ความคิดเห็นที่ 1 ค่าแรกเข้า 85,000 บาท ต่อชิ้นเลยเหรอ รึว่าเราเข้าใจความหมายที่คุณ จขกท.พิมพ์ผิดล่ะเนี่ย ใครคิดแบบเรามั่ง ราคาทำไมมันโอเว่อร์ขนาดนั้นค่ะ ถ้าคุณส่งไปแค่สองชิ้นไม่ปาไปแสนกว่าแล้วเหรอ ราคาขนาดนี้ไม่ต้องไปกระจายหรอกค่ะ หาที่อื่นที่ดีกว่านี้จะดีกว่านะคะ จากคุณ : เด็กแนวแถวชายแดน - [ วันพ่อแห่งชาติ 10:36:06 A:58.136.96.132 X: TicketID:159805 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ข้อมูลไม่ผิดหรอกค่ะ ราคาต่อชิ้นต่อไซด์ ราคานี้ถือว่าปกติของห้าง ที่โลตัสแพงกว่านี้ 4-5 เท่า เซเว่น 1 ล้านบาท ส่วนห้างอื่นๆก็เสียหมด ข้อมูลสินค้า 1. ชาเขียวอูหลง ขนาด 10 กรัม / 5 ซอง ราคาปลีก 29.50 บ. เลือกขนาดเล็กสุดเพราะราคาต่อหน่วยถูกทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ 2. กล่องขนาดเล็กประหยัดพื้นที่ห้าง 3. 3 เดือนแรกจัดโปรโมชั่น เดือนที่ 1 ซื้อ 1 แถม 1 / เดือนที่ 2-3 ลดราคา ถ้าจัดชงให้ชิมคงจะต้องเสียค่าพื้นที่อีกแน่ๆ แต่ในระหว่าง 3 เดือนแรกจะทำยังไงให้ยอดขายตรงตามเป้าตามที่ห้างกำหนดไว้ เราคิดไว้เล่นๆนะว่า ก่อนจะลงห้างเราจะต้องทำโฆษณาก่อนซักพักประมาณ 2-3 เดือน แต่เนื่องด้วยต้องประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุดจึงมีแผนดังนี้ 1.ไปยืนโชว์สินค้าตามสถานที่คนเยอะๆเช่น จตุจักร,อนุสาวรีย์,สวนลุม ฯลฯ แต่ก็อายอยู่นะ หลับหูหลับตาทำไปก่อนไม่มีใครเขาจำเราได้หรอก 2.โฆษณาทางหนังสือชีวจิต คอลัมเล็กๆเดือนละ 2-3 พัน กี่เดือนดีละ 1 เดือนจะได้ผลมั้ยน่าแต่ถ้าลง 3 เดือนก็เกือบหมื่นแล้ว 3. สวดมนต์ภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์ช่วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 50 10:48:22 แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 50 10:47:38 จากคุณ : jellynim - [ วันพ่อแห่งชาติ 10:45:47 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ลอง ซื้อ พื้นที่ขายในงาน ตาม เมืองทอง พวก thailand best BIG&BIH อะไรอย่างนี้ดีกว่ามั้ยคะ... แฟนเคยเอาของเข้าเซนทรัลเหมือนกัน แต่ตอนนั้น ยังไม่มีเรียกค่าเก็บ เอาสินค้าไป ตั้งหกเดือน แล้วไม่มีเงินมาให้เลย สุดท้ายเอาสินค้ามาคืน จากคุณ : giang_au - [ วันพ่อแห่งชาติ 11:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เช็คคู่แข่งบนชั้นวางก่อนครับ สินค้าชาเขียว ลูกค้ารู้จักเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว (จากกระแสโออิชิ ถึงจะไม่ใช่อู่หลงก็เถอะ) ดังนั้นราคาถูกไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ ปัจจัยที่น่าเล่นคือ รสชาติ กับแพ็คเกจจิ้ง รสชาติ -> คนบอกต่อกัน -> หาซื้อไม่ได้ -> เพิ่มช่องทางกระจายสินค้า แพ็คเกจจิ้ง -> ของบนชั้นวางชิมไม่ได้ครับ ดังนั้นแพ็คเกจจิ้งสำคัญ พูดถึงแผนการโฆษณาของคุณต่อนะครับ 1. ไปตามตลาดนัด ดีครับ 2. หนังสือชีวจิต circulationมันนาน 1เดือนเห็นผลยากครับ 3เดือนกำลังดี ทั้งนี้ต้องวางเป้าหมายของการทำโฆษณาด้วย เช่น ต้องการให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก ต้องการให้คนบอกต่อ ต้องการให้คนทดลองใช้ ฯลฯ แนะนำเล่นๆไม่คิดเงิน ช่วงนี้ใกล้เลือกตั้ง ทำแก้วน้ำพลาสติกติดแบรนด์คุณให้ผู้สมัครดื่มเวลาหาเสียงแล้วคอแห้ง เล่นป่าล้อมเมืองไป จากคุณ : numnumnum1 - [ วันพ่อแห่งชาติ 11:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 5 ปีที่แล้วเคยออกบูธตามไบเทค เมืองทอง แล้วค่ะ ค่าออกบูธต่อครั้งก็ประมาณ 2 หมื่น / 7 วัน ผลตอบรับก็ดีนะพอชงให้ชิมลูกค้าบออกว่าอร่อยแล้วถามว่าจะหาซื้อได้ที่ไหน คือช่องทางยังไม่กว้างพอลูกค้าหาซื้อยากก็หายๆไป ออกบูธก็สำคัญค่ะเป็นการแนะนำสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ส่วนด้านสินค้าเนื่องจากกระแสชาเขียวเข้ามานานแล้ว จึงนำชาพันธ์อูหลงมาคั่วแบบชาเขียว เขียนที่กล่องว่า ชาเขียวอูหลง คัดเฉพาะยอดอ่อน 3 ใบแรก ส่วนแพคกิ้งคุณพ่อเป็นคนออกแบบ ไมรู้ว่าคนอื่นจะมองว่าสวยหรือเปล่า (คนรุ่นพ่อค่ะ) แต่คนรุ่นเรามองว่ามันเชยไปหน่อย   อยากจะเปลี่ยนแพคกิ้งเหมือนกันแต่ก็อีกแหละต้องเสียค่าพิมพ์ใหม่ แล้วรูปแบบกล่องอย่างนี้ก็ขายมาได้ 5 ปีแล้วน่าจะมีลูกค้าประจำที่จำกล่องได้แล้ว เรื่องรสชาติมั่นใจว่าอร่อยค่ะ ส่วนแพคกิ้งยังไม่มั่นใจ จากคุณ : jellynim - [ วันพ่อแห่งชาติ 12:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ต้องลองชั่งน้ำหนักเอานะครับว่า การทำแบบ mass น่ะมีข้อดีช้อเสียอย่างไร หรือจะทำแบบ below the line (ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ใช้ศัพท์แบบนี้เพราะคิดไม่ออกว่าจะใช้ความหมายอย่างอื่นว่าอะไร) จะเห็นว่า สินค้าคุณเมื่อลูกค้ามีการทดลองใช้จะเกิดการติดใจแล้วถามว่า จะสามารถหาซื้อได้ที่ไหนบ้าง ถ้าเป็นผมนะครับ ผมไม่ชอบพวก mass เพราะสามารถที่จะลอกเลียนแบบได้ง่ายอีกทั้งการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น (คิดว่าอาจจะมีการใช้ PC ในสินค้าตัวนี้ในอนาคต สำหรับ Modern Trade ถ้าตลาดโตขึ้นอย่างเรื่อยๆ) ถ้าเป็นผมทำ ผมจะขยันทำ PR นะครับ ส่วนการขายผมจะขายแบบ Direct Sale นะครับ (เหตุผลถ้าอยากทราบหลังไมค์ครับ) สำหรับความคิดคุณนะครับ 1.ไปยืนโชว์สินค้าตามสถานที่คนเยอะๆเช่น จตุจักร,อนุสาวรีย์,สวนลุม ฯลฯ แต่ก็อายอยู่นะ หลับหูหลับตาทำไปก่อนไม่มีใครเขาจำเราได้หรอก -อย่าอายครับ เราไม่ได้ขอใครกินนะครับ เราเอาสินค้ามาให้ลูกค้าชิมฟรี ต้องภูมิใจในสินค้าของเราครับ 2.โฆษณาทางหนังสือชีวจิต คอลัมเล็กๆเดือนละ 2-3 พัน กี่เดือนดีละ 1 เดือนจะได้ผลมั้ยน่าแต่ถ้าลง 3 เดือนก็เกือบหมื่นแล้ว -เลือกกลุ่มลูกค้าที่เป็น Target หลักให้ได้ครับ แล้วจะลงโฆษณาอะไรค่อยว่ากันอีกที 3. สวดมนต์ภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์ช่วยค่ะ -ช่วยได้บางครั้งครับทำเพื่อความสบายใจ บางครั้งอะไรที่มันไม่เห็นด้วยตาเปล่าก็ยากที่จะอธิบาย โชคดีครับ จากคุณ : ผ่านมาและผ่านไป (ความผูกพัน ความรัก ความทุ่มเท) - [ วันพ่อแห่งชาติ 17:32:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำจากทุกๆท่านค่ะ คิดอยู่คนเดียวบางทีมันก็ตันๆ ที่อยากจะเข้าท็อปเพราะคิดว่า ไม่ต้องส่งของเองทุกสาขากระจายทีเดียว 93 สาขา 5 ปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย  อย่างที่เดอะมอลล์นี่ต้องตามจดออเดอร์และส่งของเองตามแต่ละสาขาสมัยก่อนทำเองอยู่คนเดียว นั่งรถเมลล์ไปส่งของแบกสินค้าอีรุงตุงนัง  แต่ก็ต้องขอบคุณห้างเดอะมอลล์ที่ให้โอกาสถือว่า เป็นผู้มีพระคุณค่ะ ช่วยเหลือสินค้าไทย sme เล็กๆอย่างเรา ลองคำนวณกำไรโดยยึดจากยอดขายที่เดอะมอลล์ของ 5 ปีที่ผ่านมาต่อสาขาแล้วคูณสาขาของท็อป  ตียอดขายครึ่งหนึ่งของเดอะมอลล์ ก็น่าจะได้กำไรเดือนละ 2-3 หมื่น / ไม่นานคงจะคืนทุนค่าแรกเข้า แต่ก็ต้องคิดให้รอบคอบก่อน ทุบกระปุกหมูมาลงทุนตอนนี้ก็ไม่มีรายได้จากที่ไหนด้วยค่ะ จากคุณ : jellynim - [ วันพ่อแห่งชาติ 18:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 9 Top's จะเปิดสาขาที่ 100 วันที่ 7นี้ (เขาส่งคูปองมาให้) สาขาคริสตัลอยู่แถวๆ เกษตร นวมินทร์ ตัดกับเลียบทางด่วนเอกมัย รามอินทรา ราคาไม่น่าจะเป็นเรื่องสำคัญเพราะคนที่เป็นสมาชิกซื้อของที่นี่จะทราบดีว่า Top's ราคาสูงกว่าซุปเปอร์เจ้าอื่นๆ ลูกค้าไปเพราะสดวกสถานที่มากกว่าที่จะสนใจจะซื้อถูกสุด จะมีพิเศษที่มีรายการซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง (พิเศษสำหรับสมาชิก) ตั้งราคาสินค้าให้สูงไว้ก่อน แล้วใช้โปรโมชั่นที่ว่าให้คนสนใจ เชื่อว่าน่าจะได้ผลเพราะสินค้าใบชามีอยู่ไม่กี่ยี่ห้อเอง (น้าฯเป็นคนชอบดื่มชาคนหนึ่งแต่ไม่ค่อยถูกใจชาที่มีขายอยู่ในท้องตลาดเท่าใด มักจะซื้อจากเมืองจีนหากหมดจึงจะซื้อชา Fujian ที่ท๊อปมีอยู่เป็นบางคราว) ถ้าน้าฯเจอชาที่มีโปรโมชั่นที่ว่าจะต้องลองซื้อมาทานดู ถ้าติดใจก็เป็นลูกค้าประจำกันไป น่าลงทุนเสียค่าแรกเข้า เพราะคู่แข่งน้อย มาร์จิ้นสูง ทำที่ท้อปก็พอแล้วไม่ต้องไปยืนเสาวรีย์หยั่งที่ว่าให้เมื่อย จากคุณ : น้ามือเก่า - [ วันพ่อแห่งชาติ 19:23:57 A:58.8.134.189 X: TicketID:131874 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ลองขอลดค่าแรกเข้าสิครับ บอกว่างบจำกัด แต่เราก็planไว้ว่างปีหน้าจะเล่นโปรโมช้นอะไรกับเขาบ้าง คือถ้าเรางบน้อยเราก็ต้องมีทางเลือกอื่นๆ เช่นลดเหลือตัวละ 30k แต่จะลงสื่อ 2 ครั่ง (ไม่แน่จัยว่าลงสื่อแต่ละครั้งเท่าไร)ถ้าครั้งละ15K ก็คุ้มนะ แถมเรามีโอกาสกระจายสินค้าเพิ่มด้วย ก็ต้องดูว่าค่าลงสื่อ/คั้งคุ้มไหมเพราะว่าลงสื่อแต่ละทีจะเสียตังอยู่แล้ว ราคาที่ขายหนาร้านควรตั้งให้สูงหน่อย gpไห้เขาประมาณ14-18 ก็น่าจะรับได้ แต่เราต้องได้กำไรเยอะนะ เอาไว้ทำโปรแรงๆกะเขา ยังไงเราก็ต้องเสียจุดนี้อะครับ แต่เราต้องเอาผลประโยชน์เรากลับมาให้มาที่สุด ปล.อย่าไปปราณีกะจัดซื้อเพราะมันก็จะไม่ปราณีเรา 555 หัวหน้าใหญ่เพิ่งสอนมาเอง ที่บ.ผม top ขายดีกว่า มอลล์ หลายช่วงตัวเป็นผม(ยอดรวมนะครับ) มอลขายดีแค่4-5สาขาเอง  ลูกค้าเขากระจายมากกว่าด้วยสาขา แต่หาคนวิ่งดูหน้าร้านด้วยก็ดีนะครับ ยิ่งพื้นที่ดียิ่งขายดี กลุ่มดื่มชา รายได้สูงอยู่แล้ว     แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 50 19:51:23 แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 50 19:47:26 แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 50 19:46:54 จากคุณ : เก้งออนไลน์ - [ วันพ่อแห่งชาติ 19:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณคุณน้ามือเก่าค่ะ อ่านแล้วโล่งใจ มองเห็นแสงที่อุโมงค์ริบหรี่ๆ จะส่งชาไปให้น้าชิมก่อนลงห้างท็อปได้มั้ยค่ะ ช่วยคอมเม้นต์รสชาติด้วยค่ะ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง ขอบคุณคุณเก้งออนไลน์อีกคนค่ะ ไม่แน่ใจว่าเขาจะยอมลดค่าธรรมเนียมให้หรือเปล่าแต่จะลอง ทำหน้าตาน่าสงสาร กระพริบตาหลายๆที  แต่คิดว่ายากค่ะเพราะเป็นข้อกำหนด  ตอนไปยื่นตังจะอุ้มกระปุกหมูแล้วไปทุบต่อหน้าเขา เหรียญบาทกระจาย ให้จัดซื้อช่วยเก็บกันอย่างวุ่นวาย   แล้วที่ไปเจรจาก็เมื่อ 3 ปีที่แล้วตอนนี้ไม่รู้ว่าเพิ่มราคาไปอีกหรือเปล่า ยิ่งมีสาขามากขึ้นด้วย กลัวจะเดินคอตกออกมาแบบทุกครั้งที่เข้าไปเยี่ยมแม่ที่ห้องไอซียู แม่ก็ป่วยหนัก แล้วเราก็ยังไม่มีงานทำแถมก็เพิ่งหย่าร้างอีก  ช่วงนี้ต้องสวดมนต์เยอะๆจะได้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ จากคุณ : jellynim - [ วันพ่อแห่งชาติ 21:05:54 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่กล้า ก็ไม่มีวันเดินหน้า จากคุณ : ผู้บัญชาการรบกับแมว - [ วันพ่อแห่งชาติ 21:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แอบเข้ามาอ่าน ขอเอาใจช่วยคุณจขกท.นะคะ... สู้ๆค่ะ จากคุณ : หงุยหงุ่ย - [ วันพ่อแห่งชาติ 22:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สู้เข้าไว้คะ ^ ^ คุณยังมีแรง มีสมอง และสองมือ ไม่ต้องไปกลัวคะ เท่าที่คุณทำมา กับที่คุณคิดว่าอยากจะทำ ... เราว่า คุณทำได้แน่คะ จากคุณ : once I am - [ วันพ่อแห่งชาติ 22:38:54 A:202.149.24.177 X: TicketID:134902 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อ่านแล้วรู้สึกดีๆจังค่ะ ขอให้สำเร็จด้วยดีนะคะ จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 6 ธ.ค. 50 00:07:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : ผัดหอยลาย - [ 6 ธ.ค. 50 09:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาให้กำลังใจครับ สู้ๆนะครับ จากคุณ : นาย เพียงพอ - [ 6 ธ.ค. 50 09:36:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่มีหัวการค้าแต่เข้ามาอ่านๆ เอาความรู้ค่ะ เลยนึกถึงการขายผ่านเว็บหรือการโทรสั่ง พอดีน้องที่รู้จักกันเขาเคยติดใจพวกแชมพูสมุนไพรทางภาคเหนือ รู้สึกจะเชียงราย เห็นเขาใช้วิธีการโทรไปสั่งแล้วโอนเงินส่งให้ สักพักของก็ส่งกลับมา เป็นลูกค้าประจำกันจนวางใจ เห็นมีส่งของมาให้ก่อนโอนเงินด้วย เราได้ยินยังพลอยประทับใจ อยากซื้อมาใช้เหมือนกันเลยค่ะ ไม่ต้องโฆษณา หรือออกบูธใดๆ ให้เสียเงินเลย แค่จัดการดีๆ สินค้าดีๆ ของคุณก็น่าจะขายได้อีกทางแล้ว จากคุณ : ke@ - [ 6 ธ.ค. 50 09:40:53 ]

ความคิดเห็นที่ 19 น่าสนใจดีนี่ครับ ลงทุน 85000 คุณมีช่องทางจำหน่ายสินค้าได้ตั้งเยอะ ถ้าเทียบกับไปเช่าที่เปิดขายเอง คุณโดนมัดจำกับล่วงหน้าก็หลายเงินแล้ว ไหนจะค่าตกแต่งร้านและค่าจ้างเด็กช่วยขาย ถ้าของคุณลงอยู่ที่เดอะมอลล์แล้วนี่คุณน่าจะคำนวนจุดคุ้มทุนได้ไม่ยาก คุณได้บอกทาง Tops ด้วยหรือเปล่าว่าของคุณลงที่ห้างอื่นก็ขายได้ ส่วนของลงที่อิเซตันได้ก็น่าจะส่งออกได้ด้วยเช่นกัน ลองทำดูมั้ยครับ ว่าแต่ว่า การลงของที่ห้างนี่เครดิตเท่าไหร่ จุดนี้น่าจะเป็นปัญหากว่านะครับ หากคุณเจอเครดิต 90 วัน พอถึงเวลาไปรับเช็ค สั่งจ่ายล่วงหน้าอีกสัก 15 วัน นี่ก็น่ากลัวนา เงินที่เหลือลองปรึกษาคุณพ่อหรือน้องชายดู ไม่มีใครรักเราเท่าญาติเราหรอก ถ้าคุณทีอยู่แล้วสี่หมื่น ที่ขาดมันก็ไม่ได้มากอะไรนัก ทางบ้านน่าจะช่วยได้ ยิ่งเราเอามาลงทุนด้วยแล้ว คุณยังดีที่คุณยังมองเห็นช่องทางนะครับ แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องการผลิตสินค้าด้วยเพราะคุณพ่อคุณคงจัดการให้ได้ ถือว่าดีกว่าคนที่เริ่มจากศูนย์นะครับ จากคุณ : คนรู้มาก - [ 6 ธ.ค. 50 10:07:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โฆษณาวิทยุรายการที่ตรงกับเป้าหมาย แล้วขายตรง เพราะตอนนี้ราคาโฆษณาวิทยุราคาถูกมาก และกลุ่มบริโภคชาสุขภาพ ยังฟังวิทยุอยู่ หรือเข้าพ่วงกับ MLM จากคุณ : revu - [ 6 ธ.ค. 50 10:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 21 น่าจะเรียกว่า เก็บค่าแรกเข้า 85,000บาท ต่อ SKU นะครับ ต่อชิ้น อาจจะต้องขายชาชิ้นนึงมากกว่า 85,000บาทนะครับ ^.