Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอน…..เรื่องกุ๊กกิ๊กชีวิตทำงาน (ภาค 2)

    …..ที่จริงฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองขี้ริ้วขี้เหร่
    ขนาดที่จะต้องถูกใครต่อใครปฏิเสธ
    เหมือนกับที่คุณด๋องทำกับฉันเสมอไป….

    ว่าแล้วฉันก็ขอคุยอวดว่านอกจากคุณด๋องแล้ว  
    อย่างน้อยก่อนหน้านั้นก็มีหนุ่ม ๆ โฉบเฉี่ยว
    เข้ามาในชีวิตของฉันบ้างเหมือนกันแหละ
    เดี๋ยวจะหาว่าไม่เจ๋งจริง!

    ขอเริ่มที่รายแรกเลยแล้วกัน
    รายนี้เป็นหนุ่มหน้าตี๋…หล่อ…และน่ารักดี  
    แต่ดูเด็ก ๆ เพราะยังเรียนหนังสือไม่จบ
    ส่วนฉันเริ่มทำงานแล้วและกำลังทำงานกับเตี่ย  
    ตอนนั้นฉันอายุประมาณ 20 ปี

    ด้วยความที่เรียนหนังสือในรั้วสถาบันน้อย  
    ฉันพยายามเสาะแสวงหาที่เรียน
    นอกหลักสูตรตลอดเวลาที่ทำงาน  
    และได้ไปเรียนภาษาจีนกลางหลังเลิกงาน  

    หนุ่มน้อยคนนี้ก็เฝ้าติดสอยห้อยตาม  
    ด้วยการพยายามเข้ามานั่งใกล้กับฉันในชั้นเรียน
    และเดินจู๋จี๋ตามเวลาฉันกลับบ้านเสมอ  

    ตอนนั้นฉันรู้สึกเหมือนขาดความเป็นอิสระ
    และรู้สึกไม่ชินกับการที่จะมีใครมาใกล้ชิด
    จึงได้แก้ปัญหาด้วยการหยุดเรียนซะดื้อ ๆ
    และไม่ได้เจอกับเขาอีกเลย
    (แต่ตอนนี้ถ้ามีหนุ่มหน้ามลแบบนี้เข้ามาอีก
    ฉันจะไม่ปฏิเสธเลย…ฮะแอ้ม!!)  

    รายต่อมาเหตุเกิดที่สถาบันสอนภาษา AUA
    ที่ฉันไปเรียนการฝึกพูดภาษาอังกฤษ
    ในตอนเย็นหลังเลิกงานเช่นกัน  
    คราวนี้มีหนุ่มผิวเข้ม  
    แต่ชอบสาวผิวขาวหยวกอย่างฉัน  
    เข้ามาตีสนิทและพยายามถามไถ่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวฉัน    
    เผอิญฉันก็เป็นคนประเภทไม่กล้าทำให้หนุ่ม ๆ เสียใจ  
    ฉันก็หนีอีก!
     
    แต่ครั้งนี้ฉันไม่ได้หนีด้วยการหยุดเรียน
    เหมือนครั้งที่เรียนภาษาจีน  
    เพราะโรงเรียนที่สอนภาษาจีน
    มีตารางเรียนแค่รอบเดียวคือหลังเลิกงาน

    ส่วนที่ AUA มีหลายรอบรวมทั้งรอบเช้า
    ฉันจึงยอมแหกขี้ตา (อุ๊ย….ใช้คำหยาบไปอ๊ะปล่าวเนี๊ยะ?)
    ตื่นแต่เช้าเพื่อเข้าเรียนรอบแรกตอน 07.00 น.  
    เรียนวันละ 1 ชั่วโมง
    หลังเลิกเรียนก็รีบซิ่งรถเบนซ์ 20 หน้าต่างไปทำงาน
    เป็นอันว่าฉันใช้กลยุทธ์นี้หนีหนุ่มผิวเข้มคนนั้นได้สำเร็จ

    รายต่อมาเป็นนายจ้างของฉันเอง
    อ๊ะ! อ๊ะ!  อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้นสิ
    คือว่าอย่างนี้….
    ตอนนั้นฉันมีงานประจำทำเป็นปกติอยู่แล้วแหละ  
    แต่ด้วยความเป็นสาว…เอ๊ย….คนไฟแรง  
    ฉันมักจะเปิดหนังสือพิมพ์หางานรับ Job พิเศษทำ

    ว๊า! คิดมากอีกแล้ว
    Job พิเศษที่ฉันกำลังพูดถึงก็คือ
    งานเขียนโต้ตอบจดหมายภาษาอังกฤษน่ะ  

    ตอนนั้นมีหนุ่มนักธุรกิจชาวฮ่องกง
    ลงโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ Bangkok Post
    หาเลขาฯ Part time ทำงานสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง
    ในวันเสาร์อาทิตย์ช่วงเช้าเวลา 10.00-12.00 น.

    ฉันเห็นว่าน่าสนใจเพราะนอกจากจะมีรายได้พิเศษ  
    ฉันยังจะมีโอกาสได้ฝึกและใช้ภาษาอังกฤษ
    พร้อมทั้งสั่งสมประสบการณ์ทำงานให้มากขึ้น
    ฉันจึงร่อนจดหมายสมัครเข้าไป
    และได้รับการคัดเลือกให้เข้าไปทำงาน    

    หนุ่มนักธุรกิจชาวฮ่องกงคนนี้เป็นหนุ่มหน้าตี๋
    (ชีวิตฉันต้องเจอแต่คนหน้าตี๋ตลอดเลยหรือนี่?)  

    ถ้าดูไม่ผิดอายุของเขาประมาณสัก 35 ปีเห็นจะได้  
    เขาเป็นคนที่ไม่พูดมาก  เงียบ ๆ หน้าตาดี
    แต่ดูเหมือนจะมีปัญหาด้านสรีระเล็กน้อย  
    เพราะดูคอสั้นตัวสั้นแต่ขายาวผิดปกติ
    แต่โดยรวมก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

    จำได้ว่าทำงานกับเขาได้ไม่กี่สัปดาห์  
    วันหนึ่งเขาชวนฉันไปกินข้าวกลางวัน
    ที่ร้านอาหารฝรั่งแห่งหนึ่ง
    บนถนนสุขุมวิทใกล้ที่ทำงานของเขา

    ภายในร้านตบแต่งค่อนข้างหรู  
    เมื่อบ๋อยนำเมนูมาให้คนละเล่ม  
    เขาถามฉันว่าชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือไม่  
    ฉันตอบว่า…
    “I กินอาหารได้ทุกอย่างแต่ไม่ค่อยถนัดสั่งอาหารฝรั่งเท่าไร  
    You ช่วยแนะนำหน่อยสิ”

    เขาบอกว่าปกติเวลามาที่ร้านนี้เขาชอบสั่งสเต๊กเนื้อ
    “งั้น I ขอสเต๊กเนื้อเหมือนกันละกัน”  ฉันรีบตอบ
    เขาหันไปหาบ๋อยที่ยืนคอยรับ order
    “ขอสเต๊กเนื้อ 2 ที่”
    ฉันเห็นบ๋อยจดรายการลงในสมุดในมือและถามเขาว่า
    “ต้องการเนื้อแบบไหนดีครับ”

    “Medium”  เขาตอบ
    แล้วบ๋อยก็หันมาทางฉันถามแบบเดียวกัน
    ฉันคิดในใจว่า
    “เอาไงดีหว่าเรา?”  
    ครั้นจะตอบว่า “Medium” เหมือนกัน  
    เดี๋ยวเฮียเขาก็อาจจะคิดว่าฉันเป็นคนกินเก่งกินจุ

    ไม่ได้สิ…
    เราต้องสร้างภาพลักษณ์ของสาวที่ไม่เห็นแก่กินไว้ก่อน
    คิดในใจเสร็จฉันก็ตอบบ๋อยไปว่า
    “Small ค่ะ”!!!

    บ๋อยทำหน้างง ๆ  แต่พอได้สติ
    ก็พยายามอธิบายเพื่อให้ฉันเข้าใจว่า
    “คืออย่างนี้นะครับคุณผู้หญิง”
    อ้าว…ฉันกลายเป็นคุณผู้หญิงของเฮียไปแล้วหรือนี่!

    “สเต๊กเนื้อมี 3 แบบให้เลือกนะครับ  
    คือ Rare, Medium และ Well Done”
    ฉันคิดในใจว่า  “แล้วไอ้ Small ที่ฉันสั่ง  
    มันไม่มีอยู่ในเมนูหรอกหรือนี่?”

    จริง ๆ แล้วตอนนั้นฉันเริ่มรู้สึกหน้าชาแล้วล่ะ  
    เพราะฉันเริ่มเดาออกแล้วว่าการย่างสเต๊กเนื้อ
    เขาทำกัน 3 ขนาด  
    แต่คำว่าขนาดนี้ไม่ได้หมายถึง
    ขนาดความใหญ่โตของชิ้นเนื้ออย่างที่ฉันเข้าใจแต่แรก  
    แต่เป็นขนาดหรือระดับของความสุกของชิ้นเนื้อต่างหาก

    “Rare” หมายถึงย่างเล็กน้อย….
    เนื้อยังดิบ ๆ ซึ่งฝรั่งจะชอบแต่คนไทยจะไม่ค่อยนิยม
    นอกจากคนที่คิดว่าตัวเองเป็นผีปอบ!!

    “Medium” หมายถึงการย่างที่สุกมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง  
    แต่ก็ยังมีเนื้อส่วนกลางที่ไม่สุกและยังดิบ ๆ
    เวลาหั่นเนื้อจะมีเลือดไหลออกมาซิบ ๆ
    และเมื่ออ้ำเข้าปาก….ความหวานของเนื้อ
    ผสมกับเลือดอร่อยเหาะอย่าบอกใครเลย!

    “Well Done” หมายถึง  เจ้าทำได้ดีมาก….
    เอาคะแนนเต็มร้อยไปเลย
    Oops! ฉันล้อเล่นหรอก!  
    แต่ถึงแม้ความหมายจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
    ในหลาย ๆ สถานการณ์
    แต่ในที่นี้…ในเรื่องที่เกี่ยวกับเนื้อสเต๊ก  
    คำว่า “Well Done” หมายถึง  “ย่างให้สุก” ไปเลยนะน้อง  
    เพราะจะได้ตัดปัญหาเรื่องเชื้อโรควัวบ้า
    ที่จะตามมาอาละวาดภายหลัง!!

    แล้วฉันก็ตอบบ๋อยไปว่า
    “งั้นขอเป็น Well Done ก็แล้วกันค่ะ”
    ถึงแม้ฉันจะพยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    แต่ข้างในฉันรู้สึกว่าตัวเองหน้าชา…
    ขายหน้าจนแทบจะต้องเอาปี๊บมาคลุมหัว
    หรือดำดินหายไปเดี๋ยวนั้นเลย!

    เป็นอันว่าอาหารมื้อนั้นฉันรู้สึกไม่อร่อยเลย  
    รู้สึกว่าติดคอกินไม่ค่อยลง
    ถึงแม้หนุ่มฮ่องกงคนนั้นเขาไม่ได้แสดงทีท่าหัวเราะเยาะ  
    หรือแสดงสีหน้าสมเพชในความ “อวิชา” ของฉัน  
    แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าในใจเขากำลังคิดอะไรอยู่

    มารู้อีกทีว่าเขาต้องคิดอะไรกับฉันแน่ ๆ
    ก็ต่อเมื่อทำงานกับเขาต่ออีก 1-2 สัปดาห์
    หลังจากจ่ายเงินค่าจ้างในเดือนนั้นเสร็จแล้ว
    เขาก็ไม่ได้เรียกฉันกลับไปทำงานต่ออีกเลย!!

    ท่านผู้อ่านเดาออกไหมว่าทำไมจึงเป็นแบบนี้?
    ถ้าเดาไม่ออกก็ลองกลับไปอ่าน
    ตอนฉันสั่งสเต๊กเนื้ออีกรอบก็จะรู้คำตอบ!!

    จากคุณ : Destinyhurtsme - [ 21 ม.ค. 51 18:09:17 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom