 รุ่นใหญ่ Space cowboy
ในโลกแห่งความเป็นไปของอวกาศ
ทั้งอุตสาหกรรมการบินที่ซุ่มแอบกันมาตั้งแต่ปี 1969 นั้น
อีกไม่กี่ปีที่จะถึงนี้ รับรองว่า ชื่อของรุ่นใหญ่เหล่านี้
จะเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก
และจะถูกจารึกลงบนประวัติศาสตร์โลกการค้าเสรีว่า
เพียงแค่คุณมีเงินเท่านั้น...ก็สามารถไปอวกาศได้!!!
คีย์แมนคนสำคัญที่สุด คือ เบิร์ท รูทัน ด้วยวัย 62 ปี
เขาถือเป็นคนที่น่ายกย่องยิ่ง เป็นนักออกแบบยานอวกาศที่ทำงานหนัก
และมีสำนึกรับผิดชอบต่อมนุษยชาติยิ่ง หลังจากออกแบบ SpaceShipOne
จนได้รับรางวัล Ansari X Prize แล้ว เขายังเคยสร้าง Voyager
เครื่องบินลำแรกที่บินรอบโลกโดยไม่หยุดพัก ด้วยแก๊สเพียงถังเดียว
บริษัทของเขา นอกจากเป็นคนก่อตั้ง Scale composites
แล้วยังมีบริษัท Mojave Aerospace Ventures ร่วมกับ พอล อัลเลน
อีกด้วย
รูทัน นี่ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะนาซาต้องมาเชิญตัวเลยทีเดียว
เชิญไปล็อบบี้ พลาง
แถมด้วยการไปให้รายละเอียดเรื่องแผนการเดินทางไปเที่ยวเล่นในอวกาศ
กับนักการเมืองอเมริกันใน วอชิงตัน ซึ่งเป็นโอกาสเดียวกันกับ
การได้พูดคุยกันอย่างเปิดอกกับ องค์การนาซา ซึ่งดูๆ แล้ว
มีสื่อหลายแขนงออกมากล่าวว่า
นาซาไม่ค่อยยินดีกับการเอาอวกาศมาเที่ยวเล่นเท่าไหร่
แต่จะไปห้ามความใฝ่ฝันกันได้อย่างไรเล่า และรูทันเอง
เขาก็ไม่ได้คิดแบบสนุกๆ แถมยังพยากรณ์อนาคต Space Tourism
เอาไว้ชวนขนลุกว่า
...ยากที่จะทำให้เป็นสินค้ามวลชน(Mass Product)
เพราะด่านแรกคือความปลอดภัย ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้
จากสถิติเสียชีวิตของการเดินทางสู่อวกาศสูงถึง 4 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเทียบกับการไต่เขาเอเวอร์เรสต์ ที่อยู่ในอัตรา 4-9
เปอร์เซ็นต์
ได้รู้จัก รูทัน แล้ว รู้สึกได้เลยว่า
เขามีความเป็นห่วงเป็นใย ซึ่งจริงๆ
ก็ดีแล้วเพราะจะได้มาถ่วงดุลความเป็นนักผจญภัย ที่ชอบเสี่ยงสูง
อย่างแบรนสัน
ว่าไปแล้ว เขาคือผู้สร้างคู่บุญของ ริชาร์ด แบรนสันคงไม่ผิด
เพราะ รับ 22 ล้านเหรียญ จาก แบรนสันในการสร้าง เวอร์จิ้น
ภูมิหลังของ รูทัน เขาจบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย
โพลีเทคนิค และหลังจากจบการศึกษาแล้ว ก็เข้าทำงานกับ U S Air
force
เมื่อมีประสบการณ์สูงแล้วจึงออกมาสร้างโรงบินแห่งความฝันชื่อ
Scale composites และสร้างเครื่อง ss1 ที่มี พอล
อัลเลนเป็นผู้สนับสนุนเงิน ซึ่งเคยปล่อยออกสู่อวกาศไป 2 ครั้ง
ได้ความสูง 328000 ฟุต
ส่วนอีกคนหนึ่ง ชื่อ พอล อัลเลน
ถ้าดูรายละเอียดความเป็นมาแล้ว จะเห็นว่าประวัติคุณ อัลเลน
ไม่ธรรมดาเช่นกัน เขาเป็นเพื่อนสนิทกับ บิล เกตส์
มาตั้งแต่สมัยที่วัยเรียน เขาเป็นนักเรียนดรอปเอาท์ จาก
มหาวิทยาลัยวอชิงตัน สเตท เช่นกับ บิลเกตส์ ที่ดรอปเอาท์
จากฮาร์วาร์ด ในช่วงที่ทั้งคู่ตั้ง บริษัทไมโครซอฟท์ แล้ว
(สงสัยจะยุ่งจนไม่มีเวลาไปเรียน)
ก่อน อัลเลน ต้องออกจาก ไมโครซอฟท์ ในปี 1983
เพราะต้องต่อสู้กับโรค Hodgkin (มะเร็งต่อมน้ำเหลืองประเภทหนึ่ง)
เขาจึงหันหน้ามาเป็นเป็นนักลงทุนเต็มตัว นอกจากรวยด้วยหุ้นของ
ไมโครซอฟท์แล้ว เขายังสนใจลงทุนด้านพลังงาน
ทั้งน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ รวมถึงพวกเทคโนโลยีต่างๆ, ไบโอเทค
และลงทุนในสื่อต่างๆ ไปจนถึงบริษัทแอนิเมชั่น อย่าง Dream Works
อีกด้วย
นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของ ทีมอเมริกันฟุตบอล อย่าง ซีแอตเติล
ซีฮ็อกส์
และนอกจากความสนใจเรื่องอวกาศแล้วยังขยายความสนใจในเรืออีกด้วย
โดยเป็นเจ้าของเรือยอชท์ Octopus ที่ใหญ่ที่สุด
ปัจจุบัน พอล อัลเลน อายุ 53 ปี ติดอันดับมหาเศรษฐีของ
นิตยสาร ฟอร์บส์ ในปี 2006 อยู่อันดับ 6 ด้วยทรัพย์สิน 22
พันล้านเหรียญ (ดูเหมือนไม่ค่อยเต็มใจรวย) ในขณะที่ บิล เกตส์
เกาะเก้าอี้คนรวยอันดับหนึ่ง (แต่ถ้า แซม วอลตัน แห่ง วอล-มาร์ท
มีชีวิตอยู่ เกตส์ต้องอยู่อันดับ 2 แน่นอน)
เขามีความสนใจจับจ้องอยู่ที่อวกาศเช่นกัน
และเป็นมานานแล้วด้วย
จึงยอมแต่โดยดีที่จะเป็นผู้สนับสนุนจ่ายเงินให้กับการสร้างยาน
SS1 (SpaceShipOne) และก็เป็นหุ้นส่วนกับ รูทัน Mojave Aerospace
Ventures ที่กำลังสร้างยานให้กับ Virgin Galactic นั่นเอง
ส่วนอีกคนที่มีความเกี่ยวพัน ก็คือ Peter Diamandis ในวัย 45
เขาเป็นประธานและซีอีโอของ ของรางวัล X prize
ซึ่งต่อมาได้รับทุนจนกลายเป็น Ansari X prize นั่นเอง
แล้วยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง International Space University
และซีอีโอ ของ Zero Gravity และผู้ร่วมก่อตั้ง Space Adventures
รวมถึง ประธานและผู้ร่วมก่อตั้ง Rocket Racing League. ปีเตอร์
คนนี้ เคยได้รับรางวัลที่ 1 จากการออก แบบจรวด
มาตั้งแต่ตอนเรียนเกรด 8
การไปสู่อวกาศจึงถือเป็นความฝันอันไม่จบสิ้นของมนุษยชาติ
และจริงๆ มันก็เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
|