ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG - [ 25 ก.ย. 50 11:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณครับ ได้ความรู้อีกเยอะเลยครับ มีเกมให้โหลดไหมครับ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 12:06:15 จากคุณ : EDM - [ 25 ก.ย. 50 12:05:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^ มุมซ้ายตรงข้อมูลสมาชิก (MY PANTIP) มี gameroom มีหลายเกมส์ครับ รวมทั้ง go ด้วย แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 12:45:53 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 12:45:20 จากคุณ : ใบหูมังกร - [ 25 ก.ย. 50 12:45:00 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณครับ อย่าลืมลงตอนต่อไปนะครับ จะคอยติดตาม (น่าสนใจมากครับ) จากคุณ : ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ - [ 25 ก.ย. 50 12:50:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รออ่านต่อครับ.... จากคุณ : punfree - [ 25 ก.ย. 50 13:25:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอยคุณ คุณใบหูมังกรครับ จากคุณ : EDM - [ 25 ก.ย. 50 13:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ทั้ง 5 ท่านที่เข้ามาติดตามนะครับ  ผมจะค่อยๆ ต่อไปเรื่อยๆ เท่าที่ได้ศึกษามานะครับ  เกมหมากล้อมนี้ให้แง่คิดมากมายที่สามารถนำมาปรับใช้ได้กับชีวิตจริง  แต่คนที่ไม่เคยเล่น มองดูอาจงงๆ อยู่บ้าง แต่หากได้ลองเล่น  ก็จะเข้าใจได้ไม่ยาก  บรรดานักเล่นเกมประเภทนี้  ต่างเห็นตรงกันว่า  หมากล้อมนี้มีความเด่นกว่าหมากรุกในหลายๆ ด้าน  และด้านที่ผมเองเห็นได้ชัดก็คือ - หมากรุกเริ่มเกมจากการมีหมากอยู่เต็มกระดาน  แต่หมากล้อมเริ่มจากศูนย์  ซึ่งจะเหมือนกับชีวิตจริงของคนเรามากกว่า  ที่ต่างก็ล้วนต้องสร้างอะไรกันมาจากที่ไม่มีอะไรเลย   - และหมากล้อมนั้นทุกตัวจะเหมือนๆ กัน ไม่มีศักดิ์  เป็นม้า เป็นโคนอะไรทั้งสิ้น  การเอาชนะในหมากรุกต้องพิชิตขุนให้ได้  จึงจะเรียกว่าชนะ  ในขณะที่เกมหมากล้อมมีหลากหลากมุมมองมากกว่า  ผู้ที่เล่นป้องกันตนเองเก่ง(เล่นรับ)  ก็อาจเป็นฝ่ายชนะได้  อีกทั้งมักจะเป็นทักษะที่ดีกว่าสไตล์รุกด้วย ต่างฝ่ายต่างพยายามครอบครองพื้นที่ของตนเอง  ไม่ใช่เกมฆ่าฟันกันอย่างเดียว - หมากล้อมเป็นเกมที่เน้นภาพรวมเป็นหลัก  การชนะคือการเอาชนะในภาพรวม  ไม่ใช่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง  ทำให้เราต้องมองภาพทั้งหมด  ซึ่งเหมือนกับการทำธุรกิจไม่มีผิด  ที่ต้องเข้าใจภาพกว้าง - หมากล้อมสอนว่า ไม่มีใครที่ได้ทุกอย่าง  มีได้  ต้องมีเสีย  ไม่มีใครจะสามารถครองพื้นที่ได้หมดทั้งกระดาน  ต้องมีบางส่วนที่ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามได้ครอบครองบ้าง  แล้วเราก็เลือกพื้นที่เพียงให้เพียงพอที่จะชนะเท่านั้น  ไม่จำเป็นต้องพยายามไปยึดครองซะทุกพื้นที่  เรียกว่าต้องอาศัยการวางแผนเป็นอย่างดี  ไม่บุกสุ่มสี่สุ่มห้า แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 13:40:29 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 25 ก.ย. 50 13:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ในหมากล้อมมีบัญญัติเบื้องต้น 10 ประการ  เป็นทักษะในการเล่น  (ผมยังไม่ทราบว่ามีที่มาจากที่ใดนะครับ)  ซึ่งผมจะกล่าวถึงไปทีละข้อนะครับ และยังมีข้อปลีกย่อยลงไปอีกมาก  ซึ่งจะค่อยๆ ทยอยนำมาลงนะครับ 1. เล่น มุม ข้าง กลาง ตามลำดับ - การล้อมให้ได้พื้นที่นั้น  ต้องล้อมให้ได้เป็นวงรอบ  นอกจากขอบและมุมของกระดาน  ซึ่งจะเป็นตัวช่วยของเราได้  ไม่ต้องลงจนรอบ  (ดูจากรูปประกอบ)  ฉะนั้น  การได้พื้นที่ในบริเวณมุมนั้น  จะใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด  เรียกว่าลงทุนน้อยได้มาก  เช่น ปกติในการล้อมที่บริเวณกลางกระดาน  จะล้อมให้ได้พื้นที่ 12 แต้ม(ตามภาพประกอบด้านล่าง)  ต้องวางหมากล้อมเป็นวงถึง 18 ตัว ในขณะที่เมื่อเป็นมุม จะวางเพียง 8 ตัว แต่ได้แต้มเท่ากัน  และถ้าเป็นข้างกระดานก็จะต้องวาง 12 ตัว เรื่องนี้พิจารณาไปก็เปรียบเหมือนการเลือกธุรกิจ  ควรเลือกจากที่ลงทุนน้อย  ได้ผลกำไรมากที่สุด(ถ้าปัจจัยอื่นเอื้ออำนวยให้สามารถทำได้)  ถ้ามุมไม่ได้  ก็เลือกข้าง  และกลางกระดาน  จะเป็นตัวเลือกสุดท้าย 2. เดินหมากให้มีประโยชน์ 2 ทางเสมอ  เท่าที่ทำได้ - เช่น แทนที่จะวางหมากปกป้องสร้างอาณาเขตอย่างเดียว  อาจพิจารณาเดินหมากที่ทั้งสร้างอาณาเขต และรบกวนการสร้างอาณาเขตของคู่ต่อสู้ไปในคราวเดียว  นักหมากล้อมที่เก่งจะพยายามเดินหมากแบบนี้ให้ได้เกือบทุกตา  หมากล้อมจึงสอนให้เราเลือกทำสิ่งที่มีประสิทธิผลมากที่สุด  ทำ 1 ต้องได้สองเสมอ   ในทางธุรกิจ  ก็อาจหมายถึงการเลือกทำธุรกิจใหม่  ที่เอื้อประโยชน์กลับมาที่ธุรกิจเก่า  หรือเป็นการจับมือกับธุรกิจอื่น  ที่ก่อประโยชน์ร่วมกันหลายๆ ทาง  อันนี้ผมนำมาใช้มากทีเดียว  สอนให้คิดลึกซึ้งขึ้น  มองอะไรยาวๆ และหลากหลายมุมมากขึ้น * ฉะนั้น  เมื่อมีหลักคิดให้จับทาง จากจุดทั่วกระดานนับร้อยๆ จุด จะมีจุดที่ดีที่สุดอยู่เพียงจุดเดียวหรือไม่กี่จุดเท่านั้น  (เมื่อยังไม่มีหมากใดๆ จะมีทั้งหมด 19 x 19 = 361 จุด)  การจะล้อมสร้างกำแพง  ก็ทำได้หลายวิธีหลายจุด  แต่มีจุดที่ดีที่สุดอยู่เพียงจุดเดียว  แล้วงานของเราล่ะ  จุดที่ดีที่สุด  คือจุดใด ? แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 14:08:30 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 25 ก.ย. 50 14:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ฮืม เข้าท่ามากครับ สงสัยผมคงต้องหัดเล่นโกะบ้างแล้วละครับ จากคุณ : ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ - [ 25 ก.ย. 50 15:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เว็ปไซต์ของสมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทยครับ http://www.thaigo.org จากคุณ : maxijojo123 - [ 25 ก.ย. 50 15:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ลืมภาพประกอบครับใน # 8 ครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 25 ก.ย. 50 16:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ปกติผมเล่นด้วยโปรแกรม aya 5.99 ครับ  เพื่อนๆ พี่ๆ โหลดเกมได้ที่นี่ครับ http://www32.ocn.ne.jp/~yss/ แต่ได้ยินว่า โกะ คอมพิวเตอร์ยังห่างชั้นกับเซียนโกะตัวจริงมาก(ต่างจากหมากรุกคอมพิวเตอร์)  เพราะหมากล้อมมีสมการทางเลือกความแตกต่างของเกมมากกว่าหมากรุกมาก  แต่ก็เหมาะสำหรับการเริ่มต้นเล่นด้วยตนเองครับ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 17:21:47 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 17:19:21 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 25 ก.ย. 50 16:09:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มีที่โหลดแบบฟรีๆไหมครับ จากคุณ : punfree - [ 25 ก.ย. 50 16:41:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ้อ ขอโทษทีครับ แก้ไขให้แล้วครับ  อันที่แก้แล้วนี้  โหลดฟรีครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 25 ก.ย. 50 17:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอขอบคุณ คุณ maxijojo123 ด้วยครับ ผมเข้าไปแล้ว ในเวปของสมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทย ตามที่คุณให้มา ยอดเยี่ยมมากครับ มีการสอนขั้นตอนการเล่นเป็นเกมส์แบบง่ายๆ ให้ด้วย ถ้าให้ผมอ่านหนังสือ สงสัยจะเป็นเดือนๆ กว่าจะพอรู้เรื่อง แต่อันนี้แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น พอที่จะกล้าหัดสู้กับคอมฯ แล้ว (ขอให้ผู้สนใจเข้าไปดูด้วยนะครับ แนะนำ*****)  http://www.thaigo.org และสามารถดาวน์โหลดเกมส์โกะได้ที่นี่เลยครับ - มีหลายโปรแกรม แต่ไม่มี Aya ที่คุณ Jimmy Walker แนะนำมาครับ (**มีเล่น online ด้วย แต่ผมยังไม่ได้เข้าไปลองเล่นดูครับ) ขอขอบคุณคุณ Jimmy Walker ด้วยอีกคนนึงครับ ** ผิดกฏที่ห้องสีลมหรือเปล่าหว่า ** แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 50 17:37:02 จากคุณ : ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ - [ 25 ก.ย. 50 17:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เคยพยายามลองเล่น แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องกับเขาน่ะครับ จากคุณ : ป้อม (Bgate) - [ 25 ก.ย. 50 21:15:54 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบเล่นหมากล้อมค่ะ แต่เล่นไม่เก่ง  แม้ว่ามีตำราโกะหลายเล่มก็ตาม แหะๆ แต่ชอบตอนพี่จิมมี่เปรียบเทียบกับธุรกิจ เห็นภาพชัดดีค่ะ จากคุณ : ดอกไม้ในฤดูฝน - [ 25 ก.ย. 50 22:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตามมารออีก 8 ข้อที่เหลือขอรับ จากคุณ : Jiang wei - [ 25 ก.ย. 50 22:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตามมาอ่านเพราะเห็นชื่อคุณจขกท :) Go มันยาก ส่วนหนึ่งเพราะว่าหมากหนึ่งหมากส่งผลโดยรวมต่อกระดานใหญ่ ซึ่งเป็นกระดานใหญ่มาก จนต้องกระจายกองกำลัง หนึ่งหมากที่วางไว้ตาเดินที่สามแบบไร้ค่า ไม่ได้ใส่ใจ อาจจะส่งผลช่วงท้ายกระดานแบบคาดไม่ถึง ซึ่งหมากรุกไม่มีตรงนี้ ถ้าใครได้ลองเล่น Go จะรู้ครับว่า การขยายขนาดตารางเพิ่มขึ้นเท่าตัว ความยากจะเพิ่มสองเท่า เมื่อขยายสามเท่าจะยากขึ้นสี่เท่า เมื่อขยายสี่เท่าจะยากขึ้นแปดเท่า แล้วก็ Resign ล้มกระดาน :D จากคุณ : cookiecompany - [ 25 ก.ย. 50 23:43:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20   good idea จากคุณ : ~!!!~ Romantic Blue ~!!!~ - [ 26 ก.ย. 50 01:09:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านเพิ่มเติม  จะพยายามเล่าต่อและเปรียบเทียบกับธุรกิจเท่าที่ผมเองมองเห็นนะครับ ใช่แล้วครับท่านผู้เฒ่าไม่ยอมแก่  เวบของสมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทย  มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆ  สอนทั้งหลักการ แนวคิด  และวิธีการเล่นในระดับลึกพอสมควร(สำหรับผู้เริ่มเล่น)  ซึ่งที่นี่ก็เป็นแหล่งข้อมูลแหล่งหนึ่งที่ผมเข้าไปศึกษาอยู่ครับ และมีอีก 2 เวบหลักๆ ที่ผมเข้าไปอ่านๆ อยู่ดังนี้ครับ  เผื่อใครจะเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมครับ http://www.goe-tc.com/ http://361points.com/lessons/ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 26 ก.ย. 50 05:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 *** ก่อนต่อบัญญัติข้อต่อไป  ขออธิบายเพิ่มเติมสักนิดนะครับ   ในเกมหมากล้อมอาจยังมีกฎหรือหลักที่เป็นการต่อสู้ที่ต้องโจมตีคู่แข่งอยู่บ้าง  ซึ่งจะเหมาะกับธุรที่มีคู่แข่งชัดเจน  เช่นในธุรกิจใหญ่ๆ  แต่ในธุรกิจเล็กๆ ซึ่งอาจไม่มีคู่แข่งชัดเจน(เพราะมีมากราย)  ก็ควรเน้นไปที่ยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งให้ตัวเองเป็นหลักครับ บัญญัติหมากล้อม ข้อที่ 3 วางสองหาห่างๆ กัน บนเส้น 3 หรือเส้น 4 - วางสองขาห่างๆ กัน คือการกางขาสร้างอิทธิพลให้เป็นพื้นที่ของหมากเรา  ไม่ให้ศัตรูเข้ามาบุกได้ง่ายๆ ส่วนเส้น 3 และ 4 นั้น เป็นเส้นสมดุลย์ที่ไม่ใหญ่เกินไปจนถูกโจมตีได้ง่าย  หรือเล็กเกินไปจะไม่คุ้มค่า การวางหมากในช่วงแรก  ผู้ทำธุรกิจควรมองหาพื้นที่ว่างๆ ซึ่งในภาษาทำธุรกิจอาจเรียกว่า ช่องว่างทางการตลาด  แล้ววางหมากลงไป  โดยแน่นอนว่า ช่องว่างนั้น  ต้องใหญ่พอสมควร  แต่การโลภมาก  กางขาใหญ่เกินไปเหมือนวางจุดขายกว้างมากเกินไป  เพื่อจะจับลูกค้าหลายๆ กลุ่ม  ก็อาจทำให้มีจุดอ่อนถูกคู่แข่งโจมตีได้ในภายหลัง  แต่การจับกลุ่มที่แคบเกินไป  วางหมากเริ่มต้นที่เส้น 2 แม้ศัตรูจะจู่โจมได้ยาก  แต่เราก็แทบจะไม่ได้อะไรเลยครับ ข้อที่ 4 งานด่วนมาก่อนงานใหญ่ ดังที่เคยกล่าวไปแล้วครับ  ต้องทำงานด่วนที่เข้ามาก่อนเสมอ  แล้วพยายามทำงานด่วนให้เสร็จ (ปกป้องบ้านแต่ละหลังที่ถูกโจมตี) เสร็จแล้วรีบไปทำงานใหญ่ต่อ(วางหมากสร้างอิทธิพลในวงกว้าง) กรณีนี้ก็มีผู้เริ่มธุรกิจหลายๆ คนที่เป็นมือใหม่  มักจะคิดอะไรกว้างเกินไปก็มี  คือ ทำงานกระจัดกระจาย  วางหมากกระจายไปทั่วทุกทิศทาง  โดยขาดความเข้มแข็งเป็นส่วนๆ  สุดท้ายเลยจับอะไรไม่ได้เลย  ต้องหาธุรกิจที่เป็นที่มั่นให้ได้ก่อน แล้วจึงขยายต่อไป ********************************** ขอแทรกด้วยหลักคิดที่จะเข้ากับกฎสองข้อนี้นะครับ - วิธีเล่นหมากล้อม  มีหลักสอนอยู่อันหนึ่งว่า  "วางหมากตามรูปร่างลักษณะ"  ซึ่งหมายถึงการวางโครงร่างให้ดี มีพื้นที่อยู่ภายใน  ไม่บิดเบี้ยวหรือถูกตัดให้แตกกระจายได้ง่าย  รวมทั้งหมากล้อมจะมีสูตรสำเร็จเบื้องต้นให้จดจำที่เรียกว่า Joseki ประมวลสองข้อนี้แล้ว  ผมคิดว่าก็เหมือนกับการเริ่มทำธุรกิจ  บางทีเราก็ต้องรู้หลัก  หรือสูตรสำเร็จเบื้องต้นไว้เหมือนกัน  เป็นทฤษฎีหรือแนวทางเบื้องต้น  ส่วนรูปร่างลักษณะนั้น  ผมขอเปรียบเทียบว่าเหมือนกับโครงร่างที่มั่นคง  ที่ผมเคยเขียนไว้นานแล้วเรื่อง ทฤษฎี 3 ขา คือ 1. Know How  2. ทุน  3. Key to Success  ถ้าเริ่มธุรกิจโดยมีรูปร่าง  โครงร่างไม่ดีตั้งแต่เริ่มต้น  โอกาสล้มเหลวก็จะง่ายมาก  การวางหมากสร้างบ้าน  จึงต้องวางโครงร่างที่ดีไว้แต่แรกครับ ************************************** * จำได้ว่าคุณ Forever in Love เคยคุยกับผมว่า อาจารย์หมากล้อมของคุณ Forever เป็นคนบัญญัติหลัก 10 ประการนี้  แต่ผมเองไม่แน่ใจ  น่าจะมีส่วนจริง  แต่ต้องให้คุณ Forever มาช่วยเล่าต่อ  ซึ่งในเวบของต่างประเทศที่ผมไปหาอ่านข้อมูล  ก็ไม่เห็นมีหลัก 10 ข้อนี้สอนอยู่ แต่ในเวบของไทยนี่มีบอกอยู่ในหลายๆ เวบครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 06:24:51 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 26 ก.ย. 50 06:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 นอกจากวางหมากกางขาสร้างพื้นที่ในหลายๆ พื้นที่แล้ว  ผู้เล่นจะต้องวางทิศทางการเล่น (Direction of Play)  ให้ชัดเจน  เริ่มเน้นไปที่พื้นที่ที่ตนมีอิทธิพลหนาแน่น  ส่วนพื้นที่ที่คู่ต่อสู้มีอิทธิพลหนาแน่น  ควรลดบทบาทลง  เรียกว่า Direction of Play หลักข้อนี้  ก็เปรียบเหมือนว่า  เมื่อแรกที่เราไขว่ขว้าหาแนวทางในการทำธุรกิจกระจายๆ ไปทุกทิศทาง  แต่สักพักหนึ่งก็จะเกิดงานขึ้นบ้าง  และเมื่อมีงานมากๆ เข้า  เราก็ต้องเริ่มที่จะเลือกงานหรือธุรกิจที่ตนเองถนัด หรือตนเองมีปัจจัยแวดล้อมอำนวยให้ทำได้ดีกว่าอย่างอื่น  หมากต่อๆ ไป เราก็จะเน้นไปที่แนวทางนั้น  เรียกว่าต้องมี Direction of Play  ทำธุรกิจต้องมีทิศทางครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 26 ก.ย. 50 06:19:14 ]

ความคิดเห็นที่ 24 โหวตให้แล้วนะครับ เป็นแนวคิดที่ดีเลยล่ะครับ ขอมาร่วมแจมไอเดียหน่อยก็แล้วกัน อย่างที่ทราบว่าเครือซีพีนี่ชอบเหลือเกินในการใช้กลยุทธ์หมากล้อมในการทำธุรกิจ ผมขอยกตัวอย่าง บริษัท TRUE มาประกอบหัวข้อของ จขกท และอยากให้เพื่อนๆเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติมนะครับ เพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ ผมขอแบ่งเป็น 3 ช่วงก็แล้วกันนะครับ คือ TA(Telecomasia), TA Orange และ TRUE บริษัทนี้เริ่มมาจาก Telecom Asia เริ่มเข้ามาในธุรกิจโทรคมนาคมโดยทำธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานและ PCT ก็อย่างที่ทราบว่าไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่แนวคิดในการเริ่มทำธุรกิจนั้นก็ต้องบอกว่ามี potential พอสมควร เพราะในส่วนของโทรศัพท์พื้นฐานนั้น TOT ยังมีจุดอ่อนให้โจมตีอยู่เยอะ ตลาดก็สามารถขยายได้มากทั้งกทม และตจว ช่วงนี้เหมือนการวางหมากในพื้นที่ๆคู่ต่อสู้ไม่เข้มแข็ง และมีพื้นที่เปิดกว้างมาก และ PCT ก็เป็นจุดต่อยอดขึ้นมาโดยวาง position แข่งกับธุรกิจมือถือที่ตลาดกำลังเติบโต โดยสามารถใช้ฐานลูกค้าของโทรศัพท์พื้นฐานที่มีอยู่ รวมถึงเกื้อกูลธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานด้วย เพราะถ้าคนอยากใช้ PCT ก็แน่นอนว่าต้องไปขอเบอร์โทรศัพท์บ้านของ TA ซึ่งถ้าเปรียบกับการวางหมากก็เหมือนกับการวางหมากตัวเดียว ได้ประโยชน์ 2 ทาง คือเพื่อสร้างพื้นที่เพิ่ม รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเดิมด้วย จุดพลาดของ TA มีเพียงจุดเดียวคือ technology ไม่สามารถรองรับการใช้งานที่เหมาะสมได้ ทำให้ธุรกิจ PCT ที่วางมาเสียหายไปเกือบหมด ถ้าเปรียบในกระดานโกะ ก็เหมือนกับวางหมากตาสำคัญผิดพลาดครั้งใหญ่ ทำให้ตกอยู่สถานการณ์เลวร้าย พื้นที่ๆพยายามสร้างมาทั้งหมดโดนคู่ต่อสู้กินไปเรื่อยๆ จนต้องเกือบพ่ายแพ้ทั้งกระดาน สอนให้รู้ว่านอกจากกลยุทธ์ดี เทคนิคดีแล้ว ยังต้องมีความรอบคอบด้วยครับ (เดี๋ยวมาต่อครับ) แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 08:51:41 จากคุณ : s7014249 - [ 26 ก.ย. 50 08:44:35 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มาถึงช่วงที่ 2 ก็คือ TA Orange เมื่อ PCT ไม่เวิร์ก ก็ต้องมีการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ โดยไปจับมือพันธมิตรจาก ตปท อย่าง Orange เข้ามาลุยตลาดมือถือ เนื่องจากตลาดก็ยังเติบโตได้อีก การจับมือพันธมิตรเข้ามา ก็เพราะว่าเจ้าตลาดที่มีอยู่อย่าง AIS และ DTAC ครองพื้นที่เดิมอยู่อย่างเข้มแข็งแล้ว การจะไปวางหมากของเราโดยเริ่มนับหนึ่งดูจะสายไปซะแล้ว ก็ต้องหาพันธมิตรที่มีทั้ง Know How และเงินทุน โดย strengten กับความชำนาญในการทำตลาดที่ตัวเองมีอยู่มาสู้ (ตรงนี้อาจไม่มีในโกะ เพราะเราไม่สามารถไปยืมหมากบุคคลที่ 3 มาใช้ได้ แต่ในธุรกิจจริงมันไม่มีข้อจำกัดในด้านกติกา) ก็อย่างที่ทราบ การดำเนินธุรกิจของ TA Orange เป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องตัดราคาแข่งกับเจ้าตลาดเก่าอย่างหนัก เรียกว่า agressive สุดๆเหมือนกัน ถ้าเปรียบในกระดานโกะ ก็เหมือนกับพยายามวางหมากฝ่าวงล้อมคู่ต่อสู้ที่เข้มแข็งอยู่แล้ว การสร้างพื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก พื้นที่ๆได้มาก็น้อย แต่ด้วยความที่ตลาดมันยังขยายอยู่ ทำให้ก็ยังพอมีฐานลูกค้าที่สร้างมาได้ส่วนหนึ่ง (นี่ก็อีกเช่นกันครับ ตารางโกะขยายไม่ได้ แต่ในธุรกิจจริง ตลาดสามารถเติบโตได้) พอดำเนินธุรกิจไปได้ซักพักใหญ่ๆ ตลาดเริ่มเปลี่ยน เพราะรายได้จาก voice call มันเริ่มอิ่มตัว ในขณะที่รายได้จาก content และบริการเสริมเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทก็เริ่มจะวางหมากที่จะเชื่อมพื้นที่เดิมที่บริษัทมีอยู่กับธุรกิจมือถือ นั่นก็คือธุรกิจ internet ที่สามารถใช้ฐานลูกค้าและทรัพยากรของธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานได้ จากคุณ : s7014249 - [ 26 ก.ย. 50 09:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 . แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 10:03:46 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 09:34:44 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 26 ก.ย. 50 09:16:51 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาถึงยุคที่ 3 TRUE ก็เริ่มขยายพื้นที่ใหม่โดยเปลี่ยนเอา UBC เดิมมาเป็นธุรกิจที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งและขยายพื้นที่ โดยสรุปตอนนี้ TRUE มีธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานที่ต้องมีการเดินสายโทรศัพท์ มีตู้ชุมสาย มีธุรกิจ internet ที่สามารถใช้ทรัพยากรร่วมกับธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐานได้ มีธุรกิจมือถือ ที่ไม่ต้องมีการวางสาย แต่ใช้ส่งสัญญาณทางคลื่นในอากาศ มีธุรกิจเคเบิลทีวี ที่ออกอากาศโดยคลื่นในอากาศก็ได้ ใช้เคเบิลก็ได้ รวมทั้งเป็นสื่อที่เข้าถึงผู้ชม สามารถใช้ประชาสัมพันธ์ธุรกิจของตัวเอง และขยายรายได้เพิ่มเติมได้ (ยกตัวอย่างเช่นการโหวตทั้งหลายด้วย sms) 4 ธุรกิจที่กล่าวมา ในหลายประเทศก็มีบริษัทใหญ่ๆ ที่ให้บริการครบครัน โดยต่อไป ถ้า TRUE เจ๋งพอที่จะวางเครือข่าย optic fiber เชื่อมทั่วประเทศ และให้ content, voice, data ทั้งหมดไปวิ่งอยู่ในนั้น ก็จะสามารถให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน internet และ เคเบิลทีวี ผ่านสายเส้นเดียวกันได้ และสามารถขยายธุรกิจโทรศัพท์มือถือออกไปได้อีก ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นต่างๆที่เกื้อหนุนกันและกัน นอกจากนั้นก็สามารถลดค่าใช้จ่ายต่างๆได้อีกมากมายด้วย เช่น พนักงานสามารถใช้ร่วมกันได้ในบางส่วนเช่น call center, ทีมสำรวจติดตั้ง, จำนวนศูนย์บริการ, การรวม billing ของธุรกิจต่างๆร่วมกัน ถ้าเปรียบในกระดานโกะ ก็เหมือนกับการวางธุรกิจให้ครอบคลุมพื้นที่ก่อน โดยหมากแต่ละตัวที่วางจะค่อยๆสร้างพื้นที่ กินพื้นที่คู่ต่อสู้ เสริมสร้างเกื้อหนุนหมากที่วางไว้อยู่แล้ว และเริ่มเชื่อมพื้นที่ต่างๆที่สร้างไว้เข้าด้วยกัน ณ ปัจจุบัน ผมก็เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้วครับว่าหมากกระดานนี้เค้าเดินไปทางไหน เพราะการมีทั้ง infrastructure และ media อยู่ในมือนี้มันสุดๆแล้ว จากนี้ไปผมว่า TRUE จะต้องเริ่มสร้างความแข็งแกร่งให้กับพื้นที่ตัวเอง (ต้องเริ่มทำกำไร เพราะปัจจุบันหนี้ก็เยอะ แถมขาดทุนอยู่ด้วย) ในขณะเดียวกันก็ต้องมองหาโอกาสขยายพื้นที่ตัวเองต่อยอดจากที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น pay per view ของเคเบิ้ลทีวี การดูโทรทัศน์จากมือถือ (เมื่อเมืองไทยเข้าสู่ 3G เต็มตัว) เกมส์ online ต่างๆ ธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ GPS ธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกล้องวงจรปิดที่สามารถส่งสัญญาณมาให้ดูภาพในมือถือได้ และอื่นๆอีกมากมายครับ จากคุณ : s7014249 - [ 26 ก.ย. 50 09:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอโหวตนะคะ จะได้หาง่ายๆ จากคุณ : สาวน้อยร้อยแปด - [ 26 ก.ย. 50 09:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณคุณ s7014249 มากครับที่ช่วยโหวต และเสริมประเด็นที่มีประโยชน์อีกมากมาย  รวมทั้งขออภัยที่แทรกกระทู้โดยไม่ตั้งใจ     เลยย้ายมาเป็นอันนี้เพื่ออรรถรสในการอ่านของท่านอื่นๆ ครับ ขอบคุณคุณสาวน้อยร้อยแปดด้วยครับที่รวมโหวตอีกคน  ทานอื่นที่เล่นโกะอยู่แล้ว ร่วมแชร์ความเห็นหรือประสบการณ์กันได้นะครับ *********************************** ดังที่กล่าวไปแล้ว ว่าการจะนำหลักของโกะไปใช้ในธุรกิจนั้น  ต้องตีความได้ถูกต้อง  รวมทั้งเข้าใจเรื่องของธุรกิจพอที่จะปรับโยงสองเรื่องเข้าด้วยกันได้  คนเล่นโกะที่ปรับให้เข้ากับธุรกิจไม่ได้  หรือมองผิดมุม  ก็อาจทำให้วางนโยบายผิดได้  และผมคิดว่าความผิดพลาดจากนักธุรกิจที่เล่นโกะเก่งแล้ว  แต่ยังวางหมากผิดพลาดจะเกิดขึ้นจาก 3 สาเหตุ(เท่าที่ผมคิดเอง) 1. ไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือความอยากได้   เช่น อยากทำธุรกิจโดยใช้อารมณ์ความชอบส่วนตัว(แม้ว่าจะไม่ปัจจัยพร้อม)  อยากครองดินแดนใหญ่ๆ  อยากรวยเร็วๆ   ซึ่งหมากล้อมจะสอนให้เราต้องควบคุมอารมณ์ และความอยากให้มากที่สุด  คนที่เล่นเก่ง  เล่นและวางหมากตามเหตุผล  ห้ามอยากจับกิน(เพราะสนุก)  ห้ามเอาแต่ตั้งรับ(เพราะขี้ขลาด)  แต่ต้องพิจารณาทุกอย่างโดยปราศจากอารมณ์  และมองภาพรวมเป็นหลัก  มองหาจุดที่ดีที่สุดที่จะเดิน 2. มองไม่รอบคอบ (ด้วยฝีมือหรือเหตุใดก็ตาม) คือ บางครั้งคิดว่าตนเองกำลังดำเนินการตามหลักของหมากล้อมข้อหนึ่ง แต่กลับกำลังทำผิดหลักอีกข้อหนึ่งโดยไม่รู้ตัว  หรือหลงลืม  หมากล้อมจึงยากตรงที่ต้องสร้างความสมดุลย์ในหลายๆ ด้านไปพร้อมๆ กัน   3. ปัญหาด้านกลวิธี หรือ Tactic ดังที่กล่าวไปแล้วว่า สิ่งที่เหมือนกันระหว่างหมากล้อมกับธุรกิจคือ กลยุทธ์ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ กลวิธีหรือ Tactic คนที่จะเล่นหมากล้อมให้เก่งต้องเรียนรู้tactic ของหมากล้อม  ส่วนนักหมากล้อมที่จะมาทำธุรกิจต้องเรียนรู้tactic ของธุรกิจ เช่น หลักการตลาด การขาย  ฯลฯ  ซึ่งเป็นเรื่องทางธุรกิจ  ที่นักหมากล้อมบางคนไม่รู้ ฉะนั้นการเก่งกลยุทธ์จึงยังไม่เพียงพอ  ถ้ากลยุทธ์ดี แต่กลวิธีไม่เชี่ยวชาญ  ก็แพ้ได้  วางหมากต้นเกมไว้ดี  พอกลางเกม  เอาชนะในแต่ละสมรภูมิย่อยไม่ได้  ก็ต้องแพ้ทั้งกระดาน  หมากล้อมจึงสอนเฉพาะกลยุทธ์  ส่วนกลวิธีหรือ Tactic ต้องมาเรียนรู้ด้วยการศึกษาทางด้านธุรกิจครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 10:07:13 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 26 ก.ย. 50 10:03:24 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นหลักการที่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ แต่ก็ยังไม่เคยศึกษารายละเอียดซักที ขอบคุณพี่ Jimmy Walker มานะคะ ที่นำเรื่องดีๆ อย่างนี้มาฝากพวกเรากัน ให้ 1 โหวตค่ะ... เพราะอยากให้หาง่ายๆ เหมือนพี่สาวน้อยร้อยแปดเลย ^ -^ จากคุณ : แมงปอในไร่ส้ม - [ 26 ก.ย. 50 13:50:43 ]

ความคิดเห็นที่ 31 กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ดีที่สุด เท่าที่เคยอ่านมาในพันทิพเลย ขอบคุณเจ้าของกระทู้ และทุกความคิดเห็น ขอบคุณจริง ๆ จากคุณ : samporndanai - [ 26 ก.ย. 50 14:18:08 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เป็นประโยชน์มาก ๆ เลย ขอบคุณมากๆ ค่ะ(^/\^) จากคุณ : ขนมจุ๊บ - [ 26 ก.ย. 50 15:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณ คุณ Jimmy Walker  สําหรับแนวความคิดดีๆน่ะครับ จากคุณ : Drace - [ 26 ก.ย. 50 15:43:11 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ดีใจที่หลายๆ ท่านชอบกระทู้นะครับ   และขอบคุณสำหรับคำชมด้วยครับ หรือหากจะมีใครติบ้าง  ก็ยินดีรับฟังนะครับ *************************** บัญญัติข้อที่ 5-9 จะมีลักษณะในเชิงแข่งขันกับคู่แข่ง จึงอาจจะนำไปใช้ได้น้อย  สำหรับธุรกิจที่ไม่ใหญ่นัก จึงจะขอข้ามไปก่อนนะครับ  ถ้าใครสนใจ  จะขอนำมา กล่าวถึงในภายหลังอีกที  แต่ข้อสุดท้ายนี่น่าสนใจครับ   บัญญัติข้อที่ 10 เดินให้มีทางออกอย่างน้อย 2 ทาง - หมากล้อมจะสอนให้ทำสิ่งที่มีทางออก  หรือทางเลือกอย่างน้อย สองทางเสมอ  การมีทางออก(หรือลมหายใจ) ทางเดียว อาจทำให้ตายได้ง่าย เมื่อถูกโจมตีอุดลมหายใจนั้น และการเดินลดลมหายใจตัวเอง  ยิ่งเป็นทางเลือกที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ถ้ากลุ่มหมากใด เหลือลมหายใจเดียว  ต้องรีบต่อหมาก ให้มี 2 มี 3 ลมหายใจทันที ในทางธุรกิจ  เราก็ควรจะมีทางเลือกของเราหลายๆ ทาง   ไม่ควรมีลูกค้ารายใหญ่ๆ เพียงรายเดียว หรือสองราย เพื่อที่หากเกิดอะไรขึ้น(เรื่องที่ไม่น่าเกิด อาจเกิดขึ้นได้เสมอ) บริษัทจะไม่กระทบมาก  ถ้าปัจจุบันมีลูกค้าประจำรายเดียว ก็อย่าประมาท  ต้องรีบหาทางเลือกให้กับธุรกิจเสมอครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 26 ก.ย. 50 16:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 35 กลับมาที่หลักเบื้องต้นของแนวคิดหมากล้อมนะครับ แค่เพียงหมากตัวเดียวก็ให้แนวคิดได้แล้วครับ หมาก 1 ตัว มี 4 ลมหายใจ (4 ทางออกรอบตัวเอง) ถ้าถูกล้อมโดยฝ่ายตรงข้ามทั้ง 4 ด้าน หมากจะถูกกิน แต่หมากต่อกัน 2 ตัว  จะมี 6 ลมหายใจ และหากต่อกัน 3 ตัวจะมี 8 ลมหายใจ เพิ่มไปเรื่อยๆ ดูเผินๆ ถ้า 8 ตัวแยกกันอยู่  จะมี 32 ลมหายใจ   แต่ว่าแต่ละตัวจะถูกจับกินได้ง่ายมาก   หมากที่ยิ่งต่อกันมาก  ก็จะยิ่งมีความเข้มแข็งมาก และผู้ชนะในหมากล้อมก็คือ ผู้ที่สร้างความเข้มแข็ง จากการต่อหมากจนเป็นบ้าน เป็นเมือง เป็นกำแพงนี่เอง หากมองในทางธุรกิจ  มันก็คือ คอนเนคชั่นที่เข้มแข็งครับ ในธุรกิจ  ใครมีคอนเนคชั่นมาก  โอกาสที่กลุ่มจะรอดย่อมมีมาก ในขณะที่หมากโดดเดี่ยว  ย่อมมีโอกาสพ่ายแพ้หรือถูกจับกินได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะที่เมื่อธุรกิจยังเป็นหมากเม็ดเดียวจริงๆ คือ ธุรกิจยังเล็กมาก นี่คือ แนวคิดที่เหมือนกับการทำธุรกิจมากๆ นะครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 26 ก.ย. 50 16:21:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณมากๆครับ สุดยอดมากเลย จากคุณ : Icke (Icke) - [ 26 ก.ย. 50 16:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 37 มาติดตามอ่านต่อ กระทู้พี่จิมมี่กลายเป็นกระทู้แนะนำไปแล้ว อิอิ ดีจัง จะได้หาอ่านง่ายขึ้น ธุรกิจที่จะอยู่ในวงการได้อย่างยาวนาน ก็ต้องมีความเข้มแข็งอย่างมาก ถ้าพูดถึงคอนเนคชั่นที่มี เป็นการผนึกกำลังกัน ทำให้ธุรกิจเข้มแข็งอยู่รอดได้มากขึ้น ธุรกิจนึงแทนตัวหมากตัวนึง เมื่อผนึกกำลังเป็นพันธมิตรกัน ก็ทำให้เป็นองค์กรที่ใหญ่ขึ้นและเติบโตขึ้น เอ...จะลิ้งถึง Blue Ocean Stratgies ได้มั้ยคะ (เกี่ยวกันมั้ย) จากคุณ : ดอกไม้ในฤดูฝน - [ 26 ก.ย. 50 22:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาดู ... เข้ามาอ่าน ... อีกรอบ ... จากคุณ : D_YONG - [ 26 ก.ย. 50 23:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อ่านแล้วลายตา.....แต่เข้าใจครับ --------------------------------- ให้ความคิด เพิ่มขึ้นเมื่อได้อ่าน ความคิดแยกแตกขึ้น อีกหนึ่งแขนง ต่อยอด สร้างใบ ให้ชีวิต......... ---------------------------- ยอดเยี่ยมครับ กระทู้นี้  ขอโหวต จากคุณ : per@ping - [ 27 ก.ย. 50 00:44:16 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ++++++++++++++++++ สวัสดีค่ะ คุณ Jimmy แวะมาลงชื่อ ..โหวต แต่ขอกลับมาอ่านพรุ่งนี้ค่ะ ไม่ได้เข้า pantip หลายวันเลย เกือบพลาดกระทู้นี้เสียแล้ว .. ^_^ จากคุณ : Forever In LoVE - [ 27 ก.ย. 50 01:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สวัสดีทุกคนอีกครั้ง  และสวัสดีคุณ Forever In Love ด้วยครับ   กำลังถามถึงอยู่พอดีเลย  ช่วยตอบคำถามที่ถามไว้ด้วยนะครับ  : ) คุณดอกไม้ในฤดูฝนครับ  Blue Ocean Stratgies ก็มีอยู่ในช่วงต้นเกมครับ ที่ผู้เล่นต้องเลือกพื้นที่ที่ใหญ่  และยังไม่มีใครครอบครองดินแดนชัดเจน หรือยังไม่มีอิทธิพลหนาแน่น  แล้วรียชิงลงไปสร้างอิทธิพลในดินแดนนั้น อันนี้น่าจะใช่ Blue Ocean Stratgies นะครับ ส่วนการต่อหมาก  เรียกว่าการสร้างความหนาแน่น (Thickness) เป็นหลัก การสร้างความเข้มแข็งอย่างหนึ่งในหมากล้อม  ที่ผู้เล่นจะต้องสร้าง อย่างน้อย  แม้อาจไม่มั่นคงเป็นบ้านอมตะ แต่ก็จะไม่ถูกล้อมจับกินโดยง่าย และนอกจากนี้การวางต่อหมากกับกลุ่มที่ค่อนข้างมั่นคงอยู่แล้ว  ก็จะช่วย หมากตัวใหม่นั่น  มีความปลอดภัยไปด้วย  ธุรกิจเล็กๆ ถ้าได้มีคอนเนคชั่น กับกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ ที่มีความมั่นคง  ก็ย่อมดีใช่มั๊ยครับ ***************************************** สิ่งที่เกมหมากล้อมสอนอีกข้อหนึ่งก็คือ " อย่าคาดหวังว่าอะไรจะง่าย และไม่มีปัญหา  ปัญหาต้องมีอยู่อย่างแน่นอน  เราเพียงต้องหาทางแก้ เท่านั้น " เมื่อคุณซึ่งอาจเป็นมือใหม่เล่นหมากล้อมกับคอมพิวเตอร์  นั่นหมายถึง คุณจะต้องเล่นกับคู่ต่อสู้ที่เก่งกว่าคุณอยู่ระดับหนึ่ง(คอมพิวเตอร์ยังจัด ว่าไม่เก่งมาก)  และไม่ว่าคุณคิดว่าได้วางหมากที่ดีที่สุดไปแล้วอย่างไร คุณจะมีจุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีคุณได้ตลอด  เหมือนว่าสิ่งที่คุณทำไป มันมีแต่ข้อผิดพลาด  หรือแก้เท่าไหร่ก็แก้ปัญหาไม่จบ  มีช่องโหว่ให้ถูก โจมตีและต้องแก้ตลอด  ช่วงแรกๆ จึงอาจจะรู้สึกหงุดหงิดบ้าง  และเล่นไป แล้วเหมือนมันไม่สนุก  เพราะเราจะแพ้และเพรี่ยงพร้ำตลอดเกม แต่นี่คือ ความจริงของชีวิตที่หมากล้อมสอน  คนที่เข้าถึงหมากล้อมจะไม่ โฟกัสว่าใครทำให้เกิดปัญหา  เพราะคู่ต่อสู้มีหน้าที่สร้างปัญหาให้กับเรา มีหน้าที่รบกวนการสร้างอิทธิพลหรือการสร้างบ้านของเรา  คนที่จะเล่น หมากล้อมได้ดี  จึงต้องกลายเป็นคนใจเย็น  ไม่ว่าจะถูกโจมตีอย่างไร   ก็ต้องคิดว่านั่นคือ โจทย์ที่ยาก  ที่เราจะต้องเอาชนะให้ได้  จะไม่ตีโพย ตีพายว่า  ทำไมคู่ต่อสู้กลั่นแกล้งเรา(เหมือนคิดว่าทำไม  สถานการณ์ แวดล้อมในชีวิตไม่อวย และเป็นอุปสรรค)   นักหมากล้อมเก่งๆ จึงรอบคอบมาก  ไม่เพียงคิดว่าเราจะต้องเดินอะไร แต่จะคิดว่า คู่ต่อสู้จะเดินหมากเพื่อรบกวนเราอย่างไร  สถานการณ์ที่แย่ ที่สุดที่จะเจอจะเป็นอะไร  แล้วต้องแก้อย่างไร  นั่นคือสิ่งที่หมากล้อมสอน ให้เป็นคนรอบคอบอย่างถึงที่สุด  และมักทำให้เป็นคนไม่โทษเหตุการณ์ แวดล้อม  แต่จะเพ่งไปที่การแก้ปัญหาที่เผชิญมากกว่า นอกจากนี้  สิ่งที่ผมได้พบยิ่งกว่านั้นก็คือ  หากเราวางหมากที่ดีไว้แต่แรก (หลังจากเล่นตามหลักและพัฒนาฝีมือขึ้นบ้าง)  ปัญหาที่จะต้องพบจะน้อยลง สถานการณ์กลับเข้าข้าง  ทำอะไรดูเหมือนจะดีไปหมด  เพราะเราวางหมาก ช่วงแรกไว้ดี  (แต่ก็ยังห้ามประมาทนะครับ)  ฉะนั้น  ถ้าปัญหาชีวิตหรือ การงานเรามาก  ก็ควรหันกลับมามองดูว่าโครงสร้างหมากหรือโครงสร้างงาน ที่เราสร้างไว้ตอนแรกนั้นดีพอหรือไม่  หากโครงสร้างหมากไม่ดี  เราก็จะ ต้องเผชิญกับปัญหามากมายไม่รู้จบ  และข้อดีของงานในชีวิตจริงก็คือ บางครั้งเรากลับไปแก้ไขโครงร่างหมากได้  ในขณะที่หมากล้อมทำไม่ได้ ต้องไปเริ่มเกมกันใหม่ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 27 ก.ย. 50 07:48:24 ]

ความคิดเห็นที่ 42 +++++++++++++++++++   ตกใจเล็กน้อย เรื่องที่ว่ามีคำถาม ...กลับไปอ่านตั้งแต่ต้น ก็ ขอตอบดังนี้ค่ะ บัญญัติ 10 ประการ เป็นหลักที่ใช้เป็นแนวคิด  สำหรับการเล่นหมากล้อม (นอกเหนือจากกติกาการเล่นเบื้องต้น ที่ต้องเรียนรู้) ใช้ได้กับทุกระดับฝีมือ มีในทุกระยะเกม (ต้นเกม-กลางเกม-ปิดเกม) และนอกจากนั้น ยังใช้ได้ดีกับชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น การงาน ความรัก เพื่อน ...อื่นๆ ...ไว้ถ้ามีโอกาส จะมาขยายความ หรือยกตัวอย่างกันอีกทีนะคะ บัญญัติ 10 ประการนั้น เป็นสิ่งที่ต้องอยู่ในใจของนักเล่นหมากล้อมเสมอ ค่ะ ผู้ที่เรียบเรียงบัญญัติ 10 ประการ คือคุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์  เรียบเรียงจากการที่ได้รับคำแนะนำในการเล่นหมากล้อม จากอาจารย์โฆษา อารียา ซึ่งในยุคแรกๆก่อนที่คุณก่อศักดิ์ จะนำหมากล้อมมาเผยแพร่ในไทยจนได้รับความนิยมอย่างใน ปัจจุบันนัน คุณก่อศักดิ์ เป็นนักเล่นหมากรุกจีนที่ฝีมือสูงมากมาก่อน ซึ่งการเล่นหมากล้อมของท่านในตอนนั้น ก็เลยเล่นแบบสไตล์หมากรุกจีน ซึ่งผิดแนวทางไปจากการเล่นหมากล้อมที่ถูกต้อง  ครั้นเมื่อได้รับคำแนะนำแนวทางการเล่น ที่ถูกต้องแล้ว จึงได้เรียบเรียงเป็นบัญญัติ 10 ประการขึ้นมา ....(อ้างอิงจากหนังสือ "ก้าวแรกสู่หมากล้อม" ไว้จะหารูปมาให้ชม นะคะ) ขอเล่าข้ามไป ถึงตอนที่ได้มีโอกาสให้ได้รับคำแนะนำในการเล่นหมากล้อม จากอาจารย์โฆษา   ...อาจารย์เป็นคนที่สบายๆ ขำๆ วางหมากไปด้วย ปากก็สอนไปด้วย  ชอบยกตัวอย่างมาเล่าให้เห็นภาพเปรียบเทียบแบบง่ายๆ .... ...ไว้ถ้ามีโอกาส อาจได้นำมาเล่าให้ฟังคะ ได้เรียนกับอาจารย์โฆษา ใช่ว่าซํนจะเก่งนะเนี่ย ได้เรียนได้เล่นหมากล้อม กับเพื่อน พี่ และน้องๆที่ ฝีมือเก่งๆ ณ ตอนนั้น แต่เรานี่ฝีมือไม่เอาไหนเลย ...ย้ำว่า มากๆ.. ชอบแนวคิด ชอบรูปลักษณะหมาก ชอบหลายๆอย่าง แต่ไม่ชอบเล่นค่ะ ชักจะยาวเกิน เดี๋ยวหาทางลงไม่ถูก ... ชิ่งดีกว่า... จะแอบนั่งรออ่านคุณ Jimmy รีวิวบัญญัติ 10 ประการ นะคะ .. แอบใช้พื้นที่นิดนะคะ เนื่องจากไม่ได้พบอาจารย์โฆษา หลายปีแล้ว ใครพบเจอรบกวนช่วยแจ้งมาทีนะคะ มดตะนอย ขอเล่นด้วยอีกนะอาจารย์.. จากคุณ : Forever In LoVE - [ 27 ก.ย. 50 12:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณ คุณ Forever In Love สำหรับข้อมูลที่มาที่ไปของบัญญัติ 10 ประการครับ และยอมรับว่าการที่คุณก่อศักดิ์ ได้เรียบเรียงบัญญัตินี้ขึ้น ทำให้นักหมากล้อม มือใหม่  เริ่มต้นได้ง่ายขึ้น  เพราะมีหลักให้จับครับ ส่วนอาจารย์โฆษา  ถ้าคิดไม่ผิด  น่าจะเป็นท่านที่ใช้ล๊อกอิน Robinhood ที่เขียนกระทู้สอนหมากล้อมในเวบสมาคมกีฬาหมากล้อมนั่นแหละครับ อย่างนี้ผมก็อาจเรียกได้ว่าเป็นลูกศิษย์ทางความคิดของอาจารย์ได้บ้าง เหมือนกันละมังครับ  เพราะก็อาศัยอ่านกระทู้เหล่านี้เพื่อเป็นแนวทาง อยู่มากเหมือนกันครับ  คุณ Forever In Love แวะไปทักทายท่านได้ที่นั่นครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 27 ก.ย. 50 14:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 27 ก.ย. 50 17:39:26 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณค่ะ คุณ Jimmy ตามไปดูมาแล้ว เป็นคนที่เก่งมากทีเดียวค่ะ แต่ว่าไม่แน่ใจ เพราะอาจารย์ก็อายุมากๆแล้ว คงต้องลองติดต่อสอบถามดูอีกที ..ถ้าได้ข่าวแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ ^_^ **แก้ไขคำผิดค่ะ** แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 50 18:34:14 จากคุณ : Forever In LoVE - [ 27 ก.ย. 50 18:29:45 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เข้าไปตรวจเช็คอีกครั้ง  ถ้าไม่ใช่คุณ robinhood ก็น่าจะเป็นคุณ manyface นี่แหละครับ (เดาจากคำขอบคุณ)  คุณ manyface จะตั้งกระทู้ในยุคแรกๆ ของสมาคม  ส่วนคุณ robinhood จะเป็นผู้ตั้งกระทู้ในยุคหลัง  หรือบางทีอาจเป็นคนเดียวกันก็ได้นะครับ  คุณ Forever In Love ลองเข้าไปอ่านดูหน่อยซิครับ  ว่าใช่หรือเปล่า http://www.thaigo.org/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=44398 http://www.thaigo.org/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5095&start=100 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 28 ก.ย. 50 08:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อ้อ  บัญญัต 10 ประการผ่านไปแล้วนะครับคุณ Forever In Love   (แต่ผมเลือกเน้นเฉพาะที่ใช้ได้จริง  ใช้กับตัวเอง  เพราะการโจมตี คู่แข่งทางธุรกิจนั้น  มีโอกาสน้อยในชีวิตจริงครับ) ********************** ข้อคิดหมากล้อมวันนี้ "บางครั้งหมากที่ดีที่สุดที่เราควรเดิน  ก็คือ หมากที่คู่ต่อสู้จะเดินนั่นเอง" ผู้เล่นหมากล้อม  จึงต้องมองสองด้านเสมอ  นอกจากมองด้านของตัวเอง แล้ว  ยังต้องมองด้านของคู่แข่งด้วย  การวางหมากในจุดที่คู่แข่งคิดจะเดิน จะได้ผลหลายทาง  เช่น ป้องกันการจู่โจม(ที่เราไม่ทันคิด)  หรือ เป็นการชิง ยึดจุดยุทธศาสตร์ร่วม  ได้ทั้งรับและรุกในคราวเดียวกัน ในเชิงธุรกิจ  ทำเลดีๆ มีไม่มาก  บางครั้งมีจุดที่ดีที่สุดเพียงที่เดียวในย่านนั้น การชิงได้ทำเลที่ดีนั้น ก่อนที่คู่แข่งจะได้ไป  เป็นการวางหมากที่ดีอย่างมาก อะไรที่คู่แข่งคิดจะทำเพื่อรุกเรา  เราทำเองซะหมด(ถ้ามีทรัพยากรณ์ เพียงพอ)  ก็จะเป็นการกีดกัน  และทำให้ประโยชน์ตกมาอยู่กับเราแทนครับ จากประสบการณ์การเล่นหมากล้อมของผมเอง  การมองหาจุดอ่อนของ ตัวเอง  แล้วรีบอุดเสีย  จะทำให้แก้ปัญหาอะไรได้มาก  เพราะบางครั้ง เราคิดแต่จะรุก  จะบุก  จะวางแผนขยายอาณาเขต  โดยลืมดูว่า  คู่ต่อสู้ มองเห็นจุดอ่อนของเรา และจ้องจะโจมตีอยู่แล้ว  การมองสองด้านจึง สำคัญอย่างยิ่งครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 28 ก.ย. 50 08:54:19 ]

ความคิดเห็นที่ 48 + + + + + + + + + + + + ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ คุณ Jimmy Walker ซันตามไปดูลิ้งที่แนะนำมาแล้ว แล้วก็สอบถามไปบางส่วน ได้ความว่า ใช่ จริงๆค่ะ ^___^  แต่ยังไม่ได้พบกับท่านเลย คงเป็นโอกาสต่อๆไป ขอบคุณมากๆสำหรับข้อมูลค่ะ ลองโหลด Aya ตัวที่คุณ Jimmy Walker แนะนำมาลองเล่นดูแล้วค่ะ หลังจากที่ไมได้แตะหมากล้อมมาหลายปี เป็นโปรแกรมที่เก่งใช้ได้เลยค่ะ ฉลาดดี ไม่หลงกลเราเลย T_T ส่วนใน Game Room ที่คุณใบหูมังกรแนะนำไว้ มีคนเล่นเยอะดีนะคะ แต่ทำไมเข้าไปแล้วหลุดบ่อยมากๆเลย .. วันนี้ ไปเดินเตร็ดเตร่แถวๆซีเอ็ดฯ  เห็นหนังสือเล่มนึง ชื่อ Strategy Moves  เนื่องจากยังไม่เคยเห็นต้นฉบับภาษาอังกฤษ ดูจากสำนวนการแปล ทำให้นึกถึงตำราหมากล้อมเกี่ยวกับเรื่อง Attack and Defend  พอได้เปิดอ่านหนังสือเล่มดังกล่าว ราวกับอ่านตำราหมากล้อม พลิกไปพลิกมา  เห็นว่า น่าสนใจดี . . ...... ได้หนังสือไว้ประดับตู้อีกแล้ว  คงต้องเรียกว่าประดับตู้ เพราะไม่ค่อยได้อ่านหนังสือทำนองนี้มานานแล้ว ขอขยายความ Attack and Defense สักนิด เผื่อว่ามีท่านใดตามอ่านแล้ว เกรงว่าจะงง ซึ่งตามความเข้าใจของซันเอง A&D ถือเป็นซับเซตของ บัญญัติ 10 ประการ ในข้อที่ 2 ตามที่คุณ Jimmmy Walker ได้อธิบายและยกตัวอย่างเปรียบเทียบ ที่ด้านบน วัตถุประสงค์หลักของการเดินหมากแต่ละเม็ด มีอยู่เพียง 4 ประการเท่านั้น คือ - Extend : การจับจองหรือขยายพื้นที่บนกระดาน - Block : การป้องกันหรือแย่งชิงการขยายพื้นที่ของอีกฝ่าย - Attack : การโจมตี - Defense : การป้องกันตนเอง ทั้ง 4 ข้อย่อยที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่ไมได้จบด้วยแค่คำที่อธิบายต่อท้ายนั้น  ในความหมายของ การเดินหมากให้ได้ผล 2 เท่าทุกครั้งที่มีโอกาส คือเลือกออกมาใช้ 2 ข้อ หากว่า หมากใดสามารถส่งผลได้ถึง 3 ข้อ นับได้ว่าเป็นหมากตาที่มีคุณค่าอย่างยิ่งค่ะ ส่วนตัวอย่างเปรียบเทียบ คงต้องขอยืมที่คุณ Jimmy อธิบายไว้ข้างต้นกันดื้อๆละค่ะ ..แอบหน้าแตก เรื่องที่รอครบ 10 ประการด้วยแหล่ะ   จากคุณ : Forever In LoVE - [ 29 ก.ย. 50 00:57:40 ]

ความคิดเห็นที่ 49 โหวต ค่ะ จากคุณ : ส้มแป้น.. - [ 29 ก.ย. 50 10:51:23 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณครับสำหรับกระทู้ ผมไม่เคยเล่น go เลยนะ เเต่ผมเป็นนักอ่านตัวยง ตอนนี้ผม back to the basics คืออ่านงานของท่านพุทธทาสภิกขุ อยากเเนะนำนะครับ สุด ๆ ผมชอบความท้าทายนะครับ ชอบอ่านความคิดเห็นท่านอื่น ๆ ชอบ debate, highly spirited dicsussions ชอบมาก ๆ ( คนไทยส่วนใหญ่ ถ้า discuss หรือเห็นไม่ตรงกัน มักทะเลาะกัน ไม่รู้ทำไม) ถ้าเรียนภาษาอังกฤษด้วยเเนวความคิดหมากล้อม น่าจะดี ถ้าใช้ชีวิตด้วยเเนวความคิดหมากล้อม น่าจะดีนะครับ เพราะถ้า apply จริง ๆ ทุกขณะจิต สังคมไทยน่าจะดีกว่านี้ มีผู้มีความคิดตกผลึกมากขึ้น Debate กันได้ เเบบเถียงกันเเทบตาย เเต่พอเลิก debate รักกัน ห่วงใยเเละช่วยเหลือกัน Win win ด้วยกันทั้งคู่ ส่วนเเบ่งที่ได้จากการ win จะมากน้อยก็เเล้วเเต่ สังคมจะดีขึ้น เเละที่น่าท้าทายคือ ถ้าคนสัมภาษณ์ผม เป็นคนเล่นหมากล้อม เเต่ผมไม่คิดจะเล่นหรือไม่เล่น เเต่ผมอ่านงานท่านพุทธทาส เเละอ่าน self-enrichment books ยิ่งได้เห็นการต่อสู้ทางความคิด ยิ่งดี ผมเขียนตรงนี้ โดยที่ผมไม่ผมไม่รู้จักหมากนี้นะครับ เเต่ผมว่าน่าจะเป็น 1 ในสุดยอด ไม่งั้นหนัง beautiful mind คงไม่มีฉากนี้ ผมรู้สึกตื่นเต้น ถ้าวิถีความคิด นำมาสู่กลยุทธ์ จะสามารถนำชัยมาสู่เรา ยิ่งปลาบปลื้ม(ยึดติดอีกเชียว)ถ้าทุกคนไม่ว่าจะเล่น ไม่เล่น(คืออยู่ค่ายความคิดอื่น) จะนำพาสังคมเราไปสู่----------------สังคมที่สงบสุข สามัคคี รักใคร่ ปรองดอง กันเสียที----------- ถ้าผู้บริโภคฉลาดขึ้น มีวิจารณาญาณถูกต้อง เศรษฐกิจจะดีขึ้นไหมครับ ธุรกิจเช่น เหล้า เบียร ของฟุ่มเฟือย บัตรเครดิต หวย ของขบเคี้ยว จะเติบโตไหมครับ หรือถ้าดีขึ้น ก็หมายความว่า ธุรกิจสีเทาต้องลดการเจริญเติบโตลง หรือเล็กลง อ้าวบ่นอะไรเนี่ย ขอบคุณครับ จากคุณ : tonmelb - [ 29 ก.ย. 50 13:39:15 A:124.121.56.165 X: TicketID:054700 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อธิบายได้ดีเลยครับ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เล่น GO ถึงจะไม่เซี่ยนแต่ก็อ่าน How to มาพอสมควร แต่ผมว่า บางครั้งเราก็ไม่ควรใช้ วิธีี "วางหมากตามกลยุทธ์" เพราะถ้าคนที่ช่ำชอง จะรู้วิธีที่จะลุยในจุดที่ยาก เพื่อที่จะครองพื้นที่ในวงที่ใหญ่กว่า... จากคุณ : Thedew - [ 29 ก.ย. 50 22:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 52 แนวความคิดของการนำหมากล้อม มาเทียบเคียงกับการทำธุรกิจ เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ซึ่งต้องขอชมคุณ Jimmy Walker ได้สื่อออกมาให้เพื่อน ๆ ในห้องสีลม ได้เห็นภาพตามในรูปแบบที่ชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งบางคนที่อาจจะเคยได้เห็นหรือได้ยิน เรื่องการเล่นหมากล้อม แต่อาจจะไม่สนใจ เมื่อได้อ่านกระทู้นี้แล้ว อาจจะกลับมาให้ความสนใจหมากล้อมเพิ่มขึ้น แต่ก็อย่างที่คุณ Jimmy Walker จั่วหัวไว้ต้นกระทู้ว่า การเล่นหมากล้อมก็คือการเล่นหมากล้อม และการทำธุรกิจก็คือการทำธุรกิจ ผู้ที่เล่นหมากล้อมเก่งอาจไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำธุรกิจเก่ง และผู้ที่ทำธุรกิจเก่งอาจไม่ได้หมายความว่าจะเล่นหมากล้อมเก่ง ซึ่งตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่ชัดเจน เนื่องจาก การทำธุรกิจจะมีหลายปัจจัยมากระทบ ทั้งสิ่งที่ควบคุมได้ และ สิ่งที่ควบคุมไม่ได้ เช่น สภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ผลกระทบจากราคาน้ำมัน แต่การเล่นหมากล้อมเป็นการ ผลัดกันวางทีละหมาก ทีละตา ซึ่งเป็นกติกาที่กำหนดกันไว้ล่วงหน้าแล้ว ในความคิดเห็นส่วนตัว สิ่งที่ได้จากการเล่นหมากล้อม ก็คือ การฝึกให้ผู้เล่นมีทักษะในการวางแผนล่วงหน้า ไม่ประมาท ต้องดูทั้งภาพกว้าง และ สถานการณ์เฉพาะจุด รู้จักการรุก และ รับ รู้จักการฉกฉวยโอกาส ส่วนการจะประยุกต์ ไปใช้ในธุรกิจ ก็แล้วแต่ แนวทางของแต่ละคน บางกรณีก็ใช้ด้วยกันได้ บางกรณีก็ใช้ด้วยกันไม่ได้ แต่การเทียบเคียงหมากล้อมกับธุรกิจของคุณ Jimmy Walker ก็เป็นตัวอย่างที่น่านำมาคิดอย่างยิ่ง มีข้อคิดบางอย่างเกี่ยวกับหมากล้อม คือ ในการเล่นหมากล้อม ผู้เล่น จะเป็นผู้กำหนดและ วางกลยุทธไว้ตั้งแต่ต้นกระดาน แต่ในธุรกิจจริง บางคนอาจถูกผลักให้เข้าไปรับผิดชอบธุรกิจ ในระหว่างกลาง มิได้เป็นผู้ที่เริ่มต้นตั้งแต่แรก ไม่ทราบว่าถ้าเป็นกรณีแบบนี้ คุณ Jimmy Walker หรือ เพื่อน ๆ มีข้อแนะนำอย่างไร จากคุณ : ชาวบ้านไทย - [ 30 ก.ย. 50 09:26:22 A:202.57.173.132 X: TicketID:125394 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ในฐานะ "เพื่อนๆ" ขอตอบต่อคุณชาวบ้านไทย บางคนถูกผลักให้เข้ารับผิดชอบธุรกิจในระหว่างกลาง ก็เหมือนคนที่ถูกเปลี่ยนให้ลงไปเล่นโกะแทนคนอื่น ตอนกลางกระดาน สิ่งแรกที่ต้องทำ เหมือนกันทั้งโกะและธุรกิจ คือวิเคราะห์สถานการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมด ด้วยข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อหาแนวทางที่จะเดินต่อไป ยิ่งวิเคราะห์ได้ละเอียดถูกต้องมากเท่าไหร่ โอกาสไปต่อและสำเร็จก็มีมากเท่านั้น สิ่งที่ต่างกันคือ โกะ ไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่ผ่านมาแล้วได้ เรียกว่า ถึงไม่ใช่คนวางกลยุทธ์ตั้งแต่แรก แต่ก็ต้องประยุกต์กลยุทธ์ที่คนอื่นวางไว้ให้เกิดประโยชน์ให้จงได้ ตรงนี้นับว่ายากมาก โกะกระดานที่วางโครงร่างไว้ไม่ดีตั้งแต่แรก จะพลิกกระดานมันยากมากๆ ส่วน ธุรกิจ ถึงเราจะถูกผลักให้มาเล่นระหว่างเกม เมื่อเราวิเคราะห์แล้วว่ากลยุทธ์บางอย่างไม่เหมาะสม เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ เราสามารถรื้อถอนโครงสร้างที่มีอยู่แล้ว และสอดแทรกสิ่งใหม่ๆที่ถูกต้องเหมาะสมกว่าเข้าไปได้ ถึงจะต้องใช้เวลาและเทคนิคบางประการ แต่ก็สามารถทำกันได้ แต่ใน ธุรกิจ ก็มีบางจุดที่ไม่สามารถไปปรับเปลี่ยนอะไรได้เลยเหมือนกัน ก็ต้องใช้วิธีเดียวกับโกะคือประยุกต์ของเก่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่อย่างงั้นก็ต้องแตกบริษัทลูกออกมา เพื่อจุดประสงค์บางอย่างต่อไป จากคุณ : Jiang wei - [ 30 ก.ย. 50 10:24:45 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดีคุณส้มแป้น  อาจารย์ tonmelb คุณThedew คุณชาวบ้านไทย  และ คุณ Jiang wei ครับ ไหนๆ กระทู้นี้ก็เป็นกระทู้หมากล้อม  ก็ขอตอบในแนวของหมากล้อมนะครับ ที่อาจารย์ tonmelb กล่าวมาเรื่อง debate นั้น  ผมว่า ถ้านำหลักของโกะ หรือหมากล้อมไปใช้ก็น่าจะได้  แต่หลักของหมากล้อม(ด้านสว่าง) บอกว่า ผู้ที่จะชนะได้  ต้องเหมือนไม่อยากเอาชนะคู่แข่ง(บางสำนักจึงใช้ว่าการ พูดคุยสนทนาระหว่างหมากของคู่แข่ง)  การอยากเอาชนะและชอบโจมตี จะทำให้เกิดการโต้ตอบ  และส่วนใหญ่  ผู้ที่อยากเอาชนะ มักจะกลายเป็น ผู้แพ้เสียเอง  ผมจึงคิดว่า การ debate จึงไม่ควรใช้คำว่า การต่อสู้ทางความ คิด  เพราะถ้าเป็นแบบนั้น  ส่วนใหญ่ก็เพียงพยายามกลับไปหาเหตุผลที่ สนับสนุนในด้านของตน  เพื่อกลับมาแสดงทัศนะเพื่อเอาชนะ  โดยที่แท้จริง แทบจะไม่เคยฟัง หรือเก็บความคิดของฝ่ายตรงข้ามไปพิจารณาอย่างจริงจัง เลย  การพัฒนาเพื่อให้ได้ความคิดใหม่ๆ ไม่น่าจะมีฝ่าย  ว่าฝ่ายไหนเสนอ ความคิดอะไร  แต่เป็นเพียงทางเลือกทางความคิดที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ความคิด  แล้วพิจารณาโดยปราศจากอคติให้มากที่สุด(แต่มันก็คงมีบ้าง) ถ้าผู้เข้า debate พกอีโก้ติดตัวมากันเยอะๆ ตั้งแต่ก่อนเข้าห้องประชุม   โดยเฉพาะในสังคมที่เป็นแหล่งรวมของคนเก่งๆ ทั้งหลาย  ที่ต่างก็อยากจะ ให้ความคิดของตนเป็นความคิดที่ถูกเลือก  หรือได้รับการยอมรับ  มันก็ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้  ที่จะสร้างสังคมที่นิยมการ debate ขึ้นมาครับ ฉะนั้น  ก็คงต้องแก้เรื่องนี้กันก่อน  ผมคิดว่าเป็นอย่างนี้นะครับ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 50 10:43:36 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 30 ก.ย. 50 10:42:38 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ส่วนเรื่องประเด็นของคุณชาวบ้านไทย  ผมเห็นด้วยกับคุณ Jiang wei ครับ ว่า หมากล้อมนั้น  ถอนหมากที่เดินไปแล้วไม่ได้  แต่ในธุรกิจเราเข้าไป แก้ไขหมากที่เคยวางผิดนั้นได้(บ้างบางส่วน) แต่ผมจะขอเสริมว่า  ผมเองเปรียบเทียบชีวิตทั้งชีวิต  เหมือนหมาก 1 กระดานใหญ่  ซึ่งในนั้นก็ประกอบไปด้วย  หมากหลายๆ กระดานย่อย กรณีที่เราต้องเข้าไปรับช่วงหมากต่อที่มีคนเดินไว้ก่อนหน้า  ก็คงเหมือนกับ การที่เข้าไปรับช่วงหมากที่เดินต้นเกมมาแล้วระดับหนึ่ง  กำลังเข้าสู่ช่วงสู้รบ ในกลางเกม  แต่เป็นกลางเกมเพียงเสี้ยวหนึ่งของกระดานใหญ่   เหมือนเป็นสมรภูมิแย่งชิงพื้นที่เพียงส่วนมุมหนึ่งของกระดาน   ตามหลักหมากล้อมนั้น "งานด่วนมาก่อนงานใหญ่" ฉะนั้น ก่อนอื่นไม่ต้องไป คิดเรื่องสร้างโมโย(โครงร่างอิทธิพล) ให้มากนัก  คิดแต่แก้โจทย์เฉพาะหน้า ให้รอดเสียก่อน  ให้กลุ่มหมากนี้รอดให้ได้เสียก่อน  และการเอาชนะหมาก ในช่วงกลางเกมต้องอาศัยกลวิธี หรือ Tactic  ฉะนั้น หยุดคิดเรื่องกลยุทธ์ ชั่วคราว  ศึกษากลยุทธ์ธุรกิจนั้นๆ  ให้มากๆ เพื่อหาแนวทางเอาตัวรอดให้ได้ ถ้ารอดแล้ว  ค่อยคิดไปสร้างอิทธิพลใหม่ๆ ต่อไป หรือ ....... ตามหลักหมากล้อมอีกเช่นกัน  ที่ให้พิจารณาการวางหมาก โดยมองภาพรวมเป็นหลัก  อย่าเอาอารมณ์ไปใส่  เช่น หากกลุ่มหมากที่เรา รับช่วงมานั้น  ไม่มีทางรอดแน่นอน  ก็ให้ทิ้งหมากเสีย  แล้วค่อยหาทางไป สร้างอาณาจักรเอาในดินแดนใหม่ๆ ที่มีโอกาสมากกว่า  การฝืนพยายาม รักษากลุ่มหมากที่ไปไม่รอด  มีแต่จะเสียทรัพยากรมากยิ่งขึ้น ผมชอบที่คุณชาวบ้านไทย เสนอมุมนี้ขึ้นมาครับ  ว่าบางทีเราอาจไม่ได้เป็น ผู้เริ่มหมากก็ได้  (ในบางแง่มุม)  แต่เป็นการรับช่วงมา  ซึ่งผมก็ขอเสนอต่อ ว่า  แม้ว่าหมากล้อมจะสอนเหมือนว่า  ผู้เล่นเกมมีทรัพยากรเท่าๆ กัน  และ สอนว่า ใครใช้ทรัพยากรอย่างมีประโยชน์ที่สุดชนะ  แต่หากมองในอีกมุม หนึ่ง  หมากล้อมนั้น  ผู้เล่นต้องวางหมากสลับกัน  ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งหยุดคิด เราต้องรอ  แต่ในชีวิตจริง  บางครั้งมันคือการแข่งกันวางหมากให้ได้มาก ที่สุดในแต่ละวัน  ถ้าเราหยุด  คู่แข่งหรือคนอื่น อาจไม่ได้หยุดวางหมากก็ได้ พวกเขาวางหมากแล้ววางหมากเล่า ไปหลายตัว  ถ้าเราหยุดคิดนาน  บางที ก็เหมือนกับเราวางหมากได้น้อยกว่า  อาจเสียเปรียบได้ นี่เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่  การนำหมากล้อมมาประยุกต์  อาจไม่เหมือนกับ ชีวิตจริงอยู่บ้าง  ซึ่งผู้นำไปใช้  ต้องพิจารณาดัดแปลงให้ดีๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 50 11:03:09 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 30 ก.ย. 50 11:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 56 กระทู้ยอดเยี่ยมแห่งปี ... จากคุณ : muuoun - [ 30 ก.ย. 50 20:06:06 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณ คุณmuuoun สำหรับคำชมนะครับ  แต่ผมก็เพียงรับแนวคิดมาจาก ปรมาจารย์หมากล้อม  และนำมาประยุกต์เป็นเรื่องธุรกิจ  จึงขอยกความ ดีความชอบ  และความยอดเยี่ยมให้อาจารย์ผู้คิดค้นหมากล้อมขึ้นมา และอาจารย์ทั้งหลายที่ช่วยนำมาเผยแพร่ในประเทศไทย รวมทั้งเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ช่วยกันเสริมประเด็นคุยกันด้วยนะครับ ****************************************** ข้อคิดหมากล้อมวันนี้  "กลางเกมต้องใจสู้" มีคำสอนของการเล่นหมากล้อมให้เก่งอยู่ว่า ต้นเกม ต้องใจเย็น วางหมากอย่างรอบคอบ และมีกลยุทธ์ กลางเกม  ต้องใจกล้า  ต่อสู้กับคู่ต่อสู้อย่างถึงที่สุด  ให้ชนะในแต่ละการรบ ท้ายเกม ต้องใจเย็น และกลับมาละเอียดรอบคอบ  สร้างความมั่นคง มองจากจุดนี้  เมื่ออยู่ในช่วงกลางเกม  เมื่อสถานการณ์อยู่ในขั้นต่อสู้แตกหัก ผู้เล่นต้องใจถึง  ต้องใจสู้  ห้ามขี้ขลาดหรือยอมแพ้  จึงจะเอาชนะได้ Tactic มีเท่าไหร่ งัดมาใช้ให้หมด  เหมือนสงครามการตลาดที่เราเห็นได้ ทั่วไปจากแบรนด์ดังๆ จึงเห็นได้ว่า  การทำธุรกิจต้องผสมผสานกันระหว่าง ความสุขุมรอบคอบ กับความกล้าหาญ  กล้าได้กล้าเสีย  เมื่อออกรบแล้ว ต้องไม่คิดถอย  นักธุรกิจเหล่านี้จึงจะไปได้ไกลกว่า  แต่ก็ต้องทำให้อยู่ใน ภาวะสมดุลย์ด้วย  ไม่รอบคอบไปจนเชื่องช้า  หรือขี้ขลาด  แต่ก็ต้องไม่กล้า จนกลายเป็นบ้าบิ่น  ใครทำได้ดีที่สุด  ผู้นั้นก้าวไปได้ไกลครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 1 ต.ค. 50 13:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เข้ามาแจมในฐานะนักหมากล้อมสมัครเล่นคนหนึ่งครับ(และเคยทำธุรกิจเจ๊งมารอบนึง เพราะไม่ทันได้เอาหลักหมากล้อมมาคิดตาม) Tactics ที่สำคัญของหมากล้อมในช่วงสัประยุทธ์ อาจจะขัดกับหลักบัญญัติ 10 ประการไปบ้างในรายละเอียดปลีกย่อย แต่พอมองภาพรวมแล้วก็จะเห็นผล และกลยุทธ์หมากล้อมไม่ได้มีตายตัว อาจพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ได้ ผมเล่นหมากล้อมสายค่อนข้าง Aggressive (แบบอ.คาโต้)หลักกลยุทธ์ของผมอาจดูก้าวร้าวไปบ้าง ดังนี้ครับ 1. ยอมแลกเลือด ทิ้งหมากกลุ่มเล็กที่หมดอนาคตใช้มือนำไปเดินหวังผลกลุ่มหมากใหญ่ที่จะทำให้เราชนะทั้งกระดานในตอนท้าย เปรียบได้กับการละทิ้งกลุ่มธุรกิจที่ขาดทุน หรือแผนกที่เป็นส่วนเกิน เพื่อนำกำลังไปเสริมให้ส่วนที่มีศักยภาพ 2. โจมตีกลุ่มอ่อนแอ โดยเดินหมากจากกลุ่มที่อ่อนแอของเราเองเพื่อเพิ่มกำลัง เหมือนกับเราต้องแก้ไขจุดอ่อนของธุรกิจเราไปพร้อมๆกับเล็งหวังผลจุดที่ธุรกิจคู่แข่งขาดตกบกพร่อง 3. ช่วงปลายกระดานที่หมากเริ่มปิดกำแพงต่อกัน ต้องชิงมือนำทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ก่อนจะยอมเสียมือวางหมากไป เหมือนกับเมื่อเพดานตลาดเริ่มอิ่มตัว ต้องหาผลประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่จะละมือไปทำอย่างอื่น โดยทั่วไปแล้ว หลักหมากล้อมธุรกิจของทาง CP 7 eleven เหมือนจะดูดี(และถ้าทำได้ตามที่ CP กล่าวมาก็ดี)ครับ แต่ตัวกลยุทธของทาง CP เอง กลับใช้กลหมากอำมหิตพิฆาตคู่แข่งขันให้ดับดิ้นไป ถ้าไม่สังหารกลุ่มหมากคู่ต่อสู้จนเกลี้ยง ก็บีบให้รอดเล็กๆ สองแต้ม ผิดจากที่ตัวเองอ้างว่า Win-winอยู่มาก   ขอบคุณคุณ Jimmy Walker ที่นำมาแบ่งปันกันครับ ลงชื่อขอติดตามอ่านต่อไปด้วยความระทึกในดวงหทัยพลัน จากคุณ : โกฏิดารา - [ 1 ต.ค. 50 21:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณ คุณ โกฏิดารา ที่ร่วมแจมนะครับ แท้จริงแล้ว  หมากล้อมเป็นสิ่งที่เป็นอย่างที่มันเป็น  แต่ผู้เล่น อาจตีความ ออกไปได้หลายแนวทาง  และเล่นได้หลายกลยุทธ์ ผู้เล่นสองคนที่อยู่ ต่อหน้ากันจึงยังคิดไม่เหมือนกัน  วางกลยุทธ์ต่างกัน แต่ผลสุดท้ายย่อม เป็นสิ่งพิสูจน์หรือตัดสินที่ดีที่สุด  และผู้เล่นที่พ่ายแพ้ต้องนำกลับมาแก้ไข ข้อบกพร่องของตนเองต่อไป ส่วนเรื่องของซีพี  โดยเฉพาะเรื่องของเซเว่น อีเลเว่น  ผมมองว่า  ถ้ามองใน อีกมุมหนึ่ง  มันก็เป็นหลักของหมากล้อมนั่นแหละครับ  คู่ต่อสู้ทางธุรกิจไม่น่า จะมี Win - Win ที่แท้จริง  แต่อาจจะใช้หลัก  ยอมสละเพื่อที่จะได้(เมื่อจำเป็น และมองภาพรวมเป็นหลัก)   กรณีเซเว่น  ผมอาจเปรียบว่าเหมือนกับ ซี.พี.ได้สร้างโมโยหรืออิทธิพลไว้ มากและแน่นหนา  ศัตรูที่เข้ามาในเขตอิทธิพลหรือ  เข้ามาในบ้าน  ย่อมถูก จับกินเป็นเชลยในที่สุด  ด้านฝ่ายคู่ต่อสู้  ที่จริงก่อนเข้ามาโจมตีในบ้าน ของฝ่ายตรงข้ามก็ต้องพิจารณาแล้วว่า มีTactic ที่จะทำให้ยึดครองพื้นที่ หรือสร้างสองห้อง(กลุ่มอมตะ) ให้อยู่รอดได้  กรณีนี้  ฝ่ายตรงข้ามของ ซี.พี. จึงแพ้เพราะเล่นผิดหลักหมากล้อม แต่ในด้านกลับกัน  ซี.พี. ที่เข้าไปโจมตีในตลาดมือถือ ที่มีผู้ครองอาณาจักร ไว้หนาแน่นอยู่แล้ว  อย่าง AIS และ DTAC ซี.พี. มี Tactic อย่างไรที่จะทำ ให้สามารถเอาชนะหรืออยู่รอดได้  อันนี้ผมคงจะต้องคอยดูต่อไป  แต่เท่าที่ เห็นขณะนี้ยังไม่ชัดเจนนักว่าจะเอาชนะในสงครามนี้ได้  และตอนนี้ก็มุ่งไปที่ กลยุทธ์โอบล้อมแทนโดยใช้ธุรกิจอื่นๆ มาช่วยแล้ว แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 50 08:35:50 แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 50 08:24:37 จากคุณ : Jimmy Walker - [ 2 ต.ค. 50 08:24:18 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ข้อคิดต่อไปนี้  ผมได้มาจากเวบของฝรั่ง(361points.com)นะครับ   เหมือนหลักพื้นๆ แต่อาจไม่ได้ถูกนำไปใช้อย่างจริงจังนัก  เรื่องนี้คือ เรื่องของวิธีการพัฒนาฝีมือการเล่นหมากล้อม How to Improve Our Go Skills 1. Play a lot of games. 2. Apply what you learn from books, in your games. 3. Study Professional games. 4. Have your games commented by a stronger player. 5. Study Life & Death Go Problems. กลับมาประยุกต์เป็นเรื่องธุรกิจ 1. แน่นอน  ทฤษฎีอะไรก็ไม่เท่าการเรียนรู้ด้วยตัวเองจากการปฏิบัติ ฉะนั้น  อยากเก่งหมากล้อม ก็ต้องเล่นบ่อยๆ และแม้การทำธุรกิจ  เรา ไม่อาจทำได้บ่อยๆ เหมือนเล่นหมากล้อม  เพราะแต่ละครั้งล้วนมีต้นทุน แต่เราสามารถเรียนรู้จากการปฏิบัติของตัวเองได้ในระดับหนึ่ง และด้วยการ เรียนรู้จากธุรกิจของคนอื่นได้อีกส่วนหนึ่ง(อาจได้จากการพูดคุยแลกเปลี่ยน กับเพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจด้วยกัน) 2. ต้องรู้จักประยุกต์ให้เป็น  เพราะทฤษฎีคงไม่อาจสอนตรงๆ ที่จะเข้ากันได้ กับทุกกรณี  เราจึงจำเป็นต้องประยุกต์ใช้ได้ 3. เรียนรู้จากมืออาชีพ  อันนี้เราคงเรียนรู้ได้จากการอ่านและหาข้อมูล ทางอื่นกันอยู่บ้างแล้ว 4. ได้รับการแนะนำจากผู้ที่เก่งกว่า  ข้อนี้เป็นสิ่งที่เราส่วนใหญ่ยังขาดกันอยู่ ซึ่งผมคิดว่ามันก็ยังพอเป็นไปได้  ที่เราจะหาผู้แนะนำการทำธุรกิจเป็นการ ส่วนตัว  เพราะผู้แนะนำนี้  จะรู้ถึงรายละเอียดของงานเรา  และแนะนำได้ ตรงประเด็นมากกว่า การประยุกต์จากหนังสือ 5. เรียนรู้หลักที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอด  หรือไม่รอด  อันนี้ก็มีอยู่ครับ  และโดย ส่วนตัว  ผมใช้หลักทฤษฎี 3 ขา ที่ผมเคยเขียนมาลงในห้องสีลมนี้กันแล้ว หลักทั้ง 5 ข้อนี้  ที่ผมอยากจะหยิบขึ้นมาพูดถึงมากหน่อยก็คือ ข้อที่ 4 ท่านที่ลองทำอะไรด้วยตัวเอง  เคยรู้สึกหรือไม่ว่า มันใช้เวลานาน มันยาก กว่าการมีคนสอน คนแนะนำ  คนที่ต้องการเล่นหมากล้อมเก่ง  ควรไปเรียน (ผมก็จะหาเวลาไปลองเรียนครับ)  เวลาเราใช้อะไรไม่เป็น หรือทำโปรแกรม บางอย่างไม่เป็น แล้วมีคนสอนมันก็จะไปได้เร็วกว่ามาก   สมัยก่อน  เราทำอะไรเราก็มีอาจารย์คอยสอน แต่เราทำธุรกิจ เรามัก ไม่ค่อยมีอาจารย์กัน  ผมว่ามันเป็นเรื่องที่น่าคิด  และเป็นไปได้  ซึ่งหลังจาก คิดได้  ขณะนี้ผมเองก็กำลังมีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จท่านหนึ่ง  ที่ผม เองไปขอวิชา  เรียนรู้จากท่านดุจเป็นลูกศิษย์ และเท่าที่ได้เริ่มมา  ก็ได้รับ ความรู้และเคล็ดวิชาเป็นอันมาก  จึงอยากแนะนำให้ท่านอื่นๆ ที่สนใจลองไป หาอาจารย์ของท่านกันดูบ้างครับ  ผมเชื่อว่ามันจะช่วยให้เราเก่งเร็วขึ้นครับ จะทำอะไรให้ดี  เราก็ควรมีอาจารย์ครับ  และนั่นจะช่วยให้เรารู้จักอ่อนน้อม ถ่อมตนมากขึ้นด้วย  เพราะเท่ากับเรายอมรับว่ายังมีคนเก่งกว่าเราครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 2 ต.ค. 50 09:06:30 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ตอนนี้ขอเว้นข้อคิดสักนิด  มาดูกันหน่อยนะครับว่า  ใครที่ได้ลองโหลดเกม ไปเล่นแล้ว  ได้ข้อคิดอะไรด้วยตัวเอง  จากการอ่านทฤษฎีและการเล่นจริง มันแตกต่างกันอย่างไร  ลองมาเล่ากันดูหน่อยนะครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 3 ต.ค. 50 15:28:58 ]

ความคิดเห็นที่ 62 มีข้อคิดเยอะมากเลย ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : zia - [ 3 ต.ค. 50 19:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 63 หายหน้าไปไหนกันหมดครับเนี่ย  ยังไงคิดว่าคงยังอ่านกันอยู่นะครับ วันนี้จึงขอเอาข้อคิดมาฝากกันต่อ การอ่านหมาก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมเชื่อว่ามันนิสัยของเราส่วนใหญ่ที่มักไม่ชอบที่จะมองอะไร ซับซ้อนหลายชั้น  แต่หมากล้อมจะสอนให้เรามองอะไรหลายๆ ชั้นก่อนวาง หมาก (เช่นเดียวกับหมากรุก) เมื่อเล่นหมากล้อมใหม่ๆ เราอาจคิดเพียงชั้น เดียวว่า  คู่ต่อสู้วางหมากนี้  เราอาจตอบโต้ด้วยหมากแบบนี้  หรือวางหมาก ตารุกที่เราคิดไว้   นักหมากล้อมที่เก่ง มองหมากหลายชั้น คิดแผนไว้หมดว่า ถ้าเขาเดินตานี้ แล้วเราตอบรับแบบนี้  เขาจะเดินต่ออย่างไร หรือถ้าเราเลือกไปทำแบบที่ 2 หรือ 3 หรือ 4 แล้วเขาจะทำอย่างไร  พูดง่ายๆ เปรียบเหมือนมีแผนสำรอง อยู่ในใจ  และหมากที่วางลงไป  คือหมากที่เปรียบเทียบกับทุกทางแล้ว ว่าเป็นทางที่ดีที่สุด ในการทำธุรกิจ  ผมเชื่อว่า  โดยส่วนใหญ่เราขาดการวางแผนสองชั้นสามชั้น หรือมีแผนสำรองอยู่ในใจ  เพียงคิดว่า หมากนี้น่าจะดี  ก็รีบวางหมากเลย สิ่งนี้มักทำให้เราต้องกลายเป็นผู้เล่นฝ่ายรับตลอดเวลา (ถ้าลองเล่นดูแล้ว จะเห็นจริงมากครับ)  เพราะเราไม่ทันคิดถึงหมากที่คู่ต่อสู้จะวาง  ซึ่งอาจ ไม่ใช่สิ่งที่เราคาดคิดมาก่อน  เราจึงไม่ทันเห็นจุดอ่อนที่มีอยู่  และไม่ทันได้ ป้องกัน สิ่งนี้  ถ้าผมเปรียบเหมือนคนที่กำลังวางแผนจะออกมาทำธุรกิจ  มักจะไม่ได้ วางแผนสำรองเอาไว้  ทำให้มองเกมผิดพลาด  การคิดหลายๆ ทางจะทำให้ เรามองเห็นภาพรวมของธุรกิจที่กำลังจะทำได้ชัดเจนขึ้น  เหมือนการลอง เขียนแผนธุรกิจหยาบๆ ขึ้นมา  จะช่วยให้เราได้มองเห็นจุดอ่อนบางจุดและ ความสัมพันธ์อย่างเป็นระบบของส่วนต่างๆ ของธุรกิจเหมือนกัน (เช่น การ ตลาด > การผลิต > การเงิน  จะสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน) อย่างกรณีที่ปีนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก  ก็อาจต้องอ่านสถานการณ์ให้ออกว่า ปีหน้าจะเป็นอย่างไร  จะปรับตัวไปทางไหน  และใครที่มองเห็นหรือทำนาย เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ถูกต้อง  ก็จะมีแผนที่ดี  อย่างวิกฤติเศรษฐกิจทุกครั้ง ทั้งครั้งนี้และครั้งก่อน  ทุกคนอาจได้รับผลกระทบไปบ้างไม่มากก็น้อย แต่คนที่อ่านสถานการณ์ขาด  ก็จะได้รับผลกระทบน้อยกว่า  อย่างที่ผมเคย พูดคุยและอ่านพบที่บางท่านชะลอโครงการที่ต้องลงทุนมาก  ตั้งแต่ที่เริ่มมี สิ่งบอกเหตุบางอย่างแล้ว  ในขณะที่หลายๆ คนยังคงหวังว่าสิ่งร้ายๆ จะไม่เกิด (ใช้อารมณ์และความอยากให้เป็นในการตัดสินใจ  มากกว่าใช้เหตุผล) และยังคงดำเนินการต่อไป เราลองมาฝึกมองอะไรหลายๆ ชั้นกันนะครับ  เพื่อที่เราจะได้พัฒนาไปเป็น นักธุรกิจชั้นยอดกันในอนาคตครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 4 ต.ค. 50 11:10:28 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ข้าพเจ้าขอคารวะท่านผู้รู้ทั้งหลายหนึ่งจอก จากคุณ : เตียวกงจื้อ - [ 5 ต.ค. 50 14:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ยังอยู่ครับ ตามอ่านต่อนะ 7-11 ทำผิดหลักหมากล้อมไป ที่คิดเสริมหมากกลุ่มแข็งแรง เพื่อตีกลุ่มแข็งแรงครับ โดยเฉพาะกรณีการขายแฟรนไชส์ แล้วโจมตีร้านแฟรนไชส์ของตัวเองโดยการตั้งร้านใหม่ใกล้ๆ ส่วน True Convergence  ผมนับถือจริงๆที่เขาเชื่อมหมากกลับมารอดได้จากสามกลุ่มอ่อนแอ (True Visions, True Move, True Hi-speed internet) ด้วยกลยุทธ์ Academy Fantasia แต่ก็ต้องเสียกลุ่มหมากที่เรียกว่า "ภาพลักษณ์ที่ดี" และ "ความรับผิดชอบต่อสังคม" อย่างที่ตกเป็นจำเลยอยู่ในปัจจุบัน ก็ต้องดูว่าจะแก้สถานการณ์ยังไง เห็นด้วยกับคุณ Jimmy Walker ที่เราต้องเผื่อทางรอด(Miai) ไว้เสมอ แต่อีกอย่างนึงคือ "เราก็ต้องเผื่อทางรอดให้ฝ่ายตรงข้าม" เช่นกัน แม้จะรอดเล็กๆ อย่าปิดให้เขาต่อสู้อย่างหมาจนตรอก เพราะเมื่อบีบเข้าประชิดสัประยุทธ์นั้น การอ่านหมากพลาดลมหายใจเดียวอาจชี้แพ้ชนะทั้งกระดานได้เลย จากคุณ : โกฏิดารา - [ วันเกิด PANTIP.COM 04:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ใช่ครับ  คุณโกฏิดารา  การอ่านพลาดลมหายใจเดียว  อาจแพ้ทั้งกระดาน ได้เลย  เพราะผมก็แพ้แบบนี้บ่อยๆ  โดยเฉพาะกรณีมองผิดพลาด  คิดว่า กลุ่มหมากรอด  ที่แท้กลับยังไม่รอด  ซึ่งคงต้องกลับไปศึกษาเรื่อง Life & Death  ในหมากล้อมต่อไปครับ ท่านอื่นมีข้อคิดอะไรอีก  มาแชร์กันบ้างนะครับ  จะได้แลกเปลี่ยนข้อคิดกัน จากคุณ : Jimmy Walker - [ วันเกิด PANTIP.COM 14:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 67 แวะมาโหวตให้ค่ะ กระทู้ดีดีอย่างนี้ทำไมหล่นได้นะ ไปหัดเล่นโกะมาด้วยแหละค่ะ จากคุณ : หน้าแป้นเปื้อนยิ้ม - [ 13 ต.ค. 50 07:24:43 ]