มีแนวคิดเกี่ยวกับการทำธุรกิจจะแบ่งปันครับ ขออนุญาติท้าวความถึงตัวเองนิดนึงนะครับ ปัจจุบันผมมีประกอบธุรกิจอยู่สามประเภท กิจการดำเนินไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร อายุสามสิบต้นๆ อยากเอาข้อมูลอะไรบางอย่างมาแบ่งปันให้กับน้องๆรุ่นหลังที่กำลังบ่นว่าเบื่อๆงานประจำกันอยู่ ให้ลองเอาไปพิจารณาดูบ้าง
เนื่องจากมีคนรอบตัวและเพื่อนๆทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง เข้ามาปรึกษากับผมบ่อยๆ (บ่อยมากจนผมต้องมาตั้งกระทู้นี่แหละครับ) ว่าทำยังไงดี อยากจะลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจบ้างล่ะ อยากประสบความสำเร็จแบบพี่บ้างล่ะ เบื่อเจ้านายบ้างล่ะ สารพัดปัญหาที่เค้าอยากจะเปลี่ยนอาชีพมาประกอบธุรกิจส่วนตัว
สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีเหมือนๆกันหมดก็คือความต้องการอิสระในอาชีพ ไม่อยากอยู่ใต้อาณัติของใคร ไม่ชอบให้ใครมาสั่ง อยากเป็นเจ้านายตัวเอง แต่นั่นมันแค่ความอยาก ยังมีสิ่งที่คนทำงานประจำยังไม่รู้สำหรับการเป็นเจ้าของกิจการ ก็คือ ความรับผิดชอบอันมหาศาล ที่มาพร้อมๆกับรายได้ที่มากกว่าการทำงานประจำ (ที่จริงก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะได้รายได้มากกว่า แต่ส่วนใหญ่ทำธุรกิจเองมักจะดีกว่าการเป็นลูกจ้างในสายตาของคนทั่วๆไป)
มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆหรือสนุกเลยสำหรับการจะลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจ เนื่องจากความเสี่ยงอันแรกที่จะต้องเจอก็คือ"รายได้ประจำ" เมื่อคุณทำงานกินเงินเดือนสิ่งที่คุณจะไม่ต้องปวดหัวเลยก็คือเงินเดือน เพราะถึงสิ้นเดือนคุณจะมีรายรับที่แน่นอน คาดคะเนรายจ่ายในอนาคตได้ แต่เมื่อคุณคิดจะมาประกอบธุรกิจส่วนตัว นี่คือปัญหาข้อใหญ่ข้อแรกๆเลยที่ลูกจ้างประจำกินเงินเดือนกลัวนักกลัวหนา คือรายได้ที่ไม่แน่นอน การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จต้องประกอบไปด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งเงินทุน ทำเล ที่ตั้ง สินค้าที่จำหน่าย การตลาด ความสามารถของผู้บริหาร ทีมงานหรือพนักงาน และอื่นๆอีกมากมาย
สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนที่จะออกมาประกอบธุรกิจการค้า ที่คนส่วนใหญ่มองข้ามปัญหาเหล่านี้ไป จริงๆแล้วจะเห็นได้ว่ามีธุรกิจเกิดใหม่ทุกๆวัน ทุกๆชั่วโมง ทุกๆนาที และมีธุรกิจที่ปิดตัวลงไปมากพอๆกับธุรกิจที่เปิดใหม่เหมือนกัน ในโลกแห่งการค้า ไม่มีคำว่าปราณี มีแต่คำว่าเอาตัวรอด แข่งขันกันทุกรูปแบบ ยิ่งในภาวะปัจจุบันมีการแข่งขันกันที่รุนแรงมาก เป็นเรื่องยากหากจะมีใครประสบความสำเร็จในยุคนี้แล้วเติบโตไปเป็นเจ้าสัวเหมือนกับนักธุรกิจสมัยเก่า แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หรือใช่ว่าจะไม่มีเลย เพียงแต่มัน"ยาก" ขึ้นเท่านั้นเอง
สำหรับคนที่อยากจะลาออกจากงานประจำผมอยากให้คุณคิดและไตร่ตรองให้ดีก่อนว่า จะทนความกดดันจากการแข่งขันรอบด้านได้มากแค่ไหน ความขยันและเอาใจใส่ในงานที่ไม่มีใครมาคอยบังคับแต่คุณจะต้องตระหนักด้วยตัวคุณเอง และความกล้าในการเสี่ยงกับการทำธุรกิจ ว่าคุณมีความ"กล้า" มากแค่ไหน
เรื่องความกล้าเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก เพราะคนที่มาปรึกษากับผมส่วนใหญ่ มักจะขาดคุณสมบัติข้อนี้แหละ บางคนพูดกับผมมานานหลายปีแล้วว่าอยากลาออกมาประกอบธุรกิจส่วนตัวดูบ้าง เพราะเบื่องานประจำเหลือทนแล้ว แต่ผ่านไปห้าปีก็ยังไม่มีความ"กล้า" มากพอที่จะทิ้งรายได้ประจำ แล้วมารับรายได้ที่ไม่แน่นอนของการทำธุรกิจ เมื่อคุณไม่กล้าเสี่ยง แล้วคุณจะหวังผลตอบแทนที่คุ้มค่าได้อย่างไร เหมือนกับคนบางคนบอกว่าอยากถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง แต่เชื่อมั๊ยว่า แม้แต่ซื้อหวยเค้ายังไม่กล้าควักเงินซื้อเลย (ผมไม่ได้แนะนำให้เล่นหวยนะครับ แค่ยกตัวอย่างให้ฟัง)
มีความกล้าอย่างเดียวก็ยังไม่พอ ต้องมีความสุขุมรอบคอบ ทำการบ้านก่อนจะลงมือทำธุรกิจจริง ไม่ใช่อาศัยใจรักอย่างเดียวแล้วลุยเลย แบบนั้นม้วนเสื่อกลับบ้านมาเยอะแล้ว ยกตัวอย่างเช่น การขายกาแฟสด ผมเห็นมีคนฮิตทำกันมากเหลือเกิน ก่อนจะทำไม่รู้ว่าศึกษาทำเล คู่แข่ง ปริมาณลูกค้า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายกันบ้างหรือเปล่า บางคนทำแป้บๆเลิกแล้ว ทำเหมือนเด็กเล่นขายของ นึกอยากทำก็มาทำ ทำไม่ดีก็เลิก แบบนี้ยังห่างไกลกับคำว่ามืออาชีพ การจะเป็นมืออาชีพที่ดีได้ ต้องเข้าใจงานที่ตัวเองกำลังจะทำซะก่อน ศึกษาให้ละเอียดถ่องแท้ค่อยลงมือทำ ขณะที่ทำก็ยังศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม พัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ศึกษาหาจุดอ่อนคู่แข่ง และพัฒนาจุดแข็งของเราให้เด่นชัด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ มีส่วนช่วยอย่างมาก บางครั้งสินค้าพอใช้ได้แต่การตลาดดี ก็ทำให้สินค้านั้นติดตลาดได้ในเวลาอันรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
นี่เป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆของการทำธุรกิจเท่านั้น เมื่อคุณลงมือทำจริงๆ จะต้องเจอปัญหาอีกมากมาย ปัญหาเหล่านั้นคือสิ่งที่จะฝึกฝนเราให้เข้มแข็ง และเก่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณแก้ปัญหานั้นได้ ก็จะเจอปัญหาใหม่ๆเข้ามาเรื่อยๆ คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่แก้ปัญหาเก่ง ไม่ใช่คนที่วิ่งหนีปัญหา เพราะฉะนั้นเมื่อคุณเจอปัญหาจงวิ่งเข้าใส่มัน แล้วสนุกกับมัน ยิ่งผ่านปัญหามาได้มากเท่าไหร่ คุณก็จะเก่งมากขึ้นเท่านั้น สิ่งสุดท้ายที่อยากฝากไว้ก็คือ เมื่อคิดแล้ว ตั้งใจว่าจะทำแล้ว ก็ต้องลงมือปฏิบัติด้วย คนส่วนใหญ่ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง เดี๋ยววันนั้นทำ เดี๋ยววันนี้ค่อยทำ รออีกหน่อยค่อยทำ ผ่านงานนั้นไปแล้วค่อยลงมือทำ สารพัดเหตุผลที่จะยกมาเข้าข้างตัวเอง เพื่อยืดเวลาออกไป จงจำไว้เมื่อคุณผลัดผ่อนเวลา ก็เท่ากับคุณปฏิเสธความสำเร็จของตัวเองออกไปเรือ่ยๆ "ร้อยคิดไม่เท่าหนึ่งทำ" ขอให้คนที่คิดอยากจะประกอบกิจการเป็นของตนเอง จงปลดแอกพันธนาการทั้งปวงแล้วลุกขึ้นมาเป็นเจ้านายตัวเองกันได้แล้วครับ ขอให้โชคดีสำหรับเถ้าแก่รายใหม่ในอนาคตนะครับ
จากคุณ :
มังกรเดียวดาย
- [
16 ม.ค. 50 14:32:58
A:124.120.63.112 X: TicketID:106043
]