ความคิดเห็นที่ 1 ถ้ารายได้เท่ากัน ข้อ 2-3 คำนวณมาจะเท่ากันครับ(หมายถึงรายได้ในวันนั้น) รายเดือนเป็นการจ้างแบบเหมาทั้งเดือนอยู่แล้วคุณได้เงินทุกวันแม้เป็นวันหยุด ข้อ 1 หนึ่งเท่าครึ่ง เป็นสัมประสิทธิ์การคูณ คือ 1.5 คูณ ถ้าครึ่งเท่าคือ 0.5 คูณ ดังนั้นถ้า 0.5 คูณค่าแรงต่อชั่วก็น้อยกว่าเวลาปกติซึ่งไม่สมเหตุสมผล อธิบายประมาณนี้งงไหมครับ... แต่ รายวันจ่ายค่าจ้างตามการทำงานจริงเป็นวัน วันหยุดรายวันจะไม่ได้ค่าจ้างครับ จากคุณ : Issara - [ 8 ก.พ. 49 20:11:06 A:203.113.51.68 X: TicketID:115055 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทำไมไม่ลองคำนวณดูล่ะครับ ที่มาที่ไปของการคิดค่าทำงานในวันหยุดไม่เหมือนกันนั้นเกิดจากประเภทของการรับค่าจ้างนั่นแหละครับ พนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายวัน จะไม่ได้รับค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์ ส่วนพนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายเดือนนั้นถือว่ารับค่าจ้างเป็นรายเหมาต่อเดือนซึ่งในวันหยุดประจำสัปดาห์นั้นมีค่าจ้างรวมอยู่ด้วยแล้ว เพราะการคำนวณค่าล่วงเวลาในวันทำงานปกติหรือในวันหยุดนั้นใช้ฐาน 30 วันซึ่งหมายถึงทุกวันในหนึ่งเดือนได้รับค่าจ้างตลอดนั่นเอง เมื่อพนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายเดือนมาทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์หรือวันหยุดตามประเพณีซึ่งได้รับค่าจ้างอยู่แล้วก็จะได้เพิ่มเพียงหนึ่งเท่าเพราะอีกหนึ่งเท่าได้จ่ายให้แล้วอยู่ในเงินเดือน ส่วนพนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายวันสำหรับกรณีมาทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์ซึ่งในวันหยุดนี้หากไม่ทำงานก็จะไม่ได้รับต่าจ้างแต่อย่างใด เมื่อมาทำงานก็ต้องได้รับค่าจ้างเต็มวันและได้รับค่าทำงานในวันหยุดอีกหนึ่งเท่าจึงเป็นสองเท่าของค่าจ้างต่อวันไป สรุปแล้วก็ได้รับเท่ากันทั้งพนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายวันและรายเดือน ส่วนการทำงานล่วงเวลาในวันปกติว่าทำไมไม่จ่ายให้พนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายเดือนแค่ 0.5 เท่า ทำไมจ่ายให้ 1.5 เท่าเท่ากันกับพนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายวัน แบบนี้ต้องดูว่าการทำงานต่อวันนั้นกี่ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายวันหรือรายเดือนต่างก็ไม่ได้ทำงานเต็ม 24 ชั่วโมงต่อวัน อาจจะทำ 8 ชั่วโมงต่อวันเท่าๆ กัน ซึ่งค่าจ้างคำนวณต่อวันต้องคิดทจากจำนวนชั่วโมงทำงานต่อวันตามที่กำหนดไว้ ส่วนที่เกินถือเป็นการทำงานล่วงเวลาซึ่งไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายวันและพนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายเดือนต่างก็ไม่ได้รับค่าจ้างในชั่วโมงที่เกินไปจากชั่วโมงทำงานตามปกติ ดังนั้น ก็ต้องได้รับค่าล่วงเวลาเท่ากันในว่าจะเป็นการทำงานล่วงเวลาในวันทำงานปกติ หรือไม่ว่าเป็นในวันหยุดก็ตาม ส่วนคำถามว่าค่าทำงานในวันหยุดระหว่างพนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายวันที่ได้รับสองเท่าและพนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายเดือนที่ได้รับหนึ่งเท่า นั้นถือว่าได้รับเท่ากันเพราะรายเดือนได้รับแล้วหนึ่งเท่าในเงินเดือนที่เฉลี่ยสามสิบวันนั่นเอง ส่วนที่รับเป็นรายวันนั้นไม่ได้รับค่าจ้างในวันหยุดเมื่อมาทำก็ได้รับเพิ่มอีกหนึ่งเท่าเพื่อให้เท่ากันพนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายเดือน การเปรียบเทียบกันว่าฐานเงินเดือนค่อวันเท่ากันจะได้รับค่าล่วงเวลาหรือค่าทำงานในวันหยุดเท่ากันหรือไม่ต้องเปรียบเทียบกันวันต่อวันครับ หากจะเปรียบเทียบกันเป็นเดือนก็ต้องให้พนักงานที่รับค่าจ้างเป็นรายวันทำงานเต็มทุกวันในเดือนนั้นจึงจะเปรียบเทียบได้ หยุดไปหนึ่งวันไม่มาทำงานในวันหยุดค่าจ้างก็หายไปหนึ่งวันแล้ว ส่วนพนักงานที่ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนก็ยังคงได้รับอยู่ ซึ่งนั่นเป็นข้อที่ได้เปรียบของพนักงานที่ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนนั่นเอง จากคุณ : Stereophony - [ 8 ก.พ. 49 21:08:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หลักการคือว่า พนักงานรายเดือน เค้าถือว่าจ่ายเงินให้คุณในวันหยุดอยู่แล้ว  แต่ในเมื่อตกลงกันว่าให้หยุด แต่ดันเรียกเรามาทำงาน ก็จ่ายเพิ่มให้อีกเท่าหนึ่ง คือ 800 บาท แต่พนักงานรายวัน เค้าไม่ได้รับค่าจ้างในวันหยุด  พอวันหยุดเรียกมาทำงาน  เค้าก็เลยต้องจ่ายให้สองเท่า  คือ 1600 บาท แต่กรณีให้ทำงานในเวลาที่ไม่ใช่เวลาทำงาน ก็ถือว่าเวลานั้นไม่ได้มีการจ่ายเงินให้ตั้งแต่แรกทั้งสองแบบ  เพราะฉะนั้นก็ได้เท่าครึ่งเท่ากัน จากคุณ : TingTing - [ 9 ก.พ. 49 11:41:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พอจะเข้าใจแล้วครับ ขอบคุณทั้งสองท่านมากครับที่อธิบายอย่างละเอียด ^___^ จากคุณ : freeek!!! - [ 9 ก.พ. 49 11:44:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อุ้ย ขอบคุณ คุณ TingTing ด้วยครับ มาโพสท์ก่อนผมโพสท์นิดเดียวเอง ตอนเข้ากระทู้นี้มายังไม่เห็น - -" จากคุณ : freeek!!! - [ 9 ก.พ. 49 16:29:09 ]