ความคิดเห็นที่ 1 ค่าของตน อยู่ที่ผลของงาน ตั้งใจทำ ทำให้ดีที่สุด ไม่เสียใจกับสิ่งที่ผ่านมา ก้าวไปข้างหน้า-- ปัญหามีไว้ให้แก้ สู้โว้ยยยย (เตือนสติตัวเองด้วยเลย--หุหุ) จากคุณ : ปูน (jumpoon_t) - [ 12 มี.ค. 51 22:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่มีงานทำ อยากแชร์แต่ไม่มีให้แชร์ จากคุณ : ช่างสงสัย (Rap_Girl) - [ 12 มี.ค. 51 22:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หนักทีเดียว เพราะทำมันทุกอย่าง บ.เล็กก็งี้ คนน้อยแต่ใช้งานโคตรคุ้ม  ทำตั้งแต่ presale เสร็จมา Implement เองอีก  เป็นทั้ง SA, Programmer, Tester ในตัว  บางวันกลายเป็น Messenger จำเป็น ไปเอาของรับของนู่นนี่  เฮ้อ  สู้ต่อไปครับพี่น้อง จากคุณ : สเกาเซอร์ - [ 12 มี.ค. 51 23:42:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สู้เพื่อพ่อแม่ อิอิ เพิ่งเริ่มทำงานค่ะ ยังไงต้องอดทนกว่าโบนัสจะออกปลายปี (มีรึป่าวก็ไม่รู้ แต่บางทีมีกลางปีและปลายปีก็ดีนะคะ) จากคุณ : ปลื้มคนดัง - [ 13 มี.ค. 51 08:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมอายุ 35 ทำงานเป็นวิศวกรฝ่ายขายมาห้าปี...เดือนนี้ของเมื่อปีที่แล้วได้รับโอกาสเข้าทำงานที่บริษัท เฟสโต้ จำกัด...ตอนสัมภาษณ์งานทำแบบทดสอบเรื่องนิวแมติคส์ ไม่ได้เลย...แต่ทางบริษัทยังให้โอกาสเรียกสัมภาษณ์เป็นครั้งที่สอง...โดยกรรมการผู้จัดการบริษัทเป็นผู้สัมภาษณ์...ตอนสัมภาษณ์งานท่านได้ให้ความกรุณาเตือนว่า...ระวังมีคนทำงาน Routine...ตอนนั้นผมเข้าใจว่าท่านเตือนให้ระวังคนที่ไม่ตั้งใจทำงาน และคอยแต่แย่งชิงผลประโยชน์จากเพื่อนร่วมงาน... เมื่อสัมภาษณ์กับท่านฯ...แล้วท่านก็ให้ไปคุยเรื่องสิทธิประโยชน์กับผู้จัดการฝ่ายบุคคล...ในการพูดคุยนั้น ผมได้ตอบปฎิเสธที่จะช่วยเหลือบริษัท เรื่อง งานโครงการ...เพราะกลัวว่าจะเปลืองตัวทั้งสองฝ่าย...จนกระทั่งท่านเตือนผมว่า...ให้ระวังคนไม่ดี ต้องรู้จักทดสอบคน...เมื่อผมได้ยินประโยคดังกล่าว...ผมจึงตอบท่านกลับไปว่า...วันจันทร์ผมมีสัมภาษณ์งานอีกหนึ่งบริษัท ถ้าท่านมีความประสงค์จะรับผมเข้าทำงาน ขอให้ท่านส่งเป็นอีเมล์ยืนยันมาในวันจันทร์...ที่ผมตอบท่านเช่นนั้น...เพราะอยากให้ท่านมองสถานการณ์ในการทำงานแทนผม...ว่าผมจะสามารถเข้าไปทำงานในสถานการณ์ของบริษัทท่านได้หรือไม่... เช้าวันเสาร์เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลโทรศัพท์มา...ขอให้ผมมาเซ็นสัญญาในวันจันทร์ตอนเช้า...ผมดีใจที่ได้งาน ก็รีบตอบตกลงทันที...โดยคิดว่าเจออะไร ก็ต้องพยายามต่อสู้ให้ถึงที่สุด...แม้จะนึกเสียดายอีกบริษัทหนึ่งก็ตาม... แต่ผมก็แปลกใจเมื่อไปเซ็นสัญญา...เพราะในสัญญาเป็นเพียง...สัญญาชั่วคราว...และเมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลมีหลายเรื่องที่ท่านไม่พยายามตอบ... เมื่อเข้าทำงานวันแรก...ก็ได้รับการต้อนรับที่เย็นชาจากเพื่อนร่วมงานบางกลุ่ม...และเจอเหตุการณ์แปลกๆ มากมาย เช่น คุณวิทูรย์...ระวังมีคนทำงาน Routine... คุณอภิรมย์...ระวังคนไม่ดี...ต้องรู้จักทดสอบคน... คุณอภิชัย1...และเมื่อวานนี้เพิ่งเอาตำรวจมาจับคนออกไป... คุณจักรพันธ์...หาลูกค้าใหม่อยู่ ระวังโดนคนล่าอีกที... คุณสมนึก...คุณรู้ใช่ไหมใคร คือ คนไม่ดี... คุณเอ...ระวังโดนคนล่า คุณไก่...คนที่นี้เขาคิดว่าพี่ไม่จบวิศวะมา... คุณไก่...คนที่นี้เขาคิดว่าพี่เป็นมาเฟีย... คุณไก่...คนที่นี้เขาคิดว่าพี่ไม่มีรถขับทำงาน... คุณเบียร์...ระวังพี่สมนึกไว้... คุณสมนึก...ระวังเพื่อนร่วมงานไว้ คุณศราวุธ...ระวังพี่สมนึกไว้ คุณธนิฐา...ครั้งที่1...ระวังมีคนไม่ดี... ครั้งที่2...ยังไม่รู้ตัวอีก... ครั้งที่3...ระวังเพื่อนร่วมทีมของคุณไว้... ครั้งที่4...ระวังเพื่อนร่วมทีมของคุณไว้...ยกเว้นศราวุธ ครั้งที่5...ระวังเพื่อนร่วมทีมของคุณไว้...ยกเว้นศราวุธและสรกิจ คุณหรินทร์...สมภารกินไก่วัด...ผู้ใหญ่โกงบริษัท... คุณอภิชัย2...ระวังพี่สมนึกไว้...ฯลฯ ...ระวังพี่ทรงพลไว้... คุณศราวุธ...ระวังอภิชัยไว้...อย่าไปเชื่อมันมาก... พนักงานฝ่ายผลิตกว่า 10 คน มาถามผมว่า ใครรับพี่เข้ามา... คุณปุ้ม...พี่ระวังตัวไว้...คนที่นี้นับถือกันแบบพี่น้อง... คุณบาส...คนที่นี้ไม่ชอบพี่...เพราะคิดว่าพี่ เป็นคนแรกที่พี่สมนึกรับเข้ามา... คุณศราวุธ...พี่อย่าไปสนิทกับใครมาก...ระวังฝ่ายการตลาดไว้... คุณธนิษฐา...คุณชอบลองของหรือ... คุณอภิรมย์...คุณมีเจตนาอะไร ในการมาทำงานที่บริษัทนี้...(หลังจากการลาออก) ฯลฯ ลาออกมา...ก็เจอตามมาขู่อีก...และเจอแบบนี้อีกในบริษัทที่สองในปีนี้...ผมว่าผมไม่บ้า ก็โชคดีแล้ว... แล้วสังคมทำงานมันมีแบบนี้กันเยอะหรือเปล่า...เพราะสามบริษัทหลังสุด...ออกแนวเดียวกันหมด...แต่บริษัทเฟสโต้ หนักกว่าใครเพื่อนเลย... ผมมาทราบจากการสอบถามพนักงาน...ที่ผมเข้าไปช่วยเหลือด้านข้อมูลงานโครงการว่า...การตัดสินใจรับคนเข้ามาทำงานในตำแหน่งของผมนั้น...มีความขัดแย้งระหว่างสองกลุ่มบุคคล...กลุ่มแรก คือ ฝ่ายบุคคล เห็นว่าอีกคนมีความเหมาะสมกว่าผม เพราะทำข้อสอบเทคนิค ได้ดีกว่าผมมาก...ผมทำได้ศูนย์จากร้อยคะแนน...แต่หัวหน้าผม เลือกผม เพราะอะไรผมไม่ทราบ...ผมรู้แต่ว่าเมื่อบริษัทให้โอกาส ก็ต้องทุ่มเทให้ถึงที่สุด... พนักงานท่านดังกล่าวนั้น...ยอมรับว่าเมื่อมารู้จักผม...ก็รู้สึกว่าเลือกคนที่ถูกต้องแล้ว...เขาบอกต่อว่า...เขาเป็นคนที่สัมภาษณ์อีกคนหนึ่งเอง...และตอนนั้นเขาก็เห็นว่า คนนั้นเหมาะสมกว่าผม...และในที่สุดบริษัทก็เลือกทั้งสองคน...แต่อีคนปฎิเสธจะมาทำงาน...ซึ่งผมไม่ทราบสาเหตุ... เมื่อผมเข้าไปทำงานบริษัทวันแรก...พนักงานส่วนใหญ่ไม่อยากคุยด้วย...ตอนนั้นผมไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร...บางครั้งถูกกลั่นแกล้งจากพนักงานด้วยกัน ถูกสับขาหลอก ถูกตะแบงใส่ หลอกให้เสียเวลาในการทำงาน โดนผู้จัดการฝ่ายบุคคลพูดจาเสียดสีในที่ประชุม รวมถึงผู้ใหญ่ในบริษัทหลายคน...บทสนทนาของผมกับกรรมการผู้จัดการ ตอนสัมภาษณ์นั้น...เกือบทุกคนในบริษัทรู้เรื่อง บ้านผมห่างจากบริษัทกว่า 50 กิโลเมตร...ผมเคยไปทำงานสายประมาณห้านาทีแค่วันเดียว...จากการทำงานยี่สิบกว่าวัน...ผมใส่เนคไทล์ทำงานทุกวันตามคำสั่งของหัวหน้า...แม้จะโดนประชดประชันว่า...หัวอ่อน...ไม่เก๋า ฯลฯ จากพนักงานส่วนมาก... แม้หัวหน้าพยายามจะหาลูกค้าเก่ามาให้ผมดูแล...ผมก็แจ้งว่า...ไม่ต้องแบ่งลูกค้าของพนักงานคนอื่นมาให้ก็ได้...แต่ต้องให้เวลาผม แล้วผมจะสร้างลูกค้าใหม่ขึ้นมา...เพราะพนักงานเดิม ไม่เต็มใจที่จะแบ่งให้...เพราะกลัวอะไรบางอย่าง...แต่หัวหน้าก็หามาให้จำนวนหนึ่ง...เพื่อเป็นฐาน... ผมต้องเข้าไปช่วยเรื่องข้อมูลโครงการ...แม้ตอนสัมภาษณ์ได้ปฎิเสธแล้ว...และกลับมาถูกผู้บริหารจับผิด เรื่อง จะมาขโมยข้อมูล จะมาจับผิดบริษัทเรื่องนอมินี จะมาจับผิดบริษัทเรื่องการให้สินบนภาครัฐ...ผมขอเรียนว่า ถ้าท่านไม่มาบอกผม ในเรื่องดังกล่าว...ผมก็ไม่เคยสนใจ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของผมในบริษัท...และสังคมไทยก็ไม่ได้สวยงามนัก จนเรื่องดังกล่าวเป็นที่น่ารังเกียจ...เราไม่ชอบก็อย่าไปยุ่งกับเรื่องดังกล่าวก็เท่านั้น ผมต้องมาพลิกฐานข้อมูลทั้งหมดของบริษัท เพื่อหาช่องว่างทางตลาด...ก็โดน ฝ่ายการตลาดค่อนแคะ...หาว่ามาต่อว่าเขา...ดูไป ดูมา คงหมดทางออก...ลาออกดีกว่า...ก็ถูกข่มขู่จากฝ่ายบุคคลอีก... เมื่อลาออกมาก็ถูกก่อกวนจากคนในบริษัทดังกล่าวอีก...ผมมาวิเคราะห์ว่า...ผมเข้ามาทำงานโดนความขัดแย้งของคนในบริษัท เรื่อง 1. การช่วงชิงอำนาจของผู้ใหญ่บางคน...ต้องการให้คนของตนเองทำหน้าที่ในบริษัทให้มากที่สุด... 2. พนักงานหลายท่าน กลัวว่า...หัวหน้าผมจะขโมยลูกค้าที่ดีของพวกเขามาให้ผม...และหลายคนกลัวว่าจะถูกแทนที่ 3. พนักงานที่ไม่ใช่ฝ่ายขาย...แต่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกลับ พนักงานที่เกรงว่าตนเองจะได้รับผลกระทบ...ออกตัวแทนโดยไม่พิจารณา เช่น คุณสิริวิภา ศรีศร เธอปลดเปลื้องอารมณ์ของเธอทุกครั้งที่มีโอกาสต่อผม อย่างไม่พิจารณา หรือแม้แต่ผู้ใหญ่อย่างคุณอภิรมย์... 4. ผู้บริหารมีการกระทำอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย...ระแวงสงสัยผม...เพราะผมสามารถเข้าไปดูข้อมูลของรัฐได้ ด้วยการสมัครเข้าไปอย่างธรรมดา...แต่ท่านเหล่านั้น นึกไปเองว่า ผมเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปลอมตัวเข้ามา...เพราะท่านไม่ทราบว่าเดี๋ยวนี้ ภาครัฐเปิดให้ประชาชนเข้าไปดูข้อมูลบางส่วนได้...จึงสงสัยและข่มขู่ผมเมื่อลาออกมา... 5. ที่สงสัยว่าผมเรียนจบมาจริงตาม วุฒิการศึกษาหรือเปล่า...เพราะในรายชื่อศิยษ์เก่านั้น ไม่มีชื่อผม และเพื่อนๆผมหลายคนก็ไม่มีชื่อ เพราะเราไม่ได้ติดต่อกับสถาบัน หลังจากที่เรียนจบมานาน.... 6. เรื่องต่างๆ ที่ผมถูกกลุ่มคนในบริษัทสร้างกระแส ในทางลบนั้น เพราะเขาคิดไปเองว่า เขาจะได้รับผลกระทบจากผม...และขยายกระแสจนคนเกือบทั้งบริษัทเชื่อ รวมถึงผู้ใหญ่...ทั้งๆที่ กรรมการผู้จัดการเคยเตือนให้ระวังคนไม่ดีตอนสัมภาษณ์งาน...แต่กลับถูกกระแสที่สร้างขึ้นหลอกลวง...เมื่อขอคุยกับผู้ใหญ่ ก็ถูกกีดกันจากฝ่ายบุคคล...เพราะพวกเขาตั้งธงในใจไว้แล้ว... ผมไม่ทราบว่าเรื่องราวของผม...พนักงานหลายคนที่เป็นคนทำงาน จะเข้าใจหรือเปล่า...ผู้ใหญ่บางท่านที่ผมเคารพจะทราบหรือเปล่า...ถ้าใครเข้ามาอ่าน แล้วรู้จักคนในบริษัท เฟสโต้...ช่วยบอกเขาด้วยว่า ถ้าเจอผมข้างนอก ขอให้ทักทายกัน...แม้ผมจะไม่ใช่คนดี...แต่ก็ยึดถือน้ำใจ...และเข้าใจว่า พวกท่านที่เป็นเช่นนั้น เพราะถูกการสร้างกระแสของสังคมหลอกลวง... ขอบคุณครับ ปล.คับที่อยู่ได้...คับใจอยู่ยาก... จากคุณ : ด.ช.ตี๋ - [ 13 มี.ค. 51 15:10:23 A:210.86.207.253 X: TicketID:164272 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คูณตี๋ครับ เอาไปโพสในกระทู้ผมหน่อย น่าจะมีประโยชน์กับอีกหลายๆคน http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B6414229/B6414229.html จากคุณ : Jesus - [ 13 มี.ค. 51 20:16:19 A:41.243.139.167 X:198.54.202.102, 196.25.255.214 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากน่ะครับ อ่านแล้วรู้สึกดีจัง อยากให้คนอื่นได้อ่านกันเยอะๆ เหมือนกัน ให้ความรู้สึกดีทุกความคิดเห็นเลยครับ ทุกท่านทำงานด้วยความสุข และสนุกกับงานที่ทำนะครับ จากคุณ : pure_short - [ 13 มี.ค. 51 21:17:45 ]