CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    *** ตั้งบริษัทใครว่ายากกก?....... (ตอนทุนจดทะเบียน) ***

        คำถามอันดับต้นๆของการจัดตั้งบริษัท หรือหจก. ก็คงหนีไม่พ้น  เรื่องของทุนจดทะเบียนของกิจการนั่นเอง ........   "ทุนจดทะเบียน ... เป็นเท่าไหร่ดี”  คือคำถามที่มักได้ยินกันอยู่บ่อยๆ จนชิน และส่วนมากก็มักจะได้รับคำแนะนำจากผู้หวังดี (หรือเปล่า?) ว่าต้องเป็นเท่านั้นบ้าง  เท่านี้บ้าง เช่น จด 1 ล้านไปเลย   ไหนๆ ทุนในช่วง  35 บาท - 1 ล้านบาทแรกก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเท่ากันอยู่แล้ว    หรือบางคนก็ว่า 2 ล้าน  บางท่านก็อาจจะเป็น 5 ล้าน 10 ล้าน    หรือให้จดมากๆ ไว้ก่อนนั่นแหละดี จะได้ดูน่าเชื่อถือ ทำให้มีมีอำนาจต่อรอง.........

        เรื่องทุนจดทะเบียนนั้นตามกฎหมายแล้ว  สำหรับกิจการทั่วไป ไม่ได้บังคับว่า  ทุนจดทะเบียนของกิจการจะต้องมีเท่านั้นเท่านี้  จะมากน้อยแค่ไหนก็สุดแล้วแต่ใจผู้ก่อการ   ยกเว้นกิจการบางประเภทที่มีกฎหมายเฉพาะควบคุม  อย่างเช่น บริษัทประกันภัยต่างๆ เป็นต้น ที่จำเป็นจะต้องมีทุนจดทะเบียน    และทุนที่เรียกชำระแล้วให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

        ทุนจดทะเบียนนี้ ปกติกิจการแต่ละแห่ง จะกำหนดจำนวนขึ้นตามความเหมาะสมของตัวธุรกิจนั้นๆ   เช่น ถ้าเป็นกิจการที่ผลิตสินค้า    ก็จะต้องมีทุนมากหน่อยเพราะต้องลงทุนในเครื่องจักร และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ สูง... แต่ถ้าเป็นกิจการที่ให้บริการต่างๆ ก็จะใช้ทุนน้อยกว่า เพราะเน้นที่ตัวบุคคล ทักษะ ความรู้ความสามารถเป็นหลัก

        แล้วเราจะทราบได้อย่างไรละครับว่าจะต้องใช้ทุนจดทะเบียนประมาณเท่าไหร่?

        ง่ายๆครับ วิธีที่ทำให้เราทราบว่า จำนวนทุนจดทะเบียนของกิจการ ควรเป็นเท่าไหร่ดีนั้น ก็ด้วยการทำ “ประมาณการกระแสเงินสดรับ – จ่าย” โดยจัดทำเป็นรายเดือน ตลอดอายุของโครงการนั้นๆ ในการจัดทำประมาณการกระแสเงินสดนี้  ถ้าจะให้ได้ตัวเลข   ที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุดก็ควรที่จะต้องศึกษา ทำความเข้าใจในตัวธุรกิจที่จะทำให้ดีเสียก่อน ก็ได้แก่ ตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการ ราคา สถานที่ การส่งเสริมการขาย และบุคคลากร (5P’s หรือ8P’s สำหรับธุรกิจบริการ)  
     
        นอกจากนี้ก็จะต้องคอยประเมินผล  และปรับปรุงประมาณการเหล่านั้นอยู่เป็นประจำ   เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน สามารถนำมาใช้เพื่อการตัดสินใจได้ตลอดเวลา

        การจัดทำประมาณการเงินสดรับ – จ่าย นี้  ไม่ควรน้อยกว่า 24 เดือนนะครับ..... โดยจำนวนทุนจดทะเบียน เราจะดูได้จากยอดรวมของจำนวนเงินสดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน ตลอดระยะเวลาของโครงการนั้นๆ  บวกด้วยจำนวนเงินสดที่อาจต้องการสำรองไว้เผื่อฉุกเฉิน     หักด้วยจำนวนเงินสดที่รับเข้ามาสู่กิจการ(รวมเงินกู้) ผลลัพธ์ที่ได้คือเงินสดส่วนที่ขาด ซึ่งเจ้าของกิจการต้องหาเงินมาใส่ลงไป

        สรุปว่า ทุนจดทะเบียนก็คือ  ผลรวมของเงินสดที่อาจจะขาดมือ (จำนวนเงินที่ต้องจ่าย ซึ่งมากกว่าเงินที่ได้รับ) ในแต่ละเดือน   ตลอดอายุของโครงการนั้นๆ ครับ…….

        ตัวอย่างที่1 ประมาณการกระแสเงินสดรับ – จ่าย รายเดือน สมมุติว่าไม่ได้มีการกู้ยืมเงินมาดำเนินการ มีเงินสดที่จะต้องจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ปกติเดือนละ 40 ล้าน มีสำรองเงินสดเผื่อฉุกเฉิน 10 ล้าน มีเงินสดรับจากลูกค้าเดือนละ 10 ล้าน และอายุโครงการ 4 เดือน

         รายการ          เดือนที่1  2        3       4      รวม
    กระแสเงินสดรับ         -        -      10      10      20
    กระแสเงินสดจ่าย      50      50     50      50     200
    กระแสเงินสดสุทธิ    (50)   (50)   (40)   (40)   (180)

        ยอดรวมของกระแสเงินสดสุทธิออกมาติดลบ (เงินสดขาดมือ) เป็นจำนวน 180 ล้าน ซึ่งจำนวนเงินสดขาดมือ 180 ล้านนี้    คือทุนจดทะเบียนที่เหมาะสมสำหรับกิจการนี้ครับ......    

        ตัวอย่างที่2  สมมุติว่ามีเงินกู้ยืมมาดำเนินการในเดือนที่ 4 30 ล้าน   และมีการรับชำระเงินมาจากลูกค้าเพิ่มจากตัวอย่างก่อนอีก 15 ล้าน ไม่มีสำรองเงินสดเผื่อฉุกเฉิน และอายุโครงการ 4 เดือน

         รายการ          เดือนที่1  2        3       4      รวม
    กระแสเงินสดรับ         -        -      10      55      65
    กระแสเงินสดจ่าย      40      40     40      40     160
    กระแสเงินสดสุทธิ    (40)   (40)   (30)     15     (95)

        ยอดรวมของกระแสเงินสดสุทธิออกมาติดลบ (เงินสดขาดมือ) เป็นจำนวน 95 ล้าน ซึ่งจำนวนเงินสดขาดมือ 95 ล้านนี้    คือทุนจดทะเบียนที่เหมาะสมสำหรับกิจการนี้ครับ

        บางคนอาจจะบ่นว่า "ยุ่งยาก ไม่อยากคำนวณ  จดทะเบียนให้ทุนมากๆ แล้วเรียกชำระเต็ม 100% ไว้ก่อนดีกว่า ง่ายดี คนอื่นเขาทำกันเยอะแยะไป"  อันนี้ก็ตามใจครับ  ถ้าคุณมีเงินทุนที่จะใส่เข้าไปในบริษัทเมื่อไหร่ก็ได้อยู่แล้วก็คงไม่มีปัญหาอะไร  แต่ถ้าไม่แล้วล่ะก็ ! ขอแนะนำว่า "ทำประมาณการกระแสเงินสดก่อนดีกว่าครับ เพราะจดสุ่มสี่สุ่มห้าไป มักจะมีปัญหาตามมาภายหลังเสมอ” แล้วตอนหน้าเรามาดูกันว่าปัญหานั้นคืออะไร ........

                                                       เชื่อเถอะ......คุ้ม

    แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 49 13:43:48

    จากคุณ : ACM - [ 24 ส.ค. 49 13:42:27 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com