ความคิดเห็นที่ 1
ข้อมูลด้านนี้ ลองไปหาในหนังสือการตลาดเพื่อการส่งออก หนังสือพวกการเป็นเถ้าแก่ดูนะครับ มีทั้งหนังสือไทยและเทศ ตลาดบ้านเรามีอยู่เป็นสิบเล่มเลย
ผมก็จะช่วยเล่าจากประสบการณ์ตรงให้ฟังคร่าวๆ เป็นแนวทางด้วย แต่ถ้าลงมือทำจริงจังมันยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีก มากครับ
ถ้าคุณมี products ที่มั่นใจว่าขายได้แล้ว และอยากจะทำตลาดต่างประเทศก็ต้องทำ marketing หรือการตลาดเหมือน ขายสินค้าทั่วไปน่ะครับ วิธีทำตลาดต่างประเทศมันก็มีหลากหลาย
แต่ก่อนที่ผมจะเล่าเรื่องการทำตลาดให้ฟัง ก็อยากจะขอเกริ่นคร่าวๆ ก่อนว่าการที่จะขายสินค้าโดยตั้ง target customer เป็นห้างใหญ่ๆ หรือ Importer รายใหญ่ๆ นี่ เป็นเรื่องไม่ง่ายนักที่เขาจะมาสนใจเรา แต่ถ้าอยากจะลองดีลกับเจ้าใหญ่ๆ เลย อย่างน้อยเราจำเป็นจะต้องมีความน่าเชื่อถือก่อนในระดับนึง โดยทั่วไปแล้ว เราจำเป็นต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ยิ่งถ้าเป็น การค้าขายกับบริษัทใหญ่ๆ แล้ว การจัดตั้งจดทะเบียนบริษัทของเราถือเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ รายละเอียดพวกนี้คงต้อง ไปทำการบ้านค้นคว้าศึกษาเอาเองนะครับ เนื่องจากรายละเอียดมีเยอะ
ส่วนวิธีการทำตลาดต่างประเทศหลักๆ ที่ผมเคยใช้แล้วได้ผลก็มีตั้งแต่
1. อินเทอร์เนท - ทำเวบไซต์บริษัทให้ข้อมูลรายละเอียดสินค้าต่างๆ แล้วก็เริ่มเข้าไปโปรโมทสินค้าของเราตามเวบ trading ต่างๆ อย่างเช่น alibaba.com - ทำ online marketing research วิเคราะห์หาเทรนด์สินค้า ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อที่จะเอามาปรับปรุงกับ สินค้าของเรา รายละเอียดวิธีการลองไปศึกษาดูนะครับ
2. เปิดบูธขาย, ฝากขาย, ฝากวางโชว์ - การเปิดบูธขายของในตลาดที่มีต่างชาติเดินมากๆ อย่างเช่น จตุจักร ก็มีศักยภาพสูงในการที่จะได้ออร์เดอร์จากลูกค้านะครับ - ฝากขายกับร้านของคนที่รู้จัก ก็อาจจะมี ลูกค้าต่างชาติสนใจเหมือนกัน - ฝากวางโปรโมทสินค้าในที่ที่คิดว่าน่าจะมีคนสนใจ อย่างเช่น นำสินค้าตัวนึงติดราคาพร้อมเบอร์ติดต่อไปวางโชว์ไว้ใน โรงแรมหรือสถานนวดแผนโบราณของคนรู้จัก ที่มี ลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการเป็นประจำ วิธีนี้ต้องอาศัย connection มากหน่อย แต่ก็เป็นวิธีที่ลงทุนต่ำได้ผลค่อนข้างน่าพอใจ แต่ว่า ลูกค้าพวกนี้มักจะเป็นลูกค้า เล็ก ซื้อแบบ wholesale ล๊อตนึงไม่ใหญ่มากนัก
3. ออกงานแฟร์ เป็นวิธีที่ได้ผลค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นวิธีที่เสี่ยงอยู่เหมือนกันเนื่องจากค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ก่อนที่จะออกงานแฟร์ก็ต้อง มั่นใจในระดับนึงว่าจะมีคนสนใจสินค้าเรา แล้วหลังจากตัดสินใจว่าจะออกงานแฟร์ก็ต้องเตรียมความพร้อมหลายๆ อย่าง ด้วยนะครับ งานแฟร์ก็มี 2 ประเภทใหญ่ๆ
- งานแฟร์ในประเทศ : ค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก แต่อาจจะเจาะกลุ่มลูกค้าได้ไม่ตรงนัก
- งานแฟร์ต่างประเทศ : ค่าใช้จ่ายสูง (แต่ถ้าไปออกกับกรมฯ ก็ลดไปได้เยอะมากทีเดียว) แต่ก็มีโอกาสมากที่จะได้(เจอ) ลูกค้าเจ้าใหญ่ ลูกค้าชั้นดี
หลักการในการเลือกออกงานแฟร์ ก็ต้องลองศึกษาเปรียบเทียบสถิติของจำนวน Importer, Exporter ของแต่ละประเทศ ที่มาในแต่ละงาน แต่ละงานมีสินค้าหรือบริษัทที่เป็นคู่แข่งกับเราหรือเปล่า ประเมินว่ามีช่องว่างสำหรับเรามากน้อยแค่ไหน
4. ฝากข้อมูล/หาข้อมูลจากกรมส่งออก, หอการค้าไทย, สถานฑูตของแต่ละประเทศ - สมัครสมาชิกกรมส่งออกเพื่อขอโปรโมทสินค้าเราผ่านช่องทางต่างๆ อาทิเช่น ใบปลิว แผ่นพับ ที่กรมฯ จะนำไปแจกให้กับ ลูกค้าต่างชาติตามงานแฟร์ต่างๆ ที่กรมฯ ไปออก - สามารถขอฐานข้อมูลรายชื่อลูกค้า, Importer ของแต่ละ product ในแต่ละประเทศได้ แต่เท่าที่ดูๆ มาข้อมูลบางส่วนอาจ จะไม่ค่อยอัพเดทสักเท่าไหร่ครับ - พอได้ข้อมูลมาก็ติดต่อ โปรโมท สินค้าของเราดู *วิธีนี้ส่วนมากไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องลอง
ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่ผมพูดอาจจะดูเหมือนไม่ยากนัก แต่จริงๆ แล้วมันยากกว่าที่คิดเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกลโกงสารพัดของลูกค้า ต่างๆ โดยเฉพาะเจ้าใหญ่ๆ นั้นมีให้เห็นกันเป็นประจำ เรื่องการผลิต เรื่องสินค้า อีกจิปาถะ
...... การเริ่มต้น trading กับเจ้าใหญ่ๆ ยากมากครับ ลองดูกับเจ้าเล็กๆไปก่อนน่าจะดีกว่าครับ
จากคุณ :
Squadron
- [
5 ก.ค. 49 00:54:32
]
|
|
|