Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    “จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี” ตอนที่ 30 “นี่แหละ ...น้ำใจเจ้านาย”

    “จากเซลส์แมนสู่เอ็มดี” ตอนที่ 30  “นี่แหละ ...น้ำใจเจ้านาย”




    ดังที่เล่าให้ฟังแล้วว่า  คุณธวัช  เป็นจอมละเอียด  จอมตัว

    เลข  จอมตั้งคำถาม….ใครตอบแกไม่ได้  จะต้องมี “เจ้า…

    ผีทะเล”
     ติดออกมาจนทุกคนขยาดกันไปตามๆ กัน




    แต่ถ้าแกถูกใจใคร…..คนนั้น เป็นอันว่า “เสร็จแก”….คือ

    แกจะให้งานไปทำ  ทำเสร็จแล้ว  ก็ยังไม่จบ  ต้องขยาย

    ต่อไปอีก…พอจบ  เสนอให้ดูปั๊บ…..เออ….เอ็งเก่ง….แล้ว

    ก็ให้งานใหม่ทันที….ไม่มีที่สิ้นสุด




    ทำงานกับคุณธวัชนี่  ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ …..แกเอาไอเดีย

    มาจากไหนก็ไม่รู้  ให้เราทำ…คิดตัวเลข  บวกลบ  คูณ  

    หาร  หาสมการ  ถอดรูท  หาข้อมูลเอามาเปรียบเทียบ…..

    กับของเก่า  Update ของใหม่  ปรับปรุงของเก่า……ทำ

    อย่างนี้เรื่อยไป




    และถ้าเจอคนที่ทำงานมันๆ…เหมือนแก…..ก็ไม่แค่ทำอยู่ที่

    บริษัทถึง 2 –3 ทุ่ม…….วันเสาร์ อาทิตย์  ก็ยังหอบงานไป

    ทำต่อ  ซึ่งแกมักจะชวนให้เราหอบงานไปทำที่บ้านซึ่งเป็น

    ตึกสองชั้นหลังเบ้อเริ่มที่ปากซอยนานา  ถนนสุขุมวิท




    อาจจะเป็นเพราะแกต้องทำงานคนเดียว มันเหงา…ไม่รู้จะ

    คุยกับใคร…..เพราะมันจะต้องมี “เบียร์สด” เป็นกับแกล้ม

    กันตั้งแต่เช้า…...ลุงแอ็ดเอง….ก็ไม่อยากทำงานที่บ้าน  

    ซึ่งนอกจากได้ปรึกษาเจ้านายว่าจะเอาอย่างไร  เวลาติด

    ขัดขึ้นมาแล้ว   ที่สำคัญที่สุด…..พอเริ่มเปิดกระเป๋าเจมส์

    บอน  เอางานขึ้นมาตั้งบนโต๊ะ  เสียงเรียก




    “ฉ่องเซน…….รินเบียร์ให้คุณอมรแก้ว”




    …..ฉ่องเซน…..ซึ่งเป็นคนรับใช้เก่าแก่ประจำบ้านคุณธวัชก็

    จะค่อยกระย่องกระแย่ง  เอาเบียร์สดแก้วเบ้อเริ่มมา

    เสริฟ…




    หลังจากคุณอมร ได้ฟาดเบียร์หมดไปแล้วสองสาม

    เหยือก  เครื่องเริ่มติด….ก็เริ่มทำงานกันไป…คุยกันไป ….

    ปรึกษากันไป…..บางทีก็ทำงานเรื่องเดียวกัน…..บางทีก็ทำ

    กันคนละเรื่อง…..แล้วแต่อัธยาศัย




    ทำงานกันอย่างนี้เป็นปีๆ  ลุงแอ็ดจึงสนิทกับที่บ้านคุณธวัช

    เกือบหมดไม่ว่า จะเป็น คุณนายมีเซียม (แม่ของคุณธวัช)

    ซึ่งท่านน่ารักมาก  ให้ความเอ็นดูลุงแอ็ดเสมอมา…..กับ พี่

    เอื้อย…
    ซึ่งคอยแวะเวียนมาถามว่ามีอะไรขาดตกบกพร่อง

    หรือเปล่า…กับแกล้มจำพวกถั่วเค็มๆ หมดแล้วยัง…..บาง

    ครั้งก็ทำงานกันถึงเย็น….ก็ได้รับเชิญให้ประทานอาหาร

    เย็นด้วยกัน….ซึ่งนั่งกันเป็นโต๊ะใหญ่ และยาว




    มีแขกหรือญาติๆ ของพี่เอื้อย  คุณธวัช  ของคุณนายมี

    เซียม ของพี่สาว  ของคุณหนู  พี่ชายคุณธวัชผลัดกันมารับ

    ประทานอาหารกันเป็นประจำ




    พอเข้านั่งประจำที่…..ก็จะมีเด็ก “เบิ้ม” มาเสริฟอาหาร  ซึ่ง

    เพราะโต๊ะมันทั้งกว้าง  ทั้งยาว  และมีคนรับประทานเกือบ

    สิบคน  ก็ต้องใช้วิธีเดินอาหารเอา  คือหยิบจากตรงโน้น

    ไปเสริฟให้ตรงนี้  พอตักอาหารเสร็จ  ก็ยักไปเสริฟตรง

    โน้นอีก  ทั้งยังตักข้าวเสริฟไม่ให้ขาด………….พลางคุยกัน

    ไปเบาๆ




    ลุงแอ็ดไม่กล้าจะคุยอะไร…..เวลากินโต๊ะใหญ่ที่ไร มัน

    รู้สึกอึดอัดทุกที…..มันเป็นพิธีรีตองอย่างไร บอกไม่

    ถูก……….ลุงก็รีบทานๆ เสร็จแล้ว ก็ขอตัวกลับไปนั่งทำ

    งานต่อ……..




    เหตุการณ์ดำเนินเป็นอย่างนี้ไปเป็นสิบปี…จนลุงแอ็ด

    เหมือนส่วนหนึ่งของบ้านคุณธวัช…..จนกระทั่ง  คุณธวัช

    ย้ายบ้านใหม่ไปอยู่ที่ซอยพระพินิจ  หรือซอยคึกฤทธิ์….

    และคุณธวัชไม่ได้คุมแผนกที่ลุงทำงานอยู่แล้ว  จึงค่อยๆ

    ห่างเหิน  ไม่ค่อยได้ไปทานข้าวและทำงานด้วยกันบ่อยๆ

    เหมือนแต่ก่อน




    เพราะคุณธวัช ให้ความเป็นกันเอง และสนิทกับลุงแอ็ดถึง

    ขนาดนี้  และมีพระคุณล้นเหลือในการงานต่างๆ ลุงแอ็ดจะ

    ผิดใจกับคุณธวัชได้อย่างไร




    แต่มันเป็นไปได้……และเป็นไปแล้ว…….โดยที่ลุงไม่ได้

    ตั้งใจ………จริงๆ ให้ดิ้นตาย……………………………




    ก็จะขอเล่าข้าม Short ที่ลุงแอ็ดได้ลาออกจากบริษัท ยิบ

    อินซอย ในวันหนึ่ง หลังจากที่ได้ขายเครื่องคอมพิวเตอร์

    เครื่องแรกให้ยิบอินซอยได้ 5 ปี  ซึ่งอายุอานาม ก็ 33 ปี

    พอดี….




    ทำไมออก…..มีเหตุการณ์ใดทำให้ต้องออก……ไว้ลุงค่อย

    เล่าทีหลัง  แต่ตอนนี้ ขอเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับคุณธวัชให้จบ

    เสียก่อน




    ตอนที่ลุงลาออกจาก บริษัท ยิบอินซอย  ลุงก็ได้ไปลาคุณ

    ธวัช




    คุณธวัชก็ถามว่าไปอยู่ที่ไหน  กับใคร…..ความจริงแกรู้

    ตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้ว  เพราะกระแสที่ลุงลาออกค่อนข้าง

    แรง  คนรู้กันแซดทั้งบริษัท




    ลุงก็บอกว่า  ลุงต้องขอกราบลาไปอยู่ บริษัท ซัมมิท

    คอมพิวเตอร์ ที่รับเปิดรับในตำแหน่ง “ผู้จัดการใหญ่”

    (General Manager)  ซึ่งลุงได้เสือกสมัครเข้าไป  และได้

    สัมภาษณ์จาก Mr., C. J. Hung  ซึ่งเป็นประธานใหญ่ ของ

    บริษัท ซัมมิท อินดัสเตรียล กับ บริษัท ซัมมิท ออยส์

    จำกัด
    ซึ่งเป็นบริษัทที่เช่าโรงกลั่นน้ำมันจากกรมการ

    พลังงานทหาร มากลั่นเป็นน้ำมันสามทหารในสมัยโน้น




    Mr. C. J. Hung พอรู้ว่าลุงแอ็ดเป็นลูกน้องคุณธวัช  ยิบอิน

    ซอย ปั๊บ  ก็รับปุ๊บทันที  เพราะใครเป็นลูกน้องคุณธวัช

    แล้วการันตีฝีมือในการทำงานได้…..จนเขารู้กันทั้งวงการ

    เขาเลยให้ตำแหน่ง GM, ให้เงินเดือนมากกว่าที่รับจากยิบ

    อินซอยอีกเท่าตัว (นี่เป็นทางออกของลุง…..ลองลุงจะไป

    อยู่ที่ใหม่  ถ้าเงินได้น้อยกว่าเท่าตัวแล้ว….มันตัดสินใจไม่

    ค่อยจะได้……มันอึกอักอีกอักชอบกล……แต่ถ้าเขาให้  

    เช่นเราเงินเดือน 30,000.-  ลองเรียกไปสัก 60,000.-

    บาท  ถ้าเขาให้….เราก็พูดไม่ออก…ก็ต้องไป…ในขณะ

    เดียวกัน….ก็มีข้ออ้างกับนายเก่าได้ว่า…..เขาให้เงินเดือน

    ตั้งเท่าตัว…..ก็เกรงใจเขา  เลยต้องไปซะหน่อย…..ถ้าไม่

    ดี  จะกลับมาอยู่กับนาย….คนเก่า…..ใหม่)




    คุณธวัชฟังแล้ว  ก็พูดไม่ออก  เพราะเราไปได้ตำแหน่งดี  

    และเงินเดือนเท่าตัว  มีรถ  มีคนขับรถ  มีอะไรต่อมิอะไร

    ให้




    แกก็อวยพร…..และขอให้ไปทำความดี…อย่าให้เสียชื่อ

    ที่ “เป็นลูกน้องคุณธวัช”  พลางบอกกับลุงแอ็ดว่า




    “ต้องโทรไปด่าไอ้ฮวงมันสักหน่อย…..หนอย มาดึงลูกน้อง

    เราไป ก็ไม่พูดกับเราสักคำ”





    ความจริง มร. ฮวง กับคุณธวัช ก็เล่นกอล์ฟด้วยกันที่สนาม

    ม้าฝรั่งด้วยกันบ่อยๆ  เขารู้จักกันดี  แต่เรื่องอย่างนี้  เขาจะ

    คุยกันหรือไม่  ลุงก็ไม่ทราบ




    แล้วลุงก็ลาออกไปอยู่ บริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ จำกัด

    เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2521  รวมเวลาที่อยู่ บริษัท ยิบอิน

    ซอย จำกัด อีก 3 เดือนก็ครบเวลา 14 ปีเต็ม





    งานแรกที่ลุงจับ  ตั้งแต่เข้าซัมมิท  ก็คืองานขายระบบ

    คอมพิวเตอร์ที่ลุงเคยปูทางไว้ก่อน  คือที่ธนาคารแห่ง

    ประเทศไทย หรือ แบงค์ชาติ  ซึ่งเป็นธนาคารที่สำคัญ

    มาก  เป็นธนาคารของชาติ  ใครได้ธนาคารนี้ไป  ก็มีความ

    หวังที่จะขายรายอื่นๆ ได้อีกง่ายดาย  เป็นที่ IBM หวังไว้ว่า

    จะต้องเอารายนี้ให้ได้  ยิบอินซอยก็หวัง  และลุงก็หวังใน

    ฐานะเข้าไปอยู่ที่ซัมมิทใหม่………




    ในที่สุด  ลุงก็ชนะดีลนี้  โดยชนะ ยิบอินซอย อย่างขาด

    ลอยเสียด้วย เพราะเหลือกันแค่สองราย เนื่องจาก IBM

    ถอนตัว





    นี่เป็นเหตุที่ทำให้คุณธวัชโกรธลุงมาก…..ลุงเคยได้รับการ

    บอกเล่าจากคนข้างในว่า  คุณธวัชโกรธถึงขนาดต่อว่าลุง

    แอ็ดว่าเป็นคน “อกตัญญู”  ไม่รู้จักบุญคุณคน…แม้กระทั่ง

    คนที่ชุบเลี้ยงมาตั้งแต่ยังทำงานไม่เป็น….ก็ยังมาทรยศหัก

    หลัง




    ลุงนั้น กลุ้มใจนอนไม่หลับอยู่หลายคืน  พยายามติดต่อพี่

    สมัย ขอเข้าพบเพื่อชี้แจงกับคุณธวัช  ก็ได้รับคำบอกเล่า

    จากพี่สมัยว่า คุณธวัชฝากบอกว่า  “ไม่ต้องชี้แจง….ไม่มี

    อะไรจะต้องรับฟัง”





    ช่วงนั้น พอดีไดเนอร์คลับที่คุณธวัชเป็นผู้ค้ำประกันอยู่หมด

    อายุ  ต้องต่ออายุใหม่  ทางไดเนอร์ก็โทรมาบอกว่า “คุณ

    ธวัชถอนค้ำประกัน”





    มันทำให้ลุงยิ่งกลุ้มใจหนักเข้าไปอีก  ไม่ได้กลุ้มใจเรื่องไม่

    มีผู้ค้ำประกันหรอก  แต่กลุ้มใจ ที่ทำให้ผู้มีพระคุณต้องเข้า

    ใจผิด  ว่าลุงแอ็ดเป็นไม่รู้จักบุญคุณคน  อกตัญญู  หักหลัง

    แม้กระทั่งนายเก่า  แย่งชิงลูกค้าที่ตนเองทำมากับมือ

    ลุงจะปล่อยให้เหตุการณ์เป็นไปอย่างนี้ไม่ได้……………….




    วันหนึ่ง  ลุงจึงบุกไปถึงห้องคุณธวัชโดยไม่ได้นัดล่วงหน้า




    พี่สมัยเจอหน้า รีบเข้ามาทัก




    “คุณอมร  มาทำไม…”




    ลุงถามพี่สมัยว่าคุณธวัชอยู่หรือเปล่า  กำลังยุ่งไหม  พี่

    สมัยบอกกำลังว่าง  กำลังอ่านหนังสืออยู่  ลุงเลยขอร้องพี่

    สมัยว่า  ขอลุงพบคุณธวัชแป็บเดียว….ในขณะที่ลุงเข้า

    พบ…อย่าโอนโทรศัพท์เข้าไป…..แล้วลุงก็เปิดประตูเข้าไป

    พบคุณธวัช




    “คุณธวัชครับ…..”  ลุงแอ็ดเรียก  คุณธวัชหันขึ้นมามอง

    จากที่อ่านหนังสืออยู่




    “มีอะไร…..ว่ามา”   คุณธวัชพูดโดยไม่ยิ้ม  ไม่ทักทายทั้ง

    สิ้น




    “ผมต้องขอโทษ  เรื่องแบงค์ชาติ  ผมทราบดีว่าคุณธวัช

    โกรธ….”
      ลุงหยุดหายใจหน่อยหนึ่ง  แล้วพูดต่อ




    “มันเป็นความจำเป็นครับคุณธวัช…..”




    “จำเป็นอย่างไรฮึ…..”  คุณธวัชถามห้วนๆ




    “ก็ผมเคยเล่าให้คุณธวัชฟังแล้วว่า C. J. Hung เขารับผม

    เข้าไปเป็น GM ก็เพราะผมเป็นลูกศิษย์คุณธวัช……มิ

    ฉะนั้น เขาก็ไม่รับ….คุณธวัชยังบอกผมเลยว่าจะโทรไปด่า

    แก….”





    “แล้วไง…..”  คุณธวัชไม่รู้ว่าลุงจะเอายังไงต่อ




    “แล้วถ้าผมไม่ได้แบงค์ชาติ……ผมหลุดให้ยิบอินซอย……

    ผมก็ไม่เก่งจริงสมกับที่ผมเคยเป็นลูกน้องคุณธวัชนะซิครับ

    ……คุณธวัชครับ…..ผมจำเป็นต้องเอารายนี้ให้ได้…..เพื่อ

    เป็นข้อพิสูจน์ว่า……ผมเป็นลูกน้องตัวจริงของคุณธวัชครับ

    …………………………………………………………..หากผม

    ได้ทำอะไรที่ทำให้คุณธวัชกระเทือนใจ  ผมกราบขออภัย

    ครับ”
    ……..แล้วลุงแอ็ดก็ก้มลงกราบคุณธวัชที่โต๊ะทำงาน




    ลุงแอ็ดเงยหน้าขึ้น…เห็นรอยยิ้มที่มุมปากของคุณธวัช




    “คุณมันฉลาดพูด…….มันเป็นเรื่องธรรมดา….ค้าขายก็ต้อง

    แบ่งกัน  คุณได้มั่ง  เราได้บ้าง  แต่ครั้งต่อไป  เราจะไม่

    ยอมคุณแล้ว….คุณต้องเจอคู่แข่งที่สำคัญ…..คือเรา  ยิบ

    อินซอย”





    แล้วเรา  หมายถึงคุณธวัช  กับลุงแอ็ด ก็หัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก

    อย่างมีความสุข  พลางถามถึงเรื่องสารทุกข์สุกดิบกันตา

    ประสาจนได้เวลาอันสมควร  ลุงจึงถอยออกมา




    …….แค่คุณธวัชเข้าใจลุงอย่างนี้…..ลุงก็ตายนอนตาหลับ

    แล้วครับ……แต่คุณธวัชก็กลับมาจากลุงไปเสียก่อนตาม

    อายุไข




    สุดท้ายนี้  ลุงขอฝากของฝากสำหรับผู้จัดการฝ่ายขาย ที่

    ลุงเคยเอาไปบรรยายบ่อยมาให้ทุกคนรับทราบครับ




    ผู้จัดการ…….เป็นผู้สร้างโลกของพนักงานขาย

    ผู้จัดการทุกคน……..สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานให้

    แก่พนักงานตลอดเวลา  ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว……ทั้งยินดี

    และน่าเศร้า…….ทั้งทางบวกและทางลบ…….ทั้งทางที่จะ

    ทำให้พนักงานกระฉับกระเฉงหรือเฉื่อยชา




    เจ้านายของคุณ…….จะมีอิทธิพลต่อคุณโดยที่เขาไม่ได้

    บอกกล่าว  หรือสอนอะไรคุณเลย……ในการแสดงออก

    ของคุณ  ไม่ว่าวันใดวันหนึ่ง  ไม่ว่าดีหรือเลว…….คุณจะทำ

    เหมือนเขา  คุณได้ศึกษาจากเขาโดยไม่รู้ตัวว่าจะจัดการ

    อย่างไร  ในหน้าที่ของผู้จัดการ




    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง……….ถ้าบทบาท  ลีลา  ในการบริหาร

    งานของคุณประสบความสำเร็จ  คุณจะพบว่า  ลีลาการ

    บริหารของคุณ  จะสะท้อนภาพของเจ้านายของคุณในอดีต




    ลองนั่งนึกทบทวนดูซิครับว่า……..สิ่งที่ท่านทำอยู่ทุกวันนี้  

    ไม่ว่าเป็นสิ่งที่ประสบผลสำเร็จหรือล้มเหลว…..มันเป็นผล

    สะท้อนจากการที่เจ้านายได้เคยปฏิบัติต่อท่านอย่างไร……




    จากหนังสือ……..The New Sales Manager’s Survival

    Guide




    By   David  A.  Stumm





    amorntvm@hotmail.com

    จากคุณ : ลุงแอ็ด - [ 4 ก.พ. 51 08:32:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom