ความคิดเห็นที่ 1 ขอร่วมแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะ... โดยปรกติ KPI จะใช้ในองค์กรในประเทศตะวันตกเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ ประเทศสหรัฐอเมริกา หลัง ๆ จึงแพร่เข้ามาใน ประเทศในเอเซีย ข้อดีก็คือ มีการวางแผนการทำงาน โดยกำหนดเป้าหมาย หน้าที่ และ ผลที่จะวัดก่อน ถ้าทำดี มีผลงานเข้าตา ก็ประเมินออกมาดี ก่อนที่จะนำมาใช้ในองค์กร อย่างแรกเลยผู้บริหารสูงสุดต้องเห็นด้วย และให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะถ้าเจ้านายระดับสูงสุดไม่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ เพราะคิดว่า จะทำไปทำไม ตัวฉันเอง ( หมายถึงผู้บริหารสูงสุด ) และ ผู้จัดการแต่ละระดับสิ เป็นผู้ตัดสินใจพิจารณาเอง เสียเวลากับการคิดหัวข้อในการประเมิน เสียเวลาในการเตรียมเอกสาร ยุ่งยากกับการพูดคุยกับพนักงาน สู้เอาเวลามาทำงานที่สำคัญดีกว่า ให้ผลดีกับองค์กรมากกว่า ถ้าผู้บริหารสูงสุดเห็นด้วย การทำงานเกี่ยวกับ KPI ก็ง่ายขึ้น ภาระหนักก็จะตกไปอยู่กับ HR และ หน่วยงานสื่อสารข้อมูลภายในองค์กร ที่จะต้องชี้แจง หรือ ประชาสัมพันธ์ ให้ พนักงานทุกคนในองค์การทราบ ในการเริ่มใช้ KPI สำหรับ บางองค์กร อาจจะต้อง เสนอให้เริ่มใน บางแผนก เป็นการทดลองก่อน ว่าผลออกมา มีใครพอใจ ใครไม่พอใจบ้าง ในความเห็นส่วนตัว การมี KPI ในองค์กรเป็น สิ่งดี แน่นอน วัดผลงานได้ หลีกเลี่ยง หรือ ลด คำครหา ว่า หัวหน้า ลำเอียง ( ขอย้ำว่า แค่ลด นะ แต่ไม่สามารถ ทำให้หมดไปได้ ) ขอฟังความคิดเห็นเพื่อน ท่าน อื่น ๆ ด้วย..... จากคุณ : ชาวบ้านไทย - [ 23 ก.ย. 50 08:07:13 A:202.57.174.114 X: TicketID:125394 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอเพิ่มเติม เท่าที่นึกออกตอนนี้นะ.... โดยทั่วไป พนักงานในองค์กร จะยอมรับฟังข้อมูลจาก HR ก่อนว่า KPI มันเป็นยังไง ดีกับพนักงานยังไง แล้วข้อเสียละ ( พนักงานที่ทำงานไม่เต็มที่ ก็จะกลัวว่า เอาแล้ว...จะยุ่งอะไรกับการทำงานของตูละ ทำไปเหมือนเดิมก็ดีแล้ว แบบเดิม ก็ดีอยู่แล้ว ทำงานไปแต่ละปี ก็ได้ปรับเงินค่าจ้าง ขึ้นไปตามปรกติ ถ้ามี KPI แล้ว คราวนี้ ...แย่แน่นอน ) ส่วนผู้บริหารระดับกลาง ๆ บางคน ก็จะคิดว่า เอ..ทำไม HR ต้องหางานแบบยุ่ง ๆ มาเพิ่มให้ด้วยนะ เดิม ทำงานไปก็ไม่ต้องเสียเวลาคิดว่า จะต้องพูดคุยกับพนักงานยังไง ตอนประเมินผล ก็แค่บอกว่า ดีไม่ดี แล้วก็จบ แต่นี่ ถ้ามี KPI ก็ต้องเสียเวลามายุ่งกับ งานเอกสารอีก งานที่ทำอยู่ประจำก็ต้องแก้ปัญหา ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว ยังต้องมีการประมง..ประเมินผลงานอะไรให้ยุ่งยาก ยิ่งปวดหัวหนักขึ้นไปอีก แต่ถ้ามองในแง่ดี ก็คือ เป้าหมายในการทำงานของพนักงานก็ได้ถูกกำหนดเอาไว้ก่อนแล้ว ถ้าทำแล้วได้ตามเป้า ก็เห็นผลงานกันชัดเจน การปรับขึ้นเงินเดือนก็จะง่ายเข้า แต่ขอบอกว่า บางบริษัท จะประกาศบอกพนักงานไว้ก่อนเลยว่า การมี KPI อาจจะเกี่ยวข้อง หรือ มีส่วนกับการปรับขึ้นเงินเดือนของพนักงาน หรือ ไม่ก็ได้ ( คิดในใจ...ถ้า KPI ไม่มีผลกับการปรับขึ้นเงินเดือนเลย จะเสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย ในการ implement KPI ในองค์การไปทำไม ) รอฟังความเห็นเพื่อน ๆ ท่านอื่น อยู่นะ....... จากคุณ : ชาวบ้านไทย - [ 23 ก.ย. 50 08:27:49 A:202.57.174.114 X: TicketID:125394 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มาเพิ่มเติม สภาพแวดล้อมของปัญหาค่ะ องค์กรที่ว่านี่เป็น รัฐวิสาหกิจ  ซึ่งยังอยู่ในรูปแบบการให้เงินเดือนเป็น ขั้น อยู่  ปัจจุบัน ทุกรัฐวิสาหกิจจะถูกกระทรวงการคลังประเมินผลการดำเนินงาน โดยกระทรวงฯ จ้าง บริษัทนึง ชื่อ TRIS เป็นผู้ประเมิน   เขาก็ใช้รูปแบบการประเมินคือ KPI ที่มีการตกลงกันตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ  คะแนนประเมินผลตรงนี้เมื่อรวมกับผลประกอบการขององค์กร จะเป็นตัวกำหนดสิทธิ์ต่าง ๆ ที่องค์กรจะได้รับ เช่น  วงเงินเลื่อนเงินเดือน  วงเงินโบนัส   สิทธิ์ในการแต่งตั้งพนักงานระดับต่าง ๆ ฯลฯ   ตัวชี้วัดตัวหนึ่งที่ใช้วัด HR ของ รัฐวิสาหกิจคือ ต้องผลักดันให้เกิดการประเมินผลด้วย KPI ให้ได้ พนักงานที่องค์กรนี้ อายุเฉลี่ย 40  ปี ค่ะ คนเฉียด ๆ 1,000 คน   มีตั้งแต่นักการ ขึ้นไปถึงระดับ รอง TOP (เพราะระดับ TOP ต้องมาจากการสรรหา) มีสาขาประมาณ  30 กว่า ๆ วิชาชีพหลากหลาย ทั้งสังคมศาศตร์ทั่วไป  วิศวฯ  วิทยาศาสตร์  ช่าง ธุรการ พบว่าบางครั้งพนักงานธุรการเงินเดือนมากกว่าผอ. (เพราะอายุงาน)  แต่เนื้องานน้อยกว่าไม่รู้กี่เท่า  มันทำให้เกิดปัญหาในการบังคับบัญชาอย่างแรง นี่ล่ะค่ะ  ที่จะต้องทำ KPI ในองค์กรสมมุตินี้ จากคุณ : ปอปลาตัวกลม - [ 23 ก.ย. 50 10:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นปัญหาที่น่าสนใจมากครับ  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณ ปอปลาตากลม ขอเชิญนักวิชาการทั้งหลาย  โปรดมาแสดงความเห็นทั่วกันนะครับ  มิใช่แค่ เป็นเรื่องที่สมมุติขึ้นนาครับ  แต่นี่เป็นความเป็นความตายขององค์กร ที่คุณ ปอปลาตากลมต้องเผชิญอยู่ทีเดียว ขอวิธีการ  ที่นำไปปฏิบัติได้จริงๆ นะครับ  ไม่ใช่ทฤษฏีเฉย................... จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 23 ก.ย. 50 11:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จากโจทย์ที่ให้มา... ถ้าเป็นรัฐวิสาหกิจ แนวนโยบายก็ชัดเจนอยู่แล้ว อยู่ที่คนเป็น Head จะผลักดันองค์กรให้ก้าวต่อไป ซึ่งเป็นผู้ที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการที่จะนำ KPI มาใช้ การมีบริษัท ที่ปรึกษา ก็ขอฟังความเห็นที่ปรึกษา ว่าเขาจะว่าอย่างไร การปรับ โดยส่วนใหญ่ จะต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน มีการศึกษาถึง ผลสะท้อนที่จะเกิดขึ้นจาก พนักงาน อย่างชัดเจน และมีรายละเอียด อยู่แล้ว ซึ่งในขั้นตอน จะต้องมีขั้นการรับฟังความคิดเห็น เรื่อง ข้อดี ข้อเสีย ในการใช้ KPI ประโยชน์ที่ได้รับ รับฟังข้อโต้แย้ง หรือ ข้อจำกัด หลังจากนั้น ก็นำข้อมูลมาประเมิน ในการ implement ก็อาจทำเป็น workshop แยกเป็นกลุ่ม ๆ ก่อน การสื่อสารภายในองค์กรถือว่าสำคัญที่สุด นอกจากนี้ก็จะต้องคำนึง ถึงเรื่อง สหภาพแรงงาน รัฐวิสาหกิจแห่งนั้น ว่า เห็นด้วย หรือ ต่อต้าน ส่วนถ้ามีปัจจัยอื่น ( การเมือง ) เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขออนุญาตให้ข้อคิดเห็นเพียงเท่านี้ก่อน...... จากคุณ : ชาวบ้านไทย - [ 23 ก.ย. 50 13:09:29 A:202.57.174.114 X: TicketID:125394 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG - [ 23 ก.ย. 50 13:59:49 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาขอฟังเหมือนกันครับ จากคุณ : ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ - [ 23 ก.ย. 50 15:51:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จาก คคห. #3 เดาว่ารัฐวิสาหกิจ นั้นคือ ... การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) หรือเปล่า ?? ปล. สำหรับประเด็นตามหัวข้อกระทู้ จะมาร่วมแชร์ นะครับ ตอนนี้ขออนุญาตไปดูข่าวภาคค่ำ TITV ก่อนครับ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5806488/B5806488.html#320 จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 23 ก.ย. 50 19:11:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 วันนี้ญี่ปุ่น ได้ ว่าที่ นายกฯ คนใหม่ ชื่อ นายฟูกูดะ จากพรรค LDP ... เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียน ญี่ปุ่น (ข่าวภาคค่ำ TITV) นายกคนต่อไป ของประเทศไทย คือ ใคร ?? เท่าที่เห็นหน้าค่าตา Candidate ในปัจจุบัน ... ยังสงสัยอยู่ ฤา ... กรุงศรีอยุธยา ... จะสิ้นคนดี !! ตอนนี้ที่เข้าตาจริงๆ และอยากได้ท่านมาเป็นนายกฯ ก็คือ ... ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ แต่ความหวังค่อนข้างเลือนลาง ... ก็ได้แต่รอดูกันต่อไป นะครับ จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 23 ก.ย. 50 20:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เข้าสู่ประเด็นของหัวข้อกระทู้... จากคำถามของ คุณปอปลาตัวกลม (ทำไมไม่ตากลม ^_^) ในฐานะ HR จะเปลี่ยนระบบประเมินผลการปฏิบัติงาน ที่ใช้ ดุลพินิจของเจ้านายเพียงผู้เดียว  มาเป็นรูปแบบการใช้ ดัชนีชี้วัด  เราจะขาย ความคิดให้ลูกค้า(คือ เพื่อนพนักงาน)  ยอมมาใช้วิธีนี้ด้วยความเต็มใจได้อย่าง ไร   คำตอบง่ายนิดเดียวครับ ... ถ้าจะขายของ ต้องทำให้ลูกค้าเข้าใจ ถึง ... ประโยชน์และความคุ้มค่า (Value) โดยการเปรียบเทียบกับ ... การประเมินแบบ ดุลยพินิจของเจ้านายแต่เพียงผู้เดียว อธิบายได้ ดังแผนภาพ นี้ครับ ... แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 50 20:10:56 จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 23 ก.ย. 50 20:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จากแผนภาพ แนวแกน Y (แกนตั้ง) คือ KPI ซึ่งจะใช้การวัด (Measurement) แนวแกน X (แกนนอน) คือ Competency ซึ่งจะใช้การประเมิน (Evaluation) การวัดต่างจากการประเมินอย่างไร? เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น เปรียบเทียบกับถ้าเพื่อนเราบอกว่าเขารู้สึกเป็นไข้ไม่สบาย  ... หากเราใช้ เทอร์โมมิเตอร์ (ปรอทวัดไข้) เหน็บรักแร้เพื่อน แล้วผลของปรอทฯ บอกว่า เพื่อนเรามีอุณหภูมิ 38.5 องศาเซนเซียส แสดงว่ามีไข้ ... แบบนี้เรียกว่า การวัด (Measurement) แต่ถ้าเราใช้หลังมือของเราแตะหน้าผากแล้วรู้สึกว่า เพื่อนของเราตัวร้อน เราจึงประเมินว่าเป็นไข้  แบบนี้เรียกว่า วิธีการประเมิน (Evaluation) พอจะมองเห็นความแตกต่างของ การวัด VS การประเมิน (ดุลยพินิจ) นะครับ ดังนั้น KPI ที่ใช้ วัด ผลงาน (Key Performance Index)  ย่อมจะบอกได้อย่างชัดเจนว่า พนักงานผู้นี้มีผลงานอยู่ในระดับใด ...  (จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า คนทำงานดี ผลงานย่อมออกมาดี ... ไม่เกี่ยวกับ คะแนนพิสวาทของหัวหน้างาน หรือ ดุลยพินิจ ของเจ้านาย)  ยุติธรรมดีไหม ครับ ?? Competency ที่ใช้ประเมิน พฤติกรรมการทำงาน เช่น การใส่ใจต่อลูกค้า การทำงานเป็นทีม ความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน ฯลฯ ก็จะเป็นการช่วยให้การ พิจารณาพนักงานเหมาะสมยิ่งขึ้น เพราะถ้าหากทำงานผลงานดีเยี่ยม เช่น พนักงานขาย มียอดขายได้ตามเป้าหรือสูงกว่าเป้าการขาย แต่พฤติกรรมการทำงาน นั้น ไม่สามารถทำงานเป็นทีมได้ ก็จะได้รับคะแนนการประเมิน Competency ที่อยู่ในระดับต่ำ หากถ้า พนักงานของเรา ยกตัวอย่าง พนักงานขาย มี KPI เช่น ยอดขายทะลุเป้า ประกอบกับมี Competency อยู่ในระดับสูง เช่น การมุ่งมั่นทำเพื่อลูกค้า สามารถทำงานเป็นทีมได้ เป็นต้น   พนักงานขายผู้นั้นเมื่อนำ คะแนน KPI และ Competency มา Plot กราฟ ก็จะอยู่ในระดับพนักงาน ดาวเด่น (Rising Star) ซึ่งมีโอกาสได้รับการ Promote หรือ พัฒนาไปสู่ ระดับที่สูงขึ้น ต่อไป นะครับ โดยรวมแล้วประโยชน์ที่จะได้รับต่อตัวพนักงานเองและต่อองค์การ คือ เป็นระบบที่ชัดเจนและยุติธรรม อีกทั้งยังสะท้อนถึง ประสิทธิภาพและเป้าหมายขององค์การ ...  ครับ จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 23 ก.ย. 50 20:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เพื่อให้เข้าใจถึงที่มาที่ไป และประโยชน์ในภาพรวม ขออนุญาต ยกตัวอย่าง ที่ทำงานของผมนะครับ โดยปัจจุบัน องค์กรธุรกิจชั้นนำขนาดใหญ่มักจะมีระบบการวัดประเมินผลงานในรูปแบบต่างๆ          โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อควบคุมและติดตามผลการดำเนินงานทางธุรกิจ หนึ่งในรูปแบบการวัดประเมินผลงานที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน ก็คือ การบริหารผลการปฏิบัติงาน โดยการกำหนด ตัวชี้วัดผลงานหลัก” (Key Performance Indicatiors: KPIs)            การกำหนด KPIs  จะเริ่มต้นจากการกำหนดในระดับองค์กร โดยมากจะใช้แนวคิด Balanced Scorecard (BSC) มาเป็นแนวทางในการกระจายเป้าหมายสู่หน่วยงานระดับล่าง โดยจะต้องแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของวิสัยทัศน์ กลยุทธ์และป้าหมายในด้านต่าง ๆ ทั้ง 4 มุมมอง คือด้านการเงิน (Financial)  ด้านลูกค้า (Customer)  ด้านกระบวนการบริหารภายใน (Internal Business Process) และด้านการพัฒนาบุคลากร (Learning and Growth)            ทั้งนี้  การกำหนดตัวชี้วัดผลงานในระดับองค์กรนั้นถือได้ว่ามีความสำคัญเพราะเป็นจุดกำเนิดที่จะนำไปสู่การกำหนดตัวชี้วัดผลงานในระดับหน่วยงานและระดับตำแหน่งงานต่อไป (ณรงวิทย์  แสนทอง, 2545:94)          ความสำเร็จและความท้าทายของการนำ KPIs มาใช้ในการวัดประเมินผลงานนั้น ไม่ได้อยู่ที่ว่า องค์กรใด “มี” หรือ “ไม่มี” หากแต่ความเป็นจริงความสำคัญอยู่ที่ว่า การกำหนด KPIs เหล่านั้น สามารถขับเคลื่อนผลการทำงานของพนักงานไปสู่ผลลัพธ์สุดท้ายตามเป้าหมายที่องค์กรต้องการหรือไม่ หรือได้มากน้อยเพียงใด          ซึ่งประเด็นดังกล่าวนั้นขึ้นอยู่กับ “คุณภาพของ KPIs” ที่ตั้งขึ้นนั่นเอง ทั้งนี้ หากองค์กรใดสามารถกำหนด KPIs ในระดับหน่วยงานและตำแหน่งงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถถ่ายทอดและกระจายเป้าหมายลงสู่ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับ    ให้ร่วมกันปฏิบัติงานและสร้างผลงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายในภาพรวมขององค์กร          จากแนวคิดและความสำคัญของการกำหนด KPIs เพื่อให้ในการวัดประเมินผลงานดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้นำแนวคิดนี้มาใช้กับพนักงานทุกคนภายในบริษัทฯ ตั้งแต่ปี 2545 ผ่านทางระบบสารสนเทศเพื่อการประเมินผล (Performance Management Information System) โดยกำหนดให้ใช้ KPIs 2 ประเภท คือ ระดับหน่วยงาน และระดับองค์กร ซึ่งจะเป็นการกระจายเป้าหมายลงมาตามลำดับขั้นจากเป้าหมายและกลยุทธ์ในภาพรวมของบริษัทฯ ทั้งนี้ จะนำคะแนนที่ได้จากการวัดประเมิน KPIs  ดังกล่าวมาเป็นส่วนหนึ่งในคะแนนการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปี โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 ของคะแนนการประเมินทั้งหมด          จากการดำเนินการที่ผ่านมานั้น ก่อให้เกิดผลดีต่อบริษัทฯ ทั้งในแง่ของความมั่นใจและประสิทธิภาพในการวัดประเมินผลงานทั้งในระดับองค์กรและระดับบุคคล การนำผลการประเมินดังกล่าวไปเชื่อมโยงกับการจ่ายผลตอบแทนที่เป็นธรรมแก่พนักงาน ตลอดจนนำไปใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาผลการปฏิบัติงานในปีถัดไป จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 23 ก.ย. 50 20:44:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลุงแอ็ดเกรงว่า ถ้าจะไปถามอาจารย์ว่า How to implement KPI in the organization?  ก็กลัวแกจะเต๊ะ เอา  เพราะแกจะรีบสอนให้เสร็จๆ ยังเหลือมีมากโข  พอ จบเทอมนี้  ก็แสดงว่า  "เตรียมพร้อมสำหรับเป็นผู้บริหาร ระดับสูงสุดได้แล้ว"......เฮ้อ ---------------------------------------------------------------------------- ฮ่าๆ ครับ ลุงแอ๊ด ... กลัวอาจารย์ท่านจะสวนกลับมาซิครับ ประมาณว่า ... คุณถามผม แล้วผมจะถามใคร ?? ปล. ถ้าเจอคำถามประมาณนี้ ... ผมยินดีช่วยบรรยายให้ นะครับ (พูดโดยไม่กลัวโดนหมั่นใส้เลยนะครับ เนี่ย ) โดยจะนำตัวอย่าง การ Implements ในหลายๆ องค์กรทั้งของไทยและต่างประเทศ ไปช่วยแชร์ ... ติดต่อมาได้เลยครับ สำหรับลุงแอ๊ด ยินดีบรรยาย โดยไม่เก็บตังค์  เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา  ... จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 23 ก.ย. 50 20:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) ครับ ลุงแอ็ดดีใจเป็นอย่างยิ่งที่  ตอนนี้ลุงแอ็ดมีทีมวิทยากร....ที่จะสละเวลาช่วย ไปติวให้ห้องๆ ที่ราชภัฎหลายคนแล้วละครับ  เช่น  คุณ MiraSport  ขอติว วิชา IT,  คุณ ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) จะขอติววิชา Management ให้  และอีก หลายคน  เช่น  วิชาบรรณารักษณ์ศาสตร์  ยังขาด วิชา Maketing อีกวิชา หนึ่งครับ  ยังไม่มีผู้บรรยายสรุปให้  ลุงแอ็ดคิดว่าจะทำการสรุปวิชาที่เรียนมา ทั้งหมดให้น้องๆ เขาสัก 1 วัน  ก่อนจะสอบมิดเทอม   .....ใครมีปัญหา  ไม่ เข้าใจในเรื่องอะไร  ให้ถามจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะวิชา  สาขานั้นๆ ได้....ดี ไหมครับ นับว่าเป็นบุญกุศลแก่อนาคตของชาติโดยแท้ครับ http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B5806488/B5806488.html#331 จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 23 ก.ย. 50 21:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เทกแคร์ครับ หนีไปนอนก่อน ... แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 50 06:25:09 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 50 22:05:34 จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 23 ก.ย. 50 21:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณ คุณจูล่ง มากค่ะ  เข้าใจมากกว่าอ่านหนังสือหลายเล่มเลยค่ะ วันไหนลุงแอ๊ดติว ขออนุญาตไปนั่งฟังด้วยได้ไหมคะ  เพื่อเพิ่มเติมความรู้   หน่วยงานที่เดา  ถูกต้องนะคร๊าบบบบบบ จากคุณ : ปอปลาตัวกลม - [ 24 ก.ย. 50 08:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ยังขาด วิชา Maketing อีกวิชา หนึ่งครับ  ยังไม่มีผู้บรรยายสรุปให้  ลุงแอ็ดคิดว่าจะทำการสรุปวิชาที่เรียนมา ทั้งหมดให้น้องๆ เขาสัก 1 วัน  ก่อนจะสอบมิดเทอม """"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""" สวัสดีครับลุง แอ้ด วิชา Marketing Management ผมรับติวให้ก็ได้ครับ วันไหนก็ให้บอกมานะครับ จะดูตารางเวลาให้ครับ จะโทรมาก็ได้ครับ นพ^^0-899-244-123 จากคุณ : a little donkey (boonsiriPOWER) - [ 24 ก.ย. 50 10:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แหม....ขอบพระคุณจริงๆ ครับ คุณ a little donke (boonsiriPOWER) ที่มีความกรุณาแด่เด็กๆตัวน่อยๆ ที่น่าสงสารชาวราชภัฎทั้งหลาย.......... แล้วลุงแอ็ดจะนัดมาครับผม จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 24 ก.ย. 50 11:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอไปฟังด้วยคนได้ไหมค้า อยากฟัง marketing & management How 's about the EVA? HOw's benefit for the organization?? จากคุณ : @Nana-cute@ - [ 24 ก.ย. 50 19:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 EVA (Economic Value Added) เป็นตัววัดผลปฏิบัติงานที่ VBM (Value-Based-Management) นำมาใช้เป็นมาตรวัดด้านการเงินของผลตอบแทนและมูลค่าในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ๆ EVA จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิดของกำไรทางเศรษฐศาสตร์ (Economic Profit) ที่เรียกกันว่า “กำไรส่วนที่เหลือ” (Residual Income) ซึ่งกล่าวว่า... ความมั่งคั่งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อกิจการสามารถสร้างรายได้จนสามารถชดเชยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating Costs) และต้นทุนเงินทุน (Cost of Capital) ได้จนหมดสิ้น ... (อ่านแล้ว ห้าม งง นะครับ งง เดี๋ยวครูตี ^_^) ถ้าอธิบายต่อถึง ... HOw's benefit for the organization?? คราวนี้เรื่องยาวเลยครับ สรุปสั้นๆ ว่า EVA ทำหน้าที่เป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติโดยการเชื่อมโยงองค์ประกอบต่าง ๆ คือ ... การวางแผนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Planning) การจัดสรรทุน (Capital Allocation) งบประมาณดำเนินงาน (Operating Budgets) การวัดผลปฏิบัติงาน (Performance Measurement) ผลตอบแทนไปสู่ฝ่ายบริหาร (Management Compensation) การสื่อสารภายใน (Internal Communication) การสื่อสารภายนอก (External Communication) (กับตลาดทุน) หากจะให้กล่าวในเชิงการตลาดแล้ว นั้น ... EVA จะเป็นตัววัดมูลค่าตลาด (Market Value) ที่ดีกว่าเดิมโดย บันทึกรายจ่ายในการจัดองค์กรใหม่และรายจ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นพิเศษเป็นต้นทุนสินทรัพย์ ตัดรายได้และสินทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน (Nonoperating Income and Assets) ออกจากการคำนวณ บันทึกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินทุน (Capital Charge) บางส่วนเป็นต้นทุนสินทรัพย์ นะครับ อาจงงเล็กน้อยถึงปานกลาง ถ้าจะให้เข้าใจง่ายขึ้นจำเป็นต้องยกตัวอย่างประกอบ ... แต่ขี้เกียจพิมพ์แล้วอ่ะครับ ง่วงนอน ^_^ ปล.ฝันดีครับ ไปนอนก่อน จากคุณ : ดีอาร์ (๛จูล่ง๛) - [ 24 ก.ย. 50 22:40:41 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อยากจะขอแนะนำคุณปอปลาตัวกลม... ให้หา เรื่องราวเกี่ยวกับ "Managing Organization Changes" มาศึกษาดู หรือ อาจจะขอเข้าอบรมในหัวข้อนี้ก็ได้ เพราะการจะปรับเปลี่ยนอะไรที่สำคัญในองค์กร จะต้องระมัดระวัง สิ่งที่พวกฝรั่งเรียกว่า "Reluctant to Change" หรือ "ความกลัวในการเปลี่ยนแปลง" ในหนังสือหลายเล่ม จะบอกถึงวิธีการรับมือกับ ผู้ที่กลัวการเปลี่ยนแปลง การเตรียมตัวเตรียมใจ การโน้มน้าว และ การไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง จากคุณ : ชาวบ้านไทย - [ 25 ก.ย. 50 23:14:43 A:202.57.173.62 X: TicketID:125394 ]

ความคิดเห็นที่ 22 งานนี้ลุงแอ็ดมีผู้ช่วยติวหลายคนเลย ดีจังเลยค่ะ ทำไมตอนเรียนเปิ้ลไม่มีเพื่อนร่วมรุ่นเป็นลุงแอ็ดนะ ถ้าเป็นอย่างนั้น... งานนี้เปิ้ลคงได้ทั้งความรู้เชิงทฤษฎีและปฎิบัติพร้อมๆ กันไปแล้ว เสียดายจัง แต่ไม่เป็นไรค่ะ...ในเมื่อการเรียนรู้ไม่มีที่สิ่นสุด ขอลงชื่อไปร่วมคลาสด้วยคนนะคะ... ฝากลุงแอ็ดช่วยเตือนเปิ้ลด้วยนะคะ....^ - ^ จากคุณ : แมงปอในไร่ส้ม - [ 26 ก.ย. 50 07:44:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีค่ะ ลุงแอ๊ดและ เพื่อน  ๆ ชาวสีลม เข้ามาอ่าน แล้วอ่านอีก จากกระทู้แนะนำ สนุกมากๆ  และ ได้ แนวคิดในการใช้ชีวิต ดีมาก ๆ เลยค่ะ รู้สึกเลยว่า ลุงแอ๊ด เป็นคนขยันมาก ๆ  เลยนะคะ เวลาก็มีเท่าๆ กับทุกคน แต่สามารถ จัดการได้ดีจริงๆ ค่ะ .... เคยเป็นลุกศิษย์  ไปอบรมการขายของลุงด้วยนะคะ ประมาณปีที่แล้ว ตอนนี้ทำงานขายค่ะ ... เข้ามา ร่วมโหวตด้วยนะคะ ตอนนี้มีคำถามอยากจะรบกวนคุณลุงค่ะ ถ้าเรามีปัญหา ว่า นักขายหมดไฟ หรือไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเองจะทำอย่างไรดีคะ ... พูดง่าย ๆ  ท้อถอย เพราะทำไม่ถึงเป้าที่บริษัทตั้งให้น่ะค่ะ จากคุณ : sale-amoon (aji-mum) - [ 26 ก.ย. 50 15:12:31 ]