ความคิดเห็นที่ 1 ทำ business plan สิ ไม่ก็หาหุ้นส่วนมาลงทุน จากคุณ : Ken - [ วันอาสาฬหบูชา 15:51:05 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่แนะนำให้ทำธุรกิจด้วย เงินกู้ 100% ครับ ควรที่จะมีเงินทุนบ้าง ไม่อย่างนั้น ช่วงที่ยังไม่ได้ขายของ ต้องจ่ายหนี้เงินกู้อย่างเดียว ธุรกิจจะล่มซะก่อนที่จะขายได้คับ ลองทำตามที่ คคห1 แนะนำครับ ถ้าแผนธุรกิจดี  หาคนร่วมทุน/กู้เงิน ไม่ยากครับ จากคุณ : Lattitude - [ วันอาสาฬหบูชา 16:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณทั้งสองท่านที่มาแนะนำครับ แต่อยากได้ความรู้เพิ่มเติมอีกหน่อยครับ ว่าถ้าผมทำแผนธุรกิจ แล้วผมจะไปเสนอใครครับ ยิ่งเรื่องเพื่อนร่วมทุน ผมเป็นพนักงานตำแหน่งเล็ก ๆ ไม่ค่อยมีคนรู้จักที่เขามีตังค์ สงสัยหมดสิทธิ์ครับ จากคุณ : คนรุ่นใหม่อยากรวยมากๆ - [ วันอาสาฬหบูชา 16:29:14 A:58.8.26.156 X: TicketID:122872 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลองคุยกันหลังไมค์ได้น่ะครับ จากคุณ : punfree - [ วันอาสาฬหบูชา 17:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ก่อนจะนำแผนไปเสนอใคร ให้เซ็นสัญญาห้ามนำความคิดไปผลิตด้วยน่ะครับ จากคุณ : ooo - [ วันอาสาฬหบูชา 19:41:23 A:124.121.37.102 X: TicketID:112602 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มีความคิดดีๆทางธุรกิจ  อยากได้เงินทุน  ก็อย่าง#1 ครับ ทำแผนธุรกิจแล้วไปหานายทุน แต่ผมมองว่า  หากคุณไม่มีเครดิตด้านประสบความสำเร็จเลย(หมายถึงผลงานด้านงานประจำ)  นายทุนจะต้องเป็นคนที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ด้านนี้  ต้องเป็นเพื่อนๆที่ใช้ความฝันอย่างเดียวในการลงทุน ผมไม่ได้อยากมาทำลายความฝันใครนะ  แต่ในฐานะที่ผ่านมาก่อน  เมื่ออายุและประสบการณ์น้อยๆ  ความคิดหรือแผนการที่คิดว่าดีแล้วนั้น จะมีข้อบกพร่องอยู่มากทีเดียว  และความฝันของเราก็ไปไกลมากๆในขณะนั้น  คิดว่าเรามีความคิดที่ยิ่งใหญ่มาก  แต่เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น  โดยเฉพาะประสบการณ์ของความล้มเหลว  คุณจะมองกลับไปเห็นจุดบกพร่องของตัวเอง ทางที่ดี  ควรไปปรึกษาคนที่เขามีประสบการณ์ให้ช่วยวิเคราะห์แผนของคุณก่อนจะดีกว่า  ผมคิดว่าคนที่รวยมากๆ  หรือประสบความสำเร็จแล้ว  เขาคงไม่มาแย่งธุรกิจขนาดนี้ของคุณหรอก  แต่เขาจะให้คำแนะนำได้ อีกมุมนึง  ผมคิดว่าก่อนที่เราจะฝันอะไรไกลๆ  มีบริษัทขนาดนั้น ขนาดนี้  ถ้าคุณยังทำและบริหารเรื่องง่ายๆไม่ได้  เช่น  ทำอย่างไรให้มีเงินเก็บบ้าง  ทำอย่างไรให้มีเครดิตน่าเชื่อถือ  ฯลฯ   การคิดจะก้าวไปทำเรื่องใหญ่ๆมันดูจะเกินเอื้อมเกินไป แต่ผมไม่ได้ตัดสินว่าไอเดียของคุณไม่ดีนะ  เพราะผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร  ผมตั้งชมรมขึ้นมาชมรมนึง  ด้วยไอเดียของการที่รู้ว่า  คนที่เริ่มธุรกิจโดยไม่รู้(เชื่อมั่นความคิดตัวเองเกินไป)ก็มักจะคิดเหมือนๆกันตอนเด็กๆ  แต่เมื่อไม่มีใครสอน  มันก็จะทยอยกันเข้ามาล้ม  รุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่เรื่องแบบนี้มันก็พูดยาก  คนไม่ผ่านไม่เข้าใจ  ผ่านมาแล้วจึงจะเข้าใจ   ยังงัยมีไฟจะสร้างอนาคตก็ดีแล้วครับ  พยายามรักษามันไว้ให้ตลอด  แม้ว่าจะล้มลุกคลุกคลานแค่ไหน  ถ้ามีไฟของการต่อสู้ตลอดเท่านั้น  จึงจะรอดในระยะยาวครับ หรือจะลองดูเลยก็ดีเหมือนกันนะครับ  ยังงัยแล้ว  อย่างน้อยซื้อประสบการณ์ด้วยเงินแสนกว่าบาทก็ถือว่าไม่มากเกินไปสำหรับประสบการณ์ธุรกิจในระยะยาวครับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ค. 49 08:58:49 จากคุณ : Jimmy Walker - [ วันเข้าพรรษา 08:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จะขู่หรือจะเตือนน้องครับเนี่ย อุอุ แต่ผมสนับสนุน คคห.ของคุณ Jimmy Walker 100% นะครับ "คนไม่ผ่านไม่เข้าใจ  ผ่านมาแล้วจึงจะเข้าใจ" อันนี้ ล้านเปอร์เซ็นต์ครับ ถ้าคุณยังไม่ผ่านก็ต้องหาคนที่เค้าผ่านมาก่อนเล่าประสบการณ์ให้ฟังครับ คิดใหญ่นั้นดีอยู่แล้วครับ แต่เริ่มด้วยทำเล็กๆ ก่อนครับ จะได้ไม่เจ็บตัว.... ถ้าเกิดเจ็บตัวไม่มาก ยังลุกขึ้นไหวนะ ถ้าเจ็บมากล่ะ... คิดเผื่อไว้ด้วยนะครับ จากคุณ : ผ่านมานิดหน่อย แต่ไม่เข็ด (อัทธ์) - [ วันเข้าพรรษา 12:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณJimmy Walker พูดถูกต้อง เคยผ่านมาแล้วเหมือนกัน จากคุณ : บัวหลากสี - [ วันเข้าพรรษา 16:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เริ่มต้นทำธุรกิจ เงินลงทุนเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก สิ่งสำคัญน่าจะอยู่ที่วิธีการบริหารจัดการ ทุนที่สำคัญที่สุดคือประสบการณ์ที่สั่งสมในอดีตจนถึงปัจจุบัน ยกตัวอย่าง ถ้าจะเปิดร้านขายกล้วยทอด จะต้องเตรียมการอย่างไรบ้าง หรือถ้าจะลงทุนทำฟาร์มเลี้ยงไก่ประกัน จะบริหารจัดการอย่างไรให้ประสบความสำเร็จฯลฯ จุดเริ่มต้นทำงานเป็นลูกจ้าง พยายามทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในแต่ละวันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นงานหนักหรืองานเบา ตามที่เราได้รับมอบหมาย และอย่าลืมทำความสัมพันธ์ที่ดีกับแผนกต่างๆในองค์กร ซึ่งจะได้รับคำแนะนำที่ดีจากความสัมพันธืที่ดี โดยที่เราไม่ได้เรียนรู้มาจากสายงานนั้นๆโดยตรง