ความคิดเห็นที่ 2
สวัสดีครับ คุณ Sale ตลอดชีพ
ลุงแอ็ดขอตอบให้คนแรกเลยนะครับ
ลักษณะของ Tele Sales เหมาะสำหรับสินค้าเป็นที่รู้จักกันดีทั่ว
ไป เช่น บัตรเครดิต เครื่องใช้สำนักงาน บัตรพักโรงแรมที่สมัคร
เป็นสมาชิก ฯลฯ
จะสังเกตุได้ว่า สินค้าเหล่านี้ มักมีผู้ซื้อ หรือผู้สนใจจะซื้อโดยทั่วไป
บางสินค้าก็ไม่จำเป็นกับชีวิต แต่ใครมีบัตรเหล่านี้แล้ว ถือเป็น
เกียรติยศ บางทีก็เป็นสิ่งจำเป็น เช่น บัตรเครดิต เอาไว้จับจ่ายใช้
สอยเป็นต้น
ดังนั้น ในการหา "ผู้ซึ่งจะมาเป็นลูกค้า" หรือ
Prospect มักจะใช้วิธีการโทรสุ่มไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ที่บอกว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ก็เพราะสินค้าเหล่านี้ มีบุคคลที่ "เป็น
กลุ่มเป้าหมาย" เหมือนกัน เช่น บัตรหรูของโรงแรม ที่ต้อง
โทรหาคนฐานะดี คนที่เดินทางต่างประเทศบ่อยๆ บัตรเครดิต
ธนาคาร ก็ต้องคนที่มีรายได้เกิน 7,000.- 10,000.- บาทขึ้นไป
(ตอนนี้จะเป็นเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้) ซึ่งในการเลือก "กลุ่มเป้าหมาย"
นั้น บริษัทซึ่งจะเป็นเจ้าของสินค้า เขาจะชำนาญ คอยแนะนำให้
ว่า ผู้ใดควรจะเป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่เราจะโทรศัพท์.....ไม่ใช่ พลิก
สมุดหน้าขาว หน้าเหลืองขึ้นมาได้ ก็โทรไปสะบั้นหั่นแหลกอย่างที่
เข้าใจกัน
ทีนี้ เมื่อเราได้ "กรองลูกค้า" มาชั้นหนึ่งแล้ว เราก็จัดการ
โทรฯ...ซึ่งในการโทรนั้น ก็ต้องมีอุปกรณ์ที่พร้อมอยู่เบื้องหน้า เช่น
ปากกา สมุด Note ระเบียบการต่างๆ และ "กระบวนการในการ
โทรศัพท์"
กระบวนการในการโทรศัพทนี้สำคัญมาก มันเป็นคู่มือที่ทุกคนจะ
ต้องปฏิบัติตาม (นอกจากพูดจึงคล่องแคล่วแล้ว....อาจจะแค่เหลือบ
มองก็ได้) เช่น วิธีทักทายถ้าเจอตัวลูกค้า วิธีถามหาชื่อลูกค้าถ้าเขา
ไม่ได้เป็นผู้รับสาย เมื่อเขารับสายแล้ว เราจะพูดอย่างไร ถ้าบ่าย
เบี่ยงหรือปฏิเสธ....จะแก้ไขอย่างไร.....อะไรคือสัญญาณซื้อทาง
โทรศัพท์......ทำอย่างไรจึงจะ Close เซลส์ได้ ฯลฯ
ตอนแรก คุณก็ต้องฝึกซ้อมการพูดตามทบพูดนี้ไปก่อน ซ้อมจน
คล่อง เวลาพูด "ก็ใส่รอยยิ้ม" ไปในโทรศัพท์ด้วย แล้วก็
หัดโทรจริง ค่อยๆ ฝึกจนชำนาญ จนในที่สุด คุณก็อาจจะคุยกับ
