Cover Story





B- School





Small Biz





ถนนนักลงทุน





Local Biz





Property





ธุรกิจการตลาด





Travel Biz





Food Biz





I - Biz





Auto Biz




วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2549














เขย่าตลาดด้วย “สปีด”

นวัตกรรม เป็นสิ่งที่องค์กร และแบรนด์ทั้งหลายต่างแสวงหา เพราะเชื่อได้ว่า การก้าวก่อนคู่แข่งทำให้ได้เปรียบ และสามารถชิงความเป็นผู้นำในตลาดได้ เรื่องราวของความเร็ว จึงเข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการปั้นแบรนด์ และส่งสินค้าตัวใหม่ๆ ให้ไปถึงดวงดาว

เมื่อปีที่ผ่านมา เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของธุรกิจตระกูลเวอร์จิ้น ได้รับคำเชื้อเชิญจากโกธัม โชปรา นักธุรกิจชื่อดังให้เขาเข้าร่วมทุนกับนักลงทุนสัญชาติอินเดียที่กำลังวางแผนจะสร้างเครือข่ายเผยแพร่ธุรกิจการ์ตูน และธุรกิจภาพยนตร์แอนิเมชัน ซึ่งมีทั้งลิขสิทธิ์การ์ตูนจากค่ายมาร์เวล คอมมิกส์ และพิกซ่า อยู่ในนั้นด้วย

แบรนสันกล่าวว่า ธุรกิจใหม่นี้น่าจะเหมาะกับกลุ่มลูกค้าวัยเด็กของเวอร์จิ้น มันดูจะเป็นธุรกิจที่ท้าทาย ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงปนเปื้อนอยู่

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหลักของ ริชาร์ด แบรนสัน ชายที่กล้าและบ้าบิ่นที่สุดในโลกธุรกิจ ภายในไม่กี่เดือน แบรนสันเซ็นสัญญาและเริ่มเดินหน้าธุรกิจใหม่ของเขา แต่ปัญหาเดียวที่เกิดขึ้นคือ ดูเหมือนว่าพันธมิตรจะตามไอเดียของชายคนนี้ได้ไม่รวดเร็วเท่าไหร่นัก

“ผมต้องบินไปอินเดียอย่างเร่งด่วนเพราะต้องคอยไปเช็คว่าการทำงานยังคงเรียบร้อยและเป็นไปตามขั้นตอนที่เราวางแผนเอาไว้หรือไม่” เอเดรียน ซิงตัน หัวหน้าฝ่ายธุรกิจของเวอร์จิ้น บุคส์ กล่าว

โชคดีที่ไม่มีปัญหาอะไร และก้าวแรกกับการทำธุรกิจของเวอร์จิ้นส์ คอมิคส์ สื่อการ์ตูนก็เริ่มต้นขึ้น และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และในวันนี้ แบรนสัน กับซีอีโอของเขา ชารัด เทวาราจัน กำลังวางโครงการยักษ์ใหญ่สำหรับธุรกิจนี้

พวกเขาหวังว่าจะสร้างให้อินเดียเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับธุรกิจการ์ตูน คิดเป็นมูลค่าแล้วก็หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจับกลุ่มลูกค้าที่อายุไม่ถึง 20 ปี ในกลุ่มประชากรกว่า 500 ล้านคน และยังมองไปยังตลาดต่างประเทศอีกด้วย โดยเริ่มต้นจากนิยาย และเรื่องเล่าตามตำนานในอินเดีย นำมาจัดพิมพ์ในรูปแบบการ์ตูน

ปัจจุบัน มีนิยายปรัมปราของอินเดียที่กำลังจะวางจำหน่ายแล้ว 7 เรื่อง และมีแผนการจะส่งไปขายในประเทศแถบตะวันตก อย่างเช่น อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาด้วย

การที่เวอร์จิ้น ก้าวเข้าสู่ธุรกิจการ์ตูน เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติโฉมหน้าของธุรกิจตระกูลนี้อีกครั้ง เพราะดูเหมือนว่า ก้าวย่างครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับธุรกิจที่มีอยู่แต่เดิมเลย

ยิ่งไปกว่านั้น ระบบการตัดสินใจ และการทำงานที่รวดเร็วตามแบบฉบับของเวอร์จิ้น ดูจะสร้างความฉงนสนเท่ห์ให้กับโลกธุรกิจอยู่ไม่น้อย และนั่นคืออาวุธที่เวอร์จิ้นได้เปรียบ บริษัทระดับโลกหลายๆ แห่งทุ่มเงินจ้างนักวิชาการ และนักวิเคราะห์มองหาช่องทางใหม่ๆ ในการขยายตัวสู่ตลาดที่ใหม่ และใหญ่ขึ้น

นอกจากนั้น การแสวงหาสินค้าใหม่เพื่อไปตอบสนองตลาดเหล่านั้นก็ ดูจะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยเร่งเครื่องให้บริษัทโตเร็วได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน

เวอร์จิ้น คือหนึ่งตัวอย่างของธุรกิจที่ก้าวขึ้นมาจากวงการเพลง สายการบิน แต่สามารถแตกตัวออกสู่ธุรกิจหลากหลายรูปแบบ อาทิ โทรศัพท์มือถือ เครดิตการ์ด จักรยาน ฟิตเนส หนังสือ โรงแรม เกม รถไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่ง ธุรกิจการเดินทางสู่อวกาศ

“ไอเดียที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ ไม่ได้มีอยู่ดาดดื่น แต่ต้องเป็นจังหวะที่เหมาะ และกล้าที่จะฉวยโอกาสนั้น และแน่นอน เรื่องของความรวดเร็วในการตัดสินใจเป็นกุญแจสำคัญ” แบรนสัน กล่าว

อาจดูเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะผู้ผลิตแต่ละรายก็จะต้องใช้เวลาในการวิจัย และศึกษาวิธีการผลิตสินค้าใหม่ๆ อย่างเช่นที่นิสสัน มอร์เตอร์ ใช้เวลากว่า 21 เดือน ในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาด แต่ล่าสุด ฝ่ายบริหารมีมติให้ฝ่านพัฒนาสินค้าเร่งเครื่อง และใช้เวลาในการทำงานให้สั้นลง เหลืออยู่ที่ 12-18 เดือน และพยายามลดลงให้เหลือเพียงครึ่งปีให้ได้

และด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยี และตลาดแรงงานจากฝั่งเอเชียที่สามารถตอบรับกับกระบวนการผลิตที่มหาศาลได้ ทำให้เรื่องของความเร็วในการคิดค้นหาสินค้าใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องยากนัก ตราบเท่าที่บริษัทมีทรัพยากรเงินมากพอที่จะทุ่มลงไป

ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ แบรนด์เจ้าของเสื้อผ้าอย่าง H&M ที่รู้จักกันไปทั่วโลก ทุกครั้งที่มีแบบเสื้อผ้าใหม่ๆ ออกมา เจ้าของแบรนด์จะกระจายกำลังการผลิตไปยังผู้ผลิตกว่า 700 โรงงานทั่วโลก แต่นั่นต้องมีการการันตีด้วยค่าแรงที่สมเหตุสมผลและงานฝีมือที่ดี

นอกจากนั้น H&M ยังมองหาโรงงานที่สามารถผลิตได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้วางจำหน่ายสินค้าได้ตามเทศกาลอีกด้วย

แม้กระทั่งบริษัทในอินเดีย อย่าง Wipro Ltd. ที่เป็นผู้รับจ้างผลิต แม้จะเป็นฐานรากให้กับธุรกิจใหญ่ โดยที่ไม่สามารถสร้างแบรนด์ให้กับตัวเองได้ แต่ Wipro ก็พอใจในปริมาณงานที่ได้รับจากเจ้าของลิขสิทธิ์ที่มาจัดจ้าง เพราะบริษัทแห่งนี้เป็นที่รู้จักจากความรวดเร็วในการทำงาน และต้นทุนในการผลิตที่ต่ำ

“ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาจ้างเราผลิตมักถามเรื่องของกำหนดเวลาว่าเราสามารถปิดออเดอร์ให้เขาได้ภายในกี่เดือน นั่นเป็นคีย์สำคัญที่สุดในการทำงานยุคนี้ เพราะยิ่งวางสินค้าได้เร็วมากขึ้นเท่าไหร่ รายได้จากตลาด และการได้ตำแหน่งผู้นำในตลาดก็จะทำให้บริษัทได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น” อาซิม พรีมิจ ผู้บริหารของ Wipro กล่าว

นอกจากเรื่องของความเร็ว เทคโนโลยีก็มีส่วนสำคัญในการคิดค้น และผลิตสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด และเมื่ออินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำหรับเปิดประตูการค้าให้กับโลก ผู้ผลิตหลายรายจึงใช้ประโยชน์จากมันในการแสวงหามันสมอง และกำลังความสามารถจากผู้ผลิต รวมถึงแสวงหาคู่ค้าจากทั่วทุกมุมโลกได้ไม่ยากเย็นนัก

อย่างไรก็ตาม การแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องมาคู่กับความสำเร็จเสมอไป แต่บริษัททั้งหลายจำเป็นต้องเรียนรู้ก้าวที่พลาดเพื่อก้าวที่มั่นคงกว่าในวันข้างหน้า

เวอร์จิ้นเองก็เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองในครั้งก่อน อย่างเช่นเมื่อครั้งที่บริษัทตั้ง Virgin Electronics ในเดือนกรกฎาคม 2004 และทำยอดขายได้เพียงแต่เครื่องเล่นเพลงดิจิทัลไม่กี่เครื่องในช่วงเทศกาลวันหยุด แบรนสันก็ตัดสินใจหยุดธุรกิจนั้นทันทีในเดือนมีนาคม 2005

กูเกิ้ล อาจเป็นบริษัทที่เราเห็นชัดที่สุดในการเป็นเจ้าแห่งนวัตกรรม และการคิดค้นปรัชญาทางธุรกิจใหม่ๆ ก็เผชิญกับภาวะล้มลุกคลุกคลานกับการหาโมเดลธุรกิจที่ลงตัวกับตลาด และการคิดค้นบริการใหม่ๆ ผ่านทางเวบไซต์มาแล้วนับร้อยๆ ครั้งเช่นกัน

นิตยสาร BusinessWeek ทำการสำรวจไปยังผู้บริโภค พบว่าในปัจจุบัน ผู้บริโภคเห็นว่าสินค้าและบริการใหม่ๆ ยังไม่ได้ออกมาตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้อย่างเพียงพอ ส่วนใหญ่จะออกมาในรูปของไอเดียเท่านั้น

ล่าสุดมีรายงานว่า เบสท์บายกำลังมองหาผู้ร่วมทุนในการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์นี้ และพีแอนด์จี ที่ไม่เคยหยุดนิ่งเรื่องนวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ ก็ยังคงมองหานักวิชาการจากทั่วโลกในการร่วมมือกันคิดค้นสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เช่นที่ศาสตราจารย์คนหนึ่งในอิตาลี คิดค้นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตที่สามารถพิมพ์ภาพลงบนหน้าเค้กได้ และตำนานของมันฝรั่งพริงเกิ้ล ที่ทำยอดขายถล่มทลายมาแล้วทั่วโลก ก็เป็นผลงานชิ้นเอกทางนวัตกรรมสินค้าของพีแอนด์จี

อาจกล่าวได้ว่า มันสมอง และความรวดเร็วน่าจะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการนำองค์กร หรือแบรนด์ไปสู่การมีนวัตกรรมใหม่ๆ

อย่างไรก็ตาม รากฐานที่มั่นคง อันเกิดขึ้นมาจากบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ และระบบการบริหารงาน รวมไปถึงการตัดสินใจที่รวดเร็วของบรรดาผู้บริหารก็เป็นอีกกลไกสำคัญด้วยเช่นกัน

*********************

คัดย่อจาก www.businessweek.com

เรียบเรียงโดย ดวงกมล วงศ์วรจรรย์


About Us I Suggestion I Site Map I GetThaiFont | Contact Us I Privacy Policy
copyright @ 2004 Nation Group / Produced & Designed by : KT Internet Dept.