เช่นบัญชี ฝ่ายขายและการตลาด ฝ่ายวางแผน ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ฯลฯ สำหรับข้าพเจ้าตอนเริ่มต้นเปิดบริษัทฯ มีทุนอยู่บ้างแต่ยังไม่เพียงพอที่จะเปิดบริษัทของตัวเองได้ ก็อาศัยบริษัทของพี่ชาย ไปก่อนสักสองสามเดือน ใช้ในการออกใบกำกับภาษีและใบเสร็จให้กับลูกค้า พอจะโชคดีที่มีออเดอร์แรกเข้ามาเป็นออเดอร์รใหญ่และต่อเนื่อง จากบริษัทที่เคยทำงานอยู่ พอเริ่มมีกำไรจากการขายก็นำมาเปิดเป็นบริษัทของตนเองขึ้นมา โดยมีหลักการดังนี้ ก่อนจะหาซื้ออะไรสักอย่างเข้ามาใช้ในกิจการ ให้มองทุกสิ่งทุกอย่างคือ"หนี้สิน" นอกเหนือจากสิ่งที่ทำให้เกิดรายได้โดยตรงต่อบริษัท และสิ่งที่ซื้อเข้ามานั้นต้องใช้มันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ถ้าคิดว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวันก็อย่าเพิ่งซื้อเข้ามา ใช้วิธีการเช่าเป็นวัน เดือน ปีฯลฯ ถ้าจำเป็นต้องใช้เงินทุน ทุนที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดคือเงินทุนจากพ่อและแม่ของเรา เป็นทุนที่ไม่มีดอกเบี้ยด้วย สุดท้ายถ้ากิจการไปได้ดีแล้ว อย่าลืมนำทุนที่ท่านให้เรายืมตั้งแต่เกิดไปคืนท่านด้วย และต้องพร้อมที่จะเลี้ยงดูท่านให้มีความสุขตลอดไป จากคุณ : p - [ วันเข้าพรรษา 19:37:37 A:124.121.58.41 X: TicketID:039351 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ดูจากข้อความของคุณ ผมว่าคุณทำงานไปก่อนเถอะครับคุณเริ่มต้นจากกิเลส อยากได้อยากมี อยากรวย เปรียบเปรยความต่ำต้อยของตนเอง แทนที่คุณจะคิดหาวิธีทำอย่างไรจะสร้างมันขึ้นมา ให้มุ่งเป้าสนใจวิธีการ และดำเนินการทำให้สำเร็จ หากไม่สำเร็จก็หาวิธีใหม่ หาความรู้เยอะๆ ศึกษาข้อมูลสิ่งที่จะทำให้ลึกซึ้ง ข้อมูลบ้างอย่างจะรู้เมื่อเริ่มลงเมื่อทำ คุณไม่มีทางรู้ปัญหาได้เลยจนกว่าคุณจะได้ลงเมื่อทำ.......... .เริ่มทดลองทดสอบตลาด บ้างหรือยัง ...ถ้ายังรีบทำซะลุย แต่ผมไม่สำหนับสนุนให้คุณลงทุนทันทีนะครับ ไม่จำเป็นเสมอไปว่าคุณต้องไปทำงานเพื่อหาประสบกาณ์ เพราะวิธีนี้มันช้าและก็ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ครับ  คุณแค่ใช้ปากถามถามในสิ่งที่คุณอยากรู้ถามใครก็ได้บางครั้งความคิดดีๆก็ได้จากคนที่เราไม่คาดคิด  ถามลูกค้าของคุณ ถามหุ้นส่วนคุณ ถามคนรอบข้างคุณ ถามทุกคนที่คุณได้พูดคุณเดียว....บางคนเขาตอบคุณไม่ได้เขาก็จะแนะนำคนที่จะให้คำตอบแก่คุณก็เป็นได้..... หนังสือก็มีอ่านเยอะๆอ่านให้เข้าใจ ให้ความสำคัญที่ระบบธุรกิจให้มาก คนจะสร้างธุรกิจก็คือสร้างระบบ คนตายได้แต่ระบบธุรกิจต้องดำเนินต่อไป   หวังว่าคุณคงจะพอเข้าใจสิ่งที่ผมพยายามบอกคุณ.... แล้วจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าต้องทำอย่างไร จากคุณ : - (คัมภีร์) - [ วันเข้าพรรษา 22:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คิดกับทำไม่เหมือนกันนะ ลองเอาไปเสนอธนาคารดูซิ ถ้าผ่านก็น่าจะโอเคระดับหนึ่ง แต่ถ้าไปเสนอคนอื่น ระวังจะโดนคนที่มีประสบการณ์กว่าแย่งไปทำนะเออ จากคุณ : flogger - [ วันเข้าพรรษา 23:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ยังไม่ทำวิจัยตลาดเลย รู้ได้ยังไงครับว่าจะไปได้แน่นอน ลองทำวิจัยตลาดง่ายๆ ดูก่อนสิครับ ลงทุนน้อยทำขายคนใกล้เคียงก่อน เช่นในออฟฟิศ หรือแถวบ้าน ฯลฯ ถ้าไปได้ดี ก็ค่อยสร้างขึ้นมาครับ จาก 1 กว่าจะถึง 100 ยังต้องเจออะไรอีกเยอะมาก บางที 1-2-3 อาจจะดี แต่พอเข้าขั้น 4 ปุ๊บเจอเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมา พับเลยก็มี เพราะฉะนั้นผมว่าควรเริ่มที่ 1-2-3-4-...... ก่อนแล้วถ้าถึง 20 แล้วจะข้ามไป 30 ก็จะง่ายกว่านะครับ เพราะพื้นฐานที่ผ่านมาน่าจะสอนอะไรได้พอสมควร ผิดพลาดยังไง ก็ยังพอจะแก้ปัญหาได้ แต่ถ้าคิดจาก 1 จะไป 50 เลยเนี่ย ต้องอาศัยดวงอย่างแรงเลยมั้งครับ ก็แค่หนึ่งความคิดเห็นนะ จากคนร่วมอุดมการณ์ จากคุณ : Girlyphobia - [ 12 ก.ค. 49 16:48:42 A:210.1.21.51 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอบกันหมดแล้ว ดีๆทั้งนั้น ไม่รู้จะเสริมอะไรดี ถ้าคุณคิดว่า คุณจะได้ทำงานที่คุณรัก ก็ไม่ต้องคิดมากเรื่องตลาด อะไรให้มันวุ่นวายหรอกครับ  ส่วนใหญ่คนที่รวยๆ ก็ทำงานที่ตัวเองรัก ทั้งนั้น ..ไม่เชื่อลองสังเกตุ ส่วนเรื่องเงินทุน มันก็แยกออกเป็น 2 อย่าง 1.คุณเป็นคนมีเครดิต  ถ้าจะหยิบยืมใครที่เขาเชื่อใจคุณได้  ผมคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องยาก  แต่ถ้าจะยืมคนเดียว 150,000 ถ้าเขามีก็ดีไป แต่ถ้าไม่มี คุณก็ต้องยืมหลายๆคน ถ้าคุณเป็นคนที่ เคยยืมเงินใครแล้ว จ่ายช้า หรือ ไม่จ่าย ตัดข้อนี้ทิ้งไปได้เลย 2. ถ้าคุณไม่มีเครดิต  คุณก็ต้องหาอะไรสักอย่าง พิสูจน์ตัวเองขึ้นมา  มันอาจจะไม่ใช่การลงทุน  แต่มันเป็นการลงแรงเพียงอย่างเดียว  และมันก็ช่วยได้จริงๆ  ( ผมเองก็เคยทำ ) เนื่องจากว่า ผมไม่ทราบว่า ธุรกิจของกิน มันเป็นอย่างไร  ผมจึงไม่สามารถแนะนำต่อได้ครับ...เสียดายจัง " ...วันนี้มองไปรอบๆตัว อาจจะมีเพียงกองอิฐ กองทราย แต่วันข้างหน้า มันอาจจะกลายเป็นตึกระฟ้า ...  เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวครับ ...ลุยเลย ..." แก้ไขเมื่อ 14 ก.ค. 49 09:59:34 จากคุณ : =[ชงเข้ม]= - [ 14 ก.ค. 49 09:58:24 ]