ความคิดเห็นที่ 1 เหรอครับ ไม่ค่อยเข้าห้องนี้ แต่โดยส่วนตัว เงินเดือนหลักแสน ก็ถือว่าสูงมาก แต่ไม่ถึงกับยิ่งใหญ่นะครับ ปีนึงเก็บเงินได้ล้านนึง กว่าจะได้เงินสิบล้าน ต้องทำงาน 10 ปีเต็ม ถ้าคิดแง่นี้แล้ว มันไม่ได้เยอะเลยนะครับ จากคุณ : DD - [ วันเถลิงศก (15) 11:33:23 A:210.203.180.45 X: TicketID:100823 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เดาได้ตั้งแต่ยังไม่กดกระทู้ว่าต้องเป็นบัตรผ่านแหง จากคุณ : cookiecompany - [ วันเถลิงศก (15) 12:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก้อถูกของเค้า จากคุณ : เกิดมาพร้อมความมั่นใจ - [ วันเถลิงศก (15) 12:11:14 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คือ จขกท.พูดถึงรายได้ ไม่ได้พูดถึง เงินเดือน การมีเงินเดือนเป็นแสน คงเป็นก้าวสำคัญของมนุษย์เงินเดือนเกือบทุกคนแหละ ส่วนการมีรายได้จากการลงทุนทั้งทางตรง ทางอ้อม เป็นแสน อาจจะไม่แปลก เพราะมันมีปัจจัยความเสี่ยงเข้ามา(เสียก็เสียเยอะ) ไม่ได้เอาแรงงานเข้าแลกเหมือนการทำงานได้เงินเดือน ผลตอบแทนมันก็ขึ้นอยู่กับทุนที่ลงไป วิธีการที่จัดสรรเงินลงทุน ความเสี่ยงทั้งหลาย...สำหรับคนทำงานเงินเดือนก็ต้องเก็บเงินก่อน...เพื่อให้มีเงินไปลงทุนก้อนแรก ซักวันก็มีเงินแสน เงินล้านได้ นะคะ แต่อย่าได้แต่นั่งฝัน ไม่มีเงินหล่นมาจากฟ้ากันง่ายๆ คนที่ลงทุนได้เดือนเป็นแสน ต้องลงทุน ลงแรง(ทั้งหาข้อมูล วิเคราะห์ และอื่นๆ) ไม่ได้นั่งเฉยๆแล้วมันจะมีเงินหล่นมาเองหรอกนะคะ จากคุณ : mistress - [ วันเถลิงศก (15) 12:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คนห้องสินธร อาจจะมีรายได้วันละหลายพัน หลายหมื่น แต่คงไม่กี่คนที่มีเงินเดือนเป็นแสน....???? การเอาคนมีหลายได้เยอะๆมาเปรียบเทียบกับคนทำงานกินเงินเดือนนั้น เป็นการเปรียบเทียบที่ใช้ตรรกะที่ไม่ถูกต้อง...เหมือนเอา นกมาเทียบกับปลา.....แม้นกจะบินได้ แต่ก็ดำน้ำแบบปลาไม่ได้..???? ดังนั้นเงินเดือนแสน อาจจะดูเยอะ....แต่ผมคิดว่า หาเท่าไร??ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สำคัญว่า ใช้เงินเป็นหรือไม่????และที่สำคัญ วิสัยทัศน์เจริญกว่า หรือ ด้อยกว่า คุณค่าของเงิน ?????... จากคุณ : มือเก่า (คนอุบล) - [ วันเถลิงศก (15) 13:00:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คมคนโง่ จากคุณ : ตู กะ สู (ตู กะ สู) - [ วันเถลิงศก (15) 13:12:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ยิ่งใหญ่สิครับ ผมเงินเดือน 13,000 เอง คนที่มีรายได้ 100,000 คงรู้สึกตัวพองน่าดูนะครับ เวลามาพิมพ์กระทู้บอกเงินเดือน จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy - [ วันเถลิงศก (15) 13:51:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พี่แถวบ้าน ใช้เงินเป็น เค้าทำลูกชิ้นขาย   กิโลละ 250 บาท  ทำมาเกือบ 10 ปี เค้าไม่เคยยอกว่า กำไรเท่าไร มีรายได้เท่าไร แต่เค้าบอกแค่ซื้อเนื้อสัวัวทำ วันละ 80-90 กิโล กิโลละ 125 บาท เค้าขับ รถยนต์ จากคุณ : famer - [ วันเถลิงศก (15) 13:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คห ที่ แปดนี่แหละ ที่เข้าใจ สารที่ส่งไป แล้ว ส่งสารกลับมา ตรงประเด็น ดูได้จาก บรรทัดสุดท้าย ไม่ใช่สักแต่อ่านแค่หัวกระทู้ ดูว่าบัตรผ่านหรือเปล่า หรือ ข้อมูลนี้ เหมือนกับสิ่งที่เคย ฝังหัวตัวเองไม๊ แล้วก็ละเลง อคติ ลงมาบนเซิฟเวอร์ คนอ่านกระทู้ ในเวปบอร์ด ร้อยคน จะมีสักกี่คน ที่อ่านอย่างตั้งใจ ทำความเข้าใจ ในประเด็น เรียนรู้ และหาประโยชน์ เพื่อพัฒนาตัวเอง มี่ไม่กี่คนหรอก ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ หากคน ที่โดดเด่น และแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนในระดับสูง นักลงทุน หรือ ผู้ประกอบกิจการส่วนตัว ที่ประสบความสำเร็จ จะเป็นคนส่วนน้อย ของสังคม เสมอ จากคุณ : จขกท - [ วันเถลิงศก (15) 14:44:41 A:58.9.63.171 X: TicketID:127369 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ปกติไม่ค่อยชอบแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองไม่ค่อยถนัดนะคะ  แต่อ่านอันนี้แล้วขอแสดงความเห็นหน่อยนะคะ  ในฐานะที่เป็นมนุษย์เงินเดือน (แสน?) ความเห็นของคุณจขกท มาคล้ายๆคุณม.6 นะคะแต่ดิฉันเห็นด้วยคุณmistress และมือเก่า(คนอุบล)คห 4และ5 ถ้าเราได้เข้าอ่านในทุกห้องของพันทิปจะเห็นว่า  ในแต่ละห้องฐานอายุของคนใช้ไม่เท่ากัน  ห้องสินธรส่วนมากเป็นคนที่สนใจด้านการลงทุน มักจะมีปัจจัยสี่เรียบร้อยแล้ว  มีเงินเก็บ มีงานทำ  ต้องการจะหาวิธีที่ทำให้เงินเก็บที่มีนั้นงอกเงย  คือให้เงินทำงานนั่นเอง ส่วนห้องสีลม  มีเพื่อน พี่น้องหลายคนเป็นมนุษย์เงินเดือน บางคนเพิ่งจบ บางคนตกงาน  อย่าว่าแต่เงินเก็บเลย  แม้แต่ปัจจัยสี่เค้ายังมีไม่ครบเลย  แล้วจะให้เค้าเอาเงินที่ไหนไปลงทุนเล่าคะ เราว่าคุณเหมือนคุณ ม.6 นั่นแหละ ใครตอบเห็นด้วยกะคุณคุณก็ว่าเค้าเข้าใจประเด็น  คนที่เห็นแตกต่างกลับมองว่าไม่ใช่  สรุปว่าดิฉันไม่เข้าใจประเด็นคุณละกัน ก่อนจะคิดเรื่องการลงทุน  คนที่จบใหม่ๆเค้าคงคิดเรื่องเลี้ยงปากท้องก่อนกระมังคะ  ส่วนคนในห้องนี้ที่เค้าพูดถึงการเปลี่ยนงานและเงินเดือนมันก็เป็นเรื่องของความก้าวหน้าในอาชีพการงาน  และความภาคภูมิใจน่ะค่ะ  เงินมากก็เหมือนเป็นหลักประกันในอนาคต  เฉกเช่นเดียวกับห้องสินธรที่เค้าลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงย  ก็เหตุผลเดียวกันมิใช่หรือ อ้อ ลืมถาม  แล้วที่ว่าให้เรียนรู้จากกระทู้นี้ แล้วนำไปพัฒนาตนเองนั้น คุณจขกท ได้ทำรึยังคะ  ปัจจุบันประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือการลงทุนมากแค่ไหนคะ  สนใจจะแลกเปลี่ยนประเด็นความคิดเห็นไหมคะ   รอฟังคำตอบนะคะ แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 50 15:28:07 แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 50 15:24:11 จากคุณ : Girl in Cockpit - [ วันเถลิงศก (15) 15:22:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลองเซตเป้าหมายจากระดับเงินเดือนหรือคำว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างอื่นดูบ้างดีไม๊คับ จากคุณ : PT - [ วันเถลิงศก (15) 15:22:59 A:58.9.136.61 X: TicketID:120232 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คิดเหมือนคุณ Girl in Cockpit ครับ ผมถามกลับบ้างดีกว่า ว่าการที่คุณบอกว่าหลายๆคนไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพยายามสื่อ แล้วคุณล่ะครับ เข้าใจคนส่วนใหญ่ในห้องนี้แค่ไหน ? จากคุณ : ไซดักปลา - [ วันเถลิงศก (15) 15:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คนเราโอกาสมันไม่เหมือนกันครับ บางคนโชคดี พ่อแม่มีกิจการให้ หรือ โชคจังหวะ พาไป แต่บางคนเริ่มจาก ศูนย์ ทำไปเรื่อยๆ เวลารถติด จะรถเมล์ หรือ ยุโรปหรูมีคนขับ มันก็ติดอยู่ข้างเหมือนกันแหละ เหอๆ จากคุณ : BaLL182 - [ วันเถลิงศก (15) 15:42:44 ]

ความคิดเห็นที่ 14 i am tempted to turn this kratoo into an SME enterpreneur vs. professionals flame war, but would like to remain silent instead. anyway, being a professional is more than the money--although of course your pay is a direct barometer of your success.  being a professional is about enjoying what you do and moving up the rat race progressing to the apex of your career path.  in many professions, like law, finance, and medicine, etc. it is more than that--these professions can transcend personal objectives but instead the professional will have an active role in shaping the society at which we live in.  it is about power, about seeing how your actions impact the world, about knowing that what you do matters. this is an entirely different story from a meatball salesperson.  or perhaps i'm just digressing. จากคุณ : .. (! o_o !) - [ วันเถลิงศก (15) 15:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณเจ้าของกระทู้ ผมจะบอกอะไรให้อย่างหนึ่งนะ แต่ละห้องในพันทิป เค้ามีวัฒถุประสงค์ไม่เหมือนกันครับ ถ้าคุณลองคิดและพยยามเข้าใจว่า สีลม เค้าตั้งขึ้มมาทำไม และสินธรเค้าตั้งขึ้นมาทำไม คุณจะไม่มาตั้งกระทู้แบบนี้เลย เชื่อสิ แต่คุณเองไม่พยายามเข้าใจความแตกต่างของห้องต่างๆในพันทิปต่างหาก เนี่ยแหละความแตกต่างของสังคม แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 50 16:20:15 จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี - [ วันเถลิงศก (15) 16:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คือ การเป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่ใช่ผมไม่เคยเป็น ผมเคยเป็น ทำไมผมจะไม่เข้าใจเล่า การเป็นมนุษย์เงินเดือน เราจะใช้ ศักยภาพที่เรามีอยู่ และพัฒนาไปในแนวทางที่ตอบสนองกับความต้องการ ของงาน ซึ่งจะเป็นกรอบอย่างหนึ่ง ที่นี้ กรอบของรายได้ มันก็จะมีค่า เป็นชวงๆหนึ่ง ถ้าเอามาพล็อตกราฟ ก็เป็นรูประฆังคว่ำ หมายถึง ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนในแต่ละอุตสาหกรรม มันมีอยู่ คนทีจะได้มากหรือน้อย กว่านั้น มากๆ ก็อยู่ส่วนปลาย ของ Curve ในแต่ละสาขาอาชีพ และนั้นคือ พาหนะ แห่งอาชีพ การลงทุนและการทำธุรกิจส่วนตัว มันก็คือพาหนะอย่างหนึ่ง แต่กรอบของมันกว้างกว่า ทั้งด้านบนและด้านล่าง ซึ่งเปิดโอกาสให้ แต่ละบุคคล ได้ใช้ศักยภาพ ส่วนอื่น ที่อาจหลบซ่อนอยู่ และไม่เคยนำออกมาใช้ ถ้าคุณลงตัว ในงานและผลตอบแทนอยู่แล้ว ให้ผ่านกระทู้นี้ไปครับ แต่ถ้า คุณยังไม่ลงตัว ในหน้าที่การงาน หรือ ผลตอบแทน เรามาดูกันว่า งานที่คุณเลือก การศึกษา ที่คุณจบ ตรงกับ ศักยภาพและความสนใจ คุณหรือเปล่า ผลตอบแทนของ อุตสาหกรรม ที่คุณอยู่ ตอบสนองความต้องการในระยะสั้นและระยะยาวได้หรือไม่ คุณต้องพัฒนาศักยภาพ ส่วนใด เพื่อให้สามารถทำงาน และได้รับผลตอบแทน โดยเฉลี่ย ในอุตสาหกรรม ที่คุณสนใจ ห้องสินธร เป็นแค่ทางเลือก ไม่ใช่สรณะ คนในห้องสินธร ก็ไม่ใช่ประสบความสำเร็จทุกคน และบางคนก็เป็นมนุษย์เงินเดือนมาก่อน แต่กรอบของมัน ได้ถูกขยายออกไปแล้วต่างหาก เหมือน คนที่ใช้แรงงาน รับค่าแรงรายวัน หากเพียงแค่เปลี่ยน เป็นขับซาเล้ง หาของเก่ามาขาย กรอบรายได้ เขาก็เปลี่ยนแปลงไป นั่นเอง ประเด็นอยู่ที่ กรอบรายได้ พาหนะที่ใช้ ศักยภาพที่มี และ ทางเดินที่ต้องการไป ต่างหาก กระทู้นี้ไม่ได้เกี่ยวกับ ม หกเลย คนละปรเด็น คนละเจตนา ทีสำคัญ คนละคนด้วย ไม่ได้โน้มน้าว ให้คุณไปลงทุน ไปประกอบกิจการส่วนตัว หรือเลิกเป็นมนุษย์เงนเดือน ไม่ได้บอกว่าอะไรดีกวากัน ตั้งแต่ต้นแล้ว พาหนะ ที่เร็วกว่า ก็อันตรายกว่า และต้องใช้ทักษะมากกว่า ซึ่งมัน ก็เป็นตรรกะพื้นฐาน จากคุณ : จขกท - [ วันเถลิงศก (15) 16:19:51 A:58.9.63.171 X: TicketID:127369 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ยิ่งใหญ่นะ คุณคิดดูเถอะ บางคนจบเกียรตินิยมเมืองไทย เป็นข้าราชการ ยอมถูพื้น ล้างจนที่ออสเตรเลียอย่างไม่หยุดหย่อน เพียงเพื่อให้ได้เจ็ดหมื่นต่อเดือนจนถึงกับเป็นลม โดดเรียนก็ยอม แล้วแต่จุดมุ่งหมายของคน ยิ่งคนจน ๆ บางคนทะเยอทะ- ยานสูงมาก เพราะเขาเคยจนมาแล้ว ยิ่งต้องอยากได้เพราะ เคยโดนดูถูกไว้เยอะอะไรทำนองนี้ มีเพื่อนคนหนึ่งจบมหาวิยาลัยดัง ชอบพูดเรื่องบ้านไฮโซ และสังคมของคนรวย แต่ตัวเองเงินเดือนน้อย เป็นคนขี้ อิจฉา ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเป็นคนเรียนเก่ง หลาย ๆ ครั้งเขา น้อยใจ ร้องไห้ ด่าว่าคนในกลุ่มที่เกิดมารวย แต่เรียนไม่ เก่ง ว่าเขาโชคร้าย ดูแล้วไม่รู้ว่าจะโกรธหรือสงสารดี เคยเห็นคนข้างตัวเงินเดือนเยอะ แรก ๆ ก็อยากเป็นอย่าง เขา พอไปทำอย่างเขา แต่ไม่ไหวนะ นอนไม่เป็นเวลา กินไม่เป็นเวลา ต้องเสี่ยงกับโรคภัยต่าง ๆ เรียนก็เยอะ แทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย มีเงินเยอะก็ดี แต่ได้ทำงานที่เรารักน่ะดีที่สุด แล้วก็สบาย ใจด้วย บางทีเขาได้เงินแสนแต่ว่าเขาลำบากขนาดไหน เราไม่รู้ ที่มาเขาเป็นอย่างไร เราไม่รู้ ถ้าให้ไปเป็นอย่างเขา ก็ไม่เอาหรอก อยู่แบบนี้ดีแล้ว มีกินมีใช้ มีเพื่อนฝูงดีดี ได้ทำงานที่เรารัก อยากซื้ออะไรก็ได้ซื้อ ไม่มีคนอิจฉาริษยา ทำธุรกิจก็ทำ ที่สบายใจ ไม่เจ๊ง ไม่เจ็บดีกว่า เอาเข้าจริงอยู่เมืองไทย มีเดือนละห้าหมื่น มีรถหนึ่งคัน คนใช้หนึ่งคน บ้านหลังละสองล้าน ที่ดินต่างจังหวัดทำสวน ซะหน่อย ก็โอเคแล้ว คุยกับคนรวยหลาย ๆ คน เขาเฉยมาก ๆ กับเรื่องเงินเยอะ (ส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัดที่รวย ๆ) ไม่ค่อยโอ้อวด ใช้ ชีวิตสบาย ๆ ไม่แข่งขันอะไร ดูแล้วโคตรอิจฉาเลย เมื่อก่อนเคยคิดว่า อยากรวย อยากมีหน้ามีตา เดี๋ยวนี้เลิก เลย รู้สึกว่า เงินเป็นส่วนหนึ่งของความสุข แต่ถ้ามีแต่เงิน รอบข้างมีแต่คนอิจฉาริษยา แก่งแย่งแข่งขัน ไม่ปลอดภัย ก็ไม่รู้จะมีเยอะไปทำไม (อันนี้เพิ่งคิดได้หลังจากโดนปล้นไปสี่แสน และก็ไม่สบาย หนัก ๆ มาครั้งหนึ่งอย่างไม่มีสาเหตุว่า สิ่งที่คนเราต้องการ จริง ๆ คือความสุข ความสบาย ต่างหาก แต่เงินก็สำคัญนะ ไม่ใช่ไม่สำคัญ) เวลาเป็นส่วนตัวเลย จากคุณ : Fah Lan - [ วันเถลิงศก (15) 16:41:09 A:203.88.224.44 X: TicketID:115899 ]

ความคิดเห็นที่ 18 งั้นคุณคงต้องเปลี่ยนหัวข้อกระทู้ใหม่แล้วล่ะค่ะ "ทำไม รายได้เดือนละแสนในห้องนี้เป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก" อ่านแล้วไม่ชวนพัฒนาสมองนะคะ หรือไม่ก็ตั้งกระทู้ผิดห้อง ไม่ได้ว่าคุณคือคุณ ม.6 แต่เราว่าคุณตั้งข้อคล้ายๆกันจริง อย่างเรื่องทำธุรกิจลูกชิ้นเนื้อที่มีคนยกมา  คุณว่ามันตรงประเด็น ตรงไหน?(แต่ตอนนี้บอกว่าไม่สนับสนุนให้ ทำธุรกิจหรือลาออกจากงานประจำ) งั้นใครที่บ้านทำธุรกิจส่วนตัวก็ตรงประเด็น ใช่คุณอาจจะเคยเป็นมนุษย์เงินเดือน แล้วปัจจุบันทำธุรกิจส่วนตัวประสบความสำเร็จ เลยอยากจะบอกให้ทุกคนเปลี่ยนแปลงกรอบความคิดเสียใหม่  คุณว่าคุณเข้าใจแต่เราว่าคุณไม่เข้าใจ กลับไปอ่าน คห 15ใหม่ นะคะ อีกอย่างคุณว่าคนห้องสินธรก็มีเป็นมนุษย์เงินเดือนมาก่อน แต่ตอนนี้กรอบรายได้ของเขาเปลี่ยนไป แต่ห้องสีลมของเรา เค้าอายุเท่าไหรกันเล่า? กลับไปอ่านคห 10ใหม่นะคะ เราเคยทำธุรกิจส่วนตัว  เปิดร้านกาแฟ  นำเข้าใบตัดหิน แต่ก็เจ๊ง ด้วยหลายสาเหตุ ที่บ้านก็ยังทำธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ เด็กบ้านนอกและเด็กช่างมาฝึกงานกันเยอะ เราว่าเราเข้าใจ มนุษย์เงินเดือนมากกว่าคุณนะ และเข้าใจในฐานะเจ้าของกิจการด้วย ชีวิตคนเรามันเป็นลำดับขั้น  เค้าเริ่มจากห้องสยามสแควร์  มาที่สีลม  ไปชายคา  สินธร และราชดำเนิน คุณเห็นว่าไงล่ะ แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 50 17:22:01 จากคุณ : Girl in Cockpit - [ วันเถลิงศก (15) 17:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 การมองเหรียญด้านเดียว จะทำให้ไม่เห็นโลกทั้งหมด ผมคนนึงล่ะ ที่เข้าทั้ง2ห้อง เพราะชีวิตมันก็มี2มุม มุมในการทำงาน กับมุมในการลงทุน ยอมรับครับ อิจฉา คนที่เงินเดือน แสนขึ้น ผมเองเงินเดือนหมื่นกว่าบาท ไม่พอครับ เลยต้องเอาเงินที่บ้านมาลงทุนในตลาดหุ้น คนที่เงินเดือนเป็นแสน เราไมได้มองแค่อิจฉาว่าเค้าเงินเดือนเยอะ แต่มองถึงความสามารถของเค้าที่บริทนึง ยอมจ่ายทุกเดือนเพื่อให้เค้าทำงานให้ และคนที่เงินเดือนเป็นแสนไม่ใช่ว่าจะไม่มีหัวคิดในการลงทุน จะเห็นได้ว่า คนในห้องสีลมเอง ก็ไปอยู่ในห้องสินธรอยู่เยอะไป เค้าสามารถแยกแยะได้ว่าเข้าห้องไหน ควรพูดเรื่องอะไร ในห้องสินธรเอง ก้มีทั้งกำไรและขาดทุน ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากมีรายได้เดือนละแสนโดยไม่ต้องเสี่ยงอยู่อย่างนี้ รู้มั้ยเวลาหุ้นอยู่บนดอยยแล้วมันหนาววววว ขนาดไหน อิอิ จากคุณ : pantippp - [ วันเถลิงศก (15) 17:17:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อ่านดูอีกที สงสัย กระทู้นี้จะไม่มีประโยชน์จริงๆแฮะ อีกทั้งผิดห้อง ผิดประเด็นอีกด้วย ก็ขอปิดกะทู้ แต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านครับ จากคุณ : จขกท - [ วันเถลิงศก (15) 17:35:40 A:58.9.57.163 X: TicketID:127369 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่คิดว่ายิ่งใหญ่หรอกครับ เพราะถ้าคุณมีความสามารถก็ไม่แปลกที่คุณจะได้เงินเดือนขนาดนั้น ถามว่าอิจฉาไหมก็ไม่รู้จะอิจฉาไปทำไม ในเมื่อความสามรถของเราตอนนี้ก็เหมาะกับเงินเดือนที่ได้รับดีอยู่แล้ว การพูดกันของห้องสินธร กับ สีลมไม่น่าจะเอามาเป็นประเด็นเพราะแต่ละห้องก็มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน จากคุณ : แมวหล่อ - [ วันเถลิงศก (15) 17:49:43 A:125.25.139.61 X: TicketID:116340 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าเจ้าของกระทู้ว่า มันไม่มีประโยชน์หรือว่า ทุกคนหลงประเด็น ผมว่า เจ้าของกระทู้อาจจะต้อง ศึกษาวิธีการตั้งกระทู้ใหม่ ว่าทำไมคนที่ตอบกระทู้เกินกว่า 90%ไม่สามารถเข้าใจถึงสิ่งที่คุณกำลังจะสื่อนะครับ จากคุณ : pantippp - [ วันเถลิงศก (15) 18:10:07 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมสงสัยอย่างเดียวคือถ้ามีความพยายามสื่อสาร(ต่อคนส่วนมาก) แล้วผลออกมาว่าคนส่วนมากไม่เข้าใจ ใครควรปรับปรุงมากกว่า ระหว่างคนรับสารกับคนส่งสาร? จากคุณ : Nexus - [ วันเถลิงศก (15) 18:16:07 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ว่าแล้วว่าสุดท้ายคุณบัตรผ่าน จขกท ก็ต้องทำแบบนี้ เป็นสูตรช่วงปิดเทอมเลยนะครับ จากคุณ : cookiecompany - [ วันเถลิงศก (15) 18:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุ๊กกี๊ปิดประเด็น เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.......... อย่าใช้ประสบการณ์ตัวเองตัดสินชีวิตคนอื่น..... เพราะต่างคนก็ต่างประสบการณ์....ต่างกรรม..... จากคุณ : โอ้ย...แจ่ม - [ วันเถลิงศก (15) 19:15:16 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อย่างกับอบรม เรื่อง MLM เลย เคยไปนั่งฟัง เพื่อนพูดแบบนี้แทบจะหลับคาโต๊ะกาแฟเลย เลยบอกเพื่อนไปเลยว่า เนี่ย แกนะ กดดันชั้น ชั้นนะคนโง่ คิดอะไรนอกกรอบไม่เป็น เพราะว่าสุขสบายดีกับกรอบของตัวเอง มีเงินเดือนไม่เยอะขนาดเป็นแสน แต่ก็พอกินพอใช้ พอเก็บ ไม่ลำบากมาก  มีความสุขกับการขับรถนิสสันนีโอ ไม่อยากขับเบนซ์ กลัวตัวเองเหนื่อยแล้วเครียด อยู่บ้านหลังไม่ใหญ่ แต่มีปัญญาทำความสะอาดทั่ว มีแม่บ้านไว้ทำงานบ้าน มีพี่เลี้ยงเด็กสำหรับเจ้าตัวเล็ก มีเงินเก็บไว้ให้ลูกและครอบครัวยามฉุกเฉิน ที่สำคัญไม่ได้เป็นหนี้ เพราะความฟุ่มเฟือย หรือทะเยอะทะยาน แข่งกับคนอื่น จากคุณ : วีทีอาร์ - [ วันเถลิงศก (15) 21:04:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามากระโดดลงเหว... ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ และก็เห็นด้วยกับบางแง่มุม ของ คนที่ชื่อ ม.6 คนนั้นด้วย และยังนับถือ เพื่อนๆ พี่ทุกคนในห้องนี้เหมือนเดิมครับ จากคุณ : น้ำพริกนรกชัดๆ - [ วันเถลิงศก (15) 21:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขี่มอไซค์  บางทีมันพลิกคว่ำ  คนขี่เจ็บถึงตายได้ ขี่จักรยาน  อย่างมาก็แค่เจ็บนิด ๆ หน่อย ๆ เกี่ยวรึเปล่าเนี่ย จากคุณ : kazama - [ วันเถลิงศก (15) 23:10:13 ]

ความคิดเห็นที่ 30 จะเอาไหมละครับ เงินเดือนห้าแสนแต่ไปโรงพยาบาลประจำ เสียค่าใช้จ่ายเฉพาะโรคเครียด กินยาลดความเครียดประจำ ทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด 365วัน หน้าตาดูเครียดประจำ นั่งรถ benz ขี่ bmw บ้านใหญ่โต ใช้ชีวิตคนเมืองกรุงมีคนใช้ มีเวลากินข้าวกับลูกๆๆเดือนละครั้งสำหรับอาหารเย็น ลูกบางคนติดยา แม่ไม่รู้ ทำงานลูกเดียว เพื่อให้ลูกๆๆมีเงินใช้ ตื่ืนตีหกกลับบ้านสามทุ่ม ทะเลาะกับสามีบ่อยครั้ง สงการณ์นั่งทำงานอยู่บ้าน กับอีกคนหนึ่ง เงินเดือนสองหมื่นปลาย อยู่บ้านนอกมีเวลาพาลูกไปเที่ยววันหยุด ตื่นแปดโมง กลับบ้านสี่โมง บ้านลูกไปออกกำลังกายตอนเย็น สงการณ์พาลูกไปทำบุญ พาไปไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ ขี่vigo มีบ้านหลังเล็กและครอบครัวที่อบอุ่น ลูกปรึกษาปัญหากับพ่อแม่เสมอ มีเรื่องเฮฮากับการกินข้าวเย็น ไม่มีคนใช้ แต่มีภรรยาคอยจัดการให้ กินข้าวแกง ตำน้ำพริก ลูกๆๆพร้อมหน้าเสมอบนโ๊ต๊ะกับข้าว เลือกเอาละกัน อยากเป็นครอบครัวไหนละครับ แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 50 23:34:00 จากคุณ : k9999th - [ วันเถลิงศก (15) 23:26:02 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เอ่อ..................... ขอเสนอไอเดียนิดนึง รายได้มาก รายได้น้อย มันก็แค่ตัวเลข ถ้าไปหลงกับมัน ก็จะหาความสุขในชีวิตได้ยาก.... ทั้งคนรวย ทั้งคนจน นั่นแหละ มีเงินน้อย มีรายได้น้อย มิได้หมายความว่าจะต้องลำบากยากเข็ญ เป็นทุกข์ แต่มีเงินมาก มีรายได้สูง ก็ไม่จำต้องอุดมทุกข์ ร่างกายอ่อนแอ ขี้โรค ครอบครัวไม่มีสุข ทั้งรวย ทั้งจน มีสิทธิ์เสพความสุขแห่งโลกปัจจุบันได้เท่าเทียมกัน ขอเพียงอย่าไป "หลงเสพติด" กับ ลาภ ยศ สรรเสริญ.... จนคิดว่ามันเป็น" สรณะแห่งชีวิต " ก็เท่านั้นเอง จากคุณ : ครูต้อ - [ 16 เม.ย. 50 08:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ยิ่งใหญ่สิ เดือนละตั้งแสน ก็เพราะเขาเก่ง เขาเฮงไง ชมเชยเขาไม่เห็นแปลก พนักงานกิน เงินเดือนนะคุณ ไม่ใช่เจ้าของกิจการ หรือนักลงทุน จากคุณ : ประมาณว่า - [ 16 เม.ย. 50 11:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ลางเนื้อชอบลางยา ชีวิตใครชีวิตมัน จะมาคิดแทนคนอื่นทำไมล่ะคะ จากคุณ : สาวตาแป๋ว (สาวตาแป๋ว) - [ 16 เม.ย. 50 12:55:14 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ประเด็นคือ เค้าหวังดีอยากให้คุณเป็นผู้ประกอบการได้เงินไม่จำกัดตามความสามารถ แทนที่จะมานั่งทำงานกินเงินเดือน นั่งทำงานงกๆๆแต่เจ้าของรวย คุณก็ได้เงินไปแค่ที่ตกลง แต่คนเรามันต่างจิตต่างใจ คนบางคนไม่ต้องการความเสี่ยง ต้องการความมั่นคง เค้าก็เลยไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับคุณ จากคุณ : 66 - [ 16 เม.ย. 50 13:44:16 A:124.120.136.62 X: TicketID:101679 ]

ความคิดเห็นที่ 35 จขกท. ดูเขียนเก่ง พูดเก่ง ในบางแง่มุมก็ดูมีประโยชน์ดี แต่ทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่าคะ ไม่เห็นบอกเลย ... จากคุณ : sweet E.T. - [ 16 เม.ย. 50 16:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โอ้ย อ่านแล้วปวดหัว ไม่ได้ปวดหัวเจ้าของกระทู้นะคะ แต่ปวดหัวคนตอบกระทู้หลายๆ ท่านค่ะ ว่าจะเข้ามาตอบตั้งแต่ตอนตั้งกระทู้ใหม่ๆ แล้วแต่เครื่องดันแฮ้งซะก่อน .................................................... อยากบอกเจ้าของกระทู้นะคะ ว่าเราเข้าใจในเจตนากระทู้ของคุณค่ะ เราคิดว่ากระทู้ของคุณนั้นมีประโยชน์มาก และรู้ว่าคุณกำลังพยายามสื่ออะไรให้คนในห้องนี้อยู่ เจ้าของกระทู้ไม่ต้องเสียใจนะคะ หากคนหลายๆ คนในที่นี้จะตีประเด็นที่คุณสื่อผิดไป ก็ปล่อยเค้าไปเถอะ แต่สำหรับเรา เราเห็นด้วยกับคุณ เพราะเราก็เป็นอย่างที่คุณว่ามาน่ะแหล่ะ เราผ่านมาแล้วทั้งการเป็นมนุษย์เงินเดือน และการเป็นเจ้าของกิจการ ผ่านการขี่พาหนะมาหลายประเภทแล้ว และผ่านการเปลี่ยนแปลงของกรอบรายได้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งผลจากการเปลี่ยนแปลงกรอบรายได้เหล่านั้น ล้วนแล้วเกิดขึ้นจากความไม่พอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ของเราเอง และความไม่พอใจในพาหนะที่เราใช้อยู่ รวมทั้งความกล้าเสี่ยงของเราด้วย มาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ค่ะ จากคุณ : rose bullet (rose bullet) - [ 16 เม.ย. 50 16:03:52 ]

ความคิดเห็นที่ 37 g จากคุณ : kitichai - [ 16 เม.ย. 50 18:10:46 A:61.90.153.66 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่เห็นต้องมองว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยครับ อยู่อย่างพอเพียงสิครับมีน้อยใช้น้อย มีมากใช้น้อยก็รวยแล้ว เงินเดือนเยอะไม่ได้บอกว่าคุณเป็นคนดีนะครับ คนดีอยู่ที่คำพูดและการกระทำต่างหาก ผมเองก็ไม่ใช่คนดีและเงินเดือนก็หมื่นกว่าๆ มีหนี้อีก 2 แสน เงินเก็บนิดหน่อย แต่ชีวิตก็มีความสุขดีครับ ชิลๆครับพี่น้อง จากคุณ : kitichai - [ 16 เม.ย. 50 18:18:36 A:61.90.153.66 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 ดูคนเถียงกัน คนดูมันส์ (และได้ความรู้) จากคุณ : gototon - [ 16 เม.ย. 50 18:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คุณก็น่าจะรู้ว่า คนมีเงินเดือนเดือนละ 100,000 การลงทุน น้อย บาท(ในแง่ของเงินตรา) ความเสี่ยงต่ำ คนเป็นเจ้าของกิจการกำไรเดือนละ 1,000,000 การลงทุน มาก บาท (ในแง่เงินตราเช่นกัน) ความเสี่ยงสูง หลัก High risk High return ง่ายๆ ชัดๆ เพราะฉะนั้นมันเทียบกันยากค่ะ ว่าอะไรมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับใคร เพราะเดือนละ 1,000,000 ของคุณที่ลงทุนทำกิจการ อาจจะกลายเป็นขาดทุน 1,000,000 ก็ได้ นี่คือมูลค่าความเสี่ยงที่มนุษย์เงินเดือนอาจจะไม่ต้องการแบกรับ จากคุณ : ขนมอาลัว - [ 16 เม.ย. 50 19:35:00 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านแล้วได้ความรู้ดีจังครับ อ่านแล้วเห็นด้วยกับคุณ Girl in Cockpit มากครับ โดนใจดี จากคุณ : พล (ปฐมพล คนกันเอง) - [ 16 เม.ย. 50 23:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยกับคุณ Girl in Cockpit เหมือนกันค่ะ แล้วเราเองก็เคยมีช่วงเวลาที่ไม่สบายมากๆเพราะเืรื่องเครียด ทำให้รู้สึกว่าเงินมากเท่าไหร่แต่ถ้าไม่สบายไปก็เท่านั้นค่ะ แต่เป็นเฉพาะเราป่าวไม่รู้นะคะบางคนอาจจะเิงินเดือนเยอะสุขภาพ ดี แต่เราไมไม่เห็นเป็นเลย T_T จากคุณ : taiyou - [ 17 เม.ย. 50 00:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 43 แต่ก็อย่าลืมแล้วกันว่า คนเงินเดือน 100,000 ก็มีความ เสี่ยงเหมือนกันนะ อย่างเช่น โดนไล่ออก หรือภาวะ เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง ร้อนๆ หนาวๆ นะ ถ้าต้องให้คน อื่นกำชาตะ แม้ว่า การเป็นเจ้าของกิจการจะเสี่ยงสูง แต่หากมองให้ ดี จะเห็นว่า ถ้าคุณเป็นลูกจ้างที่สามารถทำงานได้เดือน ละแสน ก็แสดงว่า ศักยภาพของคุณก็ไม่ธรรามดา เพียงแต่ ก็อย่างที่หลายคนบอกกันนะครับว่า ไม่อยาก เสี่ยงก็เท่านั้น ด้วยอายุ หรือ... แล้วแต่เหตุผลล่ะครับ สุดท้าย การที่คุณเป็นลูกจ้างที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้ แปลว่า คุณจะเป็นเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จด้วย เพราะทักษะบางอย่างก็แตกต่างกัน อย่างเช่นการจัดการ ความเครียด การแบ่งเวลา การใช้คน การจัดการความเสี่ยง การมองภาพรวมองค์กร ฯลฯ บางคนเกิดมาเพื่อเป็นลูกจ้าง ที่สุดยอด แต่บางคนก็เกิดมาเป็นเจ้าของโดยกำเนิดเหมือน กัน เอาเป็นว่า ถ้าจะทำอะไรก็ทำให้ดีแล้วกัน และมีความ สุขก็แล้วกันเน้อ จากคุณ : Neobernet (Neobernet) - [ 17 เม.ย. 50 01:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 44 จขกท. นี่เอง เซียนเทรดฟิวเจอร์ ..ถึงว่า มาบ่นๆเรื่อง ปิดกระทู้ แนวเดียวกับ MudleyGroup เลยนะครับ ขานั้น จาก 4 หมื่น เป็น 10 ล้าน ใน 1-2 ปี ช่วงกระทิงมาพอดี .... เด๋ว Options มาก็มันส์แน่ จากคุณ : KENG76 - [ 17 เม.ย. 50 13:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แทงใจดำ มนุษย์เงินเดือน จากคุณ : ม.6 - [ 17 เม.ย. 50 16:00:38 A:124.120.140.27 X: TicketID:024959 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 17 เม.ย. 50 22:56:30 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อืม  แปลกจริง ๆ ด้วย  ทำไมขงเบ้ง กุยแก กาเซี่ยง จิวยี่ ลิโป้ ฯลฯ เก่งกว่าโจโฉ เล่าปี่ ซุนกวน ทำไมเป็นผู้นำก๊กไม่ได้หว่า ลิโป้เก่งสุดยอดจนตั๋งโต๊ะต้องดึงมาเป็นพวกตัวเองถึงยึดอำนาจได้เพราะเกรงความเก่งของลิโป้  แต่ทำไมพอลิโป้ไม่มีนายคุ้มหัวแล้วเอาตัวไม่รอดหว่า ??? ขุนศึกคือขุนศึก กุนซือคือกุนซือ ผู้นำคือผู้นำ มีบ้างที่กุนซืออาจแปรเปลี่ยนเป็นผู้นำ  หรือขุนศึกอาจแปรเปลี่ยนเป็นกุนซือ  แต่ก็หาได้น้อยยิ่งนัก จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 17 เม.ย. 50 23:59:59 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผมว่า จขกท เค้าต้องการสื่อให้เพื่อน ๆ ในห้องนี้คิดแบบว่า "คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก" มั๊งนะครับ ผมอ่านแล้วปิ๊งนะครับ ตรงสองย่อหน้าสุดท้าย คือไม่ว่าใคร สถานะไหนก็ตาม ลองปิดกรอบตัวเองแค่สิ่งที่เราคิดว่ามันต้องเป็นไปอย่างนั้น สุดท้ายทำดีที่สุดมันก็คงได้เต็มที่ของกรอบนั้น จขกท เค้าอาจจะอยากบอกเพื่อน ๆ ว่า ให้ลองกระโดดออกมานอกกรอบบ้าง เผื่อความสามารถที่แท้จริงของเราจะพาไปได้ไกลกว่านั้น แต่ตอนนี้ผมขอทำหน้าที่เป็นมนุษย์เงินเดือนศึกษาประสบการณ์อย่างสุดความสามารถก่อนละกัน เผื่อวันนึงที่เมื่อกระโดดออกนอกกรอบไปแล้ว ผมจะเดินต่อไปได้อย่างไม่เสี่ยงเกิน จากคุณ : ความรักทำให้คนตาตี่ - [ 18 เม.ย. 50 00:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เฮ้อออ ได้เงินเดือนมาก งานที่ต้องทำก็มาก เหนื่อยเสียมากกว่า เหนื่อยจริงๆ ร่างกายอ่อนแอลง เงินเดือนสูงไม่ได้ทำให้เรามีความสุขไปกับเงินที่ได้ทั้งหมดหรอก ปัจจัยหลายอย่างในชีวิต ไม่สามารถควบคุมได้จากจำนวนเงินเดือนที่สูงขึ้น คิดดูดีๆ ได้มาก ได้น้อย ไม่สำคัญเท่าการรู้ได้รู้เสียหรอก อันนี้ยิ่งใหญ่กว่าจำนวนเงินที่ได้นะ จากคุณ : Doesn't Matter - [ 18 เม.ย. 50 07:45:03 ]

ความคิดเห็นที่ 50 โหวตซะก่อน ... ถ้าจำไม่ผิด จขกท เป็นเซียนหุ้นในห้องสินธรมาก่อนครับ (ตอนนี้สินธร เทียบสมัย ก่อนไม่ได้แล้วนะ) หลังจากนั้นถอด login ไป กลับมาโพสบ้างเพราะเขาเทรดฟิวเจอร์อยู่ด้วยการคิดระบบการเทรดขึ้นมาเอง ทุน 2 ล้าน 5 แสน กำไรประมาณ 25% ต่อเดือน ที่แกเปรยๆ(จากกระทู้อื่น) กำๆไร 1 สัปดาห์ 7 แสน ก่อนสงกราณ์มันเป็นไปได้นะเพราะ S50M07 ขึ้นมาประมาณ 20 จุด สัญญาละ 20,000 ถ้าเขาสะสมไว้ 35 สัญญา ลงทุน 1,781,500 (ค่าสัญญา + คอม ไม่คิดแวต) กำไร 700,000 บาท ได้ครับ ....... ฟิวเจอร์คืออะไร ... ไปหาคำตอบเอาเองนะครับ High risk High return ของแท้ ... จากคุณ : KENG76 - [ 18 เม.ย. 50 08:08:49 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คนขี้จักรยานยนไปเร็วจิง แต่ก็ตายเร็วไปเยอะนะครับ พึงระวัง   คนไม่มากหรอกที่จะถึงจุดหมาย ส่วนจักรยาน ไปเรื่อยๆ ไม่ถึงตาย จากคุณ : sojiro36 - [ 18 เม.ย. 50 09:46:06 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ความฝันสุดยอดของคนส่วนหนึ่งที่เรียนวิศวะคือการได้ เซ็นต์คำนวณแบบ หรือคนเรียนจบสถาปัต จะภูมิใจมาก ถ้าได้ออกแบบอาคารสักหลังจากมันสมองของตัวเอง การได้เห็นลายเซ็นต์ตัวเองในแบบพิมพ์เขียว เอามูลค่า เป็นเงินมาเทียบยังไม่ได้เลย ไม่ใช่แค่ความต้องการแต่เงิน ที่ทำให้เราต้องทำงาน ยังมีคนทำงานด้วยใจรัก ทำงาน ด้วยอุดมการณ์อยู่อีกมากมาย คนที่ในหัวมีแต่เงินคงไม่เข้า ใจหรอก มีเพื่อนเป็นหมออยู่ศิริราชอีกไม่นานก็จะย้ายตัวเองไปเป็น แพทย์ต่างจังหวัด ทิ้งรายได้หลายแสนไปรับเงินไม่กี่หมื่น เคยถามมันเหมือนกันว่าทำไมตัดสินใจแบบนั้น เพื่อนบอก ว่าเคยไปออกค่ายแล้วรู้สึกสงสารชาวบ้านตามชนบท เลยอยากเข้าไปช่วยเหลือ อยากทำงานแบบมีคุณค่ามาก กว่าทำงานเพราะเงินทอง ทำงานเพราะต้องการเงินเยอะๆ ต้องการเงินเยอะๆเพราะ คิดว่ามีเงินเยอะจะมีความสุขเยอะ ถ้าทำงานแล้วมีความ สุขโดยไม่ต้องใช้เงินเป็นตัวกลางหาความสุข เราทำงาน โดยได้ผลตอบแทนสมเหตุสมผล เป็นมนุษย์เงินเดือนก็ไม่ เห็นแปลก ได้ทำงานที่เรารักมีผลตอบแทนที่รับได้แล้วจะ ต้องดิ้นรนไปเป็น เจ้าของกิจการเพื่ออะไร จากคุณ : DEDETE - [ 18 เม.ย. 50 14:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เท่าที่ไปอ่านกระทู้เก่าๆ โดยปรกติแล้วทางเจ้าของกระทู้จะตอบคำถามดีและก็ให้แง่คิดดีๆเสมอ ๆ เพียงแต่ว่าคราวนี้อาจจะเป็นเพราะมาตั้งกระทู้ในช่วงที่มีกระทุ้ hot ๆ ในทำนองนี้พอดี พอดี ตรรกะเรื่องห้องสินธรสีลมเราเห็นด้วยกับคุณ Girl in Cockpit แต่ว่าในสองย่อหน้าสุดท้ายเราเห็นด้วยกับidea เจ้าของกระทู้ค่ะ คล้ายๆ concept ของ The Magic Of Thinking Big หรือ คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก แบบที่คห.48 ว่าค่ะ  เป็นหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนหลายๆคนทีเดียว จากคุณ : la-la-bell - [ 18 เม.ย. 50 16:35:23 ]

