CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ชีวิตกับการทำงานแบบเพลินๆกับนายหรั่ง : เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย

    บทความต่อไปนี้เขียนเพื่อให้ข้อแนะนำแก่ผู้ที่ต้องการหารายได้เสริมจากรายได้ประจำ หรือต้องการหารายได้เพิ่มขึ้นโดยไม่ใช่การขายอาหารเสิรม หรือ ยาลดไขมัน หรือ ประกันภัยใดๆ ลองอ่านดูนะครับ

    1. ผู้ที่ทำประกันชีวิตไว้ โดยทำประกันประเภทคุ้มครอง และออมทรัพย์ไปด้วย หมายถึงคุณต้องเสียเบี้ยประกันสูงเป็นเวลานานหลายปี ( เป็นสิบปี ) หากไม่เป็นอะไรไปซะก่อน ก็จะได้เงินคืนมาบางส่วน และได้รับความคุ้มครอง เช่นค่ารักษาพยาบาลในกรณีประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย หรือ ทำงานไม่ได้ด้วยนั่นเอง โดยความจริงแล้ว ค่าตอบแทนการลงทุนประเภทนี้ได้อัตราส่วนแค่ 54:46 เท่านั้น หมายถึงคุณจะได้เงินคืนเมื่อครบกำหนดระยะเวลาประกันและคุณไม่เป็นอะไรเลยคืนแค่ 54 % ของเงินที่คุณเสียไปเท่านั้นเอง นอกนั้นเป็นค่าคุ้มครองครับไม่ได้คืนครับ หากคุณสามารถเก็บเงินเองได้ คุณก็จะได้เงินเพิ่มมาฟรีๆอีก 46 % กลับคืนมา เช่น หากคุณต้องเสียค่าประกันปีละ สามหมื่นกว่าบาท เมื่อครบกำหนด 20 ปี คุณจะได้คืนมาแค่ 54 % ของเงินที่คุณเสียไปเท่านั้นหากไม่เป็นอะไรเลย แต่หากคุณเก็บเงินออมเสียเอง คุณก็จะได้ส่วนที่เสียไปนั้นกลับคืนมาได้เอง ฉนั้น คุณไม่ควรทำประกันแบบออมทรัพย์ด้วยและคุ้มครองด้วย เพราะจะทำให้เสียเงินไปปล่าวๆ แต่ทำไมรัฐบาลจึงส่งเสริมให้ทำประกันภัยละ ? คำตอบคือ.... รัฐบาลจะได้ไม่ต้องเสียเงินไปรักษาคุณนะซิ ให้บริษัทประกันภัยเขาออกให้แทนนั้นเอง นี่คือกลยุทธของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้คุณมีประกันภัย ซึ่งจะมีทั้งในแง่สามารถลดภาษีเงินประจำปีด้วย แต่ก็ไม่คุ้มครับ เก็บเองได้แยะกว่าครับ....

    2. ผู้ที่มีรถเก๋ง หรือ รถยนต์ส่วนตัวน่ะ ไม่ควรทำประกันภัยชั้น 1 ในปีที่ 2 หรือปีถัดไป เนื่องจากเสียค่าประกันภัยแพง และไม่ได้รับเงินคืนเลยหากไม่ถูกชน ควรทำประกันภัยชั้น 3 ก็เพียงพอแล้ว ประหยัดกว่ากันหลายสิบเท่า หากมีการชนกัน หากคุณถูกเขาก็ซ่อมให้คุณอยู่แล้ว หากคุณผิดประกันก็ออกค่าซ่อมให้คู่กรณีไป ส่วนคุณก็ซ่อมเอง หากไม่รุนแรงนัก เช่น กันชนบุบ มีรอยถลอก ค่าซ่อมก็ไม่เท่าไรหรอกครับ เพียงไม่กี่พันเอง ขนาดซ่อมรอบคันก็แค่หมื่นต้นๆเท่านั้นเอง หากจ่ายชั้นหนึ่งมันไม่คุ้มครับ..... และยังมีปัญหาเรื่องอู่ซ่อมอีก เช่น ต้องซ่อมที่อู่ที่ประกันกำหนดเท่านั้น ยุ่งยากครับ

    3. ใครมีเมีย หรือแต่งงานแล้วก็จดทะเบียนสมรสซะ หากเมียไม่มีรายได้ก็สามารถหักภาษีเงินได้ได้ด้วย และหากมีลูกไม่เกินสองก็หักได้อีก งั้นรีบซะ ไอ้พวกมีแล้วไม่จดน่ะ เสียโอกาสนะจาบอกให้...

    4. หาอาชีพเสริมซะด้วย อย่ามัวแต่ทำงานประจำแบบทุ่มเทมากเกินไป หรือทำงานเกินเวลาที่บริษัทกำหนดโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเลย เช่นพวกผู้จัดการทั้งหลายที่ไม่สามามรถเบิกค่าล่วงเวลาได้ หรือพวกทำงานอย่างจริงจังโดยต้องการให้หัวหน้าเห็นในความสามารถ หรือทำงานล่วงเวลาโดยไม่มีปัญหาได้... คุณรู้ไหมหากคุณเวลาไปทำงานอื่นๆที่สามารถหารายได้เสิรมเข้ามาแล้ว มันจะเป็นเงินที่ทำให้คุณสุขสบายมากขึ้นเลยทีเดียว เช่น งานพิมพ์ดีดทำวิทยานิพนธ์ , งานส่ง e-mail , งานรับเขียนโปรแกรมเป็นส่วนๆ , งานรับถ่ายภาพตามงานต่างๆ และล้างรูปให้ด้วย, งานรับจัดสวนหรือแต่งสวน , งานขับรถส่งชาวต่างชาติจากสนามบินไปเที่ยว และอื่นๆอีกมากมาย ที่สำคัญ งานนั้นต้องเป็นงานที่คุณชอบด้วยนะ เช่น ชอบเขียนหนังสือ หรือ อ่านหนังสือ ก็เขียนหนังสือส่งให้โรงพิมพ์ หรือ เขียนบทความให้นิตยสารต่างๆเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือน หากชอบภาษาอังกฤษ ก็รับแปลเอกสารหรือแปลหนังสือก็ได้ อยู่ที่เราจะคิดทำอะไรครับ คุณทราบไหม แค่เสาร์หรืออาทิตย์เพียงสองวันเท่านั้นคุณอาจทำเงินได้กว่า 1000-5000 บาทแล้ว ลองคิดดู

    5. สุดท้ายก็ประหยัดค่าใช้จ่ายประจำวัน เช่น กินข้าวน้อยลงหน่อย เช่นอาหารกลางวันปกติทาน 50 บาท ( 2 จาน ) ก็เหลือจานเดียว ไม่อ้วนด้วย หรือ ข้าวเย็นชอบทานหนักๆ ก็เหลือให้น้อยลงครึ่งหนึ่ง แค่นี้คุณก็ประหยัดได้แล้ว ผมว่าแค่ 5 ข้อก่อนนะ แค่นี้คุณก็มีรายได้เสริมแล้วหลายหมื่นบาทต่อปีเลยที่เดียว เชื่อผมซิ......

    จากคุณ : นายหรั่ง - [ 15 ก.พ. 49 17:07:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป