ความคิดเห็นที่ 222
เรื่องข้อพิพาทแรงงานตามกระทู้นี้ ผมมีคำแนะนำดังนี้ ครับ-
๑.ตาม พรบ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ มาตรา ๑๑๘ กำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้างแก่ลูกจ้างที่นายจ้างเลิกจ้าง(ไม่ว่าจะด้วยวาจา,หนังสือ หรือท่าทีไม่ให้เข้าไปทำงาน ฯลฯ ถือว่าเลิกจ้างทั้งสิ้น) ดังนี้-
.."(๑.) ลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันครบ ๑๒๐ วันแต่ไม่ครบ ๑ ปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราค่าจ้างสุดท้าย ๓๐ วัน..ฯลฯ"
ช่องว่างของวรรค(๑.)นี่แหละครับที่นายจ้างนำมาเล่นให้ลูกจ้าง"ทดลองงาน" คือให้ลูกจ้างทำงานให้จำนวน ๑๑๙ วันแล้วแจ้งไม่ผ่านการทดลองงานโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฏหมาย
ในกรณีบริษัทปรกติดีๆก็น่าเห็นใจเพราะเวลาสัมภาษณ์ทดสอบ อาจจะเจอผู้สมัครงานที่วางฟอร์มดีทีเหลว การทดลองงานเปิดโอกาสให้เขาทดสอบได้คนที่ตรงกับความต้องการจริงๆ แต่บางบริษัทนำมาใช้เพื่อจะเอาเปรียบแรงงานคนว่างงานจริงๆ
แต่ไม่ต้องกลัวครับ ยังมีทางเรียกหาความเป็นธรรมครับ!!!
มาตรา ๑๗ ...ฯลฯ..ผมสรุปให้ฟังสั้นๆว่าการที่นายจ้างจะเลิกจ้างลูกจ้างให้"บอกกล่าวล่วงหน้าเป็นหนังสือ" อย่างน้อย ๓๐ วัน
โดยการนับสามสิบวันให้นับตั้งแต่วันจ่ายเงินค่าจ้างงวดนี้ไปมีผลในวันจ่ายค่าจ้างงวดหน้า หากไม่บอกตามเวลาดังนี้ก็ถือว่านายจ้างไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมาย ดังนั้นสมมุติว่ามาทำงานวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๔๙ แล้วทำไป ๒ วันครึ่งบริษัทบอกให้ออก การบอกเลิกจ้างนี้จะมีผลตามกฎหมายจริงๆคือวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๔๙(ไม่ใช่วันที่ ๔ กรกฎาคม หรือวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๔๙)
...อ่านแล้วอย่างงนะครับ!!!
ดังนั้น ในกรณีนี้นายจ้างจะต้องจ่ายเงิน"ค่้าทดแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า"แน่ๆแก่ จขกท. จำนวน ๓๑ วัน + ๒๘ วันครึ่ง ครับ
เงินค่าทดแทนการบอกกล่าวล่วงหน้านี้ไม่ใช่เงินค่าชดเชยนะครับ เพราะค่าชดเชย จขกท.ไม่ได้ตามที่ พรบ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มีช่องว่างไว้
แต่เงินทดแทนการบอกล่าวล่วงหน้่าเป็นเสมือนค่าใจร้อนของนายจ้างที่แจ้งการเลิกจ้างผิดวิธีการ ครับ
(๒.)นายจ้างเถียงว่าลูกจ้างยังไม่ผ่านการทดลองงาน เพราะทำงานไม่ถึง ๑๒๐ วัน ฉันจะเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องบอกล่วงหน้า ใครที่ไหนเค้าบอกล่วงหน้ากัน..เชยส์ ฯลฯ อวดภูมิรู้อะไรอีกเยอะแยะ
ให้นายจ้างหรือท่านใดก็ได้ดูคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๓๖๔/๒๕๔๕ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๔๕ (ประมาณ ๔ ปีกว่าๆมาแล้ว) คดีระหว่างนางสุนีย์ นกน้อย โจทก์ กับ บริษัท วัชรกัญญา จำกัด ฯลฯ จำเลย เรื่อง คดีแรงงาน โดยท่านรุ่งโรจน์ รื่นเริงวงศ์,ท่านวีรพจน์ เพียรพิทักษ์,ท่านจรัส พวงมณี เป็นคณะผู้พิพากษาตัดสินในชั้นศาลฎีกา
ผมขอคัดท่อนท้ายของคำพิพากษามาบอกเล่าว่า..".... ฯลฯ โดยบทบัญญัติมาตรา ๑๗ แห่่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ๒๕๔๑ "มิได้มีข้อยกเว้น"ไว้ว่าการเลิกจ้างระหว่างการทดลองงานนั้นไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ฯลฯ ...ดังนั้นจำเลยจึงต้องบอกเลิกสัญญาจ้างเป็นหนังสือให้โจทก์ซึ่งเป็นคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทราบในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายค่าจ่้ายค่าจ้างคราวหนึ่งคราวใดเพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวถัดไปข้างหน้า
เมื่อจำเลยบอกเลิกจ้่างโจทก์โดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้า จึงต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่โจทก์ตาม พระราชบัญญัติคุมครองแรงงาน ๒๕๔๑....ฯลฯ"
สรุป คือ จขกท. ไปที่ศาลแรงงานกลาง ถ.พระราม ๔ (เยื้องหัวลำโพง)บอกเจ้าหน้าที่นิติกรประจำศาล เขาก็จะเขียนคำฟ้องให้ แล้วยื่นที่ช่องรับคำฟ้อง ทางจนท.ศาลจะลงรับคำฟ้องไว้แล้วส่งให้ศาล ศาลท่านก็จะออกหมายเรียกนายจ้าง-ลูกจ้างมาพบกันเพื่อไกล่เกลี่ย หากตกลงกันไม่ได้ก็จะชี้สองสถานแล้วให้คู่ความนำพยานเข้า่สืบ กรณีนี้ จขกท.ต้องอ้างตัวเองเป็นพยาน มีเอกสารอะไร เช่น เมล์,บัตรพนักงาน,จดหมาย ฯลฯ เอาไปด้วย(หรือส่งประกอบคำฟ้องตั้งแต่วันยื่นฟ้องคดี)จนสิ้นสุดกระบวนความจึงจะพิพากษา
ข้อบอกข่าวดีว่า การดำเนินการทางศาลแรงงาน ทาง จขกท."ไม่ต้องจ่ายเงิน"แม้แต่บาทเดียวเป็นบริการฟรีจากรัฐ ค่าไปรษณีย์..ค่าถ่ายเอกสาร ฯลฯ ศาลอกให้ จขกท.หมด แถม-ไม่ต้องจ้างทนายเพราะ ตามพรบ.วิธีการพิจารณาในศาลแรงงานกำหนดให้ศาลซักถามคู่ความเอง บางทีจ้างีทนายไปศาลไม่ให้ทนายพูดเลยก็มี
กรณีนี้เงินทดแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเกือบ ๒ เดือนน่าจะได้และค่าแรง ๒ วันครึ่งก็ได้ อาจจะรวมกับเพื่อนๆพี่ๆที่มูลคดีเหมือนกันเป็นโจทก์ร่วมกันก็ได้ ครับ
..ขอให้ความเป็นธรรมละยุติธรรมอยู่คู่โลกตลอดไป ครับ!!!
จากคุณ :
กุษาณ  
- [
16 ก.ค. 49 16:10:26
]
|
|
|
... เข้ามาดู
ธ่อ!
