Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    “จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี” ตอนที่ 3 ธนาคารของชาวนาไทย

    “จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี” ตอนที่ 3 ธนาคารของชาวนาไทย




    ลุงหันรีหันหวางอยู่หลายอาทิตย์  พยายามจับหนังสือที่

    ทางเมืองนอกส่งมาให้  ก็อ่านได้ไม่กี่หน้า  หยิบเล่มโน้น

    มาเปิดที เล่มนี้มาเปิดที  พยายามเปิดดิชชันนารี่มาดูก็ช่วย

    อะไรไม่ได้ เพราะเป็นศัพท์เทคนิคทางคอมพิวเตอร์ที่ลุง

    ไม่มีความรู้เอาเสียเลย




    จะไปปรึกษารุ่นพี่ที่เขาอาจจะเข้าใจบ้าง  คุณธวัชก็ให้เก็บ

    เป็นความลับเสียอีก ตกลงเหว่ว้าเอกาอยู่แต่ผู้เดียว




    ในช่วงนั้น ก็มีคำถามจากลูกค้ามาเรื่อยๆ เรื่องเทคนิค

    ต่าง ๆ   ลุงต้องให้คุณธวัชเทลเล็กซ์ไปถามเมืองนอกให้

    ทุกที ตกลงเราก็เป็นคนเดินสารดีๆ นี่เอง หาได้ทำอย่างอื่น

    ไม่




    เรื่องชักงวดเข้าทุกที  คำถามก็มากเข้าทุกที คู่แข่งก็เริ่มรู้

    แล้วว่าหน่วยงานนั้นต้องระบบคอมพิวเตอร์  ก็เข้าไปวิ่งกัน

    ใหญ่




    มีการวางสเป็คกันไม่ให้คนอื่นเข้าได้  ลูกค้าก็ติดต่อเขามา

    ถี่ขึ้น จนแทบทุกวันที่ต้องตอบคำถามจากลูกค้า  




    การเป็นเซลส์ที่ไม่มีความรู้เรื่องสินค้าอย่างเพียงพอนี่

    มันเจ็บใจจริงๆ ถึงแม้เราจะมีหน่วยงานซัพพอทอยู่ทาง

    เมืองนอกที่คอยช่วยเหลือ แต่ถ้าเราต้องยืมจมูกคนอื่นเขา

    หายใจทุกวัน มันก็อึดอัดใจทั้งตนเองและลูกค้า  





    ลุงต้องหาวิธีที่จะตอบปัญหาของลูกค้าทุกวันให้ได้  ในที่

    สุดก็ตกลงขอยืมเอานักเทคนิคชาวสิงค์โปร์เขามาเข้ามา

    ประจำอยู่เมืองไทย  ซึ่งในขณะนั้น ชาวสิงคโปร์เขามีความ

    รู้ด้านคอมพิวเตอร์ดีกว่าบ้านเรา




    เอานักเทคนิคชาวสิงคโปร์เขาเข้ามาช่วยวางสเป็คเป็น

    เดือน ก็วางสเป็คเสร็จ และรอการประกวดราคาเพียงอย่าง

    เดียว  ลุงก็ให้ชาวสิงคโปร์ที่ยืมตัวมาจาก “เบอร์โร่ส์” ที่นั่น

    กลับก่อน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย




    หลังจากรอการประกวดราคาอยู่ตั้งหลายเดือน  การ

    ประกวดราคาก็ยังไม่ออกสักที่ ลุงก็ไม่รู้ว่ามันติดขัดอะไร

    นักหนา แต่โปรเจคเป็นร้อยล้านบาทขณะนั้น ก็เป็นโปรเจค

    ที่ใหญ่พอสมควร หน่วยราชการที่จะจัดซื้อจัดหาก็ต้องทำ

    งานอันอย่างรอบคอบในการออกประกวดราคา




    ในระหว่างนั้น  ลุงก็ขายเครื่องจักรทำบัญชี  ขาย

    คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก และดูแลลูกน้องห้าคนไปพลางๆ




    งานทางด้านการปกครองคน ด้านการบริหารก็ไม่ค่อยยุ่ง

    ยากเท่าใด เพราะทุกคนก็เป็นลูกน้องเก่า เป็นเพื่อนเก่ากัน

    มาทั้งนั้น  พอลุงได้รับการโปรโมทต่างก็ดีใจกันทั่วหน้า ไป

    กินไก่ย่างหน้าสนามมวยที่ฮิตที่สุดในระยะนั้นจนลุงเอือม

    ไก่ย่าง เห็นไก่ย่างแล้วจะอ้วกไปหลายเดือน




    ในระหว่างที่รอโปรเจคราชการแห่งนั้น ก็เกิดโปรเจคของ

    ธนาคารของชาวนาไทยเข้ามาอีกดีล  คือมีธนาคารเดียวที่

    ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่แท้จริงอยู่ในสมัยนั้นก็คือธนาคาร

    กรุงเทพ
     




    เดิมเขาใช้เครื่องไอบีเอ็ม รุ่น 360 อยู่  ต่อมาธนาคาร

    กรุงเทพเริ่มจะออกสาขาทำ ระบบ On Line แห่งแรกใน

    ประเทศไทย โดยให้ลูกค้าทำรายการฝากถอนข้ามสาขา

    ได้เป็นรายแรก  




    การที่ธนาคารกรุงเทพเปิดบริการได้อย่างนั้น เป็นการตี

    ขนดหางของพญานาคตัวที่สองคือ ธนาคารของชาวนา

    ไทยซึ่งเพื่อความสะดวก ลุงขอเรียกว่า “ธนาคารกสิกร

    ไทย”
    ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญอยู่อย่างรุนแรง  ธนาคารกสิกร

    ไทย เลยวางโครงการที่จะใช้คอมพิวเตอร์บ้าง โดยจ้าง  

    ดร. จากสำนักงานสถิติแห่งชาติเข้ามาเป็นที่ปรึกษา




    ศึกการแข่งขันระหว่างสองธนาคารนี้ก็ประหลาด  




    ทางธนาคารกรุงเทพเอง มีนโยบายที่จะให้บริการด้าน

    ลูกค้าก่อน คืองานอะไรที่ทำความสำคัญ หรือให้ความ

    สะดวกสบายให้กับลูกค้า ธนาคารกรุงเทพจะจับตรงนั้น

    ก่อน ก็โดยทำระบบ On Line ไปยังสาขาถึง 7 สาขาใน

    ขณะนั้น  




    แต่ดวงธนาคารกรุงเทพไม่ค่อยดี ที่ต้องไปเล่นกับระบบ

    On Line ซึ่งยังใหม่มากในประเทศไทย ในขณะเดียวกัน ก็

    เกี่ยวกับสายโทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์ซึ่งยังไม่มี

    ประสิทธิภาพเพียงพอ




    บางครั้งคอมพิวเตอร์ส่งสัญญาณไปยังเครื่องเทอมินัลก็มี

    เพลงจีนประกอบไปด้วย ทำให้การ ON Line ไม่ประสบ

    ความสำเร็จเท่าที่ควร ระบบล่มบ่อย ทำให้ลูกค้าต้องรอ

    นาน และเอือมระอากับบริการของธนาคารกรุงเทพไปตาม

    กัน




    ธนาคารกสิกรไทยก็เฝ้าตามตามความเคลื่อนไหวของ

    ธนาคารกรุงเทพอย่างใกล้ชิด  เห็นธนาคารกรุงเทพมีข้อ

    ผิดพลาดตรงเอาระบบบริการลูกค้าออกไปให้บริการด้าน

    คอมพิวเตอร์ก่อน  ในขณะเดียวกันกับความไม่พร้อมของ

    ระบบและหน่วยงานทั้งหลาย อันทำให้ลูกค้าเกิดความไม่

    เชื่อมั่น  




    ธนาคารกสิกรไทยเลยเอาใหม่  หันมาวางระบบ

    คอมพิวเตอร์โดยเน้นไปที่ข้อมูลของลูกค้า หรือ

    Customer Information System หรือ CIS ก่อน และเมื่อ

    สำเร็จใช้ได้ผลดีแล้ว จึงให้บริการออกไปยังส่วนที่เกี่ยวกับ

    การบริการลูกค้าต่อไป




    ในฐานะที่ลุงเป็น Account Manager หรือดูแลธนาคาร

    กสิกรไทยมาก่อนหลายปี  พอธนาคารเขาเริ่มตั้งโปรเจค

    คอมพิวเตอร์ในธนาคาร  เพื่อนฝูงในธนาคารก็โทรบอกกัน

    เกรียวกราว   ลุงก็มั่นหมายไว้ในใจทีเดียวว่า




    “เอาละวะ….ได้ขายของใหญ่กันอีกครั้งละวะ  คราวนี้เป็น

    ลูกค้าที่เราถนัดซะด้วย….ขอรบกับ “ไอบีเอ็ม”

    ยักษ์ใหญ่ของวงการคอมพิวเตอร์ ดูซักตั้ง….

    คงจะสนุกพิลึก”





    amorntvm@anet.net.th

    จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 21 ต.ค. 50 20:36:44 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom