วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 3768 (2968)
Talent มีได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็น CEO เสมอไป ?
โดยเรื่องนี้ "สุวิท จันทร์ศรีชวาลา" ได้ยกตัวอย่าง "talent" เรื่องหนึ่งที่เขามีโอกาสอ่านหนังสือแล้วพบเจอมาเล่าให้ฟังว่า...ผมมองอย่างนี้ คือเราต้องรีเทลคนของเราอยู่แล้ว และเดี๋ยวนี้เราลองดูคนปัจุบัน การศึกษาสูงกว่าเมื่อก่อนมาก และถ้าเราไปดูในกลุ่ม banking sector จะไม่มีการโฆษณา ไม่มีฮีโร่ เพราะการแข่งขันเมื่อก่อนดอกเบี้ยทุกแบงก์เท่ากันหมด แต่เดี๋ยวนี้โปรดักต์ออกมาแข่งกันเยอะมาก การเปลี่ยนแปลงเร็วมาก คุณก็ต้องการคนที่มี talent อยู่กับคุณ แต่ถ้าเขาไม่อยู่กับคุณ เขาไปอยู่กับคู่แข่ง คุณก็อาจจะเสียเวลา 2-3 ปีที่สร้างเขาขึ้นมา แต่พอเขาไปอยู่คู่แข่ง เขาอาจจะเอาความลับทางธุรกิจของคุณไปบอกคู่แข่งด้วยซ้ำ
"ถามว่าทำไมต้องแคร์คนกลุ่มนี้เป็นพิเศษ ก็แน่นอนล่ะ เพื่อความอยู่รอดของบริษัทด้วย แต่ขณะเดียวกัน เราก็แคร์คนกลุ่มอื่นๆ ด้วย ผมมีตัวอย่างหนึ่งจากเมืองนอกจะเล่าให้ฟัง คือมีเซลส์ขายประกันคนหนึ่ง เขาเก่งมาก ทุกปีพอหัวหน้าจะสั่งให้ทำยอดขายตามที่เขากำหนด เชื่อไหมพอผ่านไป 3 เดือน เขาทำได้แล้ว ที่เหลืออีก 9 เดือน เขาไปตกปลา เพราะเขาชอบตกปลา"
"หัวหน้าบอกว่า ไอ้หมอนี่ทำงานเข้าเป้า ปีหน้างั้นดับเบิลเลยนะ ซึ่งเขาก็ทำตามที่หัวหน้าสั่ง แต่ว่าตัวเขาเองก็ต้องทำงานหนักขึ้น ผ่านไป 6-7 เดือนจึงถึงเป้าหมาย ซึ่งเขาก็ทำได้อีก แต่เขากลับมีเวลาตกปลาน้อยลง พอหัวหน้าเห็นศักยภาพของเขาว่าทำได้ ก็ให้เขาดับเบิลเป้าอีก เชื่อไหม พอเขาเห็นดังนั้น เขาลาออกเลย เหตุผลคือเขาไม่มีเวลาตกปลา"
"เมื่อออกไป เขาก็ไม่ทำอะไรนอกจากตกปลา จนวันหนึ่งด้วยความที่เขาชอบและรักในการตกปลา เขาจึงตัดสินใจทำแมกาซีนซึ่งเป็นเรื่องของคนตกปลาขึ้น ปรากฏว่าขายดีมาก และมีชื่อเสียงมากในอเมริกา ผมถึงบอกไงว่า ไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะเป็น top talent หรืออยากจะเป็น president หรือ CEO ผมว่าเรื่องนี้เราต้องระวังเหมือนกัน"
หน้า 49
จากคุณ :
น้อง(ของ)หมา
- [
22 ก.พ. 49 17:16:00
]