ความคิดเห็นที่ 1 แหม กรณีนี้นี่ อยากจะได้ทั้งสองคนผสมกันเลยนะครับ อืม แล้วคนแรกที่เก่งนี่เค้าสอนงานคนอื่นได้ไหมหล่ะครับ แต่ว่าคนเก่งก็มีโอกาสย้ายไปทำงานที่อื่นนะครับเนี่ย ดูเหมือนคนที่สองที่มันเหมาะนะครัยที่จะคุมทั้ง 4-5 แผนก น่ะครับ จากคุณ : มอ (mix_tam) - [ 8 ก.พ. 51 08:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คนเก่งงาน กับ คนเก่งคน ซึ่งจะเลือกให้มาควบคุมคนอีกสัก 4-5 แผนก ผมเดาว่าในใจคุณมีคำตอบสำหรับเรื่องนี้อยู่แล้ว ผมขอไม่เลือกละกัน แต่ผมคิดว่า คุณกำลังต้องการจัดการความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตมากกว่า ถ้าเลือกคนเก่งงานขึ้นมา คุณก็ต้องให้เขาเรียนรู้ในการดำเนินการกับคน คนเก่งงานก็จะใช้ความรู้ความสามารถได้น้อยลง เป็นผลเสียกับงานที่ไม่ได้พัฒนาไปไหน มนุษยสัมพันธ์เขาที่บกพร่องก็จะทำให้เขาทำงานได้ลำบาก เมื่อเขาเจอปัญหามากๆ และไม่พูดด้วย เก็บกดอีก จะทำให้เขาเกิดพฤติกรรมขัดแย้งในตนเอง จากคนที่เชื่อมั่น กลายเป็นคนที่หวาดระแวง หงุดหงิด แล้วก็จะส่งผลให้ทั้งส่วนรวน แต่ข้อดีคือ คนที่เก่งคนก็ยังอยู่กับคุณได้ เพราะเนื่องจากการอ้างว่าเขาเก่งทางด้านงานมากกว่า ถ้าเลือกคนที่เก่งคน คนเก่งงานก็อาจจะไม่พอใจ และ อาจจะลาออก ซึ่งทั้งนี้คุณเองก็ไม่อยากให้คนเก่งงานลาออก เพราะจะทำให้สูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญไป แต่ก็ยังอยากที่จะเลือกคนเก่งคนขึ้นมา เพราะ น่าจะควบคุมดูแลแผนกต่างๆได้ดีกว่า และ นี่เป็นสิ่งทีทำให้คุณสับสน และ วุ่นวายใจ ซึ่งจริงๆ ผมเดาว่า คุณกำลังต้องการหาวิธีที่จะทำอย่างไรที่จะเลือก คนเก่งคน ขึ้นมาแล้วทำให้ คนเก่งงาน พอใจด้วย จากคุณ : wbj - [ 8 ก.พ. 51 08:15:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าในการเลือกใครขึ้นมาดำรงตำแหน่งที่สำคัญๆ จากหลายๆคน วิธ๊การของผมคือ การเอาคุณสมบัติของลักษณะงานนั้น มาแจกแจงว่า คนที่ควรจะเข้ามาดำรงตำแหน่งนั้นๆ ควรมีลักษณะใด และ แต่ละลักษณะก็ให้น้ำหนักขึ้นมา จากนั้นค่อยเอา แต่ละคนมาเทียบกับคุณลักษณะนั้นว่า เขาเหมาะ กับการทำงานในส่วนนั้น ใครที่ได้คะแนนมากกว่า ก็น่าจะเป็นคนที่ได้รับเลือก แต่ผมจะไม่เลือกจากการให้คะแนนเพียงอย่างเดียว หลังจากได้คะแนนดังกล่าวแล้ว ผมจะเลือก 2-3 คนขึ้นมา เพื่อเอามาสัมภาษณ์อีกรอบ โดยให้ผู้ทื่เกี่ยวข้องอยู่และ ประเมิณว่าใครที่คุณไว้วางใจมากกว่ากัน โดยจะถามเรื่องแนวคิดทางการบริหาร แนวคิดทางการจัดการ แนวคิดทางด้านเจตคติ แนวคิดทางด้านคนและพฤติกรรมของคน เป็นต้น ซึ่งถ้าเขาจะมีหัวหน้า ก็ให้หัวหน้าเข้ามาร่วมประชุมด้วย แต่ถ้าเขาต้องมีลูกน้อง หลายแผนก ผมก็จะให้หัวหน้าแผนกต่างๆ เข้ามารับฟังด้วย แล้ว ให้กระดาษของแต่ละคน เลือกว่า พวกเขาให้คะแนนแต่ละท่านได้เท่าใด และ สาเหตุใด และ ให้คะแนนแต่ละข้ออย่างไร หลังจากทำเช่นนี้ ผมจะได้ผลจากผู้ที่จะเป็นลุกน้องเขา ผู้ที่จะเป็นหัวหน้างานเขา พร้อมทั้งคุณลักษณะในแต่ละด้านของเขาในเชิงการทำงานบริหาร โดยปกติ ผลก็จะออกมาชี้ชัด หรือถ้าคะแนนเท่ากัน ก็จะเป็นหน้าที่ของคนให้คะแนนตัดสินแต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี ซึ่งเมื่อผลออกมาแล้ว ก็นำไปประกาศอย่างบริสุทธุ์ใจ และมีคะแนนรวมทั้งหมดให้เห็นว่า มีการตัดสินอย่างชัดเจนว่าใคร มันก็จะทำให้เป็นที่ยอมรับได้ทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าคนเก่งคนจะขึ้นมา หรือ คนเก่งงานจะขึ้นมา... ซึ่งมันจะใช้เวลานานอีกนิด แต่อย่างน้อยก็ได้คนที่ทุกคนคิดว่า เขาเหมาะสม ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง จากคุณ : wbj - [ 8 ก.พ. 51 08:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แต่ในกรณีที่การเลือกคือคนที่เก่งงาน หรือ คุณต้องการคนที่เก่งงานขึ้นมานั้น การที่จะให้เขาขึ้นมา คุณต้องวางแผนในการดึงความรู้ของเขา เข้ามาเป็นความรู้ขององค์กรให้ได้ด้วย เช่น การให้เขาเขียนคู่มือการทำงานก่อนการรับตำแหน่ง บางคนเขาเขียนได้ไม่ดี ก็อาจจะใช้วิธีการบันทึกการทำงานไว้ หรือ ให้คนอีก 3-4 คนเรียนรู้การทำงานของเขา และ ให้เขาถ่ายทอดการทำงานเหล่านั้นออกมาเ พื่อที่จะให้ความรู้ของเขาไม่ได้สูญหายไปหลังจากการขึ้นไปเป็น ซึ่งทั้งนี้ คนเรามันมองข้ามการถ่ายทอดงานนี้ และ ปล่อยให้คนเก่งขึ้นไปดำรงตำแหน่ง โดยหวังว่า เขาจะถ่ายทอดงานหลังจากได้ตำแหน่ง แต่เท่าที่เห็น เท่าที่เป็นในปัจจุบัน งานที่เขารับใหม่ ยังไงก็ต้องสำคัญกว่างานที่เขาเคยผ่านมาแล้ว ทั้งนี้ เขาจะให้ความสำคัญกับงานใหม่ของเขา จนคิดว่าการสอนงานนั้นเอาไว้ก่อน และ ผันผ่อน จนเขาอาจจะลืมเทคนิคเล็กๆน้อยๆในการทำงานหลายๆอย่าง ก่อนจะสอน หรือบางคนก็ไม่ได้สอนงานเลยด้วยซ้ำ จากคุณ : Wiboon Joong (wbj) - [ 8 ก.พ. 51 08:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ลักษณะงานเป็นงานบริหารนะครับ ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าควรเลือกใคร ส่วนคนที่เก่งงาน ก็ให้เขาโตในสายวิชาชีพ โปรโมทพร้อมกันทั้งสองคนเลย ดีไหม? จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 8 ก.พ. 51 08:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าคุณสมบัติอื่นๆเหมือนกัน  ผมเลือกคนแรก การที่เค้าเงียบ ไม่สนิทสนมกับใคร ไม่ได้หมายความว่าเค้าทำงานร่วมกับคนอื่นไม่ได้ หรือความสัมพันธ์กับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง จะไม่ดี พูดง่ายคือกลางๆ การที่ได้คนที่มีฝีมือขนาดนี้ถือเป็นเรื่องหายากนะคับ ส่วนคนที่มนุษย์สัมพันธ์ดีเยี่ยม  ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ  เค้าอาจช่วยให้องค์กรกับบรรยากาศความร่วมมือร่วมใจดี  ทีมเวิร์คเยี่ยม เปรียบเหมือนกับ  ทีมฟุตบอลทีมนึงมี ผู้จัดการทีมที่ไม่ค่อยสัมพันธ์กับลูกน้อง แต่การวางแผนเยี่ยม การใช้คน การคิดกลยุทธ์ดี เรื่อง deploy ให้แผนสัมฤทธิ์อาจจะใช้คนมาช่วย แต่ทีมที่มีผู้จัดการทีมที่ลูกน้องรัก  ยินดีสู้ถวายหัว  แต่แก้เกมไม่เป้น  วางกลยุทธ์ไม่ทะลุ (ประมาณนี้) จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก - [ 8 ก.