Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน….กว่าจะเป็น “เลขาฯ ตัวแสบ!”

    …..ฉันเริ่มการทำงานครั้งแรกกับญาติ
    ตอนอายุประมาณ 15-16 ขวบ
    ทำหน้าที่เป็น GB…
    ไม่ใช่ หน่วย Gigabyte ในระบบการจัดเก็บข้อมูลที่เราคุ้นกัน
    หรือเป็นตัวย่อของ General Boss หรอกนะ
    แต่เป็น General Beh (เบ๊) ที่ทำทุกอย่างที่เจ้านายสั่ง

    ทำได้ 1 เดือนฉันก็หิ้วกระเป๋าหนีกลับบ้านไปซบอกแม่
    ออกจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถไถนาเล็ก ๆ แห่งนั้น
    เนื่องจาก “ความคิดเห็น” ของเราไม่ตรงกัน
    เพราะฉันชอบคิดว่าตัวเอง “ฉลาด”
    ในขณะที่ญาติชอบคิดว่าฉัน “โง่” แล้วยังอวดฉลาด

    ถ้าเขาคิดในใจฉันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร
    แต่เขามักจะชอบคิดเสียงดัง
    และนับวันจะยิ่งดังขึ้น ๆ
    ถ้าฉันเถียงก็จะเจออีกกระทงว่า “ดื้อ” เถียงคำไม่ตกฝาก
    ฉันไม่เคยชอบคำพูดเหล่านี้เลย
    เพราะได้ยินทีไร….
    รู้สึกเหมือนเป็นการตอกย้ำให้ความจริงปรากฏ!!!

    หลังจากฉันหนีกลับบ้านแล้ว
    ญาติก็ลาก…เอ๊ย…เชิญตัวน้องสาวฉันไปทำแทน
    แต่ขอโทษที…เจอ "น้องรอง" ของฉันแล้วญาติต้องจ๋อย…
    ไม่กล้าแหยม…
    เพราะน้องรองของฉันเป็นตัวเงินตัวทอง…
    Oops!…ตัวทำเงินทำทอง
    ที่มีส่วนสร้างความเจริญให้กับญาติในเวลาต่อมา

    ปัจจุบันญาติคนนี้ไม่ได้ผลิตชิ้นส่วนตามสั่งแล้ว
    แต่ผลิตและประกอบรถไถนาจำหน่ายทั่วประเทศ
    พร้อมกับส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย
    และตอนนี้ "น้องรอง" ของฉันก็ได้ออกมาสร้างความรุ่งเรือง
    ให้กับอีกบริษัทหนึ่งจนถึงปัจจุบัน….

    ตอนนี้ไม่รู้ว่าญาติของฉันรู้สึกหรือคิดกับฉันและน้อง ๆ อย่างไร
    เพราะเดี๋ยวนี้ทุกครั้งที่เธอแวะเวียนมาที่บ้านฉัน
    เธอจะมาพร้อมขนมนมเนยสำหรับกินกันทั้งกองทัพก็ไม่ปาน

    หลังจากหันหลังออกจากโรงงานของญาติ
    เพราะความคิดเห็นไม่ตรงกันอย่างว่าแล้ว
    ฉันได้ไปทำงานบัญชีที่บริษัทกระจกที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง
    เพราะพอเรียนจบบัญชีมาอาจารย์ก็ใช้เส้นฝากฉันเข้าทำงาน
    ทำได้ไม่ถึงเดือนก็ลาออกอีกแล้ว
    เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับตัวเลขเอาเสียเลย
    และที่สำคัญบริษัทอยู่ไกลมากไม่สะดวกต่อการเดินทาง

    จากนั้นฉันได้ไปทำงานเป็น Admin. ในบริษัทนำเข้าหม้อไอน้ำ หรือ Boiler
    ทำได้ไม่ถึงปีก็รู้สึกเบื่องานแบบสุด ๆ จนต้องลาออกอีก

    ตอนนี้ฉันอยากจะผันตัวเองจากพนักงานประจำออฟฟิศ
    ที่นั่งขีด ๆ เขียน ๆ และพิมพ์เอกสารในห้องแอร์เย็น ๆ
    ไปทำงานเป็นพนักงานขายสินค้า brand name ที่สยาม
    เพราะคิดว่าจะมีโอกาสได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับลูกค้าฝรั่ง
    ให้สมกับที่ใฝ่ฝันอยากจะเก่งภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก ๆ
    แต่ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือแม้แต่มัธยมต้น
    ฉันจึงขนขวายทุกวิถีทางที่จะทำให้ตนเองเก่งภาษาอังกฤษ

    แต่ขายของที่นี่อยู่ได้แค่เดือนกว่า
    ก็พบว่าเดินมาผิดทาง
    เพราะไม่มีโอกาสได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษตามที่ใฝ่ฝันไว้แต่แรก

    จากนั้นได้งานใหม่กับบริษัทระดับ inter ขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว
    เป็นบริษัท Re-Insurance Broker หรือประกันภัยต่อสินค้าส่งออกนำเข้าทางทะเล
    นายจ้างที่นี่เป็นต่างชาติและพนักงานส่วนใหญ่
    จำเป็นต้องสื่อสารภาษาอังกฤษกับนายจ้างด้วยในระดับหนึ่ง
    ทำให้ฉันมีโอกาสได้ฝึกฝนการใช้ภาษาไปด้วยเช่นกัน
    ฉันเข้ามาทำงานในตำแหน่ง Telephone Operator cum Receptionist
    WoW!  ชื่อตำแหน่งยาวและฟังดูโก้ซะไม่มี…
    พอทำไปได้ 4 เดือนบริษัทคงเห็นแววบางอย่างในตัวฉัน
    จึงได้ Promote ให้ฉันไปเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยรับเรื่องการประกันภัยต่อ
    และให้ฉันแนะนำเพื่อนมาทำหน้าที่ Telephone Operator cum Receptionist แทนฉัน

    เธอคนนี้เป็นเพื่อนรักที่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับฉัน
    ในเรื่องการเรียนภาษาอังกฤษตอนอยู่มัธยม 1
    ทำได้เกือบปีฉันต้องลาออกด้วยความช้ำใจ
    เพราะฉันรู้สึกว่าเธอไม่เห็นแก่ฉันที่เป็นเพื่อนรักกันมานาน
    แต่ไปเห็นดีเห็นงามกับเพื่อนรุ่นพี่ที่ Anti ฉันอยู่ด้วยเรื่องอะไรที่ฉันไม่รู้ตัว
    คงเป็นเรื่องที่ไร้สาระมากที่ฉันเองก็จำไม่ได้แล้วล่ะว่าเรื่องมันเป็นมายังไง…
    ตอนนั้นก็คงมีความคิดแบบเด็ก ๆ ที่เอาแต่ใจตัวเองนั่นแหละ

    ฉันไม่ได้เจอเพื่อนรักคนนั้นอีกเลยตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้
    เราจะได้เจอกันอีกสักครั้งหนึ่งไหมหนอ?
    ยังคิดถึงเธอเสมอเลยนะ….
    ไม่รู้ว่าป่านนี้เธอแต่งงานและมีลูกแล้วหรือยัง…
    “มยุรา” เพื่อนรัก?

    ตอนที่ลาออกจากที่นี่ก็คือช่วงที่เตี่ยโทรไปขอตัวฉัน
    จากเพื่อนเตี่ยที่เป็นนายจ้างของฉันที่บริษัทประกันต่อนี่แหละ
    การทำงานกับเตี่ยเป็นการเริ่มต้นสู่เส้นทางของ
    “เลขาฯ ตัวแสบ!” ของฉันเป็นต้นมา….

