Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    “จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี” ตอนที่ 20 ข้าราชการต้องไม่ผิด

    “จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี” ตอนที่ 20  ข้าราชการต้องไม่ผิด




    วันนี้ขอต่อเรื่องการขายให้ราชการอีกสักวัน  เพราะถ้าจะ

    ให้คุยกันจริงๆ แล้ว เอากันสัก 10 วัน ก็เห็นจะคุยกันไม่

    หมด เพราะมันมีรายละเอียดเยอะแยะเหลือหลาย  ใคร

    อยากรู้ในรายละเอียดก็โปรดไปเสาะหาที่อบรมกันเอาเอง




    มีอีกสิ่งหนึ่งที่ฝรั่งมันกลัวกันหนักหนา คือ การทำ

    สัญญากับทางราชการ  





    เวลาทางราชการเขาประกวดราคา เขาจะแนบสัญญามาให้

    เสร็จ ว่าคุณต้องรับสัญญาอันนี้นะ จึงจะเข้าเสนอราคาได้  




    ไม่มีการต่อรองเป็นอันขาด ถึงแม้เขาจะเปิดช่องไว้ว่า ให้

    ใช้สัญญาที่ผ่านกรมอัยการลงนามมาแล้วเป็นตัวอย่างก็

    ได้ แต่ใครจะกล้าเสี่ยงไปกับการเปลี่ยนสัญญาที่แนบไป

    ให้




    เวลาแปลให้ฝรั่งรับทราบทีหนึ่ง มันก็ร้องไอ้หยา….ไอ้หยา

    ทุกข้อไป เพราะมันเป็นสัญญาฝ่ายเดียว คือฝ่ายราชการ

    เป็นฝ่ายได้เปรียบแทบทั้งสิ้น
     แทบทุกหน้าจะมีแต่บท

    ปรับ บทลงโทษของคู่สัญญาที่ฝ่ายเอกชนทำไม่ได้  ไม่มี

    ข้อไหนเลยที่ถ้าข้าราชการผิดสัญญาแล้วต้องโดนปรับ    

    ยกเว้นเข้าอนุญาโตตุลาการ




    พออนุญาโตตุลาการตัดสินออกมาให้เอกชนมีส่วนได้รับ

    การชดเชย ก็ไปเรียกเขาว่า “ค่าโง่” ทั้งๆ ที่เขาเสียหายเท่า

    ไหร่ก็ไม่รู้  อย่างค่าโง่ทางด่วน  ค่าโง่กองสลากที่ต้องจ่าย

    ให้บริษัทจาโก้ ที่อนุญาฯเขาตัดสินให้สำนักงานฉลากต้อง

    จ่ายบริษัทจาโก้ 2,500 ล้านบาท ก็จะต้องอุทธรณ์  หาได้

    จ่ายเขาดีๆ ไม่ ถ้าศาลสั่งให้จ่ายก็จะขอผ่อน 15 ปี 20 ปี

    …..ได้สัก 100 ปีก็จะดี




    มันก็เป็นเสียอย่างนั้นพ่อคุณแม่คุณเอ๋ย




    ถ้าใครไปอ่านสัญญาที่เซ็นกับราชการไทย  ก็จะเห็นว่ามัน

    เสียเปรียบเต็มประตู  ตอนแรกฝรั่งมันจะไม่ยอม จะให้เรา

    ไปต่อรองเรื่องสัญญาก่อน ว่าสัญญาเอาเปรียบกันอย่างนี้

    มันก็จะบวกค่า Contingency เข้าไปมากๆ  เราก็บอกว่า

    ขืนเอ็งบวกเข้าไปมากๆ ราคาเอ็งก็โด่งฟ้า ไอ้เราที่วิ่งแทบ

    ตายก็ไม่มีประโยชน์  เชื่อหัวไอ้เรืองเหอะ ว่าเขาเซ็นกัน

    อย่างนี้ทั้งนั้น  พอเซ็นแล้ว  สัญญาเขาก็เก็บเข้าตู้เซฟเลย

    ไม่ต้องเอามาเปิดอีก จะทำอะไรก็อยู่ที่ความพอใจ ความ

    พอดี หรือความพอสมควรที่เราจะให้บริการได้  





    แต่ถ้ามันถึงกับต้องเปิดสัญญากัน นั่นก็ต้องทะเลาะกัน

    แล้ว และโอกาสที่ชนะฝ่ายข้าราชการนั้นมันยากนัก นอก

    จากรายที่มีข้อได้เปรียบจริงๆ นอกจากนั้นไม่มีใครค่อย

    อยากจะฟ้องร้องทางราชการกันสักเท่าไหร่




    ที่เป็นดังนี้ก็เพราะ มาตรการลงโทษในแง่ของข้าราชการ

    มันรุนแรงเหลือหลาย  ยกตัวอย่างในระเบียบของสำนัก

    นายกฯว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 (แก้ไขครั้งที่เท่า

    ไหร่…….เท่าไหร่….ก็ต้องมีข้อนี้อยู่) เขียนไว้ว่า




    บทลงโทษ…..เจ้าหน้าที่ ที่ไม่ทำตามระเบียบนี้ ไม่ว่าจง

    ใจ  ประมาทเลินเล่อ  เจตนาทุจริต กระทำโดยปราศจาก

    อำนาจ นอกเหนือหน้าที่ หรือมีพฤติกรรมที่ส่อให้มีการสม

    ยอม……เป็นเหตุให้……..ราชการ

    -เสียหายร้ายแรง - ลงโทษอย่างต่ำ ให้

    ออกราชการ




    -เสียหายแต่ไม่ร้ายแรง – ลงโทษอย่างต่ำ ตัดเงินเดือน




    -ไม่เสียหาย  - ลงโทษภาคทัณฑ์ หรือว่ากล่าวตักเตือน

    เป็นลายลักษณ์อักษร




    -การลงโทษตามวินัยข้างต้น ไม่เป็นเหตุให้ผู้กระทำผิด

    หลุดพ้นจากความผิดชอบในทางแพ่งหรือทางอาญา (ถ้ามี)




    ที่เอามากล่าวไว้นั้นเพื่อให้น้องๆ หลานๆ เห็นว่า  การลง

    โทษของทางราชการนั้นรุนแรงจริงๆ ถึงขนาดว่า “ไม่จงใจ

    จะทำให้ผิด แต่เพราะประมาทเลินเล่อ”
     ไม่ได้ทำให้

    ราชการเสียหาย ต้องถูกลงโทษภาคทัณฑ์




    มีเพื่อนลุงคนหนึ่งรับข้าราชการมาโดยดีตลอด เกือบจะ

    เกษียนอายุอยู่แล้ว เกิดไปมีชื่อเป็นกรรมการตรวจรับระบบ

    ไอทีของหน่วยข้าราชการแห่งหนึ่งเข้า จะไม่เป็นก็ไม่ได้

    หาว่าไม่ให้ความร่วมมือ




    ความที่ไม่รู้เรื่อง ไปเซ็นเอกสารอะไรเข้าฉบับหนึ่งโดยไม่

    ตั้งใจ ไม่ทำให้ราชการเสียหาย แต่ถูกสอบสวนเพราะมีคน

    ข้างในร้องเรียนกันเอง  โดนหยุดพิจารณาความดีความ

    ชอบในระหว่างการสอบสวน  




    ซึ่งเวลาสอบ เรื่องเล็กนิดเดียวก็ทำเรื่องสอบสวนกันเป็นปี  

    ทำเอาเซ็งไปเลย เลยชิงลาออกจากการเป็นข้าราชการให้

    มันรู้แล้วรู้รอดไป




    ขนาดลาออกมาเลี้ยงหลานอยู่เป็นปีแล้ว….ก็ยังหวั่นๆ อยู่

    ว่าต้องขายบ้านขายช่อง ไปชดใช้ให้กับค่าเสียหายทาง

    แพ่งอีกเท่าไหร่หรือเปล่าก็ไม่รู้…..เพราะอายุความมันยัง

    ไม่หมด




    นี่เป็นตัวอย่างที่เห็นมาเยอะแล้ว  ดังนั้น  “ข้าราชการไม่มี

    คำว่า “ผิด”…”
     อย่าไปให้เขาทำจดหมายหรืออะไรที่แสดง

    ให้เห็นว่า เขาอาจจะมีส่วนผิด




    เช่น เราไปลงนามติดตั้งสายเน็ทเวอคร์กับทางราชการที่ตึก

    สร้างใหม่แห่งหนึ่ง  เขาก็เซ็นสัญญากับเราพร้อมกับเซ็น

    สัญญาสร้างตึกไปในคราวเดียวกัน  




    ไอ้ตึกเสือกสร้างไม่เสร็จ ผู้รับเหมาทิ้งงาน  เราจะเข้าไปติด

    ตั้งเน็ทเวอคร์ก็ไม่ได้เพราะตึกมันยังสร้างไม่เสร็จ  เหลือ

    เวลาอีกไม่กี่เพลาก็จะหมดสัญญาว่าจ้างแล้ว  




    เราจะให้ราชการทำหนังสือถึงเรา ยกเว้นหรือขอเลื่อนเวลา

    การติดตั้งออกไป ทางราชการก็ไม่ยอมทำหนังสือให้  อ้าง

    โน่นอ้างนี่  ความจริงถ้าทำหนังสือให้เรา ว่าตึกสร้างไม่

    เสร็จ ก็ต้องไปโดนสอบสวนอีกว่า เป็นความผิดของใครที่

    ทำให้ตึกก่อสร้างไม่เสร็จ




    ทางราชการต้องให้เราทำเป็นหนังสือเข้าไป อ้างว่า…….




    “เพื่อผลประโยชน์สูงสุดแด่ทางราชการ….จำเป็นต้องขอ

    เลื่อนการติดตั้งออกไป เพราะอะไรก็ว่ากันไป….”





    แล้วส่งไปให้ทางราชการพิจารณา




    ท่านก็เอาเข้าอนุกรรมการพิจารณากันหลายรอบ  และมี

    หนังสือตอบเราว่า




    “เพื่อผลปะโยชน์สูงสุดแด่ทางราชการ การที่ท่านทำ

    หนังสือดังกล่าวมานั้น  ทางราชการพิจารณาแล้ว อนุมัติให้

    ดำเนินการได้”





    ทั้งๆที่มองมันเห็นกันอยู่ตำตาว่าตึกมันสร้างไม่เสร็จแล้วจะ

    ไปติดตั้งระบบเน็ทเวอคร์ได้อย่างไร  




    ขืนเราชะล่าใจ ไม่ทำจดหมายเข้าไป นึกว่าเขารู้อยู่แล้ว  

    ความจริงเอาตรงนี้ไปอ้างก็ได้ ก็คืออ้างข้อที่ราชการรู้อยู่

    แล้วว่าตึกมันสร้างไม่เสร็จ




    แต่ขืนอ้างอย่างนั้น มันก็เหมือนกับไม่ไว้หน้าข้าราชการ

    ผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย เดี๋ยวก็เกิดเรื่องขึ้นอีก




    ดังนั้นการขายให้ราชการ คุณจะต้องรอบคอบ และเรียนรู้

    มากมาย ทั้งที่เนื้อหาสาระของระเบียบจัดซื้อที่มันก็มีอยู่

    แค่นั้น แต่ทุกคนโดนฟ้องร้อง  กัน ทะเลาะกัน  ติดคุกติด

    ตะรางกันไปก็เพราะไอ้ความหมายที่ตีความไม่เหมือนกันนี่

    แหละ




    แต่ถ้าคุณมี “บารมี” ซะอย่าง  ทุกอย่างมันก็ง่ายฉลุย  ไอ้ที่

    คิดว่าทำไม่ได้ มันก็เกิดได้  ไอ้ที่แน่นอนว่าปฏิบัติไปต้อง

    ผิดระเบียบราชการแหงๆ




    เพราะ “บารมี” มันก็ทำให้ไม่ผิดได้




    ไอ้ที่จะโดนปรับ โดนยกเลิกสัญญามันก็เลิกหายกันไปไม่

    มีใครพูดถึง




    พูดง่ายๆ….”บารมี”…..มันดลบันดาลให้เกิดอะไรขึ้นก็ได้ใน

    ระบบราชการไทย




    แต่ถ้า “บารมี” มันหมดเมื่อไหร่……เวลาน้ำลด  ตอมันก็ผุด

    คราวนี้ก็ตัวใครตัวมันละครับ….ต้องขุดกันขึ้นมาล้างแค้น

    กันให้จงได้




    ก็ลองดูตัวอย่างเรื่องของข้าราชไทยในขณะนี้ซิ  เป็นอย่าง

    ไร......ทั้งๆ ที่อัยการก็คนเดียวกัน  ผู้จัดซื้อก็คนเดียวกัน  

    ผู้ตัดสินก็คนเดียวกัน  พอเจ้านายอีกคนหนึ่งอยู่ จะทำ

    อะไรก็ได้  งานเดินฉลุย  แต่พอเจ้านายคนนั้น  ต้องตก

    อันดับ  หนีไปอยู่ที่เกาะอังกฤษ  มีเจ้านายคนใหม่ขึ้นมา  ก็

    รื้อทุกโครงการมาดูใหม่  เป็นอันว่า  “ผิดไปเสียทุก

    เรื่อง”
    ........




    ข้าราชคนก่อนก็ยอมรับ....."ครับ  ท่านว่าผิด  ก็ผิดครับ”




    มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน.....ก็คนๆเดียวกัน  มันทำ

    เรื่อง  ทำไมกับคนโน้นจึงทำถูก  แต่มาคนนี้บอกว่าทำผิด  

    เอาหลักการอะไรเป็นที่ตั้ง




    มันเป็นเสียอย่างนี้ละเจ้านาย……………………………..




    เอาละลุงจบแล้ว  ขอพูดแค่นี้แหละ  หวังว่าคงจะได้รัฐบาล

    ใหม่ในคราวนี้  ขอให้เป็น Good Governance จริงๆ เสียที




    อุตสาห์เสียค่าน้ำมันรถออกไปเลือกตั้งนะนี่..................




    amorntvm@hotmail.com

    จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 23 ธ.ค. 50 20:19:51 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom