ความคิดเห็นที่ 4
และช่วงที่ เกิดเหตุการณ์วิกฤตปี 2540 นั้นเองได้มีบริษัทต่างๆล้มระเนระนาดไป ทำให้มี ปรส และทำให้ผมเกิดอาชีพใหม่นั้น คือ การประมูลทรัพย์สิน ต่างๆ รวมทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไปขาย ซึ่งผมเอง ก็ได้สนใจและไปติดตามศึกษาและลองประมูล สำหรับผมซึ่งอายุ 21 ( ผมว่าผมน่าจะอายุน้อยที่สุด ที่เข้าตามไปประมูลเป็นอาชีพ ) ที่เและทำคนเดียวเองทั้งหมด ไม่ว่าตามไปประมูลตามที่ต่างๆ ทั่ว กทม เอาของซ่อมของช่วงนั้นผมนอนหลับคาเครื่องคอมที่ซ่อมทุกวัน หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้และต้องหาที่ขาย ไม่ว่าลงขาย ใน internet ไปขายคลองถม และไหนจะไปประมูลอีกเกือบทุกวัน ( จนไม่มีเวลาไปเรียน ) แน่นอนครับว่าการประมูล แบบนี้ก็ต้องมีคนสนใจที่ประมูลไปขายกันเยอะแยะ ครับและทำให้ผมรู้จักคนมากมายที่เข้าไปประมูลกัน นะและครับ ทั้งคนประมูลไปใช้และเอาไปขาย ที่นี้เองและครับ ทำให้ผมได้ฝึกวิทยายุทธ ต่างๆ ทั้ง ลูกเล่น , จิตวิทยา , การฮั๋วกัน , การต่อรอง . สารพัดครับ โชคดีที่ยุดนั้น คนซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ยังนั้นน้อยอยู่ เลยทำให้ผมประมูลเคริ่องคอมพิวเตอร์ที่เสียๆ นั้นราคาถูกกว่า เครื่องคอมที่ไม่เสียหลายเท่า ( ตอนนั้นค่าเงินบาท ลอยตัวจนคอมพิวเตอร์ใหม่ราคาเพิ่มขึ่นเท่าตัว จอ 17 CRT 29900 บาท ) แต่เมื่อระยะเวลาการประมูล ยาวนานมาก ( เฉพาะไฟแนนท์ ก็ 58 แล้วครับ และทยอยปิดตามมาอีก ทรัพย์ สินมากมายมหาศาล) ก็ เริ่มทำให้มีคนมาประมูลแข่งกันมากขึ้นนะครับ ผมเองก็ประมูลของมูลค่าได้ไม่สูงมาก เพราะทุนน้อยครับต่อครั้ง ก็ประมูลไม่กี่หมื่นบาทอย่างมากไม่เกินแสน แต่ท่านอื่นๆ หลายแสนถึงหลายล้าน ต่อครั้ง ต่อวัน และ ประมูลกันเกือบทุกวัน และตอนช่วงนั้นก็มีดีลที่ผมได้ไปต่อรองซื้อของเสียและตกรุ่นจำนวนมหาศาล จากบริษัทขายส่งคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง มูลค่าหลายแสนบาท ซึ่งราคาถูกกว่าไปประมูลอีกครับ แต่แน่นอนครับว่าผมต้องหาเงิน ทำให้ต้องไปยืมเงิน ญาติ ท่านอื่นๆ มาลงทุนด้วย และแน่นอนครับเมื่อเงินมาก คนมาก เรื่องก็มากขึ้น ผมสามารถขายของที่ซื้อมาล็อต นั้นได้เงินเป็นล้านบาท และได้เกิดมีปัญหาขึ่นมา เรื่องเงินๆ ทองๆ นะและครับ ด้วยความที่ผมเด็ก และเคยตัดสินใจด้วยตัวเองมาตลอด เพราะเค้าบอกทำเองได้เลย บ้างอย่าง ขายไปก็ไม่ได้จดบันทึก บ้างขายอะไรไป ก็ไม่ปรึกษา ญาติๆ แต่ผมไม่ได้โกงนะครับ พอได้ยินมาว่าเหมือนว่าเค้าจะไม่ไว้ใจผม ประกอบกับ การขาดประสบการณ์ของผม ทำให้ผม ต้องทิ้งทุกอย่างที่สร้างมาด้วยความน้อยใจ และทิธิ เงินเป็นล้านที่ผมหามานั้น ผมไม่สนใจเลย ผมก็ออกจากบ้านญาติ(ตลอดเวลาผมอาศัยบ้านเค้าอยู่ครับ ) มาโดยแทบจะไม่เหลือเงินเลยเพราะเงินผมให้ญาติๆ เค้าเก็บ ( พอสัก สอง-สามเดือน เค้าให้มา 5 หมื่นบาท ผมก็ให้เค้าโอนไปให้แม่ผมเลยครับ ด้วยความน้อยใจ ) เฮ้อ คิดแล้ว มันคือโชคชะตา จริงๆ ครับ
แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 50 09:06:40
แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 50 15:05:40
แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 50 15:04:09
จากคุณ :
boy2000
- [
2 ม.ค. 50 15:01:22
]
|
|
|