ความคิดเห็นที่ 1 Business Center ก็เป็นศูนย์ธุรกิจเหมือนชื่อน่ะแหละครับ ลักษณะคือเป็นออฟฟิศเล็กๆ เวลาแขกอยากพิมพ์งาน ส่งแฟกซ์ ถ่ายเอกสาร หรือทำงานอย่างอื่นที่เป็นงานออฟฟิศ และโรงแรมรับทำเอง เขาก็จะส่งมาที่ Business Center (ถ้าโรงแรมไม่ได้ทำเอง เขาจะส่งไปที่ concierge เพื่อ outsource งาน) โดยทั่วไป Business Center อยู่ในส่วนของ Front Office เหมือนกันครับ พนักงานใน Business Center ก็มักจะเป็นคนที่ใช้อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ รวมถึงคอมพิวเตอร์ได้คล่อง (Word, Excel, PowerPoint, Internet) การพัฒนาทักษะก็คงได้ตรงนี้ คือเป็นลักษณะของงาน Business Admin แปลเป็นไทยว่า เบ๊ประจำสำนักงาน...ล้อเล่นครับ โดยส่วนตัวผมว่าแผนกนี้จะได้พัฒนาทักษะทั่วไปมากที่สุด และเป็นทักษะที่เราเอาไปใช้เวลาไปทำงานออฟฟิศที่อื่นได้ แต่ภาพพจน์โดยรวมจะด้อยกว่า receptionist อยู่บ้าง ส่วนความก้าวหน้า ต้องยอมรับครับว่างานโรงแรมนี่ ตำแหน่ง receptionist โดดเด่นที่สุดและเป็นสายงานหลักที่มักจะขึ้นไปกุมอำนาจ เช่น duty manager, night manager, F/O manager (สูงกว่านี้ไม่มีแล้วครับ ถ้าเป็นโรงแรม 5 ดาวจริง สูงกว่านี้ไม่มีคนไทยแล้ว) แต่ทักษะทางคอมพิวเตอร์ของ receptionist นี่ไม่ได้พัฒนาเท่าไหร่ เพราะใช้แต่โปรแกรมสำเร็จ จะได้พัฒนามากจริงๆ ก็พวกบุคลิกภาพ การพูด-ฟังภาษาอังกฤษ และทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คืองานของ receptionist จะเป็นการดูแลแขก check in ดูแลความเรียบร้อยของ front อำนวยความสะดวกให้แขกในภาพรวม งานส่วนใหญ่จึงเป็นการต้อนรับ ดูแล แก้ปัญหา เสียมากกว่า โดยเฉพาะ duty manager เนี่ยะ เป็นตำแหน่งที่ตั้งขึ้นมาแก้ปัญหาโดยเฉพาะ แล้วคุณสนใจตำแหน่งไหนครับ จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 20 ก.พ. 49 14:10:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รบกวนขอถามด้วยอีกคนนะคะว่า ถ้าเป็นตำแหน่งทาง Back Office ที่ไม่ใช่ฝ่ายบุคคล จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทางด้านงานโรงแรมมาก่อนหรือเปล่า และความก้าวหน้ามีถึงระดับไหน ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Dollyjang (Dollyjang) - [ 20 ก.พ. 49 15:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มาเห็นด้วยกับคุณ คคห.1 พ่อโปรเจ็คต์ ค่ะ เสริมว่า ถ้าเป็นโรงแรม 5 ดาวตามต่างเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต หัวหิน (ประสบการณ์ตรง) พนักงาน Receptionist หรือ Guest Relations Officer (ถ้ามี) จะเป็นคนดูแลส่วนของ Business Center ด้วยค่ะ เนื่องจากเมืองท่องเที่ยวเหล่านี้ ไม่ค่อยมีแขกไปใช้บริการด้านนั้นกันสักเท่าไร อย่างมากก็เช็คอีเมลล์ และ print เอกสารที่ได้รับจากอีเมลล์ค่ะ ส่วนในกรุงเทพฯ ภาพรวมก็เป็นอย่างที่คุณ พ่อโปรเจ็คต์ บอกไว้ค่ะ ที่โรงแรมเก่าที่เราเคยทำ เพื่อนๆ พนักงานใน Business Center จะไม่เน้นที่หน้าตาเลย ไม่ต้องถึงกับดูดีก็ได้ แค่ดูเป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส ใช้อุปกรณ์ในสำนักงานได้คล่องแคล่ว ก็พอแล้ว ความก้าวหน้าในโรงแรมนั้นๆ ก็จะเลื่อนเป็น Supervisor และ Manager ใน Business Center นั่นแหละค่ะ จบแล้ว นอกเสียจากว่าจะฉายแววด้านอื่นด้วยจริงๆ เคยมีพี่ Manager คนเก่าได้เลื่อนมาเป็น Duty Manager ด้วยค่ะ เพราะเธอเด่นด้านการแก้ปัญหา และอัธยาศัยดีจริงๆ ส่วนเพื่อน officer ด้วยกันคนนึง ได้ไปเป็นเลขาฯ Resident Manager ที่โรงแรมอื่นค่ะ เงินเดือน start สูงอย่างกับเลขาฯ ที่มีประสบการณ์สัก 5 ปีเลยละ เพราะพี่เค้าก็ถือว่าทำงานคล้ายๆ เลขาฯจริงๆ นั่นแหละ ถ้าเทียบกับ Receptionist ก็ดีกันคนละแบบจริงๆ ค่ะ แล้วแต่ชอบที่จะโตไปทางเบื้องหน้า หรือ เบื้องหลัง แต่ Receptionist จะถูกคาดหวังจากแขกสูงกว่า แต่ก็จะมีโอกาสได้ใช้ทักษะได้หลายๆ ด้านกว่า (เราว่านะ) เพราะเวลาต้องการอะไรแขกจะนึกถึง Receptionist ก่อนเป็นคนแรก แถมเวลาอยู่กะดึก(Night Shift) ก็ Receptionist นี่แหละ ที่ดูแล Business Center ทำเหมือนเค้าทุกอย่างค่ะ // ตอบคุณ Dollyjang บ้าง \\ - ถ้าเป็นตำแหน่งทาง Back Office ที่ไม่ใช่ฝ่ายบุคคล ก็จะมีพวก Sales แบ่งเป็น Rooms และ Catering ค่ะ ที่โรงแรมเก่าชอบคนที่มีประสบการณ์ตรงจากโรงแรมมาก่อนค่ะ ความก้าวหน้าก็ค่อนข้างกว้างขวางมากค่ะ GM บางคนก็เคยเป็น Sales มาก่อนค่ะ แต่ระดับ 5 ดาวแล้วแทบ(หรือ)ไม่มีคนไทยได้เป็นค่ะ นอกนั้นก็มีพวก Accounting, เลขาฯ หรือ co-ordinator หรือ officer แผนกต่างๆ เช่น Engineering, Purchasing จะบอกว่าพวก back office นี่รายได้รวมมากกว่า front office อีกค่ะ จากคุณ : =T.T= - [ 20 ก.พ. 49 21:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากค่ะคุณ =T.T= จากคุณ : Dollyjang (Dollyjang) - [ 21 ก.พ. 49 15:11:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกคนมากๆค่ะ มีข้อสงสัยถามต่อค่ะ โรงแรมใหญ่ๆอย่างพลาซ่าแอทธีนี ไม่เคยเห็นประกาศโฆษณารับสมัครงานเลยอ่ะค่ะ แล้วก็โรงแรมใหญ่ทั้งหลาย เขาไม่ค่อยโฆษณารับสมัครงานกันเลยอ่ะค่ะ แล้วแบบนี้แล้ว คือ เราต้องไปเขียนใบสมัครทิ้งไว้ที่ที่โรงแรมที่เราต้องการสมัครไว้ล่วงหน้าก่อนที่เขาจะต้องการตำแหน่งงานนั้นๆหรือไม่คะ จากคุณ : ชมพูภูพิงค์ - [ 21 ก.พ. 49 16:11:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องโทรถามฝ่ายบุคคลครับ พอเขาว่างตำแหน่งที่เราต้องการปุ๊บก็ไปสมัครเลย การเขียนใบสมัครทิ้งไว้ก็ทำได้ แต่ถ้านานเกินไปเขาก็จะเอาคนที่เข้ามาสมัครใหม่ๆ มากกว่า แต่ส่วนใหญ่สำคัญที่ประสบการณ์ครับ คือถ้าเคยผ่านงานตำแหน่งคล้ายๆ กันในโรงแรมที่เคยได้ยินชื่ออยู่บ้าง เขาจะสนใจมากกว่า ดาวของโรงแรมนั้น สำหรับคนที่ยังไม่ทราบนะครับ จริงๆ แล้วเขาวัดจากราคาห้องพัก โรงแรมบางที่ใหญ่ มีชื่อเสียงสำหรับคนทั่วไป แต่ราคาไม่แพงมาก ส่วนใหญ่จะสามดาว โรงแรมประเภทนี้จะมีกรุ๊ปทัวร์เข้าเยอะ พลุกพล่าน รีเซฟชั่นต้องไว ส่วนสี่ดาวห้าดาวนี่ส่วนใหญ่ค่อนข้างสงบครับ เพราะห้องมาตรฐานแร็คเรทก็ปาเข้าไปประมาณหกเจ็ดพันแล้ว ผลก็คือ งานจะยุ่งน้อยกว่า และถ้าแขกเต็มตลอด เซอร์วิสชาร์จก็ค่อนข้างคงที่ สายแบ็คออฟฟิศ เงินเดือนสูงกว่าครับ เหมือนออฟฟิศทั่วไป บางตำแหน่งมีเซอร์วิสชาร์จด้วย งานโรงแรมต้องทำนานๆ ครับไม่ว่าสายไหน เพราะระดับผู้จัดการเงินเดือนจะสูงกว่าระดับปฏิบัติการมาก แต่ผมว่า Receptionist สนุกสุด แล้วโอกาสโดนซื้อตัวไปบริษัทใหญ่ๆ หรือไปต่างประเทศสูงมาก ใครไปสมัครงานโรงแรมอย่าเดินเข้าประตูหน้านะครับ คุณจะรู้สึกผิดทันที ให้ลองดูรอบๆ โรงแรม จะมีทางเข้าเล็กๆ สำหรับพนักงาน จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 22 ก.พ. 49 10:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีเรื่องอยากจะปรึกษาหลายข้อเลยค่ะ เพราะว่าสนใจทำงานโรงแรมมากเลยค่ะ ปรึกษาคุณพ่อโปรเจ็กต์กับ คุณ =T.T= ทางหลังไมค์หรือผ่านอีเมล์ได้รึเปล่าคะ ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำและคำตอบค่ะ จากคุณ : ชมพูภูพิงค์ - [ 23 ก.พ. 49 10:57:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เชิญครับ จากคุณ : พ่อโปรเจ็กต์ - [ 23 ก.พ. 49 13:03:46 ]