พ. 51 09:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกับคุณmix_tam  และคุณหนุ่มไทยไร้นาม ตรงนี้ "แต่ว่าคนเก่งก็มีโอกาสย้ายไปทำงานที่อื่นนะครับเนี่ย ดูเหมือนคนที่สองที่มันเหมาะนะครัยที่จะคุมทั้ง 4-5 แผนก" และ "ลักษณะงานเป็นงานบริหารนะครับ  ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าควรเลือกใคร ส่วนคนที่เก่งงาน ก็ให้เขาโตในสายวิชาชีพ" ************************************* หน้าที่สำคัญของผู้บริหารคือ บริหารงานและคน  ไม่ใช่ทำเองเป็นส่วนใหญ่ คนที่สองแม้ไม่เก่งการทำงาน  แต่ให้เขาพัฒนาการบริหารคนเก่ง ปกครองคนเก่ง  ก็อาจได้งานดีๆ ได้เหมือนกัน  แต่อาจมีปัญหาเรื่องการ เปลี่ยนงานของลูกน้องบ้าง(ที่คิดว่านายไม่เก่งพอ)  แต่ตัวเขาเอง น่าจะอยู่ยาว  เพราะเป็นลูกหม้อเก่า  แสดงว่าเป็นคนมี loyalty  พอสมควร แต่ปัญหาก็คือ การที่เข้ากับคนได้เยอะ  ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปกครอง ได้เก่ง  หรือบริหารจัดการงานให้ลูกน้องได้เก่ง  ฉะนั้นเราจะต้องดูที่เรื่อง ทักษะการบริหารงานของเขามากกว่า  ความเป็นผู้นำมีแค่ไหน ส่วนคนแรกที่เก่งนั้น  เก่งเฉพาะตัว  และไม่น่าจะปรับบุคคลิกให้เข้ากับ คนอื่นได้มากนัก  เหมาะกับงานในสายวิชาชีพดังที่ว่า  ไม่ว่าจะไปที่ไหน เขาก็ไม่น่าจะทำงานได้ดีในสายบริหารได้ ความเห็นของผมก็คือ ต้องหาทางชี้แจงให้พนักงานที่เก่งนั้น  รู้ว่าเขาเหมาะ กับงานอะไร  และงานอะไรจะกลายเป็นงานที่ทำลายเขา(ก็งานบริหารคน นั่นแหละ)  ชี้ตัวอย่างของความล้มเหลวแบบนี้ให้เขาดูเป็นตัวอย่าง  ให้เขา เชื่อ  แต่ทำให้เขารู้ว่าเราชื่นชมในความสามารถของเขา  และวางระบบ ในการให้ผลตอบแทนที่ดีได้  แม้ไม่ได้มีตำแหน่งบริหาร  แบบนี้ก็อาจจะ ถึงคนแรกไว้ได้  ส่วนคนหลัง  อาจต้องหาทางพัฒนาเรื่องทักษะการบริหาร คนให้มากยิ่งขึ้น  รวมทั้งการบริหารงาน(แบ่งงาน)ด้วยครับ นี่อาจเป็นแนวทางที่จะได้ทั้งสองคนไว้ทำงานต่อ  แต่ไม่รับประกัน  แต่ก็ คิดว่าอย่างไรเสีย  น่าจะดีกว่าในระยะยาว  กับตัวเลือกที่มีแค่สองทางนี้ครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ 8 ก.พ. 51 10:08:22 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG - [ 8 ก.พ. 51 10:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ใช่ผู้บริหาร...แต่ขอบังอาจแสดงความเห็นในมุมมองของลูกน้องดูมั่ง ผมคิดว่าคนที่มนุษยสัมพันธ์ดี  น่าจะเหมาะสมกับการควบคุมดูแลคนจำนวนมากได้ดีกว่าคนที่เก่งงานแต่ไม่สุงสิงกับใคร การทำงานกับคนหมู่มาก  นอกจากจะดูเรื่องเนื้องานแล้ว ความเป็นอยู่  และลักษณะนิสัยใจคอของลูกน้อง  ก็เป็นเรื่องสำคัญที่คนเป็นหัวหน้าจะต้องใส่ใจด้วย ถ้าเป็นคนเก่งมากๆ แต่ไม่สนใจใคร  แทนที่ลูกน้องจะนับถือ  เกรงใจ  ก็อาจจะกลายเป็นไม่ชอบหน้ามากกว่า   เพราะโดยปกติคนเราส่วนใหญ่  มักไม่ชอบให้ใครเก่งเกินหน้าตัวเอง แต่คนที่มนุษยสัมพันธ์ดี  เข้ากับคนจำนวนมากได้  แม้ตัวเองจะทำงานได้แบบธรรมดาๆ แต่ด้วยความที่รู้งานมาตั้งแต่ระดับรากฐานของหน่วยงาน  ก็อาจจะใช้คนอื่นที่เก่งกว่า มาช่วยทำงานที่ตัวเองไม่ถนัดได้ คำว่า "ผู้บริหาร"  ไม่ได้หมายความว่า จะต้องลงไปทำเองทุกเรื่อง แต่ผู้บริหาร  ต้องรู้จักใช้คนให้เป็น  ใช้ให้เหมาะสมกับงาน  และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมต่างๆ เพราะฉะนั้น  ถ้าผมมีโอกาสที่จะเลือกได้   ผมจะเลือก คนที่ 2 มาเป็นหัวหน้า  และให้คนที่ 1 เป็นผู้ชำนาญการในสายงานไป อีกอย่าง ถ้าเลือกคนที่ 1 มาเป็นหัวหน้า  ก็มีโอกาสที่เค้าจะย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ง่ายกว่าด้วย จากคุณ : เด็กข้างห้างฯ - [ 8 ก.พ. 51 13:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กุนซือ กับ แม่ทัพ จากคุณ : muk_22 - [ 8 ก.พ. 51 14:00:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คนที่จะเป็นหัวหน้าคน และคุมลูกน้องได้มากถึง 4-5 แผนกอย่างนี้ คนผู้นั้นจะต้องเก่ง รู้ความเป็นไปของงาน ถึงจะรู้ไม่ละเอียด แต่ก็ต้องรู้มากพอ  พอที่จะให้คำแนะนำ หรือนำข้อเสนอของลูกน้องมาพิจารณา เพื่อประกอบการตัดสินใจ การสั่งงานผิดพลาดบ่อยครั้ง  นอกจากงานจะเสียหาย และนายขาดความเชื่อถือแล้ว ยังทำให้ลูกน้องเสื่อมความศัทธา ปัญหาการปกครองและอื่นๆก็จะตามมาครับ คนที่เป็นหัวหน้า นอกจากจะเก่งในงานแล้ว ยังต้องเป็นคนดีมีอัธยาศัย วางตัวเหมาะสม ใส่ใจในตัวนาย รู้จักเสนอความคิดเห็น ปรึกษาหารือ รับฟังคำสั่งของนายครับ ด้านการปกครอง จะต้องให้ความยุติธรรมแก่ลูกน้องเท่าเทียมกัน รักและเป็นห่วง  มีความผูกพันธ์ตามสมควร ไม่ใช้อารมณ์หรือพูดจาประชด หากลูกน้องอู้งานหรือทำผิด ให้เข้าไปแนะนำให้ทำถูกต้องครับ จึงคิดว่าลูกน้องทั้งสองที่ยกตัวอย่างมา ยังไม่สมควรเลือกใครเป็นหัวหน้าครับ  คิดว่าน่าจะแต่งตั้งให้ทั้งสองเป็นรองหัวหน้าไปก่อน โดยตัวเองรับหน้าที่รักษาการณ์หัวหน้าไว้ คอยดูผลงานทั้งสองต่อไปค่อยตัดสินใจครับ จากคุณ : บุญถิ่น - [ 8 ก.พ. 51 14:00:37 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คงตอบไม่ได้ ต้องพิจารณาจากลักษณะงานมากกว่าครับว่างานที่จะให้ทำ ต้องการความสามารถอะไรเป็นสำคัญ ต้องดิวกับคนเยอะ หรือต้องใช้ความสามารถก็เลือกคนตามนั้น อีกประเด็นด้านบน ด้านล่างเป็นอย่างไร เจ้านายเค้าเก่งหรือไม่เก่ง ลูกน้องเค้าเก่งหรือไม่เก่ง ถ้าลูกน้องไม่เก่ง เจ้านายก็ไม่เก่งคิดดูแล้วกันว่าจะเป็นยังไง งานได้ตามมาตรฐานแต่ไม่มีการพัฒนา แต่ถ้าลูกน้องไม่เก่่ง เจ้านายก็ต้องเก่งจะได้พัฒนาลูกน้องได้ เจ้านายไม่เก่ง ก็ต้องมีลูกน้องเก่ง งานก็ยังสามารถพัฒนาได้ กับมุมมองของเจ้านายเค้าก็เหมือนกัน ถ้าคุณเก่ง จะมีลูกน้องไม่ค่อยก็ไม่เป็นไร แต่เป็นภาระเราหน่อย ความเป็น leadership ก็เป็นสิ่งสำคัญ คนอัธยาสัยดีก็มีโอกาสโน้มน้าวลูกน้องให้ต้ตั้งใจทำทำ หรือเชื่อได้มาก แต่ต้องดูความเด็ดขาดในการตัดสินใจด้วย ผมเองเป็นคนที่มุ่งงานเป็นหลักมาแต่เดิม แต่ก็พยายามปรับตัวเองให้มุ่งคนมาขึ้น ผมจะชอบ ลูกน้องที่ทำงานเก่งดี อธิบายแล้วเข้าใจเลย หมายถึงลูกน้องในตำแหน่งหัวหน้างานอีกทีนะ แล้วก็มีคนนึงที่เป็นสไตล์ที่คุณบอกนี่แหละ ลูกน้องเค้าก็ชอบ เพราะมีปัญหาไม่โวยวาย จะพยายามแก้ ไม่พูดมาก ลูกน้องมีปัญหาก็ตัดสินใจหรือแก้ไขให้ได้ทันที จากคุณ : ซาตาน - [ 8 ก.พ. 51 15:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเลือกคนแรกนะ จากคุณ : first_psy - [ 8 ก.พ. 51 17:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอบค่ะว่า เลือก เก่งคน.... เก่งคน ทำให้ลูกน้องศรัทธา และมีกำลังที่ร่วมงานทำงานได้ ไม่รู้สิ ประสบการณ์เจอหัวหน้าที่เก่งงาน เก่งมากกกกกกกกกกกก แต่ไม่ได้เรื่อง เรื่องคน มีลูกน้องกี่คน ลูกน้องก็ลาออก พูดจากมุมมองลูกน้องที่เคยผ่านหัวหน้าเก่งงาน หัวหน้าเก่งคน และหัวหน้าที่ไม่เก่งทั้งงานและคน จากคุณ : spize - [ 8 ก.พ. 51 17:53:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมเห็นบริษัท เลือกคนเก่งงาน แต่ไม่เป็นที่เคารพนับถือ ทำงานเอาหน้า เอาดีใส่ตัว ชั่วใส่คนอื่น ทำบริษัทพังมาเยอะแล้ว หลังจากเป็นหัวหน้า คิดดี ๆ นะครับ ผมมองว่าทีมสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด จากคุณ : เดิมพัน - [ 8 ก.พ. 51 18:22:32 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ในฐานะลูกน้องคนนึง เราขอเลือกหัวหน้าแบบที่สองค่ะ จากคุณ : KissAddicted - [ 8 ก.พ. 51 19:35:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คนเก่งงาน ถ้าย้ายก็ย้ายไปคนเดียว ถ้าบริษัทมีความมั่นคง สิ่งแวดล้อมดี สร้างความมั่นใจให้เขาได้ เขาคงไม่ย้ายไปง่ายๆหรอกครับ แต่ คนเก่งคน ถ้าย้ายอาจจะหายไปทั้งแผนกเลยก็ได้ โอกาสที่คุณจะหาคนลักษณะคนแบบคนแรกยากกว่าแบบคนที่สองแน่นอน ถ้าคุณตัดสิน แล้วไปกระทบจิตใจเขา เขาอาจย้ายไปที่อื่น ซึ่งไม่ไช่ปัญหา สำหรับเขาเลย เพราะที่อื่นอ้าแขนรับเขาอยู่แล้ว เมือถึงตอนนั้นคนที่มีปัญหา อาจจะเป็นคุณเอง แล้วคนเก่งงาน คุณเคยเห็นฝีมือการบริหารของเขาแล้วเหรอครับ ควรจะลองให้โอกาสบริหารทีมเล็กๆดูก่อน แล้วค่อยตัดสินเขาอีกที ควรจะมองหาข้อเปรียบเทียบข้ออื่นเพิ่มอีกน่ะครับ  ข้อมูลน้อยเกินไปในการที่จะตัดสิน แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 51 20:15:20 จากคุณ : ... (โอม SUT) - [ 8 ก.พ. 51 19:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าเป็นงานบริหารเลย เช่น เลือกมาเป็น COO น่าจะเลือกคนที่สอง ซึ่งเก่งเรื่องคน เป็นลูกหม้อเก่า รู้รายละเอียดเนื้องานดี ของหลายๆฝ่าย ดังนั้นน่าจะจัดการได้ดีกว่าคนแรก แต่ถ้าเลือกมาเป็น CFO อันนี้น่าจะเลือกคนแรก เนื่องจากเนื้องาน และคุณภาพของงานที่เขาพิสูจน์มา งานพวกนี้พลาดไม่ได้ ในมุมมองของผมคิดว่าน่าเลือกคนที่สองเป้นเบอร์หนึ่ง ขณะที่เบอร์สองคอยสนับสนุน ตามความสามารถที่เค้ามีอย่างสุดยอดอะนะ น่าจะเป้นส่วนผสมที่ดี แต่ถ้าเลือกคนแรกเป็นคนนำ คนที่สองเป้นคนประสานงาน อันนี้ ต่างคนจะมีอะไรในใจหรือเปล่า น่าจะเคลียร์กันเรื่องบทบาท ความรับผิดชอบให้ดีๆ เพราะคงอยากเก็บไว้ทั้งคู่แหละ จากคุณ : High Bridge - [ 8 ก.พ. 51 20:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตามความคิดของผมนะครับ ผมว่าคนเป็นหัวหน้าไม่จำเป็ฯต้องเก่งมากหรอกครับ แค่สามารถความคุมและซื้อใจคนที่ทำงานเก่งได้ก็หน้าจะประสบความสำเร็จไปเกือบครึ่งแล้วนะครับ สอนให้เป็นงานนี่ง่ายกว่าการเปลี่ยนนิสัยคนนะครับ เพราะนิสัยคนนี่เค้าเป็ฯอย่างนั้นมาตั้งไม่รู้กี่สิบปีแล้วอ่ะครับ การจะเปลี่ยนคงเปลี่ยนไม่ได้ภายในเดือนสองเดือนแน่ๆครับ จากคุณ : Monkey_Mod - [ 8 ก.พ. 51 21:14:56 ]

ความคิดเห็นที่ 20 1. เลือกคนที่สองเป็นหัวหน้า 2. เลือกคนที่ 1.เป็นผู้เชี่ยวชาญ โดยให้เงินเดือนสูงกว่าหัวหน้า อย่างนี้น่าจะพอใจทั้งสองคน จากคุณ : น้าพร - [ 8 ก.พ. 51 23:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 21 วิธีของคุณ น้าพร เฉียบคมมากเลยครับ เป็นไอเดีย ที่ผมคิดไม่ถึงเลยจริงๆ แบบนี้ ทั้งสองฝ่ายน่าจะพอใจค่อนข้างแน่ ส่วนวิธีของคุณ wbj ก็น่าสนใจมากๆครับ เรื่องการลงคะแนน แบบนี้ ก็จะได้รู้ด้วยว่าคนในองค์กรเรา ต้องการหนุนใครมากกว่ากัน เอาเป็นว่า จะเอาสองวิธีมาประยุกต์กันนะครับ ขอบคุณมากๆครับ ทุกท่านเลย จากคุณ : ปล่อยใจ - [ 9 ก.พ. 51 01:17:57 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับน้าพรครับ ตั้งคนที่สองเป็น management manager แล้วตั้งคนแรกเป็น professional, specialist ไรงี้คับ แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 51 09:13:00 จากคุณ : eldetto - [ 9 ก.พ. 51 09:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 23 55555 เราเดาใจ ทุกคนออกได้เกินครึ่ง จากคุณ : muk_22 - [ 9 ก.พ. 51 09:51:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ได้ครับ น้าพร คนที่หนึ่งจะเงินเดือนสูงกว่าหัวหน้าไม่ได้ ปัญหาจะตามมาอีกเพียบ แค่คนคนเดียว จะยอมให้องค์กรระส่ำระสายหรือ ? อย่าลืมว่า ความลับเรื่องเงินเดือน ไม่มีในโลก ถ้าต้องยอมทิ้งหลักการเพื่อคนคนเดียว (ซึ่งก็ไม่แน่ว่าเขาจะอยู่กับเรานานแค่ไหน) ปิดบริษัทไปเลยดีกว่าครับ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม - [ 9 ก.พ. 51 11:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โปรโมทสองคนเลยครับ... แบ่งงานกันไป ... แล้ววัดว่าใครดีกว่ากัน.... ส่วนตัวแล้วผมเชียร์คนทำงานเก่งครับ...เพราะว่าเขาทำงานเก่ง เขาก็ควรจะได้รับโอกาสก่อน... ก็เราจ้างเขามาทำงานนี่ครับ...ถูกไหม? คนเก่ง ถ้าเก่งจริง เขาจะรู้จักปรับตัวครับ... ยกเว้นเก่งไม่จริงก็อีกเรื่องนะ :) จากคุณ : ... (paipaipai) - [ 9 ก.พ. 51 14:26:46 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ในฐานะเป็นลูกน้อง อยากได้หัวหน้าแบบคนที่สอง ชอบทำงานสบายใจมากกว่า อยู่กับหัวหน้าไม่พูดไม่จา จะรู้สึกอึดอัดไม่รู้คิดอะไรอยู่ จากคุณ : Muay ja - [ 9 ก.พ. 51 19:00:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่อยากให้คุณเจ้าของกระทู้เอาคำแนะนำของคนในเวบที่อ่านข้อมูลที่คุณให้มาแค่ 10 กว่าบรรทัดในการตัดสินใจว่าจะให้ใครเป็นหัวหน้านะครับ ผมว่า ข้อมูลที่คุณให้มา ไม่น่าจะเพียงพอสำหรับการเลือกใครขึ้นมา อย่างคนแรก คุณบอกว่าทำงานเก่ง ไม่ได้บอกเลยว่า ทำงานในงานด้านเทคนิค หรือเฉพาะทาง  อาจจะเป็นงานบริหารก็ได้ แต่ความเห็นข้างบน หลายๆท่าน เหมือนสรุปกันเอาเองไปแล้วว่าคนแรกเก่งงาน คนสองเก่งคน   ซึ่งมันคนละอย่างนะครับ  คนอัธยาศรัยดี เฮฮา อาจจะไม่ได้เก่งคนก็ได้  คนที่เก่งคน คือคนบริหารจัดการคนได้ดี  ไม่จำเป็นต้องเฮฮา หรือรู้จักคนทั้งบริษัทก็ได้  แต่เป็นแค่บริหาร และดึงศักยภาพของลูกน้องออกมาได้มากที่สุดเท่านั้น เท่าที่ผมเคยเจอมา คนอัธยาศรัยดีหลายๆคน  เป็นลักษณะ เรื่อยๆ มาเรียงๆ  ไม่กดดันใคร  งานก็ไม่ค่อยออกนะครับ ผมเชื่อว่า ฟังจากคุณเล่า   ถ้าคุณเลือกคนที่สอง คนแรกลาออกแน่ๆครับ เพราะเขามีที่ไป   ถ้าคุณเลือกด้วยวิธีการแบบนี้บ่อยๆ สุดท้าย บริษัทคุณก็จะเหลือคนเก่งให้คุณใช้งานกี่คนครับ ถ้าคุณเลือกคนแรก  คนที่สองก็อาจจะยังอยู่ เพราะไม่รู้จะไปไหน ยังมีคำถามอีกด้านคือ ถ้ากรณีแรกคู่แข่งคุณได้ตัวคนแรก กับกรณีที่สอง ได้ตัวคนที่สองไป  คุณคิดว่า แบบไหนน่ากลัวกับบริษัทคุณมากกว่ากันครับ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 51 13:33:51 จากคุณ : ป้อม (Bgate) - [ 9 ก.พ. 51 21:58:16 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เลือกคนแรก ตอนนี้ทักษะด้านปกครอง การวางตัวอาจจะยังไม่เข้าตา แต่คนเก่งเชื่อเถอะ เรียนรู้ได้ ปรับตัวได้ แก่งซะอย่าง ส่วนคนสอง คุณบอกว่า จะอย่างไรก็คงไม่ดีไปกว่านี้แล้ว จะประคองสถานะไปอย่างนี้เรื่อยๆไปทำไป เลือกไปก็ไม่เห็นอนาคต เพราะก็คงทำได้แค่นี้ จากคุณ : ดาวสุริยะ - [ 9 ก.พ. 51 22:05:01 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เลือกคนแรก แน่นอน เหตุผล คือ ถ้ามองอย่างรอบด้านแล้ว มองแบบ 360 องศา เขาเป็นที่ยอมรับจากคู่แข่งขันนี่ก็สุดยอดแล้ว ถ้าลูกค้า, suppliers ยอมรับด้วยแล้ว คนๆนี้ คือ strategic man ของบริษัทหรือหน่วยงานของคุณ คุณสามารถฝากอนาคตของบริษัทไว้กับคนๆนี้ได้เลย ส่วนที่คุณบอว่าจุดอ่อนของเขาป็นคนที่ค่อนข้างเงียบ และไม่สนิทสนมกับคนอื่นเท่าไหร่ ผมมองว่า ถ้าเพื่อนร่วมงานของเขา ลูกน้องเขาไม่มีปฏิกิริยาต่อต้าน หรือ เป็นลบต่อเขา ผมมองว่าคะแนนด้านมนุษยสัมพันธ์ของเขา น่าจะอยู่ๆกลางๆ ยิ่งคุณโปรโมทเขาไปดูแล 5 แผนก หมายถึง มีผู้จัดการ 5 คนที่รายงานต่อเขา งานของเลยเริ่มเน้นไปที่การวางแผน ต้องใช้ความคิด ใช้สมองมากยิ่งขึ้น ยิงเหมาะกับเขายิ่งขึ้นไปอีก ทางที่ดี คุณควรจะเป็น trainer ให้เขาในเรื่องการมีมนุษยสัมพันธ์กับผู้อื่นเสมอถ้ามีเวลา ส่วนคนที่สอง ผมถือว่า คุณสมบัติธรรมดามากๆ หาได้ทั่วไปตามท้องตลาด ไม่มีอะไรโดดเด่น ผลงานก็ไม่เป็นที่ประจักษ์ ทำได้แต่งาน routine ถ้าจะยกตัวอย่างให้ภาพ ก็เช่น คนดี อย่างพลเอก สุรยุทธ์ มาเป็น นายกบริหารประเทศ ท่านมองไม่ออกว่า อะไรคืองาน ที่เป็น strategic อะไรคืองาน routine เพราะท่านเคยชินกับการทำงาน routine สุดท้ายประเทศชาติก็ไม่ได้อะไร จากคุณ : เมษาฮาวาย (เมษาฮาวาย) - [ 10 ก.พ. 51 01:13:45 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าเป็นผม ผมเลือกคนแรกครับ คุณบอกว่าทุกงานที่เขารับผิดชอบ ไม่เคยพลาดนี่นา เค้าคงมีความสัมพันธ์กับคนอื่นได้ในระดับที่เหมาะสมน่ะครับ จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy - [ 10 ก.พ. 51 16:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ทั้ง2อย่างเลยต้องมาด้วยกัน จากคุณ : the author - [ 10 ก.พ. 51 19:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ใครว่าไงไม่รู้นะ ผมเลือกคนที่ 2 อัธยาสัยดีมาก่อน เพราะเขาสามารถที่จะประสานงานกับทุกๆฝ่ายได้ ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาทำงานมีความสุข ผลงานก็จะออกมาดี การที่เขาไม่สามารถพัฒนาฝีมือขึ้นไปได้อีกก็ไม่ได้แปลว่าจะพัฒนาลูกน้องคนอื่นไม่ได้ มันขึ้นกับความเป็นผู้นำมากกว่านะ อ.เจริญ (พ่อเจ) เคยกล่าวไว้ว่า ผู้นำไม่จำเป็นต้องลงไปทำเองทุกเรื่อง แต่ต้องรู้จักใช้คนให้เป็น ถ้าเขาสามารถคุยกับทุกคนได้ ทำให้ทุกคนทำงานเต็มที่ได้ มันก็น่าจะดีกว่าคนเก่งเพียงคนเดียวรึป่าว ภาษิตจีนมีอยู่คำพูดนึงว่า "สติปัญญาของช่างหนังสามคนก็ดีกว่าของขงเบ้ง" คือ มันสมองความร่วมมือของคนหลายๆคนย่อมดีกว่าคนฉลาดเพียงคนเดียว จากคุณ : เด็กค่ายมวย (เด็กค่ายมวย) - [ 11 ก.พ. 51 12:35:27 ]