ความคิดเห็นที่ 1 ให้ลูกสาวเจ้าของแต่งงานด้วย 5555 จากคุณ : Jump.Jr - [ 26 ก.ย. 50 08:29:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 น่าเห็นใจ HR เหมือนกันนะเนี้ย เพิ่งรู้ว่าลำบากขนาดนี้ จากคุณ : .... (น้ำชาตอนบ่าย) - [ 26 ก.ย. 50 08:34:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ^ แอบฮาตรงนี้เหมือนกัน (อ้าว ไม่ทัน ชี้ไปที่ #1  นะคะ) เราเคยอะ แบบว่าได้งานที่นึงแล้ว ละจะโทร.ไปบอกกับอีกที่นึง ว่าจะไม่ไปสัมภาษณ์ละ เพื่อนเราบอกไม่ต้องโทร.ไปหรอก เค้าเห็นเราไม่ไปก็ไม่สนใจแล้ว แล้วเราก็เถียงกัน จนเรารู้สึกโมโหเลย (ปกติจะไม่ค่อยหงุดหงิดใครง่ายๆ นะ) เพื่อนเราพูดประมาณว่า เราไม่สำคัญกับบริษัทเค้าถึงกับต้องโทร.ไปบอกหรอก อะไรทำนองนี้อ่ะ แล้วก็พูดเหมือนๆ จะว่า ว่าเราอ่อนด้อยเรื่องนี้ ปกติไม่เห็นมีใครเค้าโทร.ไปบอกกันเลย ฯลฯ (แต่สุดท้ายเราก็โทร.นะ เพราะเคยได้อ่านความคิดเห็นของ HR จากในนี้เหมือนกัน ว่าให้โทร.บอกด้วย) แต่เซ็งเพื่อนมากกกกกกก - -' แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 50 08:34:31 จากคุณ : zyleth - [ 26 ก.ย. 50 08:34:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ให้ลูกสาวแต่งงานด้วย  - -' ทุ่มทุนสุด ๆ จากคุณ : kazama - [ 26 ก.ย. 50 09:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขออนุญาตนำบทความจากหนังสือที่ลุงแอ็ดกรุณานำมาโพสต์ ในซีรี่ย์ "เทคนิคการหางานทำ" ในห้องสีลม เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นนี้มาฝากกันอีกครั้งนะคะ ********************************************** เทคนิคการหางานทำ – เมื่อคุณคือคนที่บริษัทเลือก..... เทคนิคการหางานทำ –  เมื่อคุณคือคนที่บริษัทเลือก..... ฉันดีใจด้วย ถ้าคุณเดินทางมาถึงตรงนี้ได้ อย่างน้อยคุณมี โอกาสดีกว่าอีกหลายๆ คนในตลาดงานที่มีไม่มีงานเข้ามา ให้เลือกเลย บางคนอาจโชคดีเป็นพิเศษที่มีหลายบริษัท เสนองานให้ทำ กลับกลายเป็นผู้สมัครเสียอีกที่เป็นฝ่าย เลือกงานได้ตามใจปรารถนา พิจารณาแล้วพิจารณาอีกทุก แง่มุม เพื่อให้แน่ใจว่าการตัดสินใจของเขาในเวลานั้นจะนำ พาไปสู่การทำงานที่มีความสุขในอนาคต ถ้ามั่นใจแล้วว่า “นี่แหละคือสิ่งที่ต้องการ” ฉันไม่อยากให้ คุณทิ้งโอกาสดีๆ อย่างนี้ไป ลองหวนคิดถึงกระบวนการ ต่างๆ ที่คุณเพียรพยายามทำ เพื่อให้ได้มาซึ่งงานนี้ดูสิ คุณ ได้ทุ่มเทและเสียสละอะไรไปบ้าง เห็นแล้วใช่ไหม ไม่ใช่ ง่ายๆ เลย ฉันถึงพยายามย้ำหลายๆ ครั้งว่า ให้หมั่นถาม ความรู้สึก ความชอบ ความต้องการของตัวเองอยู่เสมอ สิ่ง ที่คุณกำลังไล่ไขว่คว้าอยู่นั้น ใช่สิ่งที่คุณต้องการอย่างแท้ จริงหรือไม่? ถ้าตอบตัวเองได้ทุกครั้งว่า “ใช่” คุณก็ไม่ควรปฏิเสธหรือ ลังเลสำหรับข้อเสนอที่สุดวิเศษของบริษัท แต่ถ้ายังไม่แน่ ใจในคำตอบ ติดขัดกับบางส่วนบางมุมของความคิด อยาก ให้นำข้อเสนอนั้นกลับมาทบทวนอีกสักหน่อย อย่าเพิ่งรีบ ปฏิเสธไปอย่างทันควัน จนบางครั้งบริษัทตั้งตัวแทบไม่ติด เพราะเห็นคุณมีความมุ่งมั่นกับงานนี้มาตลอดระยะเวลาที่ ได้พบปะพูดคุยกัน แต่พอป้อนขนมเข้าปาก กลับคายทิ้ง ก่อนจะได้เคี้ยวเสียนี่ อย่างน้อยขอให้คุณรับข้อเสนอนั้นไว้ ก่อน เก็บมาคิดทบทวน หาข้อมูลสนับสนุนเพิ่มเติมอีกสัก วันสองวัน แล้วค่อยตัดสินใจก็ไม่เป็นไร ในเมื่อบริษัทรอ คุณมาได้ตั้งนาน กับแค่อีกวันสองวัน เขาให้คุณได้แน่ นอน แต่ขอให้คุณรักษาสัญญานะ 1 วันหรือ 2 วันจะโทรไปแจ้ง คำตอบกับบริษัท ก็ขอให้โทรไปตามที่บอกไว้ ไม่ว่าคำ ตอบที่คุณได้คิดพิจารณาดีแล้วนั้นจะออกมาในรูปแบบ ไหน ถ้าคุณปฏิเสธงานนั้น บริษัทจะได้ทำใจ แล้วหาคนใหม่ต่อ ไป หรืออาจเรียกผู้สมัครสำรองมาทำงานนั้นแทนคุณ ถ้า คุณตอบรับ บริษัทจะได้จัดเตรียมกระบวนการต่างๆ เพื่อรับ คุณเข้าทำงาน เช่น การทำสัญญาจ้างงาน สัญญาค้ำ ประกัน จัดเตรียมสถานที่ เครื่องไม้เครื่องมือสำหรับการทำ งาน ที่พัก หรือรถประจำตำแหน่งให้กับคุณต่อไป แต่ถ้าคุณได้งานที่ชอบกับอีกบริษัทหนึ่งแล้ว และมั่นใจว่า ไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด แถมบางคนไปเซ็นสัญญาจ้างงาน เป็นที่เรียบร้อย คุณก็สามารถปฏิเสธงานได้ทันที ไม่ต้อง ซื้อเวลาไว้นานนัก บางคนให้ความหวังกับบริษัทจนถึงวัน เริ่มงาน แล้วก็ไม่ไปตามที่นัดไว้ ปล่อยให้คอยเก้อ บาง ตำแหน่งบริษัทต้องจัดเตรียมอะไรต่างๆ มากมายเพื่อ อำนวยความสะดวกในการทำงาน เป็นอันว่าสูญเปล่า เสีย ทั้งเวลา เสียทั้งงบประมาณ คุณคงไม่มีความสุขนักหรอก ถ้ารู้ว่าการกระทำของคุณทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน จึงขอ ร้องตรงนี้เลย ตัดสินใจให้ดี แล้วรีบแจ้งกับบริษัทแต่เนิ่นๆ ว่าคุณขอปฏิเสธงานนี้ ส่วนใหญ่บริษัทมักถามกลับ ทำไมคุณถึงปฏิเสธ ขอให้ แจ้งไปตามความจริง ไม่ว่าด้วยเหตุผลค่าตอบแทน สวัสดิการ ลักษณะงาน องค์กร หรืออะไรก็ตามแต่ที่เป็น เหตุผลจูงใจให้คุณอยากทำงานกับอีกบริษัทมากกว่า รู้ไหม การที่คุณบอกเหตุผลที่แท้จริงจะทำให้บริษัททราบ ว่าเหตุผลของการปฏิเสธงานของผู้สมัครที่ผ่านการคัด เลือกเข้าทำงานกับบริษัทแล้วนั้นมีอะไรบ้าง เขามีอะไรที่ แตกต่างกับอีกบริษัทที่ผู้สมัครเลือก ถ้าเป็นเหตุผลเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นแสดงว่าบริษัทควรคิดแก้ไขหรือปรับปรุง จุดนั้นให้ดีขึ้น เพื่อลดอัตราการปฏิเสธงานให้น้อยลง เช่น ถ้าอัตราเงินเดือนของบริษัทต่ำกว่าบริษัทคู่แข่งอื่นๆ ในวงการเดียวกัน หาได้กี่คน ผู้สมัครก็เลือกไปทำงานกับ บริษัทอื่นหมด สถานการณ์อย่างนี้ บริษัทอาจต้องหันกลับ มาปรับปรุงโครงสร้างเงินเดือนใหม่อีกสักรอบให้เหมาะสม กับสภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันในปัจจุบัน หลายคนอ่านตรงนี้แล้วคิดว่าทำไมต้องไปสนใจกับบริษัท ที่เราไม่ได้เลือกด้วย แค่บอกปฏิเสธไปก็จบ ไม่น่ามี ปัญหา ปัญหานะไม่มีแน่ เขาคงไม่อ้อนวอนกราบกรานให้ คุณยอมมาทำงานกับเขามากนักหรอก ถ้าคุณปฏิเสธอย่าง มั่นใจซะขนาดนั้น แต่ฉันอยากให้คุณมีโอกาสทำสิ่งดีๆ ให้ กับเขาบ้าง เหมือนกับการที่เราได้มีโอกาสรู้จักพูดคุยกับ ใครคนหนึ่ง แม้ไม่นานนัก แต่เขาก็คือเพื่อนร่วมโลกคน หนึ่งของเรา อะไรที่มีประโยชน์ และช่วยให้เขาดีขึ้นได้ เรา ก็น่าจะช่วย เหตุผลการปฏิเสธงานของคุณในวันนี้อาจทำ ให้บริษัทปรับปรุง เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ แล้ว คุณจะภูมิใจไม่น้อยที่เป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันนั้น ฉันไม่อยากให้คุณมองว่า แค่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่อยาก ให้ช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะการบอก หรือเตือน เมื่อเห็นเขามีข้อบกพร่อง ซึ่งบางครั้งเจ้าตัวเอง ไม่เคยรู้มาก่อน คำเตือนนั้นเป็นเหมือนใบวินิจฉัยโรคของ แพทย์ที่ส่งต่อไปให้เภสัชกรจัดยาเพื่อรักษาโรคให้หาย ขาดต่อไปนะ ********************************************** ตอนต่อไป  :    ถึงจุดหมายซะที  เฮ้อ !!!........ *********************************************** จาก....กลยุทธ์เด็ด คว้างานดี  ชีวิตนี้ไม่มีเตะฝุ่น  โดย ปนัฎดา  สังข์แก้ว amorntvm@anet.net.th http://lungadd.pantown.com/ จากคุณ : ลุงแอ็ด   - [ 26 ม.ค. 50 20:18:51 ] *********************************************** เรื่องก็มีอยู่ประมาณนี้ค่ะ เป็น HR อีกคนที่อยากอ้อนวอนขอ... ขอบคุณเจ้าของกระทู้...ที่เป็นตัวแทนให้กับ HR ทุกคนนะคะ ^ - ^ จากคุณ : แมงปอในไร่ส้ม - [ 26 ก.ย. 50 09:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 #1 มัวแต่ตลก อันนี้ตอบตามหัวข้อกระทู้นะครับ สังเกตว่าเด็กจบใหม่บางส่วนเป็นแบบนี้เยอะมาก แบบพอลำบากใจปุ๊ปไม่โทรไม่แจ้ง โทรตามไม่รับอะไรแบบเนี้ยซึ่งมันมีมารยาทที่แย่นะครับในความคิดผม มันต้องปรับปรุงที่จิตสำนึกบ้างว่ามีคนเค้ารออยู่จะอะไรยังไงก็โทรไปแจ้งไปบอกไปคุยนิดนึงก็ยังดี ไม่เช่นเล่นหนีเข้ากลีบเมฆไปเลย จากคุณ : Jump.Jr - [ 26 ก.ย. 50 09:33:13 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ที่บริษัทก็โดนแบบนี้กันบ่อย ๆ ครับ เหนื่อยเลย จากคุณ : เดิมพัน - [ 26 ก.ย. 50 09:51:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โทรบอกเถอะครับ จะได้ไม่เสียเวลา บางทีพอรู้ว่าจะได้คนใหม่ก็วางแผนล่วงหน้าไว้หมด แต่พอคุณมาทำแบบนี้ ก็อาจจะต้องวางแผนใหมท่เลยทีเดียว จากคุณ : MiraSport - [ 26 ก.ย. 50 09:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าที่เก่าให้เงินมากขึ้น อะไรก็ดีขึ้น คุณจะไปทำไมละ จากคุณ : แค่นั้นเอง - [ 26 ก.ย. 50 11:33:17 A:10.7.100.203 X:203.148.187.139 TicketID:136098 ]

ความคิดเห็นที่ 10 HR ก็พอๆกันแหละครับ สัมภาษณ์ไม่ผ่านก็ไม่เคยโทรบอก ไม่เคยเมล์หา ผมว่าสมควรโดนแล้วหละ จากคุณ : OreOแง่มๆ (OreOแง่มๆ) - [ 26 ก.ย. 50 11:43:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ในทางกลับกันในฐานะคนทำงาน อยากให้บริษัทอย่ามาเกรงใจกัน แบบว่าถ้าไม่ผ่านก็บอกว่าไม่ผ่าน อย่ามาบอกว่ารอก่อนค่ะ เดี๊ยวโทรแจ้งค่ะ แต่จริงๆเงียบหาย ปล่อยให้คนเรารอเก้อ หรือเหตุผลที่ไม่ฟันธงไปเลยว่าไม่ได้งานนี้นะคะ หรือไรก็ได้ คนหางานจะได้ไม่เอาใจไปคอยหรือเสียเวลา บางทีเหมือนมีความหวังมากเลย แต่สุดท้ายรอนานมากก็หายเงียบ โทรไปถามก็ไม่อยู่ ไม่อะไรต่ออะไรบ้าง ช่วยกันทั้งสองฝ่าย จะได้สบายใจทั้งคู่ จากคุณ : รอๆๆๆ (ทางข้างหน้า) - [ 26 ก.ย. 50 11:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยกับความเห็นที่10 กับ 11 ค่ะ จากคุณ : น้องมู่ตู้^^กระซุ้ดกระซี้ด - [ 26 ก.ย. 50 14:07:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เคยได้ยินกับตัวเอง นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน จากอโศก จะมาที่สีลม เสียงโทรศัพท์ดังจากเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่ง แล้วก็มีคนนึง ควัก โทรศัพท์ออกมา จุ๊ปากบอกเพื่อน ให้เงียบ ๆ แต่ผู้โดยสารคนอื่น ก็พลอยเงียบตาม เด็กหนุ่ม " ครับใช่ ครับ ครับ เข้าใจครับ ครับ" พอวางสายเสร็จ เงยหน้ามามองเพื่อน "แม ร่ง โทรมา นึกว่าจะรับ กรู ****ดันบอกว่าได้คนแล้ว  จะโทรมาให้เสีย เซลฟ์ทำไม ++++" เราเองนึกอยู่ในใจ ดีแค่ไหน ที่เขาโทรมาบอก ดันไปว่าเขาอีก จากคุณ : samporndanai - [ 26 ก.ย. 50 14:37:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ  บางช่วงอารมณ์เสียเพราะเจอคนแบบนี้เลยค่ะ ไม่ไปสัมภาษณ์ก็ต้องโทรแจ้ง  มันเป็นcommon senseนะ เหมือนคุณนัดเพื่อน แต่ไปไม่ได้ก็ต้องบอกเพื่อนถูกมั้ย อย่าคิดว่าไม่โทรไม่ไปแปลว่าทางนั้นทราบแล้ว เป็นการทำลายเครดิตตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อเลย และในทางหลักการ ก็คือการเลี่ยงปัญหาค่ะ ไม่กล้าเผชิญหน้าแก้ไขปัญหา และไร้ความรับผิดชอบค่ะ  และถามหน่่อยว่าคนนิสัยแบบนี้ใครอยากรับเข้าทำงาน ทำงานอะไรจะเจริญ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย - [ 26 ก.ย. 50 14:51:02 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มาสารภาพว่าเคยเป็นแบบนี้ครั้งนึงครับ เหตุเป็นเพราะว่าเล่นเกมจนดึก ตื่นสายกว่าที่เผื่อเวลาไว้ จนคิดว่าไปไม่ทันแน่ๆ ไม่กล้าโทรไปเลื่อนนัด คิดได้ดังนั้น ก็เลยนอนต่อ แล้วก็มีHR โทรมาปลุกแบบเดียวกันเป๊ะ จากคุณ : Moonui - [ 26 ก.ย. 50 15:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ของผมตอนนั้น HR โทรมาวันศุกร์ โทรนัดสัมภาษณ์วันจันทร์ผมก็โอเค ไปครับไป 10 โมงนะ พอวันเสาร์อีกที่นึงโทรมาเรียกไปเซ็นสัญญา ผมก็โอเค ตกลงรับงาน วันจันทร์ก็โทรไปแจ้งกับทาง HR ที่นัดไว้ว่า ไม่ไปแล้วนะครับ ได้งานใหม่แล้ว ต้องขอโทษด้วยจริงๆ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่น้ำเสียงแอบหงุดหงิดเล็กน้อย ^^" จากคุณ : aLcHy~* - [ 26 ก.ย. 50 16:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นว่าพอกัน.... เอาเป็นว่าทีใครทีมันดีกว่า  เราก็เจอทั้ง HR ดี และ แบบ ปญอ. มากๆ ถัวๆกันไปฮะ จากคุณ : วังดอกไม้ลอย - [ 26 ก.ย. 50 20:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คันมือเจอกระทู้ hr อีกละเอาใจเขาใส่ใจเราโทรบอกหน่อยก็ดีนะ อย่าทำตัวเหมือนบริษัทที่กั๊กคนไว้เผื่อเลือก แล้วเราจะติดต่อกลับไป จากคุณ : เช็ง - [ 26 ก.ย. 50 21:14:05 A:125.24.233.219 X: TicketID:149550 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ก็เห็นใจ HR ในบางประเด็นครับ HR คือคนที่อยู่ตรงกลาง ถูกรุมกระหน่ำจาก 3 ด้าน 1. เจ้าของบริษัท เอาเข้าจริงแล้ว HR ก็ทำงาน routine ไปวันๆ ทางด้านนโยบายน่ะ เจ้าของเป็นผู้กำหนด HR ระดับมืออาชีพจริงๆ มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย เมืองไทยมีไม่กี่บริษัทหรอก 2. ฝ่ายต้นสังกัด มักจะมองว่า HR จะไปรู้อะไร บ่มิไก๊ ต้นสังกัดเท่านั้นที่รู้รายละเอียดของงาน ยิ่งถ้าเป็นโรงงานนะ เรื่องนี้ยิ่งชัด เพราะ HR ไม่มีทางที่จะไปรู้รายละเอียดทางเทคนิคได้ 3. ตัวพนักงานเอง ยิ่งถ้าไปเจอ HR ที่ชอบกร่าง reaction ยิ่งแรง ป.ล. ผมไม่ชอบคำว่า HR เลย ทรัพยากรมนุษย์ ... มองคนเป็นทรัพย์ !!! ฝ่ายบุคคล กองการเจ้าหน้าที่ ดีกว่าเป็นไหนๆ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 26 ก.ย. 50 21:56:58 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถูกใจ คห 10 จัง 555555 จากคุณ : sweet E.T. - [ 26 ก.ย. 50 23:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เดี๋ยวนี้คนนิสัยแย่ลงจัง อะไรที่พึงทำเพื่อรักษามารยาทอันดีงานในสังคมไม่ค่อยกล้าจะทำกันหรอก กลัวความจริงกันมาก ผมหละเป็นงงจริงๆ สงสัยเป็นนิสัยของคนไทยนะ ไม่กล้าสู้ความจริง 1.งานที่เดิมเค้าเพิ่มค่าตอบแทนให้แล้วก็เลยไ่ม่ไปทำงานที่ใหม่ -----กล้าทำงานที่เดิมแล้วทำไมไม่กล้าที่จะโทรไปบอกที่ใหม่ว่าไม่ไปทำงานแล้ว ???? 2.สัมภาษณ์แล้วตัดสินใจไม่รับก็น่าจะโทรบอกเค้าหน่อยหรือ ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนเลย (หรือกลัวคนที่มาสัมภาษณ์งานจะเสียใจฟูมฟายฆ่าตัวตาย,เอ่อพูดยากเหมือนกันแฮะ คนบางคนนี่เจอเรื่องเสียใจนิดๆหน่อยๆนี่จะใจแข็งสู้ไม่ได้กันแล้วเหรอ ???) กล้าๆยอมรับความจริงกันหน่อย จากคุณ : pinestand - [ 27 ก.ย. 50 10:18:12 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เคยเจอ hr นัดไปสัมภาษณ์ที่ระยอง บอกว่าตำแหน่ง engineer โยธา แต่เราจบเครื่องกล เราถามเขาว่าไม่ได้จบสายนี้มาจะได้หรือ เขาบอกว่าขึ้นอยู่กับความสามารถ อาจถูกใจคนสัมภาษณ์ ไอ้ความที่อยากได้งานไม่คิดอะไรเลยไปดู ปรากฎว่าคนสัมภาษณ์บอกเราว่าตำแหน่งที่รับไม่ตรงกับสายงานของเรา ตอนนั้นนึกในใจไอ้คนเรียกสัมภาษณ์มันรู้เรื่องหรือเปล่า กับตำแหน่งที่เขารับ เสียเวลา เสียค่านํามัน ต้องมาเจ็บใจอีก ตอนคัดเลือกมันน่าจะเอาประวัติไปให้คนสัมภาษณ์ สแกนก่อนว่าได้หรือเปล่า ถ้า hr ไม่รู้เรื่องเลยแบบนี้ผมว่าแย่นะ จากคุณ : เคือง (roj2524) - [ 28 ก.ย. 50 11:57:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สาเหตุที่ไม่โทรกลับไปแจ้ง ว่าไปสัมภาษไม่ได้ เพราะ 1) ลำบากใจ ไปไม่ได้จริงๆ รู้สึกผิดที่จะลาออก มันเป็นความรู้สึก ที่เกดิดขึ้นกะทันหัีน 2) คิดว่าไม่เป็นไรหรอก เราไม่สำคัญ เดี่ยวเขาก็สัมภาษณ์คนอื่น หาคนอื่นได้เองแหละ 3) รำคาญ บาวที HR โทรมาตามตื้อ บริษัทก็ไม่เห็นจะดีเท่าไหร่ ไม่อยากรับอ่ะ จริงๆนะ สาเหตุที่ รับเข้าทำงานแล้ว แต่ไม่เอาแล้วไม่บอก 1) แทงกั๊ก เหมือนกับ ที่ HR แย่ๆ ที่ชอบแทงกั๊ก เผื่อเลือก มันก็เหมือนกันแหละ อย่าไปโทษ คนสมัครเลย จากคุณ : BOSS - [ 28 ก.ย. 50 20:38:19 A:58.64.87.218 X: TicketID:132694 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แล้ว HR ไม่มีรายชื่อสำรองไว้เหรอในเมื่อปัญหาแบบนี้ก็เจอบ่อยอยู่แล้ว แหมทำไปได้ จากคุณ : สายลมปุยเมฆกับฟ้าสีคราม - [ 2 ต.ค. 50 21:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอตอบครับ เหตุหนึ่งคือสังคมไทยเป็นสังคมแห่งความเกรงใจ กลัวจะทำให้คนอื่นเสียใจ หรือขี้อาย ยอมรับว่าก่อนเข้ามาอ่านห้องสีลมผมก็เคยเป็นไม่กล้าโทรไป แต่ตอนนี้ความคิดเปลี่ยนไปแหละจะโทรบอกนะครับถ้าไปไม่ได้หรือไม่อยากไป HR เองก็ขอนิดนึงครับถ้าไม่ไปสอบสัมภาษณ์งานแล้วไม่รับหรือมีเหตุผลใดๆก็โทรบอกหน่อยก็ดีนะครับเพราะบางที่ที่ผมไปสัมภาษณ์อยากจะทำงานที่บริษัทนี้มากแต่พอสอบแล้วเงียบครับผมก็รอไปสิครับก็คนมันอยากร่วมงานด้วยนี่ จากคุณ : ปลาทองเมาวุ้น - [ 3 ต.ค. 50 18:58:24 ]