^ ราคานี้ถือว่าถูกครับ อย่างที่บอก 7-11 แพงกว่านี้เยอะ ผมไม่แน่ใจเรื่องการกระจายสินค้าของเค้านะครับ บางที่ให้เราไปส่งเองด้วยนะครับ บางที่คุณไปส่งที่ Center เค้า แล้วเค้าจะกระจายให้ ปล. เดี๋ยวกลับขึ้นไปอ่านข้างบนต่อก่อน อาจจะมาตอบใหม่ พอดีเห็น 85,000 ต่อชิ้น แล้วมาตอบก่อน อิอิ ^.^ จากคุณ : BMWTurboman - [ 6 ธ.ค. 50 10:52:03 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ข้อมูลสินค้า 1. ชาเขียวอูหลง ขนาด 10 กรัม / 5 ซอง ราคาปลีก 29.50 บ. เลือกขนาดเล็กสุดเพราะราคาต่อหน่วยถูกทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ 2. กล่องขนาดเล็กประหยัดพื้นที่ห้าง 3. 3 เดือนแรกจัดโปรโมชั่น เดือนที่ 1 ซื้อ 1 แถม 1 / เดือนที่ 2-3 ลดราคา ---------------------------------------------------------------------- ตอบ 1. แล้วชาเขียวคุณมีกี่ขนาดกี่รสครับ เพราะมีผลต่อค่าแรกเข้า เพราะเค้าจะคิด เป็นแต่ละ SKU ครับ เลือกขนาดที่เหมาะที่สุด ก่อน แล้วเข้าไปดูที่ห้างเองด้วย ว่าคู่แข่งวางอยู่ตรงไหน 85,000 / SKU วางชั้นไหนอย่างไร 2. ไม่ต้องห่วงเรื่องประหยัดหรอกครับ เค้านับเป็น SKU ถ้าคุณขายได้ดี เค้าก็ให้พื้นที่เยอะเอง พวกนี้เค้ามีรายได้จาก GP ด้วย 3. ถ้าจะจัด Promotion ซื้อ 1 แถม 1 แนะนำว่า ลด 50% จะเกิดการทดลองใช้ได้มากกว่า แต่ไม่แนะนำให้จัด Promotion ลดราคานานๆ และบ่อย จะทำให้ดูเป็นสินค้าขายไม่ออก และ Brand Image จะเสีย และสักพักคุณจะกลับมาขายราคาเดิมไม่ได้ เพราะจะมีคนรอซื้อตอบมันลดอยู่ตลอด(แต่อยากจะให้ดูนิดนึงว่า กลุ่มพฤติกรรมผู้บริโภคของกลุ่มเป้าหมาย ว่าเค้าเลือกซื้อชาจากราคา Promotion ไหม) ไม่ทราบว่าลองทำแบบสอบถามเกี่ยวกับทัศนคติของคนดื่มชาหรือยังครับ พฤติกรรมผู้บริโภค คุณเซ็ทกลุ่มเป้าหมายไว้เป็นอย่างไร กลุ่มลูกค้าที่ดื่มชาคุณเป็นประจำคือกลุ่มไหน ทำไมเค้าถึงเลือกดื่ม? สิ่งพวกนี้จะตอบโจทย์ได้ว่า คุณควรกระจายสินค้าแบบไหน Marketing เป็นอย่างไร  ควรออก Promotion อย่างไร มากกว่าที่คิดเอง โดยไม่มีข้อมูลมา Support ข้อมูลคู่แข่งทางตรงและทางอ้อมเป็นอย่างไรบ้าง เค้าทำอะไรอยู่ บางทีแบบแผนจะทำให้คุณมองภาพได้ชัดขึ้น แล้วจะรู้ว่าทำไม 7-11 เก็บค่าแรกเข้าเป็นล้าน แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากรอเข้าอยู่ ข้อมูลและผลสำรวจจึงจำเป็นอย่างมากต่อการดำเนินธุรกิจครับ ขอให้ประสบผลสำเร็จครับ ^.^ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 50 11:08:58 จากคุณ : BMWTurboman - [ 6 ธ.ค. 50 11:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับข้อความกำลังใจจากทุกท่านค่ะ ถ้าเป็นสายยันต์จะโยกหัวน้อยๆไหว้สวยๆ  วันนี้ก็ไปเสนอชาที่ตลาดบองมาเช่, ร้านแถวโรบินสันลาดหญ้า,ร้านขายยา เก็บแต้มไปก่อนระหว่างรอ เคยทำแผนธุรกิจแล้วค่ะนี่ต้องลื้อของเก่ามาศึกษาใหม่ ไม่ได้แตะธุรกิจนี้มานานแล้วเพราะเป็นของน้องชาย แต่เท่าทีดูมาตอนนี้น่าจะทำตลาดง่ายกว่าสมัยก่อนเพราะคนรู้จักชาอูหลงกันมากขึ้นแต่ก็มีคู่แข่งมากขึ้นด้วยเหมือนกัน (ข้อมูลจากการเสริทในกูเกิลและจากคนรอบตัว) ชามี 2 ขนาดค่ะ คือขนาด 5 ซอง (ปลีก30บ.) กับ 30 ซอง (ปลีก 150บ.) ถ้าเข้าที่เดียว 2 ตัวเขาคิด 1.5 แสน จึงคิดว่าเลือกวางตัว 5 ซองก่อนเพราะ 1. ราคาต่อหน่วยถูกทำให้ง่ายต่อการลองซื้อไปชิม 2. ราคาต่อหน่วยของคู่แข่งอยู่ระหว่าง 80-200 ส่วนใหญ่อยู่ที่ร้อยกว่าบาท ไม่มีใครทำไซด์เล็กเลย แต่ถ้าขายไปซักพักขนาด 5 ซองจะมียอดขายลดลงเพราะถ้าซื้อขนาด 30 ซองจะถูกกว่าซองละ 1 บาท (ข้อมูลจากที่ผ่านมา) ที่เลือกโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 เพราะตัวที่แถมเราแถมจากต้นทุน เมื่อหักลบดูแล้วจะประหยัดกว่าลดทีเดียว 50 % เช่นสินค้าราคา 30 บาทลด 50 %เหลือ 15 บาท แล้วต้องให้ gp กับทางห้างอีก / แล้วก็ยังทำให้เงินหมุนเวียนลดลง ส่วนเรื่องแพคกิ้งที่ประหยัดพื้นที่ ลองเปรียบเทียบระหว่างสินค้า 2 ชิ้น  ขณะที่ gp เท่ากัน / เอ ทำกล่องใหญ่มากกว่าบี 3 เท่าในพื้นที่หนึ่ง เอวางได้ 1 กล่องขณะที่บีวางได้ 3 กล่อง / เคยอ่านการคำนวณพื้นที่เป็นหน่วยต่อกำไร ถ้าบริหารดีๆจะทำให้พื้นที่ในชั้นเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ในแง่ของผู้บริโภคจะชอบกล่องใหญ่ๆฟูๆดูเหมือนคุ้มดี แต่ในแง่ของการเช่าพื้นที่ชั้นวางของคิดว่าตรงกันข้าม เรื่องเซฟตี้สต็อกอยู่ที่เท่าไหร่ / เครดิตระยะเวลาการจ่ายเงิน (มีบวกอีก 15 วันอีก)  / ตรงเวลาไหม / สายป่านทุน/ ส่งเสริมการขาย / เงื่อนไขการส่งของ / เอกสารทางบัญชี ,บิล/ ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเปล่า / เรื่องแวทอีก ภาษีซื้อภาษีขาย ธุรกิจที่จะอยู่รอด 1.มีลูกค้าอยู่ในมือที่แน่นอน 2.ต้นทุนที่ต่ำกว่า 3.มีเทคนิคในการผลิตที่ทำให้คนื่นลอกเลียนแบบไม่ได้ (เคล็ดลับ) 4.มีวัสดุ วัตถุดิบตรงตามความต้องการอย่างต่อเนื่อง จากคุณ : jellynim - [ 7 ธ.ค. 50 00:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คำแนะนำของทุกคนที่มาตอบมีประโยชน์มากๆๆนะครับ  แต่ผมอยากให้คุณ  jellynim  ลองสวดมนต์  นั่งสมาธิ  ดูครับ  เพราะความดีๆ  จะเกิดจากความสบายใจ  และความสงบ  ลองดูนะครับ ถ้าคุณ  jellynim   ทำประจำควบคู่กับการทำงานด้วยแหละก็  ผมมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ครับ    ว่าเจริญก้าวหน้าแน่นอน จากคุณ : คิดดี พูดดี - [ 7 ธ.ค. 50 13:19:02 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านแล้วก็ลุ้นไปด้วยเลยครับ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีก สำหรับอนาคต ขอให้ประสพความสำเร็จนะครับ ผมเชื่อว่าคุณต้องทำได้แน่ เวลาเด็กเล่นเกมส์เมื่อแพ้เขาจะเล่นใหม่และหาทางที่จะชนะมันจนได้ จากคุณ : sumpaopong - [ 7 ธ.ค. 50 13:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านคห. 23 แล้วยังงงๆครับ GP เค้าคิดเป็น%หนิครับ จะซื้อ 1 แถม 1 หรือว่าจะลด 50% มันก็น่าจะเสียเหมือนกันหรือเปล่าครับ(เอ หรือว่าผมเข้าใจผิด) ที่บอกว่าลด 50% คุณเองก็บอกว่า ราคาต่อหน่วยถูกทำให้เกิดการทดลองใช้ได้มากกว่า สมมุติว่าคุณจะไปซื้อยาสีฟัน ยี่ห้อใหม่ มีให้เลือก 2 ยี่ห้อ ยี่ห้อ A ซื้อ 1 แถม 1 ราคา 100 บาท ยี่ห้อ B ลด 50% ราคา 50 บาท การเกิดการทดลองใช้อันไหนง่ายกว่า? ------------------------------------------------------------------- ส่วนเรื่องแพคกิ้งที่ประหยัดพื้นที่ ลองเปรียบเทียบระหว่างสินค้า 2 ชิ้น ขณะที่ gp เท่ากัน / เอ ทำกล่องใหญ่มากกว่าบี 3 เท่าในพื้นที่หนึ่ง เอวางได้ 1 กล่องขณะที่บีวางได้ 3 กล่อง / เคยอ่านการคำนวณพื้นที่เป็นหน่วยต่อกำไร ถ้าบริหารดีๆจะทำให้พื้นที่ในชั้นเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด - ถ้าลักษณะนี้เหมาะกับร้านค้าที่ไม่มีคลังสินค้า เราควรมาสนใจว่าสนค้าเราจะจัดวางตรงไหน สินค้าทุกชิ้นที่อยู่ในห้าง ห้างเค้าได้ GP หมด ดังนั้น สินค้าที่ขายดี มักจะอยู่ในจุดที่เห็นง่าย ทางผ่าน สินค้าใหม่เค้าอาจจะไปไว้ในที่หยับซื้อลำบาก ดังนั้น ต้องใช้กำลังภายในนิดนึงในการต่อรอง วิธีแก้ อาจจะใช้ Marketing Plan เข้าไปเสนอกับทางห้าง ว่าเราจะดำเนินกิจกรรมอะไรบ้าง ทางห้างจะได้หาทาง Support จากคุณ : BMW โดนยึดอมยิ้ม - [ 7 ธ.ค. 50 14:59:59 A:58.136.117.177 X: TicketID:162437 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เรื่องเซฟตี้สต็อกอยู่ที่เท่าไหร่ ------> อันนี้ขึ้นอยู่กับสินค้ามีการ Turn over สูงแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่ห้างจะมีระบบ (เรียกชือ่ไม่ถูกอ่ะ รู้ว่ามาจากญี่ป่น) ระบบจะเตือนเมื่อสินค้าอยู่ในระดับที่ต้องสั่งเพิ่ม / เครดิตระยะเวลาการจ่ายเงิน (มีบวกอีก 15 วันอีก)----------->เรื่องปกติ + 15 วันนี่ยังน้อย เหมือนเทียบกับธุรกิจที่ผมกำลังดำเนินอยู่ / ตรงเวลาไหม -----------> ไม่เข้าใจอะไรตรงเวลา? / สายป่านทุน ---------------->อันนี้แน่นอน / ส่งเสริมการขาย -------------> มีหลายวิธีมาก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ / เงื่อนไขการส่งของ ------------>สำคัญมากกกกกเลย ตัวหนึ่ง ต้องตกลงกันให้ดี ขึ้นอยู่กับแต่ละที่ เงื่อนไขไม่เหมือนกัน / เอกสารทางบัญชี ,บิล----------->สำคัญอีกเช่นกัน เคยมีบางบริษัทสินค้าขายดีมาก แต่บริษัทเจ๊ง เพราะไม่เคยดูเรื่องนี้เลย สรุปแล้ว ขายดี มีลูกหนี้เพียบ แต่เงินสด อยู่ไหนหว่า? / ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเปล่า / เรื่องแวทอีก ภาษีซื้อภาษีขาย-------------> อันนี้แน่นอน ลองศึกษาวิธีเสียภาษีให้ดี ธุรกิจที่จะอยู่รอด 1.มีลูกค้าอยู่ในมือที่แน่นอน ---------> ทุกวันนี้ไม่มีอะไรแน่นอน กับตลาดแข่งขันสมบูรณ์ คู่แข่งในตลาดมีมาก ถ้าเป็นสินค้า Monopoly ก็จะคิดอีกแบบ คุณจะเข้ามาแข่งในตลาด Red Ocean ต้องทำใจ 2.ต้นทุนที่ต่ำกว่า -----------> สู้บริษัทใหญ่เค้าไม่ได้ Economic of scale เราผลิตสินค้า เดือนละ 100,000 ชิ้น กับ คู่แข่ง ผลิตเดือนละ 1,000,000 ชิ้น ต้นทุนต่างกันมหาศาล 3.มีเทคนิคในการผลิตที่ทำให้คนอื่นลอกเลียนแบบไม่ได้ (เคล็ดลับ)--------> ถ้าคู่แข่งเห็นว่าเคล็ดลับของเราน่าสนใจ ไม่นานคู่แข่งต้องทำตาม สินค้าที่มีความซับซ้อนมากยิ่งกว่านี้ ก็ยังเลียนแบบได้สบาย วิธีแก้ คือ R&D 4.มีวัสดุ วัตถุดิบตรงตามความต้องการอย่างต่อเนื่อง -------------> แบ่งเป็น 2 ข้อ ข้อแรกระหว่างการผลิต ชา ไม่แน่ใจว่า วัตถุดิบ จะเป็นลักษณะ Season เหมือนพวกผลไม้หรือไม่ ถ้าเป็น ในช่วงนี้ ชา ยังเก็บไม่ได้ มีวิธีแก้อย่างไร? ข้อสอง Lead Time ในการผลิต + ส่งมีเวลาเท่าไหร่ ทันต่อการขายไหม? คิดว่าผมเป็นจิ้งจกที่ร้องทักแล้วกัน พอดี ผมคลุกกับกับเรื่องนี้มาพอสมควร ทุกวันนี้ ดุแลสินค้าหลายตัว เห็นปัญหาของมันอยู่ตลอดเวลา เห็นคุณ Focus อยู่กับ Place ตัวเดียวใน 4P's ไหนจะ 5 Forces STP Competitor ฯ ที่คุณยังไม่กล่าวถึง แต่คุณอาจจะดูมาก่อนแล้ว แต่ไม่ได้คุยมาในกระทู้ก็ได้ คุณลองชิมชาคู่แข่งหรือยังครับ เชื่อหรือไม่ เจ้าของสินค้าจำนวนมาก รู้จักแต่สินค้าตนเอง แต่ไม่รู้เลยว่าคู่แข่งเค้าเป็นอย่างไร อธิบายว่าของตนเองดีอย่างนู้น ดีอย่างนี้ สำคัญมากๆในการทำธุรกิจ สินค้าบางตัวที่ดี แต่ตกม้าตายมีมากในตลาด เพราะไม่ประเมินคู่แข่งเลยว่าเรากำลังสู้อยู่กับใคร ลองแกล้งทำตัวเป็นผู้บริโภคก็ได้ครับ หลับตาแล้วลองนึกว่าเดินเข้าห้างไปซื้อ ชา อะไรที่จะทำให้เราหยิบชามาใส่ตระกร้าบ้าง ถ้ามียี่ห้อใหม่ โผล่มา อะไรที่ทำให้เราลองซื้อ? จากคุณ : BMW โดนยึดอมยิ้ม - [ 7 ธ.ค. 50 15:21:35 A:58.136.117.177 X: TicketID:162437 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต้องขอโทษด้วยที่ออกความเห็นยืดยาว ทั้งๆที่คุณก็อาจจะทำมาหมดอยู่แล้ว เพียงแต่อย่างที่บอก ผมทำเรื่องนี้อยู่พอดี ดูการตลาดให้กับสินค้า บางทีมันก็ลามไปในส่วนอื่นๆด้วย เห็นสินค้ามีปัญหากันแต่ละแบบ ถือว่าผมเอา Case Study ของแต่ละสินค้าที่ประสบปัญหา มาให้อ่านกันนะครับ ไม่ได้มาอวดภูมิอะไรเลย แต่ว่าหวังดีจริงๆ ในการทำธุรกิจมีการลงทุน แค่อยากให้รอบคอบ และก็ไม่ได้บอกว่าคห.ของผมจะถูกหมดเลย เป็นเพียง 1 ในคห. ที่แสดงออกมา เพราะหวังดีจริงๆ ^.^ จากคุณ : BMW โดนยึดอมยิ้ม - [ 7 ธ.ค. 50 15:26:36 A:58.136.117.177 X: TicketID:162437 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาอ่านอีกที รู้สึกดีใจที่คนที่นี่มาแบ่งปัน บอกผ่านความคิดและประสบการณ์กันแบบกระทู้นี้นะ แบบนี้แหละ ถึงจะเรียกว่าสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์กับคนผ่านมาจริงๆคะ จากคุณ : once I am - [ 8 ธ.ค. 50 00:21:16 A:202.149.24.145 X: TicketID:134902 ]

ความคิดเห็นที่ 30 SKU  แปลเป็นไทยว่าอะไรครับ จากคุณ : ปฏิบัติดี - [ 8 ธ.ค. 50 15:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณค่ะที่สละเวลาอันมีค่ามาช่วยตอบกระทู้นี้ SKU ย่อมาจาก Stock Keeping Unit  เคยเห็นในใบสั่งซื้อจากอิเซตันเขาจะเรียก 1 สินค้าต่อ 1 SKU ตอนเรียนศัพท์คำนี้ไม่เคยเจอะมาเจอะตอนทำงานนี้แหละค่ะ อีกหนึ่งในประสบการณ์ที่ตำราการตลาดไม่เคยสอนคือ "ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย" อ้อแต่ในบัญชีมีโผล่ๆมานิดๆ เรียกว่า หนี้สูญต้องตั้งบัญชีเผื่อค่าสงสัยหนี้จะสูญไว้ก่อน  เคยเจอะมาแล้วค่ะดีใจได้ออเดอร์ใหญ่จากบริษัทแห่งหนึ่งจำหน่ายสินค้าโอท็อปในห้างใหญ่ๆเช่นแม็คโคร โลตัส บิ๊กซี ท็อป กระจายทั่งประเทศ เช่าเป็นบูธของตัวเองโดนอ้างว่าเป็นสินค้าของชุมชน   เรียกส่วนต่าง 40 % เครดิต 60+15 วัน ล็อตแรกส่งของไปก็โอนเงิน ในระหว่าง 60 วันก็ทยอยแฟกซ์พีโอใบต่อๆมา เราก็ไปส่งของจนครบดิว 60 วันแฟกซ์มาไม่รู้กี่ใบ ปรากฏว่าไม่โอนเงินให้อีกเลย โทรไปหาก็บ่ายเบี่ยง ยอดหนี้ก็ไม่มากสำหรับบริษัทใหญ่ๆอย่างเขา แค่ 2 แสนแต่มันเยอะสำหรับเรา 1 ปีผ่านมายังเงียบอยู่จึงบอกเขาว่าเราจะฟ้อง ยื่นจดหมายใบเสนอเงื่อนไขอันใหม่ คือ  จะเอาค่าทนาย 2 หมื่นมาเป็นส่วนลดหนี้ให้เขาแล้วถ้าจ่ายภายในเดือนนี้ลดค่าหนี้อีกกี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่าไป เดือนที่ 2 -3  ลดอีกกี่เปอร์เซ็นต์ จ่ายเร็วยิ่งได้รับส่วนเยอะนะ โปรโมชั่นนี้ได้ผลแฮะ กระตุ้นตลาดโกงหนี้ได้ สุดท้ายก็ยอมโอนมา 8 หมื่น ที่เหลือก็สูญไป (ค่าไม่สงสัยหนี้จะสูญเพราะสูญจริงๆ) สต็อคก็เหลือบานเบอะ แถนมีฉนักติดหลังมีผลทำให้โดนปลดแอด ไม่รู้ซัพพลายเออร์รายอื่นจะโดนเหมือนกันหรือเปล่า จากคุณ : jellynim - [ 8 ธ.ค. 50 17:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณ คุณ BMW โดนยึดอมยิ้ม ที่กรุณามาให้ความรู้ค่ะ ขอให้คุณประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ขอให้ทุกท่านมีความสุขเนื่องในโอกาสใกล้จะถึงวันปีใหม่นี้ค่ะ จากคุณ : jellynim - [ 12 ธ.ค. 50 00:53:27 ]