Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ผมมองว่า ห้างยักษ์รุกเร็ว+สินค้าจีน+เทคโนโลยีดิจิตอล+การศึกษาล้มเหลว ทำให้คนหมดอาชีพไปเยอะ

    อาชีพค้าขายแบบเดิมๆริมถนนตายหมด เพราะมันไม่สะดวกเท่าไปห้างยักษ์ ไม่พอ เมื่อมีกม.ออกมายังมีการเลี่ยงบาลีไปเปิดแบบเอ๊กซ์เพรส ไปถึงกลางซอยยังมีเลย ถ้ามีที่ว่าง

    ตึกแถวสมัยนี้ถ้าไม่ใช่ย่านพักอาศัยหนาแน่น ก็มีแต่มาเปิดอาหารตามสั่ง ก๊อกๆแก๊กๆ หรือไม่ก็แปรสภาพเป็นอาชีพกลางคืน ทั้งๆที่รถติด รถแน่น มีคนสัญจรไปมาอยู่แล้ว

    อาชีพผลิตสินค้าจำพวกเครื่องไฟฟ้าก็สู้จีนกับไต้หวันไม่ได้ กลายเป็นว่า คนก็แห่กันไปสั่งของจากจีน แล้วก็มาฟาดฟันราคากันเอง แย่งเค้กที่มันชิ้นเล็กอยู่แล้ว ในขณะที่จีน+ไต้หวัน มันมีตลาดทั่วโลก

    สังเกตว่ามีกระทู้แบบว่า เปิดร้านเน็ตดีไหม ขายก๋วยเตี๋ยวดีไหม ขายเสื้อผ้าดีไหม ล้วนมีแต่คนออกมาเตือนสติว่าให้คิดให้รอบคอบก่อน ซึ่งดูเหตุผลที่เขาว่ามา ก็คงไม่ใช่การสกัดดาวรุ่งแน่นอน

    ผ่านไปแต่ละที่สมัยนี้ ร้านดัดผมหญิง ร้านตัดผมชาย นอกจากจะเยอะแล้ว ยังเปิดแบบเรียงติดกัน 3 ร้านก็มีครับ ลูกค้าก็เฉลี่ยกันไปหรอมแหรม

    หันไปมองอีกอาชีพ เช่น ร้านรับล้างอัดรูป พอดิจิตอลเข้ามา ความจำเป็นที่จะต้องไปอัดรูปก็น้อยลง ใหม่ๆอัดรูปจัมโบ้ ใบละ 6 บาท ต่อมา 5 บาท เดี๋ยวนี้เริ่มเห็นอัดแค่ไม่กี่สิบใบ ต่อมา 4 บาท ใบละ 3 บาทบางร้านยังยอมอัดเลย เป็นไปได้ไงเนี่ย ถ้าไม่มีรายได้จากการถ่ายรูปติดบัตร อัดรูปพิเศษ จะเหลืออะไร

    อาชีพรับทำนามบัตร ตรายาง ก็ดาดดื่นมาก แต่ละมอลล์ จะมีคนรับทำเฉลี่ย 4-5 เจ้า

    ร้านเบเกอรี่ ขายส่งเบเกอรี่ ก็เปิดแบบเป็นดอกเห็ด ไปคุยดู ส่วนใหญ่เปลี่ยนอาชีพมาจากค้าส่งอุปกรณ์ไฟฟ้าบ้าง ค้าส่งโน่นนี่บ้าง แล้วคำตอบเหมือนกันคือ เจอจีนตีครับ

    หรืออาชีพขายผลไม้เดี๋ยวนี้ ส้มไทยเงียะ เหลืออื้อเลยครับ ถูกๆก็ไม่มีใครอยากกิน เพราะมันสู้ส้มจีน ที่มันอร่อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด


    ลูกหลานของคนที่ประกอบอาชีพที่ว่ามาเหล่านี้ กลายเป็นว่า จบมาก็ต้องไปเป็นลูกจ้างบริษัทยักษ์ๆ ไม่ว่าจะของคนไทย ลูกครึ่ง หรือต่างชาติกันมากจริงๆ

    คนที่จบปริญญามามีเยอะแยะ ลงทุน ลงแรง ไปเยอะ แต่ต้องมาประกอบอาชีพที่แต่ก่อนคนจบแค่มัธยมออกมาก็ทำได้ เรียกว่า overqualified

    และในขณะที่ต้นทุนสถานที่ใช้ทำมาหากินก็ทะยานขึ้นครับ ค่าครองชีพก็สูงขึ้น


    แล้วก็ลงมาแข่งกัน ทำผ้าม่าน มุ้งลวด เปลี่ยนยาง ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป (ซึ่งผมไม่คิดว่า อาชีพเหล่านี้จะรอดพ้นเงื้อมมือต่างชาติในอนาคต เพราะเคยไปเห็นว่า ในต่างประเทศ ห้างยักษ์ลงมาเปิดขายแว่นตา วัดสายตา ติดเครื่องเสียงรถยนต์ เปลี่ยนยาง ซ่อมรถ ตกแต่งบ้าน เสียเอง เสร็จแล้วมันก็ไป sub ต่อให้รายเล็กรายน้อย เงินส่วนหนึ่งก็คือกำไรที่ต้องแบ่งออกไป แปลว่า อีกหน่อยประเทศไทยอาจจะเป็นอย่างนั้น)

    มันเหมือนกับว่า คนที่อยู่ข้างบนลดตัวลงมาทำอาชีพแข่งกับคนที่อยู่ตรงกลาง แล้วมันมีคนที่อยู่ตรงกลางส่วนหนึ่ง ลดตัวลงมาแข่งในอาชีพเดียวกับคนที่อยู่ล่างสุด

    มันไม่ใช่เพิ่งมาเกิด แต่มันเกิดมาตั้งแต่ก่อนวิกฤต 40 แล้ว และหลังปี 40 ยิ่งหนักขึ้น ถ้าจะว่า คนไทยไม่ปรับตัวเหรอ ก็คงใช่ แต่จะปรับตัวยังไงล่ะ นึกไม่ออกจริงๆ

    ผมไม่ได้บอกว่า อย่าไปทำเลยขายก๋วยเตี๋ยว อย่าไปทำเลยขายของกิน อย่าทำเลยขายเสื้อผ้า อย่าทำเลยนามบัตรตรายาง ไม่ใช่ เพราะทุกคนก็ต้องหาโอกาสทำมาหากิน ดิ้นรนกันไป ก็หนทางมันมีอยู่เท่านี้

    ตอนนี้ผมก็สังหรใจว่า อาชีพผมจะเป็นเหยื่อรายถัดไปในไม่ช้า

    ไม่ได้ว่าต้องการชาตินิยมอะไร เพียงต้องการสะท้อนมุมมองตัวเองว่า โอกาสได้ผุดได้เกิดจะน้อยลง และถ้าจะได้ผุดได้เกิดขึ้นมาได้ จะไม่ได้มาจากเราไปกินเขา ส่วนใหญ่เกิดจากการกินเนื้อกันเอง แล้วก็ได้ผุดได้เกิดขึ้นมา ความเหลื่อมล้ำมันจะมีมากขึ้น ความถ้อยทีถ้อยอาศัย ความเป็นมิตรในสังคมนี้จะหมดไป กลายเป็นความหวาดระแวง จ้องจะฟาดฟันมากขึ้น

    จากคุณ : คุณว่าไหม - [ 28 ธ.ค. 49 17:56:50 A:125.24.4.150 X: TicketID:064373 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom