ความคิดเห็นที่ 1 มันก็ไม่ได้ ผิดอะไรหรอก แต่คุณตอบเหตุผล การเรียนมาตั้งนาน แล้วทำงานได้เท่านี้  ได้หรือป่าวล่ะ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 50 18:09:28 จากคุณ : ตะวันรุ่งทุ่งรังสิต - [ 16 ก.ย. 50 18:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เหตุผลง่าย ๆ ก็ตกงานอยู่ ไม่ตกงานจะมาสมัครเรอะ จากคุณ : สนใจงานใหม่ ๆ - [ 16 ก.ย. 50 18:10:13 A:124.120.225.28 X: TicketID:061788 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ทำไปเถอะ อย่างน้อยก็งานสุจริต ปริญญาช่างหัวมันเหอะ สนใจไรมากมาย คนจบสูงเป็นแม่ค้ามีเยอะแยะไป อย่าไปยึดติดมันมาก จากคุณ : แอน (romanov) - [ 16 ก.ย. 50 18:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไมบางคนจบโทเป็นลูกจ้างบริษัทดี ๆ มีเงินเดือนสูงแต่ลาออกไปเปิดร้านเซเว่นขายของล่ะ บางคนไปเปิดร้ายขายกาแฟ ขายโจ๊ก เฟรนไชส์ ก็คิดไม่ออกว่าทำไมคนมีปริญญาไม่ตกงานเหล่านั้น ทำไมลาออกมาขายของ งงมาก จากคุณ : สนใจงานใหม่ ๆ - [ 16 ก.ย. 50 18:14:21 A:124.120.225.28 X: TicketID:061788 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต้องแยกให้ออกก่อนนะครับ การทำธุรกิจส่วนตัว กับเป็นลูกจ้าง เป็นแม่ค้าพ่อค้า ทำเองรวยเองเจ๊งเอง แต่ลูกจ้างเงินเดือนเท่าเดิม เพิ่มขึ้นนิดหน่อย อดทนรองานดีๆ ดีกว่าครับ เป็นพนักงานทำความสะอาดนี่ ไม่แนะนำยกเว้นเป็นหัวหน้า ก็ว่าไปอย่าง จากคุณ : ฉันมันตัวเปล่า - [ 16 ก.ย. 50 19:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นี่หมายถึงทำความสะอาดตอนที่เครื่องบินกำลังบินอยู่ หรือว่าพอจอดเสร็จหลังจากส่งผู้โดยสารหมดแล้ว แล้วค่อยเข้าไปทำ ถ้าแบบหลังนี่ผมคิดว่า้เงินเดือนมันก็ไม่น่าต่างจากทำความสะอาดทั่วไปเท่าไหร่ แล้วอีกอย่าง ถ้าคุณเลือกทำงานนี้แล้ว ก็แทบจะไม่ได้ประสบการณ์อะไรจากการทำงานเลย แล้วถ้าอีกสักปีนึงคุณลาออกมาสมัครที่อื่นที่มันตรงกับสิ่งที่คุณเีรียนจบมา แล้วบริษัทใหม่เค้าสัมภาษณ์คุณว่า 1 ปีที่ผ่านมาทำอะไรอยู่ คุณจะบอกเค้าว่าไปทำความสะอาดเครื่องบินมาเหรอครับ เข้าใจครับ ว่าตกงานมันเครียด แต่ลองตัดสินใจให้ดีอีกทีนะครับ ลองมองถึงระยะยาว ว่าสิ่งไหนมันดีักับอนาคตคุณมากกว่ากัน สู้ๆ จากคุณ : บ้านของหัวใจ - [ 16 ก.ย. 50 19:02:27 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าตกงานแล้ว ไปสมัคร ก็ไม่เสียหายครับ ดีกว่าเอาเวลาว่างๆ ไปหายใจทิ้ง ระหว่างทำงานทำความสะอาดเครื่อง ก็ใช่ว่าจะมองหางานใหม่ไม่ได้นี่นา ก็หางานไปสิ ชอบก็ไปสมัคร ไม่เห็นจะยากครับ อย่าดูถูกคนที่อยากทำงานครับ ปล. ยังไงผมก็เห็นว่า ทำไปก่อน ยังดีกว่า ทำตัวว่างงานและหางานไปเรื่อยๆ เพราะมันไม่เกิด productivity ครับ และอีกอย่าง มันไม่ก่อให้เกิดรายได้ด้วยสิ จากคุณ : เอ..ชีวิตมันขาดไรไปน๊า - [ 16 ก.ย. 50 20:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 งานทำความสะอาดเครื่องบินมันไม่ดีตรงไหนเหรอ ไม่ได้ไปปล้นใคร หรือโกงประเทศชาติซะหน่อย งานทุกงานก็มีเกียรติในตัวเอง แค่ทำให้ดีที่สุดก็พอแล้ว จากคุณ : moa - [ 16 ก.ย. 50 20:23:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แหม่พูดซะสวยหรู..งานทุกงานมีเกียรติในตัวเองก็จริงอยู่...แต่ งานบางอย่างมันก็ต้องพิจารณา เนื้องานด้วยครับ จบ ป.เอกไปกวาดถนน  คุณว่ามันเป็นยังไง จากคุณ : รอสโซเนรี่ - [ 16 ก.ย. 50 20:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทำไปเลย จิ้มไปยาวววววๆๆ แล้วค่อยหาทางขยับขยาย ไปทำที่ชอบ ที่ถนัด จากคุณ : eaglewing - [ 16 ก.ย. 50 20:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลองรอดูไปซักพักว่าหางานอื่นได้เปล่า คุณเรียนมาตั้งเยอะควรหางานได้ดีกว่านี้ แต่ถ้าถามว่า ระหว่างคนที่เรียนจบ ป.ตรีมาแล้วไปทำความสะอาดเครื่องบิน กับ จบแล้วมานั่นเฉยๆ อันไหนน่านับถือกว่ากัน ผมถือว่าคนแรกครับ อย่างน้อยหน้าเค้าก็ไม่บางรู้จักทำมาหากิน จากคุณ : Oak - [ 16 ก.ย. 50 21:07:31 A:58.136.98.167 X: TicketID:062405 ]

ความคิดเห็นที่ 12 "ถ้ารายได้ดีกว่าพนักงานออฟฟิศแต่งตัวหรู ๆ ก็น่าสนมาก ๆ มีใครสนบ้างไปกัน" คงไม่หรอกมั้ง แต่ถ้า เป็นเรื่องจริงเหรอ ถ้าจริงก็ดีสิ ผมจะไปทำด้วย จากคุณ : Oak - [ 16 ก.ย. 50 21:09:36 A:58.136.98.167 X: TicketID:062405 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมจบตรีสองใบ เกรดไม่ได้แย่ ... โทอีกใบ เกรดก็ไม่ได้แย่... ผมยังมาเป็นเด็กล้างจานเลย ไม่ใช่แค่ล้างจานนะ ทำความสะอาดครัว เก็บขยะ...และทุกอย่างที่เชฟสั่ง.... แล้วก็ไม่ได้ตกงานที่ไทยนะ แต่อยากลาออก หาอะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิต ... อยู่อังกฤษครับ ค่าแรงขั้นต่ำที่นี่เป็นเศรษฐีได้สบายที่ไทย... อีกอย่างอยู่ที่นี่ถ้าขยันคุณก็รวยได้...งานทำความสะอาด ไม่ใช่งานต่ำ ๆ นะครับ มันให้อะไรบางอย่างที่คุณไม่เคยรู้ คุณจะรู้ว่าการต้องทำงานเป็นลูกน้องเขาเนี่ย มันลำบากแค่ใหน ถ้าคุณว่างงานคุณลองสมัครดูเลย อย่าไปดูถูกงาน อย่าให้ปริญญามาค้ำคอคุณไว้...ถ้าคุณเคยทำงานหนัก ๆ ถูกมองว่าทำงานต่ำต้อย แล้วรู้สึกถึงการดูถูกเนี่ย วันนึงคุณจะรู้สึกถึงการเอาชนะและจะพยายามมากขึ้น ๆ ๆๆๆๆ เพื่อไม่ต้องการเป็นลูกน้องใครในอนาคต... แต่งานพวกนี้เหนื่อยนะครับ...แล้วคุณต้องแคร์สายตาใครต่อใครที่มองคุณ คุณถามตัวเองว่าคุณทนได้มั้ย...สำหรับผม สบาย ...ทำงานสุจริต ไม่ต้องอายใคร จำไว้ปริญญาเป็นแค่สิ่งสมมุติ เป็นแค่ค่านิยม...อย่าให้มันมาค้ำคอคุณไว้...แล้ววันนึงคุณจะรวย... จากคุณ : บอนน์ - [ 16 ก.ย. 50 21:16:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 บิล เกตต์ ก็เรียนไม่จบ แต่มีลูกน้องที่จบปริญญาเอกเป็นเข่งๆ เมืองไทยก็มีตัวอย่างให้เห็น สมัยก่อนนั้นที่ธนาคารกรุงเทพเจอปัญหาวิกฤติลูกค้ารุมถอนเงิน คุณชิน แก้ปัญหาด้วยวิธีที่แม้แต่ฮาร์วาร์ดก็ไม่มีสอน ลูกน้องคุณชินที่จบปริญญาเอกได้แต่ทำตาปริบๆ เรื่องนี้ยังคงเป็นตำนานทางด้าน Crisis Management มาจนทุกวันนี้ หรือรุ่นเดียวกัน แต่ต่างธุรกิจ คือคุณเทียม โชควัฒนา (ขออภัยที่พาดพิงครับ แต่เป็นการกล่าวถึงในทางบวก) ได้รับการยกย่องอย่างสูงยิ่งทางด้าน trading แต่มีคนจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่รู้ว่า สุดยอดของคุณเทียมไม่ใช่ trading แต่เป็นเรื่อง How to build credit ทั้งคุณชิน และคุณเทียม เสื่อผืนหมอนใบ ทั้งสองท่านครับ ไม่มีปริญญาใดๆ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 16 ก.ย. 50 21:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เหอะๆๆๆ ถ้าข้าวสารไม่มีกรอกหม้อก็ต้องทำ แม้แต่เก็บขยะขายก็ยังต้องทำ ถ้าไม่ทำก็อดตาย แต่้ถ้าที่บ้านเหลือเฟือก็เอาเวลาไปเดินหางานใ้ห้เยอะๆ ไม่ใช่บอกไม่มีงานหางานไม่ได้ แต่สมัครงานแค่เดือนละสองสามที่อย่างนี้มันก็ไม่น่าจะดี อีกอย่างอย่าเลือกงานเลือกบริษัทเลือกเงินเดือนให้มันมากนัก อะไรเข้ามาก็ขว้าไว้ก่อน แล้วค่อยๆขยับขยาย ปล.งานล้างเครื่องบินก็น่าสนุกเหมือนกันนะ ได้เดือนเท่าไหร่ละครับ จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี - [ 16 ก.ย. 50 22:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มีอะไรก็ทำก่อนเถอะครับ ช่วงว่างงานเป็นอะไรที่ทำให้คนเราฟุ้งซ่านพอสมควรครับ ผมก็คนหนึ่งที่ตอนว่างงานแล้วฟุ้งซ่าน คิดนู่นคิดนี่ ถ้าอยากทำก็ทำเลยครับ ทำแล้วเสียใจดีกว่า ไม่ทำแล้วเสียใจครับ จากคุณ : TCh - [ 16 ก.ย. 50 22:06:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่เสียหายหนิค่ะ ยังไงก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ คนเคยทำงานกับคนไม่เคยทำงานเลย .. มันต่างกันนะ จากคุณ : อาบน้ำแล้วไม่มีเห็บ (OmMY_OmMY) - [ 16 ก.ย. 50 22:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 18 นับถือเเนวคิดของ #13 ครับ เเละเห็นด้วยอย่างเเรงกับ #14 ผมก็จะมาบอกเหมือนกันว่าคนที่สร้างเนื้อสร้างตัวเป็นเศรษฐีได้ ด้้วยตัวเองทุกวันนี้ส่วนใหญ่ก็เริ่มจากงานเล็กๆที่บางคนในนี้ต่าง ปรามาศว่าดูกระจอกหรือดูไม่ค่อยมีเกียรติทั้งนั้นเเหละครับ หลายคนมั่วไปยึดติดกับภาพของคนรุ่นลูกรุ่นหลายของเศรษฐี เหล่านั้นว่าสบายอย่างนู่นอย่างนี้ มีของดีๆเเพงๆใช้ อยู่บ้านหลังใหญ่ ใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟู่ฟ่า ฯลฯ จนไม่ได้ไปดูหรือรับรู้กับความลำบากสู้ชีวิตของรุ่นสร้างฐานะว่า เค้าเน็ดเหนื่อยกันขนาดไหน ...ส่วนเรื่องงานล้างเครื่องบินผมเคยได้ยินมาว่ารายได้ดีครับ โดยเฉพาะกับบริษัทที่ประกอบการ เเต่ตัวลูกจ้างไม่เเน่ใจว่าได้เท่าไร เเต่คิดว่าดีกว่างานออฟฟิศช่วงเเรกเริ่มเยอะครับ ...บางทีในอนาคตพวกจบระดับสูงๆอาจต้องมาเป็นลูกจ้างของ จขกท ก็ได้ครับ ใบปริญญาในความเป็นจริงมันก็เเค่กระดาษใบนึงครับไม่ต้องไปไมด์มาก บางคนจบตรีมายังไม่มีอะไรติดหัวเลย... ...good luck... จากคุณ : LR3 - [ 16 ก.ย. 50 23:10:44 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จบ ป.เอกไปกวาดถนน คุณว่ามันเป็นยังไง จากคุณ : รอสโซเนรี่ - [ 16 ก.ย. 50 20:46:33 ] . . . . ถ้าไม่มีงานทำ ไม่มีกิน กับไปกวาดถนนคุณจะเลือกอะไร ต้มปริญญากินดีมั้ย จากคุณ : มัรใมรใกมใกมใพห้ำห่ - [ 16 ก.ย. 50 23:19:00 A:58.64.102.190 X: TicketID:134802 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไปทำเอาสนุกคะได้ประสบการ์ณคะคุณ แต่อย่าทำนานเดี๋ยวแก่มาหางานยาก จากคุณ : ขำหน้ากากอมยิ้มกินอุดมคติ - [ 16 ก.ย. 50 23:40:24 A:125.24.216.23 X: TicketID:149550 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ลุยๆๆๆๆ ถ้าอยากทำจริงก็ลุยเลยครับ ไม่ต้องแคร์สายตาใครแล้ว จากคุณ : Ace striker - [ 17 ก.ย. 50 00:04:28 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ทำให้นึกถึงคำโบราณคำหนึงเลย อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา จากคุณ : ninjathai - [ 17 ก.ย. 50 01:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อ้า มีคนเห็นด้วยกับเราเยอะแยะ ว่าอย่าไปแคร์กับปริญญา จบ ป.เอกไปกวาดถนน  คุณว่ามันเป็นยังไง จากคุณ : รอสโซเนรี่ ขอเสริมหน่อย ลูกพี่ลูกน้องเราจบโท Havard มันยังเลือกไปเป็นแม่ค้าเลย (แต่เป็นเจ้าของร้านอาหารไทยนะ เรียนจบมาปุ๊บเปิดปั๊บ ไม่รู้เรียนมาทำไม) เห็นมะสนใจไรกับปริญญา เราจะจบโทวิศวะ ยังอยากเป็นแม่ครัวเลย แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 01:37:10 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 01:34:53 จากคุณ : แอน (romanov) - [ 17 ก.ย. 50 01:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เพิ่งนึกได้... เคยดูรายการ ฮวงจุ้ย ของ วิลลี่ เเมคอินทอช ตอนหนึ่ง สมัยที่รายการยังอยู่ที่ช่อง 3 ตอนนั้นไปถ่ายทำที่เกาหลีใต้เเละมี เสนาหอย ไปด้วย รายการวันนั้นทีอยู๋ช่วงหนึ่งได้บอกว่าอาชีพคนกวาดขยะ ในประเทศเกาหลีใต้นั้นได้เงินเดือนราวๆ ไม่ต่ำกว่า 80kบ. (ถ้าจำไม่นะ ถ้าจำผิดตัวเลขที่ถูกต้องก็จะเป็น 100kบ.) รู้สึกจะเป้นที่ โซล นะถ้าเป็นเมืองอื่นไม่ทราบครับ ปล ผมก็เป็นคนนึงที่จบ ป.ตรี เเต่แทบไมได้อะไรติดหัวมาเลย     ในขณะที่เพื่อนผมเพิ่งจบ ป.โท ก็มานั่งบ่นเเบบเดียวกับผม -*- แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 04:44:41 จากคุณ : LR3 - [ 17 ก.ย. 50 04:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ยืนยันคุณ LR3 คนกวาดขยะ ในประเทศเกาหลีใต้นั้นได้เงินเดือนราวๆ ไม่ต่ำกว่า 80k บาท ช่ายคะ จากคุณ : แอน (romanov) - [ 17 ก.ย. 50 09:26:39 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถามว่าอนาคตอีก 5 ปีจะเป็นอย่างไรต่อไป อยากเป็นหัวหน้าคนทำความสะอาดเครื่องบิน? ประสบการณ์คนทำความสะอาดเครื่องบินสามารถนำมาใช้สมัครงานตามที่คุณเรียนมาได้ไหม? ถ้าตอนนี้ขัดสนเรื่องเงินมากก็ทำไปเถอะ แต่ถ้ายังพออยู่ได้ สมัครงานต่อไปเถอะ เพราะถ้าคุณไปทำงานทำความสะอาดนานๆ คุณจะหมดไฟ และยังทำให้หางานยากขึ้น โดยเพื่อนร่วมรุ่นคุณ จะเริ่มมีประสบการณ์ แต่คุณยังไม่มีประสบการณ์ตรงปริญญาของคุณ เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก คุณทำความสะอาดเครื่องบิน มา 3 ปี คุณก็จะเริ่มคิดล่ะว่า คงทำงานอื่นไม่ได้ เพราะงานหายากขึ้น เค้ารับแต่คนมีประสบการณ์ แต่คุณมีแต่ประสบการณ์ทำความสะอาด และงานนี้ก็สบาย ไม่ได้ดูถูกงานทำความสะอาด แต่......คุณเรียนจบแล้ว น่าจะเข้าใจ ข้อ.2 ของเค้านะ รับสมัครตั้งแต่ป.4 ขึ้นไป คือ ง่ายๆ เค้าต้องการคนแค่อ่านออก เขียนภาษาไทยได้เท่านั้นเอง เวลานี้ คุณจะขาดการพัฒนา ฝึกฝน ในสาขาที่คุณเรียนมา ที่สำคัญประสบการณ์ ที่ทุกๆบริษัทต้องการ ประเทศไทยแปลกอยู่อย่าง ใช้คนไม่ถูกกับงาน คนจบมาทำงานไม่ตรงสาย เรียนสูง แต่ไม่กล้าทำงานในสิ่งที่ตัวเองทำงาน ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลอง กลัวแค่ว่าจะทำไม่ได้ ไม่มั่นใจความรู้ที่จบมา จนกลายเป็นปัญหาของประเทศ ความรู้ความสามารถของเด็กไทยจริงๆ ขาดการสานต่อ จบได้รับปริญญา ไปขายของตามตลาดนัดก็เยอะ ถามว่าแบบนี้จะเรียนไปทำไม พ่อแม่ส่งให้เรียนมาแล้ว เสียเงิน เสียเวลาตั้งหลายปี ลองใช้ไปก่อนเถอะ อย่าคิดว่าไม่มใช่ตัวเอง ลองใช้มันให้เต็มที่ก่อนเถอะ ตกงาน สมัครมากี่บริษัทแล้ว resume ทำสุดความสามารถหรือยัง ลองสักเกตุเพื่อนร่วมรุ่น ว่าได้งานกันกี่คน ทำไม เค้าถึงได้งาน อย่าคิดว่าทำอะไรก็ได้ ทำๆไปเถอะ ปริญญา จะเป็นแค่กระดาษใบเดียว หรือว่า เป็นใบรับรองความรู้ความสามารถ ที่คุณสั่งสมมาเป็น เวลา 4 ปี คุณเลือกเอง จากคุณ : BMWTurboman - [ 17 ก.ย. 50 10:16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณบอกอยากขึ้นเครื่องบิน คุณอยากขึ้นแบบคุณใช้บริการ หรือ คุณให้บริการล่ะ ความรู้สึกต่างกันราวฟ้ากับดิน ขอเถอะเด็กไทย อย่าเห็นแก่ความมักง่าย ทำอะไรก็ได้ ทำๆไปเถอะ ปกปิดความสามารถตัวเอง อย่าบอกว่าหางานไม่ได้ ลองมันให้เต็มความสามารถ งานยังมีอีกเยอะ ถ้าอยากทำงานที่ไม่ต้องใช้ปริญญาก็น่าจะคิดก่อนเรียน เสียโอกาสคนที่อยากเรียนแต่ไม่ได้เรียน เสียเงินทองพ่อแม่ ที่ส่งเรียนแต่ไม่ได้ใช้มันให้เกิดประโยชน์ ปริญญาจะมีค่าถ้าเกิดคุณใช้มันให้เกิดประโยชน์ เอาไว้คุยให้ลูกฟังว่าพ่อจบปริญญามา แต่ไม่ได้ใช้มัน ให้เด็กมันมองแปลกๆ จากคุณ : BMWTurboman - [ 17 ก.ย. 50 10:22:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ซึ้งเลย เจอคุณ BMWTurboman เข้าไป เห็นคุณค่าปริญญาขึ้นมาทันที จากคุณ : แอน (romanov) - [ 17 ก.ย. 50 10:48:06 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เข้าท่าสิคะ คุณไม่ได้จะทําความสะอาดไปตลอดชีวิตนิ ใช่มั้ยล่ะ และ ขอบอกว่า งานนี้คุณได้ขึ้นเครื่องแน่ๆค่ะ !!!! (เครื่องจอด ก็เข้าไปทําความสะอาดในเครื่อง (ได้ขึ้นเครื่องจิงๆ..อิ ๆ)) คนจบ ป.ตรีไปทําก็มีค่ะ ที่รู้จักก็มีน้อง อยู่ในเลาจน์สายการบิน (พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟ) นั่นก็ทําความสะอาดมาก่อน ที่คุยๆกันไม่เห็นว่าเค้าจะอี๊ๆ งานทําความสะอาดตรงไหน ทําไปก่อน  แล้วค่อยมองหางานที่เวิร์คกว่า....(ถ้ามุ่งมั่นที่จะทํา) บางทีเค้ารับสมัครกันข้างใน คนนอกก็ยากจะรู้ เข้าไปข้างใน รู้จักเพื่อนฝูงในนั้น อะไรๆ น่าจะง่ายขึ้น ( งานในแอร์พอตเยอะแยะมากมาย ) อีกอย่าง คิดด้วยนะคะ ค่าเดินทาง ค่ากิน ฯลฯ มันคุ้มกันมั้ยกับเงินเดือนที่ได้ จากคุณ : Davidoff Cool - [ 17 ก.ย. 50 10:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าจะไปทำเพราะอยากขึ้นเครื่องบิน ก็อย่าเลยมั้ง หาเวลาว่างไปเที่ยวสักครา แล้วไปขึ้นเอา แต่ถ้าอยากทำเพราะตอนนี้ไม่มีงานทำจริงๆ และอยากลองทำงาน อยากหาประสบการณ์ ก็ลองทำดู ไม่ได้เสียหายอะไร จากคุณ : ดอกไม้ในฤดูฝน - [ 17 ก.ย. 50 12:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ลองหลังไมค์มาชวนผมดูสิ ถ้าคุณต้องการเพื่อนร่วมทำความสะอาดเครื่องบินด้วยกัน จากคุณ : Moonui - [ 17 ก.ย. 50 14:19:15 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ใช้ความสามารถดันตัวเองให้เป็นหัวหน้าซิครับ จากคุณ : MiraSport - [ 17 ก.ย. 50 14:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ลุยเลยคร้าบบบ แล้วค่อยขยาย คนเราวาสนาไม่เหมือนกัน ทำไรก็ได้แต่อย่าดูถูกคน ถ้าคุณกวาดขยะแต่ไม่เคยเอาเปรียบใคร ไม่เคยดูถูกใคร กับคนที่ทำงานดีๆ ทำตัวหรูๆ  แต่ดูถูกคนอื่น เอาเปรียบคนอื่น ลองดูสิว่า ถ้าคุณทั้งคู่ต้องลำบากขอความช่วยเหลือ แล้วคนที่จะช่วยเหลือเค้าจะช่วยใคร ถ้ายังไง ก็หางานไปเรื่อยๆ แล้วทำงานเอาเงินไว้ก่อนครับ ผมว่ามีนายจ้างไม่น้อยนะที่ชอบคนสู้งานแม้จะมีปริญญาค้ำคออยู่ อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งละถ้ามีโอกาสเป็นนายจ้าง ได้เลือกคนเข้าทำงาน ผมจะเอาสิ่งที่เค้าเคยทำ เคยลำบาก ไม่เกี่ยงงานมาเป็นคะแนนพิเศษ จากคุณ : razami (razami) - [ 17 ก.ย. 50 15:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ทำไปเลยครับ สนับสนุน ดีกว่าตกงานไม่มีจะกิน เพียงแต่ว่า ไม่ใช่เอาแต่ทำความสะอาดอย่างเดียว ศึกษาระบบขององค์กรของเขาด้วย การจัดสรรพนักงาน การให้เงินเดือน การขึ้นเงินเดือน และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่แน่วันนึง คุณอาจเป็นเจ้าของบริษัทรับทำความสะอาดบนเครื่องบิน หรืออื่นๆ ก็ได้ (สามารถประยุกต์ใช้ในกิจการอื่นได้) ** การที่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แล้วมาทำธุรกิจของตัวเอง ถือว่า เป็นการฆ่าตัวตายวิธีหนึ่งครับ (ส่วนมากจะตาย 99%)** ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นที่ไม่หวังดีให้มากนัก ตั้งเป้าหมายให้กับตนเองให้สูงไว้ แล้วลงมือทำ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ - [ 17 ก.ย. 50 15:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าไม่รู้สึกอับอาย ก็สมัครไปสิครับ มันไม่มีอะไรให้เสียปัญหาเดียวคือความอับอายเท่านั้น ถ้าคุณรับมันได้ ทุกอย่างก็จบ จากคุณ : Dearman - [ 17 ก.ย. 50 16:46:51 ]

ความคิดเห็นที่ 36 น่าไปทำบ้างจัง เราเป็นคนชอบเครื่องบินซะด้วยสิ ลองหลังไมค์มานะครับ ไป Search ใน Googleมา ผมว่าคุณ จขกท ลองไปสมัครตำแหน่งนี้ดีกว่านะครับ น่าจะไม่เหนื่อยมากเท่าไร แถมยังเหมาะสมกับวุฒิอีก http://www.thaijobpost.com/jobview.php?jobid=00005744 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 17:34:37 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 17:24:09 จากคุณ : tada_online - [ 17 ก.ย. 50 17:22:41 ]

ความคิดเห็นที่ 37 #26 ลองพิจรณาดูใหม่นะครับ... - ระบบการศึกษาของเมืองไทยยังเป็นเเบบท่องจำเน้นเเต่หลักวิชาการอยู่ใช่หรือไม่? - เมืองไทยมีงานให้ทำตรงสายทุกคณะหรือภาควิชาที่เปิดสอนหรือไม่? - เงินเดือนเริ่มต้นขั้นต่ำของคนจบ ป.ตรี ในเมืองไทยมันเท่าไรกัน?   อย่าไปมองเเต่วิชาชีพ อย่างหมอ หรือวิศวกรครับ - สังคมไทยยึดหลักอุปถัมป์ใช่หรือไม่? ...เเล้วคุณก็ทราบเองว่า - ทำไมเด็กไทยถึงไม่กล้าหรือไม่อยากทำงานในสิ่งที่ตัวเองทำงาน? - ทำไมถึงไม่ค่อยมั่นใจความรู้ที่จบมา? - ทำไมเด็กไทยจบมาทำงานไม่ตรงสาย? - ทำไมความรู้ความสามารถของเด็กไทยจริงๆจึงขาดการสานต่อ? - ทำไมเด็กไทยจึงต้องไปนั่งขายของตามตลาดนัด? - ทำไมเด็กไทยจึง "หาตัวเอง" ไม่เจอ? - ทำไมเด็กไทยที่เรียนจบสูงๆอย่าง ป.โท ถึงได้ยังคิดว่าใบปริญญาเป็นเพียงกระดาษใบหนึ่ง? - ปัญหาของประเทศที่คุณกล่าวถึงมันเกิดจากอะไรกันเเน่? แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 17:33:17 จากคุณ : LR3 - [ 17 ก.ย. 50 17:30:49 ]

ความคิดเห็นที่ 38 สนับสนุนเจ้าของกระทู้ คนมีความรู้ แม้กวาดถนน ก็ทำได้ดีกว่าคนอื่น คนกวาดถนน ถ้ามีความรู้ ก็จะเห็นช่องทางดีกว่าคนอื่น ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของคนอื่น...ถ้าคุณคิดว่าดี..จงทำไปเลย ความเห็นของคนอื่นไม่มีความสำคัญอะไรกับตัวเรา... ..ถ้าสิ่งที่คุณทำ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรม จากคุณ : ชัยบาล - [ 17 ก.ย. 50 18:15:59 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผมไม่เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้... จบ เหตุใด จขกท ไม่ใช้ประโยชน์จากวิชาความรู้ที่เรียน หากตอนเรียนเรียนไม่ดีก็ไม่เป็นไรแต่เราได้สัมผัสมาพอสมควรแล้วไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ เวลามีน้อยว่างๆจะเข้ามาใหม่ครับ จากคุณ : วิญญาณเทวดา - [ 17 ก.ย. 50 18:58:17 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตอบคห.37 ไม่เคยบอกให้เกี่ยงงาน แต่เสียดายเวลา 4 ปีที่ร่ำเรียนมา ประเทศไทย ติดอันดับโลก คนที่ทำงานไม่ตรงสายที่เรียน โดยญี่ปุ่น กลับตรงกันข้ามกับเราชัดเจน ถึงบอกกลับเจ้าของกระทู้ถึงทางแก้ไขก่อน ที่จะเข้าไปทำงานที่เข้ารับคนที่จบมากกว่า ป.4 ไปทำงาน ไม่ได้ดูถูกใคร แต่ปัญหามันก็อยู่ในคห.ที่ 37 ของท่านเอง กว่าคุณจะเรียนจบมา 4 ปี แสดงว่าคุณต้องมีความชอบในจุดหนึ่ง เนื้อหาในกระทู้นี้ เค้าก็บอกชัดเจนว่า อยากหางานทำเพราะอยากขึ้นเครื่องบิน ถ้าเค้าทำงานนี้ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง 1. ประเทศไทยสูญเสียคนที่มีความสามารถระดับ ปริญญาตรี 1 คน 2. งานสำหรับคนที่จบ ป.4 จริงๆ ที่ต้องการงานเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว อีก 1 คน ข้อนี้ คนที่ไม่มีโอกาสเรียนระดับม.ปลายจริงๆ อยากจะทำ จะไปทำงานระดับปริญญาตรีก็ไม่ได้เหมือนเจ้าของกระทู้ เลยลองบอกให้เจ้าของกระทู้ลองก่อนหรือยัง สังเกตุว่า resume ทำสุดความสามารถหรือยัง สมัครไปมากพอหรือยัง มีเพื่อนผมบางคนจบ MBA แต่ สมัครไป3-4ที่ ไม่เรียกมา ไปขายของตามตลาดนัด คุณมีความคิดเห็นอย่างไร จะลองตอบคุณทีละข้อ - ระบบการศึกษาของเมืองไทยยังเป็นเเบบท่องจำเน้นเเต่หลักวิชาการอยู่ใช่หรือไม่? ********ใช่ ฉะนั้นบริษัทจึงต้องการคนที่มีประสบการณ์ ***งั้นแบบนี้คนไทยไม่ต้องหางานกันใช่หรือไม่ เพราะท่องจำมาอย่างเดียว ทำงานไม่ได้? - เมืองไทยมีงานให้ทำตรงสายทุกคณะหรือภาควิชาที่เปิดสอนหรือไม่? ***********มีทุกคณะที่สอน ทุกมหาวิทยาลัยก่อนที่จะเปิดคณะที่จะสอน ต้องศึกษามาเป็นอย่างดีว่า คนจบแล้วต้องมีงานทำ มิฉะนั้นจะผลิตบัณฑิตออกมาเพื่ออะไร  และอีกอย่าง ถ้าไม่มีอาชีพรองรับคณะที่สอน ถามหน่อยใครจะมาเรียน ******คุณช่วยยกตัวอย่างมาสัก 1 คณะที่จบมาแล้ว ไม่มีงานรองรับที่ประเทศไทย - เงินเดือนเริ่มต้นขั้นต่ำของคนจบ ป.ตรี ในเมืองไทยมันเท่าไรกัน?  อย่าไปมองเเต่วิชาชีพ อย่างหมอ หรือวิศวกรครับ *********จะเท่าไหร่ไม่ว่ากัน เงินเดือนขั้นต่ำ มันก็บอกในตัวเองแล้วว่าขั้นต่ำ นั่นหมายถึง คุณต้องสั่งสมประสบการณ์ ความสามารถ ความช่ำชองในอาชีพ เพื่อให้ได้เงินเดือนสูงขึ้นหรือไม่ *********** หรือว่าจะเข้ามารับเงินเดือนขั้นสูงกันไปเลย - สังคมไทยยึดหลักอุปถัมป์ใช่หรือไม่? ********ทั้งใช่แล้วก็ไม่ใช่ บริษัทในประเทศไทยมีกี่บริษัท จะเหมือนกันหมดเลยเหรอ? ******สรุปแล้วต้องไปกวาดถนนที่โซล เพื่อได้เงินเดือน8หมื่นขึ้น ถึงจะดี? ค่าครองชีพเค้าเท่าไหร่ ทำงานที่ต่างประเทศแค่เด็กล้างจานเงินเดือนก็เท่าผู้บริหารระดับสูงในบางองค์กรที่ไทยแล้ว งั้นจะส่งลูกเรียนทำไม เดินได้ก็ส่งล้างจานแล้ว ประเด็น คือ อยากให้ลองแบบสุดความสามารถก่อน ไม่งั้นก็เข้าไปแป๊ปๆ ได้ขึ้นเครื่องสมใจ ก็ลาออก มาหาแบบอื่นทำอีก เสียโอกาสให้กับคนที่อยากทำจริงๆ และไม่มีโอกาสมากนักให้ทำอาชีพอื่น เพราะจบมาแค่ป.4จริงๆ เดี่ยวนี้ บางทีกระเป๋ารถเมล์ยังต้องจบม.3เลย เพราะต้องทอนเงินไม่ได้ผิดได้ สุดท้าย เรียนมาทำไม ถ้าไม่ใช้มัน อย่างที่บอกไป ปริญญาที่ได้มา จะเป็นเพียงแค่กระดาษปิดฝาบ้าน หรือ เป็นเอกสารรองรับความสามารถของคุณที่ใช้ความเพียรพยายามได้มันมาถึง 4 ปี คุณเลือกเอง จากคุณ : BMWTurboman - [ 17 ก.ย. 50 19:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่อยากให้เด็กไทยไม่สู้ มีปัญหานิดหน่อยก็หนีปัญหาไปสิ่งที่รับได้ ต้องรู้จักจะทำตัวให้ยิ่งใหญ่ เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เชื่อมั่นตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถ มหาวิทยาลัยเค้ากลั่นกรองมาก่อนที่จะให้ปริญญาคุณแล้ว ว่าคุณเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถระดับปริญญาตรี มีเกียรติ์สมกับความภาคภูมิใจกับคำว่า"บัณฑิต" โดยเค้าหวังว่าจะใช้ความรู้ความสามารถที่มีทั้งหมด เพื่อพัฒนายิ่งขึ้น ย้ำอีกที ไม่เคยบอกให้เกี่ยงงาน แต่อยากให้ลองเต็มที่ในการหางานก่อน ลองใช้ความรู้ที่เรียนมาให้เต็มที่ก่อน แล้วถ้ายังไม่ชอบค่อยว่ากันอีกที คุณยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเลย แบบนี้อาชีพไหนๆก็ไม่มีเหมาะกับคุณ จากคุณ : BMWTurboman - [ 17 ก.ย. 50 19:14:39 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คนมีความรู้ แม้กวาดถนน ก็ทำได้ดีกว่าคนอื่น คนกวาดถนน ถ้ามีความรู้ ก็จะเห็นช่องทางดีกว่าคนอื่น คุณอาจเป็นเจ้าของบริษัทรับทำความสะอาดบนเครื่องบิน งานทำความสะอาด ไม่ใช่งานต่ำ ๆ นะครับ มันให้อะไรบางอย่างที่คุณไม่เคยรู้ คุณจะรู้ว่าการต้องทำงานเป็นลูกน้องเขาเนี่ย มันลำบากแค่ใหน ถ้าคุณว่างงานคุณลองสมัครดูเลย อย่าไปดูถูกงาน อย่าให้ปริญญามาค้ำคอคุณไว้...ถ้าคุณเคยทำงานหนัก ๆ ถูกมองว่าทำงานต่ำต้อย แล้วรู้สึกถึงการดูถูกเนี่ย วันนึงคุณจะรู้สึกถึงการเอาชนะและจะพยายามมากขึ้น ๆ ๆๆๆๆ เพื่อไม่ต้องการเป็นลูกน้องใครในอนาคต... เด็กล้างจาน ไม่ใช่แค่ล้างจานนะ ทำความสะอาดครัว เก็บขยะ...  me too ....but in sweden #13  excellent #40-41  check this http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K5785829/K5785829.html จริงๆ ผมคิดเรื่องนี้มาได้นานเป็นปีๆ แล้ว พูดคุยแลกเปลี่ยนทรรศนะกับคนใกล้ตัวมาเป็นระยะ ๆ ไม่คิดจะโพสต์ในเว็บไหน อย่างเป็นเรื่องเป็นราว แต่สุดท้ายก็มาระเบิด ( แรงไปหรือเปล่า ) เอาวันนี้เอง เรื่องก็เกี่ยวกับว่า ผมก็ทำงานเป็นวิศวกรในบริษัทเอกชน ( ของต่างชาติ ) เกี่ยวกับงานด้านออกแบบผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม  เปลี่ยนบริษัทไปมา จนถึงปีนี้ก็ 15 ปีแล้ว ในแต่ละปีที่ผ่านๆไป ก็ต้องมีการอบรมเด็กที่จบใหม่ๆ เพื่อให้ทำงานได้ในแผนกอยู่เสมอๆ ทำให้ผมมองเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรๆ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา กว่า 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังๆ นี้ ผมรู้สึกว่า คุณภาพของเด็กจบใหม่นี่ค่อยๆ แย่ลง ๆ ผมไม่ได้หมายถึง ความสามารถในการเรียนรู้ ( Ability to Study ) แต่ผมกำลังหมายถึง ความสามารถ หรือทักษะในการนำความรู้ไปใช้งาน ( Ability to Apply )   ล่าสุดผมต้องขลุกกับเด็กใหม่ ( ทั้งแกะกล่อง และมีประสบการณ์ ) อยู่เกือบสามเดือน ในการทำโปรเจกท์งานเรื่องหนึ่ง ผมไม่ได้คาดหวังอะไรที่เป็นเรื่องน่าทึ่งในการทำงานจากเด็กเหล่านี้ ( ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ) แต่ในฐานะวิศวกรร่นพี่ ผมเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้ขบคิดปัญหา หาสมมุติฐาน ออกแบบการทดลอง สรุปผล และวิธีแก้ไข รวมทั้งแนวทางในการปรับปรุง ได้อย่างค่อนข้างเสรี เพราะงานที่ทำในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก ตลอดเวลาเกือนสามเดือน ผมต้องพบกับสภาพที่เหมือนลูกนก คอยอ้าปาก รอรับอาหารจากผม ค่อยๆ สั่งงานทีละคำสั่ง เพื่อนำไปปฏิบัติ แล้วก็กลับมารอรับคำสั่งต่อไปอีก ทั้งๆ ที่ผมก็เคยอธิบาย และแนะให้รู้ถึงแหล่งข้อมูลที่สามารถค้นคว้าได้ไปแล้วหลายรอบ แนะให้เห็นถึงวิธีคิด หลักการแก้ปัญหาในทางตรรกะ ในหลายๆรูปแบบ ( ไม่ใช่อธิบายแค่เฉพาะเนื้อหาเปลือกนอกอย่างเดียว ) แต่มันกลับไม่ได้ผลเอาเสียเลย ไม่มีไอเดียอะไร ออกมาจากเด็กๆ เหล่านี้ แต่เมื่อผมแนะให้ทำอะไรในขั้นตอนต่อไป พร้อมกับอธิบายถึงหลักแนวคิดในทางวิศวกรรม น้องๆ เหล่านั้น ก็สามารถเข้าใจได้ทันที ( หัวดี จบ ม. ดังๆ กันมาทั้งนั้น )  แต่ไม่มีเลยที่น้องๆ จะสามารถจับสังเกตุ ตั้งข้อสงสัย พิจารณาทฤษฎี ตั้งสมมุติฐาน ออกแบบการทดลอง ดำเนินการทดลอง สรุปผลยืนยันกับสมมุติฐาน แล้วเดินหน้าไปสู่ การทดลองลำดับต่อไป ผมไม่เห็นเรื่องต่างๆ เหล่านี้เลย  ย้ำนะครับ  ว่าผมไม่ได้สนใจความเลิศหรู อลังการในเนื้อหา ผมเพียงอยากเห็นกระบวนการทางความคิดของเด็ก อยากให้เขาได้ใช้เรื่องนี้ เป็นแบบฝึกหัดการทำงานจริงของเขา ผมไม่ใช่นักการศึกษา แต่ผมคิดว่า น้องๆ ทุกคนหัวดี จบกันมาเกรดเยี่ยม แสดงว่าทุกคนมีความสามารถในการเรียนรู้กันอย่างดี เพราะเมื่อผมชี้แนะอะไรไป และเพียงแค่โยงเรื่องที่ผมพูด เข้ากับทฤษฎีทางวิศวกรรมต่างๆ ที่น้องๆ เรียนกันมา น้องๆ ก็จะเข้าใจได้เกือบจะทันที  แต่ปัญหาคือ คิดกันเองไม่เป็น   บางครั้งในการสรุปงานบางอย่าง ผมให้เวลาถึงครึ่งค่อนวัน ความคืบหน้าในการสรุปงาน ก็ไปไม่ถึงไหน ทั้งๆ ที่มันแสนจะง่าย (ในความคิดผม เพราะผมคงไม่ปล่อยงานยากให้เด็กใหม่ทำอยู่แล้ว ) แต่หลังจากผมไปตรวจความคืบหน้า และพบว่ามันไม่ได้ไปไหนเท่าไหร่เลย ผมแนะนำไปสองสามวิธี พร้อมอธิบาย ทุกคนก็เข้าใจกันเลย  แปลกนะครับ ผมเคยเปิดอก พูดกับเด็กๆ พวกนี้แล้ว พวกเขาก็ยอมรับว่า พวกเขานึกไม่ออก คิดไม่ออกจริงๆ แต่เมื่อได้ฟังผมแนะนำ เขาก็เข้าใจได้ในทันที และยังเจ็บใจว่า ทำไมคิดตั้งนานคิดไม่ออก  พวกเรา ( ทั้งผม และน้องๆ ) สรุปกันว่า เรามีปัญหาเรื่อง ความสามารถในการนำไปใช้ วันนี้ ( จุดที่ทำให้ผมระเบิด ) มีน้องในกลุ่มเดียวกันอีกคน เดินเข้ามาปรึกษา กับผมอยากไปเข้าคอร์สอบรมเรื่อง การวิเคระห์ไฟไนต์อิลิเมนต์  ผมอึ้งไปพักใหญ่ๆ  เพราะไม่รู้จะตอบอย่างไรดี  ผมไม่มีอคติกับการอบรม หรือเพิ่มพูนความรู้ ( เพราะผมก็ผ่านเรื่องแบบนี้มา ) แต่ขณะนี้ เรา ผมว่า หลายๆ องค์กร คงจะคล้ายๆ กัน คือ เรามีปัญหาเรื่องความสามารถในการนำไปใช้   ถ้าเรามีความรู้อยู่ 100 ผมไม่ปฏิเสธว่าการไปอบรม เพื่อเติมให้เป็น 130 นั้นเป็นเรื่องผิด ( ทั้งๆที่ อีก 30 ที่เพิ่มมา ก็ใช่ว่าจะจำเป็นในทันที ) แต่ในเมื่อ เรายังดึง 100 ที่เรามี และสามารถนำมาใช้กับงานในขณะนี้ของเราได้ในทันที เรายังดึงออกมาไม่ได้ ไม่เป็นกันเลย  แล้วเราจะเติมมันเข้าไปอีก ( ตอนนี้ ) กันทำไม ( วะ ) ทำให้ผมมองไปไกล ถึงสังคมไทยภาพกว้างว่า เราส่งเสริมให้คนของเรา มีแต่ ความสามารถ ( ทักษะ ) ในการเรียนรู้ กันแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้สนใจ ความสามารถ ( ทักษะ ) ในการนำมาใช้กันเลยหรืออย่างไร ผมเฝ้าสังเกตุเด็กไทย  นิยมชมชอบกับการเรียน เรียนกันแล้ว ก็เรียนกันอีก เรียนกันมา 4 ปี แล้ว ก็อยากจะขอไปเรียนกันอีก เข้าใจกันว่าเรียนแล้ว รู้แล้ว จะทำงานกันได้ดี ได้เป็น อย่างนั้นหรือไง ทั้งๆ ที่ สภาพปัจจุบัน อย่างน้อยในองค์กรผมเอง ก็เห็นกันอยู่แล้ว ว่า ความรู้ 100 ที่มี มันก็เพียงพอต่อการการใช้งานอยู่แล้ว  ยังดึงกันออกมาไม่เป็น แล้วยังจะไปเรียนกันอีก   ( ไม่ได้แอนตี้ )  ผมอยากถามสังคมว่า ที่เรียนกันไปมากๆ นี่ จริงๆ เพราะอยากแตกฉานในเรื่องนั้นๆ หรือ กำลังหนี อะไรอยู่หรือเปล่า ( เช่น หนีสังคม หนีความรับผิดชอบ หนีความเป็นผู้ใหญ่  หนีชีวิตการทำงาน ) หรือว่า การเล่าเรียนเป็นชีวิตที่มีความสุข ไม่อยากจากมันไป โท แล้ว ก็ต้องไป เอก  ถ้ามีจัตวา ก็คงเรียน อย่างนั้นหรือเปล่า  ( ผมไม่หมายรวมถึงคนที่อยากรู้ในศาสตร์แขนงนั้น จริงๆ พวกนี้ผมยกย่องครับ )   ผมคิดไปเองหรือเปล่าไม่ทราบ  ในช่วงหนึ่งของชีวิตผมได้มีโอกาสไปเรียนที่ต่างประเทศ พบกับเด็กเจ้าของประเทศ ไม่ค่อยได้เห็นเขาตั้งอกตั้งใจกันอย่างเราเลย เขาทำงานพิเศษ หารายได้กันตั้งแต่มัธยม เพราะอะไรที่นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว พ่อแม่ ไม่ให้ ถ้าอยากได้ ก็ต้องไปทำงานกันเอาเอง จะเห็นเด็กมัธยม มหาวิทยาลัย ทำงานพิเศษกันเป็นเรื่องปรกติ  เพื่อนๆ ผมมันก็เอาเงินไปเที่ยวฮาวาย เที่ยวยุโรปกัน เป็นเรื่องปรกติ  เที่ยวเอเชียเนี่ยะ มันมาตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว  มันบอกว่า เรื่องเรียนเป็นเรื่องทรมานที่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากทำ เพราะไม่เป็นอิสระ (ไม่ได้ตังค์ ) สู้รีบเรียนให้จบ แล้วเข้าทำงานไปเลยดีกว่า ( ได้ตังค์ด้วย )  หันกลับมามองเด็กไทย  ก็เรียนกันเข้าไป ไม่เห็นลำบากตรงไหน เงินก็มีให้ใช้ งานก็ไม่ต้องทำ สบายจริงๆ   ในชีวิตนี้ผมเคยสัมภาษณ์เด็กเก่า เด็กใหม่หลายคน ในจำนวนหลายร้อยคนนี่ โท ก็มีนับไม่ถ้วน ทั้งโทนอก ( ไปเรียน บวกกับไปเที่ยว ได้ประสบการณ์กันมา ไม่ว่ากัน แต่สตาร์ทเท่า ป ตรี นะ )  และโทใน ( แต่ความคิดไม่ต่างกับเด็ก ป ตรี เลย ให้ตายเถอะ )  ถามไปว่า ชอบเรียนต่อกันหรือ คำตอบส่วนใหญ่เลยคือ เพราะไม่รู้ว่าจะไปทำอะไร ก็เลยเรียนต่อไปก่อน  .... เฮ้อ คนฟ้งกลุ้มเลย  ที่เด็ดที่สุดคือมี เอก  มาให้ผมได้พิสูจน์ สอง สามคน  คนแรกไม่ได้สนใจงานของผมมากมายอะไร ทั้งๆ ที่หน่วยงานของเธอก็มีงานลักษณะคล้ายๆ กับของผม ถามว่าทำไมไม่ขอ แอพพลายไปที่หน่วยงานนั้นล่ะ  ตรงสายด้วย  เธอตอบว่า ไม่อยากไป เพราะมันไกล  .... โอ้ เหตุผล ปริญญาเอก มากเลยหล่อน  ที่ของผมมันก็ไกลพอๆ กับที่ของยูแหละครับ  คนที่สองนี่ยิ่งเศร้าใจ   มีงานทำอยู่แล้วด้วย เป็นอาจารย์สอนที่ ม. ที่คะแนนเอนทรานซ์สูงสุด  ถามว่าทำไมอยากมาทำงานที่บริษัทผม เขาตอบว่า ไม่อยากเป็นอาจารย์ แต่จบเอกมา ไม่รู้จะไปทำอะไร ก็ต้องเป็นอาจารย์ไปก่อน ถามว่าแล้วเรียนเอกไปทำไม  ก็ตอบว่า ไม่รู้ มันหัวดี สอบทุนแล้วมันก็ได้ทุน ก็เลยเรียนไปเรื่อยๆ สะดุ้งตื่นก็ จบเอกแล้ว  เนี่ยะกะว่าจะไปเรียนโท ตัวนั้น ตัวนี้เพิ่มอีก  .... โอพระเจ้าช่วย ถามต่ออีกว่า แล้วเป้าหมายชีวิต วางไว้อย่างไร  คำตอบพิชิตใจคนสัมภาษณ์คือ  ไม่รู้  ยังไม่ได้คิด  ( ขอโทษ จบ ป เอก  วันนี้ มาสัมภาษณ์งานไม่ใช่หรือ พ่อคุณ ) วินาทีนั้น ผมบอกกับชาวต่างชาติที่มาสัมภาษณ์ด้วยกันว่า ให้รับเขาคนนี้เถอะ  ไม่ใช่เขาเก่ง  แต่ผมสงสารเด็กๆ ที่กำลังเรียนโท กับ อาจารย์คนนี้ แถวๆ สามย่านอยู่  กลัวว่าจะซึมซับทรรศนะแบบนี้ไป  ยุ่งตาย  ครับ สงสารประเทศไทยจับใจ ผมอยากถามสังคมไทยดังๆ ว่า 1)  ถ้าสังคมไทย มีแต่คนที่มี ความสามารถในการเรียนรู้ กันค่อนประเทศ  แต่มีคนที่มี ความสามารถในการนำมาใช้เพียงเล็กน้อย  ถามว่าอนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร 2)  สังคมไทย เชิดชู คนเรียนเก่ง  ผมก็นับถือคนเรียนเก่ง เรารู้จักว่าใครสอบเอนท์ ได้คะแนนเป็นที่หนึ่ง  เรารู้ว่าใครได้เหรียญทองโอลิมปิค ฟิสิกส์ เคมี คณิตศาสตร์  แต่ผมไม่เห็น เราเคยสนใจ หรือติดตามต่อไปเลยว่า แล้วเขาเหล่านั้น ปัจจุบันไปอยู่ไหนกันหมด  ประสบความสำเร็จในชีวิตกันบ้างไหม  ( วันนี้ผมพยายามค้น Google หาว่าใครได้คะแนน วิศวะ จุฬา อันดับหนึ่ง ปี 28  ซึ่งเป็นปีเดียวกับผม  ผมหาไม่เจอครับ  ผมพบแค่ข้อมูลปี 49 เท่านั้น แปลว่าอะไรครับ  วีรบุรุษของเรา Expired กันไปเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นหรือ  แล้วก็ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว คนที่ได้ เหรียญโอลิมปิค สาขาอะไรก็ได้  ตอนนี้ ทำอะไรกันอยู่ครับ ไม่เห็นมีใครตามกันเลย ) 3) ทุกคนเรียนหนังสือกันมา ในวัยเด็ก พ่อแม่สอนให้ทำการบ้าน แน่นอนว่า ต้องตรวจทานแล้วว่าถูกต้องแน่ๆ ทุกข้อ ( ผมก็ด้วย ไอ้ตัวเล็กผมก็ด้วย )  แล้วเด็กๆ เรียนรู้ความผิดพลาดกันตอนไหนครับ  เทอมหนึ่งมี 200 กว่าวัน การบ้านทุกข้อ ถูกหมดทุกวัน  มีวันสอบเพียง วันสองวันเท่านั้น ที่เรา หรือพ่อแม่ ไม่ได้เข้าไปด้วย อาจมีทำผิดบ้าง แต่ภาพรวมแล้ว ภูมิคุ้มกันต่อความผิดพลาดของเด็กไทยเรา น่าจะอ่อนมากนะครับ  การให้เขาได้ผิดบ้าง อย่างจงใจเนี่ยะ มันน่าจะเป็นการเรียนรู้ได้อย่างหนึ่งนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณครู ไอ้ตัวเล็กผมจะว่าอะไรหรือไม่ ถ้าไม่ได้ตรวจการบ้านแล้ว ถูกทุกข้อ แล้วปั้มดาว ให้สามดวง ในสมุดของลูกผม  ผมไม่ใช่นักการศึกษา รบกวนผู้รู้ด้วยแล้วกันนะครับ ท้ายสุดนี้ ขอให้สังคมไทย จงเจริญ  ขอให้มี น้อง ๆ ป ตรี มาทำงานกับพี่วิดวะ คนนี้อีกในปีต่อๆไป ขอให้มี น้อง ป โท มาแย่งงานน้อง ป ตรี ไปเรีอยๆ  ขอให้ไม่ต้องมี ป เอก มาสัมภาษณ์อีก  ( เพราะ เซง )  ท้ายสุด ขออวยพรให้ มหาวิทยาลัยที่สังคมยกให้เป็นอันดับหนึ่งนั้น จงควานหาตัว อาจารย์คนนั้นให้เจอ  แล้วจัดการอะไรบางอย่างเสีย   เพราะผมสงสารประเทศไทยครับ   กลัวนิสิตที่จบออกมาแล้วจะมีความคิดเหมือนอาจารย์ท่านนั้นน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 20:12:10 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 20:09:00 จากคุณ : this is jenni - [ 17 ก.ย. 50 19:36:02 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าว่างๆ แล้วอยากได้เงินใช้ก็ทำไปเหอะค่า มาช่วยกันเช็ดกันถูมันจะได้สะอาดๆนะ แล้วไอ้ที่ว่าจบป.ตรีมาแล้วมาทำอาชีพทำค.สะอาดไม่ได้นี่เลิกคิดเหอะค่ะ ถ้าเงินมันดีกว่างานประจำน่ะนะ เพราะเรา กะเพื่อนๆที่ทำงานก็มีทั้ง สัตว์แพทย์ วิดวะ เภสัช จบมาเกรดสวยๆ เกียรตินิยม ม.รัฐบาล เอกชน และอีกมากมายจบโทก็มี ก็ยังมาขัดมาถูส้วม กะเสิร์ฟข้าวกันเยอะแยะ เพราะฉะนั้นถ้าเงินดีดูมีอนาคตก็ทำไปค่ะ แต่ทำค.สะอาดนี่ทำข้างนอก หรือทำข้างในอ่ะคะ ถ้าทำข้างในนี่ก็น่าคิดอยู่นะ ว่ามันจะได้เยอะจิงๆเหรอ หรือว่ามันเสี่ยงกะการติดโรคต่างๆเลยได้เงินดีอ่ะคะ อันนี้ไม่รู้นะเดาเอาค่ะ จากคุณ : แจ่มใสน่ะเอง - [ 17 ก.ย. 50 20:02:25 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เรียนคห.42 และคห.ที่เกียวข้อง เหตุใดจึงแปลว่าผมดูถูกงาน ไม่ให้ไปทำงานทำความสะอาดเครื่องบิน ท่านสามารถวิเคราะห์บทความของเจ้าของกระทู้อย่างไร คงตรงข้ามกับผม ตามความเข้าใจของผม คือ เจ้าของกระทู้หางานไม่ได้ ตอนนี้ว่างเห็นว่ามีงานทำความสะอาดเครื่องบิน และเจ้าของกระทู้ ก็อยากนั่งเครื่องบิน มิใช่อยากทำงานความสะอาดเครื่องบิน เจ้าของกระทู้หวังว่าเงินจะมากกว่าทำงาน Office ในงานนี้ ดูคห.36ครับ เงินเดือนเท่าไหร่ พวกท่านอยู่เมืองนอก ทำงานระหว่างเรียน ผมเห็นด้วย ถือว่าฝึกตัวเองไปในตัว แต่เจ้าของกระทู้หางานเพื่อเลี้ยงชีพหลังเรียนจบ ต่างกันนะ หลายคห.ในนี้ก็บอกมาแล้วว่า เด็กจบใหม่ขาดอะไร คห.42ก็มีบอก แต่จริงๆแล้ว ผมว่านะ อ้างอิงจาก ทฤษฎี X Y ได้เลย ว่าส่วนใหญ่พนักงานเป็นแบบไหน แล้วถามจริงๆ ประสบการณ์การที่ทำงานในสิ่งที่ไม่ได้คิดจะทำไปตลอดชีวิตมันมีค่าอะไร ถามหน่อยสิ สมมุติผมมีประสบการณ์ในการทำงานด้านพีธีกรรายการทีวีมา 3ปี แต่ผมจะไปทำเป็นวิศวกรตามที่ผมจบมา ประสบการณ์ด้านพิธีกร สามารถเพิ่มเงินให้ผมได้ไหม  แต่ตอนนั้นนึกอยากทำเล่นๆ พองานด้านนั้นตัน ก็จะกลับมาทำงานในสิ่งที่ตัวเองจบมา ไม่อยากพิมพ์ซ้ำนะ ใจความสำคัญจริงๆที่ผมต้องการสื่อคือ คห.41 รบกวนลองอ่านแล้วทำความเข้าใจกับสิ่งที่พยายามสื่อหน่อยเถอะ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 20:33:18 จากคุณ : BMWTurboman - [ 17 ก.ย. 50 20:26:31 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมอ่าน คห.42 หลังแก้มารอบที่2 แล้วมันก็คือสิ่งที่ผมพยายามบอกเลยนะเนี่ย แต่ว่าเราคงสื่อสารอะไรกันผิดพลาด ถึงได้เข้าใจอะไรผิด หรือว่า คห.42 ต้องการบอกว่า อย่าไปทำงานที่ต้องใช้ความสามารถ? push the right in the right job ************คนฉลาด ย่อมจ้างคนเก่งมาทำงาน******* คนเก่ง ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย คนเก่งทุกคนย่อมฝึกฝน เรียนรู้ความผิดพลาด และประเมินตนเอง แก้ไขในสิ่งที่ผิด ไม่อย่างนั้นจะมีคนบอกเหรอว่า******คนที่ไม่ผิด คือคนที่ไม่เคยทำอะไร***** คุณจะเริ่มวันนี้ หรือว่าจะไปเริ่มแก่ๆ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 20:40:33 จากคุณ : BMWTurboman - [ 17 ก.ย. 50 20:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ผมเคยแสดงความคิดเห็นเรื่องแบบนี้ใน เอ็มไทย ดอท คอม เรื่อง แบบนี้เลย เด็กไทยท่องแต่ตำรา จำชื่อคณะไม่ได้หมด เรียนตามเพื่อน อยากเกาะกลุ่มกัน ตอนเข้ามหาวิทยาลัยในคณะที่เลือก บางคนยังไม่รู้เลยจบมาจะสามารถทำอาชีพอะไรได้ ประเทศไทยมีกี่คณะกัน จำได้แต่ นิเทศ บริหาร วิศวะ สถาปัตย์ แพทย ฯ เด็กไทยทราบกันมั่งหรือไม่ว่า คณะไหน ตกงานเยอะสุด แห่ไปเรียนตามกัน ทำให้เวลาจบ เตะฝุ่นเป็นแถว ความต้องการของคนจบคณะเพิ่มไม่มาก แต่คนเรียนมากเหลือเกิน มหาวิทยาลัยก็กลัวขาดรายได้ ขยายให้คนเข้ามาเรียนได้เพิ่ม โรงเรียนขาดการแนะแนวที่ถูกต้อง ถึงอาชีพหลังจบ อาจจะไม่สวยเท่เหมือนเรียน หลายคณะน่าสนใจมาก แต่เด็กๆก็ยังเมิน Logistic-----Animation----- ความต้องการของตลาด สำหรับไทยในอนาคต เรียกได้ว่า พึ่งเริ่ม เอ ผมพิมพ์ไปไกลเลย  ชักเลยประเด็น อ่านมาหลายคห. คงไม่อยากเถียงแล้วล่ะ เพราะว่า อ่านไปอ่านมา ก็อาจจะสื่อคล้ายๆกัน แต่อาจจะเข้าใจผิด แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 20:50:46 จากคุณ : BMWTurboman - [ 17 ก.ย. 50 20:48:14 ]

ความคิดเห็นที่ 47 update ให้ #14 สุดท้าย เฮียบิลฯ ก็จบแล้วนะครับ http://hubpages.com/hub/billgatesgraduates ส่วนประเด็น จขกท. ถ้าใช้เวลาไปหลายที่แล้ว จนเรื่องเงินทองมีปัญหา ก็ลองดูก็ได้ครับ แต่ถ้าจะขอคำแนะนำที่ดีกว่า ก็อดทนหางานที่อาจไม่ต้องเงินดีมาก แต่ตรงสาย ได้ประสบการณ์ที่จบมา ไว้เป็น profile เอาจะดีกว่าครับ จากคุณ : นัยตาสองชั้น - [ 17 ก.ย. 50 20:51:03 ]

ความคิดเห็นที่ 48 no .... I mean ......that is the problem in Thai education .. he understand himself ... can not expect better job, and maybe he have not so much experience... so .. จะไปสมัครเป็นคนทำความสะอาดเครื่องบิน เพราะตกงาน จากคุณ : this is jenni - [ 17 ก.ย. 50 20:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ผมถึงได้บอกไง คห.48 ว่าเค้าได้ลองเต็มที่หรือยัง บอกว่า resume เป็นอย่างไร  ลองสมัครเยอะพอหรือยัง ตั้งเงินเดือนไว้สูงไปไหม แล้วทำความสะอาดเครื่องบินประสบการณ์ตรงนั้น ทำให้หางานตามที่เค้าจบมาง่ายขึ้นหรือไม่? ผมเข้าใจคุณมาตลอด จนคห.ที่48 นี่ล่ะ ที่เริ่มไม่เข้าใจ จากคุณ : BMWTurboman - [ 17 ก.ย. 50 21:03:49 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เปรียบเป็นนักมวย  คุณกำลังเลือกคู่ชก ที่เสียเปรียบคุณทุกๆด้าน ต่อยไปก็ชนะแน่นอน แต่ไม่ได้เหรียญ ไม่ได้ความภูมิใจ ไม่ได้พัฒนาฝีมือชก เอาไว้ซ้อมๆ ได้ครับ  พอซ้อมพอแล้ว หาคู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อ  อัดกับมันซักตั้ง จากคุณ : drof - [ 17 ก.ย. 50 21:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเราตอนนี้ คืออะไร ก็เลือกอย่างนั้นแหละครับ สายตาคนอื่น ช่างหัวมันเถอะ จากคุณ : ชนะมาร - [ 17 ก.ย. 50 21:24:58 ]

ความคิดเห็นที่ 52 #40 ,#41 "คณะวิทยาศาสตร์-เเมทช์" เท่าที่ทราบนั้น "ไม่มีงานที่ตรงสายจริงๆ" ให้ทำครับ คยจบมาสายนี้มักต้องเบี่ยงไปทำ งานด้านสถิติ แแทน ซึ่งงานด้านสถิตินี้ก็จะมี คณะวิทยาศาสตร์-สเเตท จ่อรอเเบบตรงสายอยู่เเล้ว (ถ้ามีเเต่เป็นชนกลุ่มน้อยอบซุ่มทำกันเป็นความลับผมก็ขออภัยครับ) การกล่าวว่า "เด็กไทยมักทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมา" บางกรณีขอให้ย้อนกลับไปดูที่ตัวบริษัทที่จ้างงานด้วยนะครับ ว่าเค้าให้ทำงานเเบบ "จับฉ่าย" หรือ "ไม่ตรงสายที่จบ" มาไหม... ตัวอย่างบางคนจบวิศวะมาก็สมัครงานตำเเหน่ง "วิศวกร" เเต่ทำไปทำมาไหงกลับได้ไปทำตำเเหน่งเซลล์ก็ไม่ทราบ... (บางคนยังได้ใช้วิชาที่ร่ำเรียมาบ้างเเต่บางคนก็ไม่ได้ใช้เลย) เรื่องค่าตอบเเทนเนี่ยมันสำคัญครับเงินเดือนเริ่มต้นของประเทศเรา "น้อยเกินไป" ใครจะบอกว่าประเทศเพื่อนบ้านเราบางประเทศได้น้อยกว่าก็ไม่เถียงครับ เเต่ น้อยในที่นี้ก็คือมันไม่ได้สัมพันธ์กับค้าครองชีพที่เเท้จริงเท่าไรโดยเฉพาะกับเมืองหลวง ลองคิดดูนะครับ จบ ป.ตรี มา เงินเดือนเริ่มที่ 8,500บ. หรือไม่ก็ 12,000บ. ถ้าคนๆนั้นต้องมาเช่าห้องพักอยู่ในเมืองหลวงเนี่ย เงินเดือนจำนวนดังกล่าวจะต้อง ถูกหักไปราว 2,500 - 5,000 บาท/เดือนเป็นค่าห้อง แล้วเเต่ทำเลลักษณะห้อง ซึ่งถ้าเช่าห้องราคาถูกก็จะได้ห้องที่คุณภาพไม่ดีนัก ที่เหลือก็หักไปครับเป็นค่ากินค่าเดือนทาง เเละอีกจิปาถะ เช่น ค่ามือถือ ค่าเน็ท ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเอนเตอร์เทนตัวเองตามโอกาสเเละตามอัตภาพ ฯลฯ จะเห็นได้ว่าไอ้เงินเดือนที่ได้มานั้นเป็นเเบบ "เดือนชนเดือน" ครับ เงินเก็บอาจเหลือบ้างนิดๆหน่อยๆเเล้วเเต่คน ย้ำครับว่า "นิดๆหน่อยจริงๆ" ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นหลายคนทำงานไม่ตรงสายกันมากขึ้นจุดประสงค์หลักก็เพื่อ รายได้ที่ดีกว่าเพื่อจะได้ไม่ต้องกระเบียดกระเสียรใช้เงิน เเละก็เพื่อเงินเก็บ ที่มีโอกาสเหลือเก็บได้มากกว่าเดิม ...เพื่ออนาคต โดยอาชีพที่เดี๋ยวนี้คนเลือกมาทำกันก็คือ " เซลล์" ครับ เพราะสามารถมีรายได้ เพิ่มจากค่าคอมมิชชั่นนั่นเอง "คนเราเกิดมาไม่ได้มีเท่าเทียมกันทุกคน" ครับ บางคนทำงานออฟฟิศเเต่กลับรุ่งมาภายในเวลาไม่กี่ปี เเต่บางคนทั้งที่ทำงานมาก่อนเเต่สุดท้ายก็ยังต๊อกต๋อยเท่าเดิม ใครมีโอกาสหรือลู่ทางไหนที่ดีกว่าเดิมเเละสามารถที่ไปได้ก็ต้องทำครับ ที่เหลือก็ไปคิดต่อเอาเองล่ะกันครับ... แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 21:53:55 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 21:52:01 จากคุณ : LR3 - [ 17 ก.ย. 50 21:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 53 #40 ,#41 ที่เหลือก็จัดให้ครับ... มีเพื่อนผมบางคนจบ MBA แต่ สมัครไป3-4ที่ ไม่เรียกมา ไปขายของตามตลาดนัด คุณมีความคิดเห็นอย่างไร? ===> สิทธิส่วนตัวของเค้าครับ เราควรเคารพการตัดสินใจของเค้า เเละเเน่นอนมันไม่ใช่การตัดสินใจที่โง่เข่าเเน่นอน           ส่วนเหตุผลอื่นๆผมเเละหลายคนตอบไปหมดเปลือกเเล้วครับ จะลองตอบคุณทีละข้อ - ระบบการศึกษาของเมืองไทยยังเป็นเเบบท่องจำเน้นเเต่หลักวิชาการอยู่ใช่หรือไม่? ********ใช่ ฉะนั้นบริษัทจึงต้องการคนที่มีประสบการณ์ ***งั้นแบบนี้คนไทยไม่ต้องหางานกันใช่หรือไม่ เพราะท่องจำมาอย่างเดียว ทำงานไม่ได้? ===> ก็ถ้าระบบการศึกษามันยังเป็นเเบบนั้นเเละคุณยังคง "ยึดติด" อยู่กับเเบบนั้น สังคมไทยมันก็จะยังเป็นเเบบเราเถียงกัน           อยู่เเบบนี้เรื่อยๆนั่นเเหละ - เมืองไทยมีงานให้ทำตรงสายทุกคณะหรือภาควิชาที่เปิดสอนหรือไม่? ***********มีทุกคณะที่สอน ทุกมหาวิทยาลัยก่อนที่จะเปิดคณะที่จะสอน ต้องศึกษามาเป็นอย่างดีว่า คนจบแล้วต้องมีงานทำ                   มิฉะนั้นจะผลิตบัณฑิตออกมาเพื่ออะไร  และอีกอย่าง ถ้าไม่มีอาชีพรองรับคณะที่สอน ถามหน่อยใครจะมาเรียน ******คุณช่วยยกตัวอย่างมาสัก 1 คณะที่จบมาแล้ว ไม่มีงานรองรับที่ประเทศไทย ===> ตอบไปแล้วครับว่าใน คห.บนครับว่า  "คณะวิทยาศาสตร์-เเมทช์" - เงินเดือนเริ่มต้นขั้นต่ำของคนจบ ป.ตรี ในเมืองไทยมันเท่าไรกัน? อย่าไปมองเเต่วิชาชีพ อย่างหมอ หรือวิศวกรครับ *********จะเท่าไหร่ไม่ว่ากัน เงินเดือนขั้นต่ำ มันก็บอกในตัวเองแล้วว่าขั้นต่ำ นั่นหมายถึง คุณต้องสั่งสมประสบการณ์ ความสามารถ ความช่ำชองในอาชีพ เพื่อให้ได้เงินเดือนสูงขึ้นหรือไม่ *********** หรือว่าจะเข้ามารับเงินเดือนขั้นสูงกันไปเลย ===> ตอบไปแล้วครับว่าใน คห.บนครับ เชิญกลับไปอ่านได้เลย - สังคมไทยยึดหลักอุปถัมป์ใช่หรือไม่? ********ทั้งใช่แล้วก็ไม่ใช่ บริษัทในประเทศไทยมีกี่บริษัท จะเหมือนกันหมดเลยเหรอ? ===> เเล้วมันมีกี่บริษัทในไทยครับที่ปราศจากระบบอุปถัมป์มากถึง 70% ? บริษัทต่างชาติเข้ามาตั้งในไทยพวกลูกจ้างระดับปฏิบัติการส่วนใหญ่มันก็คนไทยนั่นเเหละ ซึ่งก็หนีไม่พ้นคำว่า            "ระบบอุปถัมป์" อยู่ดีนั่นเเหละ ******สรุปแล้วต้องไปกวาดถนนที่โซล เพื่อได้เงินเดือน8หมื่นขึ้น ถึงจะดี? ===> ผมไม่ได้สนับสนุนการไปทำงานต่างเเดนเเค่ชี้ให้เห็นว่างานที่"คนบาง"ในไทยมองว่า "ต่ำต้อย" นั้นในต่างประเทศมันไม่ใช่เเบบนั้นเสมอไป กรุณาอ่านอย่างถี่ถ้วนนิดนึงครับ               งานกวาดถนนที่โซล... ผมกลัวเค้าไม่ยอมจ้างผมมากกว่าครับ เพราะไม่ใช่พลเมืองในประเทศเค้า แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 50 21:54:12 จากคุณ : LR3 - [ 17 ก.ย. 50 21:53:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ประเด็นเริ่มเปลี่ยนแหะ สงสัยจะยาว ว่าแต่คุณ this is jenni ทำบริษัท ไรคะ จะได้ไปสมัครงาน คุณอาจจะได้เห็นวิศวะ สามย่าน ป โท ที่ความคิดไม่ต่างกับ ป ตรี อีกคน 555 จากคุณ : แอน (romanov) - [ 17 ก.ย. 50 22:12:58 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ผมว่าหลายๆคนหลงประเด็นครับ บางคนก็แหม๋ ปรัชญาจ๋ามาเลย ทุกอาชีพมีเกียรติ มันก็จริงครับ แต่ผมว่าเราควรเอาทรัพยากรที่เรามี มาใช้ประโยชน์ให้สูงสุดดีก่าน่ะ ประเภทบอกว่า จบมาโคตรหลายปริญญา แต่ต้องไปล้างจานเมืองนอกแล้วยังมีหน้ามาบอกว่าเงินดี ถ้ามาอยู่เมืองไทยรวยแน่ มันก็จริงน่ะ แต่คุณอยู่นู้นคุณไม่ต้องใช้เลยหรือไง ถ้าเป็นผมน่ะ ไปหางานที่require bachelor รวยว่าแน่ๆ จากคุณ : Roninkung - [ 17 ก.ย. 50 22:25:11 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้าคุณ BMWTurboman เข้าใจหรือตอบเเบบใน #46 ตั้งเเต่เเรก เราคงไม่ต้องมานั่นงพิมพ์เยอะๆให้เหนื่อยเเล้วครับ เพราะข้อความของคุณ BMWTurboman ใน #46 นั้น ก็เเสดงว่าเข้าใจสิ่งที่ผมเเละใครหลายคนต้องการที่จะสื่อเเล้ว.... จากคุณ : LR3 - [ 17 ก.ย. 50 22:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ตอบ คห.55 หน่อยก็แล้วกัน.... อยู่นี่ไม่ค่อยได้ใช้หรอกเก็บอย่างเดียว...ค่าใช้จ่าย ค่ากินค่าที่พัก ภาษี เขาหักออกหมดแล้ว...เหลือเนต ๆ แค่ 800 - 900 ปอนด์ต่อเดือนเอง ถ้ามีโอ มีทิปก็เพิ่มเข้าไปอีก...มันอาจจะไม่ได้มากมายเท่ากับเอ็งไถตังพ่อแม่ใช้หรอก... อีกอย่างพี่อยู่นี่ก็ทำเงินจากเมืองไทยได้ พี่ไม่ต้องไปหน้าดำคร่ำเครียดกับรถติด หรือทนกับอากาศที่ร้อน ๆ แล้วก็มลพิษเยอะ ๆ แบบน้องหรอก... ความรู้ที่พี่ได้จากการศึกษามันอยู่ในหัวตลอดนั่นแหละ...เดียวจะเข้าใจผิดว่าพี่ดูถูกการศึกษา ดูถูกครูบาอาจารย์ พี่แค่ดูถูกกระดาษแผ่นเดียวที่คนภาคภูมิใจกับมันหนักหนาแค่นั้นเอง ทรัพยากรที่น้องพูดถึงมันคงหมายถึงแค่ใบปริญญาสินะ แต่ทรัพยากรสำหรับพี่คือมันสมอง ..แต่พี่ใช้มันยังไงบ้างอย่ารู้เลย รีบตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้จบ ม.3 ก่อนเถอะไอ้น้อง จบปริญญานี่เอ็งคิดว่าต้องทำงานแบบไหนเหรอ ล้างจานไม่ได้รึไง ทำความสะอาดไม่ได้รึไง ทุกสถาบันมุ่งผลิตคนที่มีคุณภาพ ไม่ให้เป็นภาระของสังคม เท่านั้นเอง... เอ็งจะรู้สึกยังไงวะถ้าเดินไปที่ไหน ๆ ก็มีแต่ขยะ เอ็งจะรู้สึกยังไงวะถ้าไปร้านอาหารต้องมีแต่จานสกปรก ๆ แล้วยังจะมีหน้ามาคิดอีกเหรอว่างานทุกงานไม่มีเกียรติ ถ้าเป็นงานสุจริต ทุกงานเป็นงานที่น่ายกย่องอยู่แล้ว ... อีกอย่างพี่คงไม่ได้คิดจะล้างจานจนตายหรอก...พี่จบมาขนาดนี้แล้ว พี่มีความคิดพอน่า ไอ้งานที่ require bachelor แบบที่น้องคิดน่ะ พี่ก็คิด ๆ ไว้เหมือนกัน แต่ในเมืองไทยเงินเดือนมันน้อย ไม่พอกิน อีกอย่างมันใช้สมองเปลืองเกินไป ไม่คิดบ้างเรอะทำงานจะเปนจะตาย แต่คนที่รวยคือเจ้าของบริษัทหน่ะ พี่เลยเลือกเดินทางลัดไง คิดว่าอยากจะเป็นเจ้าของบริษัท:-)ซะเลย .... เอาเป็นว่าตัวน้องน่ะ รีบ ๆ เรียนให้มันจบ ม.3 ก่อนละกัน บางทีโลกแห่งการศึกษาจะได้ช่วยทำให้อะไร ๆ ในหัวมันดีขึ้นบ้าง.... จากคุณ : บอนน์ - [ 18 ก.ย. 50 00:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่เถียงนะว่าล้างจาน เมืองนอก เงินไม่ดี เงินมันดีมากอยู่แล้วไม่งั้นเขาจะล้างจานจนส่งเสียตัวเองจบเมือกนอกกันได้มากมายรึ ดั่งที่เรากล่าวไว้ข้างต้นที่ว่า ขอเสริมหน่อย ลูกพี่ลูกน้องเราจบโท Havard มันยังเลือกไปเป็นแม่ค้าเลย (แต่เป็นเจ้าของร้านอาหารไทยนะ เรียนจบมาปุ๊บเปิดปั๊บ ไม่รู้เรียนมาทำไม) เห็นมะสนใจไรกับปริญญา เราจะจบโทวิศวะ ยังอยากเป็นแม่ครัวเลย จากคุณ : แอน (romanov)  - [ 17 ก.ย. 50 01:30:52 ] อันนี้มันก็ส่งทางบ้านมันเดือนละ หมื่นกว่าเหรียญ แต่คุณ บอนน์ อย่าไปว่าคนอื่นซิคะว่าไม่มีการศึกษา ถึงแม้คุณจะไม่ได้ใช้คำนั้นก็ตาม แต่เนื้อความมันบ่งบอก เรื่องอะไรเราก็ยอมได้แต่เรื่องดูถูกคนอื่นเรา ว่ามันไม่ดีนะคะ ประเด็นชักจะเริ่มแรงขึ้นและ เดี๋ยวก็ทะเลาะกันจนได้ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 50 01:06:40 จากคุณ : แอน (romanov) - [ 18 ก.ย. 50 01:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 59 คุณ แอน รู้สึกยังไงหล่ะกับประโยคนี้..."จบมาโคตรหลายปริญญา แต่ต้องไปล้างจานเมืองนอกแล้วยังมีหน้ามาบอกว่าเงินดี" ของ คห.55 เหมือนเขาดูถูกงานผมมั้ย.... ผมมันคนประเภทแรงมาแรงไปคับ... ยังไงก็ขอโทษคุณละกันที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น.. จากคุณ : บอนน์ - [ 18 ก.ย. 50 01:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ก็ช่ายด้วยหละคะ ประโยคนั้นก็แรงไป เราก็เลยยกเอาพี่สาวเรามาไงคะ เพราะพี่แกก็จบหลายใบ แต่ก็เป็นแม่ค้า ว่าถึงจะเป็นแม่ค้าแต่ก็มีปัญญาส่งกลับบ้านได้เดือนละ 10000 กว่าเหรียญ จากคุณ : แอน (romanov) - [ 18 ก.ย. 50 02:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 61 คุณแอนขอแย้งนิดนึงนะคะ "ขอเสริมหน่อย ลูกพี่ลูกน้องเราจบโท Havard มันยังเลือกไปเป็นแม่ค้าเลย (แต่เป็นเจ้าของร้านอาหารไทยนะ เรียนจบมาปุ๊บเปิดปั๊บ ไม่รู้เรียนมาทำไม)" ไม่แน่ใจว่าร้านอาหารไทยที่ลูกพี่ลูกน้องคุณเปิดเป็นแบบไหน แต่พอนึกออกแหละ  การเป็นเจ้าของร้านอาหารไม่เหมือนกับการเป็นแม่ค้านะคะ เจ้าของร้านอาหารควรจะทำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่งานครัว งานเสิร์ฟ เป็น front of the house  ไปจนถึงงาน management บริหารเงิน บริหารคน สารพัด ไม่ง่ายนะคะธุรกิจนี้ คนไม่มีความสามารถหรือทักษะด้านบริหารมาจับงานนี้ไปไม่รอดหรอกค่ะ ลูกพี่ลูกน้องคุณเก่งนะ ส่งเงินกลับมาบ้านได้มากขนาดนั้นแสดงว่าธุรกิจเค้าดีพอสมควรเลย ^^ ส่วนประเด็นหลักของเจ้าของกระทู้  ถ้าหางานไม่ได้จริงๆทำไมไม่ลองอย่างอื่นก่อนล่ะค่ะ ไปสมัครเป็นแคชเชียร์ที่เซเว่นก็ได้ อย่างน้อยถ้าเรามีปริญญา เราอาจมีโอกาสเลื่อนตำแหน่งเร็วถ้ามีคนมองเห็นความสามารถ ไม่ได้ดูถูกงานทำความสะอาดแต่ว่าเค้าก็บอกอยู่ว่ารับคนจบป.4ขึ้นไป พูดตรงๆถึงคุณสมัครไปก็ใช่ว่าเค้าจะรับ เค้าอาจคิดว่าคุณ overqualified คงทำได้ไม่นานก็ออก  อีกอย่างถ้าคุณสมัครงานแล้วนายจ้างถามว่าคุณทำอะไรมาก่อน อะไรฟังดี ฟังดูแล้วมีความเป็น professional มากกว่ากันระหว่าง cleaner และ cashier เงินเดือนเริ่มต้นคงไม่ต่างกันมากแต่โอกาสก้าวหน้ามันเห็นๆกันอยู่นะคะ จากคุณ : pervpanda - [ 18 ก.ย. 50 06:32:22 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สรุปแล้วคุณ LR3 พยายามจะบอกว่า งานทำความสะอาด เป็นงานที่เจ้าของกระทู้ควรเลือก หาเหตุผลต่างๆนานา มา Support ความคิดตนเอง งาน เซลล์ ที่คุณว่า เช่น จบเภสัช ทำไมมาเป็น เซลล์ ผมว่าคุณน่าจะลองหาข้อมูลดีๆก่อนดีกว่า ว่า เซลล์ต้องใช้ความรู้ความสามารถตามที่เรียนมาไหม อย่าดูถูกเซลล์ว่าไม่ต้องใช้อะไรเลย นอกจากขายเป็น คิดแบบนี้ไม่ดี ตามคห.52 คุณจะบอกว่าจบปริญญาตรีเงินเดือนน้อย แต่คุณบอกว่าให้ไปทำความสะอาดบนเครื่องบิน  เฮ้อ  เงินเดือนสูงกว่าเหรอครับ และพยายามหาทางลงเหลือเกินนะครับ เรื่องคณะที่จบมาไม่มีงานทำ เอาเป็นว่าผมไม่ทราบหรอก เรื่องคณะที่คุณว่า มหาวิทยาลัยเปิดสอนจริง ปิดๆไปเถอะครับ เปิดมาได้ไง ไม่มีงานรองรับ แล้วมนุษย์หน้าไหนยังเข้าไปเรียนคณะที่ไม่มีคนไม่มีอาชีพรองรับ และอีกอย่าง ถามหน่อยสิ รู้เหรอ เจ้าของกระทู้จบคณะนี้ ถึงบอกว่าไม่มีงานที่ตรงกับสายที่จบมาทำ ในนี้ไม่มีใครดูถูกงานหรอก แต่คุณว่า ถ้าเค้าทำงานตามที่เรียนมา กับ งานทำความสะอาดบนเครื่องบิน ถามหน่อย อีก 5 ปี อันไหนก้าวหน้ากว่ากัน อคติคุณเยอะนะครับ เรื่องการทำงาน อย่าเอาอคติของตัวเองมาทำให้ชีวิตของคนอื่นเค้าเปลี่ยนไปสิครับ หลายทางเกดินที่ประสบความสำเร็จในชีวิตโดยไม่ผ่านชีวิต office อันนี้เข้าใจ ถามหน่อย มันกี่% อ่านแล้ว วิเคราะห์คห.41 ให้ถ่องแท้เถอะ ถึงความตั้งใจของผม ถ้ายังมาตอบแบบเอาสีข้างเข้าถู โดยไม่เข้าใจสิ่งที่ผมกำลังสื่อ ผมป่วยการที่จะสนทนาต่อ เพราะมันจะกลายเป็นแค่การเอาชนะครับ หรือว่า คุณจะสรุปไปเลยตรงๆว่าการทำความสะอาดบนเครื่องบินก้าวหน้ากว่าการทำงานตามที่จบมา จากคุณ : BMWTurboman - [ 18 ก.ย. 50 09:35:58 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เดี๋ยวขอถามก่อน ตกงานอยู่ในประเทศตัวเองหรือเปล่า เช่นอยู่ไทย เรียนจบป.ตรีไทย ตกงานอยู่ที่ไทย เเล้วจะไปทำงานความสะอาดที่เมืองไทย  คิดว่าไม่น่าทำนักนะคะ (ไม่ได้ดูถูกงานทำความสะอาด) คือลองพยายามหางานที่ตรงกับวุฒิที่เรียนมาดีกว่านะ อุตส่าห์เล่าเรียนมา น่าจะมีงานทำที่ดีกว่านี้ ส่วนตัวเคยตกงานอยู่ต่างประเทศ ภาษาไม่ดี มันไม่มีทางเลือก ก็ต้องยอมทำงานทำความสะอาดบ้าง เสริฟอาหารบ้าง ดูเเลเด็กบ้าง คืองานอะไรที่ไม่ผิดกฏหมายก็รับทำหมดหล่ะค่ะ  เเต่ถ้าอยู่ในประเทศตัวเองก็คงเลือกงานบ้างเหมือนกัน จากคุณ : Hana* - [ 18 ก.ย. 50 10:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่แน่เค้าอาจจะไม่รับก็ได้ค่ะ  เพราะวุฒิสูงไป  ตอนเราเรียนอ.เคยตั้งคำถามว่า  ถ้ามีคนมาสมัครงานตำแหน่งรับฝากของในหอสมุด แต่จบปริญญาตรีมา  คิดว่าควรจะรับมั้ย  อ.ตอบว่าไม่รับค่ะ  เพราะวุฒิเค้าสูงเกินไป  มีสิทธิที่จะอยู่แค่ไม่นาน  ยังไงคนเราก็ต้องการหาสิ่งที่ดีกว่าอยู่แล้วค่ะ จากคุณ : _toon_ - [ 18 ก.ย. 50 11:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอเสริมความคิดเห็นที่ 64 จบ ป.ตรี มาสมัครเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ เราก็รับนะ ถึงแม้ว่าจะทำงานด้านบันทึกข้อมูลได้ไม่เก่งเท่าพวกปวช.ก็ตาม แต่อาศัยใช้ความรู้ด้านการจัดการต่างๆช่วยหน่วยงานเราทำงานได้ แต่จบ ป.ตรี มาสมัครเป็นนักการภารโรง เราไม่รับ เพราะทำงานประเภทลุยๆเช่นล้างส้วม กวาดถนน แบกของหนัก ซ่อมหลังคา ตัดหญ้า ทาสีตึก ผสมปูน สู้พวกจบ ป. 4ไม่ได้ จากคุณ : chauve-souris - [ 18 ก.ย. 50 12:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 66 คนที่เป็น นักแสดง ตลกชาวอังกฎษ ที่เล่น เรื่อง MR. BEAN จบ ป. โทวิศวไฟฟ้า จากคุณ : okb - [ 18 ก.ย. 50 15:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ถึงเวลา นี้ คนไทย หลายคนไม่ค่อยจะมีใคร เชื่อถือใน ระบบการศึกษาของไทย เท่าไหร่ หรอกครับ ถ้า คุณได้ลอง แลกเปลี่ยน ความ คิดเห็นกับ อาจารย์ที่ มหาวิทยาลัย หรือ แม้ แต่ เพื่อนที่ เรียน จบมาด้วยกัน จากคุณ : okb - [ 18 ก.ย. 50 16:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 68 นางเอกที่เล่นเรื่อง UnderWorld ถ้าจำไม่ผิด จบแพทย์ คะ ทั้งสวย ทั้งเก่ง จากคุณ : แอน (romanov) - [ 18 ก.ย. 50 16:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เอางานล้างจาน  งานกวาดถนน มา อ้าง คุณได้เยอะที่โน่น แต่ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายคุณก็สูงตามไปด้วยครับทำไม คุณ ไม่เอางานล้างจานที่โน่น เทียบกับงานออฟฟิตที่โน่นล่ะครับ ..คุณ จะเอามาเปรียบกับคนทำงานออฟฟิตในบ้านเราได้ยังไง..อ้อ อีกอย่าง งานล้างจาน ระหว่างเรียนนี่ ส่วนใหญ่เขาก็ทำกันครับ อย่ามา คุย .. แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 50 20:10:22 จากคุณ : รอสโซเนรี่ - [ 18 ก.ย. 50 20:07:59 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ชี้เเจงคุณ คุณ BMWTurboman ...เรื่องที่เกี่ยวกับ จขกท ตรงๆเนี่ยใน คห. ผม อันเเรกสุด ถ้าผู้อ่านมี "สติ" หรือ "วิจารณญาณที่ดี" ก็จะเข้าใจได้ไม่ยากครับว่า ผมต้องการสื่อไปในทางที่ว่า... "อย่าดูถูกงาน หรือ อย่าไปแคร์สายตาหรือความคิดที่คับเเคบของผู้อื่น ไม่มีอะไรก็ทำไปก่อนเถอะ" ...ส่วนเรื่องที่เราทั้คู่เถียงเถียงกันอยู่โดยที่ผมเป็นฝ่ายเริ่มแย้งจากใน #37 นั้น หลังจากที่ผมได้อ่าน คห. ของคุณใน #46 ผมก็คิดว่าคุณน่าจะเข้าใจในสิ่งที่ผมนำมาเเย้งคุณเเล้วนะครับ ว่าผมต้องการสื่ออะไร ...ข้อความของผมใน #52 แและ #53 นั้น เป็นข้อความที่ยามมากประกอบกับมีการ "เน้นคำ" หรือ "เน้นประโยค" ด้วยจึงทำให้ผมต้องใช้เวลาในการพิมพ์นานมากกว่าปกติ เพราะผมชอบใช้ "สติ" ในการตอบครับไม่นิยมใช้ "อารมณ์" จึงต้องรอบคอบนิดนึง ซึ่งพอหลังจากผมโพสต์ข้อความไปปรากฎบนจอเเล้วจึงมาทราบที่หลังว่ามีความเห็นเกิด ขึ้นมาหลังจาก คห. ของคุณใน #40 เยอะพอสมควร... ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เเละจากข้อสงสัยของคุณใน #62 ผมข้อชี้เเจงดังนี้ครับ... สรุปแล้วคุณ LR3 พยายามจะบอกว่า งานทำความสะอาด เป็นงานที่เจ้าของกระทู้ควรเลือก หาเหตุผลต่างๆนานา มา Support ความคิดตนเอง ===> ถ้าคุณอ่านเเละใช้ "วิจารณญาณที่ดี" คุณก็คงจะทราบครับเล้วว่าผมต้องการสื่ออะไร อย่างไร           เหตุผลต่างๆนาๆที่ผมนำมายกตัวอย่างเพื่อชี้เเจงคุณนั้น นั่นก็เป็นเพราะว่า           ผมไม่ใช่พวกชอบ "เเถ" หรือให้ข้อมูล "มั่วๆ" เเละผมไม่ใช่พวกมี "อคติ" ครับ           "ถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดก็ว่าไปตามผิด" เเละ"ไม่ชอบหาเรื่องใคร"             งาน เซลล์ ที่คุณว่า เช่น จบเภสัช ทำไมมาเป็น เซลล์ ผมว่าคุณน่าจะลองหาข้อมูลดีๆก่อนดีกว่า ว่าเซลล์ต้องใช้ความรู้ความสามารถตามที่เรียนมาไหม อย่าดูถูกเซลล์ว่าไม่ต้องใช้อะไรเลย นอกจากขายเป็น คิดแบบนี้ไม่ดี ===> อยากให้ย้อนกลับไปอ่านใน #52 ตรงส่วนนี้ครับ...           การกล่าวว่า "เด็กไทยมักทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมา"          บางกรณีขอให้ย้อนกลับไปดูที่ตัวบริษัทที่จ้างงานด้วยนะครับ          ว่าเค้าให้ทำงานเเบบ "จับฉ่าย" หรือ "ไม่ตรงสายที่จบ" มาไหม...          ตัวอย่างบางคนจบวิศวะมาก็สมัครงานตำเเหน่ง "วิศวกร"          เเต่ทำไปทำมาไหงกลับได้ไปทำตำเเหน่งเซลล์ก็ไม่ทราบ...          (บางคนยังได้ใช้วิชาที่ร่ำเรียมาบ้างเเต่บางคนก็ไม่ได้ใช้เลย)         คุณคงเข้าใจได้ดีครับว่าผมไม่อยากให้มองว่าเป็นความผิดของเด็กไทยที่ไม่ทำงานตรงสายที่จบมาเเต่เพียงอย่างเดียวครับ         หากเเต่ให้มองไปด้วยว่าบางกรณีบริษัทก็เป็นต้นเหตุด้วยเช่นกัน....         เเละผมข้อความที่ผมหมายเหตุในวงเล็บนั่นก็เเสดงไว้เเล้วว่าผมเข้าในงานเซลล์บางสายงานครับว่าต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง         ไม่งั้นผมไม่มานั่งพิมพ์วงเล็บตัวเอียงเเบบนั้นหรอกครับ           เเละที่สำคัญที่สุดคือ "ผมไม่ได้ดูถูกอาชีพเซลล์หรืออาชีพใดๆครับ"                  ส่วนการที่ผมยกตัวอย่างงาน "เซลล์" มาใช้อีกครั้งตรงช่วงส่วนท้ายของ #52 นั่นเป็นเพราะเป็นอาชีพ          ที่สามารถมีรายได้ที่มากกว่ารอรับเงินเดือนอย่างเดียวครับ เเละอาชีพนี้เดี๋ยวนี้มีคนสนใจทำกันมากขึ้นๆ คุณจะบอกว่าจบปริญญาตรีเงินเดือนน้อย แต่คุณบอกว่าให้ไปทำความสะอาดบนเครื่องบิน  เฮ้อ  เงินเดือนสูงกว่าเหรอครับ ===> ผมเรียนไปเเล้วว่า "เป็นสิทธิส่วนบุคคลในการตัดสินใจเลือก เเละถ้าเค้าตัดสินใจเเล้วเราก็ควรเคารพการตัดสินใจนั้น"           (โดยเเน่นอนว่ามันต้องเป็นสิ่งที่เค้าทำเเล้วไม่ผิด ก.ม. เเละไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น....) และพยายามหาทางลงเหลือเกินนะครับ เรื่องคณะที่จบมาไม่มีงานทำ เอาเป็นว่าผมไม่ทราบหรอก เรื่องคณะที่คุณว่า มหาวิทยาลัยเปิดสอนจริงปิดๆไปเถอะครับ เปิดมาได้ไง และอีกอย่าง ถามหน่อยสิ รู้เหรอ เจ้าของกระทู้จบคณะนี้ ถึงบอกว่าไม่มีงานที่ตรงกับสายที่จบมาทำ ===> อย่าที่เรียนไปไงครับว่า  ผมไม่ใช่พวกชอบ "เเถ" หรือให้ข้อมูล "มั่วๆ" ครับ ยิ่งไอ้เรื่องการ "เฉไฉ" หรือ "เถียงเเบบข้างๆคูๆ"           อันนั้นผมก็ไม่ทำครับ "ถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดก็ว่าไปตามผิด ผิดก็พร้อมยอมรับ เเละพร้อมเปิดรับฟังความเห็นของผู้อื่นเสมอ"             ...ส่วนเรื่อง จขกท จบคณะอะไร จากไหน นั้น ผมไม่ทราบ เเละทุกคนในกระทู้นี้ก็ไม่ทราบ เพราะ จขกท ไม่ได้บอกไว้                 อคติคุณเยอะนะครับ เรื่องการทำงาน อย่าเอาอคติของตัวเองมาทำให้ชีวิตของคนอื่นเค้าเปลี่ยนไปสิครับ อ่านแล้ว วิเคราะห์คห.41 ให้ถ่องแท้เถอะ ถึงความตั้งใจของผม ถ้ายังมาตอบแบบเอาสีข้างเข้าถู โดยไม่เข้าใจสิ่งที่ผมกำลังสื่อ ผมป่วยการที่จะสนทนาต่อ เพราะมันจะกลายเป็นแค่การเอาชนะครับ ===> ผมมีกระจกให้คุณยืมครับ หลายทางเกดินที่ประสบความสำเร็จในชีวิตโดยไม่ผ่านชีวิต office อันนี้เข้าใจ ถามหน่อย มันกี่% ===> ส่วนนี้ผมเข้าใจเเละยอมรับครับว่าเป็นเรื่องจริง เข้าใจครับว่าทุกคนอยากมีงานที่มั่นคงหรือ "ดูมีเกียรติ" ทำ           มันเลยกลายเป็นมีส่วนทำให้ปลูกฝังการเป็นลูกจ้างพนักงานออฟฟิศกันเยอะมาก เเละปัญหาเดี๋ยวนี้ก็อย่าง           ที่เราเถียงกัน(ซึ่งออกนอกประเด็นของ จขกท) ว่าไทยเราสอนเเต่ "การท่องจำ" โดยขาดการ "สอนให้เด็กคิดเองเเก้ปัญหาเอง"           ...อยากให้เด็กไทยเรากล้าคิดกล้าทำ "นอกกรอบ" (แบบไม่ผิด ก.ม. หรือทำให้ใครเดือดร้อน) กันมากขึ้นครับ           "push the right in the right job" 0kdใน #45 นั่นก็เป็นตัวอย่างได้อย่างของ "คนจำนวนไม่กี่%" ได้ดีเลยทีเดียว หรือว่า คุณจะสรุปไปเลยตรงๆว่าการทำความสะอาดบนเครื่องบินก้าวหน้ากว่าการทำงานตามที่จบมา ===> ไม่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านอะไรเเละไม่ได้บอกว่าการจบมาทำงานตรงสายเป้นเรื่องไม่ดีหรือทำเเล้วไม่ก้าวหน้า           เเละผมก็ได้ชี้เจงไปแล้วว่าผมต้องการสื่อกับว่า...         "อย่าดูถูกงาน หรือ อย่าไปแคร์สายตาหรือความคิดที่คับเเคบของผู้อื่นไม่มีอะไรก็ทำไปก่อนเถอะ" ช่วง 1- 2 วันมานี้"บางคน"ทำให้ผมได้เข้าใจบางสิ่งมากขึ้นกับวลีนี้... "นี่เเหละ...การศึกษาเเบบเน้นท่องจำของไทย"   เละเข้าใจมากขึ้นเเล้วว่า... "ทำไมคนไทยบางคนถึงต้องยอมสละถิ่นฐานบ้านเกิด..." ฝากทิ้งท้ายไว้ครับว่า... "Impossible Is Nothing" แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 50 21:51:55 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 50 21:49:55 จากคุณ : LR3 - [ 18 ก.ย. 50 21:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ...งานล้างเครื่องบินที่ผมเคยทราบมานั้น หลักๆเป็นการล้างด้านนอกนะครับ ลักษณะก็เหมือนกับล้างสีรถนั่นเเหละ ไม่เเน่ใจว่าจะมีการเข้าไปทำความสะอาดในตัวเครื่อง เเละส่วนของ การล้างเครื่องยนต์ด้วยหรือไม่... งาน cashier ที่ 7-11 ส่วนใหญ่เค้ารับเเบบ part-time ครับ ได้เงินเป็นตาม ชม. ที่ทำ  จำตัวเลขค่าจ้างที่เเน่นอไม่ได้เเล้ว เเต่รู้สึกว่าได้ ชม. ละ ไม่ถึง 100 บ. ตรับ (ในเขต กทม. นี่เเหละ) เรื่องรายได้การล้างเครื่อบินก้อย่างที่บอกไปครับ(เคยบอกในกระทู้เก่าๆด้วย) ผมก็จำรายได้ที่เเน่นอนไม่ได้ จำได้ลางๆว่ารายได้ดีครับ ไม่น่าต่ำกว่า 20k สำหรับการเริ่มต้นนะครับ (เเล้วเเต่ บง บาง บ. อาจมากกว่านี้) ให้ไปเทียบเคียงกับงานโหนสลิงล้างกระจกตามตึกนั่นได้เลยครับ งานนั้นได้กันเดือนละ 40k ต่อคนต่อเดือน (เคยดูในรายการทีวีนานเเล้ว) ปล ่ไม่ได้หมายความว่างานล้างเครื่องบินจะได้ถึง 40k นะครับ      ถามล้างเครื่องบินเสี่ยงไหมก็เสี่ยงนะครับเพราะต้องขึ้นรถเครน      ไต่ไปล้างเหมือนกัน เครื่องบินโดยสารลำเล็กที่ไหนล่ะ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 50 21:34:56 จากคุณ : LR3 - [ 18 ก.ย. 50 21:23:30 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คห.69 คับ ค่าครองชีพที่นี่เมื่อเทียบกับรายได้แล้ว  ที่เมืองไทยแพงกว่าคับ... ถ้าคุณเคยออกจากกะลาคุณจะรู้เองคับ ...ประเด็นของผมที่เสนอในกระทู้นี้ก็แค่อยากบอก จขกท ว่างานอะไรก็ทำไปก่อนดีกว่าว่างงาน...คุณกลับไปอ่านความเห็นของผมให้ดีดี ผมไม่ได้พยายามเปิดประเด็นเพื่อทะเลาะกับใคร ส่วนใน คห.57 นั้นก็แค่อยากตอบคห.55 แต่คำที่ใช้อาจจะฟังดูขัด ๆ หูไปหน่อย... แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 50 21:56:04 จากคุณ : บอนน์ - [ 18 ก.ย. 50 21:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เรียนตามตรงนะ คุณLR3 ผมว่า สิ่งที่คุณพยายามจะสื่อ เกี่ยวกับข้อความเหล่านี้ ******************************************** งาน เซลล์ ที่คุณว่า เช่น จบเภสัช ทำไมมาเป็น เซลล์ ผมว่าคุณน่าจะลองหาข้อมูลดีๆก่อนดีกว่า ว่าเซลล์ต้องใช้ความรู้ความสามารถตามที่เรียนมาไหม อย่าดูถูกเซลล์ว่าไม่ต้องใช้อะไรเลย นอกจากขายเป็น คิดแบบนี้ไม่ดี ===> อยากให้ย้อนกลับไปอ่านใน #52 ตรงส่วนนี้ครับ...          การกล่าวว่า "เด็กไทยมักทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมา"         บางกรณีขอให้ย้อนกลับไปดูที่ตัวบริษัทที่จ้างงานด้วยนะครับ         ว่าเค้าให้ทำงานเเบบ "จับฉ่าย" หรือ "ไม่ตรงสายที่จบ" มาไหม...         ตัวอย่างบางคนจบวิศวะมาก็สมัครงานตำเเหน่ง "วิศวกร"         เเต่ทำไปทำมาไหงกลับได้ไปทำตำเเหน่งเซลล์ก็ไม่ทราบ...         (บางคนยังได้ใช้วิชาที่ร่ำเรียมาบ้างเเต่บางคนก็ไม่ได้ใช้เลย)        คุณคงเข้าใจได้ดีครับว่าผมไม่อยากให้มองว่าเป็นความผิดของเด็กไทยที่ไม่ทำงานตรงสายที่จบมาเเต่เพียงอย่างเดียวครับ        หากเเต่ให้มองไปด้วยว่าบางกรณีบริษัทก็เป็นต้นเหตุด้วยเช่นกัน....        เเละผมข้อความที่ผมหมายเหตุในวงเล็บนั่นก็เเสดงไว้เเล้วว่าผมเข้าในงานเซลล์บางสายงานครับว่าต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง        ไม่งั้นผมไม่มานั่งพิมพ์วงเล็บตัวเอียงเเบบนั้นหรอกครับ          เเละที่สำคัญที่สุดคือ "ผมไม่ได้ดูถูกอาชีพเซลล์หรืออาชีพใดๆครับ"                 ส่วนการที่ผมยกตัวอย่างงาน "เซลล์" มาใช้อีกครั้งตรงช่วงส่วนท้ายของ #52 นั่นเป็นเพราะเป็นอาชีพ         ที่สามารถมีรายได้ที่มากกว่ารอรับเงินเดือนอย่างเดียวครับ เเละอาชีพนี้เดี๋ยวนี้มีคนสนใจทำกันมากขึ้นๆ ***************************************** กับสิ่งที่คุณพยายามบอกผมมาตั้งนานมันเหมือนจะคนละฝั่งกันเลยนะ อีกอย่าง หัวใจหลักของผมที่สื่อในคห.62 คุณยังไม่ได้ลองวิคราะห์เลย บรรทัดที่ 2 ก่อนสุดท้าย  ทำไมพยายามข้ามมันไป จากคุณ : BMWTurboman - [ 18 ก.ย. 50 22:12:27 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เอางี้นะ สรุปอีกที เผื่อจะเข้าใจกันบ้าง จะได้ไม่ต้องทำให้รู้สึกไม่ดีต่อกัน เจ้าของกระทู้เค้าบอกว่าตกงาน แสดงว่าพยายามหางานแล้วยังไม่ได้ตามงานที่ตนเองร่ำเรียนมา ผมถึงตอบไปว่า ลอง resume ก่อนว่าทำเต็มที่หรือยัง แล้วสมัครมากพอหรือยัง อยากทำงานทำความสะอาดเครื่องบิน เพราะอยากขึ้นเครื่องบิน อันนี้ล่ะ ที่ทำให้ผมตอบกระทู้มายาวขนาดนี้ ถ้าจะทำเพราะเจ้าของกระทู้ฝันมาตลอดชีวิต ต้องการงานนี้มาก ผมจะไม่ขัดเลย แต่ที่อยากทำเพราะตกงาน และอยากขึ้นเครื่องบิน ผมเลยว่า ควรทำงานตามที่ตนเองเรียนมาดีกว่า เพราะถ้าได้ลองเข้าไปทำงานแล้ว งานจะเป็นลักษณะ Routien พอขึ้นเครื่องบินไปสักพัก แล้วเบื่อ ลาออก เสียโอกาสของคนที่อยากทำจริงๆหรือไม่ และเสียโอกาสกับตนเองแทนที่จะได้ประสบการณ์ในการทำงานตรงกับที่เรียนมา ตอนทำก็อาจจะคิดว่าเอ วิชานู้นที่เรียนมาทำไมไม่ได้ใช้เลยวิชานี้ที่เรียนมาเรียนมาทำอะไร? ผมจบ MBA มา ทำงานเงินเดือน หมื่นกว่าบาท ทั้งๆที่เพื่อนรุ่นเดียวกัน บางคนเป็นแสนแล้ว  แต่ผมอยากได้ประสบการณ์ให้หมด ลองดูงานไปตามสิ่งที่เรียนมา ถามว่าชอบทุกงานที่เคยทำงานมาไหม? ตอบเลยว่าไม่ แต่อยากได้ประสบการณ์ตามที่เรียนมา ว่าชีวิตนอกตำราเป็นอย่างไร เรียนมาตั้งหลายวิชา อยากลองของ เงินไม่สน เพราะทุกวันก็ทำของตัวเองไปด้วย แต่สิ่งนึงเลยที่ไม่ได้รับจาก MBA คือ ประสบการณ์ตรงนอกจากตำรา ซึ่งเป็นประโยชน์มาก แต่ก็ยังเอาความรู้ในห้องเรียนมาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นประโยชน์มาก อยากให้ลองสู้กับสิ่งที่เค้าพยายามอย่างเต็มที่ก่อน นี่ล่ะที่ผมพยายามสื่อมานาน แต่ถ้าเจ้าของกระทู้พูดคำเดียวเลยว่า ฝันอยากทำแบบนี้มานานล่ะ ผมก็คงไม่ติดอะไร ผ่านๆไป ฝันใครฝันมัน แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 50 22:43:13 จากคุณ : BMWTurboman - [ 18 ก.ย. 50 22:33:23 ]

ความคิดเห็นที่ 75 กลับเข้าอีกรอบหลังจากตอบไปแล้ว ทำไมถึง Hot อย่างนี้ เลยอ่านหัวข้อใหม่อีกรอบ กลายเป็นผมเข้าใจผิดไปเอง ตอนแรกอ่านผ่านแบบรีบ เลยเข้าใจไปว่า ที่ทำความสะอาดบนเครื่องบินเพราะหางานอื่นไม่ได้ กลายเป็นว่า ที่ทำเพราะ อยากขึ้นเครื่องบิน เลยอึ้งไปเลย ผมไม่อยากออกความเห็นใดๆ แล้วครับ เพียงอยากบอก จขกท.ว่า โปรดตั้งเป้าหมายในชีวิตใหม่ดีกว่าครับ แค่นี้ละครับ จากคุณ : ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ - [ 19 ก.ย. 50 03:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 76 13&72ครับ ที่เขาว่าคุณน่ะถูกแล้ว และที่บอกว่าแค่เก็บจานล้างจานฯลฯ ที่อังกฤษก็รวยได้น่ะ "ไม่มีทางครับ" ผมไม่เชื่อ... หลักการก็คือ การที่คุณทำงาน เอาแรงแลกเงินไม่มีทางรวยครับ นอกเสียจากกว่าคุณจะเป็นSuperStarอันนั้นต้องยกให้ เพราะคุณก็จะหาเงินได้เท่าที่คุณมีแรงทำงาน อย่างมากก็12-15ชม./วัน ทำถึงอายุ60ก็หมดแรง เต็มที่ก็พอมีพอกิน รถคันนึง บ้านหลังนึง (คำว่ารวยของผมคือ หลายสิบล้าน ไม่ใช่ล้านสองล้าน หรือ ร้อยล้านพันล้าน) มันต้องใช้แรงคนอื่นหาเงินให้คุณหรือใช้เงินทำงานถึงจะมีทางรวยครับ .... (ลงทุน/เจ้าของกิจการ) ส่วนอยู่ประเทศไหนก้เหมือนๆกันแหละ ผมอยู่มาแยอะแล้ว งานที่คุณว่ามาผมก้ทำมาแล้ว ดีกว่านั้นก็ทำมาแล้ว เด็กเสริฟ,แคชเชียร์,เชฟ,ผจก.ร้าน ฯลฯ ถึงได้พูด ขออภัยจขกท.ที่นอกเรื่อง จากคุณ : ไม่จน (มังกรออสซี่) - [ 19 ก.ย. 50 11:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 77 กลายเป็นโต้วาทีไปซะแล้ว... เหตุผลดีดีกันทั้งน้าน สมัยนี้ก็งี้ล่ะค่ะ ค่านิยมลูกยิ่งเก่งยิ่งดี หาทางเป็นที่หนึ่ง คิดวิเคราะห์อะไรก็ไม่เป็นกันแล้ว หาทางไปเรียนกวดวิชาทางลัดดีกว่า ที่มีคนคิดสูตรแก้ปัญหามาให้เสร็จสรรพ เพื่อให้ทำข้อสอบให้ได้เร็วและดีที่สุด ไปถึงจุดหมายได้ง่ายที่สุด เด็กทุกวันนี้ เลยค่อยๆ คิดวิเคราะห์กันไม่ค่อยจะเป็น แต่ก็ไม่ทุกคนนะคะ ขึ้นอยู่กับว่าที่บ้านปลูกฝังอะไรมาแค่ไหนด้วย สมัยเราก็ยังโดนเลย คนคิดเร็วกว่า ถือว่าเก่งกว่า ได้รับคำชมมากกว่า ทั้งที่จริงแล้ว ใช้สูตรสำเร็จ คิดเองเป็นป่าว รู้ที่มาที่ไปรึป่าว ยังไม่รู้เลย แต่ในกรณีนี้ คิดว่า น้องเค้าอยากหาประสบการณ์แปลกใหม่มากกว่าน่ะค่ะ คงไม่ได้คิดอะไรมากมายหรอก คิดว่า ไหนๆ ก็ไม่ได้ทำงานแล้ว ลองไปทำดู น่าหนุกดี ไรแบบนี้มากกว่า จากคุณ : ยามเมื่อลมพัดหวน - [ 19 ก.ย. 50 13:41:59 ]

ความคิดเห็นที่ 78 กลุ้มใจจริงๆ -*- จะต้องให้ผมมานั่นพพิมพ์หมายเหตุใส่วงเล็บทุกรายละเอียดที่ผมกล่าวถึงเลยหรือไง คุณถึงจะเข้าใจ... ไอ้ที่ผมอุตส่าห์ quote ข้อความย้ำให้พิจรณาเนี่ย คุณยังไม่เข้าในอีกเหรอว่าผมก็หมายรวมไปยังอาชีพเซลล์อื่นๆด้วย ไม่ได้หมายเน้เฉพาะวิศวะอย่างเดียว เเต่ก็พอเข้าใจนะว่าทำไมคุณถึงไม่ยอมเข้าใจ... ถ้าการยึดติดอยู่ในกรอบมากไปจนทำให้ยากจะเข้าใจหรือหรือยากเปิดใจ อันนั้นก็เข้าใจครับไม่ว่าอะไร เเต่ถ้าเเกล้งทำเป็นไม่ยอมเข้าใจ อย่างหลังนี้น่าหนักใจกว่าครับ เเละคงไม่อยากต่อร้องต่อเถียงด้วยเเล้ว มันเสียเวลาเเละเหนื่อยเปล่า... ส่วนข้อความของคุณใน #62 ที่ในนั้นส่งต่อให้ไกลับปอ่านใน #41 นั้น การที่ผมเเนะนำว่า... "อย่าดูถูกงาน หรือ อย่าไปแคร์สายตาหรือความคิดที่คับเเคบของผู้อื่นไม่มีอะไรก็ทำไปก่อนเถอะ" มันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คุุณเข้าใจอีกเหรอครับ? คนมันตกงานไม่มีงานทำไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นจะไม่เคยลองหางานมาก่อนเลยนิ บางทีสมัครไป บ. ไม่รับ ทั้งที่ไปสมัครครงสายที่เรียนมา บางไปสายอื่น เเต่ทาง บ. ก็ไม่รับ หรือรอเเล้วรอเล่าก็ยังไม่เรียกมา... การที่ จขกท มาตั้งกระทู้ถามขอความเห็นเรื่องอาชีพล้างเครื่องบิน เเล้วผมหรือใครต่อใครเเนะนำไปว่า "ให้ทำไปก่อน ไม่ต้องเเคร์สายตาคนหยาม" เนี่ย มันไม่ดีหรือผิดจารีตประเพณีขั้นร้ายเเรงตรงไหนกันครับ? การช่วยเเนะนำไม่ได้หมายความว่าบังคับให้ จขกท ต้องไปทำนี่ครับ เพราะสุดท้ายคนที่จะตัดสินใจเลือกมันก็คือตัว จขกท เค้าเอง เพราะชีวิตเป็นของเค้า... "สู้"  "อดทนรอ" "ไม่มีจะกิน" ...คนเราเกิดมามีไม่เท่ากันครับ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 50 19:51:52 จากคุณ : LR3 - [ 19 ก.ย. 50 19:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 79 555555 สงสัยเราจะคุยกันไม่รู้เรื่อง จากตอนแรกโมโห ตอนนี้ เริ่มไม่แล้ว อารมณ์ดี 55555 ในคห.73 คุณน่าจะหมายถึงปัญหาของเด็กจบมาทำงานไม่ตรงสายตะหาก นี่ล่ะที่ผมต้องการสื่อ ผมไม่เคยมีประโยคไหนกล่าวถึงว่าทำงานนี้แล้วจะมีคนหยาม หรือเพราะว่าแคร์สายตาคนอื่นเลย อืมมมมม น่าคิด ทำไม เราคุยเรื่องเดียวกัน แต่เข้าใจคนละแบบ 5555555 ผมอยู่ในกรอบหรือว่าคณไม่พยายามเข้าใจ 555555 นี่ผมขำจริงๆนะเนี่ย 555 ประโยคไหนในกระทู้ครับ ที่บอกว่าไม่มีจะกิน การจับใจความ น่าจะเป็นเพราะอยากขึ้นเครื่องบิน การหางานไม่ได้ คุณบอกว่าทำความสะอาดไปก่อน แล้วต่อไปจะได้งานตามที่จบมาง่ายขึ้นเร๊อะ คุณนี่ ^^ นี่ๆ ถ้าอ่านคห.74 แล้วยังจำใจความไม่ได้ เราว่า หยุดการสนทนาเถอะ ถ้าเจ้าของกระทู้กล่าวมาสักคำว่าไม่มีจะกินแล้ว ผมก็คงปล่อยเหมือนกัน เอ คุณไปเอา "เรื่องไม่มีจะกิน" จากไหนมา^^ เปิดใจกว้างๆครับ ค่อยๆอ่าน อย่าเอาอารมณ์อ่าน^^ อ่านความเห็นอื่นๆด้วย ใจเย็นๆ อย่าพึ่งรีบ ไม่ได้เคยบอกให้เกี่ยงงานเล้ยยยยยยยย แต่บอกเฉยๆ ว่าทำอะไรก็ตามแต่ เต็มที่ก่อนเท่านั้นเอง คิดไปไกลเลย^^ เอาน่า คห.ไหลมาไกลแล้ว เจ้าของกระทู้ได้ไปเยอะแล้ว ตัดสินใจน่าจะได้แล้วว่าเค้าจะทำหรือไม่ทำ ผมแค่เคยอ่านเจอปัญหาของประเทศไทยเฉยๆว่า เด็กทำงานไม่ตรงสาย ทำให้องค์กร ขาดคนที่มีความรู้ความเข้าใจต่องานจริงๆ การพัฒนาการแบบบูรณาการจึง ยังไม่ไปถึงไหน คุณมีความคิดเห็นว่าไง? เช่น จากทำ Finance Promote มาทำ Marketing แค่นั้น นักวิชาการก็ปวดหัวแล้ว เอาน่า ผมรู้คุณมีความรู้ แต่คุณอารมณ์ไม่ดี ไม่มีใครผิดใครถูกหรอกครับ แค่ผมไม่เข้าใจเฉยๆ เรื่องไม่มีจะกิน กับดูถูกงาน ผมว่าผมยังไม่ได้หลุดไปเลยนะ ทุกครั้งก็ย้ำว่า ลองดูสักตั้งก่อน กับสิ่งที่ลงมือมา4ปี เท่านั้นเอง ผมเดาว่าคุณน่าจะเคยเรียน Logic มา อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล เหตุการณ์นี้อะไรเป็นเหตุของเจ้าของกระทู้ครับ ถามหน่อย ^^ แบบนี้ เราควร Focus ที่อะไรดี^^ ผมว่า คห.74 ของผมตอบความคิดผมได้ชัดเจนนะ คุณ^^ Have a nice dream ครับ^^ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 50 00:51:00 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 50 00:48:54 จากคุณ : BMWTurboman - [ 20 ก.ย. 50 00:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ขออย่างเดียวเลย ถ้ายังอยากสนทนากันต่อ อย่า"ปรุงแต่งสาร"ครับ เพราะมันจะผิดเพี้ยน ผมเองก็ขึ้นไปอ่านที่เจ้าของกระทู้พิมพ์หลายรอบ คุณอาจจะงานยุ่งไม่มีเวลา ก็ได้ ผมเองก็อ่านทั้งของตนเอง และของคุณอื่นหลายๆที เพราะตอนแรกก็คิด เอ เราตกหล่นอะไรไปไหมเนี่ย? ทำไมถึงเป็นแบบนี้? รบกวนก่อนเถอะ อย่าอ่านแบบผ่านๆ แล้วเอาความคิดตนเองใส่เข้าไปก่อนพิจารณา^^ จากคุณ : BMWTurboman - [ 20 ก.ย. 50 01:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ถกเถียงเอาโล้กันหรืองัยคุณ อ่านแล้วขําจริงๆเขาแค่ถามทําความสะอาดเครื่องบินเข้าท่าไม๊ วิเคราะห์กันซะยาวยืด บางคนก็หลงออกนอกประเทศไปไหนถึงไหน ตอบกระทู้ ถ้าหางานไม่ได้อยากลองทําดูก็ทําไปเถอะ ทํารองานไปพลางๆ สุดท้าย จขกท ก็เลือกเอาความเห็นที่เข้าท่า ความเห็นที่ใช้ได้กับชีวิตประจําวันจริงๆ ไปใช้ล่ะกัน ใช้วิจารณญาณเอาเอง จากคุณ : น้องแจน - [ 20 ก.ย. 50 09:16:41 A:124.120.83.240 X: TicketID:104634 ]

ความคิดเห็นที่ 82 คนที่ตกงานหรือไม่มีงานทำบางคนหรือหลายนั้นก็ถึงขั้นไม่มีจะกินนะครับ ถึง จขกท จะไม่ได้บอกว่าถึงขั้นไม่มีจะกินก็เถอะ "ไม่มีจะกิน" ผมสื่อในภาพกว้างๆครับ ตกงานไม่มีรายได้ --> เงินเก็บร่อยหรอ --> ไม่มีจะกิน ข้อความใน #74 ผมเข้าใจครับว่า คุณอยากให้ จขกท (หรือเด็กไทยทุกคน) ให้ทำงานตรงสายที่เรียบจบมา เผื่อเก็บประสบการณ์ เพื่ออนาคตที่ดีทั้งของตัวเองเเละเพื่อเป็นประโยชน์ของประเทศชาติ เเต่ในส่วนที่ผมเเย้งคุณตั้งเเต่ใน #37 เเละนั่งพิมพ์เถียงกับคุณอย่าง "ปากเปียกปากแฉะ" นั้น คือผมต้องการสื่อให้คุณมองด้วยว่า... "ทำไมเด็กไทยถึงไม่ทำงานให้มันตรงสายที่จบมา ...มีเหตุผลหรือปัจจัยใดๆบ้างที่ทำให้เด็กไทยไม่ได้ทำงานให้ตรงสายที่เรียนมา" การที่มีบางคน(ที่คุณก็รู้ว่าผมหมายถึงใคร) มาด่วนสรุปตัดบทเเละเหมาว่าผม "สนับสนุน" ให้เด็กไทยไป "กวาดขยะที่โซล" หรือสนับสนุนคนตกทุกคนงานมุ่งไปทำงาน "ทำความสะอาดเครื่องบิน" ...ผมว่าบุคคลคนนั้น "ตีความผิด" หรือไม่ก็ "อ่อนเรื่องการอ่านจับใจความ" ครับ หรือจะเรียกว่า "ปรุงเเต่งสาร" ก็ได้เช่นกัน เพราะถือว่านำข้อความมาจับต้นชนปลายมั่วไปหมด รวมทั้งขาดความหนักเเน่นเเละขาดความรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเอง "รั่ว" ออกมาด้วย ผมก็บอกไว้ชัดเจนอยู่เเล้วว่า "งานทำความสะอาดเครื่องบินเนี่ยให้ จขกท ทำไปก่อนไม่ต้องเเคร์สายตาคนอื่น" ส่วนไอ้เรื่อง "การต่อยอด" หรืออะไรทั้งหลายเเหลที่เกี่ยวข้อง อันนั้นมันเป็นเรื่องของอนาคตซึ่งมันมีสามารถเปลี่ยนเเปลงได้ เเละคนที่จะเลือกก็คือตัว จขกท เอง...   จะมากล่าวหาว่าผมโฟกัสไม่ถูกเรื่องก็คงไม่ถูกนะครับ เพราะส่วนที่เกี่ยวกับ จขกท นั้น ขอเเค่คนที่มี "วิจารณญาณในระดับปกติ" ก็สามารถอ่านเเละเข้าใจได้ตั้งเเต่ใน คห. เเรกสุดของผมเเล้ว จากคุณ : LR3 - [ 20 ก.ย. 50 21:15:26 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ผมว่า #81 ยังเข้าใจอะไรๆ ได้ดีกว่าบางคน(ที่คุณก็รู้ว่าผมหมายถึงใตร)ที่ผมต้องมานั่ง "เเปลไทยเป็นไทย" ให้อ่านเยอะครับ เพราะเเค่ประเด็นในส่วน "ที่ตรงกับ จขกท" กับ ประเด็นที่ "โต้เถียงที่เกิดจากการเเย้ง" บางคนยังนำมาเหมารวมกันได้เฉยเลย พวกที่ชอบ "เเถ" หรือ "เถียงข้างๆคูๆ" เเละพอสุดท้ายจนมุมก็ใช้มุข "ตลกรับประทาน" มาทำเนียน "เฉไฉ" ไปเรื่อยเนี่ย ในเว็บ pantip นี่ผมก็เห็นอยู่เรื่อยๆครับ เเละผมก็ไม่คิดที่จะอยากเสวนาหรือยุ่งเกี่ยวกับคนเเบบนั้น... แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 50 21:21:01 จากคุณ : LR3 - [ 20 ก.ย. 50 21:18:33 ]

ความคิดเห็นที่ 84 จ้าๆ ตามสบาย ขนาดมีคนพิมพ์มาขนาดนี้แล้วยังจะ.........อีกนะ เชิญเลือกอ่านคห.ที่ถูกใจคุณไปเถอะ ขอยุติการสนทนาครับ ไม่มีประโยชน์ ไว้คุณโตกว่านี้แล้วค่อยว่ากัน ทีหลังถ้าไม่คิดจะเปิดรับคห.คนอื่น อย่าเข้ามาล้ำเส้นแย้งคห.ผม ถ้าคิดจะแย้งโดยไม่เปิดรับอย่างเดียวมันจะเหมือนจิ๊กโก๋แซวมาเฉยๆ ผมแสดงคห.ของผม คุณก็แสดงคห.ของคุณไป อย่ามาล้ำเส้น ขอจบแต่เพียงเท่านี้นะครับ อย่าต่ออะไรมาอีก *******ถ้ามีอะไรก็คุยส่วนตัว******** อย่าทำให้รกกระทู้เค้า ปล. หวังว่าคงอ่านเข้าใจความหมายในดอกจันนะครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 50 22:33:40 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 50 22:07:38 จากคุณ : BMWTurboman - [ 20 ก.ย. 50 21:59:45 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ถ้าชอบการจบด้วยการสร้างภาพให้ดูดีเอาดีเข้าตัวเเละโยนบางสิ่งเหม็นๆให้ผู้อื่นก็ตามสบายครับ ดูเป็นพระเอกดีครับ เท่ห์ เเละทั้งหนา ทั้งทน เเมนมากๆ ...นับถือๆ ตามสบายครับพระเอกจอมเเถผมเรีนไปนานเเล้วว่ามันเหนื่อยเปล่าในการโต้เถียงกับคน"ทัศนคติเเคบ" เเละผมก็ชี้เเจงไปครบเเล้วว่าผมเเย้งคุณตรงไหนเเละเรากำลังเถียงกันตรงไหน รวมถึงตรงไหนที่ผมเอ่ยเเบบคร่าวๆ ตรงไหนที่เกี่ยวกับ จขกท โดยตรง ผมเเยก "วัตถุประสงค์" ให้อ่านอย่างชัดเจน จนเมื่อยปาก(มือ)ไปหมดเเล้ว ตรงไหนใครปากดีมาท้า้ทาย ตรงไหนที่คนเป็นพวก "จับต้นชนปลายไม่ถูก" นำสองวัตถุประสงค์มารวมกันมั่วไปหมด กระทู้ออกทะเลมาก็เพราะมีคนเเบบนั้นที่ไม่ยอมเเยกเเยะว่าประเด็นไหนผมสื่อถึง จขกท ประเด็นไหนเป็นสิ่งที่โต้เถียงกันส่วนตัว ในสิ่งที่คุณสงสัยเเละไม่พยายามจะเข้าใจทุุกอย่างผมได้ให้คำตอบ,อธิบายเเละชี้เเจงไปหมดเเล้ว เเละสิ่งที่คุณจะสื่อผมก็เข้าใจดีทุกอย่าง  เเต่ถ้าคุณไม่เปิดรับสิ่งที่ผมจะสื่อก็ไม่เป็นไรครับ ... ป่วยการเปล่าๆในการอธิบายเราคงเกิดคนละยุคจริงๆ ...ต่างคนต่างอยู่ละกัน โชคดี จากคุณ : LR3 - [ 21 ก.ย. 50 19:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เพื่อนผมจบ ป.ตรี เป็นเด็กถ่ายเอกสาร ครับ เห็นบอกว่า ไม่ต้องปวดหัว รายได้พอเรื่องชีพ สบายใจดีไม่เครียด จากคุณ : กกก (roj2524) - [ 25 ก.ย. 50 15:11:42 ]