ความคิดเห็นที่ 1 มาลงชื่อไว้ก่อนครับ จากคุณ : Dman - [ 13 พ.ค. 50 17:01:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เจอคล้ายๆ แบบนี้ค่ะ เจ้านายเป็นฝรั่งไม่เคยบอกเลยว่าตำแหน่งที่ทำอยู่ต้องทำอะไรบ้าง เวลาสั่งงานจะสั่งผ่าน emailหรือ msn หรือไม่ก็จะไม่สั่งอะไรเลย แต่จะไปให้เพื่อนร่วมงานที่เป็นชาวอังกฤษทำแทน ซึ่งเพื่อนร่วมงานชาวอังกฤษก็ไม่ได้สอนอะไรมากเท่าไหร่ จนรู้สึกว่าตกลงมาทำอะไรที่บริษัทนี้กันแน่ อึดอัดมากค่ะ จากคุณ : orage cat (kizcity) - [ 13 พ.ค. 50 20:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รีบมาโพสก่อนเพราะเป็นแฟนคลับ ลุงแอ็ด กรณีนี้เคยครับเป็นที่ทำงานที่สุดท้ายของผมเลยแหละ เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายมาก เล่าเลยดีกว่า อาจจะเป็นหนังชีวิตสะหน่อย คือปี 2548 ปลายปี ผมเริ่มคิดหางานใหม่เพราะอยากทำงานนอกสายโรงงาน อยากรู้อะไรนอกเหนือจากงานซ่อมเครื่อง ไปหางานพวกการตลาดหรืองานขาย ก้อไปได้บริษัททำสุขภัณฑ์แห่งหนึ่ง ตำแหน่งเป็นคนออกแบบ บรรจุภัณฑ์ และชั้นวางสำหรับขายสินค้าของตัวแทนจำหน่าย (เงินเดือนx2 เลยยิ่งสนใจ) ขึ้นตรงกับหัวหน้าที่เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 30ต้น ๆ ทราบภายหลังว่าเข้ามาก่อนผมประมาณ 3-4 เดือน ในตำแหน่งผู้จัดการ จบเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำงานมาแล้วประมาณ 6-7 ปี เปลี่ยนงานบ่อย เพื่อขึ้นตำแหน่ง อาศัยการ present ดี ช่วงทำงานคุณผู้จัดการเรียน ป.โท ไปด้วย เลยมีพฤติกรรมค่อนข้างเหมือนหัวหน้าคุณสุชาดา คือมาสาย 11.00 น ทุกวัน ผมลองถามดู คุณเขาบอกว่า ทำการบ้านเรียนโทดึก ตี 2-3 ทุกวัน เริ่มงานจริง ๆ ช่วง 13.00 ตามงานผมตลอด เขาเก่งเรื่องติดตามงาน นัดไว้อะไรเมื่อไหร่ ตามตลอดและต้องมีความคืบหน้า แต่เมื่อเราถามกลับขอข้อมูล material เฉพาะทาง ตอบไม่ได้พูดว่า ไม่รู้คำเดียว ให้ไปหาคนโน้นมั้ง คนนี้มั้ง เราถือว่าเป็นคนใหม่ พาซื่อ ก้อไปหาตามนั้น แต่ทุกคนที่ไปหาเมื่อรู้ว่าคุณหัวหน้าผมให้มาถามข้อมูล say no ทุกคน ไม่ให้อะไรเลย ผมเลยลองถามว่า ติดอะไรหรอ ทุกคนตอบตรงกันกันว่า คุณหัวหน้าผมขาวีน กลางที่ประชุม ว่าหน่วยงานอื่นไม่ให้ความร่วมมือตามแผนงานกำหนดวันของเธอ ทุกคนเลยส่ายหน้ากับพฤติกรรมเธอ จึงเป็นเหตุให้เธอต้องรับลูกน้องมาเพิ่ม คือผมมาทำงานเป็นประสานข้อมูล ผมไม่คิดมากในเมื่อบริษัทกล้าจ้างผม ผมก้อพร้อมแลก หาข้อมูลทำเองทุกอย่าง จนเวลา 17.00 เลิกงาน ผมจะกลับบ้าน คุณผู้จัดการผม ต้องเรียกผมไปสรุปงานที่ผมทำในวันนั้นให้ฟังทุกอย่าง และกำหนดตามงานต่อเมื่อไหร่ ความก้าวหน้าต้องได้อย่างไร คุยไปมาเกือบ 20.00 ทุกวัน จนผม งง ผมเริ่มงานตามบริษัท 08.00-17.00 ครบกำหนดทุกคนกลับหมดแล้ว แต่คุณเขาเริ่มงาน(งานเธอคนเดียว)11.00-12.00 พัก 13.00-17.00 ที่เหลือประชุม กับผม และในระหว่างเวลางานคุณผู้จัดการก้อทำแต่การบ้านเรียน โท  ผมนั้งอยู่ข้างเธอสังเกตว่าเธอไม่ค่อยรับโทรศัพท์ มีคนโทรมาผมลองดึงสายรับแทน กลายเป็นเพื่อนกลุ่มเรียนโท โทรมาตามงานกลุ่มที่เรียนตลอดฝากให้ผมบอกเธอ  ผมเริ่มจะไม่รู้สึกไม่สบายใจตรงงานเธอเริ่มบีบ บอกว่าผู้ใหญ่เร่งมาเธอรับปากแทนว่าจะทำให้เสร็จ ผมเพิ่งรู้ที่หลังว่าที่เธอให้สรุปทุกเย็นเพื่อเอาผลงานผมไปตอบ ตอบไม่ได้ก็บอกว่าน้องใหม่เขาทำงานไม่รู้เรื่องสั่งน้องเขาแล้วเขาไม่ทำ  กลายเป็นกดดันกว่างานที่เคยทำมาก ตอนอารมณ์ ดี ลองคุยกัน คุณผู้จัดการเขาอุตส่าห์สอนผมอีกว่า ที่เขาขึ้นได้อาศัยจังหวะและการนำเสนอ จบมา เปลี่ยนงานบ่อยเพื่อเอาตำแหน่ง เงินเดือนอย่าไปมอง จนมาเจอจังหวะที่นี่รับผู้จัดการ เขาตอนนั้นเป็นรองผู้จัดการบริษัทเล็ก ๆ อยู่ (อายุ 29 ) เขาบอกว่าเขาชอบงานที่นี่มาก งานสนุก งานสบาย เพื่อนรวมงานดี และกล้าจ้างเงินเดือนสูง เขากะว่าจะอยู่สัก 5 ปีแล้วค่อยคิดต่อ ผมก้อฟังเฉย ๆ ไม่พูดอะไร ในระหว่างที่ทำอยู่ หัวหน้าของผู้จัดการผม ก็เรียกผมเข้าไปถามเรื่องพฤติกรรมของผู้จัดการผม หลายครั้ง (ชอบเรียกไปช่วงเช้า 08.00 เพราะคุณผู้จัดการผมยังไม่ตื่น)ผมเลยถามกลับว่า ที่นี่จะสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นอย่างนี้หรือ ไม่ห้ามเดี๋ยวคนอื่นจะคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกทำตามกันต่อแล้วบริษัทจะแย่ หัวหน้าผู้จัดการผมก็บอกว่าเตือนหลายครั้งแล้ว รู้ปัญหา แต่เขาทำงานได้ งานเดินผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ก็ happy ผมอึ้งเลยไม่พูดต่อ จนมาระเบิดตอนคุณผู้จัดการเธอมาดูถูกว่าเคยเป็นถึงหัวหน้าแผนก ดูแลลูกน้องเป็นสิบงานแค่นี้ทำตามกำหนดไม่ได้ จะไม่ให้ผ่านโปรแน่นอน ผมเลยไม่พูดต่ออีก 1 อาทิตย์ เขียนใบลาออก มาตั้งบริษัทเองดีกว่า  หลังจากนั้นทราบข่าวจากคนข้างในว่า รับวิศวกรมาใหม่มาดูแลแทนผม จบจากเมืองนอกด้วย ทำงานได้ 1 เดือนลาออก จนคนที่ 2 ลาออกทราบว่าเธอก็ลาออกเอง (จึงหรือเปล่าไม่รู้)ตอนนี้ไปเป็นผู้จัดการบริษัทไหนแล้วมั้ง จากคุณ : เก้ากระบี่เดี่ยวดาย (เก้ากระบี่เดี่ยวดาย) - [ 14 พ.ค. 50 09:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สิ่งที่ผมเคยประสบพบเจอมา ในแบบอย่างที่ไม่ดี(ตามความคิดผม) ก็คือ ** แม้ไม่สั่งงาน แต่เมื่อเราส่งรายงานผลประกอบการไปให้บนหลักการเดียวกัน หากผลลัพธ์ออกมาดี คุยกันเพียง 5 วินาทีก็จบ หากผลลัพธ์ออกมาไม่ดี จะหาว่าเราทำข้อมูลมาผิด ** ไม่น่าเชื่อว่าเจ้านายผมคนนี้จะมาจากบังคลาเทศ ในแบบอย่างที่ผมชอบ และประสบพบเจอมาในบริษัทอเมริกัน แต่หัวหน้าเป็นคนไทย ** ไม่เคยเข้ามาก้าวก่ายวิธีการทำงานเราเลย ไม่เคยสอน ไม่เคยแนะ เมื่อถึงเวลารายงานผลประกอบการให้กับ MD ที่เป็นคนอเมริกัน จะคอยสนับสนุนเรา เคยรายงานจนหัวหน้าของหัวหน้าผมที่มาจากอเมริกายังอึ้ง เพราะไม่เคยเจอวิธีการวิเคราะห์สไตล์ผมในอเมริการมาก่อน ** การที่หัวหน้างานไม่สอนงาน คงต้องดูด้วยครับว่า เราได้อะไรจากการทำงานนั้นหรือเปล่า หากผลงานที่เราทำมาอยู่บนพื้นฐานอารมณ์ของหัวหน้างาน ก็จะทำให้สิ่งที่เราศึกษาเพื่อให้ได้ผลงานนั้นๆออกมาเกิดการลังเลสงสัย แต่หากผลงานของเราอยู่บนพื้นฐานของหลักวิชาการและความถูกต้อง แม้เขาไม่แนะนำเราเลยสักนิด แต่เราก็สามารถเติบโตได้จากการเรียนรู้ด้วยตนเอง ปล. เข้ามาเช็คชื่อครับอาจารย์ จากคุณ : เตร็ดเตร่ - [ 14 พ.ค. 50 09:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 1. ในเมื่ออยู่มาได้ปีกว่า แล้วทำไมถึงมาโอดโอยตอนนี้... แปลกไม๊เอ่ย... 2. หัวหน้าไม่เคยสอนงานเลย  ไม่เคยชี้แนะอะไรเลย  สั่งงานอย่างเดียว  วิธีสั่งก็คือ  แปะกระดาษโน้ตไว้ที่โต๊ะ ต้องหาวิธีทำงานเอาเอง ซึ่งก็เป็นอย่างนี้กับทุกคน - คำถามในใจคือ ทำไมทำมาได้ถึง ปีกว่า และ เพื่อนคนอื่นทำไมทำงานออกมาได้ ทั้งๆที่ไม่ได้สอน แสดงว่า งานเหล่านั้นเป็นงานที่อาจจะไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรมากมาย ก็ได้ ดังนั้น การสอนหรือไม่อาจจะไม่จำเป็น ซึ่งการสอนงานอาจจะคาดหวังจากพนักงานเองก็ได้... แต่ถ้าเรื่องนี้เกิดกับคนที่เพิ่งเข้าไปทำงานใหม่ๆ ผมจะตอบอีกอย่างหนึ่ง... 3. หัวหน้าผมเขาอยู่มานานมากแล้วครับ  พฤฒิกรรมในการทำงานคือสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นที่ไหน  มาสาย  กลับบ้านก่อน  เวลาทำงานก็นั่นอยู่หน้าจอ  ดูอินเทอร์เน็ต  ไม่เห็นเกี่ยวกับงานเลย  - พฤติกรรมของหัวหน้างานบางคนเป็นอย่างนี้ ทั้งนี้ เขารับผิดชอบกับงานมากน้อยเพียงใด และ ผลงานของทุกคนเป็นอย่างไร นี่เป็นอีกจุดที่คำถามไม่ได้ชี้แจ้งให้เห็น เพราะถ้างานออกมาดี แสดงว่าระบบงานโดยรวมดี หรือ งานของหัวหน้าอาจจะต้องเกี่ยวข้องกับ Internet ก็ว่าได้ แต่ถ้างานออกมาไม่ดีมีปัญหา นั่นจะต้องแก้ไขที่หัวหน้างานเช่นกัน ซึ่งจากข้อมูลไม่สามารถสรุปได้ 4. ผมพยายามเสนอแนะงาน  วิธีการทำงานใหม่ๆ เขาไม่เคยยอมรับเลย  บอกให้ทำไปเถอะ  ไม่ต้องคิดมาก - ถ้าหัวหน้างานเป็นเจ้าของกิจการ ก็ไม่ต้องคิดมากครับ แต่ถ้าไม่ใช่ก็พยายามเสนอแนะแนวทางการทำงานผ่านเจ้าของกิจการดีกว่า แต่ต้องไม่ข้ามหน้าข้ามตาเจ้านายด้วย ซึ่งมีหลากหลายวิธี 5. 1 ปีของคนกระตือรือล้น แล้วอยู่ในสภาวะไม่เอื้อต่อการกระตือรือล้น ผมคิดว่าน่าจะอึดอัดมากๆ ประกอบกับ ความคาดหวังมากเกินไปกับหัวหน้างาน ทำให้ผิดหวังเมื่อเห็นสภาพของหัวหน้างาน... สิ่งเหล่านี้เป็นความคิด ความรู้สึก และ ความคาดหวังของคุณ วราวุธเอง เมื่อผิดหวังไม่ได้อย่างที่คิด ก็เลยรู้สึกไม่พอใจต่อองค์กร 6. การลาออกหรือไม่ต้องดูองค์ประกอบอื่นๆประกอบกัน ส่วนจะบอกหัวหน้าให้ทำตัวดีขึ้นนั้น จะเป็นดาบสองคม เขาอาจจะมองคุณวราวุธในแง่ลบ มากกว่าในแง่ดี การไปบอกว่าหัวหน้าต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก ต้องใช้จิตวิทยาค่อนข้างมากในการโน้มน้าว ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ทำกัน แต่ถ้าคิดว่า หัวหน้าจะรับฟังก็บอกเขาตรงๆก็ดีครับ... ผมว่าเจ้าของเคส เข้าข้างตัวเองในการสอบถามข้อมูล... จากคุณ : wbj - [ 14 พ.ค. 50 17:23:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีค่ะคุณวราวุธ ดิฉันแต่งคำถามคุณใหม่หมดเลยนะคะ  เพราะคุณเขียนมา ยาว  และหากดิฉันหยิบมาตอบทางหน้าเว็บ  จะต้องวุ่นวาย กับการเปิดกลับไปกลับมาของหน้าเว็บ  เลยเอามาเรียบ เรียงใหม่  แต่รับรองว่าเนื้อความไม่เปลี่ยน  ประเด็นปัญหา ก็เป็นอย่างที่คุณถาม  รวมทั้งทำให้สั้นลงด้วย  จะได้ไม่ เปลื้องเนื้อที่ค่ะ  ทั้งนี้เพราะอยากให้คนอื่นได้รับทราบ ปัญหาและคำตอบด้วย คนที่เพิ่งทำงานมา  มีประสบการณ์ไม่มาก  เรียนจบใหม่ๆ มักมีไฟแรง  มีอุดมคติหรือยึดถือตำราเป็นหลัก  เพราะถูก สอนมาแบบนั้น  ไม่ค่อยมีหัวในทางคิดพลิกแพลงหรือ ประยุกต์  ยืดหยุ่น  เมื่อไม่ได้อย่างที่ตัวเองนึก  ไม่เป็น ตามที่วาดฝันเอาไว้  ก็จะเจ็บปวดอย่างคุณนี่แหละค่ะ   ก่อนที่จะบอกวิธีอื่น  ขอบอกเกี่ยวกับตัวคุณก่อนนะคะ สิ่งที่ต้องปรับก่อนเลยคือ  ลดความคาดหวังของคุณใน เรื่องของหัวหน้าลงก่อน  คนเราคิดอะไร  หวังอย่างไรย่อม ได้  แต่ต้องไม่ลืมว่า  คนอื่นไม่มีหน้าที่ต้องสนองความ ต้องการของเราทั้งหมดเสมอไป  เขาคงทำเท่าที่จะทำได้   หรืออาจไม่ทำเลยก็ได้  เราจะไปโกรธเขาได้อย่างไรคะ   สิ่งที่คุณได้รับคือความผิดหวัง  ดิฉันเข้าใจ  แต่จะโวยวาย ไปทำไมคะ  ใครก็ช่วยไม่ได้นอกจากตัวเอง  ต้องพูดใน สิ่งที่คุณไม่อยากฟังคือ  ทำใจเสียเถอะ  การจะไปคิด เปลี่ยนใครเขานั้นยากมากๆ ยิ่งให้เปลี่ยนมาเป็นอย่างที่เรา ต้องการ  คนรักกันแทบขาดใจยังไม่ทำเลย  ทำไม่ได้   อาจจะทำได้เพียงชั่วเวลาแล้วกลับไปสู่วังวนเดิม  คนที่ เปลี่ยนง่ายที่สุดคือตัวคุณค่ะ  หากทำใจได้ก็เปลี่ยนได้ใน ชั่วเสี้ยววินาที  ถามตัวเองว่าทำได้ไหม  หากคำตอบว่า ได้  เปลี่ยนเลยค่ะ  จะมีความสุขขึ้น เปลี่ยนแล้วยังไม่พอ  ต้องสร้างทัศนคติใหม่ว่า  การที่เรา จะหาทางสร้างงาน  ทำงานได้ด้วยตนเอง  คือดัชนีชี้ความ เก่งของเรา  ปกติคนเก่งเขาไม่ทำงานคนอื่นหรอกค่ะ  เขา จะคิดของเขาเอง ไม่อย่างนั้นงานที่ที่ต้องสร้างสรรค์ก็ ต้องออกมาเหมือนกันหมดแล้วซิ  แล้วจะมีค่าได้อย่างไร   อย่านั่งรอให้ใครมาสอนงาน  วิธีทำงานนั้น  ไม่มี ตำรา มาตรฐานหรอก  อาจจะมีหลายสิบวิธี  แต่ได้ผลเหมือน กัน  สุดแต่ใครจะคิดได้  ทำเป็น  คุณจะมีผลงานที่ออก มา  ไม่ดีก็ลองใหม่  แก้ไขไป  อีกหน่อยก็เก่งค่ะ  หากทำ อย่างที่บอกมานี้ไม่ได้  คุณจะต้องรู้คำตอบเองอีกเหมือน กัน  แต่การจะแสวงหาความต้องการอาจจะไม่พบก็ได้   ฉะนั้น  เราไม่มีทางเลือก  ฝรั่งเขาบอกว่าให้ Learn to live with it  คือ  เรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งนั้นให้ได้ เรียนรู้ที่จะอยู่กับหัวหน้าคนนี้ให้ได้  เขาเป็นแบบนี้  คือ   ไม่สอน  น่าจะดีนะ  แปลว่าเขาให้อิสระในการทำงาน  ใคร จะทำอย่างไรก็ได้  วิถีชีวิตคนทำงานที่เขาชอบ  อาจเป็น แบบ Result Oriented คือ  ไม่จุกจิกในวิธีทำงาน  ขอให้ ผลออกมาอย่างต้องการก็พอ  ไม่สนใจว่าได้มาอย่างไร   เขาทำอย่างนี้กับทุกคน  นั่นคือการยืนยันว่าเขาเป็นแบบ นั้น  จะให้เขาเปลี่ยนมาเป็นแบบที่คุณต้องการทำไมเล่า คะ  ทำไมเขาต้องลงทุนมากมายขนาดนั้น  เคยได้ยิน กลอนนี้ไหมครับ  เป็นของท่านอาจารย์พุทธทาส ภิกขุ  “ใครมีส่วนเลวบ้าง  ช่างหัวเขา  จงเลือกเอาสิ่งดี   เขามีอยู่  เป็นประโยชน์ต่อโลกบ้าง  คงน่าดู  ส่วนที่ชั่ว   อย่าไปรู้  ของเขาเลย”  หัวหน้าคุณทำแบบนั้นได้  แปล ว่า  นายเหนือเขาไปอีกทียอมรับได้  ยอมรับในผลงานที่ ออกมาดีมากก็ได้  ดิฉันเคยมีหัวหน้าอย่างนี้แหละ  เขาไม่ สอนหรอกค่ะ  เขาสั่งให้เราทำ  ขณะเดียวกันเขาก็ลงมือ ทำของเขา  กว่าเราคลำเสร็จ  งานเขาออกไปแล้ว  แล้ว พอเห็นของเรา  เขาก็ให้ดูของเขา  เราตัดสินเองว่าแบบ ไหนดี  จำไว้เป็นตัวอย่าง  แต่สิ่งที่ได้คือ  เรารู้จักคิดเอง   นี่คือสิ่งที่เราได้รับจากเขาค่ะ  นายพอใจผลงานเขา  เลย มองข้ามพฤฒิกรรมที่เขาทำเช่น  กินข้าวกลางวันกลับมา ช้า  แต่งานไม่เสียก็โอเคแล้ว แต่ท่านหัวหน้างานทั้งหลาย  ดิฉันไม่ได้ยุให้ท่านทำแบบ นี้  แต่อยากมองว่าคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน  ต้องเรียนรู้ ลูกน้องแต่ละคนด้วย  เพราะงานของคุณคือ การจัดการ คน  หากเราอ่านลูกน้องแต่ละคนทะลุ  เราก็ให้การปฏิบัติที่ ต่างกัน  ก็จะสร้างการตอบสนองความพอใจเป็นได้เป็นราย คน  นี่คือ  คนที่มี People Skill  สูง  เป็นหัวหน้าในหัวใจ ของลูกน้องได้  ไม่อยากเป็นหรือคะ  หรืออยากเป็นหัว หน้าที่นั่งอยู่บนหัวของลูกน้องหรือคะ  ไม่ปลอดภัยหรอก ค่ะ  เขาจะสะบัดหัวเมื่อไหร่ก็ตก  แต่หากนั่งในหัวใจได้   รับรองไม่มีวันตก  ฝากข้อคิดไปยังหัวหน้าทุกคนด้วย คุณวราวุธอย่าหงุดหงิด  โกรธขึ้ง  ดิ้นรนไปเลย  หาความ สุขที่เกิดจากทุกข์ในการทำงานดีกว่า  พบอุปสรรคต้อง ต่อสู้  อย่าวิ่งหนี  เรียนรู้ด้วยตนเองก็ได้  วิธีของคนอื่นเรา อาจทำตามได้บ้าง  ไม่ได้บ้าง  แต่ควรคิดด้วยตัวเอง   เรียนจากการลองผิดลองถูกจะได้เก่ง  หากคุณฟังดิฉัน   ใคร่ครวญก่อนเชื่อ  ก่อนทำตาม  เลือกวิถีที่คุณพอใจ   แล้ววันหนึ่งคุณจะเก่งอย่างน่าภาคภูมิใจ  ไม่มีใครมาทวง บุญคุณได้ว่า  สร้างคุณมากับมือ  เพราะคุณสร้างฝีมือด้วย ตนเอง  ขอให้โชคดีค่ะ สุชาดา  สุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา **************************************************** ตอนต่อไป  :  เป็นลูกน้อง  จะแนะนำหัวหน้าได้ไหม? **************************************************** จาก  “ไขปัญหาคนทำงาน กับ HR มืออาชีพ”  โดย สุชาดา  สุขสวัสดิ์  ณ  อยุธยา amorntvm@anet.net.th http://lungadd.pantown.com/ จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 14 พ.ค. 50 18:03:44 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอสงสัยนิดนะครับ ว่า....  ถ้าจะต้องรอให้หัวหน้ามาสอนงาน ... ถ้าอีกหน่อยจะเป็นเจ้าของกิจการเอง แล้ว....  ควรจะต้องรอใครมาสอนดีล่ะครับ จากคุณ : Dman - [ 15 พ.ค. 50 12:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามาให้กำลังใจลุงแอ็ดนะคะ และมาช่วยทำ Link กระทู้ "การทำงานร่วมกับ.....คน" ให้ลุงแอ็ดค่า (เริ่มตั้งแต่กระทู้แรกเลยล่ะกัน) การทำงานร่วมกับ.....คน – ตอนที่ 1 คนคัดค้านการเปลี่ยนแปลง http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5341375/B5341375.html การทำงานร่วมกับ.....คน – ตอนที่ 2 คนมองโลกในแง่ร้าย http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5344192/B5344192.html การทำงานร่วมกับ.....คน – ตอนที่ 3 คนย่ำอยู่กับที่ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5348064/B5348064.html#10 การทำงานร่วมกับ.....คน – ตอนที่ 4 คนชอบเก่งคนเดียว http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5352029/B5352029.html#7 การทำงานร่วมกับ.....คน – ตอนที่ 5  คนมีปัญหาส่วนตัว http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5354603/B5354603.html การทำงานร่วมกับ.....คน – ตอนที่ 6 คนเกียจคร้าน http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5357718/B5357718.html การทำงานร่วมกับ.....คน – ตอนที่ 7 คนไม่กล้าทำ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5367569/B5367569.html#4 การทำงานร่วมกับ.....คน – ตอนที่ 8 คนขาดความคิดริเริ่ม http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5371181/B5371181.html#4 การทำงานร่วมกับ.....คน – ตอนที่ 9 คนฉาบฉวย http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5374337/B5374337.html การทำงานร่วมกับ.....คน – ตอนที่ 10 คนโมโหฉุนเฉียว http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5382451/B5382451.html#7 การทำงานร่วมกับ.....คน – ตอนที่ 11 คนปัดความรับผิดชอบ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5386116/B5386116.html#4 การทำงานร่วมกับ.....คน – ตอนที่ 12 คนขาดมนุษย์สัมพันธ์ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5389550/B5389550.html การทำงานร่วมกับ.....คน ตอนที่ 13 – เพื่อนร่วมงาน ไม่ยอมสอนงาน ทำไงดี? http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5393712/B5393712.html การทำงานร่วมกับ.....คน ตอนที่ 14 – โดนหาว่าเป็นเต่า หดหัวอยู่แต่ในกระดอง http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5397438/B5397438.html การทำงานร่วมกับ.....คน  ตอนที่ 15 -   มี Work Team  แต่ไม่มี  Teamwork http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5400866/B5400866.html ตอนต่อไปค่ะ.... การทำงานร่วมกับ.....คน ตอนที่ 17 - เป็นลูกน้อง จะแนะนำหัวหน้าได้ไหม? http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5408621/B5408621.html จากคุณ : แมงปอในไร่ส้ม - [ 17 พ.ค. 50 21:04:20 ]