Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    “จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี” ตอนที่ 18 ขายให้หน่วยงานราชการ

    จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี” ตอนที่ 18 ขายให้หน่วย

    งานราชการ





    ไหนๆ พูดถึงการขายให้ราชการหรือการประกวดราคากับ

    หน่วยงานราชการแล้ว  ลุงก็อยากจะเล่าเรื่องนี้ฟังสักหน่อย




    เพราะมันเหมือนป่าดงดิบเลยที่เดียวนะขอรับ  ใครไม่เคย

    เดินเข้าไป ขอบอกว่าอย่าแหยมเข้าไปเป็นอันขาด อาจะ

    โดนความป่าขวิดตาย  ตกหน้าผาตาย  โดนนางไม้หลอก

    ให้เป็นบ้าเป็นบอ หรือไม่ก็อดตายอยู่ในป่านั้นแหละครับ




    เพราะการขายให้แก่ราชการนั้นไม่ใช่ของง่ายๆ หมูๆ ที่เรา

    มนุษย์ปกติปุถุชนเขาจะเข้าใจได้อย่างที่ลุงยกตัวอย่าง

    เรื่องเมื่อคราวที่แล้วให้ฟัง ไม่ว่าจะตัดสินใจให้ใครได้  ให้

    ใครตกสเป็ค ให้ใครผ่านสเป็ค ไม่ว่าราคาสูงกว่า หรือต่ำ

    กว่า  ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม ถ้าเขาจะเอาเสียอย่าง

    อ้างคำเดียว “เพื่อผลประโยชน์สูงสุดแก่ราชการ” เท่านี้ก็

    เสร็จเรียบร้อยหมูอยู่ในอวย  




    ความจริง นอกจากคำคำนี้แล้ว ยังมีอีกหลายคำ ที่ทำให้

    การขายให้ราชการในบ้านเราต้องอาศัย “บารมี” เป็นที่พึ่ง

    อยู่หลายประการ  




    ลุงทำการค้าขายกับราชการมาเกือบ 30 ปี ก็เอาเรื่องบาง

    เรื่องมาเล่าให้ฟัง  แต่จะเล่าให้หมดเปลือกคงเล่าไม่ได้

    เพราะจะต้องมีใครบางคนออกมาบอกว่า “ไม่จริง ไม่เป็น

    อย่างที่ลุงแอ็ดพูด…..เดี๋ยวนี้เราพัฒนาแล้ว…..เราทำ

    ทุกอย่างด้วยความโปร่งใส…..บริสุทธิ์ผุดผ่อง….สมกับ

    เป็น Good Governance แล้ว”
    ……….




    เอาเถอะๆ…. ลุงขี้เกียจจะไปทะเลาะกับเขา  คนเราแก่

    แล้ว  คุยเรื่องสบายใจ เอาความรู้ให้หลานๆฟังไว้สนุกๆ ดี

    กว่าจะต้องมาหาเรื่องใส่กบาลหรือหาเหาใส่หัว ใช่ฮะป่าว




    ที่ลุงบอกว่า ขายของให้กับราชการนั้น เปรียบเสมือนการ

    รบที่ไร้รูปรอย หรือการเดินป่าที่ไร้ซึ่งป้ายบอกถนนหน

    ทาง
     




    หากเราขับรถในกรุงเทพ จะไปที่ดอนเมือง  เขาก็จะมีป้าย

    บอกว่าจะต้องเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาไปทางไหนจึงจะออก

    วิภาวดีรังสิต แล้วถ้าตรงดิ่งไปอีกกี่กิโลเมตร ก็จะเห็น

    ดอนเมืองอยู่ทางขวา  




    แต่การเดินป่ามันไม่ใช่อย่างนั้น  ถ้าเราไม่ชำนาญในป่า

    นั้น  เราก็จะเดินไม่ถูก  เพราะป่ามันจะรกชัดด้วยต้นสุมพุ่ม

    ไม้  เดินอยู่ดีๆ อาจจะตกเหวลงไป หรือสะดุดรากไม้หัว

    คะมำลงไป  เดินตามกันอยู่ดี  อยู่คนที่อยู่ข้างหน้าเราหาย

    ไปไหนก็ไม่รู้  เจอกันอีกทีก็โผล่ไปนั่งอยู่ที่น้ำตกเสีย

    แล้ว  




    มันไม่มีกฎเกณฑ์อะไร  จะบอกว่าไม่มีกฎเกณฑ์ก็ไม่ถูก  

    ความจริงมันมีเยอะเสียจนทำอะไรก็ไม่ถูกไปหมด  หรือทำ

    อย่างไรก็ผิดไปหมด เพราะมันกว้างขวางตีความกันได้

    สารพัดแล้วแต่กฏหมายของเราจะว่าอย่างไร




    คนที่ริจะค้าขายกับทางราชการนั้น จะต้องมี “บารมี” อยู่

    มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เงิน….ทอง…..เพชร…..คนรู้จัก  

    นามสกุล หรือ Connection โดยเฉพาะ ตัวหลังหรือ

    Connection นี่เป็นตัวสำคัญที่สุด




    คุณเคยเห็นการประกวดราคาสักรายหนึ่งไหม  สมมุติว่าเรา

    เซ่อซ่าไปถามเขาว่า งบประมาณที่ตั้งไว้เท่าไหร่  จะได้

    เสนอไม่ให้เขาเกินงบ  และคุณไม่รู้จักใครเลย  เดินเข้าไป

    ถามเฉยๆ




    เขาก็จะมองคุณหัวจดตีน แล้วบอกว่า “เป็นความ

    ลับ”  “บอกไม่ได้”
    อะไรปานนั้น  




    ลุงเองแก่จนป่านนี้แล้ว เคยเดินเข้าเดินออกที่กระทรวง

    ศึกษามาตั้งแต่หนุ่มๆ วันหนึ่งลุงก็ไปลูกน้องของลุงซึ่งลุง

    เป็นที่ปรึกษาเขาอยู่  




    ลุงก็เดินไปถาม “ข้าราชการ” คนหนึ่ง  เพื่อขอพบคนที่ลุง

    ต้องการจะพบได้ไหม  เธอบอกอย่ามะนาวไม่มีน้ำว่า

    “ไม่ได้ กำลังประชุม”  




    ลุงก็อธิบายว่า ลุงเป็นที่ปรึกษาของบริษัทนั้น อยากขอพบ

    เขาหน่อย เพราะมีเรื่องสำคัญที่เขาเอาเข้าไปในที่ประชุม

    นั่นแหละ




    เธอตวาดแวด “เอ๊ะ…พูดไม่รู้เรื่องหรือไงว่ากำลังประชุม”

    มันทำให้ลุงเอือมระอาจนเข่าอ่อน  หันไปหาเก้าอี้นั่งลง

    ด้วยความเหนื่อยอ่อนว่า   “ข้าราชการ”  ก็คือ “ข้า…ร้า

    ช….ก็าร….ข้า….ราช…..การ”  





    ต่อให้พัฒนากันขนาดใหญ่  ใส่การฝึกอบรม  ใส่ ISO ใส่

    5 ส. 10ส.เข้าไป  แต่ถ้าเปลี่ยนทัศนคติหรือ Attitude ไม่

    ได้ว่า “ข้าราชการ” คือ “ข้าที่รับใช้ประชาชน”  ทำอย่างไร

    มันก็ไม่เจริญขึ้น  ต่อให้มีคำขวัญ  ออกทีวี  ว่า  “บริการ

    ประชาชน คือหัวใจของงานข้าพเจ้า”
    สัก 100 ครั้ง ก็หามีผล

    อันใดเกิดขึ้นไม่




    แต่ถ้ามี Connection รู้จักใครสักคน มีนามบัตรใครสักคน

    หรือรู้ว่าเป็นเพื่อนอธิบดี เป็นญาติรัฐมนตรี หรือแม้แต่เป็น

    เพื่อนกับยามในที่นั้น  ทุกอย่างก็กลับหน้ามือเป็นหลังเท้า

    ไปหมด




    เธอจะให้ความสะดวก  จะถามอะไร ถ้าไม่รู้ก็จะไปถามมา

    ให้  จะไปตามมาให้ มีกริยาแช่มช้อย นิ่มนวลสมกับ “คน

    ไทยพูดกับคนไทย”
    เสียจริง




    ลุงยังสงสัยเลยว่า แล้วก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที ทำไม่มันยัง

    ไม่เป็นแบบนี้  ดังนั้น ถ้าคุณอยากจะขายให้ของให้ราชการ

    ไทย  คุณต้องมี Connection เป็นอันดับแรก




    อันดับที่คุณจะต้องมีต่อไปคือ ความอดทน……ความอดทน

    ต่อการรอคอย  ความอดทนต่อการสร้างความสนใจ  

    ความอดทนในการตั้งงบประมาณ  ความอดทนต่อการมีงบ

    ประมาณแล้วประกวดราคาไม่ทันต้องคืนงบนั้นไปเมื่อหมด

    ปีงบประมาณ…ความอดทนต่อการประกวดราคาแล้วต้อง

    ยกเลิกการประกวดราคาเพราะการฟ้องร้อง……สิ่งเหล่านี่

    นักขายราชการทั้งหลายจะต้องมี “ความอดทน”




    มีคนเขาบอกลุงว่า  กว่าจะขายให้หน่วยงานราชการได้

    หน่วยหนึ่ง  ถ้าไม่มี “บารมี” อะไรเลย……  




    อันดับแรก จะต้องไปนั่งที่โรงอาหารที่กรมนั้นทุกเช้า  พอ

    เจ็ดโมงเราก็ไปสั่งข้าวหมูแดง  โจ๊ก  ข้าวต้ม  ข้าวแกง ที่

    เราชอบหมุนเวียนกันไป  สายตาก็สอดส่ายหาคนที่รู้จัก

    เมื่อวาน ที่เขายิ้มให้ พอจะเข้าไปทักทายเขาได้ก็เข้าไป

    ทักทาย……..  




    ทำอยู่เป็นประจำอย่างนี้สักเดือน เอาเป็นว่า เขามาทักได้

    ว่า “เอ  คุณอยู่กองไหน  ผมเห็นหน้าคุณทุกวัน แต่ไม่รู้คุณ

    อยู่กองไหน…”
    นั่นแหละครับ จึงจะบอกเขาว่า




    “เปล่า..หนูไม่ได้อยู่กองไหน  แต่หนูมาขายของที่กรมนี้

    อะคะ”





    ไอ้การที่หนูจะเดินเข้าไปหาแผนกจัดซื้อแล้ว ไปถามเขา

    ว่า




    “เพ่  เพ่  ในกรมของเพ่มีงบประมาณซื้อสินค้าของหนูบ้าง

    หรือเปล่า”
     




    เมินเสียเถิด  ขืนไปทักทายเขาอย่างงั้น เขาก็เขินแย่

    เพราะเขาพูดหรือคุยกับคนที่เขารู้จักเท่านั้น  ที่เขาไม่รู้จัก

    หรือไม่มีใครแนะนำมา อย่าหวังว่าจะได้แอ้ม




    หลังจากที่เขาเห็นหน้าหนูอยู่สักเดือนหนึ่งแล้ว  จนเขากล้า

    พอที่จะคุยกับหนู  ไม่กลัวว่าหนูจะกินเขาแล้ว เขาจึงค่อย

    แนะนำให้ไปหาแผนกโน้น แผนกนี้ที่เขารู้จักว่าพอจะสนใจ

    ของที่หนูพอขายได้บ้าง




    ยิ่งมีคนในกองหรือในกรมเป็น Connection แล้ว ยิ่งสบาย

    มากขึ้น




    หลังจากนั้นหนูก็เข้าไปทักทาย พลางหยิบแคตตาล๊อคของ

    หนูขึ้นมาให้เขาดูพลางอธิบายว่า มันเป็นของที่วิเศษเป็น

    อย่างยิ่ง ราคาก็แสนถูก และใช้งานได้สมประโยชน์สูงสุด

    ต่องานราชการ…….แต่ต่อให้หนูพูดให้ดีเท่าไหร่  ก็หาได้

    สร้างความสนใจให้เกิดขึ้นในสายตาของเขาไม่




    เราจะสร้างความสนใจให้หน่วยราชการได้อย่างไร  ต้อง

    ติดตามอ่านต่อไปครับผม




    amorntvm@hotmail.com

    จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 16 ธ.ค. 50 20:18:59 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom