PANTIP.COM : B4918886 4P's เชิญผู้รู้ทุกท่านช่วยมาให้คำตอบเป็นวิทยาทาน หน่อยครับ [การตลาด]

ความคิดเห็นที่ 4

4P’s อันเนื่องจากที่มันประกอบไปด้วยส่วนผสมจาก P 4 ตัว คือ Product, Price, Place และ Promotion
Product - หมายถึง ตัวผลิตภัณฑ์ หรือสินค้า ที่เราผลิตหรือคิดค้นขึ้นมาให้บริการแก่ ผู้บริโภค นั่นเอง
Price - หมายถึง ราคา ที่เราตั้งในการขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นๆ ไปยังร้านค้าหรือผู้บริโภค ซึ่งทฤษฎีในการตั้งราคานั้น เขาสอนกันทั้งเทอมในระดับมหาวิทยาลัย แต่สำหรับผมในที่นี้ พอพูดได้สั้นๆ ว่า การตั้งราคาสินค้านั้น มีอยู่ 3 แนวทางด้วยกัน คือ 1 ตั้งราคาให้สูงกว่าคู่แข่ง
2 ตั้งราคาให้เท่ากับคู่แข่ง และ 3 ตั้งราคาให้ต่ำกว่าคู่แข่ง ส่วนจะเลือกแนวทางไหนนั้น ก็ต้องแล้วแต่กลยุทธ์ในขณะนั้น ตัวอย่างเช่น เบียร์ เมื่อตอนที่ คลอสเตอร์เบียร์ ออกมานั้น เขาได้ใช้กลยุทธ์การตั้งราคาที่สูงกว่าคู่แข่ง นั่นก็คือ สิงห์ เพื่อให้เกิดความรู้สึกของเบียร์ระดับ Premium และเป็นเบียร์ Import กลยุทธ์นี้สำเร็จ เพราะทำให้คลอสเตอร์สามารถแจ้งเกิดได้ และพอมี Margin ที่จะใช้ในการต่อกรกับสิงห์ ในขณะที่เบียร์ช้าง ตอนแจ้งเกิดนั้น ได้ใช้กลยุทธ์ของการตั้งราคาต่ำกว่าเบียร์สิงห์ เพราะต้องการให้ผู้บริโภคได้ทดลองดื่มเบียร์ช้างดู ประกอบกับช่วงนั้น เป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยกำลังแย่ ผู้คนไม่มีเงินแต่ก็อยากดื่มเบียร์ ทำให้ลองดื่มเบียร์ช้าง และนั่นเป็นข้อผิดพลาดอย่างมหันต์ของสิงห์ที่ overlook ช้างไป และไปขึ้นราคาในช่วงนั้นอีก เบียร์ช้างเลยได้แจ้งเกิดเช่นกัน และได้กลายมาเป็นผู้นำในขณะนี้
Place - หรือช่องทางการจัดจำหน่าย ในอดีตนั้น เมื่อเราพูดถึงช่องทางการจัดจำหน่าย เราหมายถึงการขายสินค้าผ่าน ยี่ปั๊ว และซาปั๊ว หรือผ่านร้านค้าส่ง และไปยังร้านค้าปลีกในปัจจุบัน ได้เกิดร้านค้าประเภท Hyper mart และ Discount Store อย่างพวก Makro, Lotus, Big C, Carrefour เป็นต้น ทำให้ผู้ผลิตสามารถขายโดยตรงถึงร้านพวก Modern Trade นี้ได้อย่างสบายและประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะร้านพวกนี้ จะสั่งซื้อกันทีละมากๆ
Promotion - การส่งเสริมการขาย ประกอบด้วย การโฆษณา(Advertising) การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion) พนักงานขาย (Personal Selling) และ การประชาสัมพันธ์ (Publicity) ในอดีตแต่ละกิจกรรมต่างคน ต่างทำ คนทำโฆษณา ก็ทำไป คนที่คิดจะส่งเสริมการขาย ก็ทำไป คนที่จะอบรมพนักงานขายก็ทำไป และคนที่ทำประชาสัมพันธ์ ก็ทำไป โดยที่แต่ละคนหรือแต่ละส่วนไม่เคยมีการประสานงานหรือพูดคุยกันเท่าไหร่ หลังจากที่โลกได้วิวัฒนาการด้านคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะด้าน Internet ทำให้ระบบการสื่อสารในโลกนี้ ปรับเปลี่ยนไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ธุรกิจต่างๆ ได้เปลี่ยนโฉมหน้าไปในทันที ใครที่อยู่ในกระแส และได้ปรับตัวนำเอาเทคโนโลยีของ Internet มาใช้ก่อน ก็ได้เปรียบก่อน เพราะมันช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการสื่อสารไปได้อย่างมหาศาล อย่างเช่น ผมมีบริษัทเพื่อนบริษัทหนึ่งที่ติดต่อธุรกิจกับต่างประเทศเป็นประจำ และต้องใช้ FAX เป็นประจำทุกวัน วันละหลายสิบครั้ง พอผมแนะนำให้เขาปรับเปลี่ยนไปใช้ E-mail แทน ทำให้เขาสามารถ

จากคุณ : Nomane - [ 29 พ.ย. 49 09:55:53 ]