ความคิดเห็นที่ 52
ตอบความเห็นข้างบน คนที่เรียนสายธุรกิจจะรู้กันค่ะว่าถ้าพูดถึง BBA จะหมายถึง บัญชี อินเตอร์ ถ้าภาคไทย ก็จะเรียกบัญชี/บริหาร (ภาคไทย) บอกไว้นะคะ จะได้ไม่ "เชย" เวลาคุยกับเด็กรุ่นใหม่ๆ
โดยส่วนตัว แนะนำ จขกท ละกันนะ เราเรียน MBA chula อยู่ สิ่งที่เราค้นพบ และใช้ในการเลือกคือ 1 เรายอมรับว่าหลักสูตร MBA TU เข้มข้นกว่า จากการที่คุยๆ กับพี่ๆที่เรียน MBA TU อยู่ ดูหนังสือ ดูอาจารย์ (เราจบ BBA TU)
2 แต่จำนวน คนสมัคร: คนเข้าได้ ของจุฬามากกว่าค่ะ (คือจุฬาเข้ายากกว่า) ไม่เข้าใจเหมือนกัน อาจเป็นเพราะ brand หรือ สถานที่ก็ได้
3 เราเลือกเพราะใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้รถไฟใต้ดิน ถ้าเรียนตอนเย็น อย่าลืมว่ารถติดนะคะ คุณต้องเรียนให้ทัน 6-6.30 ไม่งั้นเช็คขาดค่ะ
4 Background ของคนที่เรียน ส่วนใหญ่ก็เหมือนๆกัน คือ "ส่วนใหญ๋ไ นะคะ ย้ำ (ไม่ใช่ทุกคน) ก็จบ U ดีๆ อย่างจุฬา มธ เชียงใหม่ ABAC ไม่ค่อยมีมหาวิทยาลัยเอกชนแปลกๆ มาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเท่าไรล
5 ความหนัก หนักพอๆกันหมดค่ะ เพราะ MBA ทั้งสองที่ต้องมี case study, presentation, Independent study, mid term, final exam ก็มีเหมือนกันหมด
6 การจ้างงาน อันนี้เล่าให้ฟังทั้งปตรี แบะ ปโท นะคะ ว่า BBA จุฬา หรือ TU ก็ได้เงินเดือนเท่าๆกันค่ะ เพราะในสายตา HR ก็คือเราจบ Inter จะต่างกันก็เพราะเกรด หรือกิจกรรมค่ะ ส่วน MBA เวลาที่จบ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการสมัครบ ใหญ่ๆ อย่าง unilever, PG, ฯลฯ เพราะเพื่อนๆ ที่จบ MBA เมืองไทยเนี่ยแหละ ที่เข้าบริษัทพวกนี้ได้ ไม่จริงกับข่าวลือที่บอกว่า ต้อง "จบนอก" เสมอไปหรอกค่ะ
7 atitude มุมมองของเด็กที่จบ inter ก็อาจจะมั่นใจกว่าเด็กภาคไทยบ้าง (แต่ก็ไม่ทุกคนนะคะ) เพื่อนๆเรา ใจดี เรียบร้อยก็มีถมไป แต่"โดยรวม" ระบบการเรียนการสอนก็สนับสนุนให้กล้าคิด กล้าพูด มั่นใจ (ที่จะพูดอังกฤษสำเนียงไทย) 555 พอไปทำงานที่ไหนก็เลยดูมั่นใจกว่าคนอื่นค่ะ
ไม่ทราบว่าจะช่วย จขกท ในการพิจารณาไหม (แอบนอกเรื่อง) :)
ถ้าต้องการถามอะไร เกี่ยวกับหลักสูตร สังคมใน MBA ก็ถามมาได้หลังไมค์นะคะ ไม่เกี่ยงสถาบัน 555
ถึงรุ่นน้อง ...ใครดีใครไม่ดีก็รู้อยู่นะคะ เราก็ตั้งอกตั้งใจเรียนให้สมกับชื่อเสียงที่รุ่นพี่ทำไว้แล้วกัน Fighto!!
จากคุณ :
Jazzio
- [
4 มี.ค. 51 01:54:07
]
|
|
|