ลูกค้าได้อย่างคล่องแคล่ว สนิทสนม เสมือนกับรู้จักกันมานับสิบปี
โดยไม่ต้องออกไปไหน.....รถก็ไม่ต้องใช้.....ขอให้โทรศัพท์ให้ตรง
เป้า .....วันหนึ่ง 70 -80 ราย (ซึ่งแตกต่างกันแล้วแต่สินค้า)
จะมีคนสนใจประมาณ 20 ราย และจะมีคนซื้อประมาณ 5 ราย
ถ้าอยากขายให้ได้มากกว่า 5 รายก็ เอาสัดส่วน 80 : 20 : 5 คูณเข้า
ไป ก็จะได้ออร์เดอร์ตามยอดเหล่านั้น (นี่เป็นการยกตัวอย่างเท่านั้น
ซึ่งแต่ละสินค้า แต่ละบริษัท ก็มีจำนวนโทรศัพท์ให้ถึงลูกค้าไม่เท่า
กัน)
ข้อดีในการเป็น Tele Sales ก็คือ ไม่ต้องตากแดด ไม่ต้องขึ้นไป
เบียดกับคนบนรถเมล์ ไม่ต้องเสียเงินซื้อรถ ไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน ไม่
ต้องแต่งตัวสวยงาม คนตาบอดก็ทำได้ และทำได้ซะด้วย เพราะ
บุคคลเหล่านี้จะมีสัญญาติชาญอยู่อย่างหนึ่ง คือ "มีความพิเศษใน
การจับสัญญาณจากลูกค้า...ที่คนธรรมดาไม่มี" จึงมักจะขายดี
และปิดการขายได้มากกว่าคนตาดีๆ เช่นเรา
ได้ยินว่า ทำบัตเครดิตครั้งหนึ่งได้กันเป็น 1,000.- ไม่ใช่หรือ ดัง
นั้น สมมุตว่าปิดการขายได้ 5 ราย รายละ 1,000.- ก็ 5,000.- ต่อ
วัน ทำ 30 วัน เสาร์-อาทิตย์ไม่หยุด (เพราะเสาร์อาทิตย์ก็โทรไป
หาลูกค้าที่บ้านได้) เดือนหนึ่งก็รายได้ 150,000.- .....ไม่เลวนะ
ขายอะไรจึงจะได้อย่างนี้
นอกจากนี้ คนที่หลงไปไปทำ Telesale ถ้าอยากจะเปลี่ยนงานไป
เป็นการขายอย่างอื่นได้ ข้อที่ได้เปรียบเพื่อนฝูงก็คือ "วิธีการใช้
โทรศัพท์" ซึ่งจะสวยงาม หยดย้อยมาก โทรนัดลูกค้าทีไร
ลูกค้ามักจะใจอ่อนให้พบทุกที......แต่พบแล้วจะขายได้ไม่ได้ ก็อีก
เรื่องหนึ่ง
จะเห็นได้ว่า......ใน "การขาย" ทุกอย่าง "ไม่มีอะไร
ยาก....หากทำตามกระบวนการอย่างเคร่งครัด....และใช้การฝึกฝน
เป็นหลัก ต้องอดทนต่อความท้อแท้ในระยะแรก แต่พอติดลมบน
แล้ว ไม่อยากจะไปทำงานอื่นอีกเลย"
แต่ก็จะไม่มีอะไรง่าย....หากไม่สนใจ....เข้าไปทำแบบเสียไม่ได้ แบบ
ไม่เอาใจใส่.....คุณก็จะไม่ได้อะไรเลย
ไม่ว่าการขายนั้น จะเป็นการขายชนิดใด
ขอให้ลองดูครับ...และถ้าเขาสอนอย่างไร.....ก็เอาบทเรียนที่เขาสอน
มาโพสให้สมาชิกที่น่าใจในวิธีการขายวิธีนี้ได้รับทราบบ้าง...ก็จะ
เป็นบุญกุศลยิ่ง
ขอให้โชคดีครับ
ประธานคลับนักขาย
จากคุณ :
ลุงแอ็ด
- [
4 มิ.ย. 49 10:40:28
]
|
|
|