PANTIP.COM : B4490781 วีธีการตั้งราคาแพงเกินไป เหมือนกับการฆ่าตัวตายหรือเปล่า []

ความคิดเห็นที่ 6

เอาประสบการณ์จริงจากตลาดนัดบ้านนอกนะครับ

ลูกค้าจะซื้อเมื่อ...

1. สินค้าของเราถูกกว่าสินค้าของคนอื่น ซึ่งอาจแตกต่างกันเรื่องสีสัน และรูปร่างบ้าง แต่ใช้ประโยชน์ได้เหมือน ๆ กัน

2. สินค้าประเภท ซื้อ 1 ชิ้น 10 บาท แต่ซื้อ 2 ชิ้นเอาไปเลย 15 บาท

3. สินค้าประเภทควักเงินจ่ายโดยที่ไม่ต้องคิดมาก อันได้แก่ สินค้าทุกชิ้น 10 บาท ทุกชิ้น 20 (ง่าย ๆ สินค้าอะไรก็ได้ที่มีมูลค่าที่สามารถขายได้ในราคาแบงค์ใบเดียว ซึ่งปกติจะเป็นใบละ 20 บาท และไม่จำเป็นต้องตั้ง 19 บาท)

4. สินค้าบางตัวถ้าบริเวณนั้นไม่มีใครขาย และหาซื้อกันไม่ค่อยได้ ก็สามารถตั้งราคาสูงได้ แต่อย่าสูงจนเกินไป อย่างอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ เช่นวิทยุ นาฬิกา ตั้งกำไร 40-100% ก็ยังพอไหว อย่างที่บอกต้องดูสถานที่ และแถวนั้นจะหาซื้อได้จากที่ไหนบ้างที่ไม่เกินความสามารถ

5. การตั้งราคาถูก ก็อาจเป็นการฆ่าตัวตายด้วยก็ได้ แต่ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับการตั้งราคาแพงเกินไป เพราะตั้งราคาถูกก็แค่ขาดทุนในส่วนของกำไร แต่ตั้งราคาแพงเกินไป ลูกค้าจะเหมาว่าสินค้าทั้งร้านแพงหมด

6. หมั่นจัดโปรโมชั่นสินค้าวนกันไปครั้งละ 1-2 ตัว และต้องไม่บ่อยจนเกินไป ประเภทที่ว่า "แก้วโหลละ 50 วันนี้วันเดียว พรุ่งนี้ขายโหลละ 80" แต่ทั้งนี้ พรุ่งนี้ก็ต้องขายโหลละ 80 หากลูกค้ามาขอต่อลงเหลือ 50 ทีหลัง อย่าให้ เคยตัว

7. เพิ่มเติมจาก 6. ถ้าลูกค้าต่อ พยายามอย่าลด ถ้าลดก็ลดให้นิด ๆ หน่อย ๆ หรือแถมเป็นสินค้าที่ขายไม่ออก และราคาไม่แพงไปแทน แต่ให้พิจารณาหากมีคู่แข่ง

8. ขี้เกียจพิมพ์แล้วล่ะ เอาทิ้งท้ายว่า การจะตั้งราคากะฟันหัวลูกค้านั้น จะต้องเป็นสินค้าใหม่เอี่ยมอ่อง ประเภทไม่มีใครขายเลย หรือลูกค้าไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ดูหรูหรา มีราคา สารพัดประโยชน์ เท่านั้น แต่หากวันหลังขายช้า ต้องการลดราคา ถ้าลูกค้าถามว่า "อ้าว...วันนั้นซื้อไปตั้งแพง ทำไมวันนี้ถูกล่ะ" ก็ตอบไปว่า "อ๋อ...อันนี้สินค้าล็อตใหม่ ล็อตนี้มาถูก" ก็เป็นปรกติที่สินค้าใหม่ ๆ จะแพง ลูกค้าจะเข้าใจ และจะไม่ต่อมาก

จากคุณ : @==ไข่ดำ==@ - [ 29 มิ.ย. 49 22:50:41 ]