Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน…. 4 เดือนระทึกกับช่วงทดลองงาน!!

    DESTINYHURTSME… เอ๊ย…ทำไมถึงเป็นคน
    “มีตา…แต่หามีแววไม่” อย่างนี้น๊า…?
    นายผู้หญิงอุตสาห์มาทักทายถึงที่
    แต่กลับมองเป็นอื่นแถมยังบังอาจคิดจะจับมาคบหาเป็นเพื่อนซะอีก!
    ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาซะเลย…
    จะไม่ให้ฉันคิดว่าเป็นพนักงานธรรมดาได้ไง
    ก็คุณนีน่าเธอไม่ได้แสดงทีท่าวางกล้ามหรือเชิดหยิ่งให้ฉันรู้สึกเลยนี่นา
    ตรงกันข้าม…เธอกลับพูดจานุ่มนวลออกไปทางสุภาพอ่อนน้อมเสียด้วยซ้ำ
    แถมยังยิ้มแย้มแจ่มใสแสดงความเป็นมิตรชวนให้หลงใหล
    และที่สำคัญการแต่งกายของเธอช่างเรียบง่ายไม่มีแม้แต่สีลิปสติกบนริมฝีปาก
    ไม่มีเครื่องประดับอะไร
    หรือสัญญาณใด ๆ ที่บ่งบอกถึงความเป็นเศรษฐีนีพันล้านเลย!!!

    พอรู้สึกตัวฉันก็ตอบ CEO ไปว่า
    “อ๋อ….พบกันแล้วค่ะ…ภรรยาคุณน่ารักมากเลยนะคะ!”
    ฉันสังเกตเห็นสีหน้าของเขาแสดงความพึงพอใจกับคำตอบของฉัน
    จากนั้นฉันก็กล่าวคำอำลาพร้อมคำขอบคุณ
    และยืนยันความพร้อมในการเริ่มงานสัปดาห์ถัดไป

    วันแรกของการทำงาน
    วันที่ 10 กันยายน…..
    เป็นวันแรกที่ฉันเริ่มทำงาน  
    ฉันแต่งตัวไปทำงานด้วยเสื้อสูทสีแดงสด
    มีเสื้อยืดแนบตัวสีครีมลายลูกไม้อยู่ข้างใน
    ตัดกับกระโปรงสีดำดูเด่นมาแต่ไกลโดยที่ฉันไม่ได้ตั้งใจ
    แต่ที่เลือกสีแดงเพราะทำตามความเชื่อที่จะนำโชคลาภและความรุ่งเรืองมาให้
    เนื่องจากกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย    
    เพราะนับจากวันที่ฉันถูกไล่…เอ๊ย…บอกเลิกจ้าง
    โดยสำนักงานตัวแทนธนาคารต่างชาติจนถึงวันนี้  
    ฉันก็ยังไม่ได้ไปทำงานที่ไหนอีกเลยกว่าปีครึ่ง    
    นอกจากเรียนหลักสูตรการทำแผนธุรกิจดังที่ได้เล่าไปแล้ว    
    ทำให้เวลาของการขาดช่วงในการทำงานนานมากเพิ่มเข้าไปอีก      

    ฉันมาทราบจากเพื่อนร่วมงานในภายหลังว่า    
    ฉันเป็นที่จับจ้องของเพื่อนร่วมงานในบริษัทฯ อย่างไม่กระพริบตา
    ในวันที่เข้ามาทำงานใหม่ ๆ    
    เพราะเป็นเลขาฯ คนใหม่ของ CEO
    ที่เพิ่งเข้ามาใหม่และเริ่มงานก่อนเลขาฯ อีกคนหนึ่งถึงเดือนกว่า
    เพราะเธอยังต้องอยู่เคลียร์งานกับบริษัทเก่าและต้องใช้เวลาในการลาออกเป็นเดือน
    ส่วนฉันเป็นคนตกงานจึงสามารถเริ่มงานได้ทันที    

    จากการแต่งกายและรูปพรรณสันฐาน
    บวกกับบุคลิกที่นิ่งและสุภาพเรียบร้อย  
    ฉันถูกมองว่ามาในมาดของ “ไฮโซ”
    ความเกร็งและประหม่าของฉันถูกมองเป็น….ประมาณว่า สวย-เลิศ-เชิด-หยิ่ง
    ในขณะที่เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่รวมทั้งผู้บริหาร
    โดยเฉพาะ CEO และนายหญิงเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ และติดดินมาก    
    จึงเป็นเหตุให้ฉันถูกจับตามองและแอบเม้าท์กันเป็นพิเศษ
    ว่าฉันจะสามารถอยู่ร่วมในสังคมและวัฒนธรรมขององค์กรแห่งนี้ไปได้สักกี่น้ำ?  

    นอกจากนั้นฉันได้ยินเพื่อนร่วมงานในแผนกพูดเชิงเสียดสีเหมือนได้ยินได้ฟังอะไรมา
    และบ่นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องเงินเดือนของพนักงานใหม่ ๆ ในองค์กร
    ที่มักจะสูงกว่าคนเก่า ๆ ที่ทำมานานแล้วเสมอ
    จึงเป็นสาเหตุให้พนักงานรู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจ
    เสียงตัดพ้อทำให้ฉันคิดถึงวันที่มากรอกใบสมัครและมีพนักงานคนหนึ่ง
    มารับใบสมัครของฉันที่มีข้อมูลเงินเดือนไปก่อนนายหญิง

    โอ้ว!…เธอนี่เองที่เป็นคนนำความลับเรื่องเงินเดือนของฉันมา “เม้าท์” กันในแผนก
    ปัญหาที่เกิดตามมาซึ่งฉันมาวิเคราะห์เองภายหลังว่าเกิดจากสาเหตุเรื่องนี้ก็คือ
    พนักงานในแผนกนั้นที่คุยกันเรื่องเงินเดือนลาออกกันไป 2-3 คน
    รวมทั้งคนที่เป็นคนมารับใบสมัครของฉันไปด้วย
    ที่จริงเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความผิดของฉันแต่เป็นความหละหลวมในการทำงาน
    ในเรื่องเกี่ยวกับบุคลากรซึ่งในเวลาต่อมาฉันพยายามช่วยเพิ่มความระมัดระวัง
    ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเท่าที่จะทำได้

    มิน่า….ในวันนั้นคุณนีน่าจึงมาตามเก็บใบสมัครจากฉันด้วยตนเอง
    โดยที่ไม่ทราบว่าพนักงานคนนั้นมาเก็บไปก่อนแล้ว
    ทั้งที่ไม่ใช่และไม่ได้เป็นหน้าที่ของคุณนีน่าเลย
    และฉันก็เพิ่งฉุกคิดได้ว่าเหตุผลอีกประการหนึ่ง
    ที่คุณนีน่าไปขอรับใบสมัครจากฉันด้วยตนเองพร้อมนำสัญญาไปให้ฉันเซ็น
    ทั้งที่ก็ไม่ใช่หน้าที่ของเธออีกและเธอไม่เคยต้องทำเรื่องนี้เลย
    ซึ่งฉันทราบหลังจากได้เข้ามาสัมผัสพฤติกรรมการทำงานขององค์กรแล้ว
    จึงคาดเดาเอาเองว่าอาจจะเป็นเพราะเธอต้องการมาดูตัว “เลขาฯ คนใหม่”
    ที่ CEO รับเข้ามาเพิ่มทั้งที่ได้รับอีกคนหนึ่งไปเรียบร้อยแล้ว
    และเพื่อดูว่า “เลขาฯ ตัวแสบ!” คนนี้เป็นอย่างไรบ้างนั่นเอง!
    เพราะจะมี CEO ที่ไหน “บ้า” ขนาดรับเลขาฯ คนหนึ่งแล้ว
    ยังจะมารับเพิ่มอีกคนแบบนี้!!!

    วันที่สองของการทำงาน
    SEPTEMBER 11…..
    เห็นวันที่แล้วคุณผู้อ่านรู้สึกคุ้น ๆ หรือคิดถึงอะไรได้ไหม?
    ท่านจำได้ไหมว่ามีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ในวันนั้น?    
    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่มาของปัญหาและความกังวลที่เกิดขึ้นในใจฉันอีกครั้งหนึ่ง    
    เพราะในคืนวันนั้นก่อนเข้านอนเพียงไม่กี่นาที
    ฉันและสมาชิกทุกคนในบ้านก็ต้อง      
    “ช๊อก” ไปกับข่าวในจอทีวี    

    “เหตุการณ์การระเบิดตึกแฝด WORLD TRADE CENTER
    โดยเครื่องบินที่ประเทศสหรัฐอเมริกา!!!” นั่นเอง…  

    ฉันเกิดอาการช๊อกและตกใจกับข่าวและความโชคร้ายของผู้อยู่ในเหตุการณ์
    พร้อมกับความรู้สึกกังวลเกี่ยวกับงานใหม่ของฉัน  
    เพราะฉันไม่แน่ใจว่าผลพวงจากเหตุการณ์ครั้งนี้จะกระทบกับธุรกิจของบริษัท
    ที่ฉันเพิ่งเข้าไปทำงานได้เพียง 2 วันมากน้อยแค่ไหน
    เนื่องจากยอดส่งออกของบริษัทที่ไปยังอเมริกา
    มีมากถึงกว่า 1 ใน 3 ของยอดขายรวมทั้งหมด
    ฉันจะตกงานอีกรอบไหมนี่?  
    หรือว่าดวงของฉันจะต้องนอนกลิ้งอยู่กับบ้านตลอดไป?  

    วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการทำงานของฉัน  
    เมื่อไปถึงบริษัทฯ  ฉันพบว่ามีการประชุมเร่งด่วนระดับผู้บริหาร
    เพื่อประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    และผลกระทบที่บริษัทฯ จะได้รับ    
    ฉันได้รับทราบภายหลังว่าบริษัทฯ จะต้องได้รับผลกระทบจากเหตุการ์ครั้งนี้อย่างแน่นอน  
    แต่ไม่รุนแรงขนาดต้องเจ๊ง ปิดกิจการ หรือเลิกจ้างพนักงานรวมทั้งตัวฉันด้วย  
    เฮ้อ….ค่อยโล่งอกหน่อย!!!

    เพิ่งถอนหายใจเรื่องการระเบิดตึกในอเมริกาได้ไม่กี่วัน…..  
    CEO ก็เชิญฉันเข้าไปพบในห้องทำงานด้วยสีหน้าเครียดพร้อมกับพูดว่า  
    “ภรรยาผมถามว่าทำไมคุณจึงเขียนจดหมายถึงครูของลูกผมเป็นภาษาไทย
    ทั้งที่จดหมายจะต้องส่งถึงครูที่เป็นฝรั่งในโรงเรียน Inter??”  
    ฉันถึงกับอึ้งกับข้อซักถามของนาย!  
    พอทบทวนเสร็จฉันก็ชี้แจงให้นายฟังถึงที่มาที่ไปว่า    
    ฉันได้รับการไหว้วานจากผู้จัดการส่วนบริหาร
    ที่กำลังจะลาออกและได้โอนงานในส่วนบริหารของเธอ
    มาให้ฉันดูแลหลังจากเธอออกไปแล้วในเวลาต่อมา
    เธอให้ฉันช่วยทำจดหมายถึงโรงเรียนของลูกนายซึ่งนายหญิงมอบหมายให้เธอ
    โดยเธอบอกกับฉันว่าเธอ “ไม่ถนัดพิมพ์ภาษาไทย”    
    พร้อมกับบอกเนื้อหาสำหรับพิมพ์ในจดหมายคร่าว ๆ เพื่อให้ฉันร่างและพิมพ์ให้    
    เหตุผลที่เธอเน้นว่าเธอพิมพ์ภาษาไทยไม่คล่องหรือไม่เป็น
    เพราะเธอเรียนจบจากต่างประเทศและไปใช้ชีวิตในต่างประเทศตั้งแต่เด็ก    
    เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะให้ฉันเข้าใจว่าอย่างไร    
    เมื่อนายได้ฟังดังนั้นก็เริ่มเข้าใจฉัน  
    และขอให้ฉันไปชี้แจงให้ภรรยานายด้วยเพื่อให้หายเข้าใจผิดในตัวฉัน…

    วันต่อมานายถามฉันว่าได้ไปอธิบายให้นายหญิงเข้าใจแล้วหรือยัง  
    ฉันบอก “ยังค่ะ”  
    ท่าทางนายไม่ค่อยชอบใจและแนะนำว่าฉันควรจะรีบไปชี้แจงให้กับนายหญิงเป็นการด่วน
    ฉันบอกนายว่าฉันขออนุญาตไม่ไปชี้แจงได้ไหม  
    เพราะการไปชี้แจงให้ภรรยานายเข้าใจ  
    ก็เหมือนเป็นการแก้ตัวให้ฉันพ้นผิด  
    แล้วความผิดจะไปตกที่ใครถ้าไม่ใช่ผู้จัดการส่วนบริหารคนนั้น
    ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาแบบ Win-Lose ที่ฉันไม่เคยเห็นด้วย  
    และฉันไม่ต้องการก่อศัตรูตั้งแต่เพิ่งเริ่มทำงาน  
    ฉันคิดว่าการที่ฉันได้แก้จดหมายใหม่เป็นภาษาอังกฤษตามที่นายหญิงต้องการ
    ก็เป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้จบไปเรียบร้อยแล้ว
    เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับฉันมาก
    เพราะฉันรู้ว่าการที่นายหญิงเกิดความเข้าใจผิดเช่นนั้น
    คงเป็นเพราะคิดว่าฉันมีปัญหาในเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ  
    แต่ฉันถือสุภาษิต “ระยะทางพิสูจน์ม้า….กาลเวลาพิสูจน์คน”
    ที่สำคัญขอให้นายเข้าใจฉันก็เพียงพอแล้ว    
    CEO ฟังคำชี้แจงของฉันเสร็จก็ไม่ได้กดดันฉันต่อ
    คงเพราะเห็นว่าไม่สามารถทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดได้  
    และฉันคงได้ออกอาการ Stone Head ตามที่มีคนเคยตั้งฉายาให้ฉันมาก่อน
    (Stone Head หมายถึง “หัวแข็ง” นะ…ไม่ใช่ “หัวหิน” ที่ประจวบฯ !)  
    ถ้ามีโอกาสแล้วฉันจะเล่าในตอนอื่น ๆ ว่าฉายานี้ฉันได้แต่ใดมา?  

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ฉันนึกถึงคำพูดของนาย
    ในวันที่สัมภาษณ์ฉันเป็นครั้งที่สองได้ว่า  
    “การทำงานที่นี่….นอกจากความรู้ความสามารถและการทุ่มเทให้กับงานแล้ว  
    หากคุณสามารถทำให้ภรรยาซึ่งมีอำนาจสูงสุดรองจากผมยอมรับได้  
    ถือว่าคุณสอบผ่านและสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างสบาย!!!”

    เอาเข้าแล้วซิเรา!  เจอตออีกแล้วหรือนี่?  
    แล้วฉันจะรอดไหมเนี๊ยะ?




    เซอร์ไพส์   เซอร์ไพส์   เซอร์ไพส์   เซอร์ไพส์   เซอร์ไพส์   เซอร์ไพส์   เซอร์ไพส์   เซอร์ไพส์   เซอร์ไพส์   เซอร์ไพส์   เซอร์ไพส์   เซอร์ไพส์

    แก้ไขเมื่อ 18 ธ.ค. 50 20:32:34

    จากคุณ : Destinyhurtsme - [ 16 ธ.ค. 50 21:35:43 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom