต่ละธุรกิจในบางส่วน อย่างเช่น พื้นฐานของธุรกิจนั้น ย่อมต้องมีลูกค้า ซึ่งทุกธุรกิจไม่ว่าใหญ่ กลาง หรือ เล็ก ก็ต้องมีลูกค้าทั้งนั้น เพราะธุรกิจต้องมีการแลกเปลี่ยน ไม่ว่าจะสินค้าหรือบริการก็ตาม ไม่เพียงแค่ ธุรกิจต้องมีลูกค้า แต่ละธุรกิจ ก็ต้องมีคนปฏิบัติการหรือคนทำงาน ยิ่งธุรกิจยิ่งใหญ่ก็จะมีคนทำงานยิ่งมาก ก็จะเกิดการบริหารขึ้น หรือ ตัวเลขทางบัญชีบางส่วน ก็จะมีเหมือนกัน จะเห็นว่า พื้นฐานธุรกิจส่วนใหญ่นั้น เหมือนกัน เพียงแต่แตกต่างไปตามรายละเอียดของแต่ละประเภทอุตสาหกรรมเท่านั้น

    มุมมองเช่นนี้เองจึงเป็นพื้นฐานของระบบ WBI ที่มุ่งหวังเพื่อพัฒนาองค์กรที่หลากหลายให้มีแนวทางการบริหารหรือจัดการคล้ายคลึงกัน โดยใช้ KPI แบบเดียวกัน หรือ ใกล้เคียงกัน ในการตรวจวัด เมื่อมี KPI ในการตรวจวัดลักษณะนี้มากๆ และ นำมาเปรียบเทียบในแต่ละอุตสาหกรรม หรือ ทั้งประเทศแล้ว จะทำให้เห็นภาพรวมของธุรกิจทั้งประเทศได้ว่า ค่าดัชนีค่าใดที่เหมาะสมกับธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรม หรือ อุตสาหกรรมรวมทั้งหมด ซึ่งต้องใช้ผลประกอบการในการตัดสินแต่ละอุตสาหกรรม เมื่อพบตัวเลขค่าดัชนีที่ดีสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม ก็จะสามารถหาค่าดัชนีที่ดีที่เป็นกลางของทุกๆอุตสาหกรรมของประเทศได้ และ นี่ก็คือแนวคิดของระบบ WIBI ( Whole Industrial & Business Indicator) ซึ่งหน่วยงานของรัฐ หรือ องค์กรที่รัฐสนับสนุนให้การดำเนินการ ต้องหาค่ากลางทางสถิติของดัชนีแต่ละประเภท แต่ละกลุ่ม เพื่อเป็นมาตรฐานของการดำเนินกิจการว่า หากการดำเนินกิจการในโครงการต่างๆที่เสนอเข้าร่วมนั้น ควรจะมีดัชนีบ่งชี้ในแต่ละประเภทว่า ควรมีค่าเท่าใด เพื่อทำให้ธุรกิจดำเนินการไปได้อย่างดี ซึ่งค่าดัชนีแต่ละตัว จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า รัฐควรจะเข้าไปช่วยเหลือทางด้านใดให้กับแต่ละอุตสาหกรรม หรือ ต้องพัฒนาบุคคลกรเช่นใด เพื่อรองรับในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ

    ค่าดัชนีที่ได้บางค่าที่สามารถใช้ได้กับทุกๆธุรกิจ หรือ ธุรกิจส่วนใหญ่นั้น ทางรัฐควรที่จะกระจายให้กับวงการทุกๆธุรกิจโดยทั่วไปรับทราบ หรือ ไม่ปิดบัง เพื่อที่ให้อุตสาหกรรมอื่นๆ หรือ โครงการอื่นๆที่ไม่ได้เข้าร่วม ได้สามารถมีค่าดัชนีกลาง (Benchmark Index) เป็นหลักในการวางพื้นฐานของธุรกิจด้านอื่นๆต่อไป

    ขอยกตัวอย่างพื้นฐานทางด้านธุรกิจ เกี่ยวกับ ค่าดัชนีชี้วัดความพึงพอใจของลูกค้า CSI (Customer Satisfaction Index) ซึ่งเกิดจากแบบสอบถามไปยังลูกค้าแต่ละราย ถึงความพึงพอใจของลูกค้า จากภาพ จะเห็นว่า นักลงทุนจะลงทุนในธุรกิจ โดยธุรกิจจะเป็นการขายสินค้า หรือ บริการ หรือ ทั้งสองอย่างก็ตาม ให้กับลูกค้า ดังนั้น ความพึงพอใจของลูกค้า จึงส่งผลมาจาก สินค้าที่ดี และ การบริการที่ดี ขึ้นกับองค์ประกอบของธุรกิจ หรือ แต่ละอุตสาหกรรมว่า เน้นในเรื่องใด เมื่อลูกค้ามีความพึงพอใจกับสินค้าหรือบริการก็ตาม หากต้องซื้อสินค้าใหม่ โอกาสที่ธุรกิจที่ให้บริการได้ดี หรือ สินค้าที่ดี จะมีโอกาสมากกว่าธุรกิจที่บกพร่องในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือทั้งสองส่วน แต่หากเป็นสินค้าที่ขายครั้งเดียว หรือ สินค้ามีอายุใช้งานยาวนาน ความพึงพอใจของลูกค้าก็จะทำให้เกิดการบอกต่อ เป็นการสร้างลูกค้าเพิ่มให้กับธุรกิจทางอ้อมเช่นกัน เมื่อมีการซื้อซ้ำ หรือ การมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นจากการบอกต่อของลูกค้าเก่านั้น จะทำให้ธุรกิจขายสินค้าหรือบริการได้มากขึ้น และ เมื่อขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น ก็แสดงว่ามีผลประกอบการดี ดังนั้น ก็จะส่งผลให้ผู้ลงทุนได้ผลกำไรมากขึ้น ปันผลมากขึ้น เป็นต้น

    -=-=-=-=-=-=-=-

    WBI คืออะไร...
    http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B4075922/B4075922.html

    -=-=-=-=-=-=-=-

     
     

    จากคุณ : wbj - [ 6 ก.พ. 49 19:59:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป