เทคนิคการหางานทำ การเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน
การเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน แบ่งเป็นประเด็นใหญ่ได้ 3
ประเด็น
ประเด็นแรก - การเตรียมตัว
ประเด็นที่สอง - การเตรียมใจ
ประเด็นที่สาม - การเตรียมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับบริษัท
หรือว่าสถานที่ หรือว่าองค์กรนั้นๆ
สิ่งแรกที่ผมอยากพูดถึงก็คือ จริงๆ แล้ว ทั้งสามส่วน
เป็นส่วนที่สำคัญทั้งหมดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียม
ตัว เตรียมใจ หรือแม้กระทั่งการเตรียมข้อมูลต่างๆ ของ
บริษัทที่เราจะเข้าไปคุย
คุณคงจะเคยได้ยิน สำนวนจีนที่ว่า รู้เขา รู้เรา รบร้อย
ครั้ง ก็ชนะร้อยครั้ง ในส่วนนี้ คุณจะต้องเตรียมตัว ต้อง
รู้เรื่องข้าศึก นอกจากนั้น คุณจะต้องรู้เรื่องตัวของคุณ
เอง รู้เรื่องข้อดีของตัวเองที่จะออกไปนำเสนอ แล้วปิดจุด
ด้อยของตนเอง
นอกจากนั้น สิ่งที่สำคัญก็คือว่า การเตรียมใจ ถ้าจิตใจ
คุณแข็งแรง คุณจะสามารถควบคุมอารมณ์ของคุณได้ดี
เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศักยภาพ ความรู้รอบตัวของ
คุณ หรือว่าข้อมูลของบริษัทที่คุณเตรียมมา เพราะ
ฉะนั้น ผมขอพูดทีละหัวข้อดังนี้ครับ
ประเด็นแรก คือ การเตรียมตัว
ผมขอแยกออกมาเป็น 2 ส่วน
สิ่งแรก คือ ความรู้เชิงแนวดิ่ง ความรู้ในลักษณะของ
ศาสตร์ที่คุณเรียนมา สมมุติว่าเรียนด้านแพทย์ คุณก็ต้อง
รู้เรื่องแพทย์ คุณเรียนเกี่ยวกับเกษตรกรรม คุณจะต้องรู้
เรื่องพืช หากคุณเรียนด้านสัตว์แพทย์ คุณต้องรู้เรื่อง
สัตว์ เรื่องนี้ คุณต้องรู้ลึกลงไปเลย ความรู้ในแนวตั้ง ทำ
ให้ดูคุณเป็นคนมีความรู้ เชี่ยวชาญ มีความเข้าใจในเรื่อง
นั้นๆ
แต่ในเรื่องของ แนวนอน จะทำให้คุณรอบรู้ ทำให้แตก
ต่างจากคนอื่น คุณลองคิดดูซิครับว่า ถ้าคุณเป็นคนที่มี
ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ ในรุ่นของคุณ 200 คน ที่จบ
มหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน ก็จะมีความรู้เท่าๆ
กัน บางคนอาจจะรู้มากกว่า
แต่ถ้าคุณมีความรู้ด้านไอทีแล้ว ยังมีความรู้ด้านการบริ
หาร ด้านการจัดการ ด้านบัญชี ด้านวิศวกรรมด้วย มัน
จะทำให้คุณน่าสนใจ ดูมีความแตกต่างจากคนอื่นเห็นได้
ชัด หรือแม้กระทั่งคุณมีความรู้ด้านไอที แต่คุณก็มีความรู้
ด้านกอล์ฟ รู้เรื่องฟุตบอล มีความรู้ในเรื่องของข่าวสาร
บ้านเมือง รู้เรื่องที่ในท้องตลาดเขาพูดกัน คุณก็จะกลาย
เป็นคนที่ดูดีมากกว่าเดิม
การเตรียมตัวในส่วนแรกก็คือ การเตรียมตัวของความรู้
ก่อนการสัมภาษณ์ คุณน่าจะเอาวิชาหรือเนื้อหาที่เรียน
มาทบทวน สมมติว่า ถ้าคุณเรียนด้านวิศว ถ้าเขาถามถึง
ความรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกต่างๆ คุณจะต้องตอบได้ ถ้า
คุณเรียนเรื่องการตลาด เขาถามเรื่อง 4 P 5 P คุณจะ
ต้องตอบได้ เพราะฉะนั้น ทักษะหรือความเชี่ยวชาญโดย
เฉพาะ เป็นสิ่งที่คุณต้องหมั่นศึกษาเข้าไว้ ซักซ้อมให้ได้
ส่วนที่สอง คือ ความรู้แนวนอน มันจะทำให้มีคุณค่ามาก
ขึ้น ดูแตกต่างและน่าสนใจมากขึ้น พูดง่ายๆ เลยว่า การ
ที่คุณเป็นคนรอบรู้ จะทำให้คุณดูดีขึ้นเป็นกองเลยครับ
ผมแนะนำว่า การเตรียมตัวในลักษณะนี้ต้องใช้เวลา และ
ฝึกหัดนิสัยกันพอสมควร
คุณต้องสนใจอ่านหนังสือ นอกจากการมีความรู้ในตำรา
หรือการหาข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ หรือเว็บไซด์ต่างๆ ยก
ตัวอย่างตัวผมเอง ผมอ่านหนังสือค่อยข้างเยอะ ผมชอบ
กีฬา ผมก็อ่านหนังสือ จนผมศึกษาและสามารถพูดถึง
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด พูดเรื่องลิเวอร์พูล พูดเรื่องสโมสร
ในอิตาลี่ได้อย่างดี
หรือผมอ่านหนังสือพิมพ์ เพราะผมสนใจเรื่องเศรษฐกิจ
การเมือง หรือผู้จัดการรายสัปดาห์ หรือบิสนิวส์ หรือฐาน
เศรษฐกิจ หรือประชาชาติธุรกิจ หนังสือพวกนี้จะให้ความ
รู้รอบด้านเลยครับ ไม่ว่าจะเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
Marketing แวดวงไฮโซ ถ้าเราอยากรู้ว่า กิจกรรมไฮโซ
เขาทำอะไรกัน เราก็ไปเปิดหนังสืออ่าน เช่น นิตยสาร
แพรว นิตยสารดิฉัน เป็นต้น
นอกจากนี้ ผมก็อ่านหนังสือศิลปินนักร้องด้วย ผมอ่านมา
ยาแซลเนล อ่านข่าวบันเทิงของไทยรัฐ หนังสือพิมพ์
ไทยรัฐพิมพ์วันหนึ่งสองล้านฉบับ ผมก็เห็นข่าวสารบ้าน
เมือง ที่ชาวบ้านเขาอ่านกัน นอกจากนี้ผมก็ดูคุยคุ้ยข่าว
ทีวีฮ๊อตนิวส์ ผมสามารถคุยกับคนทุกระดับได้ทุกเรื่องครับ
นอกจากนั้น ผมยังเข้าเว็บไซด์ 1 5 อันดับของไทย
เช่น sanook, kapook, mthai, siam2you, pantip ซึ่ง
ผมเข้าประจำอยู่แล้วละครับ ผมก็จะเห็นความเปลี่ยน
แปลงต่างๆ ในกลุ่มคนหลายระดับ เพราะฉะนั้น คุณจะ
ต้องฝึกนิสัยให้มากขึ้น การเตรียมตัวแบบนี้ จะทำให้คุณ
โดดเด่นน่าสนใจขึ้น
คราวนี้มาถึงประเด็นที่สอง การเตรียมใจ
ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ไม่ว่าคุณจะเตรียมตัวมาดีแค่
ไหน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเฉพาะทาง หรือเทคนิค หรือแม้
แต่การนำเสนอต่างๆ ผมบอกได้เลยนะครับว่า ถ้าคุณไม่มี
สมาธิ สิ่งที่คุณเตรียมมาก็จะหายไปหมด
เช่น เมื่อคุณเปิดประตู เห็นกรรมการนั่งอยู่ 7 คน แล้วคุณ
นั่งอยู่ตรงกลาง คุณตกใจไหมครับ แล้วบางคนอาจจะไม่
ถามเลย แต่จ้องคุณอย่างเดียว เมื่อคุณเข้าไปอยู่ในนั้น
คุณต้องมีสติ ต้องนิ่ง มีสมาธิ
คุณต้องใช้สติในการวิเคราะห์วินิจฉัยในคำถาม ตอบโต้ใน
คำถามที่พวกเขาถามให้ได้ ผมบอกได้เลยว่า การเตรียม
ตัว มาพร้อมกับการเตรียมใจที่ดี คุณต้องเสริมด้วยการนั่ง
สมาธิ เพราะการนั่งสมาธิ จะทำให้คุณนิ่ง เมื่อคุณเข้า
ห้องสัมภาษณ์ คุณจะไม่ตื่นเต้น มีสมาธิ และคุ้นเคยกับ
สิ่งที่คุณต้องเผชิญ
ประเด็นสุดท้าย คือ การเตรียมตัวข้อมูลของบริษัท
ที่คุณจะไปสัมภาษณ์ คุณต้องรู้อะไรบ้าง อย่างที่ผมบอก
ว่า รู้เขารู้เรา แม้คุณจะเตรียมตัว เตรียมใจมาแล้ว แต่
คุณยังไม่รู้เขา นั่นคือการเตรียมข้อมูลพื้นฐานของบริษัท
ที่คุณจะไปสัมภาษณ์ ถ้าส่วนนี้คุณเตรียมตัวมาดี คุณก็จะ
สร้างความประทับใจให้เขาได้
การบ้านในส่วนนี้ ที่คุณต้องรู้ก็คือ
ข้อแรกที่คุณจะรู้นั้น บริษัทนั้นมี Product หรือ Service
อะไรบ้าง
ยกตัวอย่าง Minor Foods คุณก็อาจจะบอกว่า หนึ่งใน
นั้นคือ The Pizza มี Dairy Queen มี Burger King
มี Swensens ถ้าคุณตอบได้เลยว่า บริษัทเขามีอะไร
บ้าง ขายไอศรีม ขายพิซซ่า ขายเบอร์เกอร์ ขายอาหาร
ในรูปแบบต่างๆ ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม ผมมั่นใจว่า
จะสร้างความประทับใจให้แก่บริษัทอย่างมาก
ข้อสอง กลุ่มเป้าหมาย (Nich Market) ของบริษัทนี้อยู่
ตรงไหน
ถ้าเป็นบริษัทรองเท้าทั่วไป คุณจะนึกถึง Adidas, Nike,
Reebox แต่คุณจะรู้ไหมว่า Nich Market ของนันยางคือ
อะไร
Nich Market ของนันยาง คือ นักเรียน ในทางกลับกัน
ถ้าเป็นรองเท้า Adidas หรือ Nike ก็ไม่สามารถสู้รองเท้า
นักเรียนอย่างนันยางได้
ใครเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใหญ่?
ถ้าผมจะยกตัวอย่าง เบียร์ตราช้าง ก็ต้องนึกถึงคุณเจริญ
ใช่ไหมครับ ถ้าหาคุณนึกเครือซีพี ก็ต้องนึกถึงเจ้าสัว
ธนินทร์ หรือบริษัท ไมโครซอฟต์ คุณก็ต้องนึกถึงบิล
เกตต์
หากคุณเล่าความเป็นมาของผู้ถือหุ้นได้ จะทำให้น่า
ประทับใจมาก
นอกจากนี้คือประวัติความเป็นมา
ถ้าคุณสมัครทำงานในเครือเจริญโภคภัณฑ์ และคุณรู้
ประวัติตั้งแต่แรก ว่าเขาเริ่มต้นที่ขายสินค้าเกษตรกรรม
เข้าของเป็นคนจีนเข้ามาขายเมล็ดพันธ์พืช และพัฒนา
อาหารสัตว์ เริ่มต้นจากเสื่อผืนหมอนใบ จนกระทั่งมีธุรกิจ
เจริญเติบโตอย่างทุกวันนี้ เขาจะประทับใจคุณมาก
ใครเป็นผู้บริหารสูงสุดในขณะนี้
ถ้านึกถึงแบงค์กรุงเทพ ก็เจ้าสัวชาตรี โสภณพานิช ใน
สมัยก่อน แต่ตอนนี้อาจจะเป็นคุณชาลี โสภณพานิช ถ้า
เป็นกสิกรไทย ก็ต้องถึงคุณปั้น
ข้อต่อไป วัฒนธรรมองค์กรเป็นอย่างไรบ้าง
ผมยกตัวอย่าง เป็นเจริญโภคภัณฑ์ เขามีวัฒนธรรม
องค์กรเป็นแบบของคนจีน (Family Business) หยุดตรุษ
จีน ไม่หยุดคริสต์มาส นอกจากนี้ ยังมีวัฒนธรรมที่
แปลกๆ คือพยายามสร้างบริษัทที่คล้ายคลึงกัน และแข่ง
ขันกัน
นอกจากนี้จะต้องรู้ด้วยว่า ผลประกอบการปีที่แล้วเป็น
อย่างไร บริษัทมีกำไรอย่างไร ตอนนี้เป็นธุรกิจขอขึ้น
หรือขาลง บริษัทมีสาขาอยู่ที่ใดบ้าง
ข้อมูลแบบนี้ หาได้จาก HR ของบริษัท ถามหน่วยงานพี
อาร์ของบริษัท หรือง่านที่สุดก็คือ หาในเว็บไซด์ และถ้า
หากบริษัทนั้นจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ก็หาในตลาด
หลักทรัพย์หรือหาซื้อข้อมูลทั่วๆ ไปที่หาซื้อได้จากโพลล์
ตรงนี้ผมอยากให้เตรียมทำการบ้านไปให้ดี
****************************************************
ตอนต่อไป : แต่งตัวให้ได้คะแนน
****************************************************
จาก : สัมภาษณ์งานอย่างไร ให้โดนใจ โดย อาจารย์
ชยางกูร แก้วบัณฑิต
amorntvm@anet.net.th
http://lungadd.pantown.com/
จากคุณ :
ลุงแอ็ด 
- [
4 เม.ย. 50 18:38:16
]
เทคนิคการหางานทำ การเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน
