CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    มนุษย์เงินเดือนมืออาชีพ – อาชีพนี้ดีอย่างไร ตอนที่ 2

    ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โดยไม่ต้องลงทุนเอง




    ผู้เขียน (คุณณรงค์วิทย์  แสนทอง) มีเพื่อนเป็นฝรั่งคนหนึ่ง

    เป็นวิทยากร  เคยบ่นให้ฟังว่าคนไทยแปลกมากคือ  เวลา

    เข้าสัมมนามักจะบ่นว่าเบื่อ เซ็ง  เหมือนถูกบริษัทบังคับให้

    เข้ามาสัมมนา




    (ลุงแอ็ดก็เซ็ง  ตรงที่ต้องไปบรรยายให้ผู้เข้าสัมมนาที่

    ถูกบริษัทบังคับให้มาเข้าสัมมนา.....เซ็ง.....เซ็ง.....ที่สุด

    เหมือนกัน....ตกลงผู้บรรยายก็เซ็ง.....ผู้เข้าสัมมนาก็เซ็ง

    เซ็งต่อเซ็งเจอกัน.....เขาเรียกว่า  "ซวย")





    เพื่อนของผู้เขียนคนนี้เขาบอกว่า  ทั้งๆ ที่ในความจริงแล้ว  

    บริษัทลงทุนส่งมาเข้าสัมมนาแบบไม่ต้องควักสตางค์เอง

    เลยสักบาทเดียว




    แต่คนไทยมักไม่ค่อยเห็นความสำคัญ  ทั้งๆ ที่ความรู้ทั้ง

    หมด  ก็จะอยู่ที่ตัวผู้เข้าสัมมนา  ไม่ได้อยู่ที่บริษัท

    (เห็นด้วย......เห็นด้วยอย่างที่สูดดดดด   :   ลุงแอ็ด)





    คนบางคนได้มีโอกาสเข้ารับฝึกอบรมที่ต้องลงทุนสูง  ซึ่ง

    ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาหรือคนที่ทำกิจการส่วนตัวคงไม่มี

    โอกาส  เช่น  การส่งไปเรียนต่อต่างประเทศ  การฝึกงาน

    ต่างประเทศในบริษัทแม่




    ถ้าคุณไม่ใช่ลูกจ้าง  ผู้เขียนรับรองได้ว่าต่อให้คุณมีเงิน

    มากมายแค่ไหน  เขาก็ไม่อนุญาตให้คุณไปฝึกงานใน

    บริษัทในต่างประเทศอย่างแน่นอน

    (ยกเว้นแต่คุณแกล้งเปลี่ยนชื่อเป็น “โอ๊ค” ....

    อาจจะมีสิทธิ....แต่ตอนนี้ก็ไม่แน่เหมียนกัล  :  

    ลุงแอ็ด)





    การฝึกอบรมที่บริษัทได้ลงทุนไป  ปีหนึ่งๆ เป็นหมื่นเป็น

    แสนนั้น  บริษัทไม่เคยทวงถามเลยว่า  พนักงานจะต้องทำ

    อะไรเพื่อเป็นการชดเชยเวลาและเงินทองที่ต้องลงทุนไป

    ในการฝึกอบรม





    (ลุงแอ็ดได้ไปบรรยายเรื่องการขายให้บริษัทซอฟแวร์

    แห่งหนึ่งในเร็ววันนี้  เป็นเวลา 5 วัน  บริษัทต้องลงทุนไป

    มากมาย    พอจบ 5 วันปั๊บ  ก็มีพนักงานขาย 2 คนลาออก

    ปุ๊บ



    ลุงแอ็ด  อยากจะถามว่า  ทำอย่างนี้มันยุติธรรมกับบริษัทฯ

    เขาหรือไม่...........ไม่รู้นี่ว่าจะลาออกทันที.......มิฉะนั้น

    พ่อจะด่าเสียให้เข็ด)





    ถ้าคิดให้ดีแล้ว  จะเห็นได้ว่า  การเป็นลูกจ้าง  มีแต่ได้กับได้




    ได้เรียนรู้ฟรีๆ จุดนี้น่าจะเป็นจุดที่เราในฐานะมนุษย์เงิน

    เดือนมืออาชีพ  น่าจะกอบโกยใส่กระเป๋าให้มากที่สุดเท่าที่

    จะมากได้  เพราะโอกาสดีๆ ในการเรียนรู้ ในขณะที่อยู่ใน

    องค์กร  จะไม่วันหวลกลับมาหาเราอีกเมื่อเวลาผ่านพ้นไป




    (ลุงแอ็ดขอแถมอีกสักนิดหนึ่ง........เวลาพวกเราไปเข้า

    สัมมนา  ขอความกรุณาให้เทน้ำในแก้วที่พกติดตัวไป

    ตลอดเวลานั้นออกให้หมด........ไม่ใช่เททิ้งนะครับ  แต่

    ขอให้เทใส่สมองที่ยังว่างอีกเยอะแยก  แยกเซฟเก็บ

    ไว้.....แล้วเข้ารับสัมมนาโดยการให้ “สมองอีกส่วนที่ว่าง

    ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”  รับข้อมูลที่ได้จากการสัมมนา

    ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้




    เท่าที่สังเกตุดู  ผู้เข้าสัมมนา  มักจะพกเอาแก้วที่บางที ก็มี

    น้ำอยู่เกือบเต็มปริ่ม  เอาเข้าไปด้วย  เวลาอาจารย์เขาใส่

    อะไรให้แก้วน้ำมันก็ไม่รับ  แถมยังกระฉอกใส่อาจารย์เขา

    เสียอีก......




    รับ...รับ...ไว้เถอะครับ  มันไม่มีใครถูก ใครผิดหรอกใน

    โลกนี้  เหรียญย่อมมีสองหน้าเสมอ  ในกลางคืน ก็ต้องมี

    พระจันทร์  ในเวลากลางวัน  ก็ต้องมีพระอาทิตย์   ในดีมี

    เสีย  ในเสียมีดี  ฮ่ออู่ม่อ  ม่ออู่ฮ่อ  มีแม่ชีก็ต้องมีพระ  มีผี

    ก็ต้องอยู่คู่กับโลง  มีความดีก็ต้องอยู่คู่กับความไม่ดี




    ดังนั้น  เมื่อเราเอาสมองที่ว่าง ที่เตรียมไว้รับ “ความรู้” ของ

    อาจารย์นั้นๆ มาแล้ว  ก็เอามากรองดู  ส่วนไหนที่ดีเก็บเอา

    ไว้ใช้งาน  ส่วนไหนที่ยังใช้ไม่ได้  ก็เซฟ เข้าเมมฯ ไว้

    ก่อน  อาจจะมีโอกาสได้นำมาใช้ในวันข้างหน้า  ส่วนไหน

    ที่ล้าหลัง  ไม่ทันสมัย  เรามีของดีกว่า  ก็ทิ้งไป  ในเวลา

    อันเหมาะสม  มิฉะนั้น  มันจะรกเครื่อง......................




    นี่ไร....บางคน  เอาแก้วเปล่าไปก็จริง  แต่พอไปเห็นหน้า

    อาจารย์   ลูกศิษย์ก็คว่ำแก้วเสียแล้ว  หาว่าบรรยายไม่ตรง

    ที่อยากรู้บ้าง  บรรยายไม่เป็นสับปะรดกระป๋องบ้าง   ไม่

    เคยขายแล้วยังเอือกมาบรรยายให้คนเขาเสียเงินมาฟัง

    อีก.........




    อยากจะถามนักเชียวว่า  นั่นมันเงินใคร.....เงินบริษัทเขา

    ไม่ใช่หรือ  ตัวเองได้ฟังฟรี  กินอาหารบุฟเฟ่ที่โรงแรม

    หรูหราฟรี  มีน้ำชากาแฟขนมนมเนยฟรี  มีเบรคทุกชั่วโมง

    ครึ่ง  กลัวคนเข้าเรียนเขาจะหิวตาย  




    ส่วนคนพูด  พูดอยู่ทั้งวัน มันก็น้ำลายติดคอ   กาแฟขนม

    นมเนยไม่ต้องกินกันละ......มันกินไม่ลง




    ทีให้ถามในชั่วโมงก็ไม่มีใครถาม  พอพัก  เข้าห้องน้ำ ก็

    เข้าคิวจะมาถามกันเชียวละ  อาจารย์เขาจะพักให้ดื่มน้ำให้

    หายคอแห้ง  จะฉี่ให้มันสะดวกหน่อยก็ไม่ได้......ต้องไป

    ยืนออกันหน้าโถส้วมนั่นแหละ................................



    ขอโทษนะคุณณรงค์วิทย์  ขอแถมหน่อย  ในฐานะก็เป็น

    วิทยากรเหมือนกัน.......................................")




    ยังมีตอนที่ 3 อีก.....คอยตามอ่านก็แล้วกันนะ  ตอนนี้ลุง

    แอ็ดเขียนเองเสียครึ่งตอน  ลุงแอ็ดก็ยังนี้แหละ  มีโอกาส

    ไม่ได้.....เป็นต้องบ่นเสียเรื่อยไป




    amorntvm@anet.net.th
    http://lungadd.pantown.com/

    จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 14 ก.พ. 49 10:25:07 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป