ความคิดเห็นที่ 1 หัวข้อแปลกดีนะเจ้า ปูเสื่อรออ่าน จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 5 ก.ย. 50 10:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กระทู้น่าสนุก กลับมาแก้ ที่พิมไปเมื่อวานมันไร้สาระเกิน น่าอาย ลบดีกว่า แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 50 09:35:23 จากคุณ : จุ๊บยางเป็ดน้อย - [ 5 ก.ย. 50 11:58:08 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนนะคะว่าไม่ได้เป็น HR มาตั้งแต่ต้น ทำสายงานอื่นมาตลอด เพิ่งจะได้ทำด้าน HR มาสัก ราวๆ สามปีค่ะ ปัจจุบันจริงๆ ทำงานในตำแหน่ง GB ค่ะ ( คุ้นๆ มั้ยคะ ) ในเมื่อน้ำไม่ได้เป็น HR โดยสายพันธุ์ เพราะฉะนั้นข้อความในกระทู้นี้อาจไม่เป็นไปตามมาตรฐานของ HR ทั้วๆ ไปนะคะ สำหรับงานด้าน HR ที่น้ำทำอยู่ หลักๆ ก็ recruit คน กับจัดการงานด้านผลประโยชน์พนักงาน และการสร้างสัมพันธ์ในองค์กร เมื่อ ลงประกาศรับสมัครพนักงาน เรียบร้อย ก็จะมีผู้สมัครส่ง resume หลั่งไหลกันเข้ามา คัดทิ้ง ! Resume ที่ไม่โดน ก็จะเป็นประมาณนี้ 1) ผู้สมัครที่หาจุดขายตัวเองไม่เจอ 2) คุณสมบัติที่บอกมา too short หรือ too much details ไม่ก็ too good to be true (อันหลังนี่ ส่วนใหญ่จะเจอตอนโทรกลับไปสัมภาษณ์ขั้นต้นทางโทรศัพท์ ก่อนเรียกเข้ามาสัมถาษณ์ที่บริษัทอย่างเป็นทางการ) น้ำจะไม่คัดคนจากสถาบัน หรือเกรดค่ะ เอาตัวเองเป็นมาตรฐาน โชคดี ได้งานทีไร นายก็ไม่เคยดูสถาบันหรือเอาเกรดของน้ำมาเป็นตัวกำหนดเลย น้ำหางานผ่าน Recruitment Agency ค่ะ รบกวน HR ตัวจริง เสียงจริง เข้ามาร่วมวงด้วยนะคะ เดี๋ยวมาต่อค่ะ จากคุณ : Namyen_ny - [ 5 ก.ย. 50 13:21:13 A:210.213.29.94 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 4 I really like your comment ka Khun Nam จากคุณ : เราจะบิน - [ 5 ก.ย. 50 15:01:49 A:58.137.37.33 X: TicketID:153597 ]

ความคิดเห็นที่ 5 too short หรือ too much details ไม่ก็ too good to be true - แปลให้ด้วยสิเจ้า  ข้าเจ้าแปลไม่ออกอะ T-T จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 5 ก.ย. 50 15:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เขียนสั้นเกินไป ยาวเกินไป(ละเอียดเกิน) หรือเขียนให้ดูดีเกินจริงค่ะ จากคุณ : kencute - [ 5 ก.ย. 50 16:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คัดทิ้ง ! Resume ต่อ ข้อ 3) คุณสมบัติไม่ตรงตามที่ประกาศไว้ มีผู้สมัครไม่น้อยรายเลยทีเดียว ที่หว่าน Resume ไปทั้ว โดยไม่ดูคุณสมบัติของตัวเองเลยว่า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับสมัครแค่ไหน บางตำแหน่ง บริษัทต้องการ ผู้ที่เรียนจบด้านนั้นๆ และมีประสบการณ์เฉพาะทางจริงๆ แต่ผู้สมัครบางท่านที่ไม่ใช่ ก็ยังอุตสาห์ส่ง resume มาให้ (อาจคิดว่า ถึงไม่ตรง บริษํทก็อาจจะรับไว้พิจารณา เผื่อมีตำแหน่งว่าง ) ในกรณีนี้ผู้สมัครควรฝาก Resume ไว้ใน website หรือ Recruitment Agency มากกว่า นะคะ โอกาสที่จะได้งานมีมากกว่า บางครั้งระยุช่วงอายุของผู้สมัครไว้ชัดเจน ก็ไม่วายที่จะมีผู้สมัครที่อายุน้อยหรือเกินกว่าที่กำหนด ส่งประวัติมาให้เช่นกัน สำหรับในเรื่องของอายุนี่ ถ้าต่างกัน 1-2 ปี น้ำคิดว่าบริษัททั่วไปคงจะยอมรับได้นะคะ ต้องดูปะสบการณ์ของผู้สมัครอีกที จากคุณ : NY - [ 5 ก.ย. 50 16:57:19 A:210.213.29.94 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ้อ  เข้าใจแล้วเจ้า  ขอบคุณ คุณkencuteมากเน้อ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 5 ก.ย. 50 17:20:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณ คุณ kencute ค่ะ น้องกุนซือ พี่พิมพ์ไป ทำงานไปน่ะค่ะ บางทีคิดคำไทยไม่ออก คิดอะไรก็พิมพ์เดี๋ยวนั้น เดี๋ยวค่ำๆ จะมาพิพม์ต่อนะคะ มีประสบการณ์สอดๆ ร้อนๆ ไล่แขกอยากสุภาพมาเล่าให้ฟังด้วยค่ะ จากคุณ : NY - [ 5 ก.ย. 50 17:27:31 A:210.213.29.94 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มารออ่านเรื่อย ๆ จะได้ไม่โดนคัดทิ้ง >_< จากคุณ : นัทธมน - [ 5 ก.ย. 50 18:52:17 A:58.136.98.2 X: TicketID:154535 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อแรกคุย : สำหรับตำแหน่งที่ต้องมีชั่วโมงบินสูงๆ เมื่อได้ผู้สมัครที่คิดว่ามีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการ หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับความต้องการมากที่สุด น้ำจะโทรกลับไปขอข้อมูลเบื้องลึกที่ผู้สมัครมักไม่บอกมาใน Resume เพื่อรวบรวมให้นาย ประหยัดเวลาทั้งสองฝ่าย เช่น อะไรคือเหตุผลที่หางานใหม่ ปัจจุบันมีรายได้รวมเท่าไหร่ และคาดหวังรายได้ใหม่อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ความสะดวกในการเดินทาง หรือโยกย้ายสถานที่ทำงาน กรณีจบโครงการ รวมไปถึงขอข้อมูลเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติม สำหรับน้ำ การคุยโทรศัพท์กับผู้สมัครก่อนมีการพบปะอย่างเป็นทางการ เป็นเรื่องสำคัญ คำถามบางคำถามที่ผู้สมัครถามกลับมาเป็นการบ่งบอกถึงความกระตือรือร้น เกิดการกระตุ้นให้อยากพบตัวจริง แต่บางคำถามกลับกระตุ้นให้อยากวางสาย ตัวอย่างเช่น น้ำ : สวัสดีค่ะ คุณแมดแมน นะคะ ดิฉัน โทรจากบริษัท X ที่คุณสมัครงานเข้ามาในตำแหน่งผู้จัดการน่ะค่ะ ไม่ทราบสะดวกคุยมั้ยคะ ขอเวลาสัก 5-10 นาที แมดแมน : ครับ บริษัท อะไรนะครับ น้ำ : บริษัท X ค่ะ ที่ลงโฆษณาไว้ใน job1.com เมื่ออาทิตย์ก่อน แมดแมน : อ๋อ ครับๆ บริษัททำเกี่ยวกับอะไรนะครับ น้ำ : เป็นบริษัทเกี่ยวกับ .. ค่ะ (ในใจก็คิด นี่คุณเพิ่งส่ง Resume ให้ฉันไม่ถึงอาทิตย์เลยนะ จำไม่ได้ซะละ แล้วใน ad ที่ฉันลง ก็มี link ให้เข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทด้วยนะ สงสัยไม่ได้คลิกดู ) แมดแมน : ฮะ แล้วไงฮะ หมดไปแล้ว 3 นาที ผู้สมัครคะ เตรียมตัวให้พร้อมกับการถูกสัมภาษณ์แบบจู่โจมหน่อยก็ดี หาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่คุณส่งประวัติเข้าไป ทำการบ้านบ้าง ไม่ใช่พอเจอตำแหน่งถูกใจ ก็คลิก apply แล้วก็มองหาตำแหน่งในบริษัทอื่นต่อไป คลิกสมัครไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทนั้นๆ ทำอะไร ไม่หาข้อมูลเพิ่ม คิดแต่ว่า คุณสมบัติของตัวเองตรงแล้ว สมัครไปก่อนแล้วกัน บางทีไม่กี่วันก็ลืมบริษัทนั้นๆไปเลย จากคุณ : NY - [ 5 ก.ย. 50 21:23:44 A:202.90.118.144 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าเป็นบริษัทไม่เป็นที่รู้จัก  ผมก็จำไม่ได้หรอก  บริษัทชื่ออะไรยังจำไม่ได้เลย  อย่าว่าแต่บริษัทนั้นทำอะไรเลย ผมถือว่าบริษัทเขาไม่สนใจหรอกว่าเรารู้จักบริษัทเขาดีแค่ไหน  เขาสนใจแต่ว่าประสบการณ์เราดีแค่ไหน   เพราะเวลาสมัครเองไม่ผ่าน recruit agency  จะพยายามสมัครไม่ต่ำกว่าสิบที่อยู่แล้ว  เพราะเวลาหางานเราก็ต้องหาทางเลือกเยอะ ๆ แล้วเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด  ให้มานั่งจำ  นั่งสนใจทุกบริษัทคงยาก ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ จากคุณ : kazama - [ 5 ก.ย. 50 22:03:17 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รออ่านอยู่นะครับคุณ ny ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ ปูเสื้อรอต่อไปอ่านต่อไป... จากคุณ : จุ๊บยางเป็ดน้อย - [ 5 ก.ย. 50 22:05:48 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มาโหวตให้ แบบว่าอยากเห็นกระทู้แนะนำข้างบนเยอะกว่านี้อ้ะ จากคุณ : One-Of-Us - [ 5 ก.ย. 50 22:45:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอ่อ..สมมติตอน HR โทรมาถามแล้ว ผมกะลังทำอะไรซักอย่างที่มันไม่สะดวกจะคุยจริง ๆ ผมควรบอกยังไงครับ แล้ว HR จะโทรกลับมาอีกมั้ยครับเนี่ย จากคุณ : แพ้เป็นพระ ชนะเป็นแชมป์ - [ 5 ก.ย. 50 22:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16 #12 แต่ผมจะรู้นะว่าบริษัทนั้นทำอะไร เกิดไม่ถูกใจใช่เลย อยู่ๆ ไปก็ปวดหัวปวดท้องอีก คือผมจะคัดเน้นๆ เลย แล้วตามไปดูด้วยว่าทำอะไร ทำให้ choice ผมน้อยมาก แต่ผมมักเตรียมตัวดี ประมาณเกือบ 50% จะให้สัมภาษณ์แล้วก็ผ่านตลอดเลย ผมก็ไม่ใช่ Hr นะ แต่ก็ได้ผ่านๆ resume มาบ้าง ทีนี้ resume ที่เห็นแล้ว เฮ้อ ..... เนี่ย ก็ - ภาษาอังกฤษบอก excellent แต่มีคำสะกดผิด อิอิ ยิ่งพวก technical term นี่ไม่น่าให้อภัยเล๊ย ใช้กันทุกวัน - list skill ยาวเป็นวา แต่ไม่เล่าประสบการณ์ทำงานเลย - Cover letter ถึง บริษัทเรา แต่ อ่านดูข้างใน อ้าว นี่บริษัทไรเนี่ย แสดงว่า copy/paste แบบไม่ได้มองเลย ทีนี้ก่อนจะให้ทำแบบทดสอบ ที่บริษัทผมมีให้ rate skill ตัวเอง ก็มีที่ rate มาสูงปรี๊ด แต่ถามๆ คุยๆ กันไม่รู้เรื่อง เฮ้อ ฆ่าตัวตายซะแล้ว ทีนี้ตอนสัมภาษณ์ อ่ะ ผมไล่ๆ ไปที่เค้าเขียนมา ทำไรมาบ้างครับ เล่าหน่อย อันนี้คืออะไร ผมถามไปคำ ก็ตอบมาคำ ผมไล่แป๊บเดียวหมดกระดาษแล้ว เพราะผมคอยถามแต่เรื่องงาน แต่พี่ท่านไม่ตอบเลย ว่าเคยทำอะไรมาจริงๆ (หรือไม่ได้ทำ ถ้าทำก็ต้องตอบได้ซิ) ก็ทำให้เสียโอกาสไป เพราะพอไม่รู้จะถามอะไรต่อบรรยากาศมันก็กร่อยเลย แถม Hr เค้าก็นั่งจ้องคนถูกสัมภาษณ์อีก กดดันน่าดู แล้วก็ประโยคเด็ดจาก Hr เช่น ทำไมย้ายงาน ช่วงนี้ๆๆๆ ที่ไม่ได้ทำงานทำอะไร จริงๆ เราก็ไม่ได้กะจะคาดคั้นให้ตายหรอก แต่บางทีผมก็อยาก(เจือก)รู้จริงๆ ก็มีบางคนตอบไม่ได้นะ เราก็คิดว่าเค้าเตรียมตัวมาไม่ดี หรือมีอะไรต้องปิดบังด้วย (ฟะ - หนีเจ้าหนี้มาหรือเปล่า อิอิ) จากคุณ : กะต่อ - [ 5 ก.ย. 50 23:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ตั้งกระทู้ได้เร้าใจดีนะคะ จากคุณ : sweet E.T. - [ 6 ก.ย. 50 00:22:23 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ยังตามอ่านอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ ขอบคุณความเห็นทุกท่านนะคะ จากคุณ : นัทธมน - [ 6 ก.ย. 50 07:41:54 A:58.136.98.83 X: TicketID:154535 ]

ความคิดเห็นที่ 19 พูดยากน่ะครับคุณกะต่อ  คุณกะต่อน่าจะทำงานเกี่ยวกับคอมใช่รึเปล่าครับ  ถ้าใช่  การหาความรู้ไว้ก่อนก็ดี   แต่ผมทำงานใน field บัญชี   มันกว้างมาก  ตำแหน่งเดียวกันแต่คนละบริษัทก็ต่างกันมาก ๆ แล้ว การศึกษาบริษัทไม่ได้ช่วยอะไรมาก   บางทีที่คุณสมบัติเราตรง  แต่คนสัมภาษณ์อาจมองว่าเรามือไม่ถึง   บางทีคุณสมบัติเราใช่  แต่คนสัมภาษณ์มองว่าเรา over qualified การสัมภาษณ์งาน  แล้วได้งาน 50% ขึ้นเนี่ยแปลว่าคุณกะต่อก็ต้องเก่งมาก  แต่ใน field ผม  การสัมภาษณ์ได้งานเกินครึ่งนี่คงยาก   เพราะบัญชีส่วนใหญ่ factor ที่สำคัญตัวนึงคืออายุ   คุณเก่งแค่ไหน  แต่อายุน้อยก็ยากที่จะได้งาน   หรือบางทีคุณสมบัติก็เกินไปอีก  เพราะด้านนี้  มาตรฐานเงินเดือนไม่สูงเท่าสายอื่น   มีบริษัทจำนวนมากที่ให้เงินเดือนฝ่ายบัญชีสูงพอควรถึงสูงมาก แต่บัญชีเป็นตำแหน่งที่มีในทุกบริษัท  เมื่อเปรียบเทียบทุกบริษัทแล้ว ตำแหน่งบัญชีจัดว่าได้ผลตอบแทนน้อย  เมื่อเปอร์เซนต์สัมภาษณ์ได้งานต่ำ   การเพิ่มโอกาสในการสมัคร  นอกจากเตรียมตัวให้ดี  ก็คือสมัครหลายบริษัทเพิ่ม จากคุณ : kazama - [ 6 ก.ย. 50 13:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เราเคยสัมภาษณ์ แบบให้ "ไม่ได้" งาน จริงๆ มาแล้ว ตั้งใจให้ไม่ได้จริงๆ คือไปถึง บ. แล้วอึ้งๆ กับสภาพบ. ยิ่งคุยไปกับคนสัมภาษณ์ ยิ่งมั่นใจว่าไม่เอาแน่ คนแบบนี้เหรอจะมาเป็น หัวหน้าเรา บายดีกว่า คราวนี้เลยพาออกทะเลเลย ถามอะไรก็ตอบส่งๆ ไปงั้น ไม่ตรงความเป็นจริงซักอย่าง ฮะ ฮะ จากคุณ : DojoMAG - [ 6 ก.ย. 50 13:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาโหวตค่ะ หัวข้อน่าสนใจ แล้วจะส่งใบสมัครกับคุณน้ำได้ที่ไหนคะ ^__^ จากคุณ : Why-Not-T-Shirt - [ 6 ก.ย. 50 21:04:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีค่ะ ขอบคุณทุก คคห ค่ะ Sweet ET ก็เป็นธรรมดาของคนที่มันเร้าใจไง คุณแพ้เป็นแพะ ถ้าไม่สะดวกรับสาย ก็บอกไปค่ะว่าติดธุระอยู่ เดี๋ยวจะโทรกลับ คุณควรเป็นฝ่ายโทรกลับไปนะคะ อย่าไปบอกเค้าล่ะ ว่าให้โทรมาใหม่ คุณ kazama น้ำว่าเราต้องให้ความสำคัญกับบริษัทที่เราสมัครไปนะคะ อย่างน้อยต้องรู้บ้างว่าบริษัทนั้นๆประกอบธุรกิจประเภทไหน เพราะงานบัญชีถึงจะกว้าง แต่ก็แบ่งแยกเป็นสามสาย สายสินค้า สายบริการ สายผลิด(โรงงาน) น้ำว่าสายนี้น่าจะยากที่สุด เพราะคนทำบัญชีต้องรู้การคำนวณต้นทุน เช่นถ้าเราไม่เคยมีประสบการณ์ด้านบัญชีต้นทุนโรงงานมาก่อน แต่สมัครไป พอไปสัมภาษณ์ก็อาจทำให้เสียเวลาทั้งสองฝ่ายได้ สุดท้ายก็ไม่ได้งาน คุณกะต่อ เรื่องภาษานี่เจอเหมือนกันค่ะ สะกดผิดนี่ให้อภัยได้ค่ะ แต่ถ้าฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอบก็ตะกุกตะกัก แล้วเขียนมาใน Resume ว่า excellent นี่ไม่ไหวค่ะ และที่ HR จะถามว่า ช่วงที่ไม่ได้ทำงาน คุณทำอะไร เป็นคำถามปกติค่ะ ไม่ใช่คำถามกดดันผู้สมัครนะคะ นอกเสียจากว่า จะมี HR แนวๆ บางท่านอาจใช้น้ำเสียงประกอบกับสีหน้าที่ทำให้ผู้สมัครรู้สีกอึดอัด ต่อจาก คคห 11 มีผู้สมัครไม่น้อย ที่ถูกคัดทิ้งในช่วงนี้ ถ้าคุณกำลังอารมณ์บูด อารมณ์ด้าง หรือง่วงงุนอย่างไรก็แล้วแต่ แล้วจู่ๆ มีโทรศัพท์จาก HR บริษัทที่คุณไปทิ้ง Resume ไว้โทรมา พยายามอย่าคุยค่ะ ตัดบทไปก่อน ขอเวลาสัก 10-20 นาที บอกไปเลยติดประชุม ติดธุระ ไม่สามารถคุยได้ตอนนี้ แล้วคุณค่อยโทรกลับไปหาเค้าใหม่ เอา 10-20 นาทีนั่นไปทำอารมณ์ให้แจ่มใส แล้วต่อยโทรกลับไปดีกว่าค่ะ HR ก็คนธรรมดาค่ะ เคืองเป็น ทำไม กระทู้ในสีลม ตกเร็วจังคะ หากระทู้ตัวเองแทบไม่เจอ จากคุณ : Namyen_ny - [ 6 ก.ย. 50 21:08:41 A:202.90.118.144 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เง้อ  ผมก็ไม่ได้บอกว่าความคิดผมถูกนะ   แต่ผมพูดและให้เกียรติ HR ที่โทรมาขอนัดสัมภาษณ์ทุกคนดี ๆ หมดนะ  ไม่มี HR คนไหนที่รู้สึกไม่ดีกับผมเลยนา    และิยิ่งเราให้เกียรติ HR มากเท่าไหร่  HR ก็ให้เกียรติเราพอ ๆ กันหรือมากกว่าตลอด วิธีการพูดก็ต้องดีหน่อย  (แต่ตัวอย่างที่คุณน้ำยกมาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก  อย่าไปตั้งแง่กับเขามากเลย)  เพราะถามชื่อบริษัท  ผมถามประจำ  และผมว่าทุกคนที่โดนนัดสัมภาษณ์ก็ต้องถาม  เพราะฟังคำพูดบอกชื่อบริษัทที่เป็นเหมือน pattern ครั้งแรกไม่ทันกันทั้งนั้น  แต่ถามว่าบริษัททำเกี่ยวกับอะไรคงไม่ต้อง  เพราะมีชื่อบริษัทก็พอจะหาได้แล้ว  และการพูดดี ๆ กับ HR ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ  ถึงแม้ HR จะไม่ใช่คนที่มีส่วนสำคัญกับการได้งานของเราก็เถอะ  เพราะถ้าเกิดไปเจอ HR นิสัยไม่ดี  หรือวันนั้น HR อาจจะทะเลาะกับแฟนมา  แล้วเราพูดจาไม่เข้าหูเขา  แทนที่เขาจะเรียกเราสัมภาษณ์  เขาอาจจะไปโกหกนายเขาว่าเราปฏิเสธไปก็ได้ และจริง ๆ ผมก็สนใจในบริษัทที่สมัคร  แต่ก็สนใจเฉพาะสองสามบริษัทที่เด่น ๆ  ส่วนที่เหลือที่สมัครหว่านน่ะ  คงไม่มีเวลาไปสนใจมากขนาดนั้น  ยิ่งถ้าเป็นช่วงอยากเปลี่ยนงานมาก ๆ สมัครไปหลายสิบบริษัท   ให้สนใจหมดคงไม่ไหว   รอเขาเรียกสัมภาษณ์ก่อนค่อยศึกษา  ซึ่งบางครั้งการสอบถามกับคนที่โทรมานัดสัมภาษณ์  ผมก็ได้รับคำตอบดี ๆ ตลอด  (อาจเป็นเพราะอย่างที่บอก  ว่าผมพูดดี ๆ ด้วย)  ซึ่งผมคิดว่า HR ที่ดี ๆ ทุกคน เต็มใจที่จะบอกข้อมูลบริษัทให้กับคนนอกและคนที่จะมาสัมภาษณ์ได้รู้   เพราะ HR เป็นเหมือนคน ๆ แรกในบริษัทที่คนทั่วไปที่มาสมัครงานจะรู้จัก   ถ้า HR พูดจาไม่ดี  คนที่สมัครก็รู้สึกติดลบกับบริษัทนี้  ดังนั้นเท่าที่เจอ HR ส่วนใหญ่จะนิสัยดี  พูดจาดี  ยินดีให้ความรู้เกี่ยวกับบริษัท  เพราะเป็นเหมือนการประชาสัมพันธ์บริษัทอีกทางหนึ่ง  สร้างความรู้สึกและภาพพจน์ของบริษัทให้คนนอกได้รู้จัก   หลายครั้งที่ผมถามไปนิดหน่อย  ส่วนใหญ่จะตอบกลับว่าอยากรู้อะไรมากกว่านี้อีกรึเปล่า แต่ถามนิดหน่อยก็พอครับ  ที่เหลือก็หาเองได้  และเข้าใจความรู้สึกของ HR ด้วย  เพราะบางทีรับตำแหน่งนั้น  เขาอาจต้องโทรเรียกคนมาสัมภาษณ์เป็นสิบ ๆ คนก็ได้  เราอาจจะเป็นคนต้น ๆ ที่เขาโทรหา  ก็ไม่ควรกวนเวลางานเขามาก ปล.  บัญชีถ้าจะแบ่งจริง ๆ  แบ่งได้เยอะมาก ๆ ครับ  ไม่ใช่แค่สามสายเน้อ  และงานหลัง ๆ ประสบการณ์ผมก็ไม่ค่อยจะตรงเลย   แต่คนสัมภาษณ์เขาดูกึ๋น ดู potential ด้วยมั้ง จากคุณ : kazama - [ 6 ก.ย. 50 22:33:50 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีรอบดึก คุณ kazama ครับ ผมทำสายคอมน่ะแหล่ะครับ ส่วนที่คุณเล่าลักษณะสายงานบัญชีมาก็ดีครับ แชร์กัน แต่ผมว่ายังไงเราก็น่าจะแอบไปดูบริษัทเหมือนกันถ้าเป็นไปได้ เช่นผมน่ะชอบดูเรื่องที่กินก่อน เพราะผมก็เคยสัมภาษณ์ส่งๆ ไปเหมือนกัน เคยเจอบริษัทในเวปดูดี๊ดี แต่พอไปถึง โอ๊ย ซอยก็ลึก หาร้านข้าวไม่เจออีกแถบนั้น แถมเข้าไป โห อัดกันยังกะปลากระป๋อง ซึ่งผมชอบโล่งๆ โต๊ะใหญ่ๆ มากกว่า (นอนสะดวก) ตอนนั้นก็เลยสัมภาษณ์ไปงั้นๆ จริงๆ กะไม่เอาแน่ จากคุณ : กะต่อ - [ 6 ก.ย. 50 23:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มายกมือเห็นด้วยกะคุณ kazama อยู่ด้านนี้เหมือนกันค่ะ เห็นด้วยตรง บางทีคุณสมบัติเรา(พอ)ได้ แต่อายุไม่ถึง เราว่าอายุเราก็ไม่น้อยนา แต่ยังไม่สามสิบ แต่จะให้เป็น manager เราก็ว่าเรายังมือไม่ถึง เราว่าเราเป็นsenior ได้ แต่ทางhr มักมองว่ากลัวคุมคนเก่าๆ (ที่แก่กว่า) ไม่ได้ เราตัวเล็ก หน้าเด็กอ่า อิอิ(ชมตัวเอง) บางที่ ก็จะบอกว่า over qualified ว้า หางานใหม่ยากจัง (ตอนนี้ตำแหน่ง junior specialist  กะว่าสักสามปีคงเป็น senior พอที่จะหางานใหม่ได้) แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 50 10:10:40 จากคุณ : ต้องอดทน ต้องโตขึ้น (@Nana-cute@) - [ 7 ก.ย. 50 10:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สนุกดีค่ะ มาช่วยโหวต ^^ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 50 21:59:59 จากคุณ : Dory (conejodulce) - [ 7 ก.ย. 50 20:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มองย้อนกลับไป วันวาน..... ระหว่างที่เรียน ก็ทำงานไปด้วย ทำงานสนง แห่งหนึ่งในฐานะเด็กฝึกงาน ได้เป็นค่าแรงรายวัน วันละ 90 บาท สมัยนั้นไม่รู้จักหรอกคำว่า “ ค่าแรงขึ้นต่ำ” เป็นยังไง รู้แต่ว่า ใครให้ฝึกงาน ก็ทำ เพราะต้องการใบรับรองการฝึกงาน มิฉะนั้นจะไม่จบ (นี่เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ถูกเอาเปรียบในเรื่องค่าแรง เพื่อนทุกคนที่ฝึกงานก็ได้อัตรานี้ ) งานหนักมาก กลับดึก และโดนรุ่นพี่ในสนง ดุ บ่อยๆ โทษฐานทำงานช้า บางทีก็เป็นเพราะทำไม่เป็น แล้วไม่กล้าบอก กลัวโดนดุ สุดท้ายเลยโดนหนักกว่าเดิม หลังจากได้ใบรับรองการฝึกงานแล้ว น้ำก็ยังเรียนไม่จบ เพราะขี้เกียจ เบื่อ โดดเรียนบ่อย เปล่า ไม่ได้โดดเรียนไปช่วยงานบ้าน หากแต่หนีเที่ยว ไปเดินห้าง ไปดูหนัง ไปเตร็ตเตรกับเพื่อน ตกเย็นก็กลับบ้าน ช่วยที่บ้านขายของ เป็นอย่างนี้ทุกวัน จนเพื่อนที่เรียนรุ่นเดียวกันจบออกไปก่อน ขณะที่ล่องลอยไร้แก่นสานอยู่นั้น ก็มีเพื่อนรุ่นพี่คนนึงโทรมาแนะนำให้ไปสมัครงานบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง ( ซึ่งชื่อที่เป็นทางการก็เป็นบริษัท แต่จริงๆแล้วเป็นแบบร้านค้าปลีก ขายของที่ระลึก ) รุ่นพี่ ------ “เค้าต้องการเด็กเปิดบิล กะลงบัญชีรายวัน แกไปสมัครสิ” น้ำ ----- ยังอ่ะพี่ น้ำอยากช่วยแม่ขายของ แล้วก็รอเรียนให้จบก่อน ค่อยทำงาน (ใจจริง ยังอยากเที่ยวเล่น มากกว่า ) รุ่นพี่ ------ แกจะรอเรียนให้จบก่อนค่อยทำงาน เมื่อไหร่ฟะ แกถึงจะเรียนจบ เห็นแกสอบไม่ผ่านตั้งหลายครั้ง แล้วแกจะขายของอยู่อย่างนี้ ไม่คิดทำงานทำการให้มันเป็นเรื่องเป็นราวเหรอ บริษัทที่นี่น่ะดีนะโว้ย เค้าไม่เรื่องมาก แกเอาวุฒิพาณิชย์ไปสมัครก็ได้ น้ำ ---- แล้วจะได้เหรอพี่ รุ่นพี่ ---- แกก็ลองไปดูสิ รีบหน่อยละกัน งานไม่ได้หาง่ายๆ สมัครงานวันแรก -- เชิ๊ตแขนยาว กระโปรงดำนักศึกษา รองเท้าหุ้มส้นคู่ใหม่ มือถือแฟ้มพลาสติกใส่เอกสาร จากคุณ : Namyen_ny - [ 7 ก.ย. 50 21:50:01 A:202.90.118.144 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ให้ไม่ได้งานนี่ จะได้ไม่ทำ หรือว่าจะเอาไปใช้แบบสุดๆ ล่ะครับ อิอิ ปุ๊ก จากคุณ : ensim - [ 7 ก.ย. 50 22:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาต่อเร็วๆนะ เพลินดี ถ้ากระทู้มันตกเร็วแตกกระทู้ออกไปเป็นตอนที่สองก้อได้จะได้หาได้ง่ายๆหน่อย จากคุณ : One-Of-Us - [ 8 ก.ย. 50 00:11:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขึ้นแนะนำไปแล้วครับ  ไม่ต้องหาให้ยากแล้ว รอคุณมัจฉาวารีมาแจมดีกว่า จากคุณ : kazama - [ 8 ก.ย. 50 00:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เด็กใหม่รออ่านด้วยคนครับผม จากคุณ : Kurt (red_soil_child) - [ 8 ก.ย. 50 16:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 32 นั่นสิ แล้วจะส่งใบสมัครกับคุณน้ำได้ที่ไหนคะ ^__^ ! จากคุณ : กัส - [ 8 ก.ย. 50 19:22:56 A:125.24.63.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 ร้านรวงบนถนนสุขุมวิทให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ แปลกไปกว่าเคย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าก็เคยผ่านเส้นทางนี้มาบ้าง จากที่เคยแค่ใช้เป็นเส้นทางผ่านจากเอกมัยไปยังสถานีปลายทาง จากเดิมที่ไม่เคยสนใจทิวทัศน์นอกรถเมล์เท่าไหร่ วันนี้น้ำมองมันอย่างเต็มตา ในใจก็คิด ถ้าเราได้งานแถวนี้จริงๆ เราต้องตื่นกี่โมงนะ เราต้องต่อรถเมล์กี่ต่อ ร้านข้าวขาหมูเมื่อกี้ น่ากินจัง เค้าจะสัมภาษณ์อะไรเราบ้างน้อ ถ้าเขารับเราจริงๆ แม่ต้องดีใจแน่ๆ เลย คิดไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งกระเป๋ารถมาสะกิดให้ลงได้แล้ว นั่นแหละ เดินถัดจากป้ายที่ลงย้อนขึ้นไป อีก 2 ช่วงตึก ก็ถึงซอยที่บริษัทแห่งนั้นตั้งอยู่ จากคุณ : Namyen_ny - [ 9 ก.ย. 50 13:09:42 A:203.113.38.6 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 34 น้ำไปถึงก่อนเวลาสัมภาษณ์ราวๆ 15 นาที ส่วนหนึ่งยกให้เป็นความดีของพี่ชายที่ขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งที่สีลมก่อนที่จะแยกไปทำงาน จากนั้นน้ำก็นั่งรถเมล์ต่ออีกทอดหนึ่ง ที่หน้าบริษัทซึ่งที่จริงก็คือร้านขายของที่ระลึก เป็นตึกแถวสองคูหา หน้าร้านมีงานฝีมือประเภทงานแกะสลักไม้วางขาย มีต้นไม้กับเก้าอี้ไม้ตัวเล็กๆ จัดตกแต่งเหมือนมุมพักผ่อนขนาดย่อม ภายในร้านมีฝรั่งตัวอ้วน 2 คนสามี ภรรยา กำลังเลือกดูของอยู่ และมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ที่เคาท์เตอร์เล็ก ๆ ลึกเข้าไปด้านใน น้ำมองเห็นผู้หญิงอีกคนนึง กำลังทำอะไรง่วนอยู่บนโต๊ะ น้ำ ----- ยกมือไหว้ผู้หญิงที่เคาท์เตอร์ “สวัสดีค่ะ หนูมาสมัครงานค่ะ” พี่ผู้หญิง ---- เธอรับไหว้พร้อมกับยิ้มให้ “จ้ะ น้ำเย็นใช่มั้ย ขึ้นไปชั้นสองเลย คุณแต๋มรออยู่” น้ำเดินตัวลีบผ่านผู้หญิงที่โต๊ะด้านในขึ้นไปยังชั้นสอง เธอกำลังห่อของให้ลูกค้า ทำหน้าเฉยๆ ไม่ยิ้มตอบตอนที่น้ำส่งยิ้มไปให้ คุณแต๋มเป็นผู้จัดการร้าน อายุราวๆ สามสิบต้นๆ สวยจัด แต่งตัวเปรี้ยว ที่ข้อมือเต็มไปด้วยกำไลหลากสี เธอหยิบใบสมัครมาให้กรอก ขณะที่นั่งดูเอกสารหลักฐานการศึกษาของน้ำไปพลางๆ คุณแต๋ม –--- มีรูปมาด้วยมั้ย ติดให้ด้วยนะ ..ทำไรเป็นบ้างน่ะเรา น้ำ ------ ก็ลงบัญชีเป็นค่ะ รับ-จ่าย ทั่วๆไปค่ะ คุณแต๋ม ------ ทำสต๊อกเป็นมั้ย น้ำ ------ เป็นค่ะ เคยตามพี่ไปเช็คสตีอกตอนฝึกงาน คุณแต๋ม ----- อีม......... เคยฝึกงานสำนักงานบัญชีมา แล้วเคยทำภาษีมั้ย น้ำ ------- ไม่เคยค่ะ คุณแต๋ม ------ พลิกเอกสารของน้ำไปมา แล้วก็ถามต่อว่า ........... ไม่เคยเลยเหรอ ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับภาษีเลยเหรอ น้ำ ------- เคยแต่เรียนค่ะ ยังไม่เคยทำ คุณแต๋ม ------ ที่นี่ต้องยื่นภาษีทุกเดือน ------- เราจะสั่งของมาขายอาทิตย์ละครั้ง ต้องเช็คสต๊อกกันทุกวันศุกร์ กลับดึกได้มั้ย น้ำ ------- ค่ะ (โดยไม่ได้ถามเลยว่า ต้องดึกสักกี่โมง) คุณแต๋ม ------ แล้ววันเสาร์ล่ะ รู้ใช่มั้ยว่าต้องมาทำงานวันเสาร์ น้ำ ------- ค่ะ พี่เบ็ญบอกแล้ว (พี่เบ็ญคือรุ่นพี่ที่โทรบอกให้น้ำมาสมัครงานที่นี้ เธอเป็นลูกค้าขาประจำร้านคุณแต๋ม) คุณแต๋ม ------- ไม่มีปัญหาแน่นะ ที่ต้องกลับดึกบางวันน่ะ เห็นบ้านอยู่ไกล น้ำ ---- ไม่เป็นไรค่ะ คุยกับคุณแต๋มอีกไม่กี่คำ เธอก็ให้กลับไปรอฟังผลที่บ้าน จากคุณ : NY - [ 9 ก.ย. 50 15:01:27 A:203.113.39.12 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 35 มารอฟังต่อไป จากคุณ : อิฐมอญ - [ 9 ก.ย. 50 15:38:21 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ก่อนกลับบ้านน้ำแวะหาอะไรกินแถวนั้น รู้สึกเหมือนตัวเองจะกินได้เยอะกว่าปกติ รู้สึกโล่งใจหลังการสัมภาษณ์ เพราะคิดว่า คำถามของคุณแต๋มเป็นคำถามพื้นๆ ไม่มีอะไรให้กังวล อีกทั้งมีพี่เบ็ญเป็นคนฝากงานให้ น้ำกลับบ้านไปเล่าให้แม่กับพี่ฟัง แล้วก็โทรกลับไปเล่าให้พี่เบ็ญฟัง ว่าคุณแต๋มถามอะไรบ้าง คุณแต๋มเค้าให้รอหนึ่งอาทิตย์ น้ำเฝ้ารออย่างใจจดจ่อ หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป จนล่วงเลยอาทิตย์ที่สองหลังการสัมภาษณ์ ระหว่างนั้น น้ำเฝ้าแต่รอ ไม่ได้โทรหาคุณแต๋ม แต่มีคุยกับพี่เบ็ญบ้างเรื่องสัพเพเหระ แล้วผลก็ปรากฏออกมาว่า................. น้ำไม่ได้งาน จากคุณ : NY - [ 9 ก.ย. 50 17:01:44 A:203.113.38.8 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 37 HR เคยโทรมาเรียกเราสัมภาษณ์แล้วเราถามเค้าว่า ไม่ทราบว่าเรียกสัมภาษณ์ตำแหน่งอะไรคะ ถามแค่เนี้ยมันผิดมากเลยเหรอ HR เค้าตอบเราว่า "คุณสมัครงานตำแหน่งอะไรมายังไม่รู้เลยเหรอคะ สมัครงานเล่นๆ รึเปล่าคะเนี่ย" คือสายงานที่เราสมัครไปมันมีหลายตำแหน่งอ่ะ เราตั้งใจสมัครงานจริงๆนะ แล้วเราก็สมัครไปหลายบริษัทมากๆ หลายสิบ เราก็ต้องถามเพื่อความชัวร์จะได้เตรียมตัวไปถูกใช่มั้ย แต่ HR เค้าทำให้เรามองบริษัทนี้แง่ลบไปเลย เราเลยตัดสินใจไม่ไปสัมภาษณ์.... นี่เป็นเรื่องธรรมดารึเปล่า อยากรู้ จากคุณ : jinpachi - [ 10 ก.ย. 50 01:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 38 "too good to be true" แล้วเราจะรู้ได้ไงอ่ะครับ ว่า แบบไหน มัน"เกินไป" จากความเป็นจริง ปกติเวลากรอกตรง skill ผมก็เอามาจาก Project ที่ทำมา source code ทั้งหมดมันก็อยู่ใน Notebook ให้แบกเอาไปให้ดูได้รึเปล่า หรือ ว่าเราจะขอให้เค้าออกข้อสอบให้เราทำได้มั๊ยครับ ถ้าไม่เชื่อทำไมไม่ให้ทำข้อสอบล่ะครั้บ ทำไมถึงได้ไปตัดสินกันเอาเอง จากคุณ : Oak - [ 10 ก.ย. 50 13:13:29 A:58.136.99.43 X: TicketID:062405 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คุณเคยเป็นอย่างนี้ไหม ตรวจดูประวัติของผู้มาสมัคร โทรสอบถามเสร็จแล้วตัดสินใจเองว่า เขาคงไม่เหมาะ แต่บังเอิญ ผู้จัดการที่ต้องรับพนักงาน หาดูใบสมัครของคนอื่นแล้ว ไม่มีที่ถูกใจ จึงมาขอใบสมัครของคนอื่น ๆจาก HR แล้วก็ไปเจอคนที่ดูประวัติแล้วเข้าท่าดี จึงบอก HR ให้เรียกมาสัมภาษณ์ แล้วในที่สุด คนนั้นก็ได้มาเป็นพนักงานใหม่ ขอบอกว่าถ้าไม่ได้คุยกับผู้จัดการที่รับผิดชอบก่อนว่า กำหนดคุณสมบัติของผู้มาสมัครเป็นอย่างไร ในกรณีที่เป็น HR ไม่ควรที่จะไปคัดคนนั้นคนนี้ออกจากแฟ้ม บางทีคุณอาจจะไม่รู้ว่าคนที่เหมาะสม อาจเป็นคนที่คุณคัดออกไปตั้งแต่แรก ก็ขอแชร์ประสบการณ์ด้วยคน...... จากคุณ : นาโน - [ 10 ก.ย. 50 22:09:13 A:203.156.31.182 X: TicketID:107517 ]

ความคิดเห็นที่ 40 HR ก็คือ HR เขามีหน้าที่จับคู่คุณสมบัติที่คนต้องการใส่มา เขาไม่รู้หรอกว่าคุณมีพรสวรรค์ เลิศ เป็นตัวของตัวเอง เขาก็อ่าน สามสี่บรรทัด แล้วดูๆ คัดกรองมา ... เพื่อนผม ประกาศรับคนแทนเขาลงหนังสือพิมพ์ ผมไปอ่านเจอแล้วบอกว่า แกเขียนลงไปทำไมน่ะ ระบบ ABC (ชื่อสมมติ) มันไม่มีใครใช้หรอก เพราะฉันเขียน และ ตั้งชื่อขึ้นมาเอง ... เขาก็บอก อ้าว จะไปรู้เหรอ ก็เรียกกันทั้งบริษัท ... สำหรับคนสมัคร อย่าตีตัวเองด้อยค่า เหมือนทำธุรกิจน่ะครับ คุณเห็นว่า บ. นี้น่าทำงาน คุณก็เตรียมพร้อมเหมือนคุณกำลัง ขาย ความสามารถให้กับลูกค้าดู ... เราทำงานกับบริษัท ต่างก็มีผลประโยชน์ต่างตอบแทน บุญคุณไม่ต้องไปห่วงมาก ไม่มีเงินจ่ายก็จับมือ ลาก่อน ... มีเงินจ่าย สมเหตุผล รับได้ จับมือ ทำงานกัน หากใครสมัคร สัมภาษณ์แล้วไม่ได้งาน ก็อย่าท้อ ... บางที ผมเลือกกัน ผมบอก เอาคนนี้ อีกคนบอกพี่ชอบคนนี้ โอเคไหม ... ก็โอเคซิ เขาทำกับพี่นี่นา ... เอาว่า ถูกชะตาก็มี ... เรื่องเก่งๆ ใครๆ ก็เก่งๆได้ แต่ขอให้พูดกันรู้เรื่อง รับผิดชอบ ตั้งใจทำงาน ก็โอเคแล้ว คนเราจะเอาอะไรกันมาก ก่อนรับ คัดแทบตาย รับมาไม่มีอะไรให้ทำ นั่งเล่น เน็ตไปก่อน ... จากคุณ : KENG76 - [ 10 ก.ย. 50 22:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คำถามของคุณ jinpachi มีคำตอบในตัวอยู่แล้ว "แต่ HR เค้าทำให้เรามองบริษัทนี้แง่ลบไปเลย" จริง ๆ แล้ว HR แบบนี้มีน้อยนะครับ  ส่วนใหญ่ HR จะนิสัยดีแทบทั้งนั้น จากคุณ : kazama - [ 10 ก.ย. 50 23:03:59 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณห้องสีลม ที่แนะนำกระทู้นี้ ไม่งั้นผมคงไม่ได้อ่านเรื่องดีดีแบบนี้ #34 #36 รู้สึกเหมือนอ่านเรื่องของตัวเองเลย T_T จากคุณ : Rances - [ 11 ก.ย. 50 12:36:54 ]

ความคิดเห็นที่ 43 HR Officer ที่บริษัทเรา ค่อนข้างมีอคติกับบางสถาบันค่ะ พอมี Resume เข้ามาเธอมักจะคัดแต่เด็ก จากมหาวิทยาลัยดังๆทั้งนั้น  อย่าง เกษตร จุฬา ธรรมศาสตร์  ถ้ามีผู้สมัครจบจาก ราม หรือ ม. เอกชนอื่น เธอแทบจะคัด Resume ทิ้งเลยค่ะ  ไม่คิดจะดูเลยว่าเค้ามีประสบการณ์ ตรงตามที่ต้องการไหม หรือ เกรดเฉลื่ย เท่าไหร่  หรือถ้าเป็นคนที่มีบ้านเกิด แถบภาคอีสาน เธอก็คัดทิ้งค่ะ   เรารู้สึกไม่ดีกับ HR  คนนี้ มาก ส่วนนึงเพราะ เราก็จบรามคำแหงค่ะ เป็นลูกพ่อขุน  เรายังสามารถเข้ามาทำงานที่บริษัทได้ มีความสามารถไม่แพ้คนอื่น  แต่มาเจอคนมีความคิดแบบนี้ก็หดหู่ค่ะ จากคุณ : สาวน้อยฮอลลี่ - [ 11 ก.ย. 50 16:58:04 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ผมคัดคนแบบนี้ เกรด A+ : over qualified คุณสมบัติเกินตำแหน่งที่ระบุ ประมาณว่ามาจากที่ใหญ่ๆ กว่า / เงินเดือนมากกว่าตำแหน่ง พวกนี้ผมจะโทรติดต่อไปบอกว่าคุณมีคุณสมบัติเกินกว่าที่เราระบุ ซึ่งทำให้ cap เงินเดือนในตำแหน่งที่ว่างนั้นไม่ได้เท่าที่คุณขอ แต่ขอเก็บไฟล์สมัครไว้เพื่อดูในตำแหน่งที่เหมาะสมกว่านี้ (เคยใช้ได้ผล 3 ครั้ง ได้ MD กะ marketing manager มาจากข้อมูลเก่า ไม่ต้องผ่าน head hunter) เกรด A : คุณสมบัติตรงตามที่ต้องการ ทั้งในประกาศสมัครงาน และทั้งแฝงเร้น คือ เวลาประกาศเนี่ย ผมจะประกาศให้กว้างๆ ไว้ก่อน เพราะโรงงานผมเล็ก ไม่สามารถเรียกความสนใจคนได้มากเท่าโรงงานใหญ่ๆ สมมติ เวลาอยากได้ HR ใหม่ ก็จะลงเป็น จบใหม่ no exp จบด้าน HR - แต่ถ้ามีคนที่มีประสบการณ์ด้าน hr / จบ hr ก็โป๊ะเชะ เรียกตัวด่วนเลย เกรด B : คุณสมบัติตรงตามประกาศ อย่างข้างบน ประกาศว่า ต้องการ hr จบใหม่ no exp จบด้าน hr พอมีน้องๆ จบ hr ใหม่ๆ ซิงๆ ผมก็คัดไว้รอเรียก เกรด C : พวกหว่านใบสมัคร ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กจบใหม่ + พวกต้องการเปลี่ยนสาย เด็กจบใหม่บางคนจบ science จะมาสมัคร hr ทำไมไม่รู้ สงสัยเป็นเพราะ งานหายาก + email ส่งง่ายล่ะมั๊ง แต่ถ้าเป็นพวกเปลี่ยนสายนี่ ต้องดู exp หน่อยว่ามีตรงหรือเกี่ยวข้องหรือเปล่า ถ้ามีก็พอเรียกได้ แต่เงินเดือนคงไม่ถึงเท่าพวก exp ตรง สำหรับเรื่องการถือสถาบัน ผมมีจุดสังเกตเรื่องภาษาอังกฤษ คือ สถาบันในกรุงเทพ ถ้าเป็นมหาลัยรัฐ เด็กมากกว่า 90% ไม่ว่าจะหลักสูตรอินเตอร์หรือไม่ ถ้าี่มาสมัครจะได้ภาษาอังกฤษ ใช้ในงานไ้ด้เลย (มียกเว้น ABAC ภาษาอังกฤษดีมากกว่า ม.รัฐ บางที่อีก) สถาบันต่างจังหวัด (เช่น ของผม มช.) ถ้าไม่จบ major อังกฤษ มา ต่อให้มีใบวัดผลการสอบต่างๆ มา ก็เชื่อไม่ได้ว่าจะพูดได้ ต่อให้เป็นหลักสูตรอินเตอร์ก็เหอะ จากคุณ : ดุก - [ 11 ก.ย. 50 19:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แอบมาอ่านเงียบๆ พร้อม1โหวต จากคุณ : เฒ่าเจ้าอุบาย - [ 12 ก.ย. 50 10:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 46 งึมงำ ๆ ๆ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 12 ก.ย. 50 16:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เคยเจออย่างงี้ไหมคะ.. เรียกเรามาสัมภาษณ์/อีกวันแจ้งกลับ Agency เราว่าเขารับ ตน.เดียวและมีคนที่ต้องการอยู่แล้ว เซ็งป่าว..(มายม่ายบอกก่อนว้า)...เฮ้อ. จากคุณ : เด็กบ้าแต่น่ารัก - [ 13 ก.ย. 50 00:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากๆ สำหรับ ทุก คคห ค่ะ คคห 43 สาวน้อยจ้ะ HR ดีๆ ก็มีเยอะค่ะ แบบที่คุณเจอน่าจะเป็น รุ่นเก่า ที่อีกหน่อยก็สูญพันธุ์แล้วค่ะ คคห 47 เด็กน่ารัก น้ำเพิ่งเจอเหตุการณ์เดียวกับคุณเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ เซ้งจิดไปเหมือนกัน เอหรือเราจะเจอ agency เดียวกันรึเปล่าไม่รู้ ขอให้ทุกคนฝันดีนะคะ ใครที่หางานอยู่ ขอให้ได้งานเร็วๆ ได้งานดีๆ เด้อ น้ำจะมาเขียนต่อวันอาทิตย์ค่ะ จากคุณ : Namyen_ny - [ 14 ก.ย. 50 01:02:30 A:192.168.0.16 X:202.90.118.227 TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อามาฝาก.....ทีมเวิร์ก จากมติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 25 ฉบับที่ 1275 ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ โดย "หนุ่มเมืองจันท์" ทีมเวิร์ก ครั้งหนึ่ง เคยมีคำถามขึ้นมาบนเวทีถามถึงหลักการทำงาน จำไม่ได้แล้วว่าผมตอบว่าอย่างไร ต้องสารภาพก่อนว่าผมไม่ใช่นักพูด เมื่อถูกถามอย่างกะทันหัน บางครั้งผมจะนึกคำตอบที่แท้จริงไม่ออก แต่หลังจากวันนั้นผมกลับมานึกทบทวนถึงคำถามนั้นอีกครั้ง ถ้าให้ผมตอบในวันนี้ ผมจะบอกว่าหลักการทำงานของผมมาจาก การเล่นกีฬา ผมได้อะไรจาก "กีฬา" มากมายจริง ผมนึกขอบคุณ อาจารย์สริศรี ลีลาวัตร อยู่ในใจ เพราะอาจารย์ได้ สอนให้ผมได้รู้จักหลักการทำงานระบบทีมโดยที่อาจารย์ไม่ได้ตั้ง ใจ อาจารย์สริศรีเป็น "ครูพละ" สมัยที่ผมเรียนอยู่โรงเรียนเบญจมราชู ทิศ จันทบุรี อาจารย์ตั้งใจสอนแค่เบสิกการเล่นวอลเลย์บอล และเทคนิคการ เล่นเป็นทีม เพียงแต่ผมนำประยุกต์ใช้ในการทำงาน และถือเป็นหลักปฏิบัติ เสมอมาจนกลายเป็นนิสัย จำได้ว่าตอนหัดเล่นวอลเลย์บอลครั้งแรก ผมต้องหัดย่อตีมือเปล่า อยู่เป็นเดือนกว่าจะแตะลูกวอลเลย์บอล หัดเสิร์ฟ หัดอันเดอร์ หัดเซ็ต หัดตบ อยู่นานกว่าจะได้เริ่มเล่นเป็น ทีม และเมื่อเริ่มเล่นกันเป็นทีม มีข้อบังคับ 2 ข้อที่อาจารย์สริศรีให้ผมและเพื่อนปฏิบัติ แบบลืมเมื่อไร เจ็บตัวเมื่อนั้น ข้อแรก เมื่อเพื่อนตบหรือทำคะแนนได้ ทุกคนต้องวิ่งมาแสดง ความยินดีกับเพื่อน คนทำคะแนนได้จะแบมือรอท่าให้เพื่อนๆ จะเข้ามาตีมือเป็นสัญลักษณ์เหมือนคำชมเชย "เฮ้ย เยี่ยมมาก...เพื่อน" เพราะคะแนนเป็นของทีม เป็นของทุกคน เราต้องขอบคุณคนที่ทำคะแนนให้กับทีม ข้อที่สอง เมื่อเรารับบอลพลาด หรือตีบอลพลาด คนที่ทำผิด พลาดจะต้องชูมือและ "ขอโทษ" เพื่อนดังๆ เพื่อนร่วมทีมจะต้องส่งเสียงตอบ "ไม่เป็นไร เอาใหม่" ฟังตอนแรกแล้วรู้สึกตลกเหมือนกัน สงสัยว่าทำไมต้องแสดงออกกันชัดเจนขนาดนั้น แต่เมื่อลงเล่นทีมจริงๆ ผมรู้เลยว่าการแสดงความยินดีกับเพื่อนที่ทำแต้มได้ และการ "ขอโทษ" เมื่อผิดพลาดเป็น "จิตวิทยา" ที่สำคัญยิ่งสำหรับการเล่นเป็นทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นฝ่ายทำคะแนนตามหลัง เพียงแค่ "เยี่ยมมาก...เพื่อน-ขอโทษ-ไม่เป็นไร เอาใหม่" มันสร้างขวัญและกำลังใจได้จริงๆ ครับ ยิ่งตอนที่เป็นฝ่ายตามหลัง เวลาที่เพื่อนทำเสียแต้ม เราจะหงุด หงิดและอยากด่าเพื่อน แต่เมื่อได้ยินคำว่า "ขอโทษ" ความโกรธจะลดลง ในขณะเดียวกัน คนที่ทำพลาดเมื่อได้ยินคำให้อภัยจากเพื่อนร่วม ทีม "ไม่เป็นไร เอาใหม่" เขาก็จะรู้สึกดีขึ้น และมีแรงฮึดที่จะเอาคืน จากวันแรกที่ทำตามกฎ 2 ข้อเพราะถูกบังคับ ไม่ได้รู้สึกจริงเวลา "ขอโทษ" หรือตะโกนบอกว่า "ไม่เป็นไร เอาใหม่" ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อเราทำซ้ำๆ อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ 2 คำนี้ถูกตอกย้ำเข้าสู่จิตใต้สำนึก ทำให้เรารู้สึกจริงเมื่อพูดออกไป "ขอโทษ" คือ "ขอโทษ" จริงๆ "ไม่เป็นไร" ก็คือ"ไม่เป็นไร"จริงๆ ไม่ใช่พูดแบบ"รับซาละเปา เพิ่มไหมคะ" ทั้งที่ลูกค้าหนุ่มๆกำลังกระมิดกระเมี้ยนซื้อถุงยางอนามัยอยู่ นักจิตวิทยาเคยบอกว่าถ้าเราย้ำกับตัวเองเสมอว่า"เราทำได้" ย้ำบ่อยๆ จิตใต้สำนึกจะบอกตัวเราว่า"เราทำได้"ในที่สุด พี่เชิด ทรงศรี เคยบอกว่าเคล็ดลับการกำกับการแสดงของเขาก็คือ การทำให้นักแสดงรู้สึกคุ้นเคยและไม่กลัวผู้กำกับการแสดง ตอนที่เขากำกับ"คาร่า พลสิทธิ์"ในเรื่อง"ข้างหลังภาพ" "คาร่า"ถามเขาว่าต้องไปเรียนการแสดงไหม "พี่เชิด"บอกว่าไม่ต้องขอเพียงแค่ทุกครั้งที่ขับรถหรือว่างจากงานให้"คาร่า"ท่องคำว่า"พี่เชิด"อยู่เรื่อยๆ ท่องทุกวันจนรู้สึกคุ้นเคย เมื่อถึงเวลาที่เล่นจริง จิตใต้สำนึกจะทำ ให้"คาร่า"รู้สึกคุ้นเคยกับ"พี่เชิด"และไม่รู้สึกขัดเขินเวลาเล่นจริง เป็นเคล็ดลับการกำกับการแสดงที่"สปิลเบิร์ก"พลิกตำราเท่าไรก็หาไม่เจอ การเล่นกีฬาเป็นทีม หรือการทำงานเป็นทีม ขวัญและกำลังใจเป็นงสำคัญมาก เราอยากได้ยินคำ"ขอโทษ"จากคนที่ทำพลาดมากกว่า"คำแก้ตัว"หรือโยนความผิดให้กับคนอื่น และหากเราพลาด เมื่อ"ขอโทษ"แล้ว เราก็อยากได้รับการให้อภัย จากเพื่อนเหมือนกัน เช่นเดียวกับเมื่อทำดี เราก็อยากได้รับคำชื่นชมบ้าง นี่คือ หลักจิตวิทยาพื้นฐานของการทำงานเป็นทีมที่แตกต่างจาก การทำงานแบบศิลปินเดี่ยวหรือการเล่นกีฬาประเภทบุคคล ผลจากการกระทำของเราจะไม่กระทบกับใครเคย แพ้หรือชนะเป็นเรื่องของเราคนเดียว แต่คนที่เล่นกีฬาเป็นทีม หรือทำงานเป็นทีมจะคิดเช่นนั้นไม่ได้ สำหรับ"ทีม" เราเป็นตัวเรา และเราเป็นสิ่งแวดล้อมของคนอื่นด้วย คนที่คิดเพียงว่า"เรา"คือ"ตัวเรา"จะลืมนึกถึงคนอื่น และลืมนึกถึง ผลที่ตามมาจากอารมณ์ของเรา เหมือนนักฟุตบอลที่ทำฟาวล์คู่แข่งอย่างรุนแรงเพียงเพื่อความ สะใจของตัวเอง ลืมนึกถึงผลที่ตามมาเมื่อถูก"ใบแดง"ให้ออกจากสนาม ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทีมของเรา เมื่อทำงานเป็นทีม "เรา"จึงไม่ใช่เพียงแค่"ตัวเรา" แต่"เรา"ยัง เป็น"สิ่งแวดล้อม"ของผู้อื่นด้วย ถ้าเราคุมอารมณ์ไม่ได้ คุมปฏิกิริยาที่เกิดจากอารมณ์ของตัวเองไม่ ได้ "รังสีอำมหิต"ที่แผ่ออกไป จะส่งผลต่อบรรยากาศของทีมโดยรวม และส่งผลต่อการทำงานของผู้อื่นด้วย เมื่ออยู่ในทีม "เรา"จึงไม่ใช่เพียงแค่"ตัวเรา" แต่"เรา"ยังเป็น"สิ่งแวดล้อม"ของผู้อื่นด้วย เมื่อเล่นเป็นทีม นักกีฬาที่ดีจะต้องมองไปที่"เป้าหมาย"เป็นสำคัญ ทำอย่างไรให้บรรลุถึง"เป้าหมาย" ทำให้ทีมขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมีพลังมากที่สุด แพ้หรือชนะขอให้สู้เต็มที่ มีปัญหาอะไรเก็บไว้ก่อน จบเกมแล้วว่ากัน หลังจากจบงาน HAPPY BOOK DAY ด้วยการเก็บงานถึงตีห้าของ วันรุ่งขึ้น และมี"อาฟเตอร์ช็อค"ด้วยการขนของอีกระลอกหนึ่งตอนค่ำ เป็นการเก็บงานที่หนักมาก สิ่งแรกที่ผมอยากทำมากที่สุดคือการเดินไป"ขอบคุณ"และ"ขอโทษ"น้องๆทุกคน "ขอบคุณ"ที่ทุกคนทุ่มแรงแบบสุดกำลังในการทำงานจนได้รับคำชมเชยจากคนที่ไปร่วมงาน และ"ขอโทษ"ที่งานนี้หนักเกินกว่าที่ผมคาดไว้ สมัยยังวัยรุ่น ก่อนจะเป็นแฟนกับสาวติ๊น "อมร"เล่นกีฬาเป็นประจำ และคุ้นเคยกับกฎข้อบังคับเรื่องคำขอโทษเมื่อผิดพลาด และคำให้อภัยเมื่อได้ยินคำว่าขอโทษ วันหนึ่งเพื่อนชวนไปเล่นกีฬา"เสียตัว"ที่สถานที่แห่งหนึ่ง หนุ่มมรเล่นเกมกับสาวน้อยคนหนึ่งจนจบเกม ขณะที่หนุ่มมรยังหอบหายใจแรงอยู่ สาวน้อยก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ ขณะที่ผลักตัวหนุ่มมรให้พลิกออกไป เธอก็เอ่ยด้วยมารยาทงาม "ขอโทษค่ะ" ทันทีที่ได้ยินคำว่า"ขอโทษ" จิตใต้สำนึกของหนุ่มมรก็ทำงาน ทันที"ไม่เป็นไร"เขาบอกแล้วพลิกตัวกลับ "....เอาใหม่" จากคุณ : OnceInTheBlueMoon - [ 23 ม.ค. 48 00:59:09 ] ขอบคุณ คุณ Once ที่คอยหาบทความดีๆ มาฝากัน ว่าแต่ว่าตอนนี้ หายตัวไปไหนแล้วไม่รู้ จากคุณ : Namyen_ny - [ 14 ก.ย. 50 09:17:20 A:202.57.139.250 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอโทษค่ะ แก้คำผิดใน คคห 48*** คคห 43 สาวน้อยจ้ะ HR ดีๆ ก็มีเยอะค่ะ แบบที่คุณเจอน่าจะเป็น รุ่นเก่า ที่จิตใจคับแคบ ที่อีกหน่อยก็สูญพันธุ์แล้วค่ะ จากคุณ : Namyen_ny - [ 14 ก.ย. 50 09:19:47 A:202.57.139.250 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 51 กระทู้จะตกแล้วอ่ะ จากคุณ : อิฐมอญ - [ 14 ก.ย. 50 22:43:24 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มาช่วยโหวต มีประโยชน์มากๆเลย เคยอ่านใบสมัครของหลายคนมา บางคน ประเภท เขียนสั้นเกินไป เราคัดทิ้งเหมือนกัน แต่ยาวๆ เนี่ย นั่งอ่านนะ อ้อประเภทดีเกินไป เนี่ย เราก็เอาออกเหมือนกัน เพราะว่า อาจจะ เกินตำแหน่งเที่เรารับได้ บางก็เหวี่ยงใบสมัครมาเยอะ ดันไม่ทำการบ้านเลยว่า บ.เราทำอะไร โทรไปคุย ก็นึกไม่ออก แบบนี้ ตัดทิ้ง อ้อ..อีกประเภทที่ทำให้เราหงุดหงิด สุดๆ คือนัดแล้วไม่มา เคยเจอ ที่ HR นัดให้สัมภาษณ์ รอตั้งแต่บ่ายถึงเย็น ดันมา แค่คนเดียว เสียเวลางานเรามากเลย ต้องนัดเลื่อนงานที่อื่น เพราะว่าเห็นว่ามีนัดสัมภาษณ์ได้หลายคนในวันเดียว แถมไม่โทรมาบอกอีกตะหาก แบบนี้เราบอกได้เลยว่า ไม่ได้งานแน่นอน มาไม่ได้อย่างน้อย โทรมาบอกก็ยังดี คนรอจะได้ไม่เสียเวลา ให้เด็ก โทรไป ก็ไม่รับสายซะงั้น จากคุณ : วีทีอาร์ - [ 15 ก.ย. 50 12:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอย้ำว่า hr ที่ดีก็มีแต่ไม่ประทับใจนี่จำจนตาย เหอๆคันไม้คันมือเจอแต่ hr บ่นขอบ่นหน่อยเถอะ บางที่ก็ใช้ไม่โชว์เบอร์โทรกลับก็ไม่ได้ บางที่ใช้มือถือโทรมาโทรกลับปิดมือถือ คนสมัครเขาคงสมัครไว้หลายที่บางที่ก็เบลอคงจำไม่ได้มั่งแหละคะ ใครคงไม่สมัครแค่สี่ห้าที่สมัยนี้เขาส่งเป็นร้อยเน้นว่ามากกว่าสองร้อยที่ แล้วถ้าลองบริษัทคุณไม่ดังขนาดแบบเอ่ยปุ๊บทราบเลยแบบซีเกต cp คงยากที่เขาจะจำได้เลยถามทวน อคติแบบนี้คงพลาดคนเก่งๆมาร่วมงานหลายคนแล้วนะ กะเรื่องหยุ่มหยิมๆ อย่าว่าแต่คุณรอเลยบางที่เราไปสัมภาษณ์งานนะนัดบ่ายสามให้รอหกโมงกว่าได้สัมภาษณ์เคยเจอหลายที่แล้ว แบบนี้เสียมารยาทไหมคะแต่คุณคงไม่คิดอะไรเพราะมีเงินก็เลือกจ้างใครก็ได้นี่ +++แถมตามหลักสูตรพวกคุณบอกฝึกความอดทน+++ แง้ววว กระทบคนอื่นต้องโทรไปเลื่อนนัดสัมภาษณ์ที่อื่นด้วย คนหางานเขาก็เลือกนะไม่ใช่คุณเลือกเขาฝ่ายเดียว เด็กจ๋องๆ หัวอ่อนๆนี่หลายที่คงอยากรับแต่ ไม่รู้ว่าทำงานเป็นไงเนอะหัวอ่อนๆใครชักพาก็ไปตามน้ำ สำหรับคนที่ได้งานแล้วอยากให้อ่านนี้นะ ก๊อบมาอีกที่เคยลงในห้องสีลมแล้ว ++HR ไม่ใช่เพื่อนแท้+++ หลายๆ บริษัทมีแผนก HR ไว้ให้เป็นเพื่อนที่ปรึกษากับพนักงานในทุกเรื่อง เจ้าหน้าที่แผนกนี้จึงมีหน้าที่ต้องรู้จักแบ็กกราวนด์และนิสัยด้วยการตีซี้กับทุกคน หลายคนจึงวางใจคุยกับ HR ในทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องครอบครัวยันเม้าท์นาย โดยหารู้ไม่ว่าข้อมูลเหล่านี้ได้ถูกบันทึกไว้อย่างลับๆ และจะมีผลต่อการประเมินงานของคุณในภายหลัง เป็นต้นว่า คุณอาจจะมีโรคประจำตัว หรือเพิ่งตรวจร่างกายเพื่อเตรียมมีลูก หรือเมามายจนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ต้องเข้าไปทำเรื่องเบิกค่ารักษาพยาบาล ตามมาด้วยการเม้าท์ให้ฝ่ายนั้นฟังนิดๆ หน่อยๆ โดยไม่คิดอะไร แต่เมื่อวันหนึ่งคุณมีชื่อในลิสต์ที่อาจได้โปรโมต เรื่องในอดีตของคุณจะต้องถูกนำมาเป็นหนึ่งในการพิจารณาด้วยอย่างไม่ต้องสงสัยเลยละค่ะ วิธีระวังตัว : การมีเพื่อนใน HR เป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่อย่าคิดไปเองว่าเขาเป็นเพื่อนแท้ เพราะเขาก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ นั่นคือสอดส่องดูแลว่าพนักงานแต่ละคนเป็นอย่างไร ดังนั้นเราเองนี่แหละ ที่ต้องระวังคำพูด อย่าพูดเรื่องที่ทำร้ายผู้อื่นหรือเรื่องที่จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองได้ +++ย้ำว่าที่ดีก็ดีใจหาย มีมารยาทพูดจากับเราดีมาก จนต้องเกรงใจมากแต่ที่ทำเหมือนไปของานทำนี่ก็เยอะ เบื่อจังพวกทำงานไม่มีคุณภาพนี่ทำบริษัทเสียชื่อตั้งแต่แรกเลย จากคุณ : หน้ากากอมยิ้มสีเหลือง - [ 15 ก.ย. 50 23:34:10 A:192.168.0.16 X:125.24.222.134 TicketID:149550 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เพื่อนผมอยากมาอยู่บริษัทผมมาก ส่งใบสมัครมาทุกตำแหน่งเลยจริงๆ ตำแหน่งไหนเขาสมัครได้เขาสมัครหมด พอมาสัมภาษณ์ตำแหน่งนึงแล้วแต่เป็นแผนกที่ไม่โดน อยากได้อีกแผนกแต่ไม่เรียก ปรากฏว่าได้งานแต่ว่าต้องไปทำงานอีกที่ ผมบอกว่าไม่อยากได้ก็บอกเขาไปตั้งแต่เนิ่นๆซี่ ก็ไม่ยอมบอกจนถึงวันตรวจโรคถึงค่อยโทรไปบอก HRก็ฉุนสิ แล้วหลังจากนั้นเดือนนึงก็เจอตำแหน่งถูกใจสมัครไปใหม่อีกรอบ เป็นคุณHR จะเรียกเขาสัมภาษณ์อีกรอบมั้ย จากคุณ : หอบหืด - [ 16 ก.ย. 50 19:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ได้ความรู้อีกเยอะ จากคุณ : SuPerGLUE (SuPerHyPerOverUltraGLUE) - [ 16 ก.ย. 50 21:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 57 น้ำได้รับคำตอบสั้นๆ จากพี่เบ็ญ ว่า “เค้าได้คนแล้ว” “ไม่เป็นไรลูก ค่อยๆ หาไป เดี๋ยวก็ได้” นั่นเป็นคำปลอบโยนจากแม่ ที่ดังก้องอยู่ในใจเสมอจนถึงทุกวันนี้ ทุกครั้งที่พลาด ทุกครั้งที่ล้มลุกคลุกคลาน แม่นั่นเองที่คอบปลอบโยน เป็นกำลังใจให้น้ำมีพลังต่อสู้ต่อไป น้ำยังคงเดินเข้าออกที่คณะ ไปเรียนบ้าง ไปติวบ้าง ไปฝึกงานกับพวกที่ยังตกค้างอยู่บ้าง แต่ไม่คิดจะสมัครงานอีก เพราะคิดว่ารอให้ได้ปริญญาก่อนดีกว่า ที่คณะ จะมีบอร์ดอยู่เยอะมาก ประกาศข่าวกิจกรรณคณะ ข่าวฝากจากคณะอื่น รับสมัครนักศึกษาใหม่ ประกาศรับสมัครงาน ฯลฯ แล้ววันหนึ่ง ก็เหมือนเพ่อขุนรามมาโปรด ท่านมาชี้ทางสว่างให้....... น้ำกำลังเดินเข้าไปที่คณะ ตั้งใจจะไปห้องแนะแนว เห็นนักศึกษาหลายคนจดอะไรยิกๆ อยู่หน้าบอร์ด ๆ หนึ่ง เลยโฉบเข้าไปดูบ้าง ตามประสาคนอยากรู้ อ้อ..... ประกาศรับสมัครงาน มีตั้งหลายบริษัทแน่ะ น้ำมองไปที่ห้องแนะแนว ยังไม่เห็นอาจารย์แนะแนวคนที่จะพบอยู่ในห้อง ก็เลยเดินกลับมาที่บอร์ด เพื่อฆ่าเวลา อ่านผ่านๆไป 2-3 ประกาศอย่างไม่สนใจนัก เพราะยังไม่คิดจะสมัครงานตอนนี้ แล้วน้ำก็ไปสะดุดกับประกาศอันนึงเข้า จำรายละเอียดไม่ได้ทั้งหมดนะคะ จำได้คร่าวๆว่าเป็น บทความเกี่ยวกับคำสัมภาษณ์ผู้จัดการใหญ่ บริษัทแห่งหนึ่ง ท่านให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ ใบสมัครงานของผู้สมัครคนหนึ่ง ที่ส่งมายังบริษัทท่าน ท่านแทบจะไม่เก็บใบสมัครนั้นแล้ว เพราะประวัติการศึกษาก็ธรรมดาทั่วๆ ไป ประวัติการทำงานก็ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่พออ่านไปจนถึงความสามารถในการใช้ภาษา ชายคนนี้ทำให้ท่านอยากพบ เพราะว่า........ ENGLISH: SPEAK—Fair READ----Fair WRITE----Fair THAI: SPEAK----Very good, Esan Thai very very Good! READ--Very good WRITE---Very Good สุดท้าย ชายคนนี้ได้งานค่ะ จากคุณ : Namyen_ny - [ 17 ก.ย. 50 00:15:29 A:202.90.118.227 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 58 น้ำขอแปะโป้ง คุณหน้ากากอมยิ้มสีเหลือง กะคุณหอบหืด ก่อนนะคะ เดี่ยวพรุ่งนี้มาตอบค่ะ ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีค่ะ จากคุณ : Namyen_ny - [ 17 ก.ย. 50 00:18:03 A:202.90.118.227 X: TicketID:152595 ]

ความคิดเห็นที่ 59 มาลงชื่อนั่งรออ่านค่ะ จากคุณ : Chollaphin - [ 18 ก.ย. 50 14:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เป็น HR อีกหนึ่งคน ที่ขออนุญาตเข้ามาเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการทำงานจากกระทู้ดีๆ นี้ค่ะ เปิ้ลเชื่อนะว่าทุกวงการ ทุกสังคม ย่อมมีทั้งคนดีและไม่ดี และก็เชื่ออีกว่า...ใครทำดีก็ย่อมได้ดี ทำไม่ดีก็ได้รับกลับไปเช่นกันค่ะ อยากบอกว่ายังมี HR ดีๆ และไว้ใจได้ อยู่อีกมากมาย (จริงๆ) เป็นกำลังใจให้ HR ที่ดีทุกคนนะคะ จากคุณ : แมงปอในไร่ส้ม - [ 21 ก.ย. 50 12:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณครับสำหรับกระทู้ดีๆ แบบนี้ จากคุณ : libra-cat - [ 22 ก.ย. 50 12:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 62 มาเล่าให้ฟังมั่ง ^^ มีคนส่งใบสมัครมาทางอีเมล์ เราก็ตอบกลับไปทางอีเมล์ ขอนัดวันสัมภาษณ์ เขาตอบกลับมาว่าโอเค พอใกล้วันสัมภาษณ์ เราโทรไปคอนเฟิร์มนัด ปรากฏว่า เจ้าตัวนึกไม่ออกว่าเคยมาสมัครไว้ จำไม่ได้ว่าตอบรับนัดสัมภาษณ์ ถามไปถามมา เขาบอกว่า "อ้อ อีเมล์อันนั้นของเพื่อนครับ เพื่อนช่วยส่งใบสมัครให้" เจออย่างนี้ ทำไงดีคะ HR ที่รัก ^^ จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 26 ก.ย. 50 09:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 63 งั้นถามพี่ HR หน่อยครับ ตอนนี้ผมเป็น Technical Support Computer อยู่ ซึ่งผมเรียนจบมาไม่ตรงสาย (คนล่ะด้านเลย) แต่ตอนนี้ไล่เก็บ CERTของMicrosoft จะครบล่ะ แบบนี้ HR จะรับพิจารณาไหมครับ จากคุณ : Drace - [ 26 ก.ย. 50 14:45:48 ]

ความคิดเห็นที่ 64 งั้นในมุมมองกลับกันถ้ามีผู้สมัครโทรมาขอสมัครงานแต่ย้อนกลับมาถามว่า ไม่ทราบว่าตอนนี้บริษัทของคุณมีตำแหน่งไรเปิดเพิ่มบ้างคะสนใจอยากสมัครงานคะ สำหรับเรา เราให้ตก..เพราะถือว่า..คุณอยากทำงานกับเราแต่คุณไม่เคยศึกษาเราเลยว่าเรามีตำแหน่งงานอะไรที่คุณสนใจหรือ(คิดว่า)มันเหมาะกับคุณ มีแต่คนบ่นเรื่องการทำงานของ HR จิงๆ HR ก้ออยากบ่นเรื่อง Candidate เหมือนกันนะ... - -" จากคุณ : spize - [ 28 ก.ย. 50 16:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เคยโดนเรียกไปที่ระยอง hr บอกว่า ตำแหน่ง engineer โยธา แต่เราจบเครื่องกล มันคนละเรื่อง เขาบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นอยู่กับความสามารถ และ คนสัมภาษณ์ว่าชอบหรือเปล่า เราก็งง ตอนแรกจะไม่ไป แต่ความที่อยากได้งานเลยลองไปดูเผื่ออาจจะใช้สายงานของเราปรับเปลี่ยน ประยุกต์ใช้ได้ พอไปคนสัมภาษณ์บอกว่าไม่ตรงกับสายงานของเขา อึง้นิดนึง นึกในใจว่าถ้าไม่ตรง ใช้ไม่ได้ แล้วเรียกทำไมวะเสียเวลา เสียค่านำมัน ถ้าอยู่ใกล้จะไม่ว่าเลยแต่นี้ ตั้งหลายร้อยกิโล ถ้าสัมภาษณ์ไม่ได้เพราะเรายังไม่ดีพอก็เข้าใจ แต่นี้สายงานไม่ตรงบอกมาตั้งแต่ตอนแรก เฮอ เซ็ง    hr น่าจะนำประวัติให้คนสัมภาษณ์ ดูก่อนว่า ok หรือเปล่า ถ้าได้ก็ถึงเรียกสัมภาษณ์ไม่ใช้เรียกส่งเอายอดเข้าไว้ ทำเหมือนนึกจะเรียกใครก็เรียก จากคุณ : กก (roj2524) - [ 28 ก.ย. 50 18:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ อย่างนี้มันน่าต่อกระทู้ "สัมภาษณ์ยังไงให้ไม่ได้งาน" :) จากคุณ : Dia-monD - [ 30 ก.ย. 50 01:33:50 ]

ความคิดเห็นที่ 67 คุณกก (roj2524) หลายที่ยังใช้ระบบอุบาทย์แบบนี้ คือบีบให้เด็กโทรเรียกคนมาให้ได้ยอด คุณDrace มี Cert เยอะมีข้อดีข้อเสียนะครับ ในเบื้องต้นอาจจะโดนใจ HR แต่ถ้าสัมภาษณ์รอบหลังกับคนที่ทำงานนั้นจริงๆ คุยกันแป๊บเดียวรู้แล้วว่าคุณเข้าใจเรื่องนั้นจริง หรือแค่ท่องข้อสอบไปสอบ Cert อย่างเด็กที่อายุงานยังน้อยถึงมี Cert ด้าน Enterprise ผมก็ไม่เอามานับหรอกครับ เพราะมีโอกาสน้อยมากที่จะมีประสบการณ์กับงานด้านนี้ ประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังครับ จากคุณ : . - [ 2 ต.ค. 50 16:04:54 A:222.123.77.147 X: TicketID:071691 ]

ความคิดเห็นที่ 68 กระทู้โดนดีจริงๆ จากคุณ : สายลมปุยเมฆกับฟ้าสีคราม - [ 2 ต.ค. 50 20:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ผมอ่านกระทู้นี้แก่ไปเยอะเลย ได้ประสบการณ์เยอะเลย อยู่ ม.กรุงเทพ มีสิทธ์ไป ฝึกงานที่ BIG 4 มั้ย จากคุณ : Thedew - [ 3 ต.ค. 50 21:33:40 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ส่วนมากผมสมัครงานและไปสัมภาษณ์มักจะโดน Over Qualify เพราะว่าผมจบแต่ ปวส. แต่ทำงานมาหลายปี  ทำงานทุกอย่างในงาน Operation & Maintenance สุดท้ายผมก็ไม่ได้งาน เพราะว่าเขาต้องการคนที่จบและมีใบปริญญามาประกอบ แม้คุณจะความสามารถถึง แต่คุณไม่มีใบปริญญา คุณก็ไม่สามารถขอเงินเดือนเท่าปริญญาตรี วิศวะได้ ผมเลยเบื่อๆ กับการทำงาน อนาคตคงไปประกอบธุรกิจส่วนตัวดีกว่า จากคุณ : Tanoshii - [ 4 ต.ค. 50 16:11:16 ]