ความคิดเห็นที่ 1 สินค้าที่ส่งเป็นอะไรครับ ไปประเทศไหน(อาเซียน) ............................ สิ่งที่ต้องทำขั้นต้นคือ 1.ทำบัตรประจำตัวผู้นำเข้า-ส่งออก สินค้า ที่กรมการค้าต่างประเทศ (ถ้าทำแล้วก็ผ่านไป ยังไม่ทำก็ถามใหม่ จะบอกให้ว่าต้องใช้อะไร) 2.ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติ ต้นทุนสินค้า ที่ สำนักป้องกันการแอบอ้างสิทธิ์ กรมการค้าต่างประเทศ (ติดต่อชั้น14) 3.เมื่อส่งสินค้า ให้แนบเอกสารดังนี้ 3.1 INVOICE 3.2 ใบตรานำส่ง (B/L OR AIRWAY BILL) 3.3 ใบตรวจสอบคุณสมบัติที่ผ่านการตรวจแล้ว กรณีที่ส่ง สินค้ารองเท้าหรือ เซรามิค ต้องแนบเอกสารเพิ่มเติม -ใบขนสินค้าขาออก -หนังสือรับรองสินค้า -หลักฐานการได้มาของสินค้า เช่น ใบกำกับภาษี หรือ หากเป็นผู้ผลิต ก็ใบประกอบกิจการโรงงาน (ใบ รง.) ก่อนอื่นต้องเช็คก่อนว่า สินค้าที่ส่งออก มีอะไรบ้าง พิกัดเท่าไำหร่ กรณีที่ไปอาเซียน สามารถยึดแค่พิกัด 4หลัก หากยังอยู่ในพิกัดเดียวกัน ก็ยื่นต้นทุนสินค้า 1ชุดพอ ขอยกตัวอย่าง กรณีที่คุณทำธุรกิจ ผลิตภัณท์ ที่ทำจากไม้ สินค้าที่ส่งคือ ไม้แกะสลัก(ตั้งโชว์) , ถาดไม้ , กรอบรูป ก็ต้องยื่น 3รายการ ไม้แกะสลัก พิกัด 4420.10 ถาดไม้ 4419.00 (ของใช้บนโตะอาหาร) กรอบรูป 4414.00 ยึด 4หลักแรก อีกตัวอย่าง สินค้า เครื่องใช้เครื่องสำอางค์ อาทิ ลิปสติก ,แป้ง , อายเชโด้ ลิปสติก 3304.10 (สิ่งปรุงแต่งที่ใช้กับปาก) แป้ง 3304.91 (เป็นผง) อายเชโด้ 3304.20 (สิ่งปรุงแต่ที่ใช้กับตา) อย่างนี้ พิกัด 4ตัวแรก เหมือนกัน ฉนั้น ก็ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติ แค่ตัวเดียวพอ (อันนี้ใช้ได้เกือบทุกฟอร์ม ที่ขอลดหย่อนภาษี ยกเว้น เอฟทีเอ ต้องยื่นหมด(นับ6หลัก)) ............ ตรวจสอบคุณสมบัติ................... การยื่นตรวจสอบคุณสมบัติ 1 ดูสถานะเราว่าเป็นอะไร ผู้ส่งออก (ซื้อมาขายไป) หรือ ผู้ผลิตและส่งออก ถ้าเราซื้อมาขายไป ต้องติดต่อผู้ผลิตให้เขาให้ความร่วมมือดัวย เพราะบางอย่างอาจจะต้องบอกถึงแหล่งผลิต กรรมวิธีการผลิตสินค้า กรณีที่เราเป็นผู้ผลิตจะง่ายหน่อย ก็แนบใบประกอบกิจการโรงงาน , ใบกำกับภาษีที่เราซื้อวัตถุดิบ, หนังสือรับรอง , ภพ.20 ขั้นตอนการผลิตสินค้า แบบพอให้รู้ว่าเราผลิตจริง(ละเอียดหน่อยก็ดี) การคำนวณ ถึงตอนนี้ คุณต้องเอาราคาสินค้า 1หน่วย มาแยกออก ราคา F.O.B. = ? USD. ค่าขนส่ง จากโรงงาน ไปถึงท่าเรือ(ต้นทาง)ต่อสินค้า 1ชิ้น = ? USD. กำไรต่อราคาสินค้า 1ชิ้น =  ? USD. ค่าใช้จ่ายอื่นๆต่อสินค้า 1ชิ้น (เช่นค่าแรง) = ? USD. ..วัตถุดิบในประเทศ มีอะไรบ้าง / ราคาต่้อหน่วย USD / หน่วย / ปริมาณที่ใช้ / เป็นเงิน = ? USD. จงจำไว้ว่า วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ที่นี่(หน่วยงานราชการ) จะเชื่อว่าสินค้าที่ใช้วัตถุดิบในประเทศทั้ง 100เปอร์เซ็นต์ มีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น เช่น สินค้าเกษตร , พวกสมุนไพร , งานหัตถกรรมชิ้นเล็กๆ นอกนั้น คุณต้องกันบางส่วนเป็นวัตถุดิบต่างประเทศ แม้คุณจะซื้อในประเทศก็ตาม ...วัตถุดิบต่างประเทศ มีอะไรบ้าง / พิกัดเท่าไหร่ /นำเข้าจากประเทศไหน / ราคาต่้อหน่วย USD / หน่วย / ปริมาณที่ใช้ / เป็นเงิน = ? USD. ** แค่นี้ก่อน เดี๋ยวผมเข้าไปทำงานก่อน เย็นๆดึกๆ จะมาต่อ สงสัยก็โพสถามนะครับ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 50 15:30:42 จากคุณ : ใบหูมังกร - [ 19 มิ.ย. 50 15:01:25 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เป็น อุปกรณ์ประกอบชุดชั้นในค่ะ ประเภทลวดโครง และห่วง ตะขอ ตัวปรับ ค่ะ ส่งทั้ง asia และ Europe ค่ะ จากคุณ : boohoo - [ 19 มิ.ย. 50 15:11:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนค่ำๆจะกลับมานะครับ เดี๋ยวไปข้างนอกก่อน จากคุณ : ใบหูมังกร - [ 19 มิ.ย. 50 16:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : boohoo - [ 19 มิ.ย. 50 18:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อนะครับ ผมมีลูกค้าเจ้านึง ทำแผ่นรองฟองน้ำของบราเซียร์ แต่อันนั้นเป็นฟองน้ำ+ผ้า เลยเข้าพิกัด garment ได้ ส่วนของคุณ ถ้าให้เดาคงต้องแยกสินค้าออกมาก่อน โครงลวดทำจาก โลหะ ห่วงตะขอ ทำจากโลหะทั้งหมดหรือไม่ ถ้าใช่ น่าจะเข้าไปดูในพิกัด ของที่ทำจากโลหะสามัญ (พิกัด83) มีพิกัดย่อยอยู่ตัวนึง 8308 แคลส์ป โครงสร้างพร้อมแคลส์ป หัวเข็มขัด ชนิดแคลส์ป ตาขอ ห่วง ตาไก่ และของที่คล้ายกัน ทำด้วยโลหะสามัญชนิดที่ใช้กับเสื้อผ้า รองเท้า ผ้าใบบังแดด กระเป๋าถือ ของที่ใช้ในการเดินทาง หรือของอื่นที่จัดทำแล้ว รวมทั้งหมุดย้ำที่เป็นรูปทรงกระบอก หรือสองขา ทำด้วยโลหะสามัญ ลูกปัดและเลื่อมทำด้วยโลหะสามัญ 8308.10 ตาขอ ห่วง ตาไก่ 8308.20 หมุดย้ำเป็นรูปทรงกระบอกหรือสองขา 8308.90 อื่นๆรวมถึงส่วนประกอบ ส่วนชิ้นที่เป็นพลาสติก ผมไม่แน่ใจนักว่าเข้าพิกัดอะไร 3926.20 เครื่องแต่งกายและของที่ใช้ประกอบกับเครื่องแต่งกาย(รวมถึงถุงมือทุกชนิด) หรือ 3926.90 ของใช้ทำจากพลาสติกอื่นๆ แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 50 22:34:13 จากคุณ : ใบหูมังกร - [ 19 มิ.ย. 50 21:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณบอกว่าคุณทำบางส่วน ทำส่วนไหนอ่ะ ยกตัวอย่างตะขอ ก็ได้ เขาส่งสินค้าอะไรมาให้คุณ และคุณ ดัดแปลงหรือประกอบส่วนไหนส่งออก ขอรายละเอียดหน่อยครับ เพราะดูแล้วสินค้ามันง่ายๆ ไม่ต้องมีอะไรมาก เช่น เขาส่ง ลวด (ต้องดูว่าเขาเป็นโรงงานผลิตด้วยหรือเปล่านะ ถ้าซื้อมาขายคุณ เขาต้องทำจดหมายรับรองว่าซื้อสินค้ามาจากไหน(ผู้ผลิต) อันนี้แหละ อาจจะเป็นปัญหากับคุณ เขาอาจจะไม่ให้ความร่วมมือกับคุณ เพราะคุณอาจจะรู้แหล่งการผลิตก็ได้) แบ่งส่วนของวัตถุดิบออกมาด้วยว่าใช้อะไรบ้าง ลวด สี หรืออะไร ราคาต่อหน่วย ก็ไม่ต้องถึงขั้น 1ตัวหรอก ส่งเป็นกล่อง ก็คิดฐานข้อมูลจาก 1กล่อง จริงๆชิปปิ้งสามารถขอให้คุณได้นะ แต่มันยุ่งยาก และหากไม่ผ่านการตรวจสอบ อาจจะวิ่งไปวิ่งมาหลายรอบอยู่ สำคัญคือ ดูสัดส่วนการนำเข้าวัตถุดิบด้วยครับ นำเข้าไม่เกิน 60% ของราคา FOB. หรือวันไหนมากระทรวง หาผมก็ได้ จะแนะนำให้ สำหรับ"เพื่อนร่วมห้อง" ฟรีครับ ไม่คิดเงิน จากคุณ : ใบหูมังกร - [ 19 มิ.ย. 50 22:15:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กรณีไม่มีโรงงาน ทั้งคนขายและคนซื้อ คุณต้องเพิ่มเอกสาร อธิบายลักษณะธุรกิจของคุณ วงจรการผลิต แล้วแจ้งว่าคุณผลิตขั้นตอนไหน ถึงขั้นตอนไหน โดยอาจจะบอกเหตุผลดังนี้ 1.กำลังดำเนินการขอใบอนุญาติประกอบกิจการโรงงาน หรือ 2.กำลังการผลิต ของเราเล็กมากๆ เป็นอุตสาหกรรมขนาดครัวเรือน และอยู่ใจกลางกรุงเทพ ไม่สามารถจด ทีนี้จะทำอย่างไร ให้เจ้าหน้าที่เชื่อได้ เพราะเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้เข้าไปตรวจคุณถึงแหล่งผลิต คุณแจ้งหมายเลขทะเบียน รง. เขาก็เข้า เว็บกรมโรงงานแล้วตรวจสอบว่าผลิตอะไร ฉนั้น ต้องแนบหลักฐานประกอบ เช่น ภาพถ่าย บรรยากาศ แหล่งผลิต ภาพถ่าย ขั้นตอนการผลิต และจดหมาย แบบที่บอกข้างบน จากคุณ : ใบหูมังกร - [ 19 มิ.ย. 50 22:32:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามาแอบอ่านค่ะ ฮืมมม .. คุณใบหูมังกร กับ คุณ Once In the Blue Moon นี่ เป็นคนเดียวกันรึเปล่าน๊อ? รู้สึกว่าจะเก่ง ในแนวเดียวกันเราเองก็เคยได้รับคำแนะนำดีๆ จากทั้ง 2 เลยค่ะ ;-) จากคุณ : ฮาเฟ - [ 20 มิ.ย. 50 02:40:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีครับ คุณฮาเฟ ใช่ครับ ผมไม่เก่งเท่าไหร่หรอกครับ งานชิปปิิ้้ง มันหลากหลายครับ อยู่ที่ใครถนัด และทำงานนั้นๆประจำ ส่วนใหญ่ ก็จะต้องพึ่งพาอาศัยกันนะครับ จากคุณ : ใบหูมังกร - [ 20 มิ.ย. 50 21:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนแรกไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ชัวร์แล้วค่ะ ว่าจะได้คำตอบแบบคุณภาพคับแก้วจากพี่เลี้ยงจริงๆ   คุณใบหูมังกรคะ .. ผ้าไหมส่งไปเบลเยี่ยม แรกๆ ชิปปิ้งเค้าก็ยอมทำฟอร์มเอ ให้แต่โดยดี พักหลังๆ หลังปี 2005 มานี่ :-) ไม่มีเจ้าไหนยอมทำให้ ก็เลยตัดใจส่งกันแบบไม่มีฟอร์มเอ ค่ะ เสียมารยาทหน่อยนึง แต่ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ ถามคุณ ใบหูมังกร อีกนิดนะคะว่า เครื่องประดับหิน (ที่ถามคุณถึงแหล่งซื้อ ในกระทู้ก่อนๆ) ไปยุโรป ยุ่งยาก หรือติดพิกัดอะไรมั้ยคะ? ไม่ได้ส่งเองค่ะ จะใช้บริการชิปปิ้ง เพราะในเมืองไทย ถือว่าเป็นบุคคลธรรมดา ... ขอบคุณอีกครั้งค่ะ     ปี 2005 ตอนนั้น จ่ายค่าทำฟอร์มเอ + c/o 1,500 บาท จากคุณ : ฮาเฟ - [ 20 มิ.ย. 50 21:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สินค้า 100% silk ไม่ต้องขอฟอร์ม C/O TEXTILE หากต้องการขอฟอร์มเอ นั้น ง่ายมาก การยื่นต้นทุน ง่ายกว่า การยื่นต้นทุน สินค้าอื่นๆ หากคุณเป็นผู้ผลิต ก็แนบหลักฐานการผลิต หรือหากซื้อมาขายไปจากกลุ่มชาวบ้าน หลักฐานอาจจะให้ทางชาวบ้าน ให้ทางหน่วยงาน (เช่น อบต.) ออกเอกสารรับรองก็ได้ว่าชาวบ้านกลุ่มนี้ผลิตจริง จากนั้น ก็แนบหลักฐาน การสั่งซื้อหรือหลักฐานการรับเงินทางบริษัทเรา(exporter) garment ไม่ต้องคำนวณต้นทุนด้วยครับ 100% thai silk woven fabric พิกัด 5007.10 เอกสารพร้อม ไม่เกิน 2วัน ก็เสร็จแล้วครับ ส่วนเครื่องประดับหินนั้น ต้องดูสัดส่วนของวัตถุดิบ นำเข้าไม่เกิน 40% (ฟอร์มเอ ไม่แน่ใจว่าจากราคาโรงงาน หรือ เอฟโอบี) ซึ่งส่วนใหญ่วัตถุดิบหลักๆเราคงไม่ได้ผลิตในบ้านเรา(หิน) ต้องคำนวณดีๆ อีกเรื่องคือที่ผมรู้มาว่า สินค้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และจิวเวลรี่(ต้องดูพิกัด 71) ไม่สามารถขอฟอร์มเอ(ไปยุโรป) ได้ครับ แต่เครื่องประดับจากหิน ส่วนใหญ่ ถ้าผมขอฟอร์ม c/o ทั่วไป ผมจะตีว่าเป็นของที่ทำจากหินอ่ะครับ (พิกัด 68 ของอื่นๆที่ทำจากหิน ก็ผ่านนะ) ฟอร์มเอ คือ สิทธิพิเศษที่ทางประเทศพัฒนาแล้ว ให้สิทธิแก่ประเทศกำลังพัฒนา และไม่ใช่ ลดทุกพิกัด แต่ละประเทศก็ลดหรือไม่ลด, ลดมาก ลดน้อย ไม่เหมือนกัน โดยมากก็ลดกันไม่เยอะนะครับ นิดเดียวเอง (แต่ลูกค้าขอกันจัง) บางครั้งจำเป็นต้องขอหากลูกค้าระบุเงื่อนไขใน L/C ทำไว้ก็ไม่เสียหลาย ส่วนเรื่องการใช้ชื่อในการส่งออก บุคคลธรรมดาสามารถ จดทะเบียนแบบร้านค้าได้ ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า(15นาทีก็เสร็จ) และมีทะเบียนภาษีบุคคล ก็พอ ถ้าจะทำจริงๆก็สามารถทำได้ครับ แต่.................. เมื่อคุณเริ่มเข้าระบบภาษี อะไรต่างๆก็จะตามมา..................... ส่วน 1500 ถ้าเป็นชื่อคุณ ก็ถือว่าแพง ถ้าคุณใช้ชื่อเขาส่งออก ก็ไม่แพงนัก เว้นเสียแต่ว่าส่งออกบ่อยๆ เพราะหากคุณยื่นเอง(เดี๋ยวนี้ผ่านระบบ edi c/o ไม่เกิน 10นาที ยื่นธรรมดา ถ้าที่สนามบินน้ำ ก็ไม่เกิน 2ชม.) คุณก็เสียแต่ค่าฟอร์ม 30บาทกับเีสียเวลาเท่านั้น แต่คุณอย่าลืมว่า ทางบริษัท เขามีค่าใช้จ่าย จ้างลูกน้อง ค่าเช่า สนง. ภาษี จิปาถะ ถ้าส่งไม่บ่อย ก็ใช้ไปเถิด อันนี้ก็ชั่งเอาครับ เรื่องข้างบน(ฟอร์มเอ) ถ้าคุณไม่ได้่ส่งออกในนามคุณเอง ก็ลืมมันไปนะครับ เพราะเดี๋ยวต้องลากบริษัทส่งออก เข้ามาเชื่อมมีทีหนึ่ง (ทำได้แต่ยุ่งยาก) กรณีที่คุณเป็นผู้ผลิต คุณสามารถยื่นต้นทุนฟอร์มเอ(ผ้าไหม)ได้ เมื่อต้นทุนผ่านแล้ว ก็อาจจะทำจดหมาย แนบไปกับแบบฟอร์มที่จะขอฟอร์มเอ ประมาณว่า คุณ เป็นผู้ผลิต(แต่ต้องเป็นร้านค้าด้วยนะ ชื่อคนไม่ได้) แล้วมีลูกค้าต่างประเทศสั่งสินค้าคุณมา คุณ ส่งสินค้าผ่านทางบริษัทรับส่งสินค้านั้นๆ ทางบริษัทผู้ส่งออก ขออนุญาตใช้ต้นทุนร่วม (หมายถึงของคุณ) แนบจดหมาย + ใบต้นทุนที่ยื่นผ่านแล้ว อย่างนี้ก็น่าจะได้ แต่บริษัทขนส่งจะดำเนินการให้หรือเปล่า อีกเรื่องนึง เพราะมันวุ่นวายนิดหน่อย สงสัยก็ถามนะครับ ตอบได้จะตอบ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 50 00:24:15 แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 50 00:21:00 จากคุณ : ใบหูมังกร - [ 21 มิ.ย. 50 00:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ฮ่วยย เที่ยงคืนกว่าๆ แล้ว ยังไม่นอนอีกเหรอคะเนี่ย ... ขอบคุณมากนะคะ ข้อมูลที่ให้ กระจ่างมากๆ ค่ะ จากคุณ : ฮาเฟ - [ 21 มิ.ย. 50 02:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตีสามครึ่งก็ยังไม่นอนครับ เช้านี้นัดลูกค้า 8โมงกว่า - -' จากคุณ : ใบหูมังกร - [ 21 มิ.ย. 50 03:34:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาขอบคุณก่อนค่ะ เดี๋ยวช่วงเย็นๆจะมาอ่านอีกรอบค่ะ จากคุณ : boohoo - [ 21 มิ.ย. 50 09:51:21 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีครับ ผมขอแจมด้วยคนครับ มีคนเก่งเพียบเลย ถ้ายังไงผมขอเชิญแวะไปเป็นสมาชิก เพื่อช่วยกันตอบปัญหา เกี่ยวกับการส่งออกนำเข้าที่ www.logisticsxchange.net เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก และนำเข้าด้วยกันนะคับ จากคุณ : konthainakrab (konthainakrab) - [ 17 ก.ค. 50 11:25:39 ]