CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    *** ตั้งบริษัทใครว่ายากกก?....... (ตอนที่5 แปลงแรงให้เป็นทุน) ***

    ตอนที่แล้วผมได้กล่าวถึงการจดทะเบียนด้วยสินทรัพย์และแรงงานโดยได้ยกตัวบทกฎหมายประกอบไปแล้วนั้น  วันนี้เรามาพูดถึงเรื่องการแปลงแรงให้เป็นทุนกันดีกว่าว่ามันมีรายละเอียดอย่างไรกันบ้าง  ยังนับว่าเป็นโชคดีของเราๆ ท่านๆ.............ที่กฎหมายเปิดช่องทางให้คนที่ไม่มีเงินสามารถเป็นเจ้าของหุ้นได้ด้วยการลงแรงหรือแลกด้วยสินทรัพย์เพื่อจะได้เป็นเจ้าของบริษัท

        แต่.............อนิจจัง  ที่เฮียสรร..ของเราดันทะลึ่งมองว่าการได้มาซึ่งหุ้นของเราด้วยการทำงานแลกมา เช่น ทำงานแลกหุ้นเดือนละ100,000.- บาท  เป็นเวลาติดต่อกัน 10 เดือน  เพื่อให้ได้หุ้นมูลค่า 1 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10.- บาท นั้น.....................คือรายได้   เฮียแกว่า

    1.   คุณมีรายได้ 1 ล้านบาทในปีนั้น..... !
    2.   คุณจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90/91.....
    3.   ในกรณีที่มีรายได้ตาม 1. อย่างเดียว จะต้องเสียภาษีเงินได้ดังนี้ครับ
    รายได้                             1,000,000.-
    หัก  ค่าใช้จ่ายส่วนตัว               60,000.-
    คงเหลือเงินได้                      940,000.-
    หัก  ลดหย่อน                        30,000.-
    เงินได้สุทธิ                          910,000.-

    เงินได้    100,000  บาทแรก                       ยกเว้นภาษี
    100,001 – 500,000   อัตราภาษีร้อยละ  10     40,000.-
    500,001 – 910,000   อัตราภาษีร้อยละ  20     62,000.-
                                                  รวม        102,000.-
    สรุปเป็นอันว่าต้องเสียภาษีทั้งสิ้น  102,000.- บาท


        กรรม......กรรมจริงๆ งานนี้  เงินก็ยังไม่ได้รับแม้แต่แดงเดียวไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนหรือเงินปันผลแต่อย่างใด อะไรจะโชคดีปานนั้นที่ต้องมาเสียภาษีอีก แล้วจะทำไปทำไมวะนี่เรา.....กฎหมายท่านอุส่าเปิดช่องเอาไว้ให้คนไม่มีเงินแต่มีความสามารถก็สามารถเป็นเจ้าของบริษัทได้  แต่เฮียแกกลับจะมาคิดภาษีจากหุ้นที่ได้  บ้านเมืองเราก็แบบนี้แหละครับกฎหมายยังคงไปกันคนละทิศละทาง

    แต่.......แต่.......แต่ถ้าเป็นแบบนี้ละ
    1.  แรงงานแลกหุ้น 1 ล้านบาท ทำการแถลงในที่ประชุมจัดตั้งบริษัท ว่ามีคน 10 คนประสงค์จะแปลงแรงงานเป็นหุ้น โดยแต่ละคนจะแปลงแรงงานเป็นหุ้นกันคนละ 100,000.- บาท / คน  รวม 10 คน  เป็นเงิน 1 ล้านบาท  ได้หุ้นกันไปคนละ 10,000 หุ้น  หุ้นละ 10 บาท
    2.  มีรายได้ปีละ 100,000.- บาท ได้รับยกเว้นภาษี...
    3.  เมื่อครบ 10 เดือน  หุ้นของทุกคนก็เสมือนได้ใช้จนเต็มมูลค่าแล้ว
    4.  ทีนี้ให้ 9 จาก 10 คนนั้นโอนหุ้นมาให้ท่านซะ ในราคาทุน  (10 บาท / หุ้น)  โดยทำสัญญาโอนซื้อขายหุ้นกันอย่างถูกต้อง  (ไม่ต้องเสียภาษีใดๆ เลย)
    5.  หุ้นก็จะเป็นของท่านแล้ว  

    ............................คิดได้ยังไงวะนี่
     

        ผมว่าทุกท่านรวมทั้งนายจิตกรรมการโรคจิตของเรา คงพอจะเข้าใจวิธีการแปลงแรงงานเป็นหุ้นแล้ว.....และหลายๆ ท่านที่ยังกังวลกับการแปลงแรงงานเป็นหุ้น ก็เฮียแกดันถือเสมือนว่าหุ้นที่ได้รับมานั้นคือรายได้ และต้องเสียภาษี คงสบายใจกันได้ ไม่ต้องนึกน้อยใจในโชค วาสนาของตัวเอง ที่ไม่มีเงิน พอจะมีก็แต่ความรู้ความสามารถที่จะได้เป็นเจ้าของบริษัท โดยเอาแรงแลกมา กลับต้องหาเงินมาเสียภาษีเสียทีนะครับ.....

        หลายท่านคงจะถึงบางอ้อไปแล้วกับการกระจายแรงงานเป็นหุ้นจาก 1 คน เป็น 10 คน แต่ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่รู้กันนะ

        มาพูดกันต่อถึงเรื่องที่อาจจะทำให้คนที่ไม่มีเงิน แต่อยากจะเป็นเจ้าของบริษัท เลยเอาทรัพย์สินที่ตนมีอยู่มาแลกหุ้น เช่น คอมพิวเตอร์ รูปภาพ แฟ้ม อุปกรณ์สำนักงาน โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ …ทั้งหมดที่เป็นสินทรัพย์สามารถแลกเป็นหุ้นได้ครับ (ถ้าที่ประชุมยอมรับ) ก็กำหนดกันไปว่าจะยอมให้ทรัพย์สินนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ สามารถแลกหุ้นได้กี่หุ้นก็ว่ากันไป..... กรณีสินทรัพย์นี้ถือเป็นสังหาริมทรัพย์ คือทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้และเป็นของเก่า งานนี้กฎหมายยอมให้ผู้ที่เอาทรัพย์สินเก่าๆ แลกหุ้นไม่ต้องยื่นแสดงการได้หุ้นนั้นมา ว่าเสมือนกับมีรายได้อย่างกรณีแรงงาน การเอาทรัพย์สินแลกหุ้นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะไม่ต้องเสียภาษี เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่มีเงินแต่มีความพยายามที่จะเป็นเจ้าของบริษัท

                 ตั้งบริษัทได้แว้วววววววว...................

        ในที่สุดทุกท่านก็คงพอที่จะเห็นแนวทางในการตั้งบริษัทแล้วนะครับว่าจะต้องทำอย่างไร และหลายๆ ท่านคงคิดว่าบทความนี้คงเดินทางมาถึงตอนจบแล้ว.............แต่ช้าก่อนครับ หลังจากที่ทุกท่านตั้งบริษัทได้แล้วยังมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องทำให้ถูกต้องตามกฎระเบียบต่างๆ แน่ใจแล้วหรือว่าท่านรู้.....ว่าต้องทำอะไรอีกบ้าง !

                                             เชื่อเถอะ......คุ้ม

    ติดตามอ่านบทความตอนที่ผ่านไปแล้วได้ที่
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=acmerril

    จากคุณ : ACM - [ 30 ส.ค. 49 08:21:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com