ความคิดเห็นที่ 1 ไม่แน่ใจว่าผมตั้งผิดโต๊ะรึเปล่านะครับ.. แต่มันก็เกี่ยวข้องกับการลงทุนซื้อที่ดิน ก็น่าจะหยวนๆได้นะฮะ จากคุณ : พ่อมดขายฝัน - [ 2 เม.ย. 50 19:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มันไม่ใช่ ใครผิด แต่เป็น ความล้มเหลว ของระบบราชการ และกระบวนการ ยุติธรรมของไทย ก็เหมือน กับ รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ถูกฉีก แล้วคนฉีก ไม่ผิด นั่นแหละครับ คือ ความล้มเหลว ของระบอบประชาธิปไตย และกระบวนการยุติธรรมของไทย จากคุณ : มันครือกัน นั้นแล - [ 2 เม.ย. 50 19:57:23 A:58.9.60.53 X: TicketID:127369 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ในวาระหนึ่งๆอาจจะถูกกฎหมายแต่เมื่อมีหลักฐานมาแย้งภายหลังก็ถูกยกเลิกได้ การครอบครองปรปักษ์เช่นกัน แม้เจ้าของคนใหม่จะยื่นขอโฉนดได้ แต่ก็มีอายุความช่วงที่เจ้าของเก่ามาร้องคัดค้านได้เช่นกัน จริงๆควรต้องรอให้หมดอายุความไม่สามารถร้องคัดค้านได้ แต่นี่รีบขายขณะที่อายุความไม่จบ มันก็เลยวุ่นวายแบบนี้แหละครับ แต่ตัวเลือกจขกท. มี bias กับศาลนะครับ ศาลท่านก็ตัดสินไปตามพยานหลักฐานต่างๆถูกต้องแล้ว ถ้าศาลตัดสินไม่คืนทั้งๆที่เจ้าของเก่าหลักฐานชัดเจน มีสิทธิ์เต็มที่ เพื่อเอาใจชาวบ้านที่เชียร์ตามกระแสล่ะก็ คงไม่มีอะไรเป็นหลักให้ยึดแล้วล่ะครับ แต่ตอนนี้คนที่จะผิดก็คือคนที่ขายที่ดินให้พระพยอมที่ต้องคืนเงินให้ แต่ไม่มีเงินจะคืนเพราะใช้หมดแล้ว(แปลกดีเงินสิบล้าน บอกเหลือไม่กี่หมื่นภายในเวลาไม่นาน จริงหรือเปล่า หรือพูดออกตัวกันแน่หว่า?) แต่ผมแปลกใจที่ ทางมูลนิธิ ไปพุ่งเป้าที่หน่วยงานราชการ ทั้งๆที่หน่วยงานก็ทำถูกต้องตามกฎหมาย(เท่าที่เห็นนะ) แต่กลับไม่พูดถึงการฟ้องร้องเรียกเงินคืนจากการโดนยกเลิกสัญญาซื้อขายที่ดินจากเจ้าของที่รายใหม่เลยสักคำ #2 อย่าเอาการเมืองมามั่วครับ แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 50 20:19:10 แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 50 20:17:18 จากคุณ : ....4จุด - [ 2 เม.ย. 50 20:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กรณีนี้ ถึงแม้ว่าพระพยอมจะกระทำการโดยสุจริต แต่ทางกฎหมายเอกเทศสัญญานั้น หลักสุจริต ไม่ได้อยู่เหนือ หลักผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน ซึ่งกรณีนี้ เมื่อผู้ขายที่ดินให้พระพยอมไม่มีสิทธิในที่ดังกล่าว ดังนั้น ถึงแม้ว่า พระพยอมจะกระทำการโดยสุจริต ที่ดินก็ย่อมต้องกลับไปยังผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ตัวจริง จากคุณ : French Vanilla - [ 2 เม.ย. 50 21:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าที่ดินของวัด ถูกคนอื่นครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์แล้วเอาไปขายให้คนอื่นไปแล้ว สงสัยว่าพระพยอมจะอยู่เฉย ยกที่ดินของวัดให้ไปโดยเต็มใจหรือไม่ ยังไม่ตัดกิเลสทางโลกเลยครับ น่าจะตั้งสติ ก่อนที่จะพูดอะไรนะครับ จากคุณ : supermanager - [ 2 เม.ย. 50 21:50:13 A:203.113.37.11 X: TicketID:067384 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ที่ดินวัดครอบครองปรปักษ์ไม่ได้ครับ จากคุณ : นายส่งเดช - [ 2 เม.ย. 50 21:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ใครจะผิดหรือถูกควรปล่อยไปตามกระบวนการพิจารณาของศาลนะครับ พระไม่ควรออกมาพูดในทางโลกมากเกินไป โดยเฉพาะงดรับกิจนิมนต์หน่วยงานรัฐ 3 ปี นี่หมายถึงหากท่านไม่ได้รับผลประโยชน์ ท่านจะไม่ปฎิบัติตามกิจสงฆ์หรอกหรือ? ทำให้ขาดศรัทธานะครับท่าน อีกอย่างพระหลายรูป มีเงินเก็บ... ถึงหลายร้อยล้าน?? หากพระพุทธองค์ทรงรับรู้.. เอ้อ พระสงฆ์ไทย จากคุณ : Khmu_thai - [ 3 เม.ย. 50 10:40:25 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องยาว 1.เจ้าของที่ดินคนเก่า... ผมว่ากรณีนี้เค้าอาจไม่ผิด เพราะเค้ามีสิทธิ์ฟ้องศาลที่จะร้องเอาที่ดินของตัวเองคืนมาได้ ส่วนศาลจะตัดสินยังไง ก็แล้วแต่ แน่นอนว่าไม่ผิด  ของเราต้องฟ้องเอาคืนเพราะที่ได้ยินมามายังทิ้งไม่ถึง10ปีจริง 2.เจ้าของที่ดินคนใหม่ที่ขายให้พระพยอม.. ผมว่าเค้าก็ไม่ผิด หากเค้าครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์แล้วมากกว่า 10 ปี ก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะร้องศาลเพื่อเป็นเจ้าของที่ดิน ผิด   ได้ยินว่าไปศาลแล้วสารภาพถือครองไม่เกิน10ปี เพราะถ้าไปบอกว่าได้มาเกิน10ปีจะโดนข้อหาเบิกความเท็จ แสดงว่ารอบแรกเบิกความเท็จ 3.สนง.ที่ดินและเจ้าหน้าที่... ผมก็ว่าเค้าไม่ผิด หากว่าเจ้าของที่ดินคนใหม่ไปร้องศาลเพื่อออกโฉนดครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์ หากศาลมีคำสั่ง ทาง สนง.ที่ดิน ก็ต้องออกโฉนดให้ตามคำสั่งศาล ผิดแน่นอน  ก่อนศาลสั่งออกโฉนดศาลจะขอข้อมูลสนง.ที่ดินและเจ้าหน้าที่ต้องเป็นคนตรวจข้อมูลว่าครอบครองเกิน10ปีจริงไหม  แล้วส่งข้อมูลไปยังศาล  (ตรวจยังไงวะ) 4.ศาลที่ตัดสินให้เจ้าของดินคนใหม่ ออกโฉนดได้โดยปรปักษ์.. ผมก็ว่าศาลไม่ผิด เพราะหากเจ้าของที่ดินคนใหม่ เค้ามีหลักฐานพยานว่าอยู่ในที่ดินมามากกว่า 10 ปีจริง ศาลก็ต้องตัดสินให้เป็นกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายที่ดินที่ระบุไว้.. ศาลไม่ผิด  ศาลตัดสินตามพยานหลักฐาน  ก็คนครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์ดันไปโกหกรอบแรก  กรมที่ดินก็ไม่รู้สอบอีท่าไหน ดันส่งข้อมูลไปว่าจริง   5.ศาลที่ตัดสินให้พระพยอมแพ้คดี.. ผมไม่แน่ใจว่าศาลตัดสินแบบนี้ถูกต้องหรือไม่ ถูกต้อง เพราะเมื่อที่ดินไม่ใช่ของคนครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์  การซื้อขาย(นิติกรรม)ย่อมเสมือนไม่เคยเกิดมาตั้งแต่ต้น 6. พระพยอม.. ท่านไม่ผิดแน่นอน ไปทำธุรกรรมซื้อขายที่ สนง.ที่ดิน มีเอกสารชัดเจน เจ้าหน้าที่เซ็นต์ให้ จ่ายเงินแล้ว ถูกกฎหมาย หากพระพยอมผิด ก็ไม่ต้องเคารพกฎหมาย ไม่ต้องทำธุรกรรมกับราชการกันแล้ว ผิดที่เลือกทนายไม่เก่ง  ไม่รู้จักใช้ข้อกม.ที่เป็นประโยชน์มาแย้ง  ฟ้องไม่ถูกคน - ที่รู้มามันมีข้อมูลมั่วกว่านี้อีก  ก่อนนี้นสพ.ลงว่าบนกรมที่ดินมีญาติคนครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์ทำงานอยู่  ศาลไม่สอบ  ทนายไม่ยื่นให้สอบเรื่องนี้เองศาลก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าพนง.ที่ดินฉ้อฉลช่วยให้ญาติได้ที่ดินคนอื่น  ตามหลักต้นสังกัดควรต้องรับผิดชอบก่อนในระดับหนึ่งต่อบุคคลภายนอก แล้วค่อยไปเอาผิดคนทำผิด   แต่ที่รู้ๆกัน กม.มักมีข้อกำหนดคุ้มครองพวกเดียวกันเอง  เหมือนกรณีบ้านสีดำ เจ้าหน้าที่ตัดเงินเดือน5%แค่3เดือนข้อหาบกพร่อง  แต่บ้านผิดกม.ก็ต้องรื้ออยู่ดี   ข้อกม.ไทยพิจารณาแบบแยกส่วน  ไม่ใช่ดูผลรวมครับ  เช่นจอดรถในที่ห้ามจอดหลังหัวมุมเลี้ยว  มีรถเลี้ยวมาชนบางประเทศรถที่จอดเป็นฝ่ายผิดทั้งหมดเพราะจอดผิดที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ  แต่ไทยแยกเป็นกรณีครับ  รถจอดเสียแค่ค่าปรับจอดที่ห้ามจอด  แต่คนชนขับโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์จ่ายค่าซ่อมอาน  ใครแยกส่วนเก่งกว่าก็ชนะคดี -การยื่นครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์ แต่ก่อนรู้สึกใช้แค่มีคนยื่นมา  ปิดประกาศบนกรมที่ดินให้คนที่มีส่วนได้เสียมาคัดค้านใน90วัน(ใครมันบ้าขึ้นกรมที่ดินทุกวันไปเดินเล่นวะ)  ไม่ค้านก็ออกโฉนดเลย   แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้แฮะ -ทางกฎหมายเอกเทศสัญญานั้น หลักสุจริต ไม่ได้อยู่เหนือ หลักผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน หลักการใช่ แต่กรณีนี้มีข้อแย้งว่ารัฐเป็นผู้ดำเนินการและทำให้สุจริตชนเสียหาย เอกสารที่ออกจากรัฐยังเชื่อถือไม่ได้นี่แย่แล้ว หลักการครอบครองโดยสุจริตเนี่ยผู้ครอบครองคนสุดท้ายที่ได้มาโดยสุจริตต้องได้รับความคุ้มครองเหมือนกัน  แต่รอบนี้ใครต้องจ่ายเนี่ยสิ(น่าฟ้องกรมที่ดินเป็นจำเลยร่วม) -ทนายเจ้าของเดิมเก่งกว่าใช้วิธีฟ้อง คนครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์ เมื่อไม่มีสิทธิครอบครองก็ขายไม่ได้  หลักการครอบครองโดยสุจริตเดี้ยงเลย  แถมศาลสั่งสอบกรณีนี้แต่คนยื่นครอบครอง  ก็มันได้เงินไปหมดแล้วนี่หว่า ตอนนี้ที่ดินก็ไม่ใช่ของมัน มันจะสู้ทำไมให้เหนื่อย   เมืองไทยศาลตัดสินตามพยานหลักฐาน  ถ้าคู่ความไม่ยกข้อได้เปรียบมาต่อสู้  ถือว่าสละข้อได้เปรียบกรณีนั้นเอง ผิดถูกยังไงแก้ให้ด้วยนะครับ  ไม่ค่อยตามข้อกม.มานาน บางข้อก็ไม่ค่อยแน่ใจ   จำข้อมูลชัวร์ๆไม่ค่อยได้แล้ว จากคุณ : แชจั๊ว - [ 3 เม.ย. 50 15:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราว่าคนขายที่ดินตั้งใจโกงนะเจ้า  ได้เงินไปแล้วมาบอกว่าเงินไปไหนหมดไม่รู้เนี่ย -_-' เหมือนทำการโอนเงินไปไว้ที่อื่นหมดแล้วแล้วบอกไม่มีเงิน  เฮ้อ ๆ ๆ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 3 เม.ย. 50 15:49:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กรณีนี้แย่มาก เหมือนกับกรณีซื้อบ้านคร่อมที่สาธารณะของคุณอะไรไม่รู้จำไม่ได้ ข้าราชการไทยยังมีการฉ้อโกงกันเยอะ เมื่อไรจะพัฒนากันเสียที จนท.ออกโฉนดให้กับเจ้าของที่ครอบครองปรปักษ์ได้อย่างไร ถ้าผิดกฏหมาย แล้วจนท.ไม่มีความผิดเลยหรือ ปล่อยให้ผู้ซื้อต้องรับกรรมไปเอง คนขายได้เงินไป คนซื้อไม่ได้ที่ดิน ก็จบกันไป งั้นเหรอ ปลง จริงๆ จากคุณ : เอี่ยมอ่อง - [ 4 เม.ย. 50 14:05:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ระบบไม่ดีนะครับ ผมว่า จากคุณ : ToppuT - [ 4 เม.ย. 50 19:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 รู้แต่ว่า คนที่ครอบครองปรปักษ์แล้วขายที่ดินให้วัด ได้ประโยชน์อยู่คนเดียว ที่ดินก็ไม่ใช่ของตัวเอง นำไปขายได้เงินจากวัดอีก ธุรกิจนี้ช่างกำไรดีจริงๆ จากคุณ : ตู้ต้า - [ 5 เม.ย. 50 10:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ฟังว่ามูลนิธิฯจะไม่ฟ้องเอาเงินคืนจากคนขายอีก สรุปคนขายได้เงินไปสิบล้านสบายสุด แปลกๆดีแฮะ อุธรณ์สู้กับเจ้าของที่ดินแท้จริง แต่ไม่ฟ้องเอาเงินคืนจากคนหลอกขาย จากคุณ : ....4จุด - [ 5 เม.ย. 50 11:39:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 5 เม.ย. 50 14:49:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เกลียดข้าราชการมากๆ อย่างเรื่อง บ้านสีดำนั่นก็เหมือนกัน เราเสียภาษีจ้างพวกมันมา มันยังทำงานกันแบบนี้ เกลียดพวกมัน จากคุณ : pinestand - [ 5 เม.ย. 50 17:09:39 ]