ความคิดเห็นที่ 54 แปลกหรอ เข้ามางง คนรอบตัวเราเงินเดือนแสนทั้งนั้น เพื่อนๆ ก็มาก พี่ๆ ก็เพียบ เมื่อไหร่จะถึงตาเราน้า กะไว้ไม่เกินสองปี ต้องสู้ให้ได้ !!! จากคุณ : cocoa butter - [ 19 เม.ย. 50 00:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 55 จขกท. อย่าตั้งกระทู้แนวนี้อีก เพราะส่วนใหญ่เป็นไม้แก่แล้ว ปิดหูปิดตา รอเข้าฝั่งอย่างเดียว แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าใจ อย่างที่บอก แทงใจดำมนุษย์เงินเดือน จากคุณ : ม.6 - [ 19 เม.ย. 50 00:15:04 A:124.120.128.201 X: TicketID:024959 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขงเบ้ง มิอาจสอนทหารเลว ให้เป็นยอดกุนซือได้ ก็เพราะความคิดว่า ตัวเค้าเป็นทหารเลว ครับ กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย จากคุณ : ม.6 - [ 19 เม.ย. 50 00:19:27 A:124.120.128.201 X: TicketID:024959 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ปัญญาอ่อนว่ะ..... จากคุณ : addicted to love - [ 19 เม.ย. 50 00:51:19 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เจ๋งดี อยากขับรถยนต์มั่ง จากคุณ : iam_vy - [ 19 เม.ย. 50 06:05:40 ]

ความคิดเห็นที่ 59 มีเงินมากมายเท่าไหร่ ก็ไม่มีความสุขเท่ามีใจหนึ่งใจให้รักแท้.... จากคุณ : คน tti - [ 19 เม.ย. 50 14:09:47 A:203.144.169.146 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุณ ม.6 เลิกมาป่วนได้แล้วล่ะ    มันไม่ได้แทงใจดำ มนุษย์เงินเดือนอย่างเราหรอก เราเข้าใจเจตนาการตั้งกระทู้ของคุณและจขกท เชื่อเราเถอะ  เราเห็นด้วย 100%กับคุณทั้งคู่เรื่องการมาเป็นเจ้าของกิจการซะเองน่ะ แต่อย่างที่บอก เรื่องแบบนี้มันต้องใช้ทุนและโอกาส บวกกับงานมนุษย์เงินเดือนบางงานก็มีเกียร์ติ(เช่นหมอ) และมีความสุข  มาทำเองยังไงก็ทำไม่ได้และไม่สุขเท่า  เช่นครอบครัวเราเป็นนักบิน  ถ้ามาทำธุรกิจเอง ก็ไม่ได้ขับเครื่องบินนะซิ จากคุณ : Girl in Cockpit - [ 20 เม.ย. 50 14:22:09 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขี่จักยาน พอได้ ขี่มอร์เตอร์ไซด์ยังไม่แข็งเลย เข้าใจเจ้าของกระทู้ (คือเข้าใจว่าให้พัฒนาตัวเอง อย่ากลัว เพื่อให้ไปถึงจุดหมายของรายได้ที่หวังไว้ ใช่ปะ) เด๋วจะต้องพัฒนาตัว ให้ขับรถเก๋งให้ได้ แต่ถ้าถึงขั้นขับเครื่องบินนี่ เจ๋งแน่ๆ *** ที่ห้วข้อว่า ทำไม 100,000 ถึงเป็นเรื่องใหญ่ ก็เพราะว่ายังทำไม่ได้ไง อิอิ *** จากคุณ : Sonwy - [ 20 เม.ย. 50 19:31:53 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ชาตินี้ จะมีเดือนละครึ่งแสนมั๊ยเนี่ย?.....วาสนาของผม จากคุณ : yyswim - [ 22 เม.ย. 50 13:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกันนั่นเอง ทุกคนที่ตอบกระทู้มาผมเห็นด้วยกับทุกคน เพราะทุกคนมีความคิดของตนเอง มีทางเดินเป็นของตนเอง จากคุณ : ToppuT - [ 25 เม.ย. 50 14:54:52 ]

ความคิดเห็นที่ 64 อ่านแล้วเข้าใจประเด็นของ จขกท นะครับ ... ซึ่งก็รู้สึกว่าตัวเองได้ประโยชน์จากกระทู้นี้มากทีเดียว ถ้าเข้าใจไม่ผิด ... เป้าหมายของกระทู้คือการบอกว่า เส้นทางของการประสบความสำเร็จทางการเงิน มันไปได้หลายทาง หลายพาหนะ ... คน 1 คน สามารถมีพาหนะได้หลากหลาย  มีทั้งจักรยาน  มีทั้งมอเตอร์ไซค์  ... มอเตอร์ไซค์ไปเร็วกว่า  แต่ถ้าล้ม ก็เจ็บมากกว่าแน่ ๆ ... ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า ใครชอบอะไรมากกว่ากัน ... หรืออาจจะสลับ ๆ กันไปทั้งคู่ก็ได้ ส่วนตัวแล้วเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนกันครับ เป็นขั้นต้นๆ ซะด้วย ....  คงต้องขอบคุณ จขกท ที่ช่วยให้คิดอะไร ๆ ได้หลายอย่างครับ ป.ล.  ส่วนเรื่องที่เป็นประเด็นถกเถียงกันนั้น ... ผมว่าเป็นเพราะการเลือกใช้คำที่มาตั้งเป็นกระทู้มากกว่าครับ ที่มันชวนให้อารมณ์เสียน่ะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : กกครับ - [ 13 พ.ค. 50 02:06:28 ]