ก็ว่างั้นแหละ (10 คน)
	เจ้าของกระทู้งี่เง่าน่า ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก (1 คน)
	จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 11 คน

	90.91%
	9.09%

สังเกตุเห็นว่าในปัจจุบัน ธุรกิจขายตรงไม่ได้มุ่งแต่โฆษณาตัวสินค้า  แต่ยังโฆษณาโดยหวังผลในการเข้าเป็นเครือข่ายอีกด้วย  รวมทั้งธุรกิจประเภทประกันชีวิต  และธุรกิจการทำงานบนอินเตอร์เน็ต
ซึ่งผมสังเกตุดูด้วยตัวเองเห็นว่า  น้อยรายนักที่จะพูดถึงความเสี่ยง  ซึ่งมีเหมือนกับธุรกิจทั่วๆ ไป  น้อยรายจะพูดถึงสัดส่วนระหว่างคนที่ไม่ประสบความสำเร็จกับคนที่ก้าวหน้าไปได้  น้อยรายที่จะ"ไม่"พูดถึงความสำเร็จทางวัตถุเช่น  รายได้มากๆ ต่อเดือน  รถยนต์  บ้าน  สวัสดิการท่องเที่ยว ซึ่งจะพยายามเน้นมากๆ  น้อยรายที่จะ"ไม่"พูดถึงความง่ายความสบายในการทำงาน

ผมเป็นคนหนึ่งที่คิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับธุรกิจประเภทนี้  และก็เห็นความล้มเหลวของคนหลายคน เห็นความสำเร็จของคนบางคน  

บางคนเป็นเพื่อน  เป็นญาติ  เป็นรุ่นน้อง  ขณะที่เรียนอยู่มีผลการเรียนดี  มีความสามารถสูง  ซึ่งถ้าทำงานให้ตรงกับที่เรียนมาก็อาจจะไปได้ไกล  แต่เพราะเชื่อในคำโฆษณาจึงได้มาทำงานประเภทนี้  แน่นอนว่ามีคนที่ไปได้สวย  แต่คนที่ไปได้เสียก็ไม่น้อย  คนที่ไปไม่รอด เมื่อกลับลำไปทำงานตามที่เรียนมา  ก็ไปได้ช้ากว่าเพื่อนที่เคยร่วมทางกันมาซะแล้ว  บางคนที่ทำงานประจำทั้งราชการและเอกชนหันมาเอาดีทางด้านนี้  แรกๆ ก็ดูเหมือนว่าจะดี  แต่พออิ่มตัวก็เริ่มลำบาก  พอหันกลับไปทางเดิม  ก็เหมือนกับว่าเดินสะดุด  เสียเวลาไปมากกว่าจะได้ทั้งตำแหน่งหน้าที่  และความก้าวหน้ากลับมา

ก็เลยมานั่งคิดนอนคิดว่า    ถึงเวลาหรือยังหนอ  ที่จะมีคำเตือนเช่นเดียวกับข้างซองบุหรี่ เช่น "ควันบุหรี่ทำให้หัวใจล้มเหลว"  หรืออย่างที่เขาเตือนก่อนลงทุนว่า  "การลงทุนมีความเสี่ยง...." หรือที่ป้ายโฆษณาเหล้า ว่า "การดื่มสุราทำให้ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะลดลง"


ในส่วนนี้ก็อาจเป็นว่า

"ผู้ทำธุรกิจควรศึกษาความเป็นไปได้ด้วยตัวเองโดยใช้ปัญญา นำหน้ากิเลส ก่อนการตัดสินใจ"
"ถ้าไม่เห็นความเจริญภายในหกเดือนควรถอนตัว"
"มิตรภาพกับธุรกิจไปด้วยกันได้  ตราบใดที่คุณไม่เอาแต่ขายของให้เพื่อน"
"เงินทองคือมายา  ข้าวปลาเป็นของจริง"
"รักพ่อ  ให้พอเพียง"
"งานหนักไม่เคยฆ่าใคร"
"แนวทางธุรกิจอาจทำร้ายคนใกล้ชิด"
"คำโฆษณาทำให้ความสามารถในการเลือกทางเดินชีวิตลดลง"
"การประชุมทำให้อคติโป่งพอง"