    เมื่อเกิดปัญหาเชิงความคิดกับลูกเตี่ยจนต้องลาออก
    ฉันได้เข้าไปทำงานกับบริษัทยาประมาณ 2 ปีครึ่ง
    ที่นี่ทำให้ฉันมีโอกาสได้เรียนรู้
    กลยุทธ์และเทคนิคต่าง ๆ
    ทำให้เข้าใจและรู้จักวิธีการเกี่ยวกับการส่งมอบ
    และการเลือกใช้ยาในวงการแพทย์
    รู้สึกอึ้ง…และไม่ประหลาดใจเลยว่า
    ทำไมแพทย์แต่ละโรงพยาบาล
    จึงจ่ายยาให้กับคนไข้ไม่เหมือนกัน
    และทำไมจึงต้องจ่ายยาตัวนี้แทนตัวนั้น
    ทำไมไม่จ่ายยาตัวที่คนไข้ต้องการ
    ฯลฯ

    ที่บริษัทยาแห่งนี้เลิกงานเร็วมาก
    เพราะพอนาฬิกาบอกเวลา 16.30 น.
    ทุกคนก็จะเคลียร์โต๊ะทำงานเก็บกระเป๋ากลับบ้านกันหมดแล้ว
    การที่ต้องเลิกงานเร็วทำให้ฉันรู้สึกเคว้ง
    ไม่มีที่ไปและไม่มีกิจกรรมที่น่าสนใจทำหลังเลิกงาน
    ไม่เหมือนกับตอนที่ทำงานกับเตี่ย
    ที่ต้องอยู่ทำงานกันจนดึก ๆ ไม่มีเวลาคิดฟุ้งซ่าน

    ด้วยความที่เป็นคนทะเยอทะยานและไม่อยู่นิ่ง
    ทำให้ในระหว่างที่ทำงานกับบริษัทยา
    ฉันมีเวลาทำธุรกิจส่วนตัวควบคู่กันไปด้วย
    แต่ฉันไม่ได้เบียดบังเวลาทำงานของบริษัทหรอกนะ
    เพราะฉันใช้เวลาหลังเลิกงานแล้วจึงค่อยเข้าที่ทำงานส่วนตัว
    เพื่อเข้ามาเตรียมและวางแผนงาน
    สำหรับมอบหมายให้น้องของฉัน
    และพนักงานอีก 2 คนทำในวันรุ่งขึ้น

    ฉันทำงานที่บริษัทยาและทำธุรกิจส่วนตัวไปพร้อม ๆ กัน
    ทำควบคู่กันไปได้ 2 ปีครึ่งก็ต้องลาออกจากบริษัทยา
    ไม่ได้ลาออกเพราะธุรกิจรุ่งจนต้องออกมาทำเองเต็มตัวหรอก
    แต่คงเป็นเพราะทุ่มเวลาให้กับการทำงานพร้อมกันสองแห่งมากเกินไป
    จึงทำให้มีเวลาพักผ่อนน้อย
    และการพักผ่อนน้อยนี่เองที่ทำให้ฉัน
    รู้สึกอ่อนล้าและรู้สึกว่าประสิทธิภาพการทำงานตกต่ำ
    ประกอบกับงานที่บริษัทยาหนักไปทางการคำนวณตัวเลขยอดขาย
    และการตั้งงบประมาณต่าง ๆ มากกว่างานเลขาฯ ปกติ
    ซึ่งเป็นงานที่ฉันไม่ค่อยถนัด
    ทำให้เกิดความเครียดและต้องลาออกอีกครั้งในที่สุด

    ลาออกมาแล้วฉันก็ไม่ได้ออกมาทำธุรกิจเองเต็มตัว
    เพราะยังเป็นธุรกิจเล็ก ๆ ที่แค่เลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดได้
    ฉันจึงได้ทำหน้าที่เป็นเพียงพี่เลี้ยงให้กับน้อง
    เพื่อไปดำเนินการกันเองในตอนกลางวัน
    ส่วนฉันเข้ามาจัดการต่อในตอนเย็นและวันหยุด
    ในขณะเดียวกันก็ได้ไปทำงานที่ใหม่กับบริษัทน้ำดำแห่งหนึ่ง
    ที่เพิ่งเข้ามาเปิดสำนักงานตัวแทนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค
    ในตำแหน่งเลขาฯ ผู้บริหารของเจ้านายชาวอังกฤษ

    เป็นครั้งแรกที่ฉันมีโอกาสได้ทำงานให้กับเจ้านายที่เป็นชาวต่างชาติ
    ซึ่งฉันมีความรู้สึกตื่นเต้นและภาคภูมิใจเป็นที่สุด
    ที่ฉันมีโอกาสหลุดเข้าไปอยู่ในแวดวง
    ของเพื่อนเลขาฯ ที่จบจากต่างประเทศอีก 4-5 คน
    เนื่องจากสำนักงานตัวแทนแห่งนี้
    บริหารงานโดยเจ้านายชาวต่างชาติทั้งหมด
    โดยแยกเป็นหลาย ๆ ฝ่ายเช่น
    ฝ่ายทรัพยากรบุคคล
    ฝ่ายการเงินการบัญชี
    ฝ่ายการตลาดและการขาย
    ฝ่ายเทคนิคและวิศวกรรม  เป็นต้น
    แต่ละฝ่ายต้องมีเลขาฯ สำหรับนายฝรั่งฝ่ายละหนึ่งคน
    ฉันเป็นเลขาฯ ของนายที่เป็นรองประธาน
    ดูแลรับผิดชอบฝ่ายเทคนิคและวิศวกรรม

    นายคนนี้เป็นนายฝรั่งคนแรกของชีวิตการเป็นเลขาฯ ของฉัน
    เป็นคนเก่ง…ใจดี…น่ารักที่ทำให้ฉันรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก
    ถ้าฉันไม่มีเหตุต้องไปประเทศซาอุดิอาระเบีย
    หลังจากทำงานที่นี่ได้เพียงปีเศษ
    ป่านนี้ฉันคงยังทำงานอยู่ที่นี่ไม่หนีไปไหนเป็นแน่
    เพราะที่นี่มีทุกอย่างเพรียบพร้อม
    เป็นองค์กรที่เป็นที่ใฝ่ฝันของคนทำงานทุกคน…
    มีรายได้ดี…สวัสดิการเพรียบ….
    มีนายที่วิเศษสุด…บริษัทอยู่ใกล้บ้าน….
    มีเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก….
    ที่ถึงแม้จะลาออกไปทำงานที่อื่นกันหมดแล้ว
    แต่เรายังนัดกินข้าวกันทุกปี….

    กลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย
    ฉันไปรับใช้เตี่ยเป็นสมัยที่สอง
    แต่จำเป็นต้องลาออกไปประเทศกรีซ
    ถูกมรสุมและคลื่นยักษ์พัดกลับประเทศไทย
    จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ
    ตามที่ฉันได้เล่าทั้งหมด
    ตั้งแต่ตอนที่หนึ่ง….
    จนถึงตอนนี้….

    ถึงแม้จะมีชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน
    ที่ล้มลุกคลุกคลาน
    ขึ้น ๆ ลง ๆ มาตลอด
    แต่ปัจจุบัน….
    ฉันพอใจกับสิ่งที่ฉันได้รับอยู่มากที่สุดแล้ว
    ขอบคุณเบื้องบนที่ทำให้ฉันมีวันนี้
    วันที่ฉันพอแล้ว….
    วันที่ฉันไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว
    ต่อไปนี้…เป็นหน้าที่ที่ฉันจะต้องทำบางสิ่งบางอย่าง
    ที่ฉันสามารถทำได้
    เพื่อคืนให้กับสังคมบ้างแล้ว

    วันนี้….
    ฉันสามารถแบ่งเวลาส่วนหนึ่ง
    นำประสบการณ์ชีวิตและการทำงาน
    มาเล่าสู่และแบ่งปันให้กับทุกท่าน
    แม้จะไม่ได้เป็นเรื่องราวที่เลิศเลอเพอร์เฟค
    แต่ฉันหวังว่าหลายสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉัน
    ที่อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ท่านไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน
    ซึ่งอาจจะเป็นประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์
    และให้ข้อคิดที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
    เพื่อให้การทำงานและการดำเนินชีวิตของท่านมีความสุข
    เจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จได้ตามปรารถนาต่อไป!



    พลุ     พลุ     พลุ     พลุ     พลุ     พลุ     พลุ     พลุ     พลุ     พลุ     พลุ     พลุ     พลุ     พลุ    

    แก้ไขเมื่อ 16 ม.ค. 51 19:32:34

    แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 51 08:38:36

    จากคุณ : Destinyhurtsme - [ 1 ม.ค. 51 08:29:22 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom