ความคิดเห็นที่ 1 บทที่ 2   ดำเนินการเปิดร้าน – ความลำบากของคนไม่เคย กลางเดือน พฤษภาคม 2550 แรกเจอเจ้าของแฟรนไชส์    เรานัดกันที่ร้านต้นแบบของเขา     เขาแต่งตัวเนี๊ยบมาก   ยืนสูงสง่า เดินเยี้องย่างเข้ามาอย่างหมาป่าจ้องขม่ำลูกแกะ   เหมือนในฉากที่ จอร์จ (เพื่อนเกย์) เดินเยื้องย่างเข้ามาหา จูเลียโรเบิร์ต  ที่นั่งซึมอยู่ ในฉากงานแต่งงาน my best friend wedding   พลางพูดว่า “บอนด์ ... เจมส์บอนด์”     ว้ายยย   ไปกันใหญ่แล้ว     นี่คือหนังสือสาระ   มิควรพล่ามแบบนี้    มาเข้าเรื่องกันดีกว่า เขาให้เด็กตักโจ๊กมาให้ทาน   ...อร่อย, คุณภาพดี....   นี่คือคุณภาพที่ตามหา จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 29 ม.ค. 51 19:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เริ่มแรกเราเสนอทำเลตลาดใกล้บ้านเรา    เขาคอมเมนต์ว่า  ตลาดนั้นมีกำลังซื้อต่ำมาก (เป็นตลาดหน้ามหาลัย) ให้ขยับมาอีกหน่อย ( 8  กิโลเมตร  แค่จิ๊บๆ สำหรับคนขับรถเอง)   ทำเลนี้ดีมากๆ เดิมมีร้านแฟรนไชส์ของเขาอยู่    แต่ร้านนี้แอบเอาวัตถุดิบของตนเองมาผสม จึงยกเลิกสัญญาไปได้เพียงสองสัปดาห์ ร้านนี้ขายได้ถึง 4-5 แสนต่อเดือน   เป็นร้านที่มียอดขายอันดับสามของเขาเลย และบัดนี้  “คุณได้รับสิทธิ์นั้น  เดี๋ยวนี้” หากเราไปเปิดตรงนั้น   แค่แชร์ยอดกันคนละครึ่งกับจ้าวเดิม   กำไรก้อโอเคแล้ว ขายสองแสน  หักต้นทุน 50%  เช่า 15,000 แรง 15,000  โสหุ้ย 10,000  เหลือ 60,000สบาย เขาบอกว่า   ลงทุนสัก120,000 น่าจะพอ   ไปลองหาทำเลดูนะ คืนนั้น  เราเล่าให้สามีฟัง  และยังพึมพำว่า  “เงินมันจะหาง่ายอย่างนี้เลยเหรอ???” จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 29 ม.ค. 51 19:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วันรุ่งขึ้น   เราจึงขับรถมุ่งไปยังทำเล “สุขุมวิทร้อยเศษ”ทันที   แล้วเดิน   เดินหาตึกห้องแถวที่เปิดให้เช่า    เดินจนค่ำ   ปวดหัวไปหมด ตอนนั้นมีตึกเปิดเช่า  เพียง 6 แห่ง  มีค่าเช่า 20,000-25,000 ไล่เลี่ยกัน จึงนัดหมายขอดูในตึก วันรุ่งขึ้น  เราก้อไปดูแต่ละตึก   ตรรกะในการเลือกทำเลของเราคือ   หน้าร้านจอดรถได้   เราจะอธิบายถนนนี้ให้ฟัง   คือ  ถนนยาว 4 กิโลเมตร   หัวถนนด้านสุขุมวิทมีตลาด 2ฟากถนนเลย   ขายของเยอะแยะ ปลายถนนด้านศรีนครินทร์มีฝูงร้านอาหารอีกกระจุกนึง ตลอดถนน มีอู่แท๊กซี่เยอะ  มีผับเลาท์ใหญ่น้อย  กระจัดกระจาย  และมีป.กุ้งเผาด้วย ถนนเส้นนี้ขนานบางนาตราด   จึงใช้เป็นเส้นทางแวะกินก่อนออกชลบุรี ตึกที่เข้าไปดู    ส่วนมากจะว่างไว้นานแล้ว   โทรมมาก   เราจึงเลือกตึกที่คิดว่า ซ่อมบำรุงน้อยที่สุด (เดาว่าสัก 30,000 คงพอ) เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นครึ่ง  หน้ากว้าง 4 เมตร  ลึก 12 เมตร  มีด้านหน้าอีก3 เมตร โดยให้เหตุผลแก่ตัวเองว่า    ตึกนี้อยู่ตรงกึ่งกลางถนน (2 กม.จากสุขุมวิทและศรีนครินทร์) ถ้าไปขายรวมกับคนอื่นในตลาด   จะต้องแย่งลูกค้ากัน   จึงคิดว่าเปิดแยกจากคนอื่นมาดีกว่า   (ซึ่งความคิดนี้   เป็นความคิดที่ผิดพลาดอย่างมากมาย   จะอธิบายให้ฟังภายหลัง) และเราก้อเลือกตั้งร้านดักหน้า  ก่อนถึง”ร้านโจ๊กเมืองกรุง(นามสมมุติ)” ซึ่งเคยเป็นร้านแฟรนไชส์เดียวกันนี้ด้วย  (ร้านที่เขาบอกว่า ขายได้ 4-5 แสนน่ะ) จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 29 ม.ค. 51 19:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ด้วยความใจร้อน    เราจึงนัดทำสัญญากับเจ้าของตึก ในวันต่อมา ต่อรองราคา 16,000 ใน3 เดือนแรก และ 18,000 ต่อมา  โดยวางเงินประกันของเสียไว้ 3 เดือน และขอช่วง grace period 2 สัปดาห์  ซึ่งปลอดค่าเช่า  ในการซ่อมตบแต่งร้าน สัญญานี้มีอายุ 2 ปี (ตอนแรกไม่เข้าใจความสำคัญของประโยคนี้) และเขียนบันทึกแนบท้ายสัญญาไว้ว่า “(1)  ผู้เช่าได้วางเงินมัดจำเป็นเงินประกันแก่ผู้ให้แล้ว เป็นเงิน 50,000 บาท ณวันทำสัญญา   โดยจะคืนให้แก่ผู้เช่าเมื่อเลิกสัญญาเช่าเต็มจำนวน” และ“(2) กรณีเลิกสัญญา  ผู้เช่าหรือผู้ให้เช่า ต้องแจ้งล่วงหน้า 2 เดือน” ด้วยความโชคดีจากลูกมั่วของตนเอง ( ณ วันนั้นไม่ได้คิดเรื่องนี้ไว้)   บันทึกแนบที่เขียนด้วยลายมือของเราเองนี้เป็นประโยชน์มาก    เนื่องจาก... โดยทั่วไป  สัญญานี้มีอายุ 2 ปี หมายถึง   หากเลิกเช่าก่อนครบสองปี   ผู้เช่าจะไม่ได้รับเงินประกันคืน เมื่อเราคิดจะเลิกกิจการ  เราจึงแจ้ง(เป็นลายลักษณ์อักษรผ่านไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ)ล่วงหน้า 2 เดือน ว่า จะเลิกสัญญา ณ วันที่XXXX       ทำให้เราได้รับเงินประกัน 50,000 คืนครบจำนวน   ขอบคุณพระเจ้าจริงๆ        เงินนี้มากพอจะไปแช่ออนเซ็นที่ญี่ปุ่นเล่นได้หนึ่งรอบพอดี จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 29 ม.ค. 51 19:40:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อมา ก้อเรื่องหาผู้รับเหมามาซ่อมตกแต่งตึก........... มองด้วยตา   เราคิดว่า  งบประมาณคงไม่เกิน 30,000 บาท แต่หลังจากหาผู้รับเหมามาประเมินราคา 5 รายแล้ว   ใช้งบ 80,000-120,000 บาท เราเลือกรายที่สนิทที่สุด และทำเท่าที่จำเป็นที่สุด ทำบันไดหน้าบ้าน(ปิดช่องตึกทรุด) 5,000 อันนี้ไม่อยากทำเลย  แต่เจ้าของตึกขอร้อง ทาสีชั้นล่างและชั้นลอยด้วยสีเช็ดล้างได้  23,000 เช็คและเดินระบบไฟฟ้า 13,000  (เรื่องนี้เราซีเรียส   ไฟรั่วอาจตายได้) ซ่อมน้ำรั่ว  ฝ้าผุพัง  เดินน้ำประปา จิปาถะ (ผู้เช่าเดิม ถอดไปหมด ไม่มีลูกบิด, ประตู,ก๊อก โคมไฟ, มีแต่สายไฟรุงรังไปหมด ปล่อยปลายสายไฟไว้ด้วย) กำหนดเสร็จใน 7 วัน  ซึ่งก้อตรงเวลาจริงๆ  รวมแล้วเสียเงินไป 65,000 บาท   ค่าแฟรนไชส์และอุปกรณ์อีก 85,000 ซื้อพัดลม, ปั้มน้ำ,ซิงค์ล้างจาน,ที่วางจาน ฯลฯ  อีก 40,000 รวมเงินลงทุนรอบแรก   190,000  บาท  เกินงบซะแล้วเรา เรื่องนี้ขอเสริมว่า....  หากเพื่อนๆคนใด  คิดจะค้าขาย  แบบทำเอง(จ้างเด็กแค่ช่วยงาน) เพื่อนๆ ควรทดลองตลาด  ด้วยการขายแบบแผงลอย หรือรถเข็นก่อน การลงทุนบนตึกของคนอื่น  เราถอดคืนไม่ได้ จึง ยากที่จะถอนทุนส่วนนี้คืนนะคะ จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 29 ม.ค. 51 19:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สิ่งที่กังวลต่อมา  คือ  พนักงาน เมื่อคุณเปิดร้านใหม่ครั้งแรก    ซึ่งคุณเองก้อไม่อยากบอกใครด้วย (เราเปิดร้านนี้  โดยบอกเพื่อนสนิทเพียง 5 คน   ไม่บอกพ่อแม่พี่น้องด้วยซ้ำ) การจะหาพนักงาน   ที่รับผิดชอบ ,ทำงานเป็น ,ไว้ใจได้(เพราะเราไม่อยู่เฝ้าร้าน) มันเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ช่วงนั้น  เราจะไปนั่งกินข้าวบนถนนนั้นทีละร้าน   แล้วสะกิดชวนเด็กในร้านให้มาทำกับเรา เราซีร๊อกซ์ ประกาศรับสมัครพนักงาน  พร้อมอาหาร,ที่พัก     ราว 200 ใบ เอาไปติดตามป้ายรถเมล์  ตู้โทรศัพท์  เสาไฟฟ้า   เดินติดไปเรื่อยๆ กลางแดดอยู่สองวัน แต่เนื่องจากเขาไม่ให้ติด    มีคนด่าตลอดทาง   ติดแป๊ปนึง  ก้อมีคนดึงออก   ท้ายสุด ก้อเหลือไม่กี่ใบ   และหาคนไทยที่จะมาทำจริงไม่ได้เลย  ท้อใจอย่างมากมาย จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 29 ม.ค. 51 19:43:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เมาท์เรื่องแย่ๆของการหาคนงานในช่วงนี้ให้ฟังนะ   เช่น คนไทยหลายคน โทรมาสมัครงาน   เราคุยเบื้องต้นแล้วนัดมาที่ร้าน เช่น  นัดทุ่มนึง(นัดเผื่อหลายคนด้วยนะ)   ทุกครั้ง  เด็กพวกนี้ไม่มาเลย ปล่อยให้เราต้องมารอที่ร้าน เก้อ   ในร้านที่ยังไม่มีพัดลม  ยังไม่มีน้ำใช้ ปล่อยให้เรานั่งโดนยุงกัด  เหงื่อเยิ้ม  ตัวเน่า     เด็กสมัยนี้ไม่มีความรับผิดชอบและจิตสำนึกกันเลย   คือถ้าไม่มา   ก้อน่าจะบอกกัน  จะได้ไม่เสียเวลา  ลำบากมารอ (เราจึง อิน กับกระทู้จำพวกนี้   ที่นัดมาสัมภาษณ์  แต่ไม่มาไม่โทรบอก) ซ้ำร้ายกว่านั้น    โดนไอ้ตัวแสบมันแกล้ง มันบอกว่า  อยากมาทำงานมาก   แต่ไม่ชำนาญกรุงเทพฯ ขอให้เราไปเจอที่ร้านอาหารตามสั่งข้างหลังห้างฯ  แถวนั้น เราตอนนั้น ยังไม่ประสีประสา   ก้อไปตามนัด นั่งรอเกือบชั่วโมง  ก้อยังไม่มา    โทรไปตาม   ก้อไม่รับสาย ท้ายสุด  รับสายขึ้นมา   บอกว่า “ฮัลโหล ฮัลโหล” แล้วสายตัดไป เรามองโลกในแง่ดีว่า  อาจแบตหมด     จึงนั่งรออีกสักครู่ อีก 20 นาที   มันโทรมาพูดว่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า   โง่มานั่งรอ  งี่เง่า” แล้ววางหู พร้อมปิดโทรศัพท์ไปเลย...... (เคยอ่านเจอกระทู้ในสีลม  ที่มีคนขายตรง  โดนหลอกไปคอยเก้อแบบนี้ด้วย) (ปล.  ผิดกับต่างด้าว   เมื่อนัดหมาย  เขาจะมารอก่อนเวลาด้วยค่ะ) จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 29 ม.ค. 51 19:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ใกล้วันเปิดแล้ว อีก 5วัน ทำไงดี    และแล้ว  ก้อมีต่างด้าวลาวมาสมัครคนนึง เรารีบรับทันที  ให้เข้าพักที่ตึกได้เลย   เขาขอชวนเพื่อนมาได้ไหม   เราโอเค วันรุ่งขึ้น  ชวนมา 2 คน  แล้ว 2 คนก้อชวนเพื่อนมาอีก  และเพื่อนก้อชวนกันมาอีก   เพียง 4 วัน   เขาขยายตัวมาพักที่ตึกราว 20 คน  ต่างด้าวหญิงลาวล้วน เราจึงต้องบอกให้คนหลังๆไปซะ   เหลือไว้ 6 คน   โดยวางแผนจะใช้ 5 คน แบ่งเป็น 2กะ กะละ 2 คน  บวกหัวหน้า 1 คน พวกนี้มาตัวเปล่า   ทุกคนบอกไม่มีเงิน  หิวข้าว   เราต้องจ่ายค่าข้าวให้คนละ 50 บาท/วัน ปัญหานี้ติดตัวพนักงานทุกคนที่เคยผ่านเข้ามาในร้านเลย     ชีวิตพวกเขาไม่มีเงินเก็บ   ยามพอมี ก้อไม่เคยวางแผนอนาคตตนเองเลย   มือถือทำไมต้องใช้  ในเมื่อข้าวยังไม่มีจะกิน ระหว่างนั้น  เราต้องส่งพวกเขาไปอบรมฝึกทำโจ๊ก 3 วัน และ ให้ทำความสะอาดร้าน  เตรียมเปิด จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 29 ม.ค. 51 19:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เนื่องด้วยแรงงานของเราเป็นต่างด้าว    ความกังวลก้อเกิดขึ้น ต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทันที สามีเรารีบติดต่อซื้อ กล้องวงจรปิด 5,900 บาท  หิ้วคอมพ์ไปวางที่ร้านเพื่อรองรับภาพไว้ พร้อมสั่งทำตู้ไม้ที่บิวท์อิน สำหรับใส่ CPU  ล็อคตู้ ไม่ให้ใครเปิดได้ เสียอีก 2,000 โดยเราต้องรีบขอเบอร์โทรศัพท์บ้าน  ,สมัครHi speed internet ทั้งที่บ้านและที่ร้าน เพื่อรองรับกล้องวงจรปิด  ออนไลน์มาดูที่บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง   เขาจะได้ดูเรา  เวลาที่เราไปที่ร้านได้ตลอด  ซึ่งสามารถเอาโน๊ตบุ๊คไปจิ้มดูผ่านเน็ตได้ทุกที่ คงเกรงว่า  เราจะโดนจิ้มพุงชิงเงินไป   ซึ่งทำให้เราดูแลร้านได้  โดยไม่ต้องไปร้าน  มีประโยชน์มากมาย เราก้อเลยเหมา true convergence โดยสมัคร true เบอร์บ้าน, true ไฮสปีด, true move พร้อม true vision จานแดงมาที่ร้านด้วย ค่าใช้จ่ายเริ่มบานปลายแล้ว   ยังไม่ได้เปิดร้านเลย......... โปรดติดตามตอนต่อไป......  บทที่ 3  ตื่นเต้นจัง   เมื่อเปิดร้านจริงจะเป็นยังไงหนอ จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 29 ม.ค. 51 19:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : คำเภา - [ 29 ม.ค. 51 19:56:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ดีค่ะ ละเอียดละออดีมาก จากคุณ : ชัยบาล - [ 29 ม.ค. 51 20:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตื่นเต้นด้วยคนครับ จากคุณ : To die for - [ 29 ม.ค. 51 20:09:15 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านอย่างระทึกพลัน จากคุณ : BearBearBear - [ 29 ม.ค. 51 20:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอลงทะเบียนเรียนด้วยคน จากคุณ : "เลขาฯ ตัวแสบ!" (Destinyhurtsme) - [ 29 ม.ค. 51 20:19:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เข้ามาอ่านด้วยครับ จากคุณ : poppula - [ 29 ม.ค. 51 20:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขออ่านด้วยคนครับ จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 29 ม.ค. 51 20:26:23 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใช่คะแรงงานไทยดีๆ หายากส่วนใหญ่จะไปเป็นสาวโรงงานกันหมด เราก็มีแต่แรงงานพม่า สบายใจด้วยแถมค่าแรงก็ไม่แพง ขยันกว่าพี่ไทยเยอะ แต่ไม่ถึงขนาดติดกล้องนะ พวกนี้เขาซื่อสัตย์จริงๆ จากคุณ : Rap_Girl - [ 29 ม.ค. 51 20:44:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เอาเจ้าป่วนเข้านอนแล้วรีบมาเรียนเลยค่ะ จากคุณ : รักสีส้มอมเปรี้ยว - [ 29 ม.ค. 51 20:47:36 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จากคุณ : รักนะแต่ไม่แสดงออก - [ 29 ม.ค. 51 21:03:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 มาลงชื่อจ่ายค่าเทอมคร๊าบบบบบบบ จากคุณ : libra-cat - [ 29 ม.ค. 51 21:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เล่าละเอียดดีจัง ชอบมากๆ รอเข้าคลาส 3 ต่อไป จากคุณ : mallet - [ 29 ม.ค. 51 21:30:15 A:161.246.18.213 X:161.246.1.36 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เป็นกำลังใจให้ครับ ขอบคุณที่สละเวลามาเล่าสู่กันฟัง โหวตตตตตตตตตตตตตตตตต จากคุณ : KENG76 - [ 29 ม.ค. 51 21:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ลงทะเบียนพร้อมชำระค่าเทอมเรียบร้อยครับ จากคุณ : Mythica88 - [ 29 ม.ค. 51 21:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 24 http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6282316/B6282316.html อีกหนึ่งประสบการณ์ดีๆที่ไม่บังคับโหวต จากคุณ : โอ๊ววว......เฮียมาดแมน - [ 29 ม.ค. 51 21:45:50 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มีขั้นตอนยุ่งยากจริงด้วยแฮะ จากคุณ : drof - [ 29 ม.ค. 51 21:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ชอบที่มาของชื่อเจ้าของกระทู้จัง... แล้วกระทู้ก็สนุกน่าติดตาม ผมว่าไม่ต้องย่อครับ เขียนยาวๆก็ได้ เพราะเรื่องสนุกๆ มันอ่านจบเร็ว จากคุณ : MESMERIC - [ 29 ม.ค. 51 22:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอลงทะเบียนด้วยคนครับ จากคุณ : เอี่ยว (JIRASAK1459) - [ 29 ม.ค. 51 22:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านไปฮาไปค่ะ เป็นร้านโจ๊กที่ไฮเทคมากๆค่ะ จากคุณ : เหมียว - [ 29 ม.ค. 51 22:22:57 A:124.120.93.177 X: TicketID:152713 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านเพลินดีครับ จากคุณ : 77003 (silptt) - [ 29 ม.ค. 51 22:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอลงทะเบียนด้วยครับ จากคุณ : ไม่ต้องไล่ ผมก็รีบ - [ 29 ม.ค. 51 22:46:22 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ดีครับ ... ชอบเรื่องที่เล่า จากคุณ : HI Golfer - [ 29 ม.ค. 51 23:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ลงทะเบียนเรียนด้วยๆๆ จากคุณ : SiTZ - [ 29 ม.ค. 51 23:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ดี ครับ จากคุณ : SEA - [ 29 ม.ค. 51 23:28:32 A:124.120.73.103 X: TicketID:107202 ]

ความคิดเห็นที่ 34 บางครั้ง "สิ่งที่คิดก็ไม่ได้เป็นไปตามที่หวังไว้" ขอขอบคุณ จากคุณ : rfu - [ 30 ม.ค. 51 00:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 35 รอตอนต่อไป อยู่น่ะค่ะ จากคุณ : white label - [ 30 ม.ค. 51 00:39:48 A:203.118.120.159 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 มาลงชื่อเรียนด้วยคนครับ... เพิ่งได้เริ่มเก็บเงิน...ได้จึ๋งส์เดียว... คงอีกเป็นปี กว่าจะได้เริ่ม ระหว่างนี้ก็อาศัยประสบการณ์เด็ด ๆ จากคนดี ๆ อย่างเจ้าของกระทู้เนี่ยแหละครับเป็นตำราเรียนไปก่อน... ^__^ จากคุณ : monboy01 - [ 30 ม.ค. 51 00:49:59 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ตามต่อ ติดตาม จากคุณ : The Fast And Furious - [ 30 ม.ค. 51 00:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อดไม่ได้ที่จะโหวดอีกจึ๊ก จากคุณ : denebt00 - [ 30 ม.ค. 51 01:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 1 จิ๊กค่าาาา เริ่มหนุกๆๆ จากคุณ : GaljaZZZ - [ 30 ม.ค. 51 01:17:47 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ลงชื่ออ่านพร้อมโหวตครับ จากคุณ : dangerous - [ 30 ม.ค. 51 01:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 41 รออ่านค้า มาเขียนเร็วๆนะค้า จากคุณ : จิ๊กโก๋ทะเลทราย - [ 30 ม.ค. 51 01:55:17 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตอกบัตรค่ะ^^ จากคุณ : [[babeberry]] - [ 30 ม.ค. 51 02:01:56 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตามโหวตให้ค่ะ อ่านสนุกและมีประโยชน์มากสำหรับคนมีฝันอยากเปิดร้าน จากคุณ : katua - [ 30 ม.ค. 51 03:41:40 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ติดตามดูงานร้านโจ๊กแบบเงียบๆมาตลอดค่ะ เห็นคุณลงทุน แล้วหนาวเลยค่ะ ใจกล้ามากๆ ค่าใช้จ่ายไม่ได้คิดถึง มีเยอะมากจริงๆ ขนาดยังไม่เปิดร้าน เรายังตาลายเลยว่า ลงทุนไปทั้งหมดเท่าไหร่ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆอย่างนี้ค่ะ จากคุณ : cinimania - [ 30 ม.ค. 51 05:08:21 ]

ความคิดเห็นที่ 45 มาลงชื่อครับ... จากคุณ : แมงโม้โต้คลื่น - [ 30 ม.ค. 51 05:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ลงทะเบียนครับ จากคุณ : New_Look - [ 30 ม.ค. 51 07:17:06 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณค่ะคุณมินิแพนด้า จากคุณ : หมีโคล่า - [ 30 ม.ค. 51 07:49:11 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อืมค่ะ เงินลงทุนเยอะพอดู จน ๆ หนู มะมีปัญญา ก้มหน้าก้มตากินเงินเดือนต่อไป จากคุณ : นางมารหน้าใส - [ 30 ม.ค. 51 08:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 49 มาคับ - - / จากคุณ : เช็คชื่อเข้าเรียน (เฒ่าเจ้าอุบาย) - [ 30 ม.ค. 51 09:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เป็นลูกค้าทรูด้วย มาขอปาดอีกคน อิอิ ... true convergence จากคุณ : zoom_dhoom - [ 30 ม.ค. 51 09:44:49 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มาลงทะเบียนเรียนด้วยคนครับ จากคุณ : รักลูกรักครอบครัว - [ 30 ม.ค. 51 09:50:05 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มาอ่านแล้วค่ะ..สนุกดี  ได้ความรู้ด้วย  จากประสบการณ์ตรง..แต่เรื่องแรงงานต่างด้าวระวังไว้ก็ดีแล้วค่ะ.    ถัดจากบ้านไป 10กว่าห้อง ปีที่แล้ว โดนหนุ่มกับสาวหม่อง เจี๋ยนคอ จับโยนบ่อน้ำหลังบ้าน เอาทองที่คอไป 5 บาท   กว่าจะรู้ก็ 4--5 วันแน่ะ.... จากคุณ : ดอกหญ้าบนเขา - [ 30 ม.ค. 51 10:18:48 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เป็นบทความดี ที่เขียนได้น่าอ่านครับ จากคุณ : ดาวสุริยะ - [ 30 ม.ค. 51 10:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 น่าสนุกดีนะครับ มาเรียนด้วยคน จบแล้วจะได้ไปเปิดมั่ง จากคุณ : shakariki - [ 30 ม.ค. 51 10:52:59 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ข้อผิดปกติแรกที่พบ คือเรื่องของรายได้ต่อเดือนที่เจ้าของแฟรนไซด์แจ้งให้คุณมินิคุ๊กกี้ เอ๊ย คุณมิมิแพนด้า รายได้เดือนละ 4 แสนนั้น หากขายชามละ 20 บาท เท่ากับว่าต้องขาย 20,000 ชาทต่อเดือน หรือ 667 ชามต่อวัน คนหมุนเวียนมี 667 คนต่อวันนี่ ไม่ใช่ธรรมดา แล้วคน 667 คนต่อวัน คุณใช้เวลาในการบริการเพียง กลางวัน 2 ชั่วโมง และเย็น 6 ชั่วโมง รวม 8 ชั่วโมง หรือ 480 นาที คุณบริการทั้ง 8 ชั่วโมง ด้วยเวลา 1.4 นาที นั้น เป็นไปแทบจะไม่ได้เลย ดังนั้น ฝากคุณมิมิแพนด้าในการบริหารธุรกิจต่อๆ ไปครับ เรื่องของการประมาณการรายได้ ให้มันสอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด จะได้เห็นว่า ธุรกิจที่น่าสนใจนี้ ไปรอดหรือไม่ จากคุณ : เตร็ดเตร่ - [ 30 ม.ค. 51 10:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 56 รออ่านต่อค่ะ จากคุณ : AmyKo - [ 30 ม.ค. 51 10:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ลงชื่อ ตามอ่านครับ จากคุณ : นายยศ - [ 30 ม.ค. 51 11:34:39 ]

ความคิดเห็นที่ 58 บ้านผมอยู่ซอยสุขุทวิทที่มี ป กุ้งเผา แล้วก็มีร้านโจ๊กด้วย เคยไปทานนะครับ หลัง ๆ เห็นขายโจ๊กแล้วมีขายอย่างอื่นด้วยนี่ครับ ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 51 00:53:53 จากคุณ : Mr.Next (Mr. Next) - [ 30 ม.ค. 51 11:37:18 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณมากๆ มาลงชื่อตามอ่านครับ จากคุณ : Z-Cube - [ 30 ม.ค. 51 11:51:27 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ชวนแฟนมาเหมือนเคย อ่านตอนที่สองแล้วค่ะ ส่งใจให้พี่เหมือนเคยนะคะ สู้ๆนะคะ จากคุณ : ปัทกะปุ๊ - [ 30 ม.ค. 51 12:02:23 A:58.8.30.77 X: TicketID:164972 ]

ความคิดเห็นที่ 61 มาลงชื่อค่ะ จากคุณ : sapia - [ 30 ม.ค. 51 12:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ลงชื่อด้วยครับ จากคุณ : Old Guy - [ 30 ม.ค. 51 12:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 63 รออ่านตอนต่อไปครับ จากคุณ : andyleaw - [ 30 ม.ค. 51 13:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 64 มาเช็คชื่อคาบที่ 2 คับ วิชานี้ชักเริ่มสนุกแฮะ อาจารย์บรรยายได้เห็นภาพมาก ๆ ไม่เสียทีที่มาลงทะเบียน จากคุณ : Le dix - [ 30 ม.ค. 51 13:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 65 มาตามอ่านค่ะ เราก็อยากมีธุรกิจของตัวเองบ้าง แต่ขี้เกียจเกินไปอ่ะ จากคุณ : happyme (happyme) - [ 30 ม.ค. 51 13:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 66 มาเช็คชื่อค่า....สนุกค่ะ...ตื่นเต้นๆๆ จะเปิดร้านแล้ว... จากคุณ : picmie - [ 30 ม.ค. 51 13:58:31 ]

ความคิดเห็นที่ 67 บทที่สองนี่คล้ายๆๆ ตอนผมเปิดร้านเลย บานปลายมากสำหรับค่าตกแต่งร้าน จากคุณ : muk_22 - [ 30 ม.ค. 51 14:02:32 ]

ความคิดเห็นที่ 68 มาลงชื่อค่ะ ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่เหมือนกันค่ะ เข้าใจเลยค่ะ ว่างานตกแต่งร้านมันใช้เงินมากจริงๆ   ยิ่งเริ่มเปิดร้านใหม่ๆ จะต้องมีค่าใช้จ่าย จิปาถะเยอะมากๆ มันก็สนุกดีค่ะ คิดเหมือนกันว่า เงินที่เสียไป เท่ากับค่าเรียน เหมือนบทเรียน บทที่ 1 ที่ต้องเจอ ปัญหา และหาวิธีแก้ไข แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 14:13:34 จากคุณ : Phychexxx - [ 30 ม.ค. 51 14:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เรียน คุณเตร็ดเตร่ คห.55 ร้านเดิมนั้น  เปิดยาวนานกว่านั้น   เท่าที่เราสังเกต   เปิด 6 โมงเช้า ถึง ตี2  รวม 20 ชั่วโมง ราคาขายชามละ 25 ค่ะ เดือนละ 400,000/ 30days /20 hours/ 25baht  = 27ชาม/ชั่วโมง เนื่องด้วย พฤติกรรมซื้อโจ๊ก   คนซื้อใส่ถุง 80-90%  คนกินที่ร้านน้อยมาก อีกทั้งยังมีอาหารเสริมอื่น  เช่น ติ๋มซำ น้ำดื่ม   เราว่าตัวเลขนี้เป็นไปได้ เรามีเพื่อนที่เปิดร้านห้องแถวตามตลาดจีนๆโบราณ   ขายสี่แสนได้สบายๆ ตัวเลขนี้ ไม่ถึงขนาดเป็นไปไม่ได้ แต่วิธีคำนวนเบื้องต้นเช่นนี้   เป็นไกด์ไลน์ที่ดีมากๆ   สำหรับเพื่อนทุกคนในการพิจารณาเรื่องต่างๆในเบื้องต้นค่ะ จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 30 ม.ค. 51 14:21:28 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ความคิดเห็นที่ 55 ไม่น่าจะเป็นไปไม่ได้เพราะที่บ้านขายข้าวมันไก่ 7.00-14.00 ไก่ 30 ตัว จานละ 20  เฉลี่ยไก่ 1 ตัวทำเงินได้ 5-600 บาท ถ้ามานั่งคำนวณไก่ 1 ตัวสับได้ 30 จาน โดยเกือบทุกวันจะมีลูกค้ามาสั่งเป็นแบบใส่ห่อไม่ต่ำกว่า 50-100 ห่อ แต่ถ้าสั่งไก่เปล่าๆเป็นจานจะยิ่งได้กำไรมากขึ้น หักลบเศษค่าใช้จ่ายไป+สามคน เดือนหนึ่งก็รับราวไม่ต่ำกว่า 28X,XXX-3XX,XXX เนื่องจากทำเลดีมาก ทำมาเกือบ 20 กว่าปีแล้ว ยิ่งตัวเลข 400,000 กับชั่วโมงการขายที่มากกว่าย่อมเป็นไปได้แน่นอน ถ้าได้เห็นปริมาณการขายของร้าน ชวนเสวย ตรงรถไฟฟ้าศาลาแดง มากกว่านี้อีกมากๆ เราเคยไปนั่งคำนวณคร่าวๆ มาแล้วในเวลา 30 นาที กับราคาจานละ 25 บาทซึ่งจะมีคนเข้าตลอดเวลา แถมชั่วโมงการขายก็ยาวนานกว่า เพราะฉะนั้น 400,000 ไม่น่าใช่เรื่องแปลก ตอนนี้ส่วนตัวกำลังศึกษาว่าจะหาช่องทางต่อยอดไงดี เนื่องจากเรียนจบแลวแต่ไม่อยากเป็นทำงานที่จบมา แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 15:27:41 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 15:19:46 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 15:19:46 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 15:12:59 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 15:11:45 จากคุณ : Rap_Girl - [ 30 ม.ค. 51 15:11:02 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ถือว่าแลกเปลี่ยนความรู้ เพราะผมไม่มีความชำนาญด้านเป็นเจ้าของธุรกิจเลย เพียงแต่เคยวางแผนงบประมาณ ประมาณการรายรับ-รายจ่าย ประมาณ cash flow จากธุรกิจกาแฟมาก่อน เมื่อหลายปีดีดัก ตามประสาเด็กบัญชีสายวิเคราะห์ โดยใช้แนวความคิดแบบ worse case scenario เสียด้วยสิ อิอิอิ ผมมักจะคิดมากในเรื่องของ 1. จุดคุ้มทุน break-even point โดยคำนวณหาจุดคุ้มทุนต่อวัน และต่อเดือน เพื่อใช้เป็นตัวกระตุ้นให้เรา อาจจะต้องปรับหลักการตลาด เพื่อเร่งให้ได้ยอดอย่างน้อยก็ที่จุดคุ้มทุนนี้ 2. ความสามารถในการสร้างสินค้าหรือบริการต่อ 1 หน่วยขาย เป็นตัวบอกว่า เราสามารถขายหรือบริการลูกค้าได้สูงสุดต่อชั่วโมง และต่อวันกี่คน เพื่อที่จะนำมาเทียบกับจุดคุ้มทุนด้วยว่า เราสามารถสร้างสินค้าหรือบริการได้เท่านั้นหรือไม่ 3. ประมาณการยอดขายต่อวัน เพราะแม้ว่าเราจะเปิดบริการ 20 ชั่วโมง แต่ไม่ได้หมายความว่าลูกค้าจะเข้าตลอด 20 ชั่วโมงที่เราเปิด ดังนั้นผมจะจับเฉพาะชั่วโมงที่มีโอกาสได้ลูกค้าจริงๆ เช่นช่วงเที่ยง ช่วงเย็น ช่วง 3-5 ทุ่ม เป็นต้น แล้วประมาณ เปอร์เซ็นไปเลยว่า น่าจะมีลูกค้ากี่เปอร์เซ็น 4. ผมจะตัดรายได้อื่นๆ ออก เพื่อ focus เฉพาะสินค้าหลัก ว่าสามารถสร้างรายได้ตามแผนที่ธุรกิจจริงหรือไม่ พวกผลพลอยได้จากสินค้ารอง ถือเป็นรายได้อื่นๆ ที่จะนำมาใช้พิจารณาในภายหลัง สินค้าหลักประสบความสำเร้จ หรือ ล้มเหลว 5. ผมจะคิดรูปแบบของสินค้าหลักที่ขายเพียงไม่กี่รูปแบบที่เป็นไปได้ อย่างกาแฟ ก็มี espresso cappuccino late' เป็นต้น   แล้วจะใส่สัดส่วนความน่าจะเป็นของลูกค้าว่า น่าจะสั่งแบบไหนมากกว่ากัน การกระทำเช่นนี้ จะช่วยผมประมาณการต้นทุนได้ว่า ควรสั่งของอะไร เท่าไหร่ ถึงจะเพียงพอต่อความต้องการของตลาด และให้เหลือค้างใน stock น้อยที่สุด เพราะความคิดมากของผมนี้นี่เอง มันเลยนอนรออยู่ในแผ่นกระดาษที่ยังไม่สามารถนำมาใช้งานสักที ที่ไม่ได้ใช้งานนั้น เพราะผมหาทำเลไม่เก่งเหมือนคุณมิมิแพนด้าครับ อิอิ การนั่งเฝ้าสังเกตการณ์อย่างคุณ Rap_Girl คห 70 นี่ก็ดีนะครับ สามารถนำมาใช้ปรับแต่งตัวเลขประมาณการที่ผมทำไว้ ให้มันใกล้เคียงความเป็นจริงได้มากที่สุด สุดท้ายอยู่ที่การนำไปใช้จริง การใช้หลักการตลาด หลักบริหารร้านค้า บริหารบุคคล บริหารเงินสด บริหารข้อมูล ซึ่งตัวผมเองมีแต่ทฤษฎี ยังไม่เคยได้ปฏิบัติ จึงต้องขออนุญาตเป็นเด็กนักเรียนที่ช่างซัก ช่างถาม นะครับ อาจารย์แพนด้า จากคุณ : เตร็ดเตร่ - [ 30 ม.ค. 51 16:33:00 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เราไม่มีความรู้ด้านการเงิน การบริหาร เลยซักนิด เรียนก็ไม่จบ อาศัยความเป็นลูกแม่ค้า แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 51 17:29:49 จากคุณ : Rap_Girl - [ 30 ม.ค. 51 16:54:25 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เข้ามาเกี่ยวความรู้ค่ะ จากคุณ : กระต่ายน้อยหลงรักหมูหยอง - [ 30 ม.ค. 51 17:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ตามมาอ่านครับ จากคุณ : zmen - [ 30 ม.ค. 51 17:38:46 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ร้านข้าวมันไก่  แถวบ้านเรา ขายแค่ ห้าโมง  ถึง เก้าโมงเย็น  ขายแค่ 4 ชั่วโมง มีแค่รถเข็น กะโต๊ะพับ 2 ชุด ขายกัน3คน ใช้ไก่วันละ 30 ตัว  หมดเมื่อไร ก้อกลับ เราไม่รู้ว่า ไก่ขายได้กี่จาน   สมมุติไก่ตัวละ 20 จาน วันนึงขาย 600 จาน  จานละ 25 บาท   วันละ 15000   เดือนละ 450000 ร้านอาหารรถเข็น  กำไรแต่ละเดือน  มองข้ามไม่ได้เลย สรรพากรก้อไม่ค่อยยุ่งด้วย เพราะขายกลางคืน จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 30 ม.ค. 51 17:59:03 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เรียน คห. 44 และ 48 น้องอาจคิดว่า  การเปิดร้าน ใช้เงินมากขนาดนี้  คงไม่ไหว จริงๆแล้ว   พี่มันโง่เง่าเต่าตุ่น  เป็นคุณหนูบนหอคอยงาช้าง(สำนวนจีน) พี่โง่ไปลงทุนกับตึกมากมายขนาดนี้ และยังเสียค่าแฟรนไชส์ 20,000 และอุปกรณ์ขายอีก 65000 ซึ่งส่วนนี้   ถูกมาร์ค ราคาขึ้นไป 40-50% เลยทีเดียว เขาบอกว่า  ของที่เขาจัดหาให้มีคุณภาพ     แต่ตอนหลังๆ   พี่เพิ่มโปรดักส์  พี่จัดหาอุปกรณ์เอง จึงเพิ่งรุ้ว่า   ราคาเครื่องครัวพวกนี้  ต่ำกว่าที่พี่ซื้อจากเขามาก พี่ลงแต่ละโปรดักส์  ใช้เงินไม่เกิน 5000 เอง ถ้าจะเปิดร้าน  พี่จะประมาณราคาให้ว่า รถเข็น สัก 7000 บาท  หามือสองได้ยิ่งดี ตู้กระจก 1000 เตา 600-900 แล้วแต่ขนาด เครื่องครัว  วัสดุ  โต๊ะพับสองชุด   ค่าเช่าร้านล่วงหน้าเดือนนึง เงินหมุนเวียนก่อนตั้งร้าน  2000 เงินหมุนเวียนวัตถุดิบ 2000 พี่ว่า   เตรียมเงินสัก 25,000 ก้อพอ แต่ต้องลงทุนเล็กๆ ทดลองตลาด  และขายเองไปก่อนนะ ที่พี่เขียน  มันเป็น "เรื่องเล่าของความผิดพลาด"   ซึ่งเป็นอุธาหรณ์ให้ระวัง ในหลายๆประเด็นนะจ๊ะ จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 30 ม.ค. 51 18:08:56 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขายข้าวมันไก่ เดือนละ 3-4 แสน T_T ธุรกิจที่ข้าพเจ้าทำ เงินลงทุนก็เยอะ แต่อัตราการหมุนเวียนของเงินทุนยังไม่เท่ากับร้านข้าวมันไก่เลย คิดแล้วโคตรเซ้งในชีวิตจริงๆๆ T_T จากคุณ : muk_22 - [ 30 ม.ค. 51 18:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เข้ามาเยี่ยมให้กำลังใจครับ ได้ความรู้อีกเย่อะ แต่ผมชอบกินไม่ชอบทำครับ ขอเป็นผู้อ่านดีกว่า จากคุณ : คน ชอบ กินอร่อย (c3333) - [ 30 ม.ค. 51 18:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 79 มาร่วมคลาสด้วยคนค่ะ  ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ จากคุณ : nuumama - [ 30 ม.ค. 51 19:24:41 ]

ความคิดเห็นที่ 80 มาเรียนสายไปหน่อย จากคุณ : tdum - [ 30 ม.ค. 51 20:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 81 มาด้วยค่ะ ติดตามมาตั้งแต่ตอนเปิดร้านแรกๆ ช่วงต่อมาเริ่มอยู่ได้ก็ดีใจด้วย แต่ร้านอาหารอยู่ยากค่ะ เหนื่อยและต้องดูแลเอง ตอนนี้เรากำลังวางแผนจะเปิดค่ะ ลาออกจากงานมาศึกษาเอง ฝากปากท้องไว้กับสามี อิอิ จากคุณ : ธนิสรา - [ 30 ม.ค. 51 21:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ถูกต้องค้ขาย สรรพกรไม่ค่อยมายุ่งเพราะเขาไม่รู้ว่ารายรับที่แท้จริงเท่าไร ไม่ขอบอกว่าเสียเท่าไรแต่น้อยจนน่าตกใจ หึๆ จากคุณ : Rap_Girl - [ 30 ม.ค. 51 21:22:28 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ลงชื่อให้คร๊าบบ จากคุณ : saengchot - [ 30 ม.ค. 51 21:42:29 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ติดตามตลอดค่ะ จากคุณ : เรือหางยาว - [ 30 ม.ค. 51 22:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ผมทำแต่พวกว่างแผนการผลิตนะครับ ก็จะพอประมาณการผลิตเผื่อที่จะจัดเตรียม เครื่องจักร และเงินลงทุนได้  สำหรับการทำอาหารขาย ไม่ว่าจะก๋วยเตี๋ยว หรือ ข้าวมันไก่ มันมีเวลาที่ต้องเสียไปในการผลิต ด้วย ซึ่งก็คือเวลาที่ต้อง ต้มไก่ หรือ จัดหาไก่ ต้มหม้อก๋วยเตี๋ยว เท่าที่ทราบมา ร้านที่อร่อยๆๆ ขาย ประมาณ สิบโมง นี่ เค้า จะลุกมา ต้มหม้อก๋วยเตี๋ยวประมาณตี สองตีสาม และ เจ้าของร้านปรุงคนเดียว เดี๋ยวรู้สูตร พอปรุงเสร็จ ก็ตั้งหม้อไว้ ปลุกเด็ก มาเฝ้าต่อ แต่ ก็อย่างว่าละครับ สิบปากว่า ร้อยตำรา ก็ไม่เท่าลงมือ ทำ มาลงทะเบียน เรียน ครับผม จากคุณ : หนอนน้ำ (นักเรียนโข่ง) - [ 30 ม.ค. 51 23:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 86 กรรมของเราเหมือนกัน  ที่ต้องติดกระทู้อีกแล้วอ่าค่ะ  อิอิ ขอบคุณ จขกท มาก ๆ ที่นำเรื่องราวด้านนี้มาบอกต่อ จำได้ว่าเคยอ่านที่ จขกท เคยมาโพสไว้ตอนมีปัญหาเหมือนกันค่ะ จากคุณ : snof - [ 31 ม.ค. 51 00:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ร้านที่อร่อยๆๆ ขาย ประมาณ สิบโมง นี่ เค้า จะลุกมา ต้มหม้อก๋วยเตี๋ยวประมาณตี สองตีสาม และ เจ้าของร้านปรุงคนเดียว เดี๋ยวรู้สูตร พอปรุงเสร็จ ก็ตั้งหม้อไว้ ปลุกเด็ก มาเฝ้าต่อ ไม่เสมอไปหรอกคะ ที่บ้านตื่นตี 5 ครึ่งก็ทัน เรื่องสูตรไม่หวงเพราะคนงานเป็นต่างด้าว ยากได้ก็เอาไป สับไก่อย่างเดียวอันนี้สอนยากหน่อย แค่สับไก่ทำไมสับไม่เป็นกัน จากคุณ : Rap_Girl - [ 31 ม.ค. 51 01:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ร้านที่อร่อยๆๆ ขาย ประมาณ สิบโมง นี่ เค้า จะลุกมา ต้มหม้อก๋วยเตี๋ยวประมาณตี สองตีสาม และ เจ้าของร้านปรุงคนเดียว เดี๋ยวรู้สูตร พอปรุงเสร็จ ก็ตั้งหม้อไว้ ปลุกเด็ก มาเฝ้าต่อ หลายที่อาจหวงสูตร แต่ที่บ้านตื่นตี 5 ครึ่งก็ทัน เรื่องสูตรไม่หวงเพราะคนงานเป็นต่างด้าว ยากได้ก็เอาไป แค่สับไก่อย่างเดียว จากคุณ : Rap_Girl - [ 31 ม.ค. 51 01:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 89 มาลงเรียนด้วยคนค่ะ จากคุณ : ชุติกาญจน์ - [ 31 ม.ค. 51 02:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 90 แนวคิดของคุณเตร็ดเตร่นี่ใช้ได้เลยครับ ผมเห็นด้วยเหมือนกัน และก็ต้องพิจารณาหลายๆ อย่างประกอบด้วยเหมือนกันนะครับ ผมยกตัวอย่างเรื่องจริงให้ฟังก็แล้วกันครับ เมื่อ 2-3 ปีก่อนมีป้าคนมาปรึกษาผมบอกว่า มีคนจะเซ้งร้านซักผ้า 6 หมื่นบาท รายได้วันละหมื่นกว่าบาท เจ้าของเขาหยิบเงินสดในลิ้นชักให้ดูเลยว่า มีเป็นหมื่นจริงๆ >>> ผมฟังแล้วแปลกๆ แฮะ รายได้วันเป็นหมื่น แต่เซ้งแค่ 6 หมื่น อะไรกันเนี่ย! ผมเลยถามป้าไปว่า ที่ร้านเขามีอะไรบ้างละ(อุปกรณ์) มีกี่เครื่อง ป้าบอกว่า มีเครื่องซักผ้า 6 เครื่อง เท่านั้น เครื่อง 4 กก. มี 4 เครื่อง เครื่อง 11 กก. มี 2 เครื่อง เครื่องอบผ้าละ มีเตารีดไอน้ำไหม ผมถาม ป้าบอกว่า ไม่มีเลย เพราะซักอย่างเดียว เอาไปตากเอง ไม่ได้รับเป็นรายเดือน ไม่มีการรับรีดผ้าด้วย เก็บตังค์จากลูกค้ายังไงละป้า คิดยังไง ป้าบอก ถังเล็ก(4กก.) คิด 20 บาท ถังใหญ่คิด 30 บาท >>>> โอ้ จอร์จ! ผมร้องในใจ มีเด็กช่วยงานกี่คนป้า ป้าบอก มี 1 คน >>>> ไอ่หย๋า ในใจ แต่ไม่มีเสียงออกจากปาก ไม่จริงแล้วละป้า ผมบอกไป ป้าถูกเขาหลอกแล้ว ผมตัดสินใจบอกไปตรงๆ เลย ป้าบอกว่า เขาไม่ได้หลอกนะ เขาหยิบเงินในลิ้นชักให้ดูเลยนะ นับให้ดูด้วย มีเป็นหมื่นจริงๆ >>>> โอ้ ซาร่า มาช่วยจอร์จ อีกแรงนึงเถอะ ผมนึกในใจ จะทำยังไงดีหว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกันป้า ผมจะคำนวนเล่นๆ ให้ดูก็แล้วกัน (เหมือนคุณเตร็ดเตร่คิดเลย) สมมุติว่า เขาำทำงานวันละ 20 ชั่วโมง ก็แล้วกันนะ และทั้ง 6 เครื่องทำงานเต็มพิกัด 20 ชั่วโมงเลย และทุกเครื่องทำงานครบรอบ 1 ชั่วโมงพอดี ไม่นับเวลาเอาผ้าลงเครื่อง ออกจากเครื่อง แต่เรื่องจริงทำไม่ได้หรอกนะป้า ผมคิดแบบโอเวอร์สุดๆ ให้ไปเลย 4 เครื่องเล็ก  คูณ 20 ชั่วโมงคูณด้วย 20 บาท = 1,600 บาท 2 เครื่องใหญ่ คูณ 20 ชั่วโมงคูณด้วย 30 บาท = 1,200 บาท รวมรายได้ทั้งสิ้น = 2,800 บาทต่อวัน นี่ผมคิดแบบโอเวอร์แบบเป็นไปไม่ได้แล้วนะเนี่ย ยังไม่ถึง 10,000 บาท เลยป้า แต่เขาบอกว่าได้จริงๆ นะ (ป้ายังไม่ยอมแพ้ แต่เสียงอ่อยแล้ว ทำไม่ไม่ยอมแฮะ แปลกจัง) ก็เขาหลอกป้าไง อยากจะเซ้ง ผมบอกไป แต่ในลิ้นชักเขามีเป็นหมื่นจริงๆ นะ ป้าเห็นกับตาเลย (อะไรกันเนี่ย ต้องอธิบายอีกแล้วหรือเนี่ย!) ก็วันที่ป้าไปเขาก็เอาเงินไปใส่เพิ่มในลิ้นชักไง (ผมเริ่มเหนื่อยแล้ว) และอีกอย่างนึง แค่ 5-6 วัน เขาก็ได้เงิน 6 หมื่นแล้ว ทำไมถึงเซ้งแค่ 6 หมื่นละ อะไรจะมักน้อยปานนี้ ผมบอกป้าไป เขาบอกว่า เขาได้มาพอแล้ว เขาเหนื่อย อยากพักผ่อน (ป้าเริ่มสีหน้าจริงจังขึ้นมาอีก) >>>> สงสัยเงิืนขึ้นหน้าซะแล้ว จ้างเด็กก็ได้นี่ป้า ตัวเองไม่ต้องทำ ถ้าวันละหมื่นจริง และคิดว่าพอแล้ว ก็จ้างเด็กไปเลย วันละ 2 พัน/คน หรือไม่ก็ เจ้าของขอวันละ 5 พันพอ เหลือเท่าไรยกให้หมด ไม่ดีกว่าเหรอ จะมาเซ้งด้วยราคากิ๊กก๊อกแบบนี้ จริงไหมป้า อืม! จริงแฮะ สงสัยคงถูกหลอกจริงๆ ด้วย ป้าแกว่า จากนั้นป้าแกก็ไป แน่นอน! ไม่ได้กลับบ้านแก แต่ไปถามคนอื่นต่ออีกว่า จะเซ้งดีไหม เชื่อป้าเขาเลย นี่เล่าเรื่องจริงให้ฟังเล่นๆ นะครับ แต่ดูจะยาวเกินไปหน่อยนะครับ การประมาณเคร่าๆ นี่ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะครับ แต่ที่ดีที่สุดก็คือ ไปนั่งดูทั้งวันเลยครับ แน่นอนกว่า จากคุณ : ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ - [ 31 ม.ค. 51 04:34:13 ]

ความคิดเห็นที่ 91 แถมหน่อยครับ ผมรู้สึกตื่นเต้นแทนคุณมิมิแพนด้าจังเลย ทั้งๆ ที่เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อนแล้ว ทำไมถึงตื่นเต้นอีกก็ไม่รู้ แปลกจังเลย จากคุณ : ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ - [ 31 ม.ค. 51 04:41:20 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เขียนจบแล้วลงทุนรวมเล่มทำเป็นหนังสือเลยนะครับ แล้วจะได้ทุนและกำไรคืนแหง ๆ เลย เขียนแล้วให้จัดในหมวด SME  เรื่อง ประสบการณ์ล้มเหลวในการทำร้านอาหารแฟรนไชส์นะครับ คนซื้อคือ คนที่ไม่อยากล้มซ้ำ โดยเรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผู้ใจดีถ่ายทอดมานั่นเอง อาจแถมบทท้าย ๆ ด้วยว่า ถ้าได้ทำอีก จะทำอย่างไร ...  *_* มีคำถามครับ     ตัวธุรกิจร้านโจ๊กนี้แต่เดิม คุณมิมิแพนด้าไม่ได้เลือกจากความรักในการทำอาหารและร้านอาหาร แต่เลือกจากผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับโบมองในรูปของธุรกิจทำเงินที่น่าเป็นไปได้ ใช่หรือเปล่าครับ   ถ้าใช่คิดว่า สิ่งนี้มีผลกับ แรงขับเคลื่อนที่จะสู้หรือปรับเปลี่ยนเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ หรือเปล่า และมีผลต่อความสำเร็จหรือล้มเหลวของธุรกิจส่วนตัวที่ทำหรือไม่อย่างไร (ให้น้ำหนักไว้กี่เปอร์เซ็นต์ของสาเหตุความล้มเหลวที่มีครับ เช่น 0(แทบไม่เกี่ยวข้อง)  หรือ 10 20 50 %  )  ?   ขอบคุณครับ .. จากคุณ : Mr.OB1 - [ 31 ม.ค. 51 07:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เสนอไว้(จะเสนอเรื่อย ๆ อิอิ) คือแบบ คำตอบเสริมแบบ คห 76 อ่ะครับ หากทำเป็นหนังสือ ก็ทำเป็น กรอบแยกสี่เหลี่ยมไว้ ผู้อ่านก็มาอ่านเกร็ดแยกประเด้นได้ว่า ถ้าเขาจะทำ เขาจะเริ่มจากเล็ก ก่อตึกจากฐานรากที่เล็ก ๆ แต่เข้มแข็ง ค่อย ๆ สร้างความแข็งแกร่งในตัวธุรกิจให้มากขึ้นจนถึงจุดก้าวกระโดดได้ จากคุณ : Mr.OB1 - [ 31 ม.ค. 51 07:38:11 ]

ความคิดเห็นที่ 94 แค่ประสบการณ์จริงของคุณมิมิแพนด้า เราสามารถต่อยอดความคิดกันได้มากมาย ต้องขอบคุณคุณมิมิแพนด้า และแขกรับเชิญ คุณ Rap_Girl ที่ให้วิทยาทาน รอติดตามตอนต่อๆ ไป จากคุณ : เตร็ดเตร่ - [ 31 ม.ค. 51 08:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 95 อ่านรวดเดียว 3 กระทู้เลย จะรออ่านตอนต่อๆไปนะคะ จากคุณ : ตาลสามต้น - [ 31 ม.ค. 51 08:27:55 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ตามอ่านครับ บทเรียนจากประสบการณ์จริง (โดยเฉพาะของคนอื่น) ชอบครับผม จากคุณ : mumoss (mumoss) - [ 31 ม.ค. 51 10:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ลงชื่ออ่านครับ อ้าว...ไม่รู้ว่าให้ถกเนื้อหาได้ด้วย แต่อ่านเงียบๆดีกว่า ผมมันปากเสีย แหะๆ เป็นกำลังใจให้ครับ อยากอ่านจนจบ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 51 13:22:31 จากคุณ : Jiang wei - [ 31 ม.ค. 51 13:22:12 ]

ความคิดเห็นที่ 98 มาลงชื่ออีกคนค่ะ และจะรออ่านจนครบทุกตอนนะคะ จากคุณ : love me love my cat - [ 31 ม.ค. 51 14:19:05 ]

ความคิดเห็นที่ 99 รอตอน 3 ด้วยคนครั๊บ :) จากคุณ : nabiris - [ 31 ม.ค. 51 15:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ว่าแล้ววว ได้ขายหนังสือจนได้ จากคุณ : ไก่กาไก่กา (โอ๊ววว......เฮียมาดแมน) - [ 31 ม.ค. 51 18:20:20 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ได้ผ่านตาตั้งแต่โพสหนแรกแล้ว ครับ ดีใจที่ได้เห็นคุณมินิแพนด้ามาแชร์ประสบการณ์ที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน เป็นกำลังใจให้และจะติดตามต่อไปครับ จากคุณ : jerry (jerry-t) - [ 31 ม.ค. 51 18:38:13 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ชอบบทวิเคราะห์ของแต่ละท่านจังเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Walking in the Sunshine - [ 31 ม.ค. 51 18:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เราติดตามผลงานคุณ Jiang wei มานานแล้ว ยินดีที่จะ discuss กันนะคะ  จะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ที่เราทำธุรกิจตัวนี้มา   เราเห็นการตัดสินใจผิดพลาดมากมาย ซึ่งตอนเราเขียน 7 ตอนรวด  เราต้องเขียนเร็วๆ  จนไม่ได้ point จุดเสียไว้ ถ้ามา ชี้จุด  เราจะได้แสดงความคิดเห็นพร้อมตัวเลขไว้ คุณ OB1 ซึ่งเคยคอมเมนต์ในกระทู้เก่าของเราเรื่องโปรโมชั่น  เราชอบมาก ใช่ค่ะ  ดิฉันมิได้ชื่นชอบทำอาหารเลย   จริงๆไม่เคยหุงข้าวต้มมาม่าทอดไข่เจียวเลยด้วยซ้ำ ตอนที่เขาให้รายการเครื่องครัวมา  ดิฉันจึงปล่อยให้เขาซื้อดีกว่า การตั้งร้านของดิฉัน  ดิฉันคิดในแง่ลงทุน เพื่อผลตอบแทนและประสบการณ์ โดยวางตัวเป็นผู้บริหาร  ไม่ใช่ผู้ทำ  หรือผู้เสริฟล้าง ต้องการคิดเกมส์ คิดโปรฯ  คิดบัญชี ดูเทรนด์   และไม่ได้เผื่อใจคิดว่าจะเกิดขาดทุนเลย แต่ถ้าให้ประเด็นนี้ เป็นปัจจัยที่ล้มเหลวหรือเปล่า?? คิดว่า แค่ 10% นะ   เพราะดิฉันมีแม่บ้านที่ชอบทำอาหาร ไปดูร้านด้วยกันตลอด (แม่บ้านคนนี้  อยู่กะเรามา 6 ปี  รักเรา ช่วยดูแลร้านถวายหัวเลย) และโดยส่วนตัว ดิฉันเป็นท็อปเซลล์  เรื่องบริการมารยาทเป็นเลิศแน่นอน (แต่เด็กๆ ไม่แน่  แม้สอนก้อไม่ค่อยทำตามค่ะ) ด้วยความบ้าดีเดือดไม่ยอมใคร และมองโลกสีเทา ไม่ขาวหรือดำ(ที่คุณ OB1เคยคอมเมนต์ไว้)  เป็นเคล็ดลับที่ทำให้สำเร็จได้ เงินสนับสนุนที่มากพอ บวก ใจกล้า ก้อเป็นปัจจัยเสริมความสำเร็จค่ะ จริงๆที่ปิดร้านนี้ไป   มิใช่ปัญหายอดขายเป็นหลักค่ะ แต่เป็ฯปัญหาอื่นที่จะค่อยๆเปิดเผยในเนื้อเรื่องค่ะ (แต่จะเฉลยนิดๆค่ะ...เรื่องเด็ก, เรื่องอาชญากรรม, เรื่องรั่วไหล, เรื่องข้างบ้าน ฯลฯ ค่ะ)  คือ   มันได้ไม่คุ้มเสียค่ะ ปล. เพื่อนๆอาจบอกว่า เรื่องพวกนี้มันธรรมดา  หน่อมแน้ม แต่ขอให้เพื่อนๆอ่านเหตุการณ์จริงซะก่อน  จะรู้ว่าเราหน่อมแน้มรึเปล่า ปล.เมื่อกี้เพิ่งดูเนชั่น  ที่ใกล้ๆร้านเรา  เกิดเหตุยิงกันตาย เหตุเพราะคนร้ายขับแมงไซด์  แล้วล้มเพราะหมาพุ่งมาเห่า  จึงทะเลาะกัน โทรไปตามเพื่อนมายิงทิ้ง   แต่กลับยิงผิดคน   มายิงบ้านตรงข้ามแทน ต่อหน้าลูกเล็ก 2คน ตำรวจจับคนร้ายได้   แต่ประกันตัวแล้วหนี   เราว่า หน้าตาเหมือนเด็กปั้มที่มาร้านเราบ่อยๆเลย แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 51 20:00:48 จากคุณ : มิมิแพนด้า - [ 31 ม.ค. 51 19:18:14 ]

ความคิดเห็นที่ 104 วู้วววว  แล้วอย่างขายพวกน่ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ล่ะคะ จะรายได้ดีมั้ย?? อ่อ อยากถามเรื่อง เกณฑ์ การเลือกทำเลด้วยคะ ที่บอกว่า แยกตัวหนีจากคู่แข่ง ไม่ดี?? แปลว่า ควรจะไปตั้งละแวกเดียวกันหรือคะ? มันจำเป็นเสมอไปรึเปล่า? จากคุณ : ปูเสื่อรอ (momojojo) - [ 31 ม.ค. 51 21:30:48 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ติดตามอยู่ครับ จากคุณ : saengchot - [ 31 ม.ค. 51 22:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ติดตามผลงานคุณมิมิฯมานานเหมือนกันครับ discuss ขอเป็นตอนอ่านจบ ครบทุกตอนก่อนละกันเน้อ... จากคุณ : Jiang wei - [ 31 ม.ค. 51 22:52:40 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เล่าได้น่าติดตามมากค่ะ จะรออ่านต่อไปนะคะ จากคุณ : BrownieAndCookie - [ 31 ม.ค. 51 23:45:09 ]

ความคิดเห็นที่ 108 แวะมาดูแลกิจการอีกรอบ 555++ จากคุณ : เฒ่าเจ้าอุบาย - [ 1 ก.พ. 51 09:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 109 รอตอน 3 อยู่จ้า จากคุณ : สาวหน้าเข้ม - [ 1 ก.พ. 51 10:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 110 มาลงชื่ออ่านค่ะ จากคุณ : น้องเขียบ บ้านนา - [ 1 ก.พ. 51 10:35:30 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ลงชื่อด้วยครับ จากคุณ : bermdle - [ 1 ก.พ. 51 12:21:20 ]

ความคิดเห็นที่ 112 คุณมิมิแพนด้าตั้งร้านแถวบ้านเราเลยค่ะ..เอ..ได้ไปอุดหนุนบ้างหรือปล่าวน้า.. ^^" ติดตามอ่านต่อนะคะ ตอนสามอย่าให้ขาด อิอิ จากคุณ : ^^' (UntouchableG) - [ 1 ก.พ. 51 14:26:04 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ผมว่ามีผู้รู้มาช่วยกันถกประเด็นต่าง ๆ น่าจะเป็นการดี ความคิดจะได้แตกยอดเป็นประโยชน์กับคนอ่าน จากคุณ : Le dix - [ 1 ก.พ. 51 15:07:24 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ปูเสื่อนอนรออีกต่อไป...งั้นไปซื้อลูกชื้นอีก ของเดิมหมดแล้วครับ จากคุณ : prisont - [ 1 ก.พ. 51 17:58:42 ]

ความคิดเห็นที่ 115 อ่านคร่าวๆแล้ว เหมือนเคยเห็นประสบการณ์แบบนี้เหมือนพี่ชายเลยอ่ะ โดยเฉพาะตรง True เนี่ยแหละ ติดหมดเลย จากคุณ : benzmkt - [ 1 ก.พ. 51 20:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 116 รออ่านตอนต่อไปอยู่ค่ะ เหมือนประสบการณ์ที่เคยเจอเลยเป็นร้านซักรีดค่ะ ตอนไปเซ้งทำไม่เป็นเลยสักอย่าง แต่เจ้าของร้านเก่าเค้ามีลูกจ้างอยู่ 2 คนทำให้หมดเลย แต่พอเราไปทำ มันไม่สามารถควบคุมเค้าได้เลยค่ะ ลูกจ้างงอแงมาก บางทีก็ไม่มาซะเฉยๆ เราก็เลยต้องทำเอง บางทีต้องยืนรีดผ้าไปร้องไห้ไปเลยค่ะ รีดก็ไม่เป็น ซักยังพอได้ เข็ดไปเลยค่ะธุรกิจที่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจเนี่ย กว่าจะเซ้งต่อได้นานเลยค่ะ ไม่คุ้มด้วย แต่ก็ดีกว่าทิ้งไปเฉยๆ จากคุณ : เข็ดจริงๆ - [ 1 ก.พ. 51 21:37:52 A:124.121.199.18 X: TicketID:164896 ]

ความคิดเห็นที่ 117 เรียนเสร็จแล้วมาจ่ายค่าเทอม ขอบคุณนะคะ กำลังคิดจะทำกิจการซักอย่าง แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ จากคุณ : jI@ng jIng zhEn - [ 1 ก.พ. 51 23:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 118 อ่านสนุก ลุกนั่งสบาย ได้ความรู้ คู่ห้องสีลม คุณมินิแพนด้า สู้ๆนะคะ จากคุณ : ด.ญ.วันจันทร์ - [ 1 ก.พ. 51 23:39:51 ]

ความคิดเห็นที่ 119 อีก  1  จิ๊ก มาสายตามเคยครับ..... ข้างหน้า.....  อย่าบังสิครับ จากคุณ : Dman - [ 2 ก.พ. 51 01:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ได้ความรู้มากๆ ขอบคุณ คุณมิมิฯ และทุกท่านที่เข้ามาถก เพื่อต่อยอดความรู้นะคะ จากคุณ : green cup - [ 2 ก.พ. 51 11:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :] จากคุณ : tzippy - [ 2 ก.พ. 51 14:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 122 มาลงชื่อนะครับ : ) จากคุณ : thebackofveryfront - [ 2 ก.พ. 51 14:13:49 A:125.24.0.138 X: TicketID:020615 ]

ความคิดเห็นที่ 123 อ่านแล้วได้ประโยชน์จริงๆค่ะ มองเห็นภาพเลยทีเดียวเชียว สู้ๆนะคะ สำหรับทุกๆคนที่เปิดกิจการของตนเอง จากคุณ : ChinTra - [ 2 ก.พ. 51 16:39:20 ]

ความคิดเห็นที่ 124 จิ๊กด้วย จากคุณ : Sonwy - [ 2 ก.พ. 51 17:16:30 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 2 ก.พ. 51 19:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 126 เร้าใจจรึงๆ น่าตื่นเต้นดีครับ จากคุณ : pukkhom - [ 2 ก.พ. 51 22:57:53 ]

ความคิดเห็นที่ 127 หนุกๆๆ จากคุณ : pui (enprovance) - [ 3 ก.พ. 51 01:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 128 เข้ามาให้กำลังใจให้เขียนต่อค่ะ จากคุณ : ชุดา (ชุดา) - [ 3 ก.พ. 51 16:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 129 อ่านแล้วนึกภาพออกเลยครับ รอตอนต่อไป จากคุณ : nuk9999 - [ 3 ก.พ. 51 16:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 130 ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่นำมาแชร์ครับ จากคุณ : normalfx - [ 4 ก.พ. 51 17:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 131 สนุกดีค่ะ อ่านเพลินเลย จากคุณ : BB1 (WINBUNG) - [ 4 ก.พ. 51 19:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 132 อ่านๆๆๆ ขอถามในฐานะลูกค้าคนหนึ่ง ทำไมไม่ทำแบบdeliveryซะเลยอะคะ นาจะได้กำไรมากขึ้นนะหนูว่า เสียค่าใบปลิวแล้วไม่คุ้มเลย แต่ก็ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะ จากคุณ : เด็กช่างซัก (อยากรู้ว่าเธอคือใคร) - [ 5 ก.พ. 51 00:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 133 มาลงทะเบียนเรียนค่ะ *-* จากคุณ : Chollaphin - [ 6 ก.พ. 51 21:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 134 จากคุณ : wbj - [ 8 ก.พ. 51 13:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ตามมาเข้าclass ค่ะ จากคุณ : เธอคิดเหมือนฉันหรือเปล่า! - [ 13 ก.พ. 51 12:26:54 ]

ความคิดเห็นที่ 136 เข้ามาจ่ายค่าหน่วยกิตแล้วนะครับ จากคุณ : soniasio (soniasio) - [ 15 ก.พ. 51 14:03:52 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ตามมาอ่านค่ะ... จากคุณ : lekjar - [ 15 ก.พ. 51 22:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ลงทะเบียนค่ะ จากคุณ : mama ice - [ 16 ก.พ. 51 21:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 139 เดือนละ 400,000/ 30days /20 hours/ 25baht  = 27ชาม/ชั่วโมง ถ้ามีหม้อเดียวก็เฉลี่ยชามละ 2 นาทีนิดๆ ตลอด 20 ชั่วโมง อย่างนี้ต้องมีคนทำ 2 คนผลัดกันน่ะครับ ทำคนเดียวคงไม่ไหวแน่ๆ ลูกค้าเยอะมากเลยนะครับ ตลอด 20 ชั่วโมงเลยด้วย จากคุณ : Ushuaia - [ 17 ก.พ. 51 03:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 140 จ่ายค่าเทอมครับ ได้ความรู้มากเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Generals - [ 19 ก.พ. 51 15:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 141 มาลงชื่ออ่านแล้วจ้า จากคุณ : nuntamon - [ 21 ก.พ. 51 23:01:57 ]

ความคิดเห็นที่ 142 :) จากคุณ : Jiggko - [ 28 ก.พ. 51 16:39:48 ]