เป็นอย่างไรบ้างครับกับ 2 ตอนที่ผ่านไปหวังว่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ เรามาต่อกันกันอีกนิดสำหรับเรื่องหุ้นลม ว่าชีวิตของนายจิตจะเป็นอย่างไรต่อไปหลังจากที่ต้องเป็นลูกหนี้เงินกู้ยืมกรรมการไปแล้ว นายจิตได้ตั้งข้อสังเกตว่าแล้วสามารถ ใช้วิธีทางการบัญชีโดยสร้างค่าใช้จ่าย ให้เกิดขึ้น แล้วล้างลูกหนี้เงินกู้ยืมกรรมการออกไป อันนี้ก็ทำได้ครับ(แถมแถมเป็นที่นิยมอีกต่างหาก) แต่ขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าผิดกฎหมายนะ (วางแผนให้ดีอย่าให้ถูกจับได้ละ) จะไม่ผิดได้ไง......ก็สร้างหลักฐานเท็จกันเห็นๆ แถมค่าใช้จ่ายที่ต้องสร้างขึ้นก็จะเป็นจำพวก ค่าบริการค่าที่ปรึกษาต่างๆ ซึ่งเมื่อจ่ายเงินออกไป (แม้ไม่ได้จ่ายจริงก็ตาม) จำเป็นต้อง หักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งเฮียสรรแกอีกต่างหากแล้วถ้าเฮียแกจับได้อีกละว่าเป็นรายการเท็จ......เฮ้อ ทำให้ถูกต้องซะแต่ทีแรกก็หมดเรื่องแล้ว นี่ดีนะว่าเรื่องนี้เกิดกับบริษัทของนายจิตเองเพียงคนเดียว ชื่อคนอื่นที่ใส่ไว้ก็แค่ถือคนละหุ้นเดียว ถ้ามีคนอื่นมาถือหุ้นใหญ่ร่วมบริหารงานด้วยจะเป็นไงบ้างน้อ........ไม่อยากจะคิด คงวุ่นวานน่าดู
คราวนี้เรามาพูดกันถึงความผิดตามกฎหมาย!!........กันดีกว่าครับว่า นายจิตจะต้องโดนอะไรอีกบ้าง หลังจากที่ตัวเองต้องเป็นหนี้บริษัทเพราะความไม่รู้เรื่องของตัวเองแล้วแท้ๆ นายจิตคงไม่รู้ด้วยซ้ำครับว่าตนเองแจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ตั้งบริษัท จะไม่ให้ผิดได้อย่างไรละครับก็ตัวมีเงินแค่ 1,000,000 บาท ดันทะลึ่งไปแจ้งว่าได้รับชำระค่าหุ้นเต็มแล้วเป็นจำนวน 10,000,000 บาท อย่างนี้ก็โดนเต็มๆ ครับ ตามพ.ร.บ. กำหนดความผิดฯ มาตรา 15 บริษัทจำกัดใดลงพิมพ์หรือแสดงจำนวนต้นทุนของบริษัทโดยฝ่าฝืนมาตรา 1149 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท (เป็นโทษปรับบริษัท)
ส่วนตัวนายจิตนั้นจะมีโทษตามมาตรา 25 ในกรณีที่บริษัทจำกัดใดกระทำความผิดตามมาตรา 7 ถึงมาตรา 24 กรรมการของบริษัทนั้น หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทนั้น ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกิน 50,000 บาท
เกิดวันดีคืนซวยมีคนแอบไปแจ้งความกล่าวโทษนายจิต ว่ากระทำผิดกฎหมายละก็ !.......... นี่ยังไม่ได้ตรวจดูอีกนะว่าบริษัท ของนายจิต ได้เคยมีการเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นภายใน 6 เดือนนับแต่จัดตั้งบริษัทและให้มีการประชุมอย่างว่าอีกอย่างน้อยปีละครั้งหรือเปล่า.....มีการจัดทำใบหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นหรือเปล่า......ได้ทำบัญชีถูกต้องหรือไม่.........................ฯลฯ ทุกข้อที่กล่าวมาถ้ามีการตรวจแล้วไม่กระทำมีความผิดนะครับจะหาว่าหล่อไม่เตือนไม่ได้นะ
คิดๆดูแล้วก็น่าเห็นใจผู้ประกอบการนะครับ ที่จะทำตัวให้เป็นคนดีถูกต้องตามกฎหมายทำไมมันยากเย็นนัก แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ผู้ประกอบการไทยยังคงละเลยถึงความรู้ทางด้านกฎหมาย บัญชี ภาษี การบริหารองค์กร ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นไม่แพ้เรื่อง จะขายยังไงให้ได้กำไร
..
ตอนหน้าเรามาดูกันดีกว่าว่าแล้วถ้าไม่มีเงินแต่มีความสามารถจะมีหุ้นกับเขาโดยที่ไม่ต้องเป็นหุ้นลมได้หรือเปล่า ! การจดทะเบียนบริษัท โดยการชำระค่าหุ้นด้วยสินทรัพย์และแรงงาน ! คืออะไร.......
เชื่อเถอะ......คุ้ม
อ่านบทความตอนที่แล้วได้ที่:
http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B4650851/B4650851.html
http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B4653583/B4653583.html
จากคุณ :
ACM
- [
28 ส.ค. 49 09